Share

ลั่นกลองรบ

last update Huling Na-update: 2025-07-20 16:11:01

ม่านผ้าไหมสีทองถูกยกขึ้นเบาๆ ขณะองครักษ์ประกาศเสียงกังวาน

“เฉิงอู๋อ๋อง ฟางตงเกาขอออนญาตเข้าเฝ้าฝ่าบาท”

เสียงฝีเท้าหนักแน่นก้าวเข้าไปในท้องพระโรง ชุดเกราะดำลายเมฆทองส่องประกายสะท้อนแสงอาทิตย์เฉียงเช้า บนใบหน้าเฉิงอู๋อ๋องไม่มีรอยยิ้ม มีเพียงดวงตาเข้มขรึมดั่งเปลวเพลิงที่รอวันลุกโชน

บนบัลลังก์…ฮ่องเต้ปาหวางฮ่อ ทรงประทับนิ่ง เฝ้ารอฟังอย่างเงียบงัน ข้างพระองค์…จิวอันฮองเฮายืนเคียงอยู่ สีหน้าเคร่งขรึมไม่ต่างกัน

เฉิงอู๋อ๋องกับตงเกาทรุดตัวลงคุกเข่า

“กระหม่อม เฉิงอู๋อ๋อง ขอทูลขอพระราชทานจัดทัพแคว้นเป่ยเหลียง เพื่อออกล้างแค้นให้กับฝ่าบาทโตวโฮฉิน”

เสียงของเขาดังชัด ก้องท้องพระโรง ทุกอักขระแฝงความอัดอั้นและความอาลัยปาหวางฮ่องเต้ทอดสายตามองเฉิงอู๋อ๋องและตงเกาผู้ภักดีเบื้องหน้า

“เจ้าแน่ใจหรือว่าทัพเป่ยเหลียงพร้อมแล้ว”

เฉิงอู๋อ๋องเงยหน้าขึ้น ตอบด้วยน้ำเสียงไม่สั่นไหว

“แม้ไม่พร้อม ข้าก็จะต้องให้มีการซ้อมรบ เพื่อทำให้พร้อม และข้าเฉิงอู๋อ๋องจะต้องวางกลยุทธ์ให้ดี แม้ต้องเดินทางเพียงลำพัง ข้าก็จะล้างแค้นแทนพระองค์ผู้ถูกปลิดชีพอย่างอัปยศ โตวโฮฉิน คือพันธมิตรที่แท้จริงของเป่ยเหลียง หากเรายอมให้เป่ยซวีลอยนวล
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Pinakabagong kabanata

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ถุงหอมใบใหม่

    ไป๋อวี้ ถอนหายใจ ก่อนจะยิ้มเต็มปากและบอกด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง “พี่ไป๋ฮวาคิดว่าท่านไมไ่ด้คิดมากอย่างนี้นางหวังว่าท่านจะหนักแน่น” เสียงของเขาแฝงไปด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้งซางหลาง ยืนนิ่ง พยายามตีความคำพูดเหล่านั้น ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ข้าจะลองพิจารณาดู... จะพยายามให้นางเห็นว่าข้ารู้สึกยังไง”ไป๋อวี้ พยักหน้าหนักแน่นและยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง “นั่นแหละ ท่านต้องเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องคิดมากเกินไป พี่ไป๋ฮวาจะเข้าใจในตัวของท่าน ว่าท่านรู้สึกอย่างไร”ซางหลางหันไปมอง ไป๋อวี้ ด้วยแววตาที่หนักแน่นมากขึ้น แม้ว่าในใจจะยังคงมีคำถามบางอย่าง แต่เขารู้ดีว่า ไป๋อวี้ พูดจากใจจริง“ขอบคุณ… ข้าจะคิดดูดี ๆ” เขาพูด ก่อนจะหันไปมองทางที่ไป๋ฮวาเดินไปสาวใช้คนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องของ อี้เหยา พร้อมกับใบหน้าที่ดูซีเรียสแต่ยังคงพยายามรักษามารยาท สาวใช้พูดขึ้นด้วยเสียงอ่อน ๆ ว่า“ฮองเฮาจิวฮัวเรียกคุณหนูอี้เหยาเจ้าค่ะ”“เรียกข้าหรือ”“ฮองเอาจิวฮัวบอกข้าว่าให้เรียกท่านไปช่วยเย็บถุงหอมใบใหม่ให้กับท่านไท่จือเว่ยจินค่ะ”อี้เหยา เงยหน้าขึ้นจากการทำงานตรงหน้า พลางขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ “เย็บถุงหอม... ฮ

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ซางหลาง+ไป๋ฮวา

    แสงแดดยามเย็นทอดยาวเหนือทางเดินหินอ่อนที่ประดับด้วยพรรณไม้และต้นบ๊วยริมทางสายลมเย็นพัดผ่านเสื้อคลุมบาง ๆ ของ ไป๋ฮวา ที่เดินไปตามทางเสียงฝีเท้าของ ซางหลาง ที่กำลังเดินทางไปในทิศทางตรงกันข้ามไป๋ฮวา หยุดฝีเท้าทันทีแล้วหันไปจับสายตาของเขา“ท่าน…ทำไมต้องหลบหน้าข้า?” เสียงนางดังขึ้นอย่างแผ่วเบาแต่แฝงด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนซางหลาง มองแวบเดียวแล้วพยายามจะหลบสายตานั้นโดยไม่พูดอะไร ตัดสินใจเดินผ่านไปอย่างไม่สนใจแต่ ไป๋ฮวา ก้าวข้ามทางไปขวางเขาทันที“ข้าไม่ได้หลบหน้า” เขาพูดขึ้นเสียงต่ำแต่หนักแน่นไป๋ฮวา ยิ้มบาง ๆ ใบหน้าที่ยังคงสดใส แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกที่ทิ่มแทงใจ“ไม่ได้หลบหน้า แล้วทำไมท่านไม่ไปหาข้า... ข้ารินน้ำชาให้ท่าน แต่นี่สิ... ดูใจท่านซะก่อน ว่าท่านตั้งใจจะลืมมันเสียจริง ๆ หรือ ข้าน้อยใจนะ…”คำพูดของนางทำให้เขาหยุดชะงัก เสียงหัวใจของ ซางหลาง ดังก้องอยู่ในหู แต่เขากลับเงียบ ราวกับถูกความรู้สึกบางอย่างบีบคั้นจนไม่อาจพูดอะไรออกมาไป๋ฮวา ก้มหน้านิ่ง แล้วหันหลังวิ่งจากไปตามทางเดินทันที ราวกับว่าเธอไม่สามารถทนเห็นความเงียบที่เขามอบให้เธอได้อีกต่อไปซางหลาง ยืนนิ่งอยู่พักหนึ่ง มองตามไป

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ลั่นกลองรบ

    ม่านผ้าไหมสีทองถูกยกขึ้นเบาๆ ขณะองครักษ์ประกาศเสียงกังวาน“เฉิงอู๋อ๋อง ฟางตงเกาขอออนญาตเข้าเฝ้าฝ่าบาท”เสียงฝีเท้าหนักแน่นก้าวเข้าไปในท้องพระโรง ชุดเกราะดำลายเมฆทองส่องประกายสะท้อนแสงอาทิตย์เฉียงเช้า บนใบหน้าเฉิงอู๋อ๋องไม่มีรอยยิ้ม มีเพียงดวงตาเข้มขรึมดั่งเปลวเพลิงที่รอวันลุกโชนบนบัลลังก์…ฮ่องเต้ปาหวางฮ่อ ทรงประทับนิ่ง เฝ้ารอฟังอย่างเงียบงัน ข้างพระองค์…จิวอันฮองเฮายืนเคียงอยู่ สีหน้าเคร่งขรึมไม่ต่างกันเฉิงอู๋อ๋องกับตงเกาทรุดตัวลงคุกเข่า“กระหม่อม เฉิงอู๋อ๋อง ขอทูลขอพระราชทานจัดทัพแคว้นเป่ยเหลียง เพื่อออกล้างแค้นให้กับฝ่าบาทโตวโฮฉิน”เสียงของเขาดังชัด ก้องท้องพระโรง ทุกอักขระแฝงความอัดอั้นและความอาลัยปาหวางฮ่องเต้ทอดสายตามองเฉิงอู๋อ๋องและตงเกาผู้ภักดีเบื้องหน้า“เจ้าแน่ใจหรือว่าทัพเป่ยเหลียงพร้อมแล้ว”เฉิงอู๋อ๋องเงยหน้าขึ้น ตอบด้วยน้ำเสียงไม่สั่นไหว“แม้ไม่พร้อม ข้าก็จะต้องให้มีการซ้อมรบ เพื่อทำให้พร้อม และข้าเฉิงอู๋อ๋องจะต้องวางกลยุทธ์ให้ดี แม้ต้องเดินทางเพียงลำพัง ข้าก็จะล้างแค้นแทนพระองค์ผู้ถูกปลิดชีพอย่างอัปยศ โตวโฮฉิน คือพันธมิตรที่แท้จริงของเป่ยเหลียง หากเรายอมให้เป่ยซวีลอยนวล

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ผลัก

    ดวงตาของเขานิ่งราบเรียบ...เหมือนแม่น้ำที่ถูกน้ำแข็งปิดทับ อี้เหยาไม่สะทกสะท้านหัวเราะเบา ๆ พยายามไล่บรรยากาศอึมครึมนั้นเสีย“ท่านเคยพูดว่า ข้าโกรธอะไรท่านหรือเปล่าคราวนี้ข้ามาตอบคำถามให้แล้วนะ อยากฟังไหม”อีกคนเงียบงัน“ไม่ลองชิม ข้าจะน้อยใจจริง ๆ ด้วย…ข้าขี้งอนนะใครๆ ก็พูดแบบนั้น” อี้เหยาพูดพร้อมทำหน้าแง่งอน แสร้งล้อเลียนตัวเองแต่เว่ยจินยังนิ่ง ไม่ตอบ ไม่สบตา ในใจเขาหนักอึ้งจนไม่อาจส่งรอยยิ้มให้ใครได้อีกเงียบ… เงียบงันราวกับทั้งห้องไร้เสียงรอยยิ้มบนใบหน้าอี้เหยาเริ่มไหวเล็กน้อย ดวงตากลมโตที่เคยสดใสตอนเข้ามานั้น บัดนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นเศร้าสร้อยอีกครั้งวางถาดขนมลงบนโต๊ะข้างแท่นนอนอย่างแผ่วเบา“…เจ้าไม่อยากคุยกับใคร…ข้าก็เข้าใจ” อี้เหยากระซิบเบา แทบไม่เป็นคำ “แต่…อย่างน้อย…ข้าก็อยากให้เจ้ารู้ ว่าข้ายังอยู่ตรงนี้...ข้ายังอยากให้เจ้ากลับมาทะเลาะกับข้าเหมือนเดิม” กลืนก้อนแข็งๆ ลงคอ ยิ้มสุดท้ายให้เขา ดวงตาเริ่มแดงก่ำแต่ยังคงยิ้มก่อนจะหมุนตัวกลับ เดินช้า ๆ ออกไปทันใดนั้น...มือเรียวยาวของเว่ยจินเอื้อมออกไปแต่ยังไม่ทันสัมผัส…ปลายนิ้วเขากลับสั่นน้อย ๆ แล้วชะงักเขาเผลอยื่นไปจนปลายนิ้วสัมผ

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   เราทุกคนล้วนบอบช้ำมา

    แสงจันทร์ส่องลอดผ่านเงาไม้ลงบนพื้นหินเย็นเยียบ เสียงสายลมพัดเบาๆ ปะทะม่านผ้าทางเดินที่พลิ้วไหวราวจะบอกว่าราตรีนี้ยังไม่หลับใหลซางหลาง เดินโซเซมาในชุดคลุมยาว สีหน้าระเรื่อด้วยฤทธิ์สุรา กลิ่นเหล้าจางๆ โชยมาตามตัว ท่วงท่าแม้จะมัวเมา แต่สายตากลับแจ่มชัดเมื่อเขายืนหยุดอยู่หน้าประตูห้องประตูห้องเปิดแง้มอยู่ดวงตาคู่นั้นสบเข้ากับภาพตรงหน้า เว่ยจินที่นอนหลับตาอยู่บนแท่นนอน มือข้างหนึ่งยังคงกุมมือของไป๋ฮวาที่นั่งอยู่ข้างแท่นนอน ใบหน้าของนโน้มไปเล็กน้อย ราวกับจะหลับไปเช่นกันสายตาของซางหลาง...นิ่งคล้ายกับหยุดชะงัก ไม่มีถ้อยคำ ไม่มีเสียงถอนใจมีเพียงแววตา ที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่าปนปวดร้าว บางสิ่งที่ซ่อนไว้ในใจ กลับถูกเปิดออกด้วยเงียบงันเบื้องหน้านั้นเองเสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้นด้านหลัง เป็นเงาของชายหนุ่มอีกผู้ที่เดินเข้ามาหยุดยืนข้างเขาไป๋อวี้เจ้าตัวไม่ได้พูดอะไร เพียงมองตามสายตาของซางหลาง แล้วก็ถอนหายใจเบาๆมือหนึ่งของไป๋อวี้ยกขึ้น ตบเบาๆ ลงบนไหล่ของซางหลาง“ไปเถอะ... ไปดื่มกัน ยังดื่มไม่มากพอจึงเป้นเช่นนี้ปลดปล่อยมันออกมาเสียพรุ่งนี้จึงจะไม่ต้องทุกข์ตรม อย่างน้อย...ท่านก็ยังมีเหล้า มีราต

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ความหวังจากความสงสาร

    แสงตะเกียงบนโต๊ะหนังสือส่องผ่านม่านบางสะท้อนเงาอ่อนโยนลงบนใบหน้าเรียบนิ่งของ อ้ายฉิง ที่นั่งจิบชาเงียบๆ มือเรียวสวยวางถ้วยชาลงเบา ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบแต่จริงจัง“ข้าได้ยินมา... ว่าในงานเลี้ยงน้ำชา วันนั้น ไป๋ฮวาเป็นฝ่ายรินชาให้กับซางหลางก่อน”เฉิงอู๋อ๋อง ที่ยืนอยู่ริมหน้าต่างเบือนหน้ากลับมาช้าๆ แววตาครุ่นคิดก่อนจะตอบเสียงหนักแน่น“เรื่องนั้น... ไว้ค่อยพูดกันอีกทีเถิด เว่ยจินก็ไม่ได้ทำอะไรผิด และเจ้าเองก็เห็น เขา...ช่างน่าสงสารยิ่งนัก”อ้ายฉิงเงยหน้าขึ้นมองเขา แววตานิ่งสงบแต่ลึกซึ้ง ราวกับมองเข้าไปถึงความคิดของบุรุษตรงหน้า“ท่านอ๋อง...ท่าน กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่”หยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงแน่วแน่“ความพอใจของไป๋ฮวา ถือเป็นที่สุดแล้วสำหรับคนเป็นแม่อย่างข้าในเมื่อไป๋ฮวาเลือกซางหลาง ข้าก็ควรจะยอมรับ... และซางหลางเอง ก็หาได้ทำผิดอันใด”เฉิงอู๋อ๋อง เงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ แล้วโน้มตัวสวมกอด อ้ายฉิง ไว้แน่น ดวงตาที่เคยเฉียบคมกลับหม่นแสงลง“ข้าแค่... สงสารเว่ยจิน เขาสูญเสียบิดา สูญเสียบ้านเมือง บัดนี้... ข้าก็ไม่อยากให้เขาต้องสูญเสียหัวใจไปอีก หากไป๋ฮวาจะลองเปิดใจให้เ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status