อาคมเดินเข้ามาในห้องครัวเพื่อสำรวจดูว่ามีอะไรให้กินได้บ้าง เวลานี้จะไปหาอะไรที่ไหนกินก็ยากแล้ว แม้แต่ก๋วยเตี๋ยวยังต้องขับรถเข้าไปกินในเมือง มือแกร่งเปิดกระติกน้ำที่เคยเอาข้าวสารใส่ไว้ ก่อนจะอมยิ้ม เมื่อเห็นข้าวสารยังเหลือเกือบครึ่งกระติก รอดตายแล้วชายหนุ่มคิดในใจ มองหาหม้อหุงข้าว ไม่ได้ใช้มานานตัวหม้อไปทาง ฝาไปทาง สายไฟไปอีกทาง ดีนะที่หนูไม่กัดจนขาด ไม่อย่างนั้นคงได้กินข้าวดิบกันบ้าง ชายหนุ่มถอนหายใจ หุงข้าวแล้วหนึ่งอย่าง ส่วนกับข้าวเดี๋ยวค่อยว่ากัน ไม่มีของสด มีแต่ไข่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และปลากระป๋อง
“ดีนะ ที่มีถุงยังชีพ” พูดกับตัวเองเมื่อของที่มีไม่ต่างอะไรกับของบริจาค
ลันลดาเดินตามเข้ามา ยังคงมองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวง เจ้าตุ๊กแกพวกนั้นทำเธอประสาทหลอนไปหมด ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนเธอก็อยู่ไม่เป็นสุข อะไรขยับเขยื้อนเธอก็คอยระแวงว่าเป็นสัตว์น่ากลัว พวกนั้น ตากลมโตมองไปตามข้างฝา หลังคา ฝ้าเพดาน ก่อนจะไล่มองไปตามพื้น เพราะนอกจากตุ๊กแกแล้ว ยังมีสัตว์อีกหลายประเภทที่เธอกลัว ยิ่งฝนตกพื้นเฉอะแฉะแบบนี้ เวลาค่ำ ๆ อย่างนี้ อึ่งอ่าง คางคก ได้เวลาออกมาหากิน
“หลอน” อาคมพูดขึ้นมาลอย ๆ เมื่อเห็นอาการของเธอที่จนป่านนี้ก็ยังอยู่ไม่สุข
“กลัวค่ะ” หญิงสาวตอบกลับไปตรง ๆ เขาจะได้ไม่แกล้งเธออีก
“ตีไข่ให้หน่อย เดี๋ยวจะไปเก็บใบโหระพา” อาคมหันมาสั่งเมื่อเห็นเธอยืนไม่อยู่สุข เดี๋ยวหันซ้ายเดี๋ยวหันขวา หางานให้ทำจะได้ดึงสติกลับมา
“ไข่อยู่ตรงไหนคะ” ถามเมื่อไม่เห็นไข่วางอยู่บนโต๊ะ
“ในตูดไก่มั้ง ถามโง่ ๆ อยู่ในตู้เย็นครับคุณหนู” อาคมตอบกลับด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย แค่ไข่ก็ต้องถาม
“ถามเพราะไม่รู้ โง่มากเลยเหรอคะ” ลันลดาสวนกลับ เธอถามเขาดี ๆ นะ
“หัดคิดบ้างสิ สมองน่ะมีก็เอามาคิด”
“ไม่มีแล้วค่ะ ไปหมดแล้วสมงสมอง ตั้งแต่มาเจอคุณ สมองฉันก็ทำงานหนัก จนมันสลายเป็นโกโก้ครันช์ไปแล้ว”
“โห มุกเหรอนั่น ผมต้องขำไหม ขออีกรอบได้ป้ะ เตรียมตัว ไม่ทัน”
“ไอ้...”
“ไอ้อะไร พูดดี ๆ นะ ถ้ายังไม่อยากเป็นเมียเชลยก็พูดเพราะ ๆ หน่อย เฮียคมคะ เฮียคมขา ไหนลองพูดซิ”
ลันลดาอยากจะกลอกตา เฮียอย่างนั้นเหรอ ได้ค่ะได้ให้เรียกเฮียใช่ไหม
“เฮียยย... ขา ไข่อยู่ตรงไหนคะ น้องป่านหาไม่เจอ เฮียขาาาา... ช่วยหยิบให้น้องป่านหน่อยสิคะ นะคะ นะ ๆ ๆ ๆ” ลันลดาปรับน้ำเสียงให้เล็กลง และดัดให้หวานที่สุด จงใจเน้นคำว่าเฮียชัด ๆ ใช้เสียงสูงลากยาวจนมันเกือบจะเพี้ยนไปเป็นอีกคำ
“พอ ๆ ไม่ต้องเฮียยาวขนาดนั้น สั้น ๆ พอ”
“อ้าว ไม่ชอบเหรอคะ เฮียขาาาาาา”
“ท่าจะบ้า”
พูดพร้อมกับเดินออกไปหลังบ้านที่เคยมีแปลงผักสวนครัวอยู่ตรงนั้น จำได้ว่าเคยมีต้นพริกมะนาว กะเพรา โหระพา และผักอื่น ๆ อีกหลายชนิด ไม่ได้รดน้ำมานาน ไม่รู้ว่าตายไปหมดหรือยัง แต่ช่วงนี้ ฝนตกบ่อย น่าจะมีหลงเหลืออยู่บ้าง
“อย่าไปนานนะเฮียยยย ป่านกลัว”
เสียงที่ถูกดัดให้หวานยังคงตะโกนตามมา มันน่าจับตุ๊กแกกลับไปฝากสักตัว อาคมคิด ไม่ง่ายเลยที่จะอยู่ร่วมบ้านกับคนที่ไม่รู้จักกัน นิสัยใจคอเธอเป็นยังไงก็ไม่รู้ เธอเป็นน้องสาวนายหญิงก็น่าจะมีส่วนคล้ายพี่สาวบ้าง ถ้าไม่ติดว่าเธอเป็นคู่หมั้นคุณเผ่า เขาก็คงจะปล่อยเธอไป พ่อแม่เธอยิ่งไม่เหมือนคนอื่นอยู่ด้วย นึกจะเปลี่ยนตัวลูกตอนไหนก็เปลี่ยน ถึงแม้ตอนนี้ทุกอย่างจะดูเป็นปกติ แต่ก็ยังไว้ใจไม่ได้ เขากลัวพ่อตากับแม่ยายมาเห็นความร่ำรวยของลูกเขยแล้วเกิดเปลี่ยนใจ แย่งสามีพี่ไปให้น้อง เรื่องมันจะยุ่งไปใหญ่ นายหญิงกำลังท้องอยู่ด้วย เลยไม่อยากให้มีเรื่องอะไรไปกวนใจ เพราะกลัวจะกระทบถึงนายน้อยไปด้วย
“อยู่นี่สักพักก็แล้วกัน ถ้าทำตัวดี ๆ แล้วจะพาไปส่ง”
อาคมพูดกับตัวเอง เมื่อเก็บใบโหระพาได้หนึ่งกำมือ ไข่เจียวใส่ใบโหระพากับยำปลากระป๋อง น่าจะพอรองท้องได้ พรุ่งนี้ค่อยหาใหม่ จากที่ตั้งใจว่าจะเอามาทิ้งแล้วกลับเลย ก็ต้องเปลี่ยนใจมาหุงหา ข้าวปลาให้กิน คิดว่าน่าจะนอนเป็นเพื่อนสักคืน อยู่ ๆ ก็รู้สึกสงสารขึ้นมาเสียอย่างนั้น
ยิ่งตอนที่คนตัวนิ่มโผเข้ามากอดเขาแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้น หัวใจเขาก็ร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ถ้าไม่ติดเรื่องหมั้น เธอก็เป็นแค่ผู้หญิง คนหนึ่งที่น่ารักสมวัย ปีนี้เธออายุย่างยี่สิบสองปี เขารู้เพราะเขาเป็นคนไปเจรจาเรื่องเจ้าสาวให้เจ้านาย สาเหตุที่คุณประกรสลับตัวก็เพราะอ้างว่าเธอยังเด็ก เลยส่งพี่สาวมาแทน เจริญอย่างที่เผ่าเพชรว่า เพราะพอทางนี้ตกล่องปล่องชิ้นกันได้ ดันจะเปลี่ยนตัวกลับคืน เขาจำได้เลยว่าครั้งนั้นที่นายหญิงหนีไป ก็เพราะยายคนแก้มป่องที่ยืนตีไข่ให้เขา นั่นแหละ
พอใกล้จะเรียนจบก็บอกว่าพร้อมแล้วที่จะมาแต่งงาน พอเรียนจบเลยจะมาแย่งผัวพี่สาวใช่ไหม ฝันไปเถอะ! ตราบใดที่ไอ้คมยังมีลมหายใจ ใครจะมาทำให้นายหญิงของเขาเสียใจไม่ได้ เพราะนายหญิงเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เจ้านายเขามีความสุข คุณเผ่ากลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้ก็เพราะมีนายหญิงลลนาเข้ามาเติมเต็ม
“ขอโทษนะครับนายหญิง”
ขอโทษลลนาในใจ ถ้าเกิดเขาเผลอทำอะไรเกินเลยไป หวังว่าลลนาคงจะเข้าใจ
สนามบินเชียงรายร่างบางลากกระเป๋าเดินทางยืนมองซ้ายมองขวา เมื่อยังไม่เห็นคนที่นัดหมายว่าจะมารับ ตามกลมโตภายใต้กรอบแว่นตาดำหยีลงเล็กน้อย เมื่อเดินออกมาเจอกับแสงแดดที่ร้อนจัดในเดือนมีนาคมมือบางหยิบหมวกในกระเป๋าขึ้นมาสวม เมื่อคิดว่าตัวเองน่าจะต้องเดินฝ่าแดดไปขึ้นรถสักคัน เพราะดูแล้วยังไร้เงาคนที่อาสามารับ มือบางกดมือถือ เมื่อไม่มีการตอบรับจึงยัดมันลงกระเป๋าตามเดิม“อยู่ไหนนะเฮีย”เหงื่อที่ไหลมาตามเนื้อตัว เริ่มทำให้หญิงสาวหงุดหงิด เพราะ ไม่ชินกับอากาศส่วนหนึ่ง อีกส่วนน่าจะมาจากความโมโหที่ค่อย ๆ ปะทุขึ้น ไหนอาคมบอกว่าจะมารอเธอ นี่ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้วยัง ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา “รอใครอยู่หรือเปล่าครับ”เสียงนุ่มทุ้มหูที่ดังมาจากด้านหลัง ทำให้ขาที่กำลังก้าวเดินหยุดชะงัก สองปีแล้วที่เธอไม่ได้ยินเสียงนี้ในระยะใกล้ชิดแบบนี้ ร่างบางหันหลังกลับ ตากลมโตเบิกขึ้ เมื่อเห็นร่างสูงที่ยืนอยู่เบื้องหน้า คิวเรียวขมวดเข้าหากัน เมื่อเห็นการแต่งตัวของเขา อาคมยกมือขึ้นลูบต้นคอตัวเอง เมื่อถูกเธอจ้องมองเหมือนเขาเป็นตัวประหลาด“เฮียแค่อยากเซอร์ไพรส์หนู”“ค่ะ”ลันลดารับคำอย่างมึนงง มองคนรักที่ใส่
หัวใจดวงน้อยเต้นผิดจังหวะ เมื่ออาคมยังยืนยันการกระทำของตัวเอง จมูกโด่งเป็นสันก้มลงมาหาแก้มนวล จูบซับความหอม ก่อนจะเลื่อนมาหาริมฝีปากสีชมพูอ่อนที่เขาเฝ้าฝันหาตากลมโตเบิกขึ้นเมื่อปากหยักประทับลงมาบนเรียวปากของเธอ ก่อนจะบดจูบไปจนทั่ว ความอบอุ่นที่เกิดขึ้นกระจายไปทั่วผิวกาย แล้วไปก่อตัวอยู่ในหัวใจ หญิงสาวปล่อยใจไปกับเขา มือบางโอบรอบคอแกร่ง เมื่อจูบของอาคมทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ สัมผัสที่อ่อนโยนเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนลิ้นร้อนแทรกผ่านเข้ามาดูดดึงควานหาความหวานในปากอิ่ม มือหนาที่กอดรัดเอวคอดในตอนแรก ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังบอบบาง ลันลดาหอมหวานจนเขาห้ามใจไม่ไหว จากที่ตั้งใจจะขอจูบเพื่อมัดจำ แต่ตอนนี้อาคมไม่แน่ใจแล้วว่า จะหยุดได้หรือไม่ เมื่อเธอหอมหวานจนเขาอยากจะกลืนกินเธอทั้งตัว กำปั้นน้อย ๆ ทุบลงบนอกกว้าง เมื่อเริ่มขาดอากาศหายใจ ปากร้อนถอนออกอย่างอ้อยอิ่ง ตาคู่คมมองลงไปในตาคู่สวย ก่อนจะจูบหนัก ๆ ลงมาบนริมฝีปากสีชมพูที่เจ่อขึ้นอีกครั้ง“เฮียขอโทษ” เสียงแหบพร่ากระซิบชิดใบหู เมื่อเห็นแววตา ตื่นตกใจในดวงตาของเธอ“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ” หญิงสาวตอบกลับ ก่อนจะซบหน้าลงบนอกกว้าง เมื่อถูกคว
“คุณ!! ปล่อยนะ!” ร่างบางดิ้นหนี เมื่อถูกกอดรัดจากด้านหลัง มือเรียวแกะแขนเขาออกจากเอว รู้สึกโมโหและเขินอาย ในเวลาเดียวกัน เขาไม่มีสิทธิ์มาทำกับเธอแบบนี้ “ปล่อย! ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วย” ลันลดาขู่“ไม่ปล่อยครับ เฮียจะไม่ปล่อยจนกว่าเราจะคุยกันรู้เรื่อง”อาคมตอบกลับ พร้อมกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น มีแรงดิ้นก็ดิ้นไปเขาจะรัดเธอไว้อย่างนี้ “คุยอะไรคะ ฉันบอกคุณไปหมดแล้ว ปล่อย!” บอกอย่างแสนงอนเมื่ออยู่ ๆ ก็น้อยใจเขาขึ้นมา“ป่านจะกลับกรุงเทพฯ พรุ่งนี้เหรอครับ”อาคมตัดสินใจถามคำถาม แต่มันกลับให้เธอดิ้นมากขึ้น เขาไม่เคยสนใจเรื่องเธอเลยสักนิด ลันลดาคิดในใจ“ค่ะ”ลันลดาตอบกลับ เธอแน่ใจว่าพูดเรื่องนี้กับลลนาแค่คนเดียว เขารู้ได้ยังไง ความลับไม่มีในโลก คำพูดนี้เป็นเรื่องจริงอาคมสูดลมหายใจที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของคนในอ้อมแขน เข้าจนเต็มปอด ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นทำให้หัวใจของเขายืนยันอย่างชัดเจนว่าเขาชอบเธอไม่สิ... อันที่จริงต้องบอกว่ามากกว่าชอบ เขาตกหลุมรักเธอไปแล้วด้วยซ้ำ มันไม่ได้เพิ่งเกิด แต่มันเกิดขึ้นมานานแล้ว สาเหตุที่เขาไปขโมยตัวเธอมา ส่วนหนึ่งเพื่อนายหญิง แต่อีกส่วนก็เพื่อตัวเองเขาเฝ้
เผ่าเพชรกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อต้องเอ่ยขออนุญาตบางอย่างจากภรรยา งานนี้ถ้าเขาไม่ออกหน้า คนที่จะเสียใจที่สุดก็คือเขา ที่ไม่สามารถช่วยอะไรอาคมได้ “ทำไมต้องเข้าไปในห้องด้วยคะ เรียกยายป่านออกมาข้างนอก ก็น่าจะพอ”ลลนาเสียงเขียวเมื่อได้ยินสิ่งที่สามีขอร้องให้เธอช่วย ให้อาคมไปคุยกับลันลดาในห้องนอน หัวเด็ดตีนขาดเธอก็ไม่ยอม นั่นน้องสาวเธอทั้งคน เผ่าเพชรคิดอะไรอยู่ จะให้ผู้ชายเข้าหาน้องเธอเนี่ยนะ เขาบ้าไปแล้ว“ปอจ๋า...”“ไม่ค่ะ! ปอไม่อนุญาต”คำพูดที่ค้างไว้ของเผ่าเพชรถูกกลืนลงคอ เมื่อลลนาปฏิเสธข้อเสนอของเขา “ปอจะไปเรียกยายป่านให้ก็แล้วกัน” เมื่อเห็นหน้าสามีซีดลง ลลนาก็นึกสงสาร “ขอบคุณนะครับ”อย่างน้อยก็ยังมีโอกาส อันที่จริงเผ่าเพชรก็คิดเอาไว้แล้วว่าลลนาจะต้องตอบกลับมาแบบนี้ แต่เขาก็อยากเสี่ยง“พี่อยากให้เขาสองคนได้คุยกัน เราไม่รู้ว่าสองคนนั่นไปถึงไหนกันแล้ว พี่แค่มาขอโอกาสให้ไอ้คมมัน ถ้าปอไม่อนุญาต ก็ไม่เป็นไรครับ” เผ่าเพชรตอบเสียงเศร้า พยายามทำหน้าตาให้น่าสงสารที่สุด เผื่อลลนาจะเปลี่ยนใจ“เดี๋ยวปอตามป่านให้ค่ะ”ลลนาตัดบทก่อนจะลุกเดินออกไป เธอเข้าใจว่าเผ่าเพชรหวังดีกับอาคม แต่ลันลดาเป็
“เมื่อกี้คุณเผ่าพูดอะไรนะครับ!”อาคมถามอีกครั้ง เมื่อได้ยินไม่ถนัด“กูบอกว่า พรุ่งนี้ป่านจะกลับกรุงเทพฯ แล้ว!”แทนที่เผ่าเพชรจะตอบคำถามดี ๆ แต่เขากลับตะโกนขึ้นมาสุดเสียง อาคมหน้าตึงเมื่อเจ้านายยังแกล้งไม่เลิก “กลับกรุงเทพฯ กลับยังไงครับ แล้วทำไมรีบกลับ ไหนคุณเผ่าว่าจะให้เธออยู่ก่อนไงครับ แล้ว...”คำถามที่เหลือค้างอยู่ที่ปากเมื่อเผ่าเพชรขัดขึ้น พร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน ที่เล่นงานคนปากแข็งได้สำเร็จ“ไหนว่าไม่สนใจ ถามมาเป็นชุดเลยนะมึง ไม่บอกโว้ย! อยากรู้ก็ไปถามเจ้าตัวเอาเอง” เผ่าเพชรเล่นตัว เมื่อมากระตุ้นต่อมความอยากรู้ของลูกน้องได้สำเร็จ“โธ่... คุณเผ่า ช่วยเล่าหน่อยนะครับ”อาคมแค่นเผ่าเพชร ไหน ๆ ก็เป็นคนเอาเรื่องนี้มาบอกแล้วก็ขยายความให้เขาอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป“นะครับ นะ ถือว่าเอาบุญก็ได้”“รู้ไหมว่าตอนนี้มึงทำตัวได้ทุเรศแค่ไหน ทำไมวะคม การที่มึงชอบคนคนหนึ่งแต่ไม่บอกเขานี่ มึงคิดว่าหล่อเหรอ กูไม่รู้ว่ามึงคิดอะไรอยู่ แต่ถ้ากูเป็นมึง กูจะบอกให้ป่านรู้”“คุณเผ่าก็พูดได้สิครับ ไม่ได้มาเป็นผม ไม่รู้หรอก”“นั่นไง กูถึงได้บอก ถ้ากูเป็นมึงกูจะบอกให้เขารู้”เผ่าเพชรพูดพร้อมกับจ้องหน้
“เป็นไงบ้างจ๊ะป่าน เหนื่อยไหม”ลลนาเดินมารับน้อง เมื่อรถยนต์จากโรงแรมแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน เผ่าเพชรสั่งให้ลูกน้องฝีมือดีอยู่กับอาคมชุดใหญ่ เธอจึงยอมกลับมารอน้องที่ไร่ ลันลดาอยากจะกลอกตา พี่สาวของเธอก็เป็นไป กับเขาด้วยอีกคน อยากจะจับคู่ให้เธอกับอาคมอย่างนั้นเหรอ“คิดอะไรอยู่คะ ถึงอยากจับคู่ให้ป่าน” ลันลดาถามตรง ๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ ดูก็รู้ว่ามันคือแผน“เอ่อ...” ลลนาตอบคำถามน้องไม่ได้ เมื่อน้องถามมาตรง ๆ“คิดว่าป่านไม่รู้เหรอคะ”“พี่แค่อยากให้ป่านรู้ใจตัวเอง พวกเราคิดว่าคุณคมชอบป่าน แล้วป่านก็...”“อย่าพยายามเลยค่ะ คุณคมเขาไม่ได้ชอบป่านหรอกค่ะ”ลันลดาบอกกับพี่สาว เพราะไม่อยากให้เข้าใจผิดไปมากกว่านี้ อาคมไม่ได้ชอบเธอ ระยะเวลาแค่ไม่กี่วันเขาจะชอบเธอได้ยังไง“แล้วป่านล่ะ ชอบคุณคมไหม”“ป่านจะชอบเขาได้ยังไงคะ เราเพิ่งเจอกัน อะไรทำให้พี่ปอคิดแบบนั้นคะ”“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน พี่เดาจากความรู้สึกของตัวเองน่ะ”“พี่ปอเดาผิดแล้วค่ะ ป่านไม่ได้คิดอะไรกับเขา ป่านจะกลับกรุงเทพฯ แล้วไปเรียนต่อตามที่ตั้งใจเอาไว้ พี่ปอกับคุณเผ่าอย่าพยายามเลยค่ะ ยังไงป่านก็ไม่เปลี่ยนใจ”“ถ้างั้นก็ตามนี้จ้ะ พี่แค่อ