Accueil / ระบบ / ฉินเซียวเมื่อฉันเป็นสาวน้อยชาเขียวในนิยาย / ตอนที่2 เจ้ามนุษย์ข้ามีชื่อว่าโป๊ยข่วย

Share

ตอนที่2 เจ้ามนุษย์ข้ามีชื่อว่าโป๊ยข่วย

“อร่อยไหมเจ้าเด็กอัปลักษณ์” เสียงเล็กเหมือนเด็กอายุประมาณสี่ห้าขวบถามกับผู้ที่ผูกจิตวิญญาณกับตัวเองออกมา

“อืม อร่อยมากเลย” ฉินเซียวที่กำลังเคี้ยวเนื้อปลาในปากตุ้ย ๆ ตอบอย่างลืมตัว แต่หลังจากนั้นเด็กหญิงก็ชะงักค้างพร้อมเงยหน้าขึ้นจากปลาในมือ

“อร่อยแล้วทำไมไม่กินต่อล่ะ หากไม่อิ่มข้าจะเรียกปลาขึ้นมาให้เจ้าอีก ตอนนี้เจ้าเป็นทาสของข้าแล้วรับรองว่าเจ้านายผู้นี้ไม่ยอมให้เจ้าอดตายหรอก จงสำนึกในบุญคุณของข้าซะ” กระจกน้อยแปดเหลี่ยมบานเล็กโอ้อวดตน

“ผะ...ผี!” ฉินเซียวผู้ซึ่งได้ลืมไปแล้วว่าครั้งหนึ่งตนก็เคยเป็นวิญญาณมาก่อนตกใจจึงได้เผลอทิ้งปลาในมือลงพื้นทันทีพร้อมทิ้งตัวลงนั่งคุดคู้เอามือปิดหน้าตัวสั่นเทา

“ไหนผีวิญญาณตนใดมันกล้ามาทำให้เจ้ากลัว เจ้าวิญญาณชั่วปรากฎกายออกมาบัดเดี๋ยวนี้” กระจกใบน้อยที่ยังไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำให้เด็กน้อยกลัวคือตัวเองตวาดเสียงกร้าว

ทันทีที่สิ้นเสียงของสิ่งลึกลับเด็กหญิงผู้หวาดกลัวเธอก็เริ่มมีสติขึ้นมาเล็กน้อยพลางคิดว่าผีอะไรดุตัวเองก็ได้ หรือว่าเขาจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว

ดังนั้นเด็กน้อยจึงคลายมือของตนออกพร้อมเงยหน้ามองไปยังต้นเสียง แม้ดวงตาทั้งสองข้างกำลังมีน้ำตาเอ่อคลอขึ้นมองไปยังต้นเสียงที่ได้ยินและก็พบกับสิ่งเล็ก ๆ อันแสนคุ้นเคยลอยไปลอยมาอย่างสำรวจตรวจตราบริเวณโดยรอบ

“ไหนเจ้าเด็กตัวเหม็นข้าไม่เห็นวิญญาณสักตน เจ้าไม่ต้องกลัวข้าอยู่ที่นี่จะมีสิ่งชั่วร้ายใดทำร้ายเจ้าได้กัน” กระจก   เล็ก ๆ แปดเหลี่ยมส่งเสียงกึ่งดุกึ่งปลอบโยน

“ทะ...ท่านกระจกแปดเหลี่ยมของเทพชะตาใช่หรือไม่” จิตวิญญาณของหญิงสาวที่จำได้คลับคล้ายคลับคล้าถามอย่างไม่มั่นใจ

“ข้าชื่อโป๊ยข่วยจำไว้ให้ดี เจ้าโชคดีแค่ไหนที่ได้ผูกจิตกับข้าจงระลึกถึงความเมตตานี้ให้ดีที่ข้าลดตัวลงมาเลือกอยู่กับเจ้า” เสียงของเด็กสี่ขวบพูดอย่างเย่อหยิ่งทั้งที่ความจริงแล้วเป็นเจ้าตัวนั่นแหละที่แอบผูกจิตกับวิญญาณสาวตนนี้ตอนที่หล่อนกำลังเข้าร่างเดิมของตน

เนื่องจากความเบื่อหน่ายที่อยู่แต่ด้านบนหามีเรื่องสนุกให้ทำไม่ ฉินเซียวรู้สึกงุนงงเป็นอย่างมากนางจำได้ว่าในเรื่อง ราวที่ท่านเทพชะตาให้ตนดูนั้นไม่ได้กล่าวถึงเรื่องกระจก โป๊ยข่วยนี่นา

“ข้าขอถามได้หรือไม่ที่ว่าโชคดีที่ท่านมาอยู่ด้วยหมายความว่าอย่างไร ท่านก็เห็นแล้วนี่ตัวข้านั้นลำบากขนาดไหนจะกินแต่ละมื้อยังยากลำบากเลย” เด็กหญิงถามออกมาด้วยความสงสัยโดยไม่หลงเหลือความกลัวอีกแล้ว

“เจ้ามนุษย์โง่ ข้าเป็นเหมือนขุมทรัพย์แห่งความรู้และเป็นผู้ที่บันดาลสิ่งที่เจ้าร้องขอมานั่นยังไงล่ะ แต่โดยพื้นฐานแห่งการขอจะต้องเป็นเรื่องที่ไม่เกินจริงนะ อย่างเช่น หากเจ้าอยากรวยเจ้าต้องลงมือทำงานเองโดยที่ข้าสามารถคิดช่วยหาหนทางให้

แต่ไม่ใช่ว่าเจ้าคิดแต่จะขอพรให้ตัวเองรวยโดยที่ไม่ทำอะไรเลยไม่ได้ อย่างเช่น อาหารข้าก็แค่ช่วยหาวัตถุดิบให้เจ้าเพียงเท่านั้น” โป๊ยข่วยกล่าวออกมาพร้อมยืดตัวของตนเชิดขึ้น

“หมายความว่าวัตถุดิบบนโลกใบนี้หากว่ามีท่านก็หามาได้ด้วยอย่างนั้นเหรอ” ฉินเซียวกล่าวออกมาตาโตคราวนี้เธอไม่อดตายแล้วและเธอยังคิดหาเงินได้อีกด้วย

“ใช่เจ้าเข้าใจถูกแล้วและข้ายังมีความสามารถอีกอย่างก็คือข้าสามารถเห็นอดีตและอนาคตของผู้อื่นได้เป็นระยะเวลาก่อนและหลังสามวัน เป็นอย่างไรเจ้าทึ่งกับความพิเศษของข้าแล้วหรือไม่” กระจกน้อยใบเล็กมีภู่แดงห้อยด้านล่างกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

“ความสามารถแบบนี้มันดีตรงไหนกินไม่ได้สักหน่อย” เด็กน้อยอมลมจนแก้มพองหลังจากพูดจบ

“เจ้านี่นะอัปลักษณ์แล้วยังโง่อีก ก็หมายความว่าเจ้าได้สูตรโกงยังไงล่ะไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรกับใครหากรู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งยังไงล่ะเคยได้ยินไหม” กระจกน้อยลอยมาตรงหน้าของเด็กตัวเล็กพร้อมมองคนตรงหน้าอย่างเหยียดหยาม

“ถ้าอย่างนั้นท่านโป๊ยข่วยผู้ยิ่งใหญ่ได้โปรดช่วยให้ข้ากลับไปหาครอบครัวที่แท้จริงเลยไม่ได้เหรอ” คนตัวเล็กถามออกมาอย่างมีความหวัง

“เจ้าจำไม่ได้หรือว่าชะตาของตัวเองเจ้าต้องลิขิตเอง ข้าทำได้เพียงช่วยเหลือเล็กน้อยได้เท่านั้นหากเจ้ามีความพยายามยังไงเจ้าก็ย่อมได้เจอครอบครัวของเจ้าแน่ อีกไม่นานนักหรอกแค่ต้องใช้ความอดทน” กระจกน้อยกล่าวตามตรงเนื่องจากเรื่องเหล่านี้หากฝืนชะตาฟ้าเกินไปเด็กคนนี้อาจจะลำบากเอาได้ในภายหลัง

“ข้าจะเชื่อท่านว่าแต่การที่ท่านลอยไปลอยมาไม่กลัวคนอื่นเห็นหรือยังไง” เด็กหญิงแปดหนาวกล่าวออกมาด้วยความกังวลใจ

“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเพราะไม่มีใครสามารถเห็นข้าได้นอกจากเจ้า แล้วต่อไปนี้หากเจ้าอยากจะสื่อสารกับข้าให้ทำเพียงแค่คิดก็พอ ไม่อย่างนั้นคนจะหาว่าเจ้าเป็นบ้าเอาได้” กระจกบานน้อยกล่าวก่อนที่มันจะลอยขึ้น ๆ ลง ๆ

“ตกลง” เด็กหญิงลองโต้ตอบทางความคิด

“ว่าแต่เจ้าอิ่มหรือยังดูปลาที่เจ้าทิ้งสิยังเหลืออีกตั้งครึ่งตัวน่าเสียดาย” กระจกใบน้อยลอยมายังปลาใหญ่ผู้เคราะห์ร้ายที่ตนเรียกขึ้นมาจากน้ำ

“ตอนนี้อิ่มแล้วเพราะความตกใจแต่ข้าสามารถเอาปลาเก็บไว้ในนี้ได้ ตอนนี้พวกเราไปตัดหญ้าให้หมูกันเถอะบ่ายคล้อยทุกทีแล้ว” เด็กหญิงตอบพร้อมกับเดินไปหยิบปลาขึ้นมาใส่ลงไปในตะกร้าสานของตัวเองและไม่ลืมตรวจดูกองไฟที่ตนได้จุดย่างปลาเอาไว้

“อืมไปกันเถอะ เผื่อว่าเจ้าจะเจอของดี” กระจกใบน้อยพูดขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะลอยนำหน้าเด็กหญิงตัวเล็ก

ในระหว่างการเดินทางของหนึ่งมนุษย์กับหนึ่งของวิเศษ หูของฉินเซียวก็ได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังร้องขอความช่วยเหลือแว่วมาจากพงหญ้า

“โป๊ยข่วยเจ้าได้ยินเสียงอะไรหรือไม่” เด็กหญิงถามกับกระจกใบเล็กที่ลอยอยู่ด้านหน้าพร้อมเงี่ยหูฟังเพื่อให้แน่ใจว่าหูไม่ได้แว่วไปเอง

“ได้ยินดังมาจากพงหญ้าทางนั้น” กระจกใบน้อยใช้หางภู่ห้อยสีแดงของตนชี้ไปทางด้านขวาของฉินเซียว

“พวกเราไปดูกันเถอะ” เด็กหญิงกล่าวอย่างร้อนใจ

“ชะตานี้เป็นของเจ้า” กระจกน้อยกล่าวออกมาเพียงเท่านั้นแล้วก็หายวับไปต่อหน้าต่อตาของเด็กหญิงวัยแปดหนาว

ฉินเซียวแม้จะไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของกระจกน้อย อยากจะถามแต่ด้วยความที่เสียงนั้นเริ่มส่งเสียงแผ่วเบาลงทุกที ส่วนโป๊ยข่วยก็หายไปแล้ว ดังนั้นเด็กหญิงตัวเล็กผู้นี้จึงได้ตัดสินใจเดินเข้าไปดูให้กระจ่างว่าเสียงที่ได้ยินนั้นเป็นของผู้ใดกันแล้วเกิดเหตุอันใดกับเจ้าของเสียง

“ท่านป้าท่านบาดเจ็บที่ใดอย่างนั้นเหรอ” ฉินเซียวถามหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งที่ตนจำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน

ด้วยความเป็นห่วงหลังจากที่เธอแหวกพงหญ้าที่สูงเลยศีรษะตนเข้ามาแล้วเห็นหญิงผู้นี้กุมข้อเท้าของตนด้วยความเจ็บปวด เด็กหญิงมองลงไปที่ข้อเท้าของหญิงวัยกลางคนร่างผอมก่อนที่จะพบว่ามีเลือดไหลซึมออกมาจากบาดแผลที่เป็นรูเล็ก ๆ สองรูอยู่นอกถุงเท้าของหญิงผู้นี้

ฉินเซียวจึงได้รับรู้ว่าหญิงผู้นี้คงถูกงูที่อยู่บนภูเขาลูกนี้กัดเข้าเสียแล้ว เด็กหญิงพยายามนึกถึงเมื่อครั้งอดีตในการที่ตนได้ใช้ชีวิตหลังแต่งงานกับครอบครัวของคนผู้นั้นที่เป็นหมอสมุนไพร และนางก็ได้ถูกใช้งานยิ่งกว่าทาสในเรือนเสียอีก

ทุกวันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างจวบจนกระทั่งดวงจันทร์อยู่กลางศีรษะยามนั้นถึงเป็นเวลานอน ฉินเซียวค่อย ๆ คิดถึงสมุนไพรที่มีฤทธิ์รักษาพิษงูบนภูเขาแห่งนี้ก่อนที่จะหลุดออกจากภวังค์

“ท่านป้าอย่าเพิ่งหลับนะเจ้าคะ ข้ากำลังจะช่วยท่านได้โปรดจงอดทน” ฉินเซียวกล่าวกับหญิงผู้นี้อย่างร้อนใจ

‘โป๊ยข่วยข้ากลัวว่าสมุนไพรเพียงอย่างเดียวจะรักษาไม่ทันการเจ้าพอมีตัวช่วยบ้างไหม’ เด็กหญิงคิดถึงสหายตัวเล็กก่อนจะถามออกมา

‘ในตะกร้าเป็นครกตำกับน้ำทิพย์เจ้าเอาผสมกันกับสมุนไพรตัวนั้น จากนั้นคงไม่ต้องให้ข้าบอกแล้วกระมั้ง’

ในระหว่างที่สนทนากับสหายผู้วิเศษฉินเซียวก็ลงมือหาสมุนไพรชนิดที่เธอต้องการไปด้วย

“เจอแล้วเจ้านี่แหละที่ข้าต้องการ” เด็กหญิงตัวน้อยกล่าวออกมาอย่างดีใจ

จากนั้นเธอก็เริ่มลงมือทำยาทันทีโดยอุปกรณ์ที่ผู้ช่วยพิเศษนำออกมาให้

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ฉินเซียวเมื่อฉันเป็นสาวน้อยชาเขียวในนิยาย   ตอนที่73 เจ้าสิ่งนี้คือผักอะไร

    “ลูกรัก แล้วพวกเราจะเอาไปทำอาหารอะไรกันดีมันมีเยอะอยู่นะ” หนิงเซียนรีบเอ่ยถามบุตรสาวเพราะนางไม่เคยเห็นผักชนิดนี้มาก่อน“ข้าจะนำมาผัดเต้าหู้ก้อนที่ท่านแม่ทำไว้อย่างไรล่ะเจ้าคะ อีกทั้งถั่วงอกยังทำอาหารได้หลากหลายอีกด้วย ข้าจะแสดงฝีมือให้พวกท่านชิมเจ้าค่ะ” เด็กหญิงตอบมารดาด้วยรอยยิ้มดวงตาเป็นประกาย“แต่ว่าคงจะต้องเป็นช่วงเย็นแล้ว เพราะตอนนี้ข้าได้เวลาจะต้องไปเรียนฝังเข็มแล้วเจ้าค่ะ” ฉินเซียวกล่าวเสียงอ่อย“เจ้าอย่าได้เหนื่อยถึงเพียงนั้น เจ้าบอกแม่มาว่ามันทำอย่างไร แม่จะทำออกมาให้เจ้ากินเอง” หนิงเซียนเอามือลูบผมบุตรสาวกล่าวอย่างเป็นห่วงบุตรีตัวน้อย“ถ้าอย่างนั้นข้าจะอธิบายวิธีการทำถั่วงอกผัดเต้าหูก่อนนะเจ้าคะ แล้วก็ทำซุปถั่วงอกใส่ผักดอง ท่านแม่วันนี้ท่านก็ทำผัดเปรี้ยวหวานเส้นถู่โต้วด้วยเลยเจ้าค่ะ ข้ามีลางว่าเราจะทำเงินจากพวกมันได้” ผู้เป็นลูกกอดเอวมารดากล่าวอย่างออดอ้อน“ได้ แม่ตามใจเจ้า” หนิงเซียนกระฉับอ้อมแขนของตนโอบกอดบุตรอย่างรักใคร่ทำให้พี่ชายอีกสองคนต่างเดินเข้ามากอดผู้เป็นน้องสาวกับแม่ของตนด้วย โดยคนเป็นพ่อได้แต่ยืนมองภาพด้านหน้าด้วยความสุขที่เข

  • ฉินเซียวเมื่อฉันเป็นสาวน้อยชาเขียวในนิยาย   ตอนที่72 เชื่ออย่างหมดใจ

    แม้ว่าเขาจะเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครเชื่อ จนเมื่อคนเหล่านั้นได้เห็นเองกับตา ในระหว่างที่เด็กทั้งหมดขึ้นไปนั่งบนหลังเสือฉินเต๋อก็ได้บังคับรถม้ามาเห็นภาพดังกล่าว“ไป๋หู่ ข้าฝากเด็ก ๆ ด้วยนะ” ฉินเต๋อหยุดรถม้าบอกกล่าวสหายของบุตรสาวตัวโต ไป๋หู่ทำเพียงชำเรืองมองเขาอย่างเกียจคร้านก่อนจะส่งเสียงคำรามออกมาแผ่วเบา“เสือ ฝูหมิงน้องรีบพาทุกคนหนีออกมาเร็ว” ช่างหลิวเมื่อได้ยินเสียงของไป๋หู่เด็กหนุ่มจึงได้ลืมตามองออกไปด้านนอก จากนั้นใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดส่งเสียงดังด้วยความตกใจ“เจ้าช่วยควบคุมอารมณ์ด้วย แล้วมองให้ดีสิ” ซินฉีกล่าวกับเด็กหนุ่มอย่างไม่ใส่ใจ“เจ้าเฒ่าเหตุใดเสือพวกนั้นถึงยอมให้เด็กพวกนั้นขึ้นไปขี่หลังของมันได้ง่ายดายขนาดนั้น” หลวนคุนแม้ว่าคราแรกเขาจะตกใจเช่นเดียวกับช่างหลิว แต่เมื่อเห็นภาพที่เสือสองตัวใหญ่ยอมหมอบตัวลงให้เด็กทั้งแปดขึ้นหลังเขาจึงได้รู้สึกแปลกใจแทน“ครอบครัวเสือเป็นสหายของลูกศิษย์ข้าเอง นางบอกข้าแบบนั้น” ซินฉีเอามือลูบเคราแพะของตนตอบเสียงเรียบ“สหายอย่างนั้นหรือ” หลวนคุนทวนคำด้วยความแปลกใจ“คนเป็นเพื่อนกับพยัคฆ

  • ฉินเซียวเมื่อฉันเป็นสาวน้อยชาเขียวในนิยาย   ตอนที่75 ช่วยเหลือคนคุ้นเคย

    ไม่รู้จักเจ้าค่ะ” ฉินเซียวปฏิเสธ“อ้าว แต่เจ้ารู้จักชื่อของนางหรือว่าท่านเทพจะให้เจ้าช่วยเหลือนางใช่หรือไม่” หนิงเซียนกระซิบข้างหูบุตรีถามเสียงเบา“เป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ แล้วอีกอย่างท่านแม่อย่าได้กังวลไปเลยข้าในตอนนี้ไม่ได้เป็นอันใดแล้วจริง ๆ” ฉินเซียวกล่าวกับมารดาเสียงเบายกยิ้มยืนยันให้คนเป็นแม่“เจ้าไม่เป็นอันใดก็ดี คราวหลังเจ้าอย่าได้ร้องไห้เช่นนั้นอีกเลยหัวใจแม่เจ็บปวดนัก” หนิงเซียนเอามือลูบผมของลูกสาวอย่างอ่อนโยน ซึ่งการกระทำของนางก็อยู่ภายใต้สายตาของเยว่เสี่ยง ทำให้นางมองความอบอุ่นตรงหน้าด้วยความรู้สึกอิจฉาที่นางไม่มีมารดาเหมือนผู้อื่น“พี่สาวเจ้าคะ ท่านเป็นอันใดหรือไม่” ฉินเซียวเมื่อเห็นใบ หน้าอันผิดแปลกไปของหญิงแรกรุ่นนางนี้เธอจึงได้เอ่ยถามด้วยความสงสาร ด้วยนางรู้ชะตาของนางร้ายคนนี้เป็นอย่างดี“เจ้าอัปลักษณ์เจ้าเปลี่ยนชะตาของนางได้นะ” โป๊ยข่วยเอ่ยออกมาเมื่อรับรู้ความคิดของคู่หู“ถ้าอย่างนั้นข้าจะเปลี่ยนเพราะนางเป็นคนดี” ฉินเซียวสื่อสารกับกระจกเทพอย่างยินดี แล้วการสนทนาของกระจกเทพกับเด็กหญิงตัวน้อยก็หยุดลง“ขะ...ข้าไม่เป็นอันใดหร

  • ฉินเซียวเมื่อฉันเป็นสาวน้อยชาเขียวในนิยาย   ตอนที่71 แลกเปลี่ยนระหว่างกัน

    “เจ้าไม่ต้องสุภาพนักหรอก เจ้ารีบกินมันเข้าไปตอนยังร้อนเถอะ” หลวนคุนรีบเอ่ยแย้ง“ขอรับ” ช่างหลิวจึงได้นำช้อนที่ซินฉีส่งให้ตักซุปไก่เข้าปากทันทีก่อนที่เขาจะเบิกตากว้าง“รสชาติเป็นอย่างไรหากว่ามันไม่อะ…” ซินฉียังพูดไม่ทันจบเสียงของเด็กหนุ่มก็ได้เอ่ยปากขึ้นมาก่อน“อร่อยขอรับ มันอร่อยมากเลยข้าไม่คิดว่าอาหารยาจะอร่อยถึงเพียงนี้” ช่างหลิวยกยิ้มอย่างพอใจ“อ๋อเป็นเช่นนั้นถ้ามันอร่อยก็ดี แล้วถ้าอย่างนั้นเจ้าก็กินให้หมดถ้วยเถอะหากยังไม่พอก็ยังมีในหม้ออีก” หลวนคุนเอ่ยอย่างโล่งอก“ขอรับ ข้าต้องขอบพระคุณท่านหมอมาก” ช่างหลิวยกยิ้มมองหมอทั้งสองด้วยความซาบซึ้งใจ“จุ๊ ๆ เจ้าอัปลักษณ์อาจารย์ของเจ้ากับเจ้านี่ช่างเจ้าเล่ห์ไม่ต่างกันเลย ช่างสมกับเป็นศิษย์อาจารย์กันเสียจริง” กระจกเทพที่รับรู้เรื่องราวของอีกห้องได้ลอยตัวมาบอกกับสหาย“นะ...นั่นเจ้ากำลังจะลงเข็มผิดแล้ว มีสมาธิหน่อยสิ” แต่กระจกเทพก็ได้ส่งเสียงดังขึ้นมาด้วยความตกใจ“ก็ข้ามัวแต่ฟังเจ้าอยู่นี่นา ฮู่ว์! เกือบไป” ฉินเซียวถอนหายใจอย่างโล่งอกแม้จะเป็นการฝึกก็ตาม“แม้สิ่งนี้จะเป็นเพียงหุ่

  • ฉินเซียวเมื่อฉันเป็นสาวน้อยชาเขียวในนิยาย   ตอนที่74 โชคชะตาที่ต้องเจอ

    ในระหว่างการขายผลลี่จื่อนั้นฉินเซียวก็ได้บอกกับลูกค้าว่าร้านของนางน่าจะขายได้พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายเพราะผลสุกของมันนั้นหมดแล้ว“หมดแล้วอย่างนั้นหรือ ต่อไปข้าจะไปซื้อกินที่ไหนได้” ชายวัยกลางคนลูกค้าประจำกล่าวอย่างเสียดาย“เอาไว้ปีหน้านะเจ้าคะ” ฉินเซียวแย้มยิ้มบอกชายวัยกลาง คนผู้นั้น นางเองก็รู้สึกเสียดายเงินเหมือนกันต่อให้ปลูกต้นลี่จื่อเพิ่มก็ยังช้าอยู่ดี อีกอย่างในครึ่งเดือนข้างหน้านางกับพี่ ๆ ก็จะต้องไปเรียนกันด้วย“แม่หนู ที่เจ้าพูดนั้นเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นหรือ แล้วอย่างนี้ฮูหยินผู้เฒ่าจะกินอะไรได้กันล่ะ” พ่อบ้านผิงกล่าวอย่างเศร้าหมอง“ข้าคิดว่าลองให้ฮูหยินผู้เฒ่ากินผักสดดีหรือไม่ น่าจะดีกว่ากินผลลี่จื่อกับผักดองอย่างเช่นทุกวันนี้” ฉินเซียวเอ่ยแนะพ่อบ้านชรา“ผักสดอย่างนั้นหรือ อากาศเย็นขนาดนี้อีกทั้งใกล้ปีใหม่หิมะก็จะตกที่ไหนจะมีผักสดขายกัน” ชายชรายิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกหดหู่หากมีผักสดเขาคงจะไม่ต้องลำบากขนาดนี้หรอก“หากข้ามีท่านจะซื้อหรือไม่ แต่ข้ามีไม่เยอะนะเจ้าคะ อันที่จริงที่ข้าบอกท่านนั้นก็เป็นเพราะข้าเห็นใจคนชราเจ้าค่ะ” ฉินเซียวกระซิบเส

  • ฉินเซียวเมื่อฉันเป็นสาวน้อยชาเขียวในนิยาย   ตอนที่70 อาหารยา

    “เป็นเจ้า” หลวนคุนเอ่ยเสียงดัง“เจ้าเฒ่าสบายดีหรือไม่” ซินฉีทักสหายรักด้วยรอยยิ้ม“สหายน่าชังอย่างเจ้ายังมีหน้ามาถามว่าข้าสบายดีอยู่อีกหรือ เล่นทิ้งงานไว้ให้ข้าเพียงผู้เดียว” หลวนคุนได้ทีกล่าวประชดประชันคนหน้าตายผู้นี้ แม้ว่าเขาจะไปหายาถอนพิษก็ตามแต่แม้จดหมายก็ไม่ส่งข่าวมันก็เกินไป“เอาน่าเจ้าอย่าได้โมโหนัก ตอนนี้ข้าก็กลับมาแล้ว เอาไว้ข้าสั่งสอนศิษย์จนทั้งสองเข้าสำนักศึกษาได้ข้าจะกลับไปช่วยเจ้าก็แล้วกัน” ซินฉีเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้ม“เจ้ายังรู้สำนึกแต่อีกสองเดือนเลยนะ ว่าแต่เรื่องพิษของเจ้าล่ะเป็นอย่างไรบ้างข้าได้ตัวยาสำคัญมาแล้วนะ แต่จะว่าไปหากนางเป็นศิษย์ของเจ้าเรื่องยาก็คงไม่ต้องห่วงแล้วสิ” หลวนคุนรีบถามสหาย แต่พอเขาฉุกคิดได้ว่าผู้ใดเป็นคนนำสมุนไพรหายากชนิดนั้นมาขายให้ตนชายชราก็นิ่งเงียบไป“หายดีแล้วละ เรื่องนี้ต้องยกความดีให้ศิษย์เอกตัวน้อยของข้า” ซินฉียกยิ้มตอบด้วยความภูมิใจ“ข้าดีใจด้วยเจ้าจะได้หยุดออกเร่ร่อนเสียทีและมาช่วยข้าทำงานได้แล้ว ว่าแต่ศิษย์ของเจ้าอีกคนเป็นใคร” หลวนคุนอดเอ่ยถามสหายไม่ได้เพราะเขาเคยได้ยินว่าสหายจะรับศิษย์เพียงคนเ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status