Share

เป่ยซวี

last update Huling Na-update: 2025-07-30 08:26:56

เป่ยซวี ยืดตัวขึ้นจากบัลลังก์ มองไปยังทหารคนนั้นด้วยสายตาที่เด็ดขาด

"เตรียมการรับมือไว้... ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาแย่งชิงอำนาจของข้าเด็ดขาด บัญชาออกไปเตรียมพร้อมและเกณฑ์คนเพิ่มพร้อมเบี้ยหวัดที่สูงเพี่อล่อใจ"

ทหารคนนั้น ขยับตัวตรง ขยับมือที่จับไว้ที่คมดาบของตนอย่างมั่นคง

"รับบัญชาฝ่าบาท ข้าจะจัดทัพทันที"

เป่ยซวี มองไปยังภาพสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น ทุกอย่างต้องรีบดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพื่อรักษาบัลลังก์และอำนาจที่เขาเคยมีไว้ในมือ

เขายืนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ

"ข้าจะกวาดล้างทัพของพวกเจ้าจนราบเป็นหน้ากลอง แล้วจะได้รู้ว่าคนอย่างเป่ยซวีไม่แน่จริงไม่มาถึงจุดนี้หรอก"

เสียงฝีเท้าของทหารที่เดินออกไปจากห้องแสดงให้เห็นถึงความเร่งรีบที่จะทำงานให้เสร็จตามคำสั่งของ เป่ยซวี

แผนการเริ่มในหัวของเขาแล้ว การปกป้องบัลลังก์และความยิ่งใหญ่ของตระกูลเขาจะไม่มีวันยอมแพ้ในมือของเว่ยจิน หรือใครก็ตามที่ต้องการแย่งชิงมันไปจากเขา

ในห้องโถงใหญ่ของปราสาท เป่ยซวียืนมองออกไปนอกหน้าต่าง ท่ามกลางความมืดของค่ำคืน เหมือนกับทำนายถึงความไม่สงบที่กำลังจะมาถึง บรรยากาศรอบตัวเขาเงียบสงัด เสียงของทหารที่เดินไปมาดังแว่วจา
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Pinakabagong kabanata

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   จบบริบูรณ์

    ค่ำคืนนั้น ลานจวนเต็มไปด้วยแสงโคมไฟที่ประดับเรียงรายราวท้องฟ้า ดนตรีบรรเลงอย่างต่อเนื่อง เสียงหัวเราะ เสียงชนจอกเหล้า และเสียงเพลงแห่งความสุขดังไม่ขาดสายและนี่คือการเริ่มต้นบทใหม่ ของ ไป๋อวี้กับอี้หลิน ที่ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวของคู่รักหนุ่มสาว หากแต่เป็นสายสัมพันธ์แห่งครอบครัวในจวนอ๋องไร้พ่าย ที่เข้มแข็งและอบอุ่นไปพร้อมกันแสงโคมแดงส่องพร่างพรายทั่วเรือนหอ ผ้าแพรแดงปักลายหงส์มังกรถูกคลุมไว้บนเตียงกว้าง กลิ่นกำยานหอมอ่อนๆ ลอยคลุ้งในอากาศ บรรยากาศอบอุ่นจนหัวใจเต้นแรงอี้หลินนั่งอยู่บนเตียงในชุดเจ้าสาวสีแดงสด ผมเกล้าสูงประดับปิ่นทอง แววตาแอบหลบซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุมหน้าแก้มแดงซ่าน ยิ่งยามเงียบสงัดยิ่งได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นไม่เป็นส่ำ“ขาจะได้ยินเสียงหัวใจข้าไหมนะ” พูดยังไม่ทันขาดคำเสียงประตูเปิดเบาๆ ไป๋อวี้ ก้าวเข้ามาในชุดเจ้าบ่าวเต็มยศ สายตาที่ทอดมองเจ้าสาวของตนเต็มไปด้วยแววลุ่มลึก เขาเดินเข้าไปช้าๆ และนั่งลงตรงหน้าของอี้หลินพรางหยิบหยกคู่ขึ้นมาประกบกันแนบสนิท“ในที่สุด…เจ้าก็เป็นของข้าอย่างแท้จริงแล้ว เหมือนหยกคู่สองชิ้นนี้” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยชิดใบหูอี้หลินมือใหญ่ยกถ้วยสุรามงคลขึ้นม

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   บทสรุป

    “อีกไม่กี่วันจะมีการสถาปนาข้าในตำแหน่งฮ่องเต้อย่างเป็นทางการข้าให้คนรับบิดากับมารดาของเจ้า รวมทั้งอี้หลินมาที่นี่เพื่อยินดีกับตำแหน่งฮองเฮาของเจ้า ฉะนั้นอดทนอีกนิดฝึกฝนท่าทีให้สง่างามให้ผ่านพ้นงานพิธีจึงค่อยทำตามใจ”อี้เหยายิ้มกว้าง คิดถึงตงเกาเจียวหยูและอี้หลินไม่น้อยตลอดวัน ฝึกซ้อมตั้งแต่การเดิน การคำนับ การนั่ง การถือของ ใช้เครื่องหอม การวางตัวต่อผู้หลักผู้ใหญ่ และวิธีสนทนาอย่างสุภาพ ทุกอย่างถูกฝึกอย่างเข้มงวด แต่เว่ยจินไม่เคยปล่อยให้อี้เหยาผิดพลาดเพียงลำพัง เขาคอยชี้แนะ และยังแอบยิ้มชมความพยายามของเธอค่ำคืนแรกหลังการฝึก อี้เหยานั่งอยู่ริมระเบียง มองแสงจันทร์สะท้อนบนคูน้ำ วังเงียบสงัด เว่ยจินเดินมานั่งข้างๆ“เจ้าทำได้ดีแล้ววันนี้” เขาพูด พร้อมเอื้อมมือแตะหลังของเธอเบาๆ ให้กำลังใจอี้เหยาหันไปยิ้มให้ น้ำตาแห่งความตื้นตันเล็กๆ ไหลริน“ข้าเหนื่อย แต่มีความสุข ข้ารู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นไท่จือเฟยจริงๆ”เว่ยจินมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน ความรู้สึกภูมิใจปนห่วงใย ดวงตาของเขาเปล่งประกาย“เจ้าไม่ใช่ไท่จือเฟยเจ้าคือฮองเฮาของข้า ไม่ต้องกังวลอะไรอีก ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ อี้เหยา ไม่ว่าอะไรจ

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ไป๋ฮวากับซางหลาง

    ไป๋อวี้ยิ้มพยักหน้ากับไป๋ฮวา“สมใจแล้วพี่สาว ท่านอย่าลืมดูแลพี่สาวข้าให้ดีนะพี่ซางหลาง” ซางหลางยิ้มพยักหน้าขึ้นลง“ข้าสัญญา จะไม่มีคนอื่นนอกจากไป๋ฮวาคนเดียว และตลอดไป” ไป๋อวายิ้มกว้างสดใส ซางหลางคว้ามือบางมากุมไว้สบตานิ่งจากนั้นเสียงกลองมงคลก็ดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อทั้งคู่ก้าวเคียงข้างกันออกจากท้องพระโรง ท่ามกลางเสียงอวยพรและกลีบดอกไม้โปรยปรายห้องโถงประดับด้วยโคมแดงนับร้อย แสงไฟสว่างอบอุ่น ไป๋ฮวาถูกส่งเข้ามานั่งรออยู่บนแท่นนอนห้องหอ ใบหน้านางแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย“พวกเราไปแล้วขอให้เจ้าโชคดีนะไป๋ฮวา” อี้หลินกับอ้เหยาที่เปิดประตูก้าวออกไปโบกมือลาไป๋ฮวาเพียงไม่กี่อึดใจทว่านานชั่วกัปป์ที่ไป๋ฮวานั่งบีบมือเย็นเฉียบของตัวเองแน่นซางหลางผลักประตูเข้ามาอย่างเงียบเชียบ สายตาคมทอดมองไป๋ฮวาในชุดเจ้าสาวที่บัดนี้คือ ภรรยาของเขาที่เกือบจะสมบูรณ์แล้ว เขาก้าวเข้ามานั่งเคียงข้าง มือใหญ่เอื้อมไปยกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวขึ้นอย่างแผ่วเบา ดวงตาของทั้งสองสบกันในแววตานั้นไม่มีคำพูดใดอีก มีเพียงความรู้สึกที่ต่างเข้าใจ“ไป๋ฮวา” ซางหลางเอ่ยเสียงต่ำ อบอุ่นแต่หนักแน่น “นับจากคืนนี้ไป... เจ้าไม่ใช่เพียงหญิงสาวที

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   จบลงแล้ว

    ไป๋อวี้ ที่เพิ่งกลับมาจากตรวจแนวกำแพงยิ้มตาหยี เมื่อเห็นสภาพนั้นก็อดไม่ได้จะเอ่ยล้อขึ้นมา “เฮ้อ... ไท่จือผู้สง่างามของพวกเรา บัดนี้กลายเป็นคนเจ็บที่ให้สาวน้อยคอยดูแลเสียแล้วนะ”เว่ยจินชำเลืองมองพร้อมถอนหายใจ แต่ใบหน้าแดงเรื่อทำให้ทุกคนในเรือนหลุดหัวเราะออกมาอีกมุมหนึ่งของห้อง ซางหลาง ที่ยังคงสีหน้าเคร่งขรึมนั่งนิ่ง ทว่าแขนข้างหนึ่งกลับจับมือไป๋ฮวา ไว้อย่างแนบแน่นไม่ปล่อย ราวกับยังไม่เชื่อว่าตนจะได้เห็นไป๋ฮวาปลอดภัยกลับมา ไป๋ฮวายิ้มบางๆ พลางกระซิบเบาๆ “ท่านนี่ก็ชอบทำหน้าเหมือนโลกทั้งใบจะถล่ม ทั้งที่ข้าอยู่ตรงนี้แล้วแท้ๆ”ซางหลางเหลือบตามองไป๋ฮวา คำพูดมีเพียงประโยคสั้นๆ แต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น“เจ้าอย่าหายไปอีก...อย่าทำแบนั้นอีกข้าใจหายที่สุดเมื่อรู้ว่าคนภายใต้คมกระบี่ของเป่ยซวีเป็นเจ้า”ไป๋ฮวาหัวเราะเบาๆ พยักหน้ารับ รอยยิ้มชวนให้บรรยากาศในโถงคลายความตึงเครียดลง“ข้าสัญญา จะไม่ไมีครั้งที่สองอีกแล้วครั้งนี้ก็โดนท่านแม่ตักเตือนเสียยาว”ใกล้ๆ กันนั้น ตงเกา กำลังนั่งฟังเรื่องราวการศึกจากไป๋อวี้ ทว่าดวงตากลับเหลือบมองบุตรสาวอย่าง อี้หลิน ที่ยืนอยู่ไม่ไกล ใบหน้าของนางแดงก่ำด้วยความเขินเม

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   สิ้นสุด

    เสียงกลองรบค่อยๆ เงียบลง เหลือเพียงเสียงไฟไหม้ตำหนักและเสียงร้องคร่ำครวญของผู้บาดเจ็บเป็นฉากหลัง กลิ่นควันและเลือดลอยคลุ้งไปทั่ววังหลวงเป่ยเอียน ราชวังที่เคยยิ่งใหญ่กลับเหลือเพียงซากปรักหักพังกลางลานหินเปื้อนเลือด ร่างไร้ลมหายใจของเป่ยซวี นอนจมกองเลือดอยู่ตรงหน้า ดวงตาที่เคยเย่อหยิ่งและเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์บัดนี้แข็งค้างไร้ประกายเว่ยจิน จ้องมองภาพนั้นด้วยหัวใจสั่นสะท้าน เขารู้สึกเหมือนก้อนหินหนักมหึมาที่กดทับอยู่บนอกมาตลอดหลายปี ในที่สุดก็ถูกยกออกไปเสียที“ท่านพ่อ... ข้าทำได้แล้ว!” เว่ยจินทรุดกายลงคุกเข่าบนพื้นหิน มือสั่นเทา น้ำตาเอ่อล้นราวสายน้ำที่แตกทะลัก เขาก้มหน้าลงร้องไห้ เสียงสะอื้นดังสะเทือนหัวใจผู้คนรอบข้าง ความแค้นที่แบกเอาไว้ตั้งแต่วัยเด็ก ในที่สุดก็ได้รับการสะสางซางหลาง ที่ยืนไม่ห่างกัน เงยหน้าขึ้นมองฟ้า ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก วิ่งเข้าไป รวบกอดร่างบางของไป๋ฮวาแน่น ใบหน้าที่เคร่งเครียดมาตลอดการรบ สั่นสะท้านเล็กน้อยเมื่อรับรู้ว่าไป๋ฮวายังปลอดภัย“เจ้าปลอดภัยแล้ว... ไป๋ฮวาของข้า” น้ำเสียงเขาแตกพร่า ดวงตาแดงก่ำ กอดรัดแน่นราวจะละลายอีกคนเข้ามาในอก ไม่ยอมให้เลือนหายไปอีกไป๋

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ไม่เหลือเวลา

    “พร้อมหรือยังเรามาดูกันว่า... ใครจะได้คำตอบที่ต้องการก่อน” เสียงคมกระบี่ปะทะกันดังลั่นเมื่อซางหลางพุ่งเข้ามาใช้กระบี่ในมือกางกันคมกระบี่ก่อนที่จะถึงลำคอขาวของไป๋ฮวาที่นั่งหลับตาปี้ด้วยความกลัวตงเกา กระโดดเข้าไปข้างหน้าและปัดดาบของทหารที่ตรงหน้าก่อนจะบุกเข้ามาอย่างรวดเร็ว ขวางไม่ให้ทหารทำร้ายอี้หลินและไป๋ฮวา ท่ามกลางการต่อสู้ที่มีเสียงโลหะกระทบกันเป่ยซวี ไม่ยอมให้โอกาสหลุดมือไป เมื่อเห็นว่า ซางหลาง และ ตงเกา กำลังตกอยู่ในวงล้อมเขาจึงสั่งให้ทหารของเขาล้อม ไป๋ฮวา และ อี้หลิน ทันทีเว่ยจิน ตะโกนลั่น “ข้าจะไม่ให้ใครทำร้ายพวกนาง” พร้อมกับวิ่งไปข้างหน้าแต่ เป่ยซวี ก็ยิ้มเหยียดก่อนที่จะเล็งดาบไปที่ เว่ยจิน เขาพยายามจะฟันเข้ามา แต่ เว่ยจิน หลีกหลบได้อย่างรวดเร็วและสวนกลับไปด้วยการใช้ดาบในมือปัดดาบของ เป่ยซวี ออกไปซางหลาง ใช้โอกาสนี้จู่โจมเข้าที่ทหารของ เป่ยซวี ที่ยืนคุ้มกัน ไป๋ฮวา และ อี้หลิน เขารัวดาบออกไปอย่างแม่นยำ ทำให้ทหารของ เป่ยซวี ตกอยู่ในความอลหม่านในขณะที่ ตงเกา เข้าปะทะกับทหารหลายคน เขาควบคุมสถานการณ์ได้ดีพอสมควร แต่ยังไม่สามารถเข้าช่วย ไป๋ฮวา และ อี้หลิน ได้ทันทีไป๋ฮวา ที่เห

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status