"เอ่อ...จะให้ข้าเรียกยัยขี้เหร่ชื่อเสียงอื้อฉาวนั่นว่าพี่ใหญ่หรือ คงจะ...""พั๊วะ..."เซียวอวี่เชียนยกเท้าถีบอีกครั้ง เอ่ยเสียงเดือดดาล "ใครกล้าด่าว่านางโง่เง่า คอยดูข้าสั่งสอนเขา อีกอย่างบนโลกนี้มีเพียงข้าคนเดียวที่เรียกนางว่ายัยขี้เหร่ได้ หากพวกเจ้ากล้าดูหมิ่นนางอีก ระวังหัวเจ้าไว้"กู้ชูหน่วนมุมปากยกยิ้มดีใจนางกอดคอเพื่อนรัก เอ่ยด้วยรอยยิ้ม "เสี่ยวเชียนเชียนเป็นเด็กดี รู้จักปกป้องพี่ใหญ่""ไปไกลๆ อย่างไรเสียเจ้าก็เป็นคุณหนูตระกูลขุนนาง เกาะแกะข้าเช่นนี้เหมาะสมแล้วหรือ""เซียวอวี่เชียน ในสายตาของเจ้าเคยมีเรื่องเหมาะสมด้วยหรือ"เซียวอวี่เชียนยอมรับ ว่าฝีปากของเขาเทียบกู้ชูหน่วนไม่ได้เลย ต่อปากต่อคำกับนาง แม้แต่คนตายยังฟื้นขึ้นมาเพราะโมโหเซียวอวี่เชียนสู้กู้ชูหน่วนไม่ไหว จึงทำได้เพียงระบายอารมณ์กับเหล่าคุณชาย"มัวนิ่งอะไรอยู่ รีบเรียกพี่ใหญ่สิ""เอ่อ..."เหล่าท่านชายหน้ามุ่ย มองเซียวอวี่เชียนด้วยสายตาอ้อนวอน แต่เซียวอวี่เชียนยังคงดึงดัน พวกเขาจึงต้องจำใจเรียก "ลูกพี่""ว่าไง"กู้ชูหน่วนขานรับอย่างไม่ถ่อมตัวเธอรู้ว่าเซียวอวี่เชียนปากร้ายแต่ใจดี เพราะเขากลัวว่าบรรดาคุณชา
เอ่อ...ทุกคนตามความคิดนางไม่ทันคนที่เข้ามาเรียนสำนักบัณฑิตหลวงได้ ยังสนใจเงินรางวัลอีกหรือ?เซียวอวี่เชียนบ่นอย่างไม่สบอารมณ์ "หากเจ้าเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ ฮ่องเต้ต้องตบรางวัลให้เจ้าอย่างงาม" แค่เศษเงินก้นไห แต่คุณหนูสามสายหลักกลับตาลุกวาวหลิ่วเยว่ยิ้มเอ่ย "หากเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ คงเลื่องชื่อไปทั่วแน่"นางไม่ต้องการชื่อเสียงระบือไกล อยากได้แค่เงินเท่านั้น"หากชนะรอบตัดสินอีก ก็จะเป็นยอดอัจฉริยะชายและยอดอัจฉริยะหญิงอันดับหนึ่ง อาจารย์ซ่างกวานแห่งแคว้นเย่ของพวกเราคือผู้ชนะอันดับหนึ่งเมื่อครั้งก่อน หลายแคว้นหมายจะชิงตัวเขาไปใช้งาน แต่อาจารย์ซ่างกวานไม่อยากเป็นขุนนาง สุดท้ายแล้วจึงมาเป็นอาจารย์หนุ่มน้อยที่สำนักบัณฑิตหลวงของเรา เหอะๆ เจ้าไม่รู้อะไร ตอนนั้นหลายคนเสียดายมาก""อาจารย์ซ่างกวานได้รับขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสี่อัจฉริยะ แต่ในเมื่อมีสามอันดับแรก ก็ต้องมีใครสักคนเป็นหนึ่งจากการแข่งขันรอบสุดท้ายใช่หรือไม่?""แน่นอนอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นจะได้รับขนานนามว่าหนึ่งในสี่อัจฉริยะของแผ่นดินหรือ"กู้ชูหน่วนเข้าใจในทันใดดูท่าแล้วอาจารย์ซ่างกวานจะมีของดี"ว่าแต่ เทพหมากล้อมกับเซียนกวี
กู้ชูหน่วนตกตะลึง "หล่อเกินไปแล้วหรือเปล่า"เซียวอวี่เชียนไม่พอใจนัก "แล้วข้าไม่หล่อหรือ?""หล่อ เจ้าก็หล่อ แต่อาจารย์ของข้าหล่อกว่า""นี่ แม่นาง เจ้าคือหานอ๋องเฟยที่ฮ่องเต้วางตัวไว้ หากเทพสงครามรู้ว่าเจ้ามีใจให้ชายอื่น เจ้าไม่กล้วหัวหลุดออกจากบ่าหรือ""ใครๆ ก็ชอบสิ่งสวยงาม""…"ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เซียวอวี่เชียนถึงได้ไม่ชอบให้นางชื่นชมชายอื่น ในใจเจ็บแปลบ เหมือนมีอะไรจุกอยู่ที่อก"คำนับอาจารย์..."ทุกคนยืนขึ้นทำความเคารพ เอ่ยเสียดังก้องกู้ชูหน่วนยืนขึ้นในทันใด คำนับตามทุกคน ทว่ากลับเห็นองค์หญิงตังตังวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน คลุมผ้าปกปิดใบหน้าเอาไว้ แฝงตัวกับเหล่านักเรียน แม้ว่ากำลังคำนับ แต่ดวงตาคู่นั้นกลับแอบมองซ่างกวานฉู่ตาไม่กะพริบองค์หญิงเอาแต่ใจเพิ่งถูกเธอสั่งสอนไปเมื่อตอนเช้า ร้องห่มร้องไห้โวยวาย ตอนนี้กลับมาแล้วหรือ?นางชอบอาจารย์ซ่างกวานขนาดนั้นเชียวกู้ชูหน่วนยกยิ้ม อีกฝ่ายกลับมาตัวเปล่า แสดงว่าเธอเดาถูก ฮ่องเต้ต้องการเล่นงานเทพสงคราม แต่เธอนั้นคือพระชายาที่ถูกวางตัวไว้ จึงไม่สามารถลงมือกับเธอได้ในตอนนี้ เพราะอย่างนั้นถึงองค์หญิงตังตังจะฟ้องอะไรก็ไร้ผล"นั่งเถิด
ฮะ...ให้เธอดีดฉิน?เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?จะให้เธอดีดอะไร?เธอไม่รู้ว่าเมื่อกี้เขาสอนอะไรด้วยซ้ำ?กู้ชูหน่วนรีบหันไปหาเซียวอวี่เชียนเซียวอวี่เชียนหันหน้าหนีอย่าลากเขาไปซวยด้วยเลยเขาเองก็ไม่รู้ว่าอาจารย์ซ่างกวานสอนอะไร ขืนอาจารย์ซ่างกวานให้เขาดีดฉินขึ้นมา เขาจะทำอย่างไร?"คุณหนูสามกู้ เชิญ" อาจารย์ซ่างกวานชี้ไปที่ฉินบนโต๊ะ ทำท่าเชิญอย่างสุภาพกู้ชูหน่วนหนังหัวชาดิก"อา...อาจารย์ ข้าเล่นเพลงไหนก็ได้ใช่ไหม?""ก็ย่อมได้ เล่นเพลงถนัดของเจ้าก็ได้""เช่นนั้นก็ได้ เล่นก็เล่น ใช่ว่าจะไม่เคยเล่นเสียหน่อย"กู้ชูหน่วนนั่งลง สองมือวางลงบนฉิน ราวกับกำลังชั่งใจว่านิ้วไหนควรวางตำแหน่งใดเสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นริมทะเลสาบอีกครั้ง"ฮ่าๆ...คงไม่ถึงขั้นไม่รู้ว่าต้องวางมืออย่างไรหรอกกระมัง""ต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน ดูท่าวางมือของนางสิ ผิดหมดเลย"สายตาเย็นชาของกู้ชูหลันมองดูเรื่องตลก สะใจยิ่งนักกู้ชูอวิ๋นนิ่งเฉย ราวกับเป็นคนนอกเจ๋ออ๋องสีหน้าไร้อารมณ์ ประหนึ่งว่าทุกอย่างที่เป็นกู้ชูหน่วนนั้นไม่ข้องเกี่ยวกับเขาส่วนคนอื่นก็พากันหัวเราะ รอดูเรื่องขบขันเซียวอวี่เชียนโวยกลับอย่างไม่เก
"อาจารย์ ซ้อมห้าสิบรอบนั่นก็ยกเลิกเสียเถิด ข้าเห็นคนในสำนักบัณฑิตเล่นเก่งกว่าข้าทั้งนั้น""ต้องซ้อม ฝีมือดีดฉินของพวกเขาสู้คุณหนูสามไม่ได้เลย หากคุณหนูสามไม่เล่น ข้าจะกราบทูลฝ่าบาท กราบทูลหานอ๋อง แจ้งท่านอัครเสนาบดี ให้พวกเขามารับฟังบทเพลงอันไพเราะของคุณหนูสาม"อาจารย์ซ่างกวานยังคงยิ้มบางเหมือนก่อนหน้า ชดช้อยสง่างามทว่าในสายตาของกู้ชูหน่วนนั้น กลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นชั่วร้ายเสียไม่มีข่มขู่แบบนี้มันข่มขู่กันชัดๆเป็นถึงอาจารย์แต่ไม่ตั้งใจสอน เธออุตส่าห์ไม่เอาเรื่อง แต่จงใจกลั่นแกล้งเธอเช่นนี้ เธอไม่นับเป็นครูหรอกทุกคนทั้งตกใจทั้งตลกตกใจที่อาจารย์ซ่างกวานที่ไม่เคยลงโทษนักเรียน ทว่าวันนี้เขากลับแหกกฎสวรรค์ทำโทษคุณหนูสามกู้ตลกที่กู้ชูหน่วนอวดดีขนาดนั้น สมแล้วที่โดนลงโทษกู้ชูหน่วนกัดฟันกรอด "ได้ เล่นก็เล่น หากพวกเจ้าไม่รำคาญก็แล้วแต่ ข้าจะเล่นเดี๋ยวนี้เลย""ระหว่างเรียน ขอโปรดอย่ารบกวนนักเรียนคนอื่น เลิกเรียนแล้วค่อยว่ากัน"ให้ตายสิ...นี่มันบังคับให้อยู่ต่อชัดๆหลังเลิกเรียนนางต้องไปร้านยาอีกนะ"การแข่งขันครั้งนี้มีทั้งฉิน หมากล้อม เขียนพู่กัน วาดภาพ เมื่อครู่สอนฉินไปแ
"เอ่อ...ก็พอไหว""เช่นนั้นขอเชิญคุณหนูสามวาดภาพพร้อมให้คำบรรยาย"กู้ชูหน่วนหมดคำจะพูดซ่างกวานฉู่วางแผนมาแล้วสินะ ให้เธอวาดรูปแล้วแต่งกลอนประกอบอีกบทหนึ่ง เพื่อทดสอบทั้งการเขียนพู่กัน วาดภาพ แต่งกลอน"อาจารย์ ข้าวาดภาพเก่งเกินไป กลัวว่าคนอื่นเห็นแล้วจะน้อยเนื้อต่ำใจ ข้าขอไม่วาดดีกว่า"ทุกคนแทบกระอักเลือดวาดเก่งเกินไป กลัวว่าพวกเขาเห็นแล้วจะน้อยเนื้อต่ำใจ หมายความว่าอย่างไร?เพ้อเจ้อใครจะเชื่อพวกหลิ่วเยว่หันไปมองเซียวอวี่เชียนลูกพี่ของพวกเขาไหวไหมเนี่ย ทำไมรู้สึกเหมือนเชื่อถือไม่ได้เลยเซียวอวี่เชียนปิดหน้าตัวเองไม่ต้องบอกก็รู้ว่าลูกพี่ของเขาทำเรื่อง 'งามหน้า' สำนักบัณฑิตหลวงอีกแล้ว"ไม่เป็นไร ทุกคนต้องการกำลังใจจากคุณหนูสาม"ซ่างกวานฉู่ยิ้มไร้พิษภัย อาจารย์ต้นแบบที่ทุกคนในสำนักบัณฑิตต่างชื่นชม เพราะมีแค่อาจารย์ซ่างกวานที่ความอดทนสูงขนาดนี้ทว่ากู้ชูหน่วนด่าเขาอยู่ในใจไม่รู้กี่หนต่อกี่หนนางหยิบพู่กันขึ้นมา จุ่มลงน้ำหมึกอย่างแรง ก่อนจะละเลงลงบนกระดาษขาว น้ำหมึกที่จรดฝ่าฝีแปรงทั้งเข้มทั้งหนาทั้งแน่นทุกคนตกตะลึงนางวาดวงกลมแล้วต่อด้วยอีกวง จนสุดท้ายยังถมหมึกดำจนเต็
"เอาละ คาบวันนี้จบลงเท่านี้ พรุ่งเช้าเรียนตามปกติ ส่วนตอนบ่ายจะเริ่มการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม อย่าได้เสียชื่อสำนักบัณฑิตหลวง""ขอรับอาจารย์""คุณหนูสามกู้ อย่าลืมซ้อมห้าสิบหน ท่านชายเซียว อยู่คอยเฝ้าด้วย หากซ้อมไม่ครบห้าสิบรอบ เจ้าก็ดีดแทนนาง"ให้ตายสิซ่างกวานฉู่บ้าไปแล้วหรือทำโทษนางก็ทำไปสิ แต่ยังต้องมีคนคอยเฝ้าอีกเซียวอวี่เชียนหน้าบูดบึ้งในทันใดฉินที่กู้ชูหน่วนดีด ใครจะทนฟังไหว? หากต้องฟังห้าสิบรอบจริงๆ เขาไม่เลือดไหลทะลักออกทุกทวารหรอกหรือเดิมคนในสำนักบัณฑิตหมายจะอยู่รอดูเรื่องสนุกด้วย แต่ฉินที่กู้ชูหน่วนเล่นนั้นบาดหูเหลือเกิน พวกเขาได้ยินแล้วถึงกับหูอื้อตาลาย จึงไม่กล้าอยู่ต่อจริงๆ ก่อนจะพากันแยกย้ายราวกับวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงเซียวอวี่เชียนหยิบที่อุดหูออกมาแล้วยัดเข้าหูในทันที เบะปากอย่างหมดคำจะพูด"แหน่ว แหน่ว แหน่ว..."เสียงฉินบาดหูดังไปทั่วสำนักบัณฑิตหลวง เหล่าองครักษ์ที่ได้ยินแทบอยากจะลาออกมันเดี๋ยวนั้นหนวกหูหนวกหูเกินไปแล้วในห้องโอ่อ่าห้องหนึ่งของสำนักบัณฑิตหลวงเย่จิ่งหานเห็นทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนบ่าย อดไม่ได้ที่จะสนใจในตัวก
"จริงหรือ?"เซียวอวี่เชียนไม่เชื่อที่นี่นอกจากพวกเขาสองคนแล้ว ก็ไม่มีใครอื่น นางจะขโมยมาจากไหน"จริงสิ โกหกเจ้าแล้วได้อะไรขึ้นมา""เหอะ กู้ชูหน่วน เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ หมึกยังไม่แห้งเลยด้วยซ้ำ"ซวยแล้ว เจ้าหมอนี่ตาไวชะมัด ขนาดนี้ยังเห็นอีกหรือนางเอ่ยพึมพำเฉไฉ "เมื่อครู่คนเยอะ ข้าเลยแสดงฝีมือได้ไม่เต็มที่ ตอนนี้ไม่มีคนแล้ว เขาก็เลยเขียนได้ตามปกติ"คำพูดนี้หลอกเด็กยังพอไหว แต่ใช้หลอกเขาน่ะหรือ? ไปหัดมาใหม่เซียวอวี่เชียนเองก็ไม่อยากเซ้าซี้เรื่องนี้ จึงเปลี่ยนเรื่องคุย"ยาสองชนิดนั้นหายากมาก ในแคว้นนี้คงมีอยู่ไม่กี่ต้น แต่ดอกเยียนหลัวข้ารู้ว่าอยู่ที่ไหน"กู้ชูหน่วนตาเป็นประกาย ถามอย่างตื่นเต้น "เจ้าว่าอะไรนะ เจ้ารู้หรือว่าดอกเยียนหลัวอยู่ที่ไหน?""รู้ไปก็เท่านั้น แต่เจ้าเด็ดมันไม่ได้หรอก""เจ้าลองว่ามาก่อน""ยัยขี้เหร่ เจ้าจะเอาดอกเยียนหลัวไปทำอะไร นั่นมันยาพิษนะ"หากไม่ใช่พิษ นางไม่อยากจะเอาด้วยซ้ำพิษบนใบหน้าของนางก็ต้องสู้ด้วยพิษ"เห็นแก่มิตรภาพ เจ้าบอกข้ามาเถอะน่า ดอกเยียนหลัวอยู่ที่ไหนหรือ?"เซียวอวี่เชียนก็ยังไม่ยอมบอก กู้ชูหน่วนเซ้าซี้อยู่นานกว่าจะหลอกล่อให้เขาพู
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน
นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล
ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา
"ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั
ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้
กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู
ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่
มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ
ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ