Share

Chapter 7

“ไปทานอาหารกันเถอะค่ะ” เบลล์พูดพร้อมกับจับมือฉันแล้วลากฉันไปที่ไหนสักแห่ง

"เดี๋ยวสิ! เราจะไม่ไปทานร่วมกับพวกเขาเหรอ?” ฉันถามแล้วชี้ไปที่ผู้คนที่กำลังทานอาหารเช้าอยู่ในห้อง

“ไม่ค่ะ เราจะไปทานกันในอีกห้องหนึ่ง” เธอลากฉันไป แล้วฉันก็สังเกตว่ามีคนมองเมื่อเราเดินผ่านพวกเขาเข้าไปในห้อง

“ทำไมเราถึงแยกออกไปกินกันตามลำพัง ไม่นั่งรวมพวกเขาล่ะ” ฉันถาม

“เบลค โคล และแม้แต่อัลฟ่าก็จะมาร่วมทานอาหารกับเราที่นี่ค่ะ” เธอพูดขณะที่เธอเริ่มวางจานลงบนโต๊ะ

ฉันช่วยเธอ และทันทีที่เธอกล่าว ลิงสามตัวก็เข้ามาในห้องด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย

“คุณจะทานอะไรดีคะ ขนมปังหรือซีเรียล” เบลล์ถามจากอีกฟากหนึ่งของโต๊ะ

“ขอขนมปังค่ะ” ฉันยิ้มให้เธอ และตลอดเวลาฉันรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างร้อนรน เผาไหม้อยู่ข้างๆฉัน ฉันมองไปทางซ้าย แล้วพบว่าเหมือนมีคิงคองยักษ์กำลังมองฉันอยู่ กะพริบตาไปมาช้าๆ ราวกับว่าเขาพยายามจะอ่านใจฉัน

“ไร้สาระน่า” ฉันคิดแล้วเอามือตบโต๊ะอย่างตั้งใจ นั่นทำให้เขาหลุดออกมาจากโลกใบเล็กๆของเขา

ตอนแรก เขาจ้องมองมาที่ฉันอย่างไร้อารมณ์ จากนั้นไม่กี่วินาทีต่อมา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทำหน้าบึ้ง และนาทีต่อมาเขาก็กินอาหาร

“ผู้ชายคนนี้โรคจิตชัดๆ” ฉันคิดกับตัวเอง

ฉันหยิบขนมปังแล้วเริ่มทาเนยด้วยมีด อยู่ๆก็มีเสียงดังกุกกัก ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นหนู และฉันก็เริ่มหัวเราะอย่างเงียบๆ เมื่อเห็นคนผมสีน้ำตาลสวมเสื้อเบลาส์หรืออะไรสักอย่างที่ดูเหมือนเป็นชุดบิกินี่ท่อนบน กับกระโปรงสั้นและรองเท้าส้นสูง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยเครื่องสำอาง และเธอก็ดูคล้ายกับเซเลนา โกเมซจริงๆ ยกเว้นความสวย

เซเลน่า โกเมซ นั้นสวยและเท่มาก

“เรื่องไร้สาระนี้คืออะไร ตามหาราชินีอะไรกัน?” เธอตะโกนสุดเสียง และฉันแน่ใจว่าหูของฉันอาจจะเริ่มมีเลือดออกในไม่ช้านี้

“ระวังน้ำเสียงของคุณไว้ให้ดี ลิลลี่” เบลคพึมพำและดื่มน้ำ

“กล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้? ฉันคือราชินีนะ” เธอตะโกนเอามือกอดอกของเธอ

ฉันมองไปที่เบลล์และพบว่าเธอกำลังกินซีเรียลอยู่เงียบๆ เธอไม่สนใจหญิงสาวที่ชื่อลิลลี่ โคลและดีแลนกลับดูเคร่งเครียดต่างจากเบลล์

“ลิลลี่ เธออย่าเริ่มพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก” โคลกัดฟันกรอดแล้วชี้ไปที่ประตูเพื่อขอให้เธอออกไป

"หุบปาก! นายอย่ามาสั่งสอนเลยว่าฉันต้องทำอะไร” เธอเยาะเย้ยและตวัดสายตามาที่ฉัน ดวงตาของเธอเบิกกว้างในไม่กี่วินาที แต่เธอก็สามารถซ่อนมันได้อย่างรวดเร็ว ฉันสังเกตเห็นความกลัวในดวงตาของเธอ ที่เธอซ่อนไว้อย่างมืออาชีพภายใต้คอนแทคเลนส์ปลอมเหล่านั้น

“เธอต้องล้อฉันเล่นแน่ๆ” เธอตะโกนพลางผายมือขึ้นไปในอากาศ

"มนุษย์? มนุษย์นะเหรอจะมาปกครองเรา?” เธอเริ่ม แต่ถูกขัดจังหวะเมื่อดีแลนทุบโต๊ะสียงดัง

“พอได้แล้วลิลลี่” เขาตะโกน และลุกจากที่นั่งและจับมือเธอ ลากเธอออกไปไกลๆ แต่ฉันยังคงได้ยินบทสนทนาของพวกเขา

ฉันไม่เคยสนใจสิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับฉัน แต่ฉันก็ไม่เคยชอบให้ใครมาดูหมิ่นฉัน

ฉันกำลังจะกินขนมปัง เมื่อได้ยินเธอพูดว่า "ยัยนั่นเป็นนังโสเภณีและเธอก็ต้องการแค่เงินของคุณ"

ฉันกินขนมปังอย่างช้าๆ และก็ได้ยินเธอเสียงร้องสะดุ้งด้วยความเจ็บปวด ฉันมองไปทางเธอและพบรอยกรีดขนาดใหญ่ที่แก้มของเธอ และมีดก็ปักติดอยู่ที่กรอบไม้ข้างๆเธอ เลือดไหลออกมาจากแก้ม และเธอก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มือกุมจับที่แก้มเอาไว้เพื่อให้เลือดหยุดไหล

“ฉันสงสัยว่าใครทำอย่างนั้นกับเธอ” ฉันพึมพำเมื่อรู้สึกถึงสายตาของดีแลนที่มองมาที่ฉัน

"อะไรน่ะ?" ฉันสะดุ้ง และเขาหันกลับมามองลิลลี่ที่ยังคงตกใจด้วยความเจ็บปวด

“คุณเป็นคนทำอย่างนั้นเหรอ” ฉันได้ยินเบลล์ถามเบลค

"ไม่! คุณบ้าหรือ ฉันไม่ได้” เบลคกระซิบ

ฉันกินขนมปังต่อไปและเอามีดปาดเนยอีกชิ้น

“นั่มันบ้าอะไรกัน!” ฉันได้ยินลิลี่กรีดร้องและเธอก็วิ่งออกไปจากห้องโดยย่ำส้นเท้าของเธอบนพื้น

“คุณช่วยส่งจานนั้นให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ” ฉันถามโคลและเขาก็พยักหน้าส่งจานมาให้ฉัน

ฉันมองดูดีแลน ที่จ้องมาที่ฉันสักครู่ แล้วเขาก็หันหลังก้าวยาวๆเดินออกจากห้องไป

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ฉันก็มาพบกับผู้คนมากมายในบ้าน แต่คำถามก็ยังค้างคาอยู่ในใจว่าทำไมพวกเขาถึงมาอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ฉันยังพบห้องที่เต็มไปด้วยอาวุธ เช่น อุปกรณ์สำหรับการยิงธนู การยิงปืน และอีกมากมาย

“พวกเขาไม่ใช่กลุ่มอาชญากรหรืออะไรจริงๆใช่ไหม” ฉันถามเบลล์ ทำให้เธอหัวเราะฉัน

“เปล่า เราไม่ใช่ค่ะ” เธอพูด แล้วฉันก็ตามเธอไปในทุกๆที่

เธอเดินนำหน้าฉัน ทันใดนั้นเธอก็หยุดกึก ทำให้ฉันชนเข้ากับไหล่ของเธอ

“อ้อ ขอโ-” ฉันเริ่มพูด แต่ก็หยุดเมื่อเห็นเธอยืนนิ่งเงียบๆและพยักหน้า

“อะไรกัน คนพวกนี้ยืนเงียบและผงกหัว” ฉันแหวใส่ในใจ

“ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณประหลาด” เสียงภายในของฉันเยาะเย้ยฉัน

“ทำไมเธอถึงไม่รู้ว่าเธอควรรู้” ฉันย้อนเสียงในใจ

“เธอโกรธเหรอ? เธอลืมไปแล้วเหรอว่าฉันคือเธอ และเธอก็คือฉัน” เธอบอกกับฉันและฉันก็คิดถีงตัวเองเพื่อต่อสู้กับเสียงภายในซึ่งก็คือตัวฉันเอง

ฉันคงเป็นบ้า

“เอ่อ อัลฟ่ากำลังเรียกหาคุณ” เบลล์บอกกับฉัน หลังจากที่เธอหยุดนิ่งไปชั่วขณะ

"คุณรู้ได้ยังไง? คุณใช้บลูทูธเหรอ-” เธอตัดบทฉัน โดยการจับมือและลากฉันไปกับเธอ

"เร็วเข้า! เขาจะโกรธหากเรามาสาย” เธอบอกฉัน ขณะที่เธอลากฉันขึ้นไปชั้นบน ซึ่งฉันจำได้ว่าเป็นห้องทำงานของเขา

“เขาต้องการคุยกับคุณคนเดียว” เธอพูด และก่อนที่ฉันจะถามอะไรเธอได้ เธอก็เคาะประตูแล้วผลักฉันเข้าไปข้างในและปิดประตู เธอก็จากไปโดยทิ้งฉันไว้ให้อยู่กับคิงคองยักษ์ตามลำพัง

ฉันกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น แต่ก็ยังกล้าที่จะจ้องมองเขา และพบว่าเขาเอนกายพิงโต๊ะไม้ของเขา จ้องมองมาที่ฉันราวกับว่าฉันได้ขโมยเงิน 5 ล้านเหรียญของเขาไป

ไร้สาระน่า!

ฉันจ้องเขาเพื่อรอให้เขาพูดอะไรบางอย่าง และเมื่อเขาไม่พูดอะไร ฉันจึงพูดขึ้นว่า “เฮ้! ว่าไง?"

เขาขมวดคิ้ว แต่ยังคงสงบสติอารมณ์และพูดว่า “คุณทำอย่างนั้นเหรอ?”

"ฉันทำอะไร?" ฉันถามพลางขมวดคิ้วกับคำถามของเขา

“อย่ามาทำตัวไร้เดียงสา ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนขว้างมีดใส่ลิลลี่” เขาพูดพร้อมกับเดินเข้ามาหาฉัน

“อะไรทำให้คุณพูดแบบนั้น” ฉันถามพลางเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง

“ผมถามเบลล์ โคล และเบลค และพวกเขาไม่ได้เป็นคนทำ ดังนั้น ในเมื่อคนที่เหลืออยู่คือคุณ ผมเดาว่ามันเป็นผลงานของคุณ” เขายืนประจันหน้าฉัน

“ถ้าบอกว่าฉันไม่ได้ทำล่ะ คุณจะทำยังไง” ฉันถามทั้งๆที่ยังจ้องตาเขา

“คุณกำลังโกหก” เขาหรี่ตามองฉัน

“คำถามคือคุณทำอย่างนั้นได้อย่างไร? คุณเพียงแค่ตวัดโดนผิวหนังของเธอเท่านั้น คุณได้รับการฝึกฝนมาอย่างนั้นหรือ? เขาถามพลางเอามือกอดอก

"เปล่านะ! ฉันคิดว่ามันเกิดขึ้นโดยบังเอิญ” ฉันพูด แล้วหันหลังเดินจากไป แต่หยุดและพูดว่า “อ้อ หรือไม่ฉันก็แค่พลาดเป้าที่ดวงตาของเธอ” จากนั้นฉันก็เปิดประตูแล้วเดินกลับห้อง

เมื่อไปถึงห้อง ฉันโยนเสื้อของฉันลงบนเตียง และเปลี่ยนเป็นเสื้อกั๊กและสวมกางเกงขาสั้นผ้าสแปนเด็กซ์

ฉันหลับตาลงเล็กน้อย แล้วยืนบนมือโดยยกขาขึ้นไปในอากาศ และเริ่มทำกิจวัตรประจำวันด้วยการวิดพื้นด้วยมือทั้งสองข้างและบางครั้งก็ใช้มือเดียว

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status