เหยียนซือเหยียนหัวเราะ “เข้าทางเจ้าแล้วนี่ ลงลายมือได้แล้ว ข้าหาข้ออ้างให้แล้ว”เหยียนซือเหยียนย่อมรู้ว่าอี้ชิงกำลังหาข้ออ้างที่จะลงลายมือชื่อ นางทำให้บ่าวไพร่ในเรือนเห็นว่านางปกป้องเงินด้วยชีวิตของตนเองแล้ว ดังนั้นแผนต่อไปก็คือความกตัญญูแม่นมจูเลี้ยงนางมาไม่อาจทำให้ได้รับบาดเจ็บได้ ด้วยความก
บทที่ 25 เจ้าคือผู้ใดหลายวันแล้วที่เหยียนซือเหยียนอยู่ที่โรงเตี๊ยมในเมืองหลงเซิงอย่างมีความสุขนางเลือกโรงเตี๊ยมที่แพงที่สุดเหมาชั้นบนทั้งชั้นเพื่อให้คนของตนเองอยู่ ห้องที่นางพำนักก็กว้างขวาง ยังมีห้องโถงกลางและห้องบ่าวรับใช้แยกอีกห้องหนึ่งที่นางให้เซียวยีพักกับนางก่อนหน้านี้เพื่อให้แผนของนางสมบูร
บทที่ 26 เกิดซ้ำอีกครั้งหลังจากเหยียนซือเหยียนดื่มสุราจนเมามายเซียวยีก็ส่งเหยียนซือเหยียนเข้านอน นางห่มผู้ให้ผู้เป็นนายก่อนจะเดินโซเซกลับไปนอนที่ห้องตนเองด้วยอาการเมามายไม่ต่างกันและในเวลานั้นที่นอนข้างกายของเหยียนก็พลันยุบยวบ เงาร่างของคนผู้หนึ่งขยับเข้ามาใกล้ เหยียนซือเหยียนแม้จะเมาแต่ก็ยังพอที่
หลี่จื้อเห็นด้วย“ติดตามสังเกตฮูหยินน้อยมานานเพียงนี้ นางไม่มีทีท่าน่าสงสัยอันใด สิ่งที่แปลกไปในตัวนางคือ นางไม่สนใจท่านจริง ๆ แล้ว ทั้งยังคิดหย่าขาดจากท่าน คนเมาย่อมพูดความจริงทว่าที่นางปรนนิบัติท่านได้อย่างคล่องแคล่วนั่นคือสิ่งใดกัน”ไป๋จิ้งหานเอ่ยต่อพลางมองร่างบอบบางที่เหมือนจะหลับสนิทไปแล้ว“หรื
บทที่ 27 ไปตรวจสอบมาความคิดของหลี่จื้อนั้นทำให้บุรุษบางคนขบกรามแน่น จับจ้องสตรีผู้เมามายที่นอนไร้สติอยู่บนพื้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยโทสะจากนั้นก็พ่นคำเย็นเยียบออกมา“บังอาจ!”ไป๋จิ้งหาน แทบจะอยากดึงกระบี่มาสับร่างบอบบางให้เป็นชิ้น ๆ เขาโกรธจนรู้สึกดวงตาพร่าเลือน ทว่าจู่ ๆ เหยียนซือเหยียนก็ขยับตัวเอ
ร่างสูงใหญ่คุกเข่าลงตรงหน้านางภายในเรือนไม่มีแสงสว่าง ทว่าดวงตาที่ปรับให้คุ้นชินกับความมืดแล้ว ยังพอจะมองเห็นเสี้ยวหน้าขาวกระจ่างที่สะท้อนอยู่ในความมืดท่าทางของนางดูไม่สบายตัว ส่งเสียง อื้ออึงในลำคอ ริมฝีปากเม้มแน่น คล้ายกับกำลังตกอยู่ในฝันร้าย“ฝันร้ายอีกแล้วหรือ? ไยจึงฝันร้ายบ่อยเช่นนี้ เจ้าเห็นส
บทที่ 28 กลับจวนกับข้าแสงของรุ่งอรุณทาบทับผ่านบานหน้าต่าง ไออุ่นของแสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาภายในห้อง เหยียนซือเหยียนขยับกายไปมาแล้วส่งเสียงเมื่อรู้สึกปวดที่ศีรษะขึ้นมา“อืม...”นี่คงเป็นผลจากสุราเมื่อคืน ให้ตายเถิดสุราเมืองหลงเซิงรสชาติอ่อนและหวานทว่ากลับมีฤทธิ์แรงยิ่งนักนี่เป็นครั้งที่สองแล้วที
“โอ๊ย!”ให้ตายเถิดนางเจ็บจมูกมาก เมื่อชนเข้ากับแผงอกแน่นอย่างแรงนางเงยหน้าจ้องมองเขาเขม็ง สายตาไม่แตกต่างจากเขาเมื่อสักครู่แม้แต่น้อยแทบจะฉีกเขาเป็นชิ้น ๆไป๋จิ้งหานตีสีหน้าเศร้าสร้อยเอ่ยตาใสออกมา“อา...ข้าไม่ได้ตั้งใจข้าขอโทษ เหยียนเหยียนเจ็บหรือไม่”“ทะ...ท่านเรียกข้าว่าอย่างไรนะ”“เหยียนเหยียน เ
ปีค.ศ.1970คุณนายสกุลฉางให้กำเนิดบุตรีคนแรก ผิวขาวราวหยกใบหน้าจิ้มลิ้ม ซินแสทำนายวาสนาสูงส่งยิ่งนัก ทำให้กิจการค้าขายของบิดามารดาเจริญรุ่งเรืองในยามนั้นบิดาได้หมั้นหมายเด็กหญิงเอาไว้กับบุตรชายคนโตของเพื่อนรักแห่งสกุลต้วนต้วนชางหลางเด็กชายอายุราวหกขวบกำลังจ้องมองทารกตัวน้อยที่นอนอยู่ในเปลด้วยความสน
จูชางหลางอุ้มสตรีร่างผอมขึ้นมาวางนางเอาไว้บนตักของเขาโถมร่างกายก้มกอดนางแนบแน่นจนลึกสุดหัวใจ เส้นผมของนางกลายเป็นสีขาวโพลน รวมทั้งผมของเขาเช่นกัน ยามนี้เมื่อใกล้ชิดเส้นผมขาวของคนทั้งคู่กำลังเคลียคลอซึ่งกันและกันโดยไม่อาจแยกแยะว่าเป็นผมของผู้ใดกันแน่จูชางหลางเข้าใจชีวิต มิมีผู้ใดฝืนสังขารของร่างกาย
ตอนพิเศษ ตอนที่ 1ยี่สิบปีต่อมา“ท่านตา ท่านยายแย่แล้วขอรับ”จู่ ๆ ก็มีเด็กผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาบอกเขาในเรือนสมุนไพร จูชางหลางที่กำลังนั่งยอง ๆ พร้อมกับใช้พัดโหมไฟให้ลุกโชนเพื่อต้มสมุนไพรให้กับหยางอี้หงถึงกับมือสั่นระริกทำพัดที่อยู่ในมือหลุดลงทันใดเขาวิ่งไปที่เรือนของนางอย่างรวดเร็ว หลายปีมานี้หยางอี้
มู่เหยาทอดสายตามองแผ่นน้ำเบื้องหน้าที่คล้ายกำลังเต้นรำระริกไหวไปตามแสงจันทราแล้วยิ้มงดงาม“ท่านแม่ ขอให้ท่านคุ้มครองให้ข้ามีความสุขด้วยนะเจ้าคะ”เอ่ยคำนี้แล้วนางจึงโปรยดอกไม้ลงไปเบื้องล่าง ก่อนจะเดินกลับลงมายังหมู่บ้านก่อนจะถึงทางเข้าหมู่บ้านนั่นเอง จู่ ๆ มู่เหยาก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของค
มู่เหยายิ้มไม่หุบ คำชมเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเอาใจนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะส่งผลต่อนางเพียงนี้ "หลานชายช่างปากหวานยิ่งนัก เช่นนี้สตรีใดได้พบคงไม่อาจถอนใจได้ ด้วยใบหน้างดงามเช่นนี้ต่อไปคงทำให้สตรีเสียใจอีกหลายคน"จูอี้หลางส่ายหน้า"ข้าไม่คิดหลอกสตรีใด จิตใจของข้าจะมอบให้กับสตรีที่ข้ารักเพียงผู้เดียวเช่นท่านพ่
เมื่ออยู่กันเพียงลำพังจูชางหลางจึงเอ่ยขึ้นว่า“เจ้าได้พบนางแล้วใช่หรือไม่”จูอี้หลางพยักหน้า“ท่านพ่อ เป็นท่านแม่จริงหรือ”จูชางหลางพยักหน้า“ที่นี่ไกลจากหน้าผาที่แม่เจ้าตกลงมายิ่งนัก พ่อไม่คิดว่านางจะรอดกระทั่งมีคนของหมู่บ้านนายพรานไปพบเข้าระหว่างที่นางลอยไปตามกระแสน้ำ ท่านแม่ของเจ้าลืมทุกเรื่องไปจ
จูอี้หลางขมวดคิ้ว เขาแน่ใจว่านางย่อมคือมารดาของเขา อยากจะบอกออกไปให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร ดูเหมือนว่าสตรีนางนั้นจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างจนหมดสิ้น จูอี้หลางถอนหายใจยาวเขาต้องสนิทกับเด็กคนนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อสืบถามเรื่องราวเอาไปบอกบิดา“แล้วพ่อแม่ของเจ้าเล่า”“ท่านพ่อท่านแม่ของข้าหรือ
"ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ต้องรีบปล่อยเขาออกจากเขตหมู่บ้านตามกฎ มิใช่จับเขามามัดเอาไว้เช่นนี้ เห็นท่าแล้วเจ้าอยากได้ม้าของเขาใช่หรือไม่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตราประจำตัวม้าเป็นตราราชสำนัก เจ้ากำลังนำความเดือดร้อนมาให้คนในหมู่บ้านแล้ว”มู่เยี่ยนลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป ดวงตากลมโตตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ท่านน้าของนางจ
จูอี้หลางเป็นองค์รัชทายาทผู้สูงศักดิ์ ตั้งแต่เกิดมาทุกคนล้วนนอบน้อมกับเขา นี่จึงเป็นครั้งแรกที่มีคนเรียกเขาว่าเจ้าหน้าขาว ทั้งยังกล้าจับเขามัดอย่างไม่กลัวเกรง ทว่าเห็นท่าทางน่ารักของเด็กหญิงผู้นี้แล้วเขากลับไม่นึกโกรธ ยังนึกชื่นชมในความกล้าหาญของนางด้วยซ้ำ“เช่นนั้นบอกข้ามาก่อนว่าข้าอยู่ที่ใด แล้วเจ