ตอนที่ 50 ชีวิตเรียบง่าย เซียวอี้หยางเดินเข้ามาในโรงเรือนองุ่น ใช้สายตาสำรวจครู่หนึ่งเมื่อมองเห็นร่างอรชนที่กำลังตัดแต่งกิ่งองุ่นอยู่ ก็เดินตรงเข้าไปหา กล่าวด้วยน้ำเสียงห่วงใย “แสงแดดยังเจิดจ้า...น้องหญิงไม่กลัวผิวแห้งกร้านหรือ” หวังชิงหว่านตัดกิ่งองุ่นแล้ววางลงตะก
ตอนที่ 51 สวรรค์ประทานพรท้องฟ้าแสงดาวระยิบระยับแสงจันทร์สาดส่อง สายลมราตรีพัดผ่านผ้าม่านปลิวไสว ในช่วงกระพริบตามีเงาดำสายหนึ่งเคลื่อนไหว มือของหลิวซูชะงักเล็กน้อยจากนั้นก็วางผ้าปักลงแล้วเอ่ยกับสาวใช้“พวกเจ้าไปพักเถอะ...ข้าจะเข้านอนแล้ว” สาวใช้ได้ยินเช่นนั้นก็พากันถอยออกไป แต่ไหนแต่ไรมาหลิวซ
ตอนที่ 52 ช่วงเวลางดงาม กลิ่นอายฤดูหนาวเริ่มมาเยือนอีกครั้ง ไม่เพียงแต่องุ่นของหวังชิงหว่านออกดอกออกผลเต็มสวน มันฝรั่งก็มีเรื่องราวให้ติดตาม ฮ่องเต้ตั้งชื่อให้ใหม่ว่า อี้โถว หลังจากได้ทดลองปลูกจนมั่นใจแล้วก็นำไปให้เหล่าขุนนางได้ชื่นชมในท้องพระโรง ขันทีหันมันเผาเป็นชิ้นเล็ก ๆ
หลี่ซูอิน นางเป็นเพียงหญิงสาวชาวบ้านสามัญทว่ากลับเป็นยอดสตรีที่ลือเลื่องทั้งด้านรูปโฉมและความสามารถช่วงชีวิตของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้นทั้งมีวาสนาและไร้วาสนาสูงสุดต่ำสุดและก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดก้าวกระโดดไปมาครั้งได้เกิดใหม่สิ่งที่ต้องหาใช่ลาภยศคือ ความเรียบง่าย สุขตามสถานะหลี่ซูอิน หญิงสาวสา
ขอบฟ้าเริ่มปรากฏแสงเรืองรอง แม่นางน้อยอายุเพียงสิบสี่สิบห้าผู้หนึ่งกำลังยืนเหม่อลอยริมแม่น้ำมองขอบฟ้าที่ยังไม่สว่างเต็มที่นางก้มมองส่องดูตนเองในแม่น้ำ เห็นเงาตนเองราง ๆ ยิ่งมองยิ่งรู้สึกเรื่องราวคล้ายเป็นดั่งความฝัน ความรักสุขสมหวังในชาติที่แล้วล้วนไม่มีประโยชน์ใด ๆหลังจากการตกน้ำคาดว่าจางซูอินจะก
เฉิงอ๋องอี้หยาง ตั้งใจจะอ้อยอิ่งนั่งประทับอยู่หอซูซู สักระยะ หากไม่ใช่เพราะรถม้าที่กำลังแล่นมาตรงมาที่นี่ ทำให้ชายหนุ่มลุกขึ้นสะบัดชายเสื้อกำลังจะเร้นกายออกไป ทว่าสายตาพลันสะดุ้งหยุดที่หญิงสาวชาวบ้านผู้หนึ่ง ที่กำลังยืนจ้องมองรถม้าคันนั้นอยู่ มือที่ประคบกุมกันอยู่เช่นนั้นสีหน้าท่าทางกั
วัดเสาหลางตั้งสง่าอยู่ยอดเขาภูเขาคุนหลุน เป็นวัดที่ชาวต้าเว่ยให้ความเคารพและศรัทธาเป็นอย่างมาก ในยามที่ก้อนเมฆล่องลอยผ่านต่ำทำให้คล้ายอยู่บนสรวงสวรรค์ทำให้จิตใจสงบเหมือนได้เร้นกายออกจากความวุ่นวายในศาลาเขตหวงห้าม เฉิงอ๋องกำลังเผากระดาษเงินให้ดวงวิญญาณดวงหนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและเงียบเหง
ตอนที่ 5 มีเงินคือเรื่องดี องค์หญิงต้าเหยาพาซูอินมายัง หอซูซู ซูอินได้รับความตระหนกจากเฉิงอ๋องจิตใจสั่นไหว การมาที่หอซูซูทำให้นางจิตใจสงบขึ้นมาบ้าง เมื่อมาถึงนางจึงเหลือเพียงชำเลืองสอดส่องมองหาบิดามารดาเท่านั้น ภายในห้องรับรองมิดชิดห้องหนึ่ง น้ำชา ขนมอาหารว่างล้วนวางเรียงอย
“งดงามยิ่งนัก” จางซูอินพูดขึ้น “ในทุกปี…ฤดูหนาวเราจะมาที่นี่ดีหรือไม่” “ฮืม…” จางซูอินซบลงอกของชายหนุ่มด้วยท่าทางอ่อนคลาย แสดงความรักความสุขล้นออกมา เฉิงอ๋องโอบกอดหญิงสาวด้วยความอ่อนโยนก่อนใบหน้าก้มลงไป จางซูอินปิดเปลือกตาลง เคลิบเคลิ้มไปกับจูบอันอ่อนโยนของชา
เมื่อม่านราตรีโรยตัวลงมา เฉิงอ๋องก็ยังอดใจไม่ไหวไปเยือนห้องพักของจางซูอิน เมื่อบ่าวไพร่ปิดประตูออกจากห้อง เขาจึงปรากฏกาย แม้เฉิงอ๋องจะมาอย่างไร้สุ่มเสียงแต่คล้ายจางซูอินจะรู้ตัวอยู่ก่อนแล้ว นางชำเลืองมองชายหนุ่ม ใบหน้าระบายยิ้มบาง ๆ “ข้าเพียงอยากเจอหน้าเจ้าก่อนนอน” เ
หญิงสาวปรายตามองดูในตะกร้าจึงพูดขึ้น “ข้าซื้อทั้งหมดนี่ ท่านคิดราคามาได้เลย” พ่อค้าเห็นจางซูอินรับทั้งหมดก็ยิ้มหน้าบานดีใจ แต่สักพักใบหน้าชายหนุ่มกลับจืดขึ้นแล้วพูดว่า “คุณหนู ปลาพวกนี้รสชาติทานลำบากอยู่บ้าง ท่านจะลองซื้อไปทำทานดูสักตัวสองตัวก่อนดีหรือไม่” จาง
ผู้ที่ตื่นเต้นในการเดินทางครั้งนี้มากกว่าผู้ใดก็คือ เฉิงอ๋องเทพแห่งสงครามของแคว้นต้าเว่ย หลังจากนี้ทุกวันคืนเขาจะได้อยู่ร่วมกับซูซู เขาสั่งให้จงถังจัดเตรียมทุกอย่างด้วยตนเอง จนเมื่อถึงออกเดินทาง รถม้าหรูหราคันใหญ่มาจอดรอรับจางซูอินหน้าสกุลจางตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่
ตอนที่ 50 โกรธเป็นโง่ โมโหเป็นบ้า หลังราชโองการออกมา ผู้ที่ได้รับคำสั่งก็ต่างเตรียมตัวออกเดินทาง บรรยาศครื้นเครงต่างจากตำหนักบูรพาที่แม้กระทั่งเงาของก้อนเฆมก็ดูอึ้มครึมมากกว่าปกติ พระชายาเสิ่นจือ บีบผ้าในมือปิดจนเป็นเกลียวนางกัดริมฝีปากจนแทบจะเป็นแผล องค์รัชทายาทไม่ได้รับราชโ
หลังจากมื้อเที่ยงต้าเหยาก็เข้าวังทันที เมื่อไปถึงนางก็ไปคารวะพระสนมลู่ผินก่อน “พระมารดา ข้าคิดถึงท่านจังเลย” พระสนมลู่ลูบศรีษะต้าเหยาเบา ๆ พลางเอ่ยถามไถ่ เห็นสีหน้าแววตาของต้าเหยาเปล่งประกายเต็มไปด้วยความสุข ก็วางใจอย่างอบอุ่น หลังจากพูดคุยกัน ต้าเหยาก็บอกเล่าว่านางจะมา
ยามเช้าในต้นฤดูหนาวแสงแดดยังคงเจิดจ้า ฤดูการเปลี่ยนแปลงผู้คนก็ต้องการปรับเปลี่ยนการดำรงชีวิต เสียงพูดคุยหัวเราะดังแว่วมาจากในครัว จางซูอินเอียงหูฟังอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกล้างหน้าล้างตา เมื่อคืนเฉิงอ๋องอ้อยอิ่งอยู่ห้องนางไม่ยามจากไปทำให้นางนอนไม่เต็มอิ่มเท่าไรนัก หญิงสาวเลือกช
จางซูอินล้างหน้าเปลี่ยนอาภรณ์เมื่อเดินออกมาจากฉากกั้นก็เห็นร่างสูงโปรงอันคุ้นเคยนั่งอยู่บนโต๊ะน้ำชาด้วยท่าทางสบาย “ท่าน..เหตุใดมาอยู่ที่นี่” เฉิงอ๋องยิ้มให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยน เขาลุกขึ้นพลางเอาเสื้อคลุมขนสัตว์ห่อหุ้มกายของหญิงสาวพร้อมอธิบายอย่างใจเย็น “เจ้าเคยขอให้ข้าพาไป
สวี่ซื่อจัดการให้สาวใช้ไปตั้งแผงขายขนมส่วนตนเองก็ยังคงไปทำงานที่ร้านลู่เหยาเช่นเดิม จางซูอินก็ไม่ได้ห้ามปรามหรือให้แม้กระทั่งแสดงความคิดเห็น นางเพียงเฝ้ามองและคอยสนับสนุนเพียงเท่านั้น อากาศเริ่มเย็น หิมะเริ่มโปรยปราย จางเจินก็ถึงคราวยามออกเรือน แม้สกุลจางจะเป็นเพียงชาว