สีหน้าของกู้หว่านเยว่บึ้งตึงจนน่ากลัว“พวกท่านจะฆ่าข้าไม่ได้ มิฉะนั้น ก็รอเก็บร่างของซูจิ่งสิงได้เลย”เจี่ยชิงอวิ๋นถอนหายใจออกมายังโชคดี ที่พิษกำเริบในช่วงเวลาสำคัญ“เป็นพิษที่เจ้าวางไว้”กู้หว่านเยว่ไม่สนใจเจี่ยชิงอวิ๋น รีบนำยาถอนพิษออกมาหนึ่งเม็ด ยัดใส่ในปากของซูจิ่งสิง“ไปเอาน้ำมา”นางออกคำสั่งฉู่เฟิง“ขอรับ” ฉู่เฟิงก็ตกใจเช่นกัน รีบออกไปถือน้ำชาเข้ามาหนึ่งถ้วยกู้หว่านเยว่อาศัยความมืดสลัวในคุกใต้ดิน พวกเขามองไม่เห็นเงื่อนงำใด ๆ เปลี่ยนน้ำชาในถ้วยชาให้เป็นน้ำแร่ศักดิ์สิทธิ์ แล้วกรอกใส่ปากซูจิ่งสิงหลังจากเสร็จสิ้นการกระทำชุดนี้ สายตาอันเย็นชาถึงได้จับจ้องไปที่เจี่ยชิงอวิ๋น“อย่าเพิ่งฆ่านาง พานางมาที่จวนแม่ทัพ”นางสงสัยว่าพิษในร่างกายของซูจิ่งสิงไม่ได้ธรรมดาอย่างนั้น“นายท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”ฉู่เฟิงถามด้วยความกังวลกู้หว่านเยว่ส่ายศีรษะ เวลานี้ซูจิ่งสิงหมดสติไปแล้วอย่างสมบูรณ์นางโอบเอวซูจิ่งสิงขึ้นมาทันที แล้วก้าวออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็วทุกคน: !พละกำลังของพระชายาช่างมหาศาลนัก!กู้หว่านเยว่เหาะเหินตรงขึ้นไปบนรถม้า ขณะที่ชิงเหลียนยังอยู่ข้างนอกคุกใต้ดิน เมื่อเ
ที่น่าเสียดายก็คือ กู้หว่านเยว่ส่ายหน้า“หนอนกู่ทั่วไปข้ายังสามารถถอนพิษได้ แต่หนอนกู่ชนิดนี้ในร่างกายของท่านพี่นั้นมีฤทธิ์ร้ายแรงมาก ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถถอนพิษได้หรือไม่”กู้หว่านเยว่พลิกดูตำราโบราณเกี่ยวกับหนอนกู่ในมือนางเชี่ยวชาญในการใช้ทักษะทางการแพทย์และทักษะด้านการใช้พิษ เรื่องหนอนกู่ แค่รู้เพียงผิวเผินเท่านั้นหากพบหนอนกู่ที่มีฤทธิ์ร้ายแรงมาก การฝืนถอนพิษมีแต่จะเป็นผลเสียต่อผู้ที่ถูกพิษอย่างเบาจะทำลายรากฐาน อย่างหนักอาจจะเสียชีวิตในทันทีกู้หว่านเยว่บอกเล่าความร้ายแรงออกมาหลิวชวี่ฟังจบใบหน้าก็ขมวดมุ่นทันที“พูดเช่นนี้ ท่านเองก็จนปัญญา แล้วจะทำอย่างไรดี ข้าเองก็ไม่รู้จักผู้เชี่ยวชาญที่สามารถถอนพิษกู่ได้”กู้หว่านเยว่หรี่ตาลง “เจี่ยชิงอวิ๋นล่ะ?”จากการแสดงออกของเจี่ยชิงอวิ๋นในคุกใต้ดินเมื่อสักครู่ กู้หว่านเยว่สามารถมั่นใจได้หนึ่งร้อยส่วนแล้วว่า หนอนกู่ในร่างกายของซูจิ่งสิงต้องถูกเจี่ยชิงอวิ๋นปล่อยออกมาแน่นอน“ถูกขังอยู่ห้องถัดไป”หลิวชวี่เอ่ยออกมาประโยคหนึ่ง“ข้าได้ยินฉู่เฟิงบอกเล่าต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวแล้ว คิดว่าหญิงผู้นี้ไม่ใช่ธรรมดา ดังนั้นจึงจับนางม
“พระชายาอ๋องเจิ้นเป่ย ท่านไม่เคยได้ยินประโยคหนึ่งหรือ?”แววตาของเจี่ยชิงอวิ๋นเผยความเกลียดชังออกมา“ท่านไม่ได้ฆ่าปั๋วเหริน แต่ปั๋วเหรินก็ตายเพราะท่าน”ซูจิ่งสิงไม่เคยทำร้ายนาง แต่คนในครอบครัวของนางก็ตายเพราะเขากู้หว่านเยว่นึกอะไรได้บางอย่าง พลางเชยตาขึ้นอย่างเฉียบแหลม “เจ้าสกุลเจี่ย เจ้าคือบุตรสาวของเจ้าเมืองเจี่ยแห่งเจียงหนาน!”รูม่านตาของเจี่ยชิงอวิ๋นหดตัวลง “ท่าน!” คนผู้นี้ฉลาดขนาดนี้เชียวหรือ?”เรื่องนี้จะโทษนางก็ไม่ได้ตอนที่ซูจิ่งสิงใช้ยาพูดความจริงกับนาง นางสูญเสียความตระหนักรู้ ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าตัวเองได้เรียกชื่อเดิมออกไปแล้วและในขณะที่กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงกำลังสืบสวนการสิ้นพระชนม์ของอดีตรัชทายาท ก็เคยเห็นขุนนางที่ติดตามอดีตรัชทายาทไปลาดตระเวนในเจียงหนานจากในเอกสารราชการมีขุนนางสกุลเจี่ยอยู่คนหนึ่ง ดูแลจัดการคลองเดินเรืออยู่อดีตรัชทายาทบังเอิญเกิดอุบัติเหตุในคลองเดินเรือที่เขาดูแลจัดการอยู่ฮ่องเต้ผู้ล่วงลับต้องสูญเสียบุตรอันเป็นที่รักไปอย่างเจ็บปวดด้วยความโกรธดั่งสายฟ้าฟาด สกุลเจี่ยทั้งครอบครัวถูกจองจำในเรือนจำใหญ่ด้วยเหตุที่ดูแลจัดการไม่ดีสุดท้าย คนสกุ
“ฮูหยิน ข้าจะลากนางออกไปใช้เครื่องทรมาน”ชิงเหลียนกำหมัดแน่นอยู่ทางด้านหนึ่งคนผู้นี้ไม่รู้อะไรดีรู้อะไรชั่วจริง ๆ ต้องการแก้แค้น เหตุใดถึงมาหาพวกเขา?” “ลากออกไปเถอะ” กู้หว่านเยว่ไม่ใจอ่อนนางโบกมือ เพื่อป้องกันไม่ให้เจี่ยชิงอวิ๋นคิดไม่ได้ดื้อดึงไม่ยอมรับสารภาพนางต้องค้นหาหนอนกู่ทั้งหมดออกมา ดูว่าจะหาวิธีได้หรือไม่“ใช่แล้ว ส่งคนไปหาหวงเหล่า”กู้หว่านเยว่เรียกฉู่เฟิงเข้ามา นางจำได้ว่าหวงเหล่ารอบรู้เรื่องหนอนกู่“พระชายา?”เจี่ยอวิ๋นก้าวออกมาข้างหน้า“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?”เขาเห็นภายในจวนดูเหมือนจะโกลาหลขึ้นมาทันใด ราวกับมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นหลิ่วเพียวเพียวไม่วางใจ ให้เขาเข้ามาสอบถามดู“มีอะไรที่เราสามารถช่วยได้ไหม?”กู้หว่านเยว่ส่ายศีรษะ “ไม่เป็นไร ให้พี่หญิงบำรุงครรภ์อย่างสบายใจได้”เรื่องที่ซูจิ่งสิงถูกพิษกู่ ไม่สามารถปล่อยให้รั่วไหลออกไปได้แม้แต่นิดเดียวขณะที่กำลังพูดอยู่ หงเจาก็กระวีกระวาดเข้ามา“ไม่ได้การแล้วฮูหยิน”นางมีสีหน้าสับสน เมื่อกู้หว่านเยว่ออกมา ก็ขอให้นางช่วยดูแลซูจิ่งสิงที่อยู่ในห้องดี ๆ“ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวกลับก่อน”เจี่ยอวิ๋นก็เป็นคนมีวิจารณ
ตอนขัดขวางซูจิ่งสิง เจียงเฟิ่งรับการโจมตีต่อหน้าจากซูจิ่งสิงหลายครั้ง“เจ้ามานี่”กู้หว่านเยว่กวักมือเรียกเจียงเฟิ่งเจียงเฟิ่งรู้อุปนิสัยของนาง เดินเข้าไปอย่างว่าง่ายกู้หว่านเยว่ตรวจบาดแผลของเขาเล็กน้อยแล้วโยนยาหนึ่งขวดให้“นี่คือยารักษาอาการบาดเจ็บภายใน เจ้าต้องกินทุกวันสองวันนี้ไม่ต้องมา พักรักษาอาการบาดเจ็บให้หายดีก่อนเถอะ”ภายในสายตาเจียงเฟิ่งเผยความซาบซึ้งใจแวบหนึ่ง จากนั้นส่ายหน้า “ไม่ได้ ข้าต้องอยู่ปรนนิบัติข้างกายนายท่านขอรับ”ซูจิ่งสิงเป็นเช่นนี้ไปแล้ว เขาที่เป็นผู้อยู่ใต้อาณัติจะไปพักรักษาตัวได้เยี่ยงไร?วันนี้โชคดีมีเขาอยู่ หากเขาไม่อยู่ ซูจิ่งสิงอาจออกไปแล้ว ไม่รอกู้หว่านเยว่มา“เชื่อฟัง”กู้หว่านเยว่พูดเสียงเครียด“สองสามกระบวนท่านั้นของเจ้านายเจ้าไม่เบา หากไม่อยากเกิดโรคเรื้อรังก็พักรักษาดีๆ รอหายดีแล้วค่อยมาก็ยังไม่สาย”แต่ไหนแต่ไรมานางมีเมตตาต่อผู้อยู่ใต้อาณัติเสมอ“ส่วนทางฝั่งนี้ ให้ฉู่เฟิงเฝ้าเถอะ”“ขอรับ”เจียงเฟิ่งจนใจ ทำได้เพียงพยักหน้าตกลงแต่ภายในใจยังไม่อาจวางใจซูจิ่งสิง ผินมองเจ้านายที่กำลังนอนหลับใหลไม่ได้สติบนเตียงแวบหนึ่ง ถึงหันหลังไปรักษ
“ก็แค่ไม่รู้ท่านอ๋องจะสามารถฟื้นขึ้นมาได้ยามใด หากท่านอ๋องไม่ฟื้น เรื่องนี้ก็ไม่ใช่แผนระยะยาว”“เร็วๆ นี้”กู้หว่านเยว่สั่งให้คนไปตามหาผู้เฒ่าหวงแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นทางฝั่งนางก็มีวิธีแล้ว“ใช่แล้ว น้องสาวท่านเป็นเช่นไร?”กู้หว่านเยว่มองทางหลิวชวี่แล้วเอ่ยถามหนึ่งประโยคเอ่ยถึงเรื่องนี้ ใบหน้าหลิวชวี่เผยรอยยิ้ม“อาศัยวาสนาของพระชายา น้องสาวดีขึ้นไม่น้อยแล้ว เช้าวันนี้ยังดื่มโจ๊กข้าวฟ่างได้ครึ่งชาม จิตใจดีกว่าก่อนหน้านี้มาก”กู้หว่านเยว่พยักหน้า เดิมทีอาการป่วยของหลิวหว่านอี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่พบวิธีรักษาก็เท่านั้น บัดนี้พบวิธีแล้ว ย่อมต้องหายได้อย่างว่องไว“ทว่าคนตระกูลฟ่านน่าขยะแขยง ข้ากำลังวางแผนจะไปจัดการพวกเขาอยู่เชียว”กู้หว่านเยว่พยักหน้า“ต้องจัดการชายชั่วให้ดีจริงๆ”“เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนแล้ว”หนานหยางอ๋องและหลิวชวี่มาเพื่อถามอาการของซูจิ่งสิง ได้รู้ว่าซูจิ่งสิงยังไม่ฟื้น แต่กู้หว่านเยว่กลับสุขุมถึงเพียงนี้ หัวใจตึงเครียดของทั้งคู่ก็วางใจลงครึ่งหนึ่ง รีบกลับออกไปขณะเดียวกัน ฉู่เฟิงวิ่งเข้ามาจากภายนอกด้วยความดีใจ“พระชายา ท่านดูว่าข้าพาใครมาแล้ว?”
ผู้เฒ่าหวงลูบเคราสีขาวเทา “หาแม่หนอนกู่ออกมา ย่อมสามารถนำออกมาได้อย่างปลอดภัย”สีหน้ากู้หว่านเยว่เคร่งขรึมดูท่าแล้วจะต้องง้างปากเค้นถามเจี่ยชิงอวิ๋นให้ได้“ต้องเร็วหน่อย หากไม่นำลูกหนอนกู่นี้ออกมาภายในสิบวัน คนจะพิการ กลายเป็นคนฟั่นเฟือน”ผู้เฒ่าหวงเอ่ยเตือนสิบวัน?นั่นก็เหลืออีกไม่กี่วันแล้วหัวใจกู้หว่านเยว่หนักอึ้ง ใบหน้ายังรักษาความสงบนิ่งเอาไว้ “ผู้เฒ่าหวง รบกวนท่านช่วยข้าดูแลท่านพี่ด้วย ข้าจะหาแม่หนอนกู่ออกมาให้ได้ภายในสิบวันเจ้าค่ะ”นางอธิบายเข็มเงินบนตัวซูจิ่งสิง ไปจนถึงเรื่องเขาอาจคุ้มคลั่งหนึ่งรอบ “เจ้าเก็บเข็มเงินไปเถอะ”ผู้เฒ่าหวงเดินมาหยุดหน้าไม้กระถาง เด็ดออกมาหนึ่งใบ พูดยิ้มๆ“ข้าสามารถใช้ดนตรีบำบัด ทำให้เขาฟื้นคืนสติได้”“ขอบคุณผู้เฒ่าหวงมากเจ้าค่ะ!”สมกับเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ปัญหาอื่นไม่อาจล้มกู้หว่านเยว่ได้ แต่เรื่องศาสตร์ลี้ลับหนอนกู่ทำนองนี้ กู้หว่านเยว่คนยุคหลังนี้มีความรู้น้อยมากนางรีบดึงเข็มเงินออกจากตัวซูจิ่งสิงผู้เฒ่าหวงเลื่อนใบไม้เข้าใกล้ริมฝีปาก เป่าเบาๆเสียงขลุ่ยดังออกมา ซูจิ่งสิงมีสัญญาณฟื้นคืนสติอย่างว่องไว“ท่านพี่?”กู้หว่านเย
ครู่ต่อมากู้หว่านเยว่ผินมองซูจิ่งสิงอดีตฮ่องเต้มีทายาทน้อย หากพระชายาในองค์รัชทายาทสามารถคลอดพระนัดดาองค์โตให้รัชทายาทได้ นั่นตำแหน่งของตำหนักบูรพารัชทายาทก็มั่นคงยิ่งขึ้นแล้ว“ก็คือปีนั้น อดีตฮ่องเต้ค่อยๆ รู้สึกว่าอายุมากแล้ว ร่างกายไม่แข็งแรงอย่างใจคิดพระองค์มีพระประสงค์สละราชบัลลังก์ให้อดีตรัชทายาท อย่างไรเสียปีนั้นตำหนักบูรพารัชทายาทก็มั่นคงอย่างมาก”ผู้เฒ่าหวงโบกพัดปัดเป่ากู้หว่านเยว่จิกนิ้วคำนวณ ราชครูโจวน่าจะเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มตำหนักบูรพาองค์รัชทายาทกระมัง“หลังเกิดความคิดนี้แล้ว อดีตฮ่องเต้ก็ให้รัชทายาทเดินทางลงใต้ สร้างบารมีน่าเกรงขามวางแผนรอรัชทายาทเดินทางกลับจากใต้แล้วค่อยมอบตำแหน่งฮ่องเต้ให้เขา”แต่ใครรู้เล่าว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันตอนเดินทางลงใต้เรือหลวงเผชิญหน้ากับโจรสลัด ไฟไหม้ อดีตรัชทายาทหนึ่งครอบครัวสามคนล้วนถูกสังหาร“ผู้เฒ่าหวง เหตุใดท่านจำเรื่องในปีนั้นได้กระจ่างชัดเจนถึงเพียงนี้เล่า?” กู้หว่านเยว่เอ่ยถามอย่างสงสัยผู้เฒ่าหวงหัวเราะ ทันใดนั้นกะพริบตาให้ซูจิ่งสิง“เพราะปีนั้นข้าเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มตำหนักบูรพารัชทายาท”บัดซบ!กู้หว่านเยว
“ชู่ว์ หลบไปข้าง ๆ”คนที่มาค่อนข้างเยอะ ประมาณห้าหกคนได้ โชคดีที่พวกเขาหลบได้เร็วคนทั้งห้าหกคนนี้ สวมสิ่งที่คล้ายหน้ากากป้องกันแก๊สพิษไว้บนใบหน้า และในมือก็ถือเครื่องมืออยู่ด้วยตอนนี้กู้หว่านเยว่ยังคงอยู่ในสภาวะสับสนกับห้องปรุงพิษ อีกทั้งยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาคืออะไร จึงตัดสินใจแอบตามพวกเขาไปเงียบ ๆ เผื่อว่าจะได้ยินข้อมูลที่เป็นประโยชน์อะไรบ้าง“ต้องมาเอาของข้างในตัวงูนี่อีกแล้ว น่าขยะแขยงจริง ๆ ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะจบสิ้นสักที”เป็นไปตามคาด ตามไปได้ครู่เดียว พวกเขาก็ได้ยินคนบ่นขึ้นมา“ทน ๆ ไปเถอะน่า ก็อีกไม่เท่าไรแล้ว”“จะทนอย่างไรเล่า สามปีแล้ว สามปีแล้วที่ข้าไม่ได้ออกไปไหนเลย”คนอื่น ๆ ที่เหลือได้ยินดังนั้น ต่างพากันถอนหายใจพวกเขาไม่อยากออกไปหรืออย่างไรเล่าแต่เมื่อเข้ามาที่นี่แล้ว การจะออกไปนั้น เกรงว่าจะเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งแล้ว“พวกเจ้าว่า หากไม่มีงูตัวนี้แล้ว ราชินีจะปล่อยพวกเราออกไปหรือไม่?”“หรือว่า จะฆ่าปิดปาก?”หนึ่งในนั้นทำท่าทางบางอย่าง คนอื่น ๆ ก็หน้าซีดเผือดไปตาม ๆ กัน“เป็นไปไม่ได้หรอก”ถึงแม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจพวกเขาก็ไม่ม
เมื่อเห็นว่าชายผู้นั้นกำลังจะฟื้นคืนสติ กู้หว่านเยว่จึงใช้สันมือฟาดลงไป ทำให้เขาสลบไปอีกครั้ง“เหตุใดถึงทำให้เขาสลบไปล่ะ ยังถามคำถามไม่เสร็จเลย”ชวีเฟิงเอ่ยถามด้วยความสงสัยทำให้กู้หว่านเยว่มองเขาราวกับมองคนปัญญาอ่อน ก่อนจะกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าไม่เห็นหรือไรว่ายาพูดความจริงกำลังจะหมดฤทธิ์แล้ว?”“อ้อ” เขายังไม่ทันสังเกตเห็นแต่เขาก็รู้จักของสิ่งนี้ เพราะก่อนหน้านี้กู้หว่านเยว่เคยให้เขากับยายแม่มดเฒ่ากินมันมาแล้ว“ของที่น่ากลัวนั่น มันคืออะไรกันแน่?”กู้หว่านเยว่ส่ายหน้า นางรู้สึกสังหรณ์ใจอยู่ราง ๆ ว่าห้องปรุงพิษนี้กำลังเตรียมการเรื่องใหญ่สะเทือนฟ้าสะเทือนดินอยู่“ไหน ๆ ก็มาถึงแล้ว พวกเราเข้าไปดูก็จะรู้เอง”กู้หว่านเยว่หรี่ตาลงพลางครุ่นคิด“ชุดที่พวกเราใส่อยู่ตอนนี้ ออกไปตรวจสอบไม่ได้แน่ ถอดเสื้อผ้าของคนงานเหมืองนี่ออกมา พวกเราเปลี่ยนใส่แทนเสีย”ชวีเฟิงในตอนนี้ได้ถือว่ากู้หว่านเยว่เป็นแกนนำหลักแล้ว เมื่อได้ยินดังนั้น จึงรีบถอดเสื้อผ้าของคนงานเหมืองสองคนในกลุ่มนั้นออกทันทีทั้งสองคนเปลี่ยนเสื้อผ้า“แล้วคนพวกนี้จะทำอย่างไร?” แถมยังมีวูเหมิงที่อยู่บนหลังเขาอีก แบกไว้ก็เคลื
“มียาแค่หนึ่งเม็ด กลิ่นหอมจะจางหายไปในอีกไม่นาน พวกเรารีบฉวยโอกาสตอนนี้ เดินอ้อมแมงมุมพิษพวกนี้กันเถอะ”“ได้”ทั้งสองเร่งฝีเท้า หลังจากเดินอ้อมเส้นทางที่ยาวเหยียดสายหนึ่ง ในที่สุดก็ไม่เห็นแมงมุมพิษอีกแล้ว แต่ว่าสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าพวกเขากลับเป็นแม่น้ำใต้ดินสายหนึ่งลมเย็นที่มีกลิ่นคาวปนพัดพลิ้วมาจากแม่น้ำใต้ดินเป็นระลอก ทำเอาทั้งสองต้องย่นจมูก“พระมเหสี ท่านมั่นใจหรือว่าที่นี่ก็คือห้องปรุงพิษ?”“ใช่”กู้หว่านเยว่พยักหน้า ระบบได้ส่งแผนที่ที่สมบูรณ์ให้นางแล้ว ไม่มีทางผิดแน่นอน“ตอนนี้พวกเราต้องเข้าไปโดยผ่านแม่น้ำใต้ดินสายนี้”มีแพไม้ไผ่อยู่ที่ข้างๆ น่าจะเป็นพาหนะของห้องปรุงพิษที่ใช้เข้าออกกู้หว่านเยว่กระโดดขึ้นแพไม้ไผ่อย่างไม่เกรงใจชวีเฟิงรีบพาวู่เมิ่งตามนางไปหลังจากวางวูเมิ่งลง หยิบไม้ไผ่ที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาพายแพไม้ไผ่เข้าไปข้างในเนื่องจากเรือทวนกระแสน้ำ ชวีเฟิงเหนื่อยจนมีเหงื่อเกาะบนหน้าผากไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ในที่สุดทัศนียภาพเบื้องหน้าก็ค่อยๆ เปิดออก พวกเขาข้ามแม่น้ำใต้ดินมาถึงพื้นที่โล่งแห่งหนึ่ง ทั้งสองกระโดดลงจากแพไม้ไผ่ หลังจากนั้นชวีเฟิงแบกวูเมิ่งขึ้นหลังอี
“ได้”กู้หว่านเยว่พยักหน้า ลดความเร็วในการค้นหาเส้นทางช้าลงระหว่างทางพวกเขาได้พบกับแมงมุมยักษ์สีแดงสองตัวอย่างที่คิดไว้ข้างหลังของแมงมุมพิษแต่ละตัวจะมีฝูงแมงมุมตัวเล็กๆ เดินตาม มันเยอะจนดูน่ากลัว เห็นแล้วถึงกับหนังศีรษะช้า“นายหญิง ระวังแมงมุมพิษชนิดนี้”ระบบเตือนในมิติ“เมื่อไปรบกวนมัน มันจะระเบิดตัวเอง และพ่นแมงมุมตัวเล็กนับไม่ถ้วนออกมา เมื่อนั้นพวกท่านจะเจอปัญหาแน่นอน”กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้ว ฟังดูเป็นปัญหาจริงๆ“รวบรวมของพวกนี้เข้าคลังในมิติ สามารถเพิ่มคะแนนสะสมหรือไม่?”“ได้” ระบบพยักหน้า“คะแนนสะสมที่เพิ่มขึ้นเยอะพอสมควร”เมื่อกู้หว่านเยว่ได้ยินก็ตาเป็นประกาย เช่นนี้ก็ง่ายอีกแล้วนางฉวยโอกาสโบกมือน้อยตอนที่ชวีเฟิงไม่สังเกต เก็บแมงมุมพิษสองตัวนี้เข้าไปในมิติ“แมงมุมพิษหายไปแล้ว”เนื่องจากฟ้ามืดเกินไป ชวีเฟิงก็มองเห็นไม่ชัดว่าแมงมุมสองตัวนี้ไปไหนแล้ว คิดแค่ว่าพวกมันเข้าไปในพุ่มหญ้าแล้ว จึงรีบมองหาดูรอบๆ“ไม่ต้องหาแล้ว พวกเราอ้อมไปอย่างระมัดระวังดีกว่า”กู้หว่านเยว่กล่าวเร่งเร้าประโยค ก็ไปเดินนำทางที่ข้างหน้าแล้วชวีเฟิงรับเดินตามทั้งสองเดินไปได้ครึ่งชั่วยาม ในที่ส
“อ๊ะๆๆๆ!”วูเมิ่งร้องคร่ำครวญอย่างเจ็บปวด ถ้าหากไม่ได้โดนมัดไว้ เขาคงเจ็บจนกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นแล้ว“เขียนบนพื้น”กู้หว่านเยว่ยื่นน้ำชาให้เขาหนึ่งถ้วยน้ำตาของวูเมิ่งแทบจะแห้งแล้ว แม้ห้องปรุงพิษของพวกเขาก็มักจะสอบสวนผู้อื่นเช่นนี้แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาโดนสอบสวน“ข้าเขียน ข้าเขียน”เขารีบทำปากพูด พลางยื่นมือสองข้างที่โดนมัดเข้าด้วยกันออกไป ใช้นิ้วชี้จุ่มลงไปในน้ำชาเดิมทีอยากฉวยโอกาสดีดยาพิษในซอกเล็บออกมา กลับพบว่าโดนกู้หว่านเยว่ค้นตัวจนไม่เหลืออะไรเลย แม้แต่ยาพิษในซอกเล็บก็โดนขูดออกมาแล้วเขากัดฟันแน่น ใช้ดวงตาที่เป็นประกายจ้องกู้หว่านเยว่เขาชอบผู้หญิงสวย ผู้หญิงที่เก่งกาจ เขายิ่งชอบ‘ชวีอวี้’ เก่งกาจเช่นนี้ เขาชอบสุดๆรอเขามีโอกาส เขาจะสยบนางแน่นอน“เขียน” กู้หว่านเยว่สั่งอย่างใจเย็นเหลือเวลาไม่มากแล้ว ชวีเฟิงกล้าร้องหนึ่งชั่วยาม แต่ใช้ว่าวูเมิ่งจะทำได้นานเช่นนี้“คุกใต้ดินห้องปรุงพิษ” วูเมิ่งเขียนลงบนพื้นกู้หว่านเยว่ประหลาดใจ “เจ้าบอกว่าอยู่ในมือของเจ้าไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงอยู่ที่ห้องปรุงพิษ?”แววร้อนตัวแลบผ่านดวงตาวูเมิ่งเขาเขียน “ไม่พูดเช่นนี้ เจ้าจะยอมแต่งง
“ให้ตายเถอะ!”ชวีเฟิงยังไม่ทันได้ใช้ศิลปะการต่อสู้เลย ก็เห็นเขาโดนกู้หว่านเยว่ผลักจนล้มลง จึงอุทานออกมาด้วยความตกใจ“ท่านทำอะไรกับเขา?”“เปล่านี่ แค่ทำให้เขาสลบ จะได้สอบสวนง่ายขึ้น”กู้หว่านเยว่พูดอย่างสบายๆนางเป็นไปที่ตรงหน้าวูเมิ่ง ค้นตามร่างกายเขาครู่หนึ่ง พบอาวุธลับและยาพิษมากมาย“แหม โชคดีที่ทำให้เขาสลบก่อน ของพวกนี้สามารถทำให้พวกเราเสียเวลาพักใหญ่เลย”“ของพวกนี้มันอะไร?” ชวีเฟิงมองขวดเหล่านั้นอย่างงงงวย“นี่คือยาพิษที่ฆ่าคนได้ในพริบตา”“น้ำยาทำลายศพ ความหมายตามชื่อเลย มีฤทธิ์กัดกร่อนสูงมาก”“ไห่ถังเจ็ดดาว ไร้สีไร้รส ผู้ที่ถูกพิษจะหมดสติทันที ตายอยู่ในความฝัน อีกทั้งยังเป็นฝันดีด้วย ตอนตายยังยิ้มอยู่เลย”“อันนี้…”“เดี๋ยวก่อน เลิกพูดได้แล้ว!”กู้หว่านเยว่ยังจะพูดต่อ ชวีเฟิงรีบห้ามนาง “ของพวกนี้ก็น่ากลัวมากแล้ว ขืนฟังต่อไป ข้ากลัวว่าข้าจะฝันร้ายทำไมเขาถึงพกยาพิษมากมายเช่นนี้ ไม่กลัวตัวเองโดนพิษของตัวเองเลยหรือ”“เขาเป็นคนของห้องปรุงพิษ เจอยาพิษป้องกันตัวบนตัวเขาก็เป็นเรื่องปกติ”กู้หว่านเยว่เก็บยาพิษเหล่านั้นเข้าไปในมิติอย่างใจเย็นหลังจากนั้น นางเดินไปที่ประตู ม
“อวี้เอ๋อร์ ข้ามารับเจ้าแล้ว ทำไมเจ้าถึงล็อคประตูล่ะ? เป็นเจ้าสาวก็เลยเขินอย่างนั้นหรือ?”เสียงของผู้ชายดังมาจากข้างนอกความเกลียดชังปรากฏขึ้นบนใบหน้าชวีอวี้“วูเมิ่งมาแล้ว”“เจ้ารีบไปซ่อนตัวเร็วเข้า”กู้หว่านเยว่รีบกล่าวออกคำสั่ง ชวีอวี้พยักหน้า ออกจากห้องเวลานี้เป็นไปไม่ได้แล้ว นางกวาดมองโดยรอบ แล้วรีบไปหลบที่ใต้เตียงชวีเฟิงจะเข้าไปเปิดประตูกู้หว่านเยว่กล่าวเตือน “จำไว้ ไม่ว่าเวลาใดก็อย่าเปิดเผยตัวตน หากทนไม่ไหวจริงๆ ก็นึกถึงแค้นบัญชีเลือดของครอบครัวเจ้า”“เข้าใจแล้ว”ชวีเฟิงข่มอารมณ์แล้วพยักหน้าหลังจากเขามองกู้หว่านเยว่อย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง จึงจะเดินไปเปิดประตูเขากับวูเมิ่งเคยเจอกัน กลัวว่าอีกฝ่ายจะจับได้ ดังนั้นหลังจากเปิดประตูก็รีบก้มหน้า โชคดีที่ความสนใจของวูเมิ่งไม่ได้อยู่ที่เขา“อวี้เอ๋อร์”สายตาของวูเมิ่งราวกับติดอยู่กับตัว ‘ชวีอวี้’ เขาเดินไปที่ตรงหน้านาง แล้วจ้องนางอย่างหลงใหล“วันนี้เจ้าสวยจริงๆ สวยจนข้าไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง”สีหน้าวูเมิ่งเต็มไปด้วยความลุ่มหลงเขายื่นมือออกไป หวังจะจับแก้มของ ‘ชวีอวี้’“ไสหัวไป!”‘ชวีอวี้’ หันหน้าหนีอย่างความรังเกียจ
กู้หว่านเยว่เผยอปาก นี่คือสิ่งที่นางอยากได้ยิน“อยากให้ข้าช่วยให้สกุลชวีผ่านมรสุมครั้งนี้ มันไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ว่าต่อจากนี้เจ้าต้องฟังข้า”กู้หว่านเยว่มีเจตนาที่ชัดเจน เห็นได้ชัดว่านางคิดแผนรับมือไว้ตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว“ท่านพูดมาได้เลย”ชวีเฟิงรีบลุกขึ้น“ให้พี่หญิงของเจ้าถอนชุดแต่งงานกับมงกุฎหงส์ลงมาก่อน”กู้หว่านเยว่ออกคำสั่ง“เจ้าหาข้ออ้างเรียกสาวใช้ที่อยู่หน้าประตูเข้ามา หลังจากตีนางสลบ ถอดเสื้อชั้นนอกของนางออก แล้วสวมบนตัวเจ้า”กู้หว่านเยว่สั่งอย่างเป็นระเบียบ ชวีเฟิงมองไปทางชวีอวี้ พยักหน้าเบาๆ“พี่หญิง ทำตามที่นางบอก”“...ได้”ชวีอวี้คิดแล้วคิดอีก ท้ายที่สุดก็ยังเลือกเชื่อกู้หว่านเยว่ อย่างไรก็ตามสีหน้ากู้หว่านเยว่ดูเรียบเฉยมาก ราวกับว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมนางเรียบถอดชุดแต่งงานและมงกุฎหงส์ลงมาวางบนโต๊ะ“หลังจากนั้นล่ะ?”“หลังจากนั้นข้าจะปลอมตัวเป็นเจ้าสาว แต่งเขาบ้านวูเมิ่งแทนเจ้า”กู้หว่านเยว่ฉีกหน้ากากหนังมนุษย์บนใบหน้าออก ชวีอวี้จึงจะพบว่าที่แท้นางเป็นผู้หญิงด้วยความประหลาดใจกู้หว่านเยว่สวมชุดแต่งงานและมงกุฎหงส์ โชคดีที่การสวมใส่มงกุฎหงส์ของเมี่ยวเ
“พี่หญิง บางทีท่านอาจจะรู้สึกว่าข้ารักตัวกลัวตาย แต่ในใจกลับรู้สึกว่าหนานเจียงไม่มีที่ยืนสำหรับพวกเราแล้วบางทีสิ่งที่ข้าทำอาจช่วยทำให้สกุลชวีมีทางรอด”“ทางรอด?”เมื่อชวีอวี้ได้ยินคำพูดนี้ รอยยิ้มเย้ยหยันก็ปรากฏขึ้นที่ใบหน้า“สกุลชวีของเราไม่มีทางรอดแล้ว”นางมองไปทางชวีเฟิง“คิดว่าตอนที่เจ้าเพิ่งเข้ามาก็เห็นแล้ว ข้างนอกล้วนเป็นคนของสกุลวู ฮองเฮาอยากให้พวกเราตาย สกุลวูก็อยากให้พวกเราตาย พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว”ในแววตาของนางเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ราวกับว่าเคยผ่านความเป็นความตายมาแล้วชวีเฟิงนึกถึงอะไรบางอย่างกะทันหัน“พี่ชวีหลิงล่ะ?”เขาเป็นคู่หมั้นของพี่หญิง เหตุใดจึงไม่เห็นเขาปรากฏตัว และพี่หญิงก็ไม่ได้พูดถึงเขาเลยจู่ๆ เขาก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี“พี่หญิง พี่ชวีหลิงล่ะ?”จนกระทั่งเวลานี้เอง ในที่สุดร่างกายของชวีอวี้ก็สั่นอย่างไม่สามารถควบคุม นางปิดหน้า หยดน้ำตาไหลออกมาจากระหว่างนิ้ว “ตายแล้ว เขาตายแล้ว”“อะไรนะ!”ชวีเฟิงทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ จิตใจได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ถึงว่าชวีอวี้จะแต่งงานกับวูเมิ่ง ชวีหลิงไม่เคยปรากฏตัวเลย“วูเมิ่งฆ่าเขาหรือ?”ชวีเฟิง