ในขณะที่รถเคลื่อนตัว ในหัวของชายหนุ่ม ก็คิดไปต่าง ๆ นานา หลายครั้งที่ดวงตาคู่คมภายใต้กรอบแว่นตาสีดำเหลือบมองหญิงสาวที่นั่งมาด้วยกัน ผู้หญิงคนนี้เป็นน้องสาวของนายหญิง มีหลายส่วนบนใบหน้าที่คล้ายกัน แต่นายหญิงสวยกว่า ในขณะที่ คนน้องดูจืดชืดไปนิด แต่ก็พอไปวัดไปวาได้
เธอคนนี้น่ะหรือ... ที่กล้าปฏิเสธคุณเผ่าของเขา ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ขนาดรวยล้นฟ้าอย่างพ่อเลี้ยงเผ่าเพชร เธอยังกล้าปฏิเสธ ถ้าเป็นเด็กกำพร้าอย่างเขา คงถูกมองไม่ต่างจากไส้เดือนกิ้งกือแน่นอน
“อีกนานไหมคะกว่าจะถึงไร่แสงตะวัน” ถามด้วยความอยากรู้ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอไปไร่แสงตะวัน ครั้งหนึ่งเธอเคยมาเชียงราย แต่นั่นมันก็นานมากแล้ว และก็ไม่ได้ไปที่ไร่แสงตะวัน เพราะเผ่าเพชรรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด ใบหน้าพ่อแม่และพี่สาวลอยเข้ามาในหัว จะเป็นไงนะถ้าพวกท่านเห็นเธอวันนี้
“อีกพักใหญ่ ๆ ฝนตกหนักถนนลื่น ขับเร็วไม่ได้”
ลันลดาพยักหน้าเข้าใจ เมื่อคนขับรถตอบมาแบบนี้
“ทำไมไม่ให้รถที่ไร่มารับ”
อาคมถามกลับ อันที่จริงเรื่องที่เธอนั่งรถทัวร์มาเชียงราย เขาก็ไม่รู้มาก่อน แต่บังเอิญว่าลูกน้องเขาดันตาดีเห็นเธอเข้า จึงมารายงานให้เขาทราบ ลูกน้องเขาคงจำหน้าเธอได้ คงเคยเห็นรูปเธอตอนที่เขาติดต่อกับคุณประกรเมื่อหลายเดือนก่อนนั่นเอง
“หนูจะทำเซอร์ไพรส์คนที่นั่นน่ะพี่ค่ะ เอาให้ช็อกกันไปเลย”
ลันลดาหันมาตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง รู้สึกภูมิใจกับการกระทำของตัวเอง
“มีญาติอยู่นั่นเหรอ ดูแล้วเราไม่ใช่คนที่นี่นะ” อาคมยังคงถามต่อ
“พี่ฟังแล้วจะอึ้ง พี่เชื่อไหมว่าหนูน่ะคือเจ้าของไร่แสงตะวัน ตัวจริง”
เอี๊ยด!!
สิ้นเสียงอวดอ้าง เท้าหนาก็กระทืบลงไปบนเบรกเต็มแรง ถึงแม้รถจะขับมาไม่เร็วนัก แต่ก็ทำให้คนที่นั่งข้าง ๆ หัวคะมำ ดีที่คาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ ไม่อย่างนั้นคงเจ็บมากกว่านี้
ลันลดาตกใจที่อยู่ ๆ รถก็เบรกกะทันหัน ผิดกับอาคมที่อยู่ ๆ ก็รู้สึกโมโหขึ้นมา พูดแบบนี้หมายความว่าไง อย่าบอกนะว่ายายนี่จะมาเรียกร้องสิทธิ์ที่เคยเป็นของตัวเอง เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเขาคงยอมไม่ได้ นายหญิงจะเสียใจแค่ไหน กำลังท้องอยู่ด้วย พ่อแม่ก็ยิ่งรักลูกลำเอียงอยู่ ถ้าเกิดนายหญิงเสียใจแล้วหนีไปอีก คุณเผ่าจะเป็นยังไง ยิ่งคิดยิ่งโมโห มือแกร่งเผลอกำพวงมาลัยจนเส้นเลือดปูดโปน
“พี่คะ... เป็นอะไรหรือเปล่า”
คำถามที่ลอยมาเข้าหูทำให้อาคมได้สติ ใบหน้าหล่อเหลาพยายามปรับให้เป็นปกติที่สุด ก่อนจะตอบคำถามของเธอ
“โทษที ตัวแรด! มันวิ่งตัดหน้าน่ะ เลยเหยียบเบรกแรงไปหน่อย เป็นอะไรไหม”
“อ้อ... ไม่เป็นไรค่ะ เราชนมันหรือเปล่า” ถึงแม้จะตะขิดตะขวงใจ แต่ลันลดาก็เลือกที่จะปล่อยผ่าน บางทีตัวที่เขาว่าอาจจะวิ่งตัดหน้าจริง ๆ เธออาจจะมองไม่เห็นก็ได้
“ไม่ชน โชคดีที่เบรกทัน ว่าแต่เมื่อกี้เราจะพูดอะไรนะ” อาคมถามต่อ เมื่อปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ
“อ้อ... คือหนูจะบอกว่า...”
ครืด ๆ ๆ ๆ
คำพูดของลันลดาค้างไว้แค่นั้นเมื่อมือถือของคนที่นั่งข้าง ๆ สั่นขึ้นขัดจังหวะ อาคมหยิบมือถือขึ้นมาดูก่อนจะวางลงที่เก่าเมื่อเห็นเบอร์ปลายสาย เผ่าเพชรคงจะถามเรื่องที่ประชุมวันนี้ อันที่จริงเขาส่งอีเมลสรุปการประชุมไปให้แล้ว สงสัยเจ้านายยังไม่ได้เปิดดู การสนทนาต้องจบลงเมื่อฝนเทกระหน่ำลงมาอีกและครั้งนี้ก็หนาเม็ดจนมองแทบ ไม่เห็นทาง
“ต้องหาที่จอดก่อน ไปต่อไม่ได้ ถนนลื่น ถ้าไปต่อกลัวจะเกิดอันตราย” อาคมหันมาบอกผู้โดยสารที่นั่งหน้าซีดอยู่ข้าง ๆ เขาเป็นคนพื้นที่และชินทางก็จริง แต่ก็ไม่กล้าเสี่ยง
ลันลดาไม่พูดอะไร ใบหน้าที่ซีดอยู่แล้วกลับซีดลงไปอีก เมื่อได้ยินคำว่าไปต่อไม่ได้ ต้องรอให้ฝนหยุดก่อน แขนเรียวพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู รู้สึกโล่งใจเพราะตอนนี้เพิ่งจะสี่โมงเย็น ยังไม่มืดก็ยังมีเวลา
“ที่นี่ก็แบบนี้ ฝนตกเกือบทุกวัน” เสียงแหบห้าวบอก เมื่อเห็นเธอเอาแต่มองไปที่หน้ารถ
“ฝนตกทุกวันแบบนี้ คนที่นี่คงทำมาหากินลำบากนะคะ”
ลันลดาตอบกลับ เมื่อชายหนุ่มชวนคุย
“ไม่หรอก เขาชินกันแล้ว มันเป็นช่วง ๆ น่ะ เขาก็ต้องปรับตัว ว่าแต่เราจะไปที่แสงตะวันทำไมนะ” อาคมวกกลับมาที่เรื่องเดิม เพราะยังไม่ได้คำตอบจากเธอ
“ไปหาพ่อแม่แล้วก็พี่สาวค่ะ พี่สาวหนูได้สามีอยู่ที่นั่น”
“อายุเท่าไรแล้วเราน่ะ” อาคมถาม เพราะเริ่มสะดุดหูกับคำว่าหนูของเธอ
“ปีนี้ก็ย่างยี่สิบสองแล้วค่ะ”
“เรียนหรือทำงาน”
“เรียนค่ะแต่จบแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงพักผ่อน หนูรอไปเรียนต่อปริญญาโท” หญิงสาวตอบอย่างภาคภูมิใจ เมื่อนึกถึงความสำเร็จของตัวเอง
“อืม” อาคมรับคำสั้น ๆ ยายนี่อายุยี่สิบสอง... เท่ากับว่าเด็กกว่าเขาเจ็ดปี เพราะปีนี้เขาย่างยี่สิบเก้าแล้ว
“ที่คุยค้างไว้ เราบอกว่าเป็นเจ้าของไร่แสงตะวัน ยังไงเหรอ”
“อ้อ... คือจริง ๆ แล้วหนูเป็นคู่หมั้นของคุณเผ่าเพชร เจ้าของไร่น่ะค่ะ แต่พ่อกับแม่เห็นว่าหนูยังเด็ก เลยส่งพี่สาวมาแต่งงานแทน ฟังดูเหมือนนิยายไหมคะ แต่ก็เรื่องจริงแหละ ถ้าหนูรู้สักนิดว่าพ่อเลี้ยงเผ่าเพชรรวยขนาดนี้ หนูมาแต่งเองแล้ว” ลันลดาพูดไปเรื่อย แต่ท้ายประโยคเธอตั้งใจพูดเล่นเสียมากกว่า
หญิงสาวไม่มีทางรู้เลยว่าคนที่นั่งข้าง ๆ คิดตามคำพูดเธอทุกคำ กรามแกร่งบดเข้าหากันจนเป็นสันนูน เมื่อคิดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ใสซื่ออย่างที่ตาเห็น เพราะในใจของเธอก็ยังหวังที่จะได้เป็นเจ้าของพ่อเลี้ยงเผ่าเพชร ไม่อย่างนั้นคงไม่มาคุยหรอกว่าตัวเองเป็นเจ้าของแสงตะวันตัวจริง
คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็ขับรถฝ่าสายฝนออกไป เขาจะปล่อยให้เธอไปถึงไร่แสงตะวันไม่ได้ อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะพ่อเลี้ยงกับนายหญิงกำลังมีความสุข ไหนจะนายน้อยที่อยู่ในท้องอีก คงไม่ดีแน่ถ้ายายนี่จะโผล่ไป ถึงเธอจะทำเหมือนไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องนั้นแล้ว แต่ครอบครัวนี้ไม่ปกติ พ่อแม่รักลูกลำเอียงจนน่าเกลียด เกิดยายบ้านี่ร้องอยากได้คุณเผ่าขึ้นมา แล้วพ่อแม่บ้าจี้ตาม นายหญิงคงต้องเสียใจอีกแน่นอน
รถทั้งคันเงียบสนิท เมื่อคนขับต้องใช้สมาธิในการขับ ใบหน้าสวยหันไปมองซีกหน้าคมคาย ก่อนจะฉีกยิ้มหวานให้เขา เมื่อคิดว่าเขากำลังทำเพื่อเธอ รีบขับฝ่าสายฝนเพื่อที่เธอจะได้ไปถึงไร่แสงตะวัน เร็ว ๆ
‘พี่ปอขา ป่านคิดถึงพี่ปอ ป่านมีเรื่องจะคุยกับพี่ปอตั้งหลายเรื่อง ป่านอยากจะบอกพี่ปอว่าป่านรักพี่ปอที่สุดเลย’
คำพูดเหล่านี้ถูกคิดวนไปมาในหัว เมื่อลันลดากำลังหาคำพูดที่ดีที่สุดไปบอกกับพี่สาว เธออยากขอบคุณลลนาที่เสียสละมาแต่งงานแทนเธอ
คุณประกรวางเสียมที่ขุดดินในมือลง เมื่อเผ่าเพชรเดิน มาทางเขา ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาเงยขึ้นมอง เมื่อลูกเขยมายืนค้ำหัว ผู้สูงวัยยิ้มให้ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้น แล้วหันมายืนเผชิญหน้ากับเจ้าของบ้านสองอาทิตย์แล้วที่เขากับภรรยามาอยู่ที่ไร่แสงตะวัน จากที่ตั้งใจจะมาเยี่ยมลูกสาวแล้วกลับเลย แต่ก็ต้องอยู่ยาว เมื่อลูกสาวคนโต กลายร่างเป็นเด็กน้อยขี้อ้อน อ้อนพ่ออ้อนแม่ให้อยู่กับเธอทุกวัน แถมลูกสาวคนเล็กของเขาก็เงียบหาย ทั้งที่บอกว่าจะตามมาที่ไร่แสงตะวัน ลันลดาน่าจะหนีไปเที่ยวที่อื่น เลยไม่ตามมา ลูกคนเล็กของเขาไม่ได้เป็นเด็กหัวอ่อนอย่างที่ใคร ๆ คิด พี่เป็นยังไง น้องก็เป็นอย่างนั้น แต่จะติดที่ขี้โรคไปสักหน่อย “ทำอะไรอยู่ครับ”เผ่าเพชรเอ่ยถาม เมื่อเห็นพ่อตาวางเสียมในมือลงพื้น“พรวนดินแปลงกุหลาบน่ะ เห็นมันออกดอกสวยดี” คุณประกรตอบ ก่อนจะมองไปที่กระดาษที่ลูกเขยยื่นมาให้ตรงหน้า“อะไร”“โฉนดที่ดินครับ ผมคืนให้คุณ”คำตอบของคนหนุ่มทำให้หัวคิ้วของคนสูงวัยขมวดเข้าหากัน ที่ดินที่เผ่าเพชรพูดถึง ครั้งหนึ่งมันก็เคยเป็นของเขา เป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย แต่เมื่อมันตกมาอยู่ในมือของเขา เขาก็ขายมันทิ้งอ
ภาพตรงที่ปรากฏตรงหน้าทำให้ลันลดาเข้าใจทุกอย่าง นี่น่ะหรือ... ห้องพักที่ฝ่ายบุคคลเตรียมให้เธอ มีสภาพไม่ต่างจากห้องเก็บของ ทั้งรกและสกปรก แบบนี้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย นอกจากถูกแกล้ง น้องหมาบางตัวยังมีที่นอนที่ดีกว่าเธอเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ช่างเถอะ เมื่อคิดที่จะอยู่ก็ต้องอยู่ให้ได้ สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือความสะอาด แล้วหลังจากนั้นเธอจะไปคุยกับผู้ชายคนนั้น จะขอกระเป๋าเสื้อผ้า กระเป๋าสตางค์ และข้าวของทุกอย่างของเธอคืนมา เพราะตอนนี้เธอ ไม่คิดหนีไปไหนแล้ว จะอยู่ที่นี่ จะทำให้คนพวกนั้นรู้ว่าเวลาที่ถูก แรงโน้มถ่วงของโลกดึงให้ตกต่ำมันเจ็บแค่ไหน“ฉันอยากได้ไม้กวาด กับอุปกรณ์ทำความสะอาด จะไปเอาจากตรงไหน”หันไปถามคนที่พาเธอมาส่ง แต่กลับได้ริมฝีปากที่บิดเบ้เป็นคำตอบ “ก็หาเอาเองสิยะ”“เธอชื่ออะไร!” ถามเสียงห้วนจัด“มีตาก็อ่านเองสิ ว่าแต่อ่านออกไหมจ๊ะ”ผู้หญิงคนนั้นชี้ไปที่ป้ายชื่อของตัวเอง ลันลดาอ่านรวดเดียวแล้วจำได้ขึ้นใจ ‘กานดา สุดละม่อม’ แผนกทำความสะอาด เธอจะเป็นอีกคนที่ได้เดินตามผู้หญิงสามคนนั้นออกไปลันลดาคิดในใจ ก่อนจะเริ่มมองหาอุปกรณ์ทำความสะอาด เมื่อไม่มีของเก่าให้เธอใช้ก็แกะขอ
ทันทีที่เดินมาถึงห้องฝ่ายบุคคล กาญจนาก็ยื่นกระดาษ มาตรงหน้า ลันลดาปรายตามองเพราะสิ่งที่เธอสนใจ คือผู้หญิงคนที่อยู่ตรงหน้าเธอนี่ต่างหาก“นั่งลง แล้วกรอกประวัติตามหัวข้อให้ครบ ใส่ชื่อที่อยู่เบอร์โทร. ให้ชัดเจน อ้อ... แล้วก็ชื่อคนที่เธอรู้จักในโรงแรมนี้ด้วยนะ”กาญจนาสั่ง ถึงอาคมจะแจ้งเรื่องพนักงานใหม่ให้เธอทราบแล้ว แต่เธอก็อยากเบ่ง ยิ่งเป็นคนที่อาคมพามา เธอยิ่งต้องสัมภาษณ์ให้ละเอียด ให้มันรู้บ้างว่าใครใหญ่ คิดจะอยู่ที่นี่ก็ต้องอยู่ให้เป็นลันลดาเลื่อนเก้าอี้แล้วนั่งลง ดึงกระดาษแผ่นนั้นมาอ่านคร่าว ๆ ก่อนจะเขียนชื่อนามสกุลและประวัติอื่น ๆ ลงไป เธอเขียนชื่อและนามสกุลจริง เพราะคิดว่าไม่มีอะไรต้องปิดบัง“คิดจะทำอะไร”คำถามที่คนฝั่งตรงข้ามส่งมา ทำให้ลันลดาเงยหน้าขึ้นจากกระดาษที่กำลังเขียนอยู่“คะ?” ขานรับเพราะไม่เข้าใจคำถาม“เข้าไปวุ่นวายเรื่องของชาวบ้าน คิดว่าตัวเองเป็นใคร”กาญจนาไม่อ้อมค้อม เพราะเธอเห็นการกระทำของผู้หญิงคนนี้ ตั้งแต่ตอนที่วิ่งเข้าไปขวางคนของเธอลันลดามองหน้ากาญจนา ผู้หญิงคนนี้น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับพี่สาวเธอ หรืออาจจะมากกว่านั้น เพราะเธอเห็นริ้วรอยบริเวณหางตาที่เจ้าตัวพยายา
เมื่อคุยกันรู้เรื่องและทำความเข้าใจกันแล้ว ดวงเดือนก็จัดแจงให้หญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวใหม่ โดยเธอลงมาเบิกชุดพนักงานทำความสะอาดที่แผนกขึ้นไปให้ แต่ระหว่างทางก็ถูกกาญจนาเรียกไปซักฟอกชุดใหญ่ ถึงเหตุการณ์ที่คนเอาไปพูดกัน เรื่องผู้บริหารหนุ่มกับพนักงานใหม่ดวงเดือนเองก็ยังแปลกใจไม่หาย เพราะข่าวไปเร็วกว่าที่เธอคิด แทนที่เธอจะได้เป็นคนแรกที่ได้เล่าเรื่องนี้ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะกาญจนาก็ยังให้เงินเธอ และสั่งให้พาพนักงานใหม่ลงไปรายงานตัวที่ฝ่ายบุคคล ต่อให้เป็นคนของอาคมก็เถอะ แต่กฎก็ต้องเป็นกฎ ถ้าคิดจะอยู่ที่นี่ลันลดาก็ต้องอยู่ใต้คำสั่งกาญจนา เพราะเธอมีสิทธิ์ที่จะให้ใครอยู่หรือออกก็ได้ตามอำนาจของฝ่ายบุคคล ลันลดาไม่อยากทำให้ดวงเดือนเดือดร้อน หลังจากกินข้าวเช้าในห้องอาหารของพนักงาน เธอจึงตามดวงเดือนไปพบกับฝ่ายบุคคล เพราะต้องเบิกชุดและอุปกรณ์ที่จะใช้ทำความสะอาดของตัวเองด้วยระหว่างทางเธอเห็นผู้หญิงกลุ่มหนึ่งยืนจับกลุ่มคุยกัน แต่ถ้าสังเกตดี ๆ เหมือนล้อมอะไรไว้มากกว่า หญิงสาวหยุดดู พยายามมองให้ชัด ๆ แต่ถูกดวงเดือนดึงแขนให้เดินตามไปเร็ว ๆ ดวงเดือนและคนที่ทำงานในนี้จะเห็นภาพแบบนี้จนชินตา แต่ลันลดาเพิ่งมาอ
แม้จะพยายามดิ้นรนช่วยเหลือตัวเอง แต่เมื่อถูกผู้ชายที่ มีกำลังมากกว่าเข้าล็อกตัว ลันลดาก็สู้ไม่ได้ อาคมมองภาพตรงหน้าด้วยความสะใจ เมื่อเห็นนางมารน้อยถูกจับมือไพล่หลัง แล้วมัดจนข้อแขนแดงช้ำ จังหวะที่ตากลมโตตวัดมามองเขา ความจุกที่ยังหลงเหลืออยู่ก็เพิ่มขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เห็นตัวเล็ก ๆ แบบนี้หมัดหนักไม่เบาเลยนะ ทำเขาจุกเกือบตายในขณะที่ดวงเดือนมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง ผู้บริหารหนุ่มรูปงาม สุภาพ และใจดี สั่งมัดผู้หญิงได้ลงคอเลยหรือ แสดงว่าสองคนนี้ต้องมีเรื่องราวระหว่างกัน ไม่ได้แล้ว..... เธอต้องเหยียบเรื่องนี้ให้กระจาย สาว ๆ ทุกคนจะได้รู้กันว่าคุณคมมีผู้หญิงซ่อนอยู่ในห้องนอน โดยเฉพาะกาญจนา นางอยากให้เธอมาเห็นเหตุการณ์ตอนนี้จริง ๆ“ป้าครับ”“คะ!”ดวงเดือนสะดุ้งสุดตัวเมื่ออาคมเรียกชื่อเธอ กำลังคิดอะไร เพลิน ๆ เลยพาให้ตกใจ จังหวะที่หันกลับมาไม้ถูที่อยู่ในมือแทบจะทิ่มหน้าเขา“ไม้ถูนั่น จะยกขึ้นอีกนานไหมครับ”อาคมยังคงความสุภาพเอาไว้ แม้จะขายหน้าก็ตาม ดูเอาเถอะ ทั้งแม่บ้าน ทั้ง รปภ.ต้องมาเห็นเขาในสภาพนี้ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น เพราะยายตัวเล็กนี่คนเดียวเลย ที่ทำให้เขาเกือบเสียระบบการปกครอง“อ
ลันลดาช้อนตาขึ้นมองเขาก่อนจะยิ้มหวานเต็มหน้า ทั้งที่ใจเต้นแรงจนแทบกระดอนออกมานอกอก เธอต้องเป็นเด็กดี รักษาคำพูด และทำให้เขาตายใจ“ขออนุญาตนะคะเฮียขา ถอดแล้วให้ป่านอาบน้ำให้ด้วยเลยไหมคะ” พูดพร้อมกับส่งมือบางที่สั่นน้อย ๆ ไปแกะกระดุมเสื้อที่เหลือออกจนหมด ตาคู่สวยมองไปตามผิวเนื้อเรียบตึง ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อเห็นกล้ามเนื้อท้องเป็นลอนของเขาใจเย็น ๆ ไว้ป่าน อย่าตื่นเต้น.... แกก็เคยเห็นผู้ชายเปลือยออกบ่อยไป นี่แค่เด็ก ๆ ถ้าเทียบกับหนุ่ม ๆ ที่เธอเคยส่องดู มือบางดึงเสื้อเขาออกจากไหล่ เขย่งปลายเท้าขึ้นอีกนิด เขาสูงเกินไป ไอ้เฮีย ตกลงแกเป็นง่อยเหรอ ถอดให้จนหมดแล้ว ขยับไหล่นิดเดียวเสื้อก็หลุดพ้นตัว แต่นี่เขายังยืนนิ่งไม่หือไม่อืออะไรสักอย่างอาคมตกใจกับการกระทำของหญิงสาวไม่น้อย ที่อยู่ ๆ ก็ลุกขึ้นมาเป็นนางยั่วเสียอย่างนั้น เมื่อกี้ยังร้องกรี๊ด ๆ อยู่เลย “เฮียขาขยับแขนหน่อยค่า ป่านถอดเสื้อไม่ได้”เขย่งก็แล้ว กระโดดก็แล้ว ตกลงที่อยู่ตรงหน้าเธอคนหรือต้นตาลกันแน่ ทำไมถึงได้สูงใหญ่ขนาดนี้ อาคมขยับแขน สลัดเสื้อออกจากตัว เกือบจะถอยหนีเหมือนกัน เมื่อยายตัวดีทำเหมือนตั้งใจเอาก้อนเนื้อนุ่ม มาถูไถกั