ตอนที่ 21 ต่างซ่อนเร้น ไอน้ำล่องลอยอยู่บนอากาศ เงาร่างหญิงงามนอนอยู่อ่างน้ำดูเลือนลางแฝงความเย้ายวน พลันก็มีเงาดำสายหนึ่งปรากฏขึ้น “เรียนนายหญิง วันนี้คุณหนูยังคงไปจับปลาเช่นเคยหลังจากนั้นนางยังไปช่วยเด็กสกุลเซียวขายที่ตลาด” หญิงงามในอ่างลืมตาขึ้นมาพลางยิ้มที่มุมปา
ตอนที่ 22 เอาคืน มู่ชิงกับมู่หลิงถูกจ้างให้มาคุ้มครองความปลอดภัยเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น ๆ พวกนางหาได้เกี่ยวข้องไม่ หวังชิงหว่านจะทำสิ่งใดพวกนางล้วนไม่คิดจะเอ่ยปากทักท้วงหรือติติง สิ่งที่ต้องเอ่ยก็เอ่ยไปหมดแล้ว บริเวณลานกว้างหน้าบ้านสกุลเซียว หวังชิงหว่านนั่งคู่กับเก
ตอนที่ 23 ช่วงเวลาเก็บเกี่ยวเรือนบุปผา ในราตรีที่ไร้จันทร์ แสงของหมู่ดาวพราวพร่างระยิบระยับ สายเงาดำสายหนึ่งวูบไหวเคลื่อนผ่านเข้าไปในเรือนบุปผา มันหยุดยืนนิ่งเมื่อเห็นในเรือนกำลังนั่งฝึกกำลังภายใจ ผ่านไปหนึ่งจอกชา เจ้าของเรือนก็ลืมตาขึ้น กล่าว “มีสิ่งใด?”
ตอนที่ 24 ครุ่นคิด กังวล ในห้องครัวจ้าวเหมยกับอิงฮว่ากำลังนั่งทานมื้อเช้าด้วยกัน อิงฮว่าหยิบเงินหนึ่งตำลึงออกมา จ้าวเหมยขมวดคิ้วถาม “เงินนี่คือ?” “ฮูหยินน้อยให้ข้ามาแบ่งกับท่าน...เมื่อเช้านางถามถึงครอบครัวข้า...นี่เป็นค่าใช้จ่ายให้ข้าเขียนจดหมายถึงพวกเขา”
ตอนที่ 25 ข้ารู้ทุกเรื่อง พรุ่งนี้เซียวอี้หยางต้องไปราชการที่จางโจว เขาให้คนมาแจ้งที่เรือนว่ามีเอกสารที่ยังจัดเตรียมไม่เสร็จ คาดว่าจะกลับดึกไม่ต้องรอทานมื้อเย็นและกว่าชายหนุ่มจะกลับหวังชิงหว่านก็เข้านอนไปแล้ว เช้ามืด หวังชิงหว่านลืมตาขึ้นมาเห็นเซียวอี้หยางกำลังจัดเตรียมของใช้
ตอนที่ 26 น้ำใสไร้ปลา คณะของกองคลังใช้เวลาเดินทางถึงสองวันกว่าจะมาถึงจางโจว นางอำเภอนำเหล่าขุนนางในท้องถิ่นมายืนรอรับที่ประตูเมือง “ผู้น้อยเฉิงคุนนายอำเภอจางโจว คารวะท่านเสนาบดีหวัง” เสนาบดีหวังลู่หานลงจากรถม้าแล้วเดินตรงไปยังกลุ่มขุนนาง ใบหน้าของเขาระบายยิ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียง
ตอนที่ 27 โน้มน้าว เซียวอี้หยางจับจ้องมองกระดาษที่กำลังถูกไฟไหม้จนกลายเป็นขึ้เถ้า ในแววตาชายหนุ่มครุ่นคิดอย่างกลัดกลุ้มกับข้อความในสารลับ “โน้มน้าวนางมาเป็นพวก” เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ประตู เขารีบดับไฟกระดาษแล้วแสร้งกำลังเขียนเอกสาร คนผู้นั้นไม่ได้เดินเข้ามาในห้อง
ตอนที่ 28 วาจา ทิ่มแทง ม้าวิ่งเร็วขึ้นเรื่อย ๆ หวังชิงหว่านอยากจะเอ่ยปากถามอีกทว่าก็เก็บคำพูดลงคอไป สายลมหนาวยะเยือกกระทบใบหน้าทำให้นางรู้สึกเหน็บหนาวเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เซียวอี้หยางบังคับม้าให้หยุดบนลานกว้างบนภูเขา เสียงลมพัดหวีดพัดบาดเสียดเข้าไปในหัวใจ ชายหน
“งดงามยิ่งนัก” จางซูอินพูดขึ้น “ในทุกปี…ฤดูหนาวเราจะมาที่นี่ดีหรือไม่” “ฮืม…” จางซูอินซบลงอกของชายหนุ่มด้วยท่าทางอ่อนคลาย แสดงความรักความสุขล้นออกมา เฉิงอ๋องโอบกอดหญิงสาวด้วยความอ่อนโยนก่อนใบหน้าก้มลงไป จางซูอินปิดเปลือกตาลง เคลิบเคลิ้มไปกับจูบอันอ่อนโยนของชา
เมื่อม่านราตรีโรยตัวลงมา เฉิงอ๋องก็ยังอดใจไม่ไหวไปเยือนห้องพักของจางซูอิน เมื่อบ่าวไพร่ปิดประตูออกจากห้อง เขาจึงปรากฏกาย แม้เฉิงอ๋องจะมาอย่างไร้สุ่มเสียงแต่คล้ายจางซูอินจะรู้ตัวอยู่ก่อนแล้ว นางชำเลืองมองชายหนุ่ม ใบหน้าระบายยิ้มบาง ๆ “ข้าเพียงอยากเจอหน้าเจ้าก่อนนอน” เ
หญิงสาวปรายตามองดูในตะกร้าจึงพูดขึ้น “ข้าซื้อทั้งหมดนี่ ท่านคิดราคามาได้เลย” พ่อค้าเห็นจางซูอินรับทั้งหมดก็ยิ้มหน้าบานดีใจ แต่สักพักใบหน้าชายหนุ่มกลับจืดขึ้นแล้วพูดว่า “คุณหนู ปลาพวกนี้รสชาติทานลำบากอยู่บ้าง ท่านจะลองซื้อไปทำทานดูสักตัวสองตัวก่อนดีหรือไม่” จาง
ผู้ที่ตื่นเต้นในการเดินทางครั้งนี้มากกว่าผู้ใดก็คือ เฉิงอ๋องเทพแห่งสงครามของแคว้นต้าเว่ย หลังจากนี้ทุกวันคืนเขาจะได้อยู่ร่วมกับซูซู เขาสั่งให้จงถังจัดเตรียมทุกอย่างด้วยตนเอง จนเมื่อถึงออกเดินทาง รถม้าหรูหราคันใหญ่มาจอดรอรับจางซูอินหน้าสกุลจางตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่
ตอนที่ 50 โกรธเป็นโง่ โมโหเป็นบ้า หลังราชโองการออกมา ผู้ที่ได้รับคำสั่งก็ต่างเตรียมตัวออกเดินทาง บรรยาศครื้นเครงต่างจากตำหนักบูรพาที่แม้กระทั่งเงาของก้อนเฆมก็ดูอึ้มครึมมากกว่าปกติ พระชายาเสิ่นจือ บีบผ้าในมือปิดจนเป็นเกลียวนางกัดริมฝีปากจนแทบจะเป็นแผล องค์รัชทายาทไม่ได้รับราชโ
หลังจากมื้อเที่ยงต้าเหยาก็เข้าวังทันที เมื่อไปถึงนางก็ไปคารวะพระสนมลู่ผินก่อน “พระมารดา ข้าคิดถึงท่านจังเลย” พระสนมลู่ลูบศรีษะต้าเหยาเบา ๆ พลางเอ่ยถามไถ่ เห็นสีหน้าแววตาของต้าเหยาเปล่งประกายเต็มไปด้วยความสุข ก็วางใจอย่างอบอุ่น หลังจากพูดคุยกัน ต้าเหยาก็บอกเล่าว่านางจะมา
ยามเช้าในต้นฤดูหนาวแสงแดดยังคงเจิดจ้า ฤดูการเปลี่ยนแปลงผู้คนก็ต้องการปรับเปลี่ยนการดำรงชีวิต เสียงพูดคุยหัวเราะดังแว่วมาจากในครัว จางซูอินเอียงหูฟังอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกล้างหน้าล้างตา เมื่อคืนเฉิงอ๋องอ้อยอิ่งอยู่ห้องนางไม่ยามจากไปทำให้นางนอนไม่เต็มอิ่มเท่าไรนัก หญิงสาวเลือกช
จางซูอินล้างหน้าเปลี่ยนอาภรณ์เมื่อเดินออกมาจากฉากกั้นก็เห็นร่างสูงโปรงอันคุ้นเคยนั่งอยู่บนโต๊ะน้ำชาด้วยท่าทางสบาย “ท่าน..เหตุใดมาอยู่ที่นี่” เฉิงอ๋องยิ้มให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยน เขาลุกขึ้นพลางเอาเสื้อคลุมขนสัตว์ห่อหุ้มกายของหญิงสาวพร้อมอธิบายอย่างใจเย็น “เจ้าเคยขอให้ข้าพาไป
สวี่ซื่อจัดการให้สาวใช้ไปตั้งแผงขายขนมส่วนตนเองก็ยังคงไปทำงานที่ร้านลู่เหยาเช่นเดิม จางซูอินก็ไม่ได้ห้ามปรามหรือให้แม้กระทั่งแสดงความคิดเห็น นางเพียงเฝ้ามองและคอยสนับสนุนเพียงเท่านั้น อากาศเริ่มเย็น หิมะเริ่มโปรยปราย จางเจินก็ถึงคราวยามออกเรือน แม้สกุลจางจะเป็นเพียงชาว