ผ้าขาวม้าถูกนำไปจุ่มน้ำทั้งผืนก่อนที่คนตัวโตจะวิ่งกลับมาแล้วใช้ผ้าผืนใหญ่ เช็ดไปบนใบหน้าที่ซีดจนไร้สีเลือดของหญิงสาว ตุ๊กแกแค่ไม่กี่ตัวถึงกับสลบเลยเหรอ คิดเมื่อใช้ผ้าละเลงลงไปบนใบหน้าของเธอ ถูลงไปแรง ๆ จะได้รู้สึกตัวเร็ว ๆ เพราะผ้าที่ใช้ผืนใหญ่เกินไปบวกกับแรงของชายหนุ่มน้ำบางส่วนจึงซึมลงไปตามเสื้อยืด ผ้าเนื้อบาง คนที่หมดสติขยับตัว เมื่อรู้สึกถึงแรงที่กดถูไปบนใบหน้า ผิวแก้มเนียนใสแดงขึ้นเป็นเปื้อนในพริบตา เมื่ออาคมถูเอา ๆ
ร่างบางดีดตัวลุกขึ้น กระโดดขึ้นไปนั่งบนตักของคนร่างสูง สองแขนเรียวกอดคอเขาเอาไว้ ใบหน้าสวยซุกลงที่อกกว้าง อาคมตะลึงค้างอยู่กับที่ ตกใจกับการกระทำอันรวดเร็วของเธอ สองแขน อ้าค้าง ไม่รู้จะเอาไปวางตรงไหนดี เมื่อมีคนร่างบางเนื้อตัวนุ่มนิ่มกอดเขาเอาไว้ ร่างสูงสัมผัสได้ถึงเนื้อตัวที่สั่นเทาของเธอ
“ช่วยด้วยค่ะ! ตุ๊กแกมันจะกัดป่าน ฮือ ๆ ๆ”
ลันลดาร้องให้เขาช่วย เพราะภาพสุดท้ายที่เธอเห็นก็คือ ฝูงตุ๊กแกขนาดใหญ่ ดวงตาปูดโปนที่พากันมองมาที่เธอ ขนอ่อนพากันลุกชัน เมื่อขยะแขยงกับสิ่งที่เห็น หญิงสาวซุกตัวอยู่กับอกเขา กอดคอเขาแน่นเพื่อยึดไว้เป็นที่กำบัง อาคมที่ตกใจในตอนแรก ยิ่งตกใจหนักขึ้น เมื่อเธอปล่อยโฮออกมา
“ช่วยด้วย ฮือ ๆ ๆ ๆ ป่านกลัว” ลันลดาหลับหูหลับตาร้องไห้ ภาพตุ๊กแกยังติดอยู่ในหัว
“คุณ คุณ เงียบก่อน ๆ ลืมตาดูสิ ไม่มีแล้ว ไม่มีตุ๊กแกแล้วนะ คุณปลอดภัยแล้ว” ชายหนุ่มปลุกปลอบ เมื่อมั่นใจว่าเธอกลัวตุ๊กแก จริง ๆ ดีนะที่ไม่ช็อกตาย
“ป่านกลัว” ลันลดายังคงกอดเขาไว้แน่น ตากลมโตปิดสนิท ศีรษะทุยสวยส่ายไปมา ไม่กล้าลืมตาเพราะกลัวจะเจอกับตุ๊กแกอีก
“เด็กดี ฟังนะครับ ไม่มีแล้ว มันไปหมดแล้ว ลืมตาขึ้นมาดูสิ ตรงนี้ไม่มีตุ๊กแกสักตัว”
เมื่อได้ยินคำยืนยันจากเขา ดวงตาที่หลับสนิทค่อย ๆ ปรือขึ้น ก่อนจะกะพริบถี่ ๆ เมื่อภาพที่เห็นคือเสื้อเชิ้ตสีฟ้าที่ผู้ชายคนนั้นใส่ ใบหน้าสวยผละออก หันมองซ้ายขวาก่อนจะมองกลับมาที่เดิม เมื่อเห็นชัดว่ามันคือแผงอกของเขา จึงค่อย ๆ ลำดับเรื่องราว
เธอเข้าห้องน้ำแล้วมีตุ๊กแกไต่ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด เธอร้องให้เขาช่วย แล้วหลังจากนั้น เธอก็ขึ้นมานั่งบนตักเขา กอดเขา แล้วก็ซบลงบนอกของเขา บ้าไปแล้ว!
ร่างบางผละออกเหมือนชายหนุ่มเป็นของร้อน ใบหน้าสวย แดงก่ำเมื่อสัมผัสถึงความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น เธอขึ้นไปนั่งบนตักเขา ได้ยังไง
“เอ่อ... คือฉัน” มือบางยกขึ้นปาดน้ำตา จมูกเล็กสูดน้ำมูก ความอายเริ่มเข้ามาแทนที่เมื่อถูกตาคมจ้องมอง
“คุณแกล้งฉันใช่ไหม!” หญิงสาวถามเมื่อตั้งสติได้ หาเรื่องโวยวายเพื่อกลบเกลื่อนความอาย
“ทำไมผมต้องทำแบบนั้น จำได้ว่าคุณเป็นคนขอเข้าห้องน้ำเองนะ” ร่างสูงยืนเท้าเอว ตาคู่คมมองไปที่หญิงสาวที่ตอนนี้นั่งตัวสั่น หน้าตาแดงก่ำ ไม่รู้ว่าแดงเพราะอายหรือว่าเพราะโมโหกันแน่
“แต่คุณก็น่าจะบอกฉันสักคำ ว่าในนั้นมันมีตุ๊กแก!”
อายก็อาย โมโหก็โมโห ตอนนี้ลันลดาไม่รู้ว่าจะจัดการกับอารมณ์ตรงไหนก่อนดี
“แล้วผมจะรู้ไหมว่าคุณกลัว”
คำตอบของชายหนุ่มทำให้คำพูดที่ลันลดาเตรียมไว้จะเถียง ค้างไว้แค่ริมฝีปาก จริงของเขา... เขาไม่รู้นี่ว่าเธอกลัวตุ๊กแก
“นั่นแหละ คุณก็น่าจะบอกฉันบ้าง” ปากบางยังเถียงไม่เลิก เธอไม่ยอมง่าย ๆ หรอก เรื่องนี้มันคือความผิดของเขา
“ขอโทษแล้วกัน ไม่คิดว่าจะกลัวขนาดนี้” อาคมถอนหายใจ ก่อนจะพูดคำขอโทษออกมา เพราะถ้าเอาจริง ๆ เรื่องนี้เขาก็ผิด
“ทีนี้ส่งฉันกลับไร่แสงตะวันได้หรือยัง อย่าเอาฉันไว้ให้เป็นภาระคุณเลย พาฉันไปส่งเถอะนะ”
ได้ทีลันลดาก็ยกเรื่องนี้ขึ้นมาอ้าง เก็บเธอไว้ก็มีแต่จะเป็นภาระ ขอเขาตอนนี้แหละ เผื่อเขาเปลี่ยนใจเอาเธอไปส่ง
“เอาเป็นว่าคุณอยู่กับผมที่นี่สักพักก่อนก็แล้วกัน รอจนกว่าผมแน่ใจว่าคุณจะไม่ไปสร้างความวุ่นวายให้คนที่ไร่ ผมจะพาคุณไปส่ง”
“จะบ้าเหรอ! ฉันจะไปสร้างความวุ่นวายอะไรให้ใคร พ่อแม่พี่สาวฉันอยู่ที่นั่น ทุกคนต้องเป็นห่วงฉัน และฉันก็คิดถึงพวกท่านมากด้วย คุณบ้าหรือเปล่า คิดว่าฉันจะมาทำอะไร แล้วคำว่าวุ่นวายของคุณเนี่ย หมายความว่าไง” ลันลดาแหวกลับเมื่อเขายังพูดไม่รู้เรื่อง
“ไม่รู้! รู้แต่ว่าคุณต้องอยู่ที่นี่ มีบ้านให้อยู่ มีข้าวให้กิน ไม่เห็นจะยากตรงไหน”
“แต่เราไม่รู้จักกัน คุณเป็นใครก็ไม่รู้ ฉันจะไว้ใจคุณได้ยังไง”
“ผมชื่อคม คุณรู้แค่นี้ก็พอ ถ้าคุณไม่ดื้อ ไม่สร้างปัญหา ผมจะส่งคุณกลับเร็วขึ้น”
“แล้วคุณจะให้ฉันอยู่ในฐานะอะไรไม่ทราบ”
คำถามของเธอทำให้อาคมคิดตาม นั่นสิเธอจะมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร เธอเป็นผู้หญิง ส่วนเขาก็ผู้ชาย...
“มีให้เลือกสองอย่างนะคุณผู้หญิง อยู่ในฐานะเชลยไปก่อน ถ้าผมหน้ามืดปล้ำคุณเมื่อไร ค่อยขยับฐานะขึ้นมาเป็นเมียเชลย มีอะไรสงสัยอีกไหม”
“...”
“สงสัยตรงไหนให้ยกมือถามเลยนะครับ เพราะถ้าไม่ถาม ผมจะคิดว่าคุณเข้าใจ และรับทราบกติกาที่เราตกลงร่วมกัน”
อาคมพูดพร้อมกับมองไปที่ใบหน้าที่แดงก่ำของหญิงสาว
“โอเค ตกลงตามนี้นะครับ ถ้าเข้าใจแล้วก็แยกย้าย ผมจะไป หุงข้าว คุณก็ไปพักผ่อนตามอัธยาศัย เชิญครับ”
พูดพร้อมกับผายมือเชื้อเชิญอย่างมีมารยาท แต่ท่าทางที่ยียวนของเขา กลับทำให้ลันลดาโมโหหนัก
“บ้า! คุณมันบ้าที่สุด”
หญิงสาวก่นด่าตามหลังเมื่อทำอะไรเขาไม่ได้ เมื่อกี้เขายังทำท่าทางอ่อนโยนกับเธออยู่เลย จนเธอแทบจะเคลิ้มตาม ที่ไหนได้เขาก็ยังบ้าเหมือนเดิม เชลยกับเมียเชลยอย่างนั้นหรือ... ฝันไปเถอะ คอยดูนะถ้าเธอหนีไปได้เมื่อไร จะเอาตำรวจมาลากคอเขาเข้าคุก ข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว เอาให้ติดคุกหัวโตกันไปเลย
“คุณ รอฉันด้วย!”
ทั้ง ๆ ที่คิดจะเอาเขาเข้าตะราง แต่พอเขาเดินห่างออกไป ก็ต้องร้องเรียกเอาไว้ ที่นี่เป็นป่า ยิ่งมืดก็ยิ่งน่ากลัว อยู่ใกล้ ๆ เขาไว้ดีที่สุด อย่างน้อย ๆ ก็ยังมีเพื่อนหายใจ
สนามบินเชียงรายร่างบางลากกระเป๋าเดินทางยืนมองซ้ายมองขวา เมื่อยังไม่เห็นคนที่นัดหมายว่าจะมารับ ตามกลมโตภายใต้กรอบแว่นตาดำหยีลงเล็กน้อย เมื่อเดินออกมาเจอกับแสงแดดที่ร้อนจัดในเดือนมีนาคมมือบางหยิบหมวกในกระเป๋าขึ้นมาสวม เมื่อคิดว่าตัวเองน่าจะต้องเดินฝ่าแดดไปขึ้นรถสักคัน เพราะดูแล้วยังไร้เงาคนที่อาสามารับ มือบางกดมือถือ เมื่อไม่มีการตอบรับจึงยัดมันลงกระเป๋าตามเดิม“อยู่ไหนนะเฮีย”เหงื่อที่ไหลมาตามเนื้อตัว เริ่มทำให้หญิงสาวหงุดหงิด เพราะ ไม่ชินกับอากาศส่วนหนึ่ง อีกส่วนน่าจะมาจากความโมโหที่ค่อย ๆ ปะทุขึ้น ไหนอาคมบอกว่าจะมารอเธอ นี่ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้วยัง ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา “รอใครอยู่หรือเปล่าครับ”เสียงนุ่มทุ้มหูที่ดังมาจากด้านหลัง ทำให้ขาที่กำลังก้าวเดินหยุดชะงัก สองปีแล้วที่เธอไม่ได้ยินเสียงนี้ในระยะใกล้ชิดแบบนี้ ร่างบางหันหลังกลับ ตากลมโตเบิกขึ้ เมื่อเห็นร่างสูงที่ยืนอยู่เบื้องหน้า คิวเรียวขมวดเข้าหากัน เมื่อเห็นการแต่งตัวของเขา อาคมยกมือขึ้นลูบต้นคอตัวเอง เมื่อถูกเธอจ้องมองเหมือนเขาเป็นตัวประหลาด“เฮียแค่อยากเซอร์ไพรส์หนู”“ค่ะ”ลันลดารับคำอย่างมึนงง มองคนรักที่ใส่
หัวใจดวงน้อยเต้นผิดจังหวะ เมื่ออาคมยังยืนยันการกระทำของตัวเอง จมูกโด่งเป็นสันก้มลงมาหาแก้มนวล จูบซับความหอม ก่อนจะเลื่อนมาหาริมฝีปากสีชมพูอ่อนที่เขาเฝ้าฝันหาตากลมโตเบิกขึ้นเมื่อปากหยักประทับลงมาบนเรียวปากของเธอ ก่อนจะบดจูบไปจนทั่ว ความอบอุ่นที่เกิดขึ้นกระจายไปทั่วผิวกาย แล้วไปก่อตัวอยู่ในหัวใจ หญิงสาวปล่อยใจไปกับเขา มือบางโอบรอบคอแกร่ง เมื่อจูบของอาคมทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ สัมผัสที่อ่อนโยนเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนลิ้นร้อนแทรกผ่านเข้ามาดูดดึงควานหาความหวานในปากอิ่ม มือหนาที่กอดรัดเอวคอดในตอนแรก ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังบอบบาง ลันลดาหอมหวานจนเขาห้ามใจไม่ไหว จากที่ตั้งใจจะขอจูบเพื่อมัดจำ แต่ตอนนี้อาคมไม่แน่ใจแล้วว่า จะหยุดได้หรือไม่ เมื่อเธอหอมหวานจนเขาอยากจะกลืนกินเธอทั้งตัว กำปั้นน้อย ๆ ทุบลงบนอกกว้าง เมื่อเริ่มขาดอากาศหายใจ ปากร้อนถอนออกอย่างอ้อยอิ่ง ตาคู่คมมองลงไปในตาคู่สวย ก่อนจะจูบหนัก ๆ ลงมาบนริมฝีปากสีชมพูที่เจ่อขึ้นอีกครั้ง“เฮียขอโทษ” เสียงแหบพร่ากระซิบชิดใบหู เมื่อเห็นแววตา ตื่นตกใจในดวงตาของเธอ“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ” หญิงสาวตอบกลับ ก่อนจะซบหน้าลงบนอกกว้าง เมื่อถูกคว
“คุณ!! ปล่อยนะ!” ร่างบางดิ้นหนี เมื่อถูกกอดรัดจากด้านหลัง มือเรียวแกะแขนเขาออกจากเอว รู้สึกโมโหและเขินอาย ในเวลาเดียวกัน เขาไม่มีสิทธิ์มาทำกับเธอแบบนี้ “ปล่อย! ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วย” ลันลดาขู่“ไม่ปล่อยครับ เฮียจะไม่ปล่อยจนกว่าเราจะคุยกันรู้เรื่อง”อาคมตอบกลับ พร้อมกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น มีแรงดิ้นก็ดิ้นไปเขาจะรัดเธอไว้อย่างนี้ “คุยอะไรคะ ฉันบอกคุณไปหมดแล้ว ปล่อย!” บอกอย่างแสนงอนเมื่ออยู่ ๆ ก็น้อยใจเขาขึ้นมา“ป่านจะกลับกรุงเทพฯ พรุ่งนี้เหรอครับ”อาคมตัดสินใจถามคำถาม แต่มันกลับให้เธอดิ้นมากขึ้น เขาไม่เคยสนใจเรื่องเธอเลยสักนิด ลันลดาคิดในใจ“ค่ะ”ลันลดาตอบกลับ เธอแน่ใจว่าพูดเรื่องนี้กับลลนาแค่คนเดียว เขารู้ได้ยังไง ความลับไม่มีในโลก คำพูดนี้เป็นเรื่องจริงอาคมสูดลมหายใจที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของคนในอ้อมแขน เข้าจนเต็มปอด ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นทำให้หัวใจของเขายืนยันอย่างชัดเจนว่าเขาชอบเธอไม่สิ... อันที่จริงต้องบอกว่ามากกว่าชอบ เขาตกหลุมรักเธอไปแล้วด้วยซ้ำ มันไม่ได้เพิ่งเกิด แต่มันเกิดขึ้นมานานแล้ว สาเหตุที่เขาไปขโมยตัวเธอมา ส่วนหนึ่งเพื่อนายหญิง แต่อีกส่วนก็เพื่อตัวเองเขาเฝ้
เผ่าเพชรกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อต้องเอ่ยขออนุญาตบางอย่างจากภรรยา งานนี้ถ้าเขาไม่ออกหน้า คนที่จะเสียใจที่สุดก็คือเขา ที่ไม่สามารถช่วยอะไรอาคมได้ “ทำไมต้องเข้าไปในห้องด้วยคะ เรียกยายป่านออกมาข้างนอก ก็น่าจะพอ”ลลนาเสียงเขียวเมื่อได้ยินสิ่งที่สามีขอร้องให้เธอช่วย ให้อาคมไปคุยกับลันลดาในห้องนอน หัวเด็ดตีนขาดเธอก็ไม่ยอม นั่นน้องสาวเธอทั้งคน เผ่าเพชรคิดอะไรอยู่ จะให้ผู้ชายเข้าหาน้องเธอเนี่ยนะ เขาบ้าไปแล้ว“ปอจ๋า...”“ไม่ค่ะ! ปอไม่อนุญาต”คำพูดที่ค้างไว้ของเผ่าเพชรถูกกลืนลงคอ เมื่อลลนาปฏิเสธข้อเสนอของเขา “ปอจะไปเรียกยายป่านให้ก็แล้วกัน” เมื่อเห็นหน้าสามีซีดลง ลลนาก็นึกสงสาร “ขอบคุณนะครับ”อย่างน้อยก็ยังมีโอกาส อันที่จริงเผ่าเพชรก็คิดเอาไว้แล้วว่าลลนาจะต้องตอบกลับมาแบบนี้ แต่เขาก็อยากเสี่ยง“พี่อยากให้เขาสองคนได้คุยกัน เราไม่รู้ว่าสองคนนั่นไปถึงไหนกันแล้ว พี่แค่มาขอโอกาสให้ไอ้คมมัน ถ้าปอไม่อนุญาต ก็ไม่เป็นไรครับ” เผ่าเพชรตอบเสียงเศร้า พยายามทำหน้าตาให้น่าสงสารที่สุด เผื่อลลนาจะเปลี่ยนใจ“เดี๋ยวปอตามป่านให้ค่ะ”ลลนาตัดบทก่อนจะลุกเดินออกไป เธอเข้าใจว่าเผ่าเพชรหวังดีกับอาคม แต่ลันลดาเป็
“เมื่อกี้คุณเผ่าพูดอะไรนะครับ!”อาคมถามอีกครั้ง เมื่อได้ยินไม่ถนัด“กูบอกว่า พรุ่งนี้ป่านจะกลับกรุงเทพฯ แล้ว!”แทนที่เผ่าเพชรจะตอบคำถามดี ๆ แต่เขากลับตะโกนขึ้นมาสุดเสียง อาคมหน้าตึงเมื่อเจ้านายยังแกล้งไม่เลิก “กลับกรุงเทพฯ กลับยังไงครับ แล้วทำไมรีบกลับ ไหนคุณเผ่าว่าจะให้เธออยู่ก่อนไงครับ แล้ว...”คำถามที่เหลือค้างอยู่ที่ปากเมื่อเผ่าเพชรขัดขึ้น พร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน ที่เล่นงานคนปากแข็งได้สำเร็จ“ไหนว่าไม่สนใจ ถามมาเป็นชุดเลยนะมึง ไม่บอกโว้ย! อยากรู้ก็ไปถามเจ้าตัวเอาเอง” เผ่าเพชรเล่นตัว เมื่อมากระตุ้นต่อมความอยากรู้ของลูกน้องได้สำเร็จ“โธ่... คุณเผ่า ช่วยเล่าหน่อยนะครับ”อาคมแค่นเผ่าเพชร ไหน ๆ ก็เป็นคนเอาเรื่องนี้มาบอกแล้วก็ขยายความให้เขาอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป“นะครับ นะ ถือว่าเอาบุญก็ได้”“รู้ไหมว่าตอนนี้มึงทำตัวได้ทุเรศแค่ไหน ทำไมวะคม การที่มึงชอบคนคนหนึ่งแต่ไม่บอกเขานี่ มึงคิดว่าหล่อเหรอ กูไม่รู้ว่ามึงคิดอะไรอยู่ แต่ถ้ากูเป็นมึง กูจะบอกให้ป่านรู้”“คุณเผ่าก็พูดได้สิครับ ไม่ได้มาเป็นผม ไม่รู้หรอก”“นั่นไง กูถึงได้บอก ถ้ากูเป็นมึงกูจะบอกให้เขารู้”เผ่าเพชรพูดพร้อมกับจ้องหน้
“เป็นไงบ้างจ๊ะป่าน เหนื่อยไหม”ลลนาเดินมารับน้อง เมื่อรถยนต์จากโรงแรมแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน เผ่าเพชรสั่งให้ลูกน้องฝีมือดีอยู่กับอาคมชุดใหญ่ เธอจึงยอมกลับมารอน้องที่ไร่ ลันลดาอยากจะกลอกตา พี่สาวของเธอก็เป็นไป กับเขาด้วยอีกคน อยากจะจับคู่ให้เธอกับอาคมอย่างนั้นเหรอ“คิดอะไรอยู่คะ ถึงอยากจับคู่ให้ป่าน” ลันลดาถามตรง ๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ ดูก็รู้ว่ามันคือแผน“เอ่อ...” ลลนาตอบคำถามน้องไม่ได้ เมื่อน้องถามมาตรง ๆ“คิดว่าป่านไม่รู้เหรอคะ”“พี่แค่อยากให้ป่านรู้ใจตัวเอง พวกเราคิดว่าคุณคมชอบป่าน แล้วป่านก็...”“อย่าพยายามเลยค่ะ คุณคมเขาไม่ได้ชอบป่านหรอกค่ะ”ลันลดาบอกกับพี่สาว เพราะไม่อยากให้เข้าใจผิดไปมากกว่านี้ อาคมไม่ได้ชอบเธอ ระยะเวลาแค่ไม่กี่วันเขาจะชอบเธอได้ยังไง“แล้วป่านล่ะ ชอบคุณคมไหม”“ป่านจะชอบเขาได้ยังไงคะ เราเพิ่งเจอกัน อะไรทำให้พี่ปอคิดแบบนั้นคะ”“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน พี่เดาจากความรู้สึกของตัวเองน่ะ”“พี่ปอเดาผิดแล้วค่ะ ป่านไม่ได้คิดอะไรกับเขา ป่านจะกลับกรุงเทพฯ แล้วไปเรียนต่อตามที่ตั้งใจเอาไว้ พี่ปอกับคุณเผ่าอย่าพยายามเลยค่ะ ยังไงป่านก็ไม่เปลี่ยนใจ”“ถ้างั้นก็ตามนี้จ้ะ พี่แค่อ