เผลอหลับไปนานน่าดูเลยสินะ พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็มืดซะแล้ว แถมยังมีเจ้าเด็กผมทองท่าทางประหลาดนั่งจ้องหน้าอยู่ด้วยสิ....
“นี่-”
“ตื่นแล้วหรอ ผมอีเดน!”
ไอ้ท่าทีกระตื้อรื้อร้นของเขามันชวนให้ฉันปวดหัวแหะ ตกลงว่าที่นี่มีคนอยู่กี่คนกันแน่ ดวงตาสีทองจับจ้องมาที่ฉันไม่วางตา ผมสีทองงั้นหรอหรือว่าเขาจะเป็นชาวต่างชาติกันนะ?
“ไอริสไปไหนแล้วล่ะ แล้วนายคือใคร?”
“ผมก็เป็นสัตว์เลี้ยงของยูโรไง ยังไม่ได้อ่านกฎมาเลยใช่ไหม ผู้ท้าชิงทุกคนจะมีสัตว์เลี้ยงประจำตัว”
“สัตว์เลี้ยง? แต่เท่าที่เห็น นายก็เป็นคนธรรมดานี่น่า ดะ เดี๋ยวสิ! คิดจะทำอะไรของนายน่ะ น่ะ นกฮูกงั้นหรอ!?”
คนร่างบางมองเด็กผู้ชายร่างเล็กเรือนผมสีทองอร่ามค่อยๆเปลี่ยนร่างกายตัวเองให้กลายเป็นนกฮูกสีขาวบริสุทธิ์แล้วก็โบยบินมาเกาะที่แขนเธออย่างตกตะลึง
“ก็ใช่น่ะสิ ผมเป็นนกฮูก”
จู่ๆเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นตามมาด้วยร่างของคนผิวขาวที่ถือทานอาหารมาให้ฉันที่ยังตกใจไม่หาย
“ตื่นแล้วหรอคะ”
“ไอริส”
“ฉันเอาอาหารมาให้ค่ะ เห็นว่าคุณยังไม่ได้ทานอะไรเลยหลังจากที่มาที่นี่ อีเดนหยุดกวนท่านยูโรได้แล้ว”
ท่านหรอ จริงสิที่หมอนั่นพูดดูเหมือนว่าฉันจะกลายเป็นเจ้านายของคนบ้านนี้ไปแล้วสินะ
“ไม่ได้กวนซะหน่อย ผมพิสูจน์ตัวเองอยู่ต่างหากเล่า”
นกฮูกสีขาวขนปุยบ่นอุบอิบก่อนจะกลายร่างเป็นเด็กผู้ชายตามเดิม
“ไม่ต้องเรียกฉันว่าท่านหรอก แค่ยูโรก็พอแล้ว ขอบใจนะที่เอาอาหารมาให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว”
“หน้าที่หรอ ทุกคนที่นี่ดูมีหน้าที่กันเยอะจังนะ”
คิดไปคิดมาก็ถึงวันรายงานตัว และฉันก็เกลียดอะไรแบบนี้ที่สุดเลยระบบทาสไร้พรมแดนเนี่ย ทำอย่างกับพวกที่ถูกเลือกสูงส่งนักหนาเป็นคอมมิวนิสต์รึไง ขนาดที่ว่าจะกดขี่ข่มเห่งใครก็ได้ แบบนี้มันไม่ใช่พระเจ้าแล้ว ปีศาจชัดๆ
“นี่แกกล้าดียังไง มาเดินชนฉันห๊ะ คุกเข่าไปเลยนะเฟ้ย”
ระบบชนชั้นก็พอจะรู้มาจากไอริสบ้างนิดหน่อย ว่าพวกพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลกต่างๆเอาไว้มากมายและก็เพราะมีพระเจ้าถึงได้มีโลกอื่นๆเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ดังนั้นสิ่งมีชีวิตบนโลกจึงต้องต่ำต้อยกว่าพระเจ้าทั้งหมดซึ่งมันก็ไม่น่าแปลกอะไรถ้าจะมีพวกชนชั้นปกครองบางส่วนที่บ้าอำนาจและไม่สนใจสิ่งรอบตัวอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
“ขะ ขอโทษครับ!”
“นึกว่าแค่ขอโทษมันจะหายรึไง จงเผาไหม้”
ทันทีที่เด็กผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นร่างของมนุษย์หมาป่าสีน้ำเงินที่กำลังคุกเข่าอ้อนวอนอยู่ก็ติดไฟจนลามไปทั่วตัว
“ระ ร้อน! อ้ากกก ได้โปรดให้อภัยผมเถอะครับ! ผมจะไม่ทำอีกแล้ว!! เจ็บปวดเหลือเกิน! ได้โปรด!!”
ไม่มีใครกล้าให้ความช่วยเหลือเขาเลย จนกระทั่งมนุษย์หมาป่าตนนั้นวิ่งกระโดดลงไปในน้ำด้วยความร้อนร้นแต่ก็ไม่สามารถดับเปลวไฟของเด็กชายผมแดงได้
“เปล่าประโยชน์ เปลวไฟของพระเจ้า ถ้าไม่ใช่พระเจ้าด้วยกันก็ไม่สามารถดับได้หรอกน่า งี่เง่าจริง ไปกันเถอะ เซ็น”
“นี่นายจะปล่อยมันไว้แบบนี้หรอ รินคุ”
เด็กชายผมดำดวงตาสีม่วงเข้มปลายตามองมนุษย์หมาป่าด้วยแววตาเย็นชาทำให้คนด้านข้างตัวเขาหัวเราะออกมาดื้อๆ
“นั่นสินะ บางทีฉันควรฆ่ามันไปเลยดีกว่า น่ารำคาญ ยังไงซะก็ไม่มีใครกล้าห้ามอยู่แล้ว หึหึหึ”
ทำไมไม่มีใครห้ามเลยล่ะ หมอนั่นคิดจะฆ่าเขาอยู่แล้วนะ ทำไมทุกคนถึงก้มหน้าหนีกันล่ะ!
“ไปกันเถอะยูโร เดี๋ยวเข้าไปรายงานตัวสายนะ”
อีเดนที่เดินมาด้วยกันจับมือฉันแน่นพลางพาเดินเลี่ยงไปอีกทาง
“ทำไมไม่มีคนช่วยเลยล่ะ เดี๋ยวหมอนั่นก็ตายจริงๆหรอก !”
ฉันสะบัดมือออกจากการจับกุมของอีเดนที่ทำหน้าเสียใจไม่ต่างกัน
“มันช่วยไม่ได้นี่ ถ้าเป็นพระเจ้าอยากได้อะไรก็ต้องได้ มันเป็นกฏของโลกใบนี้ ทุกคนไม่มีสิทธิตัดสินใจหรอก”
“ไม่เห็นจะมีเหตุผลเลย!”
“พระเจ้าไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผลอยู่แล้ว”
อีเดนเบือนหน้าหนีความจริงก่อนที่ฉันจะเผลอกัดริมฝีปากบางจนห่อเลือดถ้าหากฉันมีพลังซักนิดล่ะก็ ฉันจะอัดหมอนั่นให้กระเด็นแน่ๆ
“ถึงเธอจะคิดแบบนั้นจริง ก็อย่าทำมันเลยดีกว่า กฎของพระเจ้า ข้อที่ 3 เราจะไม่ก้าวก่ายกัน นั่นก็หมายความว่า ถ้าเธอเข้าไปมีเรื่องกับเจ้าพวกนั้นเท่ากับว่าเธอประกาศตัวเป็นศัตรูกับพระเจ้าด้วยกัน แบบนั้นเธอจะลำบากเอานะ แล้วก็ถ้าแค้นใจล่ะก็ โทษตัวเองที่อ่อนแอซะเถอะ”
น้ำเสียงของคนร่างสูงสวมชุดโรงเรียนเดียวกันจับบ่าของฉันไว้ด้วยความสุขุม โดยที่ข้างๆ ตัวของเขาก็มีเด็กผู้หญิงผมสีชมพูยืนอยู่ด้วย
“ฉันชื่อ คราน ส่วนนี่ ชามอน สัตว์เลี้ยงของฉัน ยินดีที่ได้รู้จัก”
คนผมสีม่วงเข้มส่งสายตามาที่เด็กสาวร่างบางซึ่งกำลังมองเขาด้วยสายตาแข็งก้าว
“มันไม่เกี่ยวว่าฉันจะอ่อนแอหรือว่าจะแข็งแรง แต่การที่เห็นคนเดือดร้อนแต่ไม่ช่วยเหลือ ทั้งที่ถ้าช่วยก็ช่วยได้ มันเรียกว่าขี้ขลาดไม่ใช่รึไง!”
“นี่เธอ....”
ครานชะงักลงเล็กน้อยก่อนจะเห็นเด็กสาววิ่งตรงเข้าไปหาคนพวกนั้นทันที โดยที่มีอีเดนวิ่งตามไปห้ามแต่ก็ไม่ทันการซะแล้ว
“หยุดนะ! คิดว่าจะทำร้ายคนอื่นยังไงก็ได้รึไง นายมีสิทธิ์อะไรไปตัดสินคนอื่น”
“เธอเองก็มีสิทธิ์อะไรมาตัดสินฉันล่ะ มายุ่งเรื่องคนอื่นเค้าอยู่ได้ น่ารำคาญ สวมชุดโรงเรียนเดียวกัน หรือว่าเธอก็เป็นผู้ท้าชิงแต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่รู้จักอ่านกฎบ้างรึไง”
“กฎพวกนั้น ถ้ามันทำให้พวกนายหยิบมาใช้ทำร้ายผู้อื่นแบบนี้ ฉันก็ไม่สนใจหรอก!”
พูดจบเด็กสาวก็กระโดดลงน้ำไปเพื่อช่วยเหลือเด็กชายมนุษย์หมาป่าคนนั้นทันที ทำให้เปลวไฟที่อยู่รอบตัวของเขาค่อยๆมอดดับลงไปเมื่อเด็กสาวเอื้อมมือเข้าไปสัมผัส
“น่าสนใจดีนี่ ว่าแต่เธอเป็นเด็กใหม่ไม่ใช่หรอ ใช้พลังยังไม่เป็นเลยแท้ๆ ยังจะกล้ามาสั่งสอนฉันอีกนะ คงต้องเจอดีซะหน่อยแล้วมั่ง”
คนผมแดงเพลิงจ้องฉันอย่างนึกสนุกในขณะที่คนผมดำได้แต่มองตอบฉันด้วยสายตาเรียบนิ่ง
“จงมอดไหม้ คารัน!”
เวทย์เพลิงระดับสองแผ่กระจายออกมาเป็นวงกว้างจากท้องฟ้าสีครามตามการชี้นิ้วของรินคุซึ่งกำลังจ้องเล่นงานเด็กสาวร่างบางที่นั่งสำลักน้ำจากการช่วยเหลือคนตรงหน้าทำให้อีเดนต้องรีบวิ่งเข้ามาขัดขวางเอาไว้ ก่อนที่คนร่างสูงในชุดสูทโรงเรียนเดียวกันจะเดินเข้ามาหยุดเปลวไฟสีเพลิงนั่นด้วยความรู้สึกเฉยชา จนทำให้รินคุอารมณ์เสีย
“จงดับสลาย มีเกล”
ทันทีที่พูดจบสายลมที่พัดเร็วดั่งใบมีดก็พุ่งเข้าไปตัดเปลวไฟของรินคุทันทีจนไม่หลงเหลือร่องรอยอะไรเอาไว้อีกเลย
“ครานนี่นายก็จะเป็นศัตรูกับฉันด้วยงั้นสิ”
“ฉันเดาว่านายคงไม่อยากโดนริบหมายเลขรายงานตัวของตัวเองตั้งแต่วันแรกของการเปิดภาคเรียน”
“หนอย ฝากไว้ก่อนเถอะ ยัยเด็กใหม่ ส่วนนายครานหลังจากนี้ถ้าเข้ามายุ่งไม่เป็นเรื่องอีก ฉันจะบดขยี้นายให้เละ ไปเถอะ เซ็น”
สิ้นคำขู่ของเด็กชายผมสีแดงเพลิงเขาก็รีบเดินหน้าต่อทันทีโดยที่ไม่ลืมจะปลายตามองเด็กสาวร่างบางซึ่งสำลักน้ำค่อกแค่กอยู่ริมสระน้ำ
“นี่เธอเป็นไงบ้าง”
“ยูโร ปลอดภัยไหม!”
อีเดนที่ได้สติจากการแบกรับแรงกดดันของตัวแทนพระเจ้าทั้งสามทำให้ตัวของเขาแทบจะยืนไม่อยู่รีบหันกลับไปหาเจ้าของตัวเองด้วยความกังวล
“แค่ก แค่ก! มะ ไม่เป็นไร…”
ฉันมองร่างของมนุษย์หมาป่าที่กลายร่างเป็นลูกสุนัขด้วยความกังวลก่อนที่จะถูกอีเดนดุยกใหญ่
“เธอมันบ้าไปแล้วยูโร! ใช้พลังก็ยังไม่เป็น ทำไมถึงเข้าไปขวางแบบนั้น ถ้าท่านครานไม่เข้ามาช่วยเอาไว้เธออาจตายไปแล้วจริงๆก็ได้ คิดให้เยอะๆ หน่อยเซ่ ถ้าเธอเป็นอะไรไป แล้วฉันจะอยู่ยังไง ยัยคนบ้า บ้าที่สุดเลย!”
อีเดนกำลังร้องไห้อย่างหนักพลางจับไหล่ฉันด้วยความสั่นไหว ทั้งหมดนี่เป็นเพราะฉันงั้นหรอ มือของเขาเย็นเฉียบเลย
“เดี๋ยวชามอนจะรักษาเรื่องมนุษย์หมาป่าคนนั้นให้เองถ้าเธอต้องการ แต่ตอนนี้ไปกับฉันก่อนเดี๋ยวจะไม่ทันรายงานตัวเอา ส่วนนายเป็นสัตว์เลี้ยงของเธอสินะ”
“ครับ...ฮึก....ฮึก..”
“หยุดร้องไห้ได้แล้ว ไปเอายาปรับสภาพมา ส่วนเจ้านายของเธอ ฉันจะดูแลให้เอง ”
“คะ ครับ ขอบคุณครับท่านคราน ฮึก แล้วผมจะรีบกลับมา!”
พูดจบอีเดนก็กลายร่างเป็นนกฮูกสีขาวแล้วโบยบินไปยังท้องฟ้าทันที ทิ้งให้ฉันต้องนั่งกุมแขนตัวเองดื้อๆ เพราะอยู่ๆ ก็หนาวจับใจจนแทบจะขยับตัวไม่ได้ คนร่างสูงจึงช่วยดึงแขนของเด็กสาวขึ้นก่อนจะช่วยทำให้ชุดของคนร่างบางแห้งสนิทด้วยกระแสลมอุ่นๆ
“คงช่วยไปได้ระยะนึง แต่ยังไงเธอก็ต้องกินยาอยู่ดี นี่ล่ะข้อจำกัดของพวกถูกเลือกใหม่ วิญญาณเธอยังปรับสภาพได้ไม่ดีนัก ตอนนี้ก็ยังหนาวอยู่สินะ”
“ทำไมคุณถึงรู้ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ทั้งที่เห็นแต่ก็ไม่ช่วย”
“เพราะยังไง มันก็ไม่ดีขึ้น ถ้าจะพูดให้ถูก เธอถูกฉันช่วยชีวิตไว้ครั้งหนึ่งแล้ว หยุดตั้งคำถามแล้วไปกับฉัน ก่อนที่เธอจะโดนปรับตก”
พูดจบคนร่างสูงก็เดินนำฉันไปในขณะที่ผู้คนรอบกายก็เริ่มทยอยเดินหายไปทีละคนทางราวกับมันเป็นเรื่องปกติ
“มีแค่ฉันเหรอ ที่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม...”
คนร่างบางพึมพำตามหลังคนร่างสูงที่เดินนำเธอไปไกลก่อนจะหยุดลงดื้อๆ พร้อมกับรอยยิ้มขมขื่น
“ความยุติธรรม...นั่นสิ...ไม่ได้ยินคำนี้มานานเท่าไรแล้วนะ...”
ยังไม่ทันจะถามอะไรต่อไป ผู้ชายสวมชุดสูทสีขาวที่ฉันเจอในวันแรกก็ปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับใบกระดาษซึ่งสลักชื่อของฉันและเขาอยู่ในนั้น
“มาช้าสมเป็นเด็กใหม่ดีนะ เอ้า รับไปสิ ลำดับของพวกเธอ”
ฉันที่กำลังแบมือจะรับหยุดชะงักลงทันที เมื่อจู่ๆ กระดาษมันแปลงเปลี่ยนมาเป็นกำไลข้อมือสีขาวติดข้อมือของฉันแทน
“แค่นี้ก็ตกใจแล้วหรอ สัญลักษณ์ของพระเจ้ายังไงล่ะ ยิ่งกำไลมีรูปลักษณ์แตกต่างไปเท่าไร ก็เท่ากับว่ามีลำดับชั้นที่สูงขึ้นเท่านั้น ไปเข้าชั้นเรียนได้แล้ว คาบเรียนทฤษฎีไม่ได้มีกันบ่อยๆ หรอกนะ”
ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่ดันต้องมาจับคู่กับอีตาหัวแดงรินคุที่จ้องจะเขมือบหัวฉันเนี่ยนะ ให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ มีขอบเขตกันบ้าง
“หนอย ทำไมฉันต้องจับฉลากได้ยัยเด็กใหม่งี่เง่านี่ด้วยนะ ทั้งที่เป็นการลงสนามครั้งแรกแท้ๆ ไม่สบอารมณ์ชะมัด”
เขาจิกตาใส่ฉันไม่รู้จักหยุดหย่อน นึกว่าฉันอยากคู่กับนายมากนักสิ แล้วนี่อะไร ถูกส่งมาโลกมนุษย์กับคนบ้องตื้นแบบนี้เนี่ยนะ
“อะไร ยัยเด็กใหม่ อยากโดนฉันเผารึไง”
ไอ้สายตาดูถูกพลางปล่อยเปลวไฟในมือโชว์นี่มันอะไร อย่าทำเป็นว่าที่นี่จะใช้พลังซี้ซั้วได้สิยะ นึกว่าฉันจะบ้าจี้ตามรึไง ประสาท
“ว้าว มีคนเล่นมายากลเสกไฟที่มือได้ด้วยล่ะ!”
นั่นไง เริ่มกลายเป็นจุดสนใจซะแล้วสิ....
“นี่นาย อยากให้บททดสอบแรกมีแค่เราที่สอบตกรึไง ทำบ้าอะไรของนายห๊ะ ลบความจำพวกเขาเลยนะ”
“เธอไม่มีสิทธิมาสั่งฉันนะ น่ะ นี่จะไปไหน! เฮ้ ยัยเด็กใหม่!”
ในเมื่อคุยกับอีตาไม่สนโลกไม่รู้เรื่อง มันก็เลี่ยงไม่ได้ที่ฉันจะทิ้งเขาไว้กับผู้ชนที่เริ่มสนใจในตัวของเขามากขึ้นเรื่อยๆ แล้วทำตามภารกิจด้วยตัวคนเดียว กับแค่ทำให้ทั้งสองคนรักกันมันจะไปยากอะไร
“น่ะ นี่ ยัยบ้า! เฮ้! เธอจะทิ้งฉันไว้ที่นี่หรอ ฉันไม่ใช่สายควบคุมนะ นี่กลับมาเดี๋ยวนี้ โถ่เว้ย!”
คนผมแดงหัวเสียหนักกว่าเก่าเพราะมีมนุษย์มากหน้าหลายตาเข้ามารุมล้อมตัวเขาเรื่อยๆ ในขณะที่คนร่างบางซึ่งมาด้วยกันก็ทิ้งเขาไปอย่างไม่ใยดีแล้ว
‘จำไว้ไม่ว่ายังไง ห้ามใช้พลังโดยไม่จำเป็น ห้ามทำร้ายมนุษย์เด็ดขาด และข้อห้ามที่สำคัญที่สุดก็คือห้ามให้พวกเขารู้ว่าพวกเธอเป็นใคร ถ้าทำผิดกฎล่ะก็จะโดนปรับตก คะแนนติดลบนะจ๊ะ คะแนนติดลบนะจ๊ะที่รักอย่าลืม’
“สุดหล่อทำได้ไงกันคะ / มีแฟนยัง / สนใจไปคัดตัวไหม! / กรี๊ด!”
ยังไงซะ หมอนั่นก็คงไม่ก่อปัญหาเพราะข้อห้ามพวกนั้นหรอก หลังจากออกห่างได้พอสมควร ฉันก็เริ่มคิดได้ว่า ควรจะสร้างฐานะและตัวตนใหม่ในโลกใบนี้ แม้ว่าเวลาในโลกมนุษย์จะสั้นกว่าโลกของพระเจ้าก็ตาม ตอนนี้ชื่อของฉันคือยูโร ชิยูอิน เจ้าของบริษัทนำเข้ารถยนต์ต่างประเทศผู้ที่จะทำให้คำขอต่อพระเจ้าแห่งความรักเป็นจริงขึ้นมา
เกร็ดความรู้ : ยูโร จับได้ภารกิจคำขอให้ช่วยจากเทพเจ้าสื่อรัก โดยปกติเทพเจ้าต่างๆ ล้วนมีภารกิจและคำขอมากมาย ในแต่ล่ะปีจึงมีการแบ่งคำขอเหล่านั้นมาส่งต่อให้กับพวกนักเรียนของพระเจ้าใช้ในการทดสอบความสามารถ
ถ้าถามว่าทำไมถึงได้เลือกจำแลงเป็นผู้หญิงร่างสวยนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนคนนี้ด้วย นั่นสินะ พอดีมันเดินผ่านหุ่นลองชุดพวกนี้พอดีน่ะสิ ไม่ได้มีความหมายอะไรมากไปกว่าการที่ต้องนั่งจับคู่รอเวลาให้พวกคนคลั่งรักทั้งหลายมาเจอกันหรอก จะว่าไปแล้วตอนที่ฉันยังเป็นมนุษย์ก็ไม่เคยได้รับความรักอะไรพวกนี้เลยนี่นะ นั่งดูดน้ำส้มไปประมาณครึ่งแก้วได้ ฉันถึงเริ่มมองเห็นเป้าหมายของภารกิจนี้เสียที คนร่างสวยสวมกระเป๋าสะพายสีดำสนิทแบรนด์ชาแนลงั้นหรอ อืม รสนิยมดีนี่ ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงสดกำลังเดินมาทางนี้แล้ว ส่วนอีกฝ่ายนึงก็นั่นไง คนร่างสูงสวมรองเท้าผ้าใบสีขาวสะอาด เรือนผมสีบรอนด์ทองสะบัดไปมาเล็กน้อย สัญลักษณ์แห่งด้ายแดงที่ผูกโยงกันไว้ไม่ว่าจะใกล้หรือจะไกลแค่ไหนฉันก็สามารถสังเกตเห็นมันได้อยู่ดีหรือว่าฉันคนนี้จะลองใช้แผนเดินชนกันแล้วแกล้งทำน้ำหกใส่พวกเขาเลยดี ทั้งสองคนจะได้รู้จักกันในแบบนิยายรักอะไรพวกนั้น เฮ้อ แต่แบบนั้นมันออกจะเป็นละครน้ำเน่าไปหน่อยรึเปล่านะ แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรมากกว่านี้อยู่ๆ ตัวฉันก็เปียกแทนซะแล้ว“ขอโทษค
รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังถลุงเงินเล่นอยู่เลยแฮะ ตั้งแต่มายังโลกมนุษย์ฉันก็เอาแต่ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า ประหนึ่งว่าเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปหลายต่อหลายครั้งในขณะที่ฉันยังคิดไม่ออกเลยว่าจะให้อะไรกับเขาดี หรือบางทีอาจเป็นพวกไวน์องุ่นไม่ก็แซนวิช อืม ฉันเลือกไวน์องุ่นก็แล้วกัน คิดว่ามันคงจะสร้างความประทับใจแรกให้กับฉันมากพอดู“ครับ คุณมีธุระอะไรรึเปล่าครับ”คนร่างสูงโปร่งเปิดประตูออกมาต้อนรับฉันอย่างสับสน เนื่องจากเขาไม่ได้รู้จักคนตรงหน้านี้เลย สีหน้าของเขาจึงบ่งบอกทุกอย่างออกมาหมด“คือฉันเพิ่งย้ายเข้ามาน่ะค่ะ อยู่ห้องถัดจากคุณ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ฉันยูโร ชิยูอิน และนี่ก็ของฝากค่ะ คิดซะว่าเป็นของขวัญจากเพื่อนข้างห้องนะคะ”อทินมีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรนอกเสียจากยอมรับขวดไวน์ราคาแพงมาถือเอาไว้เองพลางหลบเลี่ยงสายตาฉันนิดๆ“ขอบคุณครับ”“แค่นี้เองเหรอคะ นึกว่าคุณจะยอมบอกชื่อกับเพื่อนข้างห้องของค
“ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะครับ คุณผู้หญิง”รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความชั่วร้ายแบบนั้นน่ะเป็นเขาไม่ผิดแน่ รันเวย์...เดี๋ยวนี้เจ้าจิ้งจอกเก้าหางแบบเขาหันมาคบค้าสมาคมกับพวกมนุษย์ไร้กำลังแทนแล้วสินะ“รู้จักกันด้วยเหรอครับ”คนร่างสูงโปร่งเอ่ยถามคนร่างบางด้วยความสงสัย แต่ในทางกลับกันฉันกลับเมินคำถามพวกนั้นออกไปโดยสิ้นเชิง“ฉันนึกว่าคุณจะนัดฉันมาคุยเรื่องธุรกิจคนเดียวซะอีก”“อย่าใจร้ายกับผมนักสิครับ อย่างน้อยๆเราก็รู้จักกันแล้วนะ ยูโร และผมก็สนิทกับอทินมากๆเลยล่ะ”รันเวย์ส่งรอยยิ้มอย่างสดใสมาให้กับฉันซึ่งมองข้ามเขาไปอีกครั้ง ปีศาจนิสัยเสีย คิดจะปั่นประสาทฉันงั้นเหรอ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก“นายก็พูดเกินไป อันที่จริงผมแค่ติดสัญญาจ้างกับเขานิดหน่อยเท่านั้นเอง ถ้ามันทำให้คุณลำบากใจ ผมจะไล่เขากลับไปให้”“เดี๋ยวสิอทิน! นี่นายจะไม่คิดหน่อยรึไง!?&rdquo
ความตายแค่ทำตามหน้าที่ เหมือนที่ฉันควรจะเมินความน่าสงสารของเธอทิ้งไป แต่ถึงอย่างนั้นทำไมฉันถึงไม่ยอมขยับออกไปล่ะ ความตายจะไม่สามารถไล่ตามดวงวิญญาณซึ่งอยู่ใกล้กับพระเจ้าได้ในกรณีของฉันที่เป็นตัวแทนของพระเจ้า ก็ได้รับสิ่งเหล่านั้นมาด้วยเช่นกัน“มีอะไรค้างคาอยู่รึเปล่า”“ฮึก..คะ..”“คุณน่ะมีอะไรค้างคาอยู่รึเปล่า ถ้ามีอะไรที่อยากทำก็บอกฉันมา”คนร่างบางค่อยๆ เช็คน้ำตาลวกๆ ในขณะที่ฉันเองก็ปลายตามองเธอด้วยความรู้สึกที่ไม่เข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ“ฉันอยากแต่งงานค่ะ”“แต่งงาน...งั้นใครล่ะที่อยากแต่งงานด้วย”“ไม่รู้ค่ะ”ขอถอนคำพูดที่ว่าจะช่วยมันจะทันรึเปล่านะ...“คุณหนู! ในที่สุดก็เจอตัวซักที หนีออกจากโรงพยาบาลทำไมครับคุณหนู รีบกลับกันเถอะครับ เดี๋ยวคุณหนูจะป่วยซะเปล่าๆนะครับ ”ในขณะที่ฉันกำลัง
หลังจากนั้นประมาณหนึ่งอาทิตย์ พวกยมทูตก็มารับสัญญาการต่ออายุจากฉันไป ใครบอกว่ายมทูตต้องใส่ผ้าคลุมสีดำถือเคียวมาค๊อกประตูเอาวิญญาณไปกันนะ ที่ฉันเจอมีแต่หนุ่มหล่อมาดธุรกิจมารับสัญญาจากฉันไปโดยที่ไม่ลืมจะแจกนามบัตรยมทูตให้กับฉันอีกด้วย‘สนใจทำสัญญากับยมทูตเขต1 ติดต่อได้ที่เบอร์ xxx และปรโลกสาขา 1 แถมฟรีไก่ทอด 1 ถัง’“ทำงานกันเป็นทีมดีนะ ยมทูตพวกนี้”“ใครมาหรอคะ”จีราญาเอ่ยถามฉันในขณะที่ตัวเธอก็กำลังจัดเตรียมโต๊ะอาหารเช้าต้อนรับอทินซึ่งกำลังจะไปจัดงานโฆษณารถยนต์ของฉันด้วย ทั้งที่บอกว่าไม่ต้องทำ เธอก็ไม่ยอมฟัง ยัยเด็กเอาแต่ใจเอ้ย“พวกยมทูตน่ะ แต่เธอไม่เห็นพวกเขาหรอก ถ้าตายไปแล้วก็อีกเรื่อง”“นี่ยูโรตายไปแล้วหรอคะเนี่ย”“เธออยากโดนฉันลบความทรงจำมากใช่ไหมล่ะ เดี๋ยวจัดให้เลย ชักเอาใหญ่แล้วนะ”“อย่านะคะ ความทรงจำที่ไม่มีคุณ ฉันไม่เอาหรอ
ดวงตาสีเขียวมรกตจ้องมายังคนร่างเพรียวซึ่งกำลังวิตกกังวลเป็นอย่างมาก ก่อนที่เธอจะถูกผู้หญิงตรงหน้ากระชากแขนเสื้อขึ้นมาโดยที่พายอาร์ไม่ทันได้สนใจสิ่งรอบตัวใดๆ“.......”“ถึงกับใบ้กินเลยงั้นหรอ ไม่มีอะไรจะพูดหน่อยหรอไง!”“พี่ขอโทษ...แต่ถึงยังไงพี่ก็รักเขาไม่ได้อยู่ดี”“ไหนบอกว่าจะยอมทำทุกอย่างให้เมลไง ที่พูดมาคือคำโกหกงั้นหรอ ว่าแล้วเชียวคนอย่างเธอนี่มันเลวที่สุด!”“ปล่อยมือก่อนเถอะค่ะ ฉันว่าที่นี่ไม่เหมาะให้มาทะเลาะกันนะ”ฉันที่เห็นว่าเรื่องราวมันชักจะยุ่งยากมากขึ้นทุกทีจึงห้ามปรามคนร่างบางซึ่งกำลังหันมาโฟกัสทางฉันแทนด้วยแววตาขุ่นมัว“คุณยูโร? ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้...ไม่สิคุณรู้จักกับพายอาร์ด้วยหรอคะ”“ถ้าจะให้พูดล่ะก็ ตอนนี้ฉันเป็นนายจ้างของคุณพายอาร์อยู่น่ะค่ะ และฉันก็ได้แต่หวังว่าเมลจะไม่ทำอะไรนางแบบโฆษณาของฉันหรอกนะคะ ”ฉันยิ้มหน้าตายใส่อีกคนที่ชะงักค้างลงก่อนที่ฉันจะถือวิสาสะพ
รู้สึกว่างเปล่ามากซะจน...เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ นี่ฉันกำลังตกอยู่ในวัยต่อต้านตัวเองรึไง“ท่านประธานค่ะ โฆษณาที่ให้ดิฉันไปจัดการเสร็จแล้วค่ะ”จริงสิ....ฉันยังรับบทเป็นประธานบริษัทรถยนต์นำเข้าอยู่นี่น่า คนร่างบางพยักหน้ารับเลขาสาวช้าๆ พลางหยิบแฟ้มอนุมัติงบประมาณขึ้นมาเซ็นต์“งั้นก็ปล่อยออกไปได้เลย ส่วนยอดขายเดือนนี้บอกให้ทีมเอ กระตุ้นยอดขายโดยการส่งรถยนต์ไปเป็นสปอนเซอร์ของซีรีส์ที่จะออนแอร์ปลายปีนี้ด้วย”“ได้ค่ะท่านประธาน”เห็นแบบนี้ฉันก็มีความรับผิดชอบต่องานที่ตัวเองเอามาบังหน้าอยู่นะ อย่างน้อยก็ควรทำตัวให้เป็นแบบอย่างแก่พวกพนักงานที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย“จริงสิคะ เรื่องหุ้นของบริษัทที่กำลังจะขาดทุนนั่น ท่านประธานจะซื้อเอาไว้ไหมคะ”บริษัทบราเดอร์ เหตุผลที่ขาดทุนขนาดนั้นคงมีคนโกงในบริษัท ถึงไม่ใช่ปัญหาหลัก แต่เรื่องที่บริษัทของเขาจัดว่าเด่นในเรื่องการรักษาความปลอดภัยก็น่
ณ แทบทะเลทางตอนเหนือ สายลมกระโชกแรง มวลน้ำทะเลม้วนตัวเป็นคลื่นพายุพัดโหมกระหน่ำชายฝั่งทำให้ท่าเรือในละแวกนั้นไม่สามารถสัญจรไปได้ แต่ทว่าร่างของเด็กหญิงผมสีฟ้าครามก็ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางพายุที่พัดกระหน่ำรุนแรง“เข้าใจเลือกดีนี่ นายจงใจเลือกที่ๆ ฉันไม่สามารถหายตัวไปไหนได้ เพราะไม่รู้พิกัดที่แน่นอน”แปะ..แปะ…เสียงปรบมือดังขึ้นจากด้านหลังของเด็กสาวซึ่งสวมเสื้อคลุมเอาไว้จนมิดศีรษะทำให้อีกฝ่ายเหยียดยิ้มออกมาช้าๆ“ยินดีต้อนรับ ตัวแทนพระเจ้า คุณยอมมาถึงที่นี่จริงๆซะด้วย เพื่อเด็กผู้หญิงคนนั้นงั้นหรอ หรือเพราะว่าผมกันล่ะ”ร่างขาวเนียนสวมเสื้อบลูฮาวายสีดำสนิทแววตาสีแดงฉานเรือนผมสีชมพูอ่อนเดินเข้ามาหมายจะแตะต้องไหล่บางของอีกคนซึ่งกำลังเดือดเต็มที่“ใจเย็นๆ ก่อนสิครับ ไอความเย็นของคุณแช่แข็งมือของผมหมดแล้วนะครับ ยูโร ชิยูอิน”ไอความเย็นยะเยือกแผ่กระจายไปทั่วบริเวณที่ทั้งคู่ยืนอยู่ สร้างความประห
ทั้งที่ฉันตัดสินใจจะทิ้งทุกอย่างเอาไว้เบื้องหลังแล้วแท้ๆ แต่ทำไมพอเธอปรากฏตัวขึ้นมาฉันถึงยังตัดใจไปจากเธอไม่ได้กันนะ....นั่นมันเป็นความรู้สึกที่ฉันไม่อยากลบเลือนมันเลยจริงๆ“ยูโร ฟื้นสิ! ยูโร!”เสียงร้องเรียกของใครบางคนทำให้ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆ แต่ทว่าดวงตามันก็หนักอึ้งไปหมดไหนจะเสียงกรีดร้องของผู้คนรอบๆ อีกล่ะ..น่าหนวกหูจังเลยนะ ทั้งที่ฉันแค่อยากจะพักผ่อนแท้ๆ ...“ฉันบอกให้เธอลืมตาขึ้นมาไงยูโร นี่...พูดกับฉันสิ...อย่าเอาแต่เงียบใส่ฉันแบบนี้ ก็ฉัน! บอกให้เธอ...พูดกับฉันยังไงล่ะ..ยัยเด็กอวดดี...”นั่นใครน่ะ...สวยจังนะ...ฉันเองก็อยากจะสวยแบบเธอเหมือนกัน...แต่ว่ามันคงจะยากเกินไปสำหรับฉันสินะ...“นี่ยูโร”และยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดอะไรต่อฝ่ายทีมรักษาก็พากันกรูเข้ามายังบริเวณที่ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนอยู่กับที่รวมไปถึงยูโรซึ่งนอนแน่นิ่งอยู่ด้วยเช่นกัน“เธอคงกำลังตก
“จี...”คนร่างบางพึมพำออกมาเบาๆ ในขณะที่รอบๆ ตัวของเธอก็กำลังกลายเป็นสมรภูมิรบขนาดย่อมไปแล้วไม่ปาน ภายนอกถูกแต่งแต้มไปด้วยสถานที่ซึ่งง่ายต่อการทดสอบในทุกรูปแบบด้วยฝีมือของเทพร่างสูงอย่างคาเซอุสเปรี้ยง!“มัวยืนทำอะไรของเธอ! หลบเร็ว!”ยังไม่ทันที่ยูโรจะได้ก้าวขาเข้าไปยังคนร่างบางซึ่งถูกสะกดจิตเอาไว้โดยเทพแห่งปัญญา สายฟ้าฟาดก็พุ่งตรงลงมายังเธอทันที ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนร่วมทีมของคนตรงหน้ารีบวิ่งเข้ามาขวางเธอเอาไว้จนกระเด็นออกไปอีกทางผลั่ก!“ยัยบ้า! ยืนเหม่ออะไร! เดี๋ยวก็ตายหรอก! ถ้าไม่คิดจะสู้ ก็ไปปกป้องตัวประกันแทนซะ! อย่าทำให้พวกเราต้องลำบากไปมากกว่านี้เลยน่า!”“มือ..ของนาย”“ช่างมันเถอะ! รีบลุกขึ้นเร็วเข้า!”เปรี้ยง!!
พาร์ทยูโรฉันกำลังสับสนกับตัวเองจริงๆ ....แบบว่ามันดันมีความรู้สึกของคนอื่นเข้ามาปนอยู่ด้วยจนฉันแทบจะแยกไม่ออกแล้วว่าอันไหนมันคือเรื่องจริงกันแน่ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ควรจะก้าวเดินต่อไป เพราะไม่ว่าฉันจะเลือกทางเดินแบบไหนมันก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน ...และนั่นมันก็เป็น...ความรู้สึกแรกที่ฉันได้พบกับเธอ...“ ในที่สุดก็มากันครบแล้วสินะ เหล่าตัวแทนทั้งหลายของเทพเจ้า”เสียงเป่าประกาศของชายวัยกลางคนดังขึ้นกึกก้องไปทั่วบริเวณ ทันทีที่พวกเราก้าวเดินไปถึงสนามลานประลองขนาดใหญ่ซึ่งรายล้อมไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาแต่ทว่าหนึ่งในนั้นสายตาของฉันก็ดันกลับกลายไปสบเข้ากับเรือนร่างอันแสนบอบบางซึ่งฉันคุ้นหน้าคุ้นตาเธอเป็นอย่างดี...ผู้หญิงคนนั้นคืออีเมลไม่ผิดแน่ แต่ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ในเวลาแบบนี้ได้ล่ะ…ดวงตาสีแดงเข้มแบบนั้น....มันก็เหมือนกับว่าเธอกำลังกลายเป็นคนพวกนั้นไปแล้วไม่ใช่รึไง...มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ...“คุณยูโร...”ร่างผอมบางเอ่ยทักชื่อฉันทันทีที่ได้เห็นคน
หลังจากวันนั้นผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ของที่นี่ฉันก็ได้รับจดหมายจากอีเดน เจ้านกฮูกตัวสีขาวขนปุยที่ฉันไม่ได้เห็นหน้าของเขามานานมากแล้วจนเกือบลืมไปว่ายังมีเขาที่รอคอยฉันอยู่....“ยูโร !!!!”ทันทีที่เจ้านกฮูกขนปุยสีขาวปรายตาเห็นฉันเข้าเขาก็รีบบินโฉบเข้ามาหาฉันด้วยท่าทีตื่นเต้นจนถูกผู้หญิงร่างสูงจับปีกของเขาไว้ด้วยความหวาดระแวงหมับ!“ยูโรเธอไม่เป็นอะไรนะ ? ย้า ปล่อยฉันเซ่ ยัยผู้หญิงป่าเถื่อน! ปล่อยปีกฉันเดี๋ยวนี้! อะ ยูโรรอเดี๋ยวนะ ฉันจะจัดการผู้หญิงคนนี้แล้วไปช่วยเธอเอง จิ้ก จิ้ก! บอกให้ปล่อยฉันไง ยัยเบือก!”“ปากเก่งแบบนี้ถ้าฉันจับไปทอดกินก็คงได้สินะ”“O [] O ยะ...ยูโร”เจ้านกฮูกตัวอ้วนกลมหน้าถอดสีพลางมองหญิงสาวร่างสวยที่จับเขาเหวี่ยงไปมาอย่างกับของเล่นจนกระทั่งเจ้านายร่างบางของเขาถือวิสาสะเข้ามาแย่งร่างอันสั่นเทาไปกอดเอาไว้เอง“อีเดน นายโอเครึเปล่า ยูแอลค
พาร์ท อีเมล...ฉันเคยคิดมาตลอดว่าสิ่งมีชีวิตอย่างพวกแวมไพร์ อสูรกาย มนุษย์หมาป่า หรือแม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตอันน่าอัศจรรย์เหล่านั้นแท้จริงแล้วมันก็แค่เรื่องแต่งขึ้นของใครบางคนเท่านั้นเอง มันไม่มีทางเกิดขึ้นจริงในชีวิตของพวกเราหรอก ใช่ ฉันคิดแบบนั้น....จนกระทั่ง ความหิวกระหาย...ความรู้สึกอยากทำลาย การที่เห็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเองเป็นแค่เศษอาหาร มันถาโถมเข้ามาในตัวของฉันตั้งแต่วันนั้น วันที่ฉันวิ่งไล่ตามยูโรไป....ตึก ตึก...“อ้าว คุณเมลนี่เอง มาหาท่านรินคุหรอคะ?”“ท่านรินคุ? ไม่ใช่ค่ะ ฉันมาหาคุณยูโรต่างหาก เธอไม่อยู่หรอคะเลขาชา?”ฉันไล่สายตามองหาเจ้าของเสียงหวานท่ามกลางความสับสนซึ่งปะทุขึ้นมาในใจของฉันตั้งแต่เมื่อคืน ไม่ว่าจะทำยังไงก็นอนไม่หลับเลยตั้งแต่ที่เธอส่งข้อความแบบนั้นมาให้กับฉัน‘ขอโทษงั้นหรอ? คุณยังไม่ได้ลองพยายามเลยแท้ๆ ...อยู่ๆ มาปฏิเสธใส่กันง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง...’“คุณยูโร
พาร์ท จีราญาฉันได้แต่ครุ่นคิดแล้วก็สงสัยในทุกๆครั้ง ว่าทำไมกันนะ ไม่ว่าฉันจะพยายามนึกถึงใบหน้าของใครบางคนอีกสักเท่าไร มันก็ไม่มีทางนึกออกได้เลย....เหมือนกับว่าฉันกำลังจมน้ำโดยที่ไม่มีทางที่จะก้าวขึ้นมาได้ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยัง...อยากที่จะนึกถึงแต่มันอยู่ดี...แปะ...แปะ...“จี แกเป็นอะไรเนี่ย จู่ๆ ก็ร้องไห้อีกแล้ว ยังรักษาไม่หายอีกหรอ”ทันทีที่ฉันหยุดคิด เสียงแหลมๆ ของเพื่อนคนสนิทซึ่งมีเพียงไม่กี่คนของฉันก็เอ่ยทักขึ้นทำให้ต้องละสายตาจากแก้วกาแฟใบโปรดกลับมองเธอที่ทำหน้าตกใจกับรอยแดงจางๆ บนใบหน้าของฉันแทน“อืม ก็นิดหน่อยน่ะ เมื่อคืนฉันฝันร้ายอีกแล้ว”“แบบนี้ก็แย่สิจี ว่างๆ แกควรให้พี่พีเจพาไปตรวจสุขภาพหน่อยก็ดีนะ ฉันเห็นแกชอบร้องไห้ไม่รู้เนื้อรู้ตัวมาตั้งหลายครั้งแล้ว ”“ไม่เป็นไรหรอกโรส ฉันโอเค แกคิดมากไปแล้ว”“งั้นหรอ ถ้าแกว่า
ฉัน...รู้อยู่แล้ว ว่าความจริงยูกิจังไม่เหมือนเดิม เธอเปลี่ยนไปตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน ทั้งรอยยิ้ม และสายตาแบบนั้น ทำให้ฉันเข้าใจมันได้เป็นอย่างดี….เธอไม่ใช่ชิยูกิของฉันหรอก...แต่ถึงอย่างนั้น..แต่ฉันก็ยังทำใจยอมรับมันไม่ได้...เรื่องที่ว่าไม่มีชิยูกิจังอยู่ต่อไปอีกแล้วน่ะ....ฉันควร...จะทำยังไงดีล่ะ....“นี่มันยังไงกันแน่ ตกลงว่าชิยูกิคนนี้เป็นตัวปลอมอย่างงั้นน่ะหรอ อย่าเอาแต่เงียบสิ ฉันเองก็ปวดใจนะ! อย่าเอาแต่เงียบกันได้ไหม! แล้วตัวจริงล่ะ...ตัวจริงไปอยู่ที่ไหน!”“เรื่องนั้น...”คนร่างบางจับชายเสื้อของชิยูกิเอาไว้แน่นทำให้อีกฝ่ายหยุดชะงักลงก่อนจะแสดงสีหน้าอันขนขื่นออกมา“ฉันคิดว่าเจ้าของร่างนี้อาจจะตายไปแล้ว”คนร่างผอมเพรียวแทบจะล้มไปกองกับพื้นทันทีตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของมีอาเธอเดินเข้ามากระชากคอเสื้อด้านนอกสีน้ำเงินเข้มของยูโรซึ่งไม่มีทีท่าขัดขืนแต่อย่างใด“ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอรู้เรื่องนี้ตั้งแ
ฉันปรายตามองคนมาใหม่อย่างโกรธเคืองเพราะไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเธอจะตามฉันมาถึงที่นี่ ไหนว่าจะขายฉันทิ้งแล้วไงล่ะ ยังจะมาไยดีอะไรกันอีก แค่หน้าก็ไม่อยากจะมองแล้ว ยังจะมาที่นี่อีกทำไม...“หยุดทำหน้าเหมือนอยากจะฆ่าข้าได้แล้ว พี่สาวอย่างข้าอุตส่าห์ทิ้งภาระอันหนักอึ้งมาหาเจ้าเชียวนะ ตอบแทนกันอย่างนี้รึ”ไม่พูดเปล่ายูแอลยังถือวิสาสะดึงแขนของเด็กสาวออกจากการเกาะกุมของเฮร่าพลางดึงคนร่างบางมาไว้ข้างตัวด้วยสีหน้าเรียบเฉยผิดกับสองคนที่เหลือ“ชิยูกิ!”“เอริคนี่เจ้าไม่คิดจะสอนมารยาทน้องสาวของเจ้าหน่อยรึไง”คนร่างสวยหวาดตามองหญิงสาวทั้งสองอย่างเอาเรื่องทำให้เอริคผู้เป็นพี่รีบขอโทษแทนน้องสาวแทบไม่ทัน“ขออภัยขอรับ ท่านหญิง น้องสาวของกระผมเสียมารยาทต่อท่านหญิง ได้โปรดอภัยให้นางด้วย”“พี่ / เอริค ย
ฉันคิดว่ามีอาคงผูกใจเจ็บกับเฮร่าจริงๆ นั่นล่ะ เพราะคิดไม่ถึงเลยว่ายัยนั่นจะตามติดพวกฉันแจขนาดนี้“มีอา”ฉันเหล่ตามองเธออย่างลำบากใจที่เห็นคู่หมั้นของเอริคมายืนส่งยิ้มให้กันตั้งแต่หัววันแบบนี้ แถมยังไม่ยอมปลายตามองคู่หมั้นของตัวเองอีกต่างหาก ถ้าให้ฉันเดาล่ะก็ ก็ถูกคลุมถุงชนแหง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ไม่เห็นจะต้องพุ่งสายตากดดันมาทางฉันเลยก็ได้นี่!“ฉันมาชวนเธอไปเที่ยวด้วยกันน่ะ”“ยูกิจังไม่ไปกับเธอหรอก”เฮร่าเดินลงมาจากบันไดพลางปลายตามองผู้มาใหม่อย่างกดดันเธอดูอารมณ์ไม่คงที่สุดๆ“ ชิยูกิต้องได้รับอนุญาตจากเธอก่อนรึไง ถึงจะออกไปข้างนอกกับฉันได้”“ใช่”เหมือนจะไม่ใช่นะ....ทำไมต้องมาทะเลาะกันเรื่องของฉันด้วยล่ะ อีตาเอริคนี่ก็อีกคนช่วยพูดอะไรหน่อยได้ไหม คุณเป็นคนต้นเรื่องไม่ใช่หรอ พวกเค้าทะเลาะกันเพราะคุณนะ“เธอไม่ใช่เจ้าของชิยูกิสักหน่อย ไม่มีสิทธิมาตัดสินใจนะ”“เธอก