“อื้อ~” ไอความเย็นจากผิวกระป๋องเบียร์แตะแก้มเนียนเร็วมากจนคนตัวเล็กสะดุ้งโหยง หันกลับไปมองเป็นเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มอยู่
“แกล้งหนูเหรอ?” “มันเขี้ยว” ว่าแล้วก็กดนิ้วโป้งลงบนแก้ม ลูบเบาๆ ไปมาจนคนตัวเล็กต้องตะครุบมือห้าม “แก้มช้ำหมดแล้วเนี่ย” “เอาเบียร์มาให้” “ขอบคุณค่ะ” “เสร็จแล้วก็รีบตามไปนั่ง” คนฟังพยักหน้าหงึกหงัก เธอกำลังช่วยของขวัญจัดเรียงบาร์บีคิวใส่จาน “ส่วนเรา ให้พี่สั่งน้ำส้มให้ไหม” ถามเมียเพื่อนอย่างของขวัญ รายนี้ให้กินสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ผัวเธอโหดไป ขี้เกียจฟังมันด่า รำคาญ “ไม่เอา อยากกินเบียร์เหมือนพวกพี่บ้าง” “งั้นไปถามมัน รำคาญเสียงมันบ่น ขี้เกียจโดน” ของขวัญยิ้มจนตายี๋ ที่เป็นแบบนี้เพราะคนขี้หวงด่าเรียงตัวทุกทีที่เพื่อนเขาเอาของมึนเมาให้เธอกิน ก็ไม่ใช่ว่ากินไม่ได้ วันนั้นดันเป็นวันที่องศามีงาน เผลอแป๊บๆ เมียเมาคอพับ ไอ้พวกเวรมันก็แกล้งเมียเขา ถามปุ๊บตอบปั๊บ ของขวัญพูดจนหมดเปลือก ความลับไม่ค่อยจะมี เลยเป็นที่มาว่าก่อนดื่มต้องถามผัว ผัวอนุญาตเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน! เป็นความสัมพันธ์ในกลุ่มเพื่อนที่เห็นแล้วน่ารักดี ขนมนั่งฟังเสียงคุยของคนในกลุ่ม บ้างก็อมยิ้ม บ้างก็หลุดขำ ชอบเวลาพวกเขาหยอกกันแล้วมักมีใครคนใดคนหนึ่งโดนหนักกว่าเพื่อน ชอบเสียงหัวเราะ ชอบตอนเถียงกันแบบเด็กๆ เป็นมุมที่อบอุ่นและผ่อนคลายได้ดี “เอาแก้วใส่น้ำแข็งไหม ยกช้าถ้าไม่เย็นก็ไม่อร่อย” ฉลามถามคนข้างๆ พวกเขาชอบแบบยกกระป๋องมากกว่า หมดแล้วทิ้งเปิดใหม่แบบซ่าๆ แต่เธอดื่มช้ากว่าพวกเขามาก พวกเขาหมดสาม ของเธอกระป๋องแรกยังไม่หมด เห็นแล้วสงสารเลย “แก้วอยู่ไหน เดี๋ยวหนูไปหยิบเอง” “เดี๋ยวพี่ไปเอาให้ นั่งเล่นเถอะ เดี๋ยวดูแลเอง”หยอดแบบนี้เป็นสาวคนอื่นคงหลง แต่เธอแค่มอง ไม่เอาใจไปลงเล่นหรอก มาด้วยกัน ดูแลกันดีเท่านั้นก็พอ แล้วก็เผลอมองตามหลังคนตัวโตไปจนสุดสายตา หันกลับมาอีกครั้งก็ตอนโดนสะกิดแขน “คบกับพี่ฉลามนานแล้วเหรอคะ” เป็นของขวัญที่ถามอย่างเป็นมิตร และคำว่า ‘คบ’ ทำให้ขนมส่ายหน้าไปมาทันที “แค่คุยเองค่ะ” “แต่ก็เป็นแค่คนคุยที่ฉลามให้ความสำคัญที่สุดเลยนะ ปกติมันไม่ควงสาวเลย” จีน่าบอกอีกเสียง ที่จริงน้องก็น่ารัก จะคบจะคุยมันก็ไม่แปลก แค่อยากรู้มากกว่าว่าฉลามคิดแบบไหน เล่นๆ หรือถึงขั้นจริงจัง “คงไม่ขนาดนั้นมั้งคะ” “แต่พี่แอบเชียร์อยู่นะ อยากให้มันมีแฟน เบื่อแล้วเห็นผู้หญิงมาแย่งกัน อยากเห็นมันคบใครเป็นตัวเป็นตนไปเลย” “ใช่เลย คิดแบบนั้นเหมือนกัน” ของขวัญสมทบ ใครมันจะไปใจแข็งได้ตลอดเวลา อยู่กับใครสักคนมันก็ต้องมีหวั่นไหวกันบ้าง ประสบการณ์มันก็มีให้เห็นกันอยู่ “แก้วพร้อมน้ำแข็ง แล้วห่อนี้ก็แอบหยิบมาฝาก” ขนมมองห่อขนมที่อีกคนยัดมาให้ ไม่ทันได้ถาม เสียงของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามก็ตะโกนขึ้นมา “มึงแม่งหน้าด้านว่ะ นั่นของกูครับ” “หวงสัด! น้องตัวเล็กกว่ามึง แบ่งแค่นี้ทำมาบ่น” “ที่มึงทำเขาเรียกว่าขโมย ไอ้เวร” “ยืมก่อน เดี๋ยวซื้อคืน” พูดจบก็คว้ามาฉีกซอง ยัดใส่มือคนข้างๆ ฉีกไปแล้ว กล้าเอาคืนก็ช่างหันมัน “พี่ฉลาม…” “มันด่าแค่พี่ ไม่กล้าด่าเธอหรอก” “ไม่เอา หนูกลัวโดนด่า” “ถ้ากล้าด่าเดี๋ยวถีบหน้ามันให้” แล้วประกายตาคนบอกก็แพรวพราวไม่ไหว เอาใจเก่ง ปกป้องดี กล้าเมินนี่ก็แปลกแล้ว “ใคร! ใครมันบอกจะถีบหน้ากู” ทุกคนหลุดขำ ส่วนคนที่ถือถุงขนมอยู่รีบยื่นคืนเจ้าของอย่างเลิ่กลั่ก “พี่ติณห์ หนูคืนค่ะ” ตาใสมองสบตาทันที แล้วคนที่ด่าปาวๆ ถึงกับชะงัก เด็กไอ้หลามน่ารักจัด ไม่กล้าด่าต่อเลยกู “ขี้หวง แบ่งๆ น้องบ้างเถอะน่า” จีน่าดึงมือเรียวของรุ่นน้องให้นั่งลง ถือโอกาสกินเป็นเพื่อนซะเลย “พี่ติณห์โกรธหนูไหม~” ตายเถอะ ไม่ใช่แค่ไอ้ติณห์หรอกที่จะตาย ไอ้คนที่หวังล่อมันก็จะตายเหมือนกันถ้าเด็กมันจะน่ารักขนาดนี้ “กินเลย พี่แค่หยอก” จากนั้นทุกคนก็หลุดขำ สภาพนี้ไม่ต้องเดา แพ้ทางเด็กทุกคน ครืด~ ครืด~ โทรศัพท์มือถือที่วางข้างลำตัวกระพริบขึ้นพร้อมเสียงสั่น มือเรียวพลิกจากการคว่ำหน้า เห็นว่าเป็นเบอร์ของคุณพ่อก็รีบเอ่ยขอตัวขึ้นมา “เดี๋ยวหนูมานะคะ รับโทรศัพท์ค่ะ” “ได้ๆ อย่าคุยนานนะพี่คิดถึง” ลีโอเป็นคนตอบ ยิ้มแฉ่งให้เด็กของเพื่อนก่อนจะมองเลยไปที่เพื่อนตัวเองแบบกวนๆ “นี่ พวกแกเล่นอะไรกันเนี่ย งงไปหมดแล้ว” จีน่าเปิดฉากเมื่อมีโอกาสอยู่แบบกันเองอีกครั้ง เธอมองบุคคลที่น่าสงสัย สบตาแบบเรียงตัวก่อนจะหยุดมองนานที่ฉลาม ซึ่งครั้งนี้ไอ้เพื่อนตัวดีมันหลบตา “เล่นบ้าอะไรล่ะ ไม่ได้ทำอะไรเลยเนี่ย” “แกนั่นแหละตัวดี พาสาวมาด้วย แต่เพื่อนตัวเองก็แซวน้องไม่หยุด นี่เล่นบ้าอะไรกัน เอาจริงๆ จ้างเด็กมาเอ็นเตอร์เทนหรืออะไรเอาดีๆ” ผิดไหมถ้าจะคิดว่าน้องไม่ได้เป็นเด็กใคร น้องแค่ถูกจ้างมาเพื่อนปรนเปรอไอ้คนโสดสองสามคนที่นั่งเรียงกัน “ไร้สาระน่าจี” “อย่าให้รู้” “เหี้ยเซย์ มึงเคลียร์เมียมึงดิ ดุเหมือนกูเป็นลูกพวกมึงเนี่ย” “ไม่ต้องพูด” แล้วคนมีเมียก็ถูกสั่งห้าม เออเอาเข้าไป วันนี้เข้าใจแล้วว่าต่อให้จะเก่งมาจากไหนมันก็เถียงเมียไม่เคยได้อยู่ดี “ฮัล…” (สวัสดีค่ะ พอดีเมื่อสักครู่ที่คุณติดต่อมาแล้วคุณปรินทร์ไม่ทันรับสาย เลยให้ดิฉันโทรกลับค่ะ ให้แจ้งว่าคุณปรินทร์อาบน้ำอยู่นะคะ) “…!” เสียงที่แทรกเข้ามาตามสายส่งผลให้ขนมผละโทรศัพท์ออกจากหู ดูรายชื่อที่ปรากฏอยู่บนนั้น รายชื่อที่คุ้นเคย คนเป็นพ่อที่ไม่ควรมีผู้หญิงคนไหนมาแตะต้องโทรศัพท์ของท่านทั้งนั้นทำคนเป็นลูกใจสั่น นอกเหนือจากเวลาที่ไม่น่าจะอยู่กับใครอีกคน คำว่าอาบน้ำอยู่ยิ่งตอกย้ำความคิดให้เตลิดไปไกล “คะ ใครพูด” (เอ่อ ดิฉันเป็นภรรยาของคุณปรินทร์ค่ะ มีข้อความอยากฝากไหมคะหรือจะให้ติดต่อกลับไป…) “ภรรยาของคุณปรินทร์ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว คุณเป็นใคร มาแอบอ้างแบบนี้เพื่ออะไร” (เสียชีวิต? อ้อ นั่นคงเป็นภรรยาอีกคนน่ะค่ะ ดิฉันก็เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถึงจะมาจดทะเบียนสมรสภายหลัง แต่ดิฉันก็มาก่อนนะคะ หมายถึงดูแลคุณปรินทร์มาก่อน และระหว่างที่คุณปรินทร์อยู่กับภรรยาอีกคน ดิฉันก็ยังดูแลท่านอยู่ วางใจได้นะคะ คุณคุยกับดิฉันได้ทุกเรื่องค่ะ) ยิ่งคนในสายย้ำสถานะ มวลน้ำตาก็ยิ่งรื้นขึ้นมามากเท่ากัน (ถ้าไม่มีอะไรจะพูดดิฉันขออนุญาตวางสายนะคะ ตอนนี้คุณปรินทร์พักผ่อนอยู่ที่บ้านแล้วค่ะ) “…!” คนฟังกำหมัดแน่น ละโทรศัพท์ที่ไม่มีคู่สนทนาแล้วพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว คุณพ่อมีผู้หญิงใหม่ มีมานานแล้ว ตั้งแต่แม่ยังไม่เสีย มีผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่ยังไม่มีแม่เธอ บ้าที่สุด! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ขนมไม่ยอมจบแค่นั้น เธอโทรเข้าเบอร์บ้าน ทันทีที่แม่บ้านคนเดิมคนเดียวที่อยู่บ้านหลังนั้นมาตั้งแต่เธอเกิด คำถามดังขึ้นทันที “แม่จันทร์…” เสียงสั่นในยามที่เรียกทำนางจันทร์ที่เลี้ยงดูคุณหนูมาตั้งแต่เล็กใจหาย เสียงขานรับดังขึ้นอย่างแผ่วเบาก่อนที่คำถามที่ไม่อยากได้ยินจะดังออกมา “คุณพ่อมีผู้หญิงคนอื่นใช่ไหมคะ” (คุณหนู…) “แค่ตอบหนู คุณพ่อมีผู้หญิงคนอื่น มีมาตลอด คุณพ่อปิดบังหนู คุณพ่อมีคนอื่นตั้งแต่ตอนที่แม่หนูยังไม่เสียมันคือเรื่องจริงไหมคะ แม่จันทร์บอกความจริงหนูมาเลย หนูขอร้องนะ~” (โถ่~ คุณหนูขา คือป้า…) “ถ้าหนูไม่รู้ความจริงวันนี้ หนูจะไม่กลับไปที่บ้านอีก จะไม่มีใครเจอหนูอีกเลย” คำขู่ทำนางจันทร์ร้อนรนขึ้นมาทันที ถามคนเป็นพ่อจะได้ความจริงแค่ไหน ถึงครึ่งไหมก็ไม่รู้ แม่จันทร์อยู่บ้าน คนที่จะตอบเธอได้ทุกอย่างในตอนนี้คือแม่จันทร์คนเดียว (คุณท่านมีผู้หญิงอีกคนนานแล้วค่ะ มีลูกด้วยกันสองคน คนแรก…อายุมากกว่าคุณหนูค่ะ) คล้ายมีค้อนฟาดหนักๆ ลงมากลางศีรษะจนมันหนักอึ้ง ความศัทธาในตัวพ่อที่เคยมีแทบติดลบทันที “คะ คุณแม่ รู้เรื่องนี้ไหมคะ…” (รู้ค่ะ) พอ! แค่นั้นก็พอแล้ว แค่นี้ก็เกินพอ! โทรศัพท์มือถือเครื่องหรูละออกจากหู น้ำตาพรั่งพรูออกมาจากตาทันที ทำไมเป็นแบบนี้ คนที่เธอรักและไว้ใจมากที่สุดในโลก คนที่คิดว่าเขารักเธอกับแม่มากที่สุดในโลก ทำไมกลายเป็นแบบนี้ ทำไมทำได้ลงคอ คำว่าซื่อสัตย์ไม่มีเลยใช่ไหม ผิดหวังที่สุด ผิดหวังสิ้นดี! “ขนม” มือหนาแตะที่ไหล่บาง คนตัวเล็กหันขวับ โผล่เข้ากอดคนตัวสูงทันที “เกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไร” ความงุนงงวิ่งเข้าใส่อย่างจัง เสียงสะอื้นไม่ได้ดังมาก แต่ดูออกว่าเธอเสียใจมาก เธอคุยกับใคร แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้ “ขอกอดแป๊บนึงได้ไหม” เมื่อเธอขอเขาก็จะให้ ก็ปล่อยให้กอด ปล่อยให้ร้อง เธอเสียน้ำตาจนเสื้อเขาเปียก แต่เขาไม่ห้าม ไม่ว่าเลยสักคำ เกือบสิบนาทีที่ถูกกอดอยู่แบบนั้น แล้วคนที่เป็นฝ่ายขอกอดก็เป็นคนผละออกด้วยตัวเอง มือเรียวยกมือขึ้นปาดน้ำตา เชิดใบหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะมองสบตาเขานัยน์ตาแดงๆ “โอเคแล้ว” “แล้วสรุปเป็นอะไร” โหมดร้องไห้ทำไมน่าสงสารวะ เห็นแล้วใจห่อเหี่ยวมาก “ไม่เป็นไร อยากกินเบียร์อีก ขอกินเยอะๆ เลยได้ไหม” “อธิบายก่อนไหม?” “เรื่องไร้สาระ” เธอส่ายหน้าก่อนตอบ พวกนั้นสงสัยแน่ที่เห็นเธอตาแดงและบวมแบบนี้ แต่ถ้าเธอไม่บอกก็ไม่มีปัญญาที่ไหนจะไปคาดคั้น “วันนี้หนูขอเมานะ อยากเมา เอาให้หลับกลางอากาศไปเลย” ว่าจบก็จับมือ จับมือแล้วลากให้เดิน ใกล้กันเธอก็ไม่ติด ไม่ทัก ไม่อะไรทั้งนั้น ไม่ระวังตัวเองเลยสักอย่าง แขนเขาโดนหน้าอกเธอตั้งหลายรอบ แต่เธอไม่ว่า ไม่โวยวาย ไม่ยอมขยับตัวหนีเสมือนเป้าหมายเดียวของเธอในตอนนี้คือการกลับไปซัดเบียร์ อยากกินก็จะให้กิน เยอะแค่ไหนก็จะให้กิน เมาไม่เป็นไรเดี๋ยวดูแลต่อเอง ————————— แค่ดูแลก็พอนะ อย่างอื่นไม่ต้องยุ่ง อย่าให้รู้นะพี่หลามว่าวอแวไม่เลิกน่ะ >< อ่านจบแล้วว ฝากกดไลก์และคอมเมนต์ให้กันหน่อยนะคะวันต่อมา “คอมเมนต์เป็นเอกฉันท์ คนกลางโสดไหม~” ไข่มุกอ่านคอมเมนต์ก่อนจะกระแทกไหล่เข้ากับสาวฮอตที่มีหนุ่มๆ ตามขายขนมจีบทั้งในชีวิตจริงและโลกออนไลน์ แค่มีภาพสวยๆ โพสต์ลงสักภาพ การเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดียของขนมก็วิ่งละลิ่ว ทั้งไลก์ คอมเมนต์ แชร์ แม้กระทั่งช่องแช็ตก็ไม่ว่างเลยเช่นกัน “โสดไง โสดสนิท พร้อมคุยพร้อมคบใครพร้อมจบเข้ามาเลย” เจนแซวยิ้มๆ แค่เห็นเพื่อนกลับมาสดใสและสวยเหมือนเดิมก็สบายใจแล้ว“ว่าไป~” “คนนี้หล่อมาก รับไปคุยเล่นๆ ไหมคะ” ไข่มุกอวดโปรไฟล์ผู้ชายในโทรศัพท์ ใบหน้าของคนถูกถามผุดรอยยิ้มเล็กๆ ก่อนจะส่ายหน้าทันที “ไม่เอา” “ไม่หล่อเหรอ? นี่คัดคนให้เลยนะ” “ไม่เอา ไม่อยากคุยกับใคร~” ขนมละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์เพื่อนพร้อมกับหันมาโฟกัสที่โทรศัพท์ของตัวเองพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์ พิมพ์ไปยิ้มไปจนคนที่กำลังสงสัยมองหน้ากัน“คุยกับใครอ่ะ” “พี่ฉลาม” “หืม? จะควงแกไปอวดเพื่อนอีกแล้วเหรอ” “ไม่ๆ ก็คุยปกติ” เจนมองไปที่ไข่มุก คิ้วสวยเลิกขึ้นเสมือนกำลังส่งสัญญาณให้กัน“คุยปกตินี่คือ?” เจนถามต่อพร้อมชะโงกหน้าไปมอง“ดะ เดี๋ยว คิดถึง! เขาบอกคิดถึงแกด้วยเหรอ” ตากลมสวยเสมองไปทางเพื่อน ยิ้มแห้
“อื้ออ~” กายหนาพุ่งเข้ามาประชิดร่างบอบบาง อีกทั้งออกแรงรั้งเอวคอด ริมฝีปากหยักได้รูปตะโบมดูดดุนลงบนเรียวปากเอิบอิ่มทันทีที่ประตูห้องชุดถูกเปิดจากคนด้านในรสแอลกอฮอล์ยังติดที่ปลายลิ้น สัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมและกลิ่นบุหรี่ที่ตีกันรวนจากร่างกายของคนตัวโต ฝ่ามือทั้งสองข้างยกขึ้นมาประคองสองแก้ม ถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทิ้งสายตามองใบหน้าสวยสดของคนในวงแขนแทน“คิดถึงจัง” “ลงทุนมาก~ แค่อยากมาเห็นหน้า?”“ทำมากกว่านั้นได้ไหมล่ะ?” ฉลามสบตานัยน์ตาสวยแกมเศร้า ก็หงุดหงิดแหละที่เห็นเธอตาแดง ร้องไห้โคตรบ่อย มันจะอะไรนักหนา รักมันมากมั้งอาลัยอาวรณ์สุดๆ ไปเลย หรือชอบมากที่ต้องเป็นของเล่นของผู้ชาย“เข้ามานั่งด้านในก่อนไหม” “อยู่ตรงไหนก็ได้ แค่ได้มาอยู่ใกล้ๆ ก็พอ” ขนมอมยิ้มก่อนจะเปิดทางให้อีกฝ่ายเข้ามาในห้อง ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมาไม้ไหน ก็ยังงงอยู่ว่าจากที่แค่เล่นละครตบตาใครต่อใครทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้เขาเป็นคนแบบไหน นอกจากจะเสน่ห์แรงในสายตาของคนทั่วไป ลีลาบนเตียงร้อนแรงจนเคยทำเธอหลงมัวเมาไปชั่วขณะ เขาเป็นคนแบบไหนอีก ชอบเอาชนะมากเลยเหรอ ถ้าแพ้แล้วอายเพื่อนนั่นคือรับไม่ได้เลยใช่ไหม “ตอนที่โทรหาทำอะไรอยู
เหมือนทุกๆ ครั้งที่ทุกคนชอบมารวมตัวกันที่คอนโดของฉลาม วันนี้ก็เหมือนกัน เบียร์ในตู้อัดแน่นไม่เคยขาด ส่วนกับแกล้มไม่ได้อะไรมาก มีก็กินถ้าไม่มีก็เอาอันที่ง่ายที่สุดที่พอจะหาได้ในห้องนั่นแหละ “ขอยืมห้องนะ จะไปนอนดูซีรีย์” จีน่าบอกพร้อมกับกอดไอแพดแนบอก เกือบจะไปอยู่แล้วถ้าไอ้เซย์ไม่ดึงมือจนตัวของจีน่าลอยกลับมาที่เก่า แล้วก็ต้องมาทนเห็นภาพที่พวกมันจุ๊บกัน หอมกัน ทำเหมือนคิดถึงที่ต้องห่างกันทั้งที่อยู่ด้วยกันทุกวัน“มึงสองตัวนี่หนักเหมือนกันนะ ก่อนมาห้องกูเนี่ยพวกมึงก็อยู่ด้วยกันไหม ทีหลังล้วงกันให้เสร็จอย่ามาล้วงที่ห้องกูครับ”“กูรักเมียกู” เซย์ไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ส่วนเพื่อนผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มที่ทำให้เสือบางตัวกลายเป็นแมวเชื่องๆ ได้ก็หันมามองแรงใส่ทันที“อย่าให้ถึงทีตัวเองนะฉลาม” “ไม่มีวันนั้น” คนตอบกลับคว้ากระป๋องแอลกอฮอล์มาเปิดจากนั้นก็กระดกดื่มต่อหน้าคนที่กำลังมอง“เห็นๆ กันอยู่ว่าแกพาสาวมาให้เพื่อนรู้จัก ยังจะมาปากหนัก”“ก็ไม่ได้จริงจัง” “เอาความจริงมาพูด ขอร้อง อย่ามาปากดี” เซย์มองแรงใส่คนที่บอกไม่จริงจัง อย่าให้พูดว่าสภาพมันหนักแค่ไหน เรื่องผู้หญิงสำหรับฉลามมันไม่ใช่เรื่อง
“บ้า เกินไปไหม” ไข่มุกอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อเพื่อนกลับมาเล่าความจริงที่เจอให้ฟังหลังจากที่หายไปสองวันเต็ม “ถามพ่อก่อนไหม คุยกับพ่อก่อน” เจนน้ำตาคลอ ฝ่ามือกุมมือของขนมเอาไว้จนแน่น ว่าแล้วทำไมขนมหายไปเลย ปกติเพื่อนเธอไม่ใช่คนแบบนั้น ขนมไม่มีวันทำให้ใครเป็นห่วง ไม่เคยหายไปเงียบๆ แบบนี้ถ้าไม่มีเหตุผลจริงๆ “คุยแล้ว คำขอโทษมันตอบแทนทุกอย่างแล้ว ถ้าพ่อไม่มีเมียอีกคนพ่อจะขอโทษทำไม” “เมียใหม่พ่อแกตอแหลว่ะขนม ทำเป็นโทรกลับทั้งที่แกไม่ได้โทรหา อยากแสดงตัวมากกว่า” คนที่อารมณ์ร้อนมากที่สุดพาลโกรธแทนเพื่อน ผู้หญิงของพ่ออยากแสดงตัว ในขณะที่คนเป็นพ่อก็ปิดบังลูกมาโดยตลอด เข้าใจความรู้สึกเพื่อนเลย“อยากแสดงตัวเดี๋ยวจะปล่อยให้แสดงแบบเต็มที่” “แกคิดจะทำอะไรต่อไป” ไข่มุกเดินมาจับบ่า มืออีกข้างลูบเบาๆ เป็นเชิงปลอบ“แกยังมีพวกฉันสองคนนะขนม เราจะไม่ทิ้งกัน เราจะช่วยกันทุกเรื่อง อย่าทำอะไรคนเดียวโอเคไหม” “ขอบใจน้า~ พวกแกเนี่ยทำฉันซึ้งจนร้องไห้เนี่ย” หลังมือขาวผ่องยกขึ้นเช็ดน้ำตา รู้ว่ากำลังทำให้ทุกคนเป็นห่วงกันหมดเลย เจนสวมกอดร่างบางของเพื่อนเอาไว้แน่น ที่ผ่านมาขนมมีแค่คุณพ่อที่เป็นทุกอย่าง เพื่อนเ
เป็นผู้ชาย ไม่ซีเรียสกับเรื่องแบบนั้นกันเลยใช่ไหม ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีใคร หรือตัวเองจะมีใครอยู่ถ้ายังพอใจคนอื่นก็จะมีได้อีก ความรู้สึกไม่ต่างกัน ประมาณนั้นใช่ไหม?ขนมจัดการกับตัวเองและจัดการกับหลายความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นเงียบๆ จนกระทั่งเดินทางกลับ ตั้งแต่วันที่รู้เรื่องพ่อในวันนั้น เธอเปิดโทรศัพท์เป็นบางเวลา ทันทีที่มือถือพร้อมใช้งานมักจะมีข้อความของพ่อทุกครั้งคำขอโทษอีกกี่ร้อยพันครั้งบอกเลยว่ามันไม่ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาจริงๆ ไม่คิดว่าจะมาเจออะไรแบบนั้น คุณพ่อที่แสนดี คนที่เป็นทุกอย่างของลูก วันที่เธอพร้อมเดี๋ยวได้เจอกัน“อื้อ~” เสียงท้วงในลำคอดังขึ้นพร้อมกับมือที่ดึงมือหนาออกจากแก้ม คนขับรถขมวดคิ้วยุ่ง เหมือนเขาคุยกับเธอแต่เธอไม่ได้สนใจฟัง“บีบแก้มอีกแล้ว ช้ำหมด~”“ก็เหม่อไป เรียกตั้งหลายรอบ” “ขอโทษค่ะ คิดอะไรเพลินๆ มีอะไรไหม” “หิวน้ำ” “ได้ๆ” ขนมหันไปหยิบขวดน้ำ แต่จำต้องชะงักแล้วมองหาขวดใหม่ “มันไม่มีขวดใหม่แล้วอ่ะ พี่จอดซื้อได้ไหม”“แล้วขวดที่อยู่ในมือ?”“หนูกินไปแล้ว”“ไม่ถือ” ตากลมสบตากับคนบอกเล็กน้อย แต่ก็ยอมพยักหน้าส่งๆ เปิดขวดน้ำแล้วจ่อที่ริมฝีปากตามใจเขาเลย “สรุปเพื่อนพี่สงสั
ร่างบอบบางดันตัวลุก ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างดันกับเตียงเมื่ออยู่ๆ ร่างสูงก็รูดตัวลงต่ำ ขาเรียวถูกดันให้แยกออกจากกันก่อนที่สายตาของเขาจะหยุดมองที่ตรงนั้น ก้อนเนื้อของอกทางด้านซ้ายพลันเต้นแรงขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง เผลอกลั้นหายใจในยามที่ใบหน้าคมคายซุกเข้ากับใจกลางความเป็นสาว ปากของเขา ลิ้นของเขา สมองมันขาวโพลนเมื่ออีกคนปรนเปรอช่วงล่าง ลิ้นเปียกชื้นแตะที่เนินสามเหลี่ยมอวบนูน ขบเม้มเบาๆ ก่อนจะลากปลายลิ้นลงต่ำ สะกิดจุดอ่อนไหวจนคนถูกปรนเปรอดิ้นพล่าน ความผ่อนคลายและความอึดอัดตีกันรวนจนใบหน้าสวยเชิดขึ้น เสียงครางหวิวหลุดออกมาอย่างไม่รู้ตัวฉลามยกยิ้มอย่างพอใจ ใช้ลิ้นแตะสะกิดจุดอ่อนของผู้หญิง จากนั้นก็ลงลิ้นลึกขึ้น ลากเข้ากับร่องคับแคบแล้วกระดกลิ้นเร็วขึ้น ลืมไปว่าจะไม่ทำแบบนี้ให้ใครเด็ดขาด ไม่ปรนเปรอใคร ไม่อะไรทั้งนั้น น้ำแตกแล้วแยกทาง ไม่ผูกพัน ไม่หลงใหล ลืมไปว่าการทำแบบนี้มันเท่ากับการเอาใจไปลงเล่น จะรู้สึกอะไรต่อจากนี้ไม่รู้ รู้แค่ว่าอยากให้เธอหลงกู คลั่งรัก เลิกกับมันแล้วหันมาสนใจเขาเหมือนผู้หญิงทุกคน “มะ ไม่ไหว อ๊าส์!” ขนมสอดมือเข้าไปรั้งใบหน้าคมให้ละออกมาจากตรงนั้น ใบหน้าจิ้มลิ้มแดงซ่าน เลือด