Share

ตอนที่9 หวุดหวิด

“ท่านลุง พวกเราขึ้นไปบนภูเขากันเถอะที่นั่นมีทางลัดที่จะไปยังหมู่บ้านซุยซวง” เด็กหญิงวัยแปดหนาวกล่าวก่อนจะดึงชายเสื้อของนักพรตเฒ่า

“เด็กน้อยข้าหาใช่ท่านลุงแต่เป็นท่านป้าต่างหาก” น้ำเสียงหวานใสดังออกมาจากปากของคนที่เด็กตัวน้อยกำลังจับชายเสื้ออยู่

ฉินเซียวเมื่อได้ยินถ้อยคำหลุดออกมาจากคนด้านหน้าเธอก็ปล่อยมือของตนออกพลางจ้องมองใบหน้าอันสวยงามที่อยู่เบื้องหลังหน้ากากนักพรตเฒ่าด้วยความตกตะลึง

“สุดยอดเลยท่านป้า ท่านสามารถปลอมเป็นนักพรตได้แนบ เนียนมาก” เด็กหญิงกล่าวถ้อยคำเยินยอมองพิจารณาสิ่งที่อยู่ในมือหญิงนักแสดงอย่างใคร่รู้

เจ้าโป๊ยข่วยที่ลอยวนอยู่รอบตัวคนทั้งสองก็คิดว่าเจ้าอัปลักษณ์น้อยนี่ดีใจอะไรกับอีแค่หน้ากากหนังอันเดียว  ของข้าเองก็มีแต่มันก็ได้หาบอกเด็กหญิงไม่

“เอาละเจ้าอย่ามัวแต่ยกยอข้าอยู่เลย ข้าว่าพวกเรารีบไปให้พ้นจากหมู่บ้านอันชั่วร้ายนี้กันก่อนดีกว่า หากมีใครมาเห็นเราทั้งสองจะเดือดร้อนเอาได้” ฟางหรูพูดอย่างหมั้นเขี้ยวพลางคิดว่าเด็กผู้นี้แม้ใบหน้าจะไม่สวยงามแต่ดวงตาช่างใสกระจ่างนัก

“ได้เจ้าค่ะ ท่านตามข้ามาได้เลย” เด็กวัยแปดหนาวรับคำพร้อมกับเดินนำหน้าผู้มีอายุมากกว่าตน

ฉินเซียวตัวน้อยพาแม่นางผู้นี้เดินลัดเลาะไปตามเส้นทางในป่าที่ตัวเองคุ้นเคยเมื่อชาติก่อนที่นางจะต้องมาเก็บสมุนไพรเป็นประจำ และก็ได้ทราบโดยบังเอิญถึงเส้นทางลงเขาไปหมู่บ้านซุยซวงที่อยู่ภายในถ้ำ

“เจ้าแน่ใจหรือว่าหลังถ้ำแห่งนี้เป็นทางลัดข้าว่ามันดูมืดทึบอย่างไรพิกล” ฟางหรูแย้งพลางมองหน้าปากทางเข้าถ้ำสลับกับใบหน้าน้อยของเด็กหญิง

“ท่านเชื่อข้าเถอะเจ้าค่ะ พอเราผ่านถ้ำนี้ไปก็จะพบทางออกที่เป็นทางลงเขาหมู่บ้านซุยซวงแล้ว” เด็กวัยแปดหนาวกล่าวยืนยันคราที่นางเจอท่านป้าตามสายเลือดเธอมัวแต่ตื่นเต้นเลยลืมบอกเส้นทางนี้ออกไป

“ก็ได้ข้าจะลองเชื่อเจ้า หวังว่าภายในนี้คงจะไม่มีสัตว์ร้ายหรอกนะ” หญิงผู้มีอายุมากกว่ากล่าวอย่างหวาดหวั่น

“ไม่มีเจ้าค่ะ พวกเรารีบเข้าไปกันเถอะ” เด็กหญิงตัวเล็กเดินนำ

หลังจากที่คนทั้งสองกับหนึ่งกระจกวิเศษเข้ามาภายในถ้ำก็ได้เห็นแสงสว่างส่องลงมาจากโพลงด้านบนของถ้ำแห่งนี้  ทำให้ภายในนี้ไม่มืดอย่างที่ฟางหรูนึกกลัว เด็กหญิงตัวเล็กที่รู้แหล่งสมุนไพรของที่นี่แต่เธอคิดว่าเวลานี้ไม่มีสิ่งใดใส่และอีกอย่างก็ยังไม่ใช่เวลาอันเหมาะสมจึงได้แต่ตัดใจด้วยความเสียดาย ‘เอาเถอะค่อยมาเก็บภายหลังก็แล้วกัน’ เด็กน้อยคิด

“เจ้าเด็กอัปลักษณ์ภายในนี้มีสถานที่พิเศษด้วยเจ้าเองก็รู้ใช่หรือไม่” โป้ยข่วยที่สัมผัสอะไรบางอย่างได้กล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น

“ใช่แล้วล่ะสถานที่แห่งนั้นมีแต่สมุนไพรหายาก” ฉินเซียวรีบตอบกลับเพราะสถานที่แห่งนั้นแหละที่ทำให้ตัวเอกหญิงของเรื่องร่ำรวยมาคราวนี้ข้าขอก็แล้วกัน

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะปิดปากถ้ำให้เจ้าด้านที่เราเข้ามาเอาไว้จะได้ไม่มีใครสนใจดีหรือไม่” หลังกล่าวจบโดยที่เจ้าตัวยังไม่ได้รับคำตอบรับกระจกบานน้อยก็ลงมือทันที

ภายด้านนอกของถ้ำตอนนี้ได้ถูกปกคลุมไปด้วยพืชหนามที่มีพิษแพร่กระจายกันปกคลุมตัวถ้ำไว้ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว

“ต่อไปนี้เจ้าห้ามบอกทางนี้กับใครอีกเด็ดขาด เนื่องจากข้าใช้ต้นหนามพิษปิดทางเข้าฝั่งนั้นเอาไว้” กระจกวิเศษหลัง จากลงมือเสร็จเขาก็รีบบอกฉินเซียวทันที

“ได้ ข้าขอขอบใจท่าน” เด็กหญิงพยักหน้าและมองกระจกด้วยความซาบซึ้งใจ

“เด็กน้อยภายในถ้ำแห่งนี้อากาศกำลังสบายไม่เหมือนกับข้างนอกนั่นเลย เจ้าเจอที่แห่งนี้ได้ยังไงกัน” หญิงผู้อายุมากกว่าถามด้วยความสงสัย

“ข้าบังเอิญได้เข้ามาหลบฝนตอนที่มาเก็บหญ้าให้หมูเจ้าค่ะ” เด็กหญิงตอบเรื่องเท็จหากเธอบอกว่าเป็นเรื่องเมื่อชาติก่อนท่านป้าผู้นี้คงจะหาว่านางบ้าเป็นแน่

“ชีวิตของเจ้านี่ช่างไม่ง่ายเสียจริงข้าได้ยินมาจากหนิงลี่ว่าเจ้ามีความสามารถในการรักษามิใช่หรือแล้วเหตุใด” ฟางหรูไม่กล้ากล่าวออกมาจนหมดได้แต่ส่งเสียงอึกอักอยู่ในลำคอเนื่องจากเกรงจะไปกระทบกับความรู้สึกของเด็กหญิงผู้นี้

“ท่านป้าข้าไม่เป็นไรท่านไม่ต้องเป็นห่วง แผลพวกนี้ไม่ได้ทำให้ข้ารู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด” ฉินเซียวไม่ได้พูดความจริงเพราะบางทีการมีแผลอันน่าเกลียดบนใบหน้าก็อาจพิสูจน์จิตใจของคนได้

“เด็กน้อยเจ้าไม่รู้หรือว่าใบหน้านั้นสำคัญกับผู้หญิงเราเพียงใด เอาเถอะหากข้าเจอหมอดี ๆ ข้าจะแนะนำให้เจ้าแต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะมีหรือไม่เพราะสถานที่ข้าอยู่ก็มีคนป่วยหมอในเมืองของเราก็ได้แต่พากันส่ายหัวว่ารักษาไม่ได้” ฟางหรูกล่าวออกมาด้วยความขมขื่น

พวกนางเป็นหญิงโคมเขียวขายเรือนร่างดังนั้นกว่าจะเชิญหมอผู้ที่ทำตัวสูงส่งมารักษาได้พวกนางก็ต้องจ่ายอัฐมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป

คำพูดของฟางหรูได้เข้าไปสะกิดอะไรบางอย่างให้เด็กหญิงตัวน้อยมองไปยังบุคคลผู้นี้ แม้ว่านางจะเป็นผู้ถูกจ้างมาก็ตามแต่หากนางไม่แสดงให้สมจริงเธอคงจะไม่หลุดจากบ้านหลังนั้นมาง่าย ๆ

“ท่านป้าข้าขอลองจับชีพจรของท่านได้หรือไม่ แม้ข้าจะไม่ได้เป็นหมอเต็มตัวแต่ข้าก็พอมีความรู้อยู่บ้าง” ฉินเซียวมองเข้าไปยังดวงตาของหญิงต่างวัยด้วยสายตาแสดงความจริงใจ

“เจ้าจะลองดูก็ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปนั่งพักทางนั้นกันเถอะ” ฟางหรูไม่ได้ปฏิเสธเพราะนางเห็นถึงความกระจ่างใสที่เต็มไปด้วยความตั้งใจของเด็กหญิงตัวเล็ก

ทั้งสองจึงได้ไปนั่งพักยังหินแบนก้อนหนึ่งที่ช่างเหมาะเจาะให้กับพวกนางทั้งสอง หลังจากนั่งลงแล้วฟางหรูจึงได้ยื่นข้อมือขาวของตนที่แกะแผ่นหนังออกจากการปลอมตัวส่งให้กับท่านหมอตัวน้อย

เด็กหญิงสำรวจท่อนแขนของหญิงผู้นี้ก่อนที่เธอจะใช้นิ้วของตนจับชีพจรของนาง ฉินเซียวนิ่งเงียบไปสักพัก

“ท่านป้า ตอนนี้ท่านมีอาการแสบขณะถ่ายเบาใช่หรือไม่ อีกทั้งยังมีสิ่งแปลกปลอมบางอย่างที่มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ออกมาด้วย ตามแขนของท่านหากข้าคิดไม่ผิดก็น่าจะปรากฎผื่นขึ้นมาบ้างแล้ว” เด็กหญิงกล่าวออกมาสีหน้าจริงจัง

“ชะ...ใช่แล้วเจ้ารู้ได้ยังไงแล้วพอมีหนทางรักษาหรือไม่” ฟางหรูเบิกตากว้างถามออกมาอย่างละล่ำละลัก

ฉินเซียวแสดงสีหน้าลำบากใจออกมาเพราะโรคชนิดนี้เป็นเรื่องยากแม้กระทั่งตอนชาติก่อนของเธอ ร้านยาตระกูลหลินซึ่งมีชื่อเสียงอันโด่งดังของชายชั่วผู้นั้นก็ทำได้เพียงแค่ประคับประคองและรักษาตามอาการ

“เจ้าทาสรับปากนางออกไปข้าสามารถบอกวิธีรักษาแก่เจ้าได้” โป๊ยข่วยที่เห็นใบหน้าของเด็กหญิงเขาก็สามารถเข้าใจได้ว่าโรคนี้จะต้องรักษาไม่ง่าย แต่เขามีน้ำทิพย์วิเศษเชียวนะเส้นทางนี่แหละจะทำให้เด็กคนนี้แตกต่างไปจากเดิมกระจกบานน้อยคิด

ฟางหรูที่เห็นใบหน้าของเด็กหญิงตัวน้อยนางก็มีใบหน้าเศร้าหมองแต่ก็แค่เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น เนื่องจากขนาดหมอผู้อาวุโสยังรักษาไม่ได้แล้วเด็กวัยแปดหนาวจะทำได้อย่างไร

“จะเจ้าไม่” “ท่านป้าข้า” คนทั้งสองต่างพูดออกมาพร้อมกันแต่ลักษณะท่าทางนั้นแตกต่าง

“เจ้าพูดก่อนเถอะ” ฟางหรูเมื่อเห็นดวงตาของเด็กหญิงเปล่งประกายนางจึงปิดปากของตน

“ข้าสามารถรักษาท่านได้แต่ว่าจะต้องใช้เวลาและพวก   ท่านก็จงเลิกเลี้ยงชีพด้วยงานนี้เสียไม่อย่างนั้นโรคนี้ก็จะไม่หายขาด” เด็กวัยแปดหนาวกล่าวออกมาด้วยท่าทางจริงจัง

“เด็กน้อยเจ้ารู้หรือว่าข้าทำงานอะไร” ฟางหรูถามเด็กหญิงผมเปียตรงหน้าด้วยความแปลกใจ

“ข้าทราบ” เด็กหญิงตอบตามตรงโดยไม่มีอาการเขินอายหรือรังเกียจหญิงผู้นี้

ทำให้ฟางหรูยิ่งเกิดความประทับใจในตัวเด็กหญิงมากขึ้นไปอีกนางคิดว่าหากเด็กผู้นี้ไม่มีใครต้องการหลังจากที่นางไถ่ตัวเองแล้วนางจะรับเด็กคนนี้เป็นบุตรบุญธรรม

“เรื่องนี้สำหรับข้าที่อายุมากแล้วไม่มีปัญหาหรอกแต่ว่าเด็กในนั้นแต่ละคนนะเป็นเรื่องยากเพราะพวกนางล้วนถูกขายเข้ามาอีกที ส่วนตัวข้านั้นตั้งใจจะไถ่ถอนตัวเองออกมาตั้งนานแล้ว” ฟางหรูกล่าวออกมาตามตรง

“ท่านป้าสถานที่แห่งนั้นใครเป็นเจ้าของหรือเจ้าคะ คนผู้นั้นมีนิสัยใจคอเยี่ยงไร” ฉินเซียวแม้จะมีร่างกายเป็นเด็กแต่จิตวิญญาณไม่ใช่จึงได้เข้าใจสถานที่แห่งนั้นเป็นอย่างดีจึงได้ลองถามออกมาหลังจากที่ฟางหรูกล่าวจบ

หากเธอจำไม่ผิดนับเวลาต่อจากนี้อีกหนึ่งสัปดาห์หอโคมเขียวในเมืองที่หนึ่งจะถูกเพลิงไหม้ทำให้มีคนตายเป็นจำนวนมาก

“หอเหมยแดง เจ้าของเป็นหญิงม่ายสามีหย่าเพราะมีผู้หญิงใหม่นางเลยเกิดความแค้นจึงได้ผันตัวเองมาเปิดหอแห่งนี้ขึ้น แต่นางก็ไม่เคยบังคับใครให้ขายเรือนร่างนะนอกจากนางผู้นั้นจะสมัครใจเอง” ฟางหรูกล่าวถึงเจ้านายที่เริ่มเข้าสู่วัยชราอย่างชื่นชม ฉินเซียวเมื่อได้ยินชื่อหอแห่งนี้เธอก็เย็นสันหลังวาบ

“ท่านป้าหากข้าจะขอเจอเจ้าของหอได้หรือไม่ ข้ามีวิธีเกลี้ยกล่อมนางให้เลิกอาชีพนี้อย่างเด็ดขาด” เด็กหญิงจับมือของฟางหรูดวงตาแสดงความคาดหวัง

“ได้สิ แต่ต้องหลังจากที่เราไปเจอหนิงลี่กันก่อนนะ” ฟางหรูไม่ได้กล่าวปฏิเสธ

“เจ้าค่ะ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็เดินทางกันต่อเถอะ” เด็กหญิงยิ้ม

จากนั้นคนทั้งคู่กับหนึ่งกระจกบานน้อยก็มุ่งหน้าเดินกันไปตามทางด้านหน้า แม้บางครั้งฟางหรูจะต้องก้มตัวเพราะหนทางภายในถ้ำมีความสูงต่ำสลับซับซ้อนต่างกัน

ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงทางออกที่มีวัชพืชปกคลุมเอาไว้ เจ้าตัวน้อยก็ยังคงเป็นผู้เดินนำหน้าอยู่ดี ฟางหรูที่เดินตามเด็กหญิงก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจว่าเหตุใดเด็ก หญิงเพียงแปดหนาวที่บอกว่าแค่เข้าไปหลบฝนภายในถ้ำด้วยความบังเอิญจะรู้ถึงทางลับนี้ ที่สำคัญนางรู้เหตุการณ์เรื่องหมูได้อย่างไรหรือว่านางเป็นผู้วางยา

‘เรานี่คิดอะไรเลอะเทอะเด็กผู้มีดวงตาใสกระจ่างแบบนี้จะมีความคิดชั่วร้ายได้อย่างไร’ อดีตผู้เล่นเป็นนักพรตเฒ่ารีบสลัดความคิดของตนทิ้ง

หญิงสาวต่างวัยทั้งสองเดินกันมาได้สักพักก็ได้ยินเสียงของคนตะโกนส่งเสียงร้องเรียกใครบางคน ฉินเซียวจึงยืนนิ่งเงี่ยหูฟัง

“หนิงเซียนเจ้าอยู่ไหน” เสียงทุ้มของชายหนุ่มตะโกนขึ้น

“ท่านแม่” เสียงเด็กชายก็ตะโกนตาม แล้วก็มีเสียงทั้งชาย และหญิงต่างตะโกนสลับกันแต่สิ่งที่เหมือนกันคือพวกเขาน่าจะกำลังตามหาใครบางคน

“เด็กน้อยป้าว่าพวกเขาน่าจะกำลังตามหาคน” ฟางหรูกล่าวหลังจากที่หยุดนิ่งตามเด็กหญิงร่างผอม

โป๊ยข่วยผู้อยากรู้อยากเห็นจึงได้ลอยไปสำรวจทางเสียงที่ได้ยิน แต่เจ้ากระจกน้อยก็สะดุดกับเสียงร้องไห้ของใครบางคนเข้าเสียก่อน เจ้ากระจกวิเศษจึงเปลี่ยนทิศมายังต้นเสียงที่ได้ยินก็เห็นหญิงนางหนึ่งกอดตุ๊กตาในมือแน่นด้วยมือข้างเดียวส่วนมืออีกข้างก็จับกิ่งไม้ใหญ่เอาไว้ตัวห้อยต่องแต่งอย่างหวาดเสียวบริเวณหน้าผา

“เวรล่ะ” กระจกบานน้อยอุทานก่อนที่เจ้าตัวจะใช้ความเร็วพุ่งไปยังคู่พันธะของตน

“เจ้าอัปลักษณ์มาทางนี้เร็วเข้า แม่ของเจ้านางจะตกหน้าผาแล้ว” กระจกวิเศษส่งเสียงเรียกด้วยความร้อนใจ

“อะไรนะทางไหน ท่านป้ามากับข้าเร็วเจ้าค่ะ” ฉินเซียวไม่รอช้าเธอรีบฉุดข้อมือของฟางหรูเพื่อให้วิ่งมากับตนตามกระจกใบน้อยไปทันที

ทางด้านหนิงเซียนแม้รู้ตัวว่าตกอยู่ในอันตรายแต่ก็ไม่ยอมปล่อยตุ๊กตาผ้าตัวนั้นเพื่อใช้มือจับกิ่งไม้ใหญ่ด้วยนางเข้าใจว่าตุ๊กตาตัวนี้คือลูกน้อยของตน ฉินเซียวกับฟางหรูเมื่อมาถึงหน้าผาก็เห็นภาพอันน่าหวาดเสียวพร้อมกัน เด็กหญิงจึงคิดจะเอามือของตนไปจับมือของหญิงผู้เป็นแม่

“ข้าเอง เจ้าตัวเล็กเกินไป” ฟางหรูกล่าว นางจึงนอนราบลงไปก่อนที่จะเอื้อมมือของตนไปเพื่อหวังจะดึงหนิงเซียนขึ้นมา

“แม่นางข้าจะช่วยเจ้า เจ้าเอามืออีกข้างจับมือข้าเร็วเข้า”

หนิงเซียนแม้จะเข้าใจในสิ่งที่ฟางหรูกล่าวแต่นางก็หาได้ทำตามเพราะนางคิดว่าหากต้องทิ้งลูกในอกไม่เอานางยอมไม่ได้ ฉินเซียวที่เห็นสภาพของแม่ผู้ให้กำเนิดเป็นแบบนี้นางก็น้ำตาไหลออกมาด้วยความสงสาร และรู้สึกจุกในอกในความรักของหญิงผู้นี้ดังนั้นเธอจึงได้ตัดสินใจเรียกคำที่ทำให้หญิงทั้งสองตกตะลึง

“ท่านแม่ข้าฉินเซียวเอง ดอกหญ้าน้อยของท่าน ได้โปรดท่านขึ้นมาหาข้าเถอะ” เด็กหญิงผู้มีแผลพุพองเต็มใบหน้ายิ่งร้องไห้ก็ทำให้ดูอัปลักษณ์มากขึ้นสะอื้นกล่าว

แต่ใครจะรู้ว่าคำพูดของเธอได้ทำให้นางหนิงทิ้งตุ๊กตาในมือลงเบื้องล่างทันทีพร้อมกับเอามือจับกับมือของฟางหรูแน่นสายตาก็จับจ้องไปมองทางเด็กหญิงตัวน้อยไม่วางตา

โชคดีที่นางหนิงมีรูปร่างผอมบางกว่าฟางหรูมากและได้รับการช่วยเหลือจากโป๊ยข่วยในการส่งลมมาช่วยพยุงจึงทำให้นางรอดจากปากน้ำพุเหลืองมาได้อย่างหวุดหวิด

“ลูกสาวตัวน้อยของข้าเจ้าไม่ต้องร้องไห้นะแม่อยู่นี่แล้ว แม่จะไม่ปล่อยให้ใครทำร้ายเจ้าได้อีกไม่มีวัน” หนิงเซียนเมื่อนางขึ้นมาได้หญิงสาวก็รีบเข้าไปกอดเด็กหญิงตัวน้อยทันทีฟางหรูได้แต่รู้สึกงุนงงแต่ก็ดีแล้วที่นางสามารถช่วยคนผู้นี้ขึ้นมาได้ เป็นเรื่องดีแล้วจริง ๆ

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ฉินเซียวเมื่อฉันเป็นสาวน้อยชาเขียวในนิยาย   ตอนที่73 เจ้าสิ่งนี้คือผักอะไร

    “ลูกรัก แล้วพวกเราจะเอาไปทำอาหารอะไรกันดีมันมีเยอะอยู่นะ” หนิงเซียนรีบเอ่ยถามบุตรสาวเพราะนางไม่เคยเห็นผักชนิดนี้มาก่อน“ข้าจะนำมาผัดเต้าหู้ก้อนที่ท่านแม่ทำไว้อย่างไรล่ะเจ้าคะ อีกทั้งถั่วงอกยังทำอาหารได้หลากหลายอีกด้วย ข้าจะแสดงฝีมือให้พวกท่านชิมเจ้าค่ะ” เด็กหญิงตอบมารดาด้วยรอยยิ้มดวงตาเป็นประกาย“แต่ว่าคงจะต้องเป็นช่วงเย็นแล้ว เพราะตอนนี้ข้าได้เวลาจะต้องไปเรียนฝังเข็มแล้วเจ้าค่ะ” ฉินเซียวกล่าวเสียงอ่อย“เจ้าอย่าได้เหนื่อยถึงเพียงนั้น เจ้าบอกแม่มาว่ามันทำอย่างไร แม่จะทำออกมาให้เจ้ากินเอง” หนิงเซียนเอามือลูบผมบุตรสาวกล่าวอย่างเป็นห่วงบุตรีตัวน้อย“ถ้าอย่างนั้นข้าจะอธิบายวิธีการทำถั่วงอกผัดเต้าหูก่อนนะเจ้าคะ แล้วก็ทำซุปถั่วงอกใส่ผักดอง ท่านแม่วันนี้ท่านก็ทำผัดเปรี้ยวหวานเส้นถู่โต้วด้วยเลยเจ้าค่ะ ข้ามีลางว่าเราจะทำเงินจากพวกมันได้” ผู้เป็นลูกกอดเอวมารดากล่าวอย่างออดอ้อน“ได้ แม่ตามใจเจ้า” หนิงเซียนกระฉับอ้อมแขนของตนโอบกอดบุตรอย่างรักใคร่ทำให้พี่ชายอีกสองคนต่างเดินเข้ามากอดผู้เป็นน้องสาวกับแม่ของตนด้วย โดยคนเป็นพ่อได้แต่ยืนมองภาพด้านหน้าด้วยความสุขที่เข

  • ฉินเซียวเมื่อฉันเป็นสาวน้อยชาเขียวในนิยาย   ตอนที่72 เชื่ออย่างหมดใจ

    แม้ว่าเขาจะเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครเชื่อ จนเมื่อคนเหล่านั้นได้เห็นเองกับตา ในระหว่างที่เด็กทั้งหมดขึ้นไปนั่งบนหลังเสือฉินเต๋อก็ได้บังคับรถม้ามาเห็นภาพดังกล่าว“ไป๋หู่ ข้าฝากเด็ก ๆ ด้วยนะ” ฉินเต๋อหยุดรถม้าบอกกล่าวสหายของบุตรสาวตัวโต ไป๋หู่ทำเพียงชำเรืองมองเขาอย่างเกียจคร้านก่อนจะส่งเสียงคำรามออกมาแผ่วเบา“เสือ ฝูหมิงน้องรีบพาทุกคนหนีออกมาเร็ว” ช่างหลิวเมื่อได้ยินเสียงของไป๋หู่เด็กหนุ่มจึงได้ลืมตามองออกไปด้านนอก จากนั้นใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดส่งเสียงดังด้วยความตกใจ“เจ้าช่วยควบคุมอารมณ์ด้วย แล้วมองให้ดีสิ” ซินฉีกล่าวกับเด็กหนุ่มอย่างไม่ใส่ใจ“เจ้าเฒ่าเหตุใดเสือพวกนั้นถึงยอมให้เด็กพวกนั้นขึ้นไปขี่หลังของมันได้ง่ายดายขนาดนั้น” หลวนคุนแม้ว่าคราแรกเขาจะตกใจเช่นเดียวกับช่างหลิว แต่เมื่อเห็นภาพที่เสือสองตัวใหญ่ยอมหมอบตัวลงให้เด็กทั้งแปดขึ้นหลังเขาจึงได้รู้สึกแปลกใจแทน“ครอบครัวเสือเป็นสหายของลูกศิษย์ข้าเอง นางบอกข้าแบบนั้น” ซินฉีเอามือลูบเคราแพะของตนตอบเสียงเรียบ“สหายอย่างนั้นหรือ” หลวนคุนทวนคำด้วยความแปลกใจ“คนเป็นเพื่อนกับพยัคฆ

  • ฉินเซียวเมื่อฉันเป็นสาวน้อยชาเขียวในนิยาย   ตอนที่75 ช่วยเหลือคนคุ้นเคย

    ไม่รู้จักเจ้าค่ะ” ฉินเซียวปฏิเสธ“อ้าว แต่เจ้ารู้จักชื่อของนางหรือว่าท่านเทพจะให้เจ้าช่วยเหลือนางใช่หรือไม่” หนิงเซียนกระซิบข้างหูบุตรีถามเสียงเบา“เป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ แล้วอีกอย่างท่านแม่อย่าได้กังวลไปเลยข้าในตอนนี้ไม่ได้เป็นอันใดแล้วจริง ๆ” ฉินเซียวกล่าวกับมารดาเสียงเบายกยิ้มยืนยันให้คนเป็นแม่“เจ้าไม่เป็นอันใดก็ดี คราวหลังเจ้าอย่าได้ร้องไห้เช่นนั้นอีกเลยหัวใจแม่เจ็บปวดนัก” หนิงเซียนเอามือลูบผมของลูกสาวอย่างอ่อนโยน ซึ่งการกระทำของนางก็อยู่ภายใต้สายตาของเยว่เสี่ยง ทำให้นางมองความอบอุ่นตรงหน้าด้วยความรู้สึกอิจฉาที่นางไม่มีมารดาเหมือนผู้อื่น“พี่สาวเจ้าคะ ท่านเป็นอันใดหรือไม่” ฉินเซียวเมื่อเห็นใบ หน้าอันผิดแปลกไปของหญิงแรกรุ่นนางนี้เธอจึงได้เอ่ยถามด้วยความสงสาร ด้วยนางรู้ชะตาของนางร้ายคนนี้เป็นอย่างดี“เจ้าอัปลักษณ์เจ้าเปลี่ยนชะตาของนางได้นะ” โป๊ยข่วยเอ่ยออกมาเมื่อรับรู้ความคิดของคู่หู“ถ้าอย่างนั้นข้าจะเปลี่ยนเพราะนางเป็นคนดี” ฉินเซียวสื่อสารกับกระจกเทพอย่างยินดี แล้วการสนทนาของกระจกเทพกับเด็กหญิงตัวน้อยก็หยุดลง“ขะ...ข้าไม่เป็นอันใดหร

  • ฉินเซียวเมื่อฉันเป็นสาวน้อยชาเขียวในนิยาย   ตอนที่71 แลกเปลี่ยนระหว่างกัน

    “เจ้าไม่ต้องสุภาพนักหรอก เจ้ารีบกินมันเข้าไปตอนยังร้อนเถอะ” หลวนคุนรีบเอ่ยแย้ง“ขอรับ” ช่างหลิวจึงได้นำช้อนที่ซินฉีส่งให้ตักซุปไก่เข้าปากทันทีก่อนที่เขาจะเบิกตากว้าง“รสชาติเป็นอย่างไรหากว่ามันไม่อะ…” ซินฉียังพูดไม่ทันจบเสียงของเด็กหนุ่มก็ได้เอ่ยปากขึ้นมาก่อน“อร่อยขอรับ มันอร่อยมากเลยข้าไม่คิดว่าอาหารยาจะอร่อยถึงเพียงนี้” ช่างหลิวยกยิ้มอย่างพอใจ“อ๋อเป็นเช่นนั้นถ้ามันอร่อยก็ดี แล้วถ้าอย่างนั้นเจ้าก็กินให้หมดถ้วยเถอะหากยังไม่พอก็ยังมีในหม้ออีก” หลวนคุนเอ่ยอย่างโล่งอก“ขอรับ ข้าต้องขอบพระคุณท่านหมอมาก” ช่างหลิวยกยิ้มมองหมอทั้งสองด้วยความซาบซึ้งใจ“จุ๊ ๆ เจ้าอัปลักษณ์อาจารย์ของเจ้ากับเจ้านี่ช่างเจ้าเล่ห์ไม่ต่างกันเลย ช่างสมกับเป็นศิษย์อาจารย์กันเสียจริง” กระจกเทพที่รับรู้เรื่องราวของอีกห้องได้ลอยตัวมาบอกกับสหาย“นะ...นั่นเจ้ากำลังจะลงเข็มผิดแล้ว มีสมาธิหน่อยสิ” แต่กระจกเทพก็ได้ส่งเสียงดังขึ้นมาด้วยความตกใจ“ก็ข้ามัวแต่ฟังเจ้าอยู่นี่นา ฮู่ว์! เกือบไป” ฉินเซียวถอนหายใจอย่างโล่งอกแม้จะเป็นการฝึกก็ตาม“แม้สิ่งนี้จะเป็นเพียงหุ่

  • ฉินเซียวเมื่อฉันเป็นสาวน้อยชาเขียวในนิยาย   ตอนที่74 โชคชะตาที่ต้องเจอ

    ในระหว่างการขายผลลี่จื่อนั้นฉินเซียวก็ได้บอกกับลูกค้าว่าร้านของนางน่าจะขายได้พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายเพราะผลสุกของมันนั้นหมดแล้ว“หมดแล้วอย่างนั้นหรือ ต่อไปข้าจะไปซื้อกินที่ไหนได้” ชายวัยกลางคนลูกค้าประจำกล่าวอย่างเสียดาย“เอาไว้ปีหน้านะเจ้าคะ” ฉินเซียวแย้มยิ้มบอกชายวัยกลาง คนผู้นั้น นางเองก็รู้สึกเสียดายเงินเหมือนกันต่อให้ปลูกต้นลี่จื่อเพิ่มก็ยังช้าอยู่ดี อีกอย่างในครึ่งเดือนข้างหน้านางกับพี่ ๆ ก็จะต้องไปเรียนกันด้วย“แม่หนู ที่เจ้าพูดนั้นเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นหรือ แล้วอย่างนี้ฮูหยินผู้เฒ่าจะกินอะไรได้กันล่ะ” พ่อบ้านผิงกล่าวอย่างเศร้าหมอง“ข้าคิดว่าลองให้ฮูหยินผู้เฒ่ากินผักสดดีหรือไม่ น่าจะดีกว่ากินผลลี่จื่อกับผักดองอย่างเช่นทุกวันนี้” ฉินเซียวเอ่ยแนะพ่อบ้านชรา“ผักสดอย่างนั้นหรือ อากาศเย็นขนาดนี้อีกทั้งใกล้ปีใหม่หิมะก็จะตกที่ไหนจะมีผักสดขายกัน” ชายชรายิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกหดหู่หากมีผักสดเขาคงจะไม่ต้องลำบากขนาดนี้หรอก“หากข้ามีท่านจะซื้อหรือไม่ แต่ข้ามีไม่เยอะนะเจ้าคะ อันที่จริงที่ข้าบอกท่านนั้นก็เป็นเพราะข้าเห็นใจคนชราเจ้าค่ะ” ฉินเซียวกระซิบเส

  • ฉินเซียวเมื่อฉันเป็นสาวน้อยชาเขียวในนิยาย   ตอนที่70 อาหารยา

    “เป็นเจ้า” หลวนคุนเอ่ยเสียงดัง“เจ้าเฒ่าสบายดีหรือไม่” ซินฉีทักสหายรักด้วยรอยยิ้ม“สหายน่าชังอย่างเจ้ายังมีหน้ามาถามว่าข้าสบายดีอยู่อีกหรือ เล่นทิ้งงานไว้ให้ข้าเพียงผู้เดียว” หลวนคุนได้ทีกล่าวประชดประชันคนหน้าตายผู้นี้ แม้ว่าเขาจะไปหายาถอนพิษก็ตามแต่แม้จดหมายก็ไม่ส่งข่าวมันก็เกินไป“เอาน่าเจ้าอย่าได้โมโหนัก ตอนนี้ข้าก็กลับมาแล้ว เอาไว้ข้าสั่งสอนศิษย์จนทั้งสองเข้าสำนักศึกษาได้ข้าจะกลับไปช่วยเจ้าก็แล้วกัน” ซินฉีเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้ม“เจ้ายังรู้สำนึกแต่อีกสองเดือนเลยนะ ว่าแต่เรื่องพิษของเจ้าล่ะเป็นอย่างไรบ้างข้าได้ตัวยาสำคัญมาแล้วนะ แต่จะว่าไปหากนางเป็นศิษย์ของเจ้าเรื่องยาก็คงไม่ต้องห่วงแล้วสิ” หลวนคุนรีบถามสหาย แต่พอเขาฉุกคิดได้ว่าผู้ใดเป็นคนนำสมุนไพรหายากชนิดนั้นมาขายให้ตนชายชราก็นิ่งเงียบไป“หายดีแล้วละ เรื่องนี้ต้องยกความดีให้ศิษย์เอกตัวน้อยของข้า” ซินฉียกยิ้มตอบด้วยความภูมิใจ“ข้าดีใจด้วยเจ้าจะได้หยุดออกเร่ร่อนเสียทีและมาช่วยข้าทำงานได้แล้ว ว่าแต่ศิษย์ของเจ้าอีกคนเป็นใคร” หลวนคุนอดเอ่ยถามสหายไม่ได้เพราะเขาเคยได้ยินว่าสหายจะรับศิษย์เพียงคนเ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status