LOGIN
ความทรงจำทั้งหมดหายไป ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าตนเองมีคนรักคอยเอาอกเอาใจอยู่ข้าง ๆ ทว่าความฝันในทุก ๆ คืนกลับไม่ใช่น้ำเสียงความนุ่มนวลอย่างที่เขาเคยพบเจอ ความทรงจำนั่นมันคืออะไรกันนะ
คำนำ
ไป๋จิ้งเซียน บุรุษร่างกำยำในคราแรกเขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตนเองมีนามว่าอะไร ความทรงจำที่มีทั้งหมดตั้งแต่เยาว์วัยจนถึงตอนนี้เขาไม่สามารถจำได้ไม่ว่าจะนึกเท่าไหร่ก็เจ็บที่สมองทุกครา แม้ไม่มีความทรงจำแต่ก็ยังมีเรื่องดีกับเขาอยู่หนึ่งอย่างคือคนรักที่อยู่ข้างกายคอยเอาอกเอาใจไม่ว่าต้องการอะไรเพียงเอ่ยปากเขาก็หามาให้ได้เสมอ เพราะเขาคือองค์ชายห้า หลิวจื่อถง คนแรกที่จิ้งเซียนลืมตาขึ้นมาและพบเขาคอยอยู่ข้าง ๆ และบอกว่าทั้งสองรักกันมากเพียงใด
เขารับความรักจากจื่อถงจนไม่อยากรู้ความทรงจำที่ผ่านมา จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้พบกับ ท่านชินอ๋องจินฟาน ความรู้สึกหลากหลายอย่างเข้ามาในสมองอย่างพรั่งพรู แต่ก็นึกไม่ออกเสียที สีหน้าแววตาที่เขาจ้องมองช่างเศร้าและเหงาใจแถมยังดีใจที่ได้พบเขา ไม่ทันได้เอ่ยพูดคุยกันเพียงครึ่งคำเสียงเข้มขรึมดังขึ้นด้านหลังจับกายของจิ้งเซียน พร้อมกับป่าวประกาศเสียงดัง ว่าเขาคือคนรักขององค์ชายห้า ชายตรงหน้าเหมือนจะร่ำไห้ ท่าทีของเขาช่างคาใจของจิ้งเซียนเสียจริง เรื่องนี้เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าท่านชินอ๋องเคยรู้จักเขาหรือไม่
นิยายเรื่องนี้แต่งตามความเข้าใจของนักเขียนเท่านั้น ไม่ได้อ้างอิงตามประวัติศาสตร์ ตัวละครเหตุการณ์สถานที่ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องสมมุติอาจจะไม่สมเหตุสมผมโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ตำหนักจุ้ยเชียง
ภายในห้องยามเฉินคู่รักนอนแนบชิดอยู่บนเตียงเดียวกัน ร่างกำยำสูงโปร่งใช้แขนตนเองเป็นหมอนให้อีกฝ่ายได้นอนหนุนสายตาจ้องมองแพขนตาที่หลับสนิทด้วยความรักและหวงแหน มืออีกข้างที่กอดร่างเล็กกว่าตนค่อย ๆ เลื่อนมาแตะใบหน้าลูบอย่างเบามือจนอีกฝ่ายรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
“อื้อ ..องค์ชายตื่นบรรทมแล้วหรือพะย่ะค่ะ”
“ข้าบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือให้เรียกข้าว่าอะไรในยามที่อยู่ด้วยกันเพียงลำพัง เหตุใดเจ้าถึงความจำสั้นเช่นนี้ข้าจะย้ำเตือนความทรงจำให้เจ้าเอง ” มือซุกซนเลื่อนลงจากใบหน้าต่ำลงจนถึงจุดกระสันแก่นกลางพลางค่อย ๆ ลูบจนแท่งร้อนตื่นตัวอีกฝ่ายเสียวซ่านจนเกินจะต้านงอตัวเอ่ยชื่อเขาด้วยน้ำเสียงสั่นระริก
“พี่จื่อถงได้โปรดเมตตาข้าด้วย ทั้งคืนข้าแทบไม่ได้นอนหากเช้านี้ท่านทำอีกครั้งข้าคงไม่มีเรี่ยวแรงก้าวเท้าลงจากเตียงนอนของท่านเป็นแน่แท้” เขายังคงไม่หยุดนิ่งทำราวกับว่าเสียงของอีกฝ่ายเป็นเพียงกระแสลมพัดผ่านเท่านั้น
“ไม่เห็นจะยากอันใด เจ้าไร้เรี่ยวแรงก็จงนอนอยู่บนเตียงจนกว่าจะมีแรงในตำหนักนี้ไม่มีผู้ใดมาต่อว่าเจ้าได้อย่าลืมสิว่าเจ้าคือคนรักขององค์ชายเช่นข้า” น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยขึ้นกระซิบข้างหู ก่อนที่เขาจะประกบปากจูบไม่ให้ตอบโต้หรือพูดอะไรต่อไปได้ ทั้งสองเริ่มคลอเคลียมือหนาล้วงเข้าไปในผ้าคุมด้านล่างจับแท่งร้อนที่ตั้งผงาดค่อย ๆ ชักขึ้นลงอย่างช้า ๆ จิ้งเซียนดิ้นพล่านทุรนทุราย ร่างกายร้อนผ่าวแท่งร้อนเริ่มสู้มือตั้งชูชันมากกว่าเดิม ลิ้นสากยังคงไม่หยุดที่จะควานหาความหอมหวาน ลมหายใจของทั้งคู่ดังกึกก้องไปทั่วสอง จนกระทั่งแท่งร้อนของจิ้งเซียนพ่นน้ำขาวขุ่นออกมาเมื่อถึงจุดสูงสุด ลมหายใจเหนื่อยหอบใจเต้นแรงราวกับจะระเบิดออกมาด้านนอก ร่างใหญ่ค่อย ๆ ปลดริมฝีปากออกมาพร้อมดันกายของจิ้งเซียนให้นอนหันหลัง ใช้มือแตะลงที่แผ่นหลังจับขาทั้งสองตั้งฉากให้ห่างกัน พร้อมจับท้องให้แอ่นบั้นท้ายขึ้นมาให้พอดีกับตัวของเขาตอนนี้
“ตอนนี้ข้าทำให้เจ้ามีความสุขครานี้เป็นเจ้าที่ต้องทำให้ข้ามีความสุข ข้าจะค่อย ๆ ทะนุถนอนเจ้าเป็นอย่างดี” พูดจบมือหนาแตะลงที่รูพับจีบใช้นิ้วลูบไล้เบา ๆ ก่อนจะจับแท่งเอ็นของตนเองที่แข็งรอพร้อมการเข้าไปทะลวงรักในรูพับจีบที่ยั่วยวนอยู่ตรงหน้าครานี้
พรุบ !
“อึก ....พี่จื่อถงมันลึกเกินไปขอรับ ท้องของข้าจุกไปหมดแล้ว เหมือนว่าของท่านมันไปขยายใหญ่ในตัวของข้า”
“นั่นเป็นเพราะร่างกายของเจ้า ข้าต้องการมันเสียจนไม่อยากครอบครองอะไรนอกจากเจ้าเพียงผู้เดียว”
ตับ ตับ
“อึก อ๊า อ๊า ข้าเสียว เสียวเหลือเกินขอรับ ” เสียงร้องครวญครางยิ่งกระตุ้นให้อีกคนโยกเอวกระแทกแรงมากกว่าเดิม ไม่นานนักความสุขของเขาก็เสร็จสมหวัง น้ำรักขาวขุ่นค่อย ๆ ทะลักออกมาจากรูพับจีบเมื่อเขาถอดเอ็นใหญ่ที่ยังแข็งตัวอยู่ไม่รู้เหน็ดเหนื่อยแต่หากจะทำต่อก็สงสารจิ้งเซียนที่แทบไม่ได้นอนเกือบทั้งคืน อีกทั้งรูพับจีบที่เขาครอบครองนี้แดงบวมเป่งจึงยอมผละกายออก
“เจ้านอนต่อเถอะนะ สาย ๆ ข้าจะให้ขันทีมาตาม”
จิ้งเซียนเอนกายนอนลงบนเตียงแม้จะร่างกายแข็งแกร่งเพียงใดความเสียวซ่านเมื่อครู่ทำให้เขาแทบไม่อยากจะดิ้นลงจากเตียง ยิ้มรับองค์ชายก่อนจะหลับตาลงช้า ๆ พักผ่อนต่ออีกสักหน่อยตามที่เขาบอก จื่อถงดึงผ้าห่มมาห่มกายของจิ้งเซียนก่อนจะหยิบอาภรณ์มาสวมใส่เดินออกไปนอนกห้องบรรทมเพื่อให้คนรักของตนได้พักผ่อน
องค์ชายหลิวจื่อถงคอยดูแลทะนุถนอมจิ้งเซียนราวกับว่าเขาคือสิ่งเดียวในโลกที่เขาเหลืออยู่ ไม่ว่าจิ้งเซียนต้องการสิ่งใดหรือมีสิ่งใดที่เขาชอบมักจะสั่งการให้ขันทีจัดหามาไว้รอ วันนี้ก็เช่นเดียวกัน เขาเดินออกมานั่งที่ห้องโถงของตำหนักเรียกขันทีที่คอยอยู่หน้าห้องให้เข้ามาหาตนเอง
“ขันทีหย่งอู่เจ้าอยู่ข้างนอกหรือไม่ ?”
“พะย่ะค่ะองค์ชาย กระหม่อมอยู่นี่พะย่ะค่ะ”สิ้นเสียงของจื่อถงขันทีหย่งอู่รีบเข้ามาในห้องโถงทันที
“เจ้าไปบอกให้นางกำนันเตรียมดอกเหมยกุ้ยฮวาไปโรยอ่างอาบน้ำพร้อมเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้จิ้งเซียนที เมื่อไหร่ที่นางกำนันเตรียมเสร็จเจ้าช่วยไปปลุกเขาชำระร่างกาย วันนี้ข้าจะพาเข้าไปที่เรือนตระกูลไป๋ นานมาแล้วที่เขาไม่ได้กลับเรือนคงดีใจไม่น้อย”
“กระหม่อมน้อมรับพระบัญชาพะย่ะค่ะ” ขันทีหย่งอี้เหลือบตามองใบหน้าองค์ชายคราหนึ่งก่อนจะก้มคำนับลงเพื่อไปทำตามคำสั่ง ไม่คิดว่าองค์ชายของตนเองจะรักชายผู้นั้นมากถึงเพียงนี้ เขาทำทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่ปิดบังทุกอย่าง และสร้างโลกใหม่ขึ้นมาเพื่อให้จิ้งเซียนอยู่ข้าง ๆ
ตอนที่ 5 คิดถึง ตึง ตึง เสียงกลองตีบอกเวลาในยามห้า นางกำนัลในตำหนักตื่นแต่เช้าตรู่ทำหน้าที่ของตนเองอย่างแข็งขัน ร่างใหญ่นอนหลับอยู่บนเตียงดิ้นไปดิ้นมาก่อนจะรู้สึกว่าตอนนี้ข้างกายของเขามีไออุ่นอีกคนนอนกอดตนเองอยู่“อื้อ องค์ชายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ขอรับ ท้องฟ้ายังไม่สว่างเลยนี่น่า”“ข้ารบกวนทำให้เจ้าตื่นหรือ? จะทำอย่างไรได้เล่าข้าคิดถึงเจ้าจนไม่อาจจะข่มตาหลับได้ เจ้านี่นะช่างใจร้ายไม่คิดถึงข้าแม้แต่น้อยกลับหลับสบาย อย่างนี่ต้องลงโทษหน่อยแล้ว” จื่อถงชันแขนขึ้นจ้องมองใบหน้าอีกฝ่ายอย่างหลงใหล แสงสว่างจากโคมไปด้านนอกสาดส่องเข้ามาเผยให้เห็นใบหน้าสลัว ๆ มืออีกข้างไม่อยู่นิ่งคืบคลานเข้าไปใต้ผ้าห่มลูบคำใต้สะดื้อจนอีกฝ่ายต้องส่งเสียงประท้วง“องค์ชายอย่าซุกซนนักสิขอรับ”“ข้าบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือ อยู่กับข้าจงเรียกชื่อของข้าอีกอย่างข้ามิได้ซุกซนเพียงแต่นี่คือบทลงโทษที่เจ้าต้องพบเจอต่างหากดูสิมันสู้มือข้าขนาดนี้ จะให้ข้าหยุดได้อย่างไร" จื่อถงไม่หยุดเพียงเท่านั้นล้วงเข้าไปจับแท่งร้อนที่กำลังตั้งชูชันสู้มือของเขา จิ้งเซียนเริ่มดิ้นทุรนทุรายเมื่อมือหนาจับบีบเคล้นคลึงด้านล่าง ร่างกายเริ่มร้อนผ่าววาบหวิ
ตอนที่ 4 ความฝันประหลาดภายในห้องกว้างใหญ่ องค์ชายจื่อถงนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องของตนใบหน้าเคร่งเครียดทำให้ขันทีหย่งอู่รู้สึกได้“องค์ชายมีอะไรเรียกใช้กระหม่อมหรือพะย่ะค่ะ หรือว่าการไปเยือนที่เรือนตระกูลไป๋มีเรื่องอันใดผิดพลาด กระหม่อมน่าจะตามไปตั้งแรก”“มิใช่เรื่องนั้น ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าความทรงจำของจิ้งเซียนจะหวนคืนกลับมา ข้าจะต้องทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เขาจำได้จนกว่าเขาจะหลงรักข้าจนหมดหัวใจและหนีไปจากข้าไม่ได้ หากเขาต้องการหนีข้าจะกักขังเขาเอาไว้ข้างกายของข้า เจ้าไปกำชับนางกำนัลและทหารทุกคนในตำหนักแห่งนี้ อย่าได้เอ่ยถึงเรื่องราวความหลังของจิ้งเซียนหรือแม้แต่ชื่อจริงของเขา ”“พ่ะย่ะค่ะ แต่ว่าการห้ามมิให้จำเรื่องของตนเองในอดีตนั้นช่างยากนัก เรื่องนี้กระหม่อมไม่มั่นใจว่าจะพยายามปกปิดได้นานเพียงใด หากว่าวันหนึ่งจิ้งเซียนจำเรื่องราวทุกอย่างได้ เขาจะไม่โกรธเคืองหรือเสียใจที่องค์ชายทำเช่นนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ เมื่อนั้นอย่าว่าแต่ความรักจากเขาเลย ความเชื่อใจไว้ใจและความรักที่มีให้องค์ชายอาจจะจบสิ้นลงและผู้ที่จะเจ็บปวดก็คือองค์ชายเอง”“ไม่ข้าไม่มีทางให้เป็นอย่างนั้นเด็ดขาด เพราะฉะนั้นข้าต้องทำทุกอย่างเ
ตอนที่ 3 เดินเล่นตลาดฮุ่ยซานชื่อเสียงเลื่องลือการตีดาบ ผู้คนส่วนมากที่มาเดินจะเป็นทหาร หรือขุนนางเสียส่วนใหญ่ กลิ่นไอเหงื่อ เหล็กสนิทที่ถูกตีคละคลุ้งในอากาศ ทั้งสองมาถึงตลาดดวงตะวันเริ่มคล้อยต่ำลงจึงรีบเดินตรงไปยังร้านที่องค์ชายจื่อถงเลือกเอาไว้แล้ว“เถ้าแก่ข้าต้องการมีดเล็กเอาไว้ป้องกันตัว ขอเป็นเหล็กกล้าอย่างดีที่ร้านของท่านคงมีอย่างที่ข้าต้องการใช่หรือไม่?” เถ้าแก่ร้านตีมีดร่างกายกำยำกำลังตีมีดที่หล่อหลอมด้วยเปลวเพลิง หยุดชะงักดึงผ้าปิดหน้าลงและหันกลับมามองผู้มาเยือน ทันทีที่เห็นว่าเป็นผู้ใดเขารีบวางมือลงและต้อนรับองค์ชายเป็นอย่างดี“ขออภัยองค์ชายหลิวจื่อถง ข้ากำลังตีดาบอยู่ไม่ทันได้สังเกตว่าองค์ชายมาเยือนที่ร้านเล็ก ๆ ของข้า มีดเล็กที่ท่านต้องการร้านของข้าย่อมมีทว่ายังตีไม่เสร็จ หากท่านต้องการจริง ๆ เอาไว้อีกสามวันให้หลังค่อยมาเอาได้หรือไม่ขอรับ” จื่อถงฉีกยิ้มมุมปาก ก่อนจะตอบตกลง“ได้อีกสามวันข้าจะมาเอา ข้าหวังว่ามีดเล็กของข้าจะออกมางดงามเพราะข้าต้องการให้เป็นของขวัญให้แก่คนของข้า” เถ้าแก่ร้านเหลือบไปมองด้านหลังเห็นชายร่างใหญ่ก็พอเข้าใจว่าเขาต้องการมีดเล็กให้แก่คนด้านหลังแน่แท้“
ตอนที่ 2 เยี่ยมเรือนตระกูลไป๋ เวลาผ่านไปไม่นานจิ้งเซียนชำระล้างกายแต่งกายด้วยผ้าไหมสีม่วงงดงาม สะท้อนให้เห็นถึงฐานะ“เจ้าช่างงดงามเสียจนข้าไม่อยากให้เจ้าออกไปด้านนอกสู่สายตาผู้อื่น อยากจะจับเจ้าขังไว้ในตำหนักนี้มีเพียงแต่ข้าเท่านั้นที่ได้จ้องมองเจ้าเพียงผู้เดียว” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมา นางกำนัลรีบพากันปลีกตัวออกไปเมื่อเห็นองค์ชายห้าเดินเข้ามาด้านใน “ท่านกล่าวเกินไปแล้วขอรับ ผู้ใดอยากจะถูกจับขังอยู่ในกรงกันเล่าข้ามิใช่นกน้อยที่ท่านชอบเลี้ยงเสียหน่อย อีกอย่างองค์ชายต่างหากที่ดูยามข้าเดินตามหลังท่านทุกสายตาของนางกำนัลหรือแม้แต่บุตรสาวของขุนนางต่าง ๆ มันจะตามมาทางท่านเป็นตาเดียว” “จิ้งเซียนเจ้าหึงหวงหรอกหรือ? ช่างเป็นเรื่องที่น่าดีใจจริง ๆ ที่เจ้ารักข้าจนไม่อยากให้ผู้ใดเห็นข้า ตอนนี้เจ้าแต่งกายเสร็จแล้วออกไปกินอาหารเขช้ากันเถอะ วันนี้ข้าจะไปเจ้าไปเยือนท่านพ่อท่านแม่ของเจ้า ตอนนี้เกี้ยวจัดเตรียมรอเจ้าที่หน้าตำหนักแล้ว” จื่อถงยื่นมือให้คนตรงหน้าจับประคองและพากันเดินออกมา ในตำหนักไม่มีผู้ใดกล้าแม้จะเงยหน้ามองเมื่อทั้งสองเดินผ่าน “องค์ชายให้กระหม่อมเดินทางไปด้วยดีหรือมั้ยขอรับ” ขันทีหย่งอ
ความทรงจำทั้งหมดหายไป ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าตนเองมีคนรักคอยเอาอกเอาใจอยู่ข้าง ๆ ทว่าความฝันในทุก ๆ คืนกลับไม่ใช่น้ำเสียงความนุ่มนวลอย่างที่เขาเคยพบเจอ ความทรงจำนั่นมันคืออะไรกันนะคำนำ ไป๋จิ้งเซียน บุรุษร่างกำยำในคราแรกเขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตนเองมีนามว่าอะไร ความทรงจำที่มีทั้งหมดตั้งแต่เยาว์วัยจนถึงตอนนี้เขาไม่สามารถจำได้ไม่ว่าจะนึกเท่าไหร่ก็เจ็บที่สมองทุกครา แม้ไม่มีความทรงจำแต่ก็ยังมีเรื่องดีกับเขาอยู่หนึ่งอย่างคือคนรักที่อยู่ข้างกายคอยเอาอกเอาใจไม่ว่าต้องการอะไรเพียงเอ่ยปากเขาก็หามาให้ได้เสมอ เพราะเขาคือองค์ชายห้า หลิวจื่อถง คนแรกที่จิ้งเซียนลืมตาขึ้นมาและพบเขาคอยอยู่ข้าง ๆ และบอกว่าทั้งสองรักกันมากเพียงใด เขารับความรักจากจื่อถงจนไม่อยากรู้ความทรงจำที่ผ่านมา จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้พบกับ ท่านชินอ๋องจินฟาน ความรู้สึกหลากหลายอย่างเข้ามาในสมองอย่างพรั่งพรู แต่ก็นึกไม่ออกเสียที สีหน้าแววตาที่เขาจ้องมองช่างเศร้าและเหงาใจแถมยังดีใจที่ได้พบเขา ไม่ทันได้เอ่ยพูดคุยกันเพียงครึ่งคำเสียงเข้มขรึมดังขึ้นด้านหลังจับกายของจิ้งเซียน พร้อมกับป่าวประกาศเสียงดัง ว่าเขาคือคนรักขององค์ชายห้า







