Share

บทที่ 8

Penulis: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
“นั่นน่ะสิ หัวหน้าใกล้จะหมดลมแล้ว นางยังพิรี้พิไรอยู่อีก”

“รู้วิชาแพทย์อันใดกัน? ข้าว่านางเสแสร้งเสียมากกว่า” ชายคางแหลมคนหนึ่งกะพริบตาเล็กน้อย หยิบแส้ออกมา ตั้งใจฟาดไปที่กู้หว่านเยว่

ทว่าจางเอ้อคว้าแส้ไว้ได้อย่างรวดเร็ว

“เหล่าหลี ให้นางดูก่อนเถิด”

เขารู้สึกว่ากู้หว่านเยว่ทำได้

“นางยังเยาว์ถึงเพียงนี้ ทั้งยังเป็นอิสตรี จะรู้วิชาแพทย์ได้อย่างไร?” เหล่าหลี่ยังคงไม่ปล่อยมือ

กู้หว่านเยว่เลือกเซรุ่มที่ต้องการมาจากหอแห่งโอสถแล้ว เมื่อได้ยินคำเมื่อครู่ จึงมองไปหาและแดกดันว่า

“เจ้ารีบห้ามข้าเช่นนี้ หรือว่าไม่อยากให้ข้ารักษาหัวหน้าของพวกเจ้าให้หายหรือ?”

“เจ้า เจ้าเหลวไหล ข้าเปล่าเสียหน่อย!”

เหล่าหลี่ที่ถูกคำพูดแทงก็โกรธมาก

เขาอายุมากกว่าซุนอู่ มีคุณสมบัติสูงกว่าซุนอู่ การคุ้มกันครั้งนี้ควรเป็นเขาที่เป็นหัวหน้า แต่เบื้องบนกลับมอบหมายงานนี้ไปให้ซุนอู่แทน...

กู้หว่านเยว่มองเขาอย่างหยอกล้อ ไม่สนใจที่จะโต้เถียงกับเขา ก่อนจะหยิบเข็มฉีดยาที่บรรจุเซรุ่มออกมาจากกระเป๋าสะพายหลัง

แล้วปักลงไปที่แขนของซุนอู่โดยไม่ลังเล

การฉีดเข้ากล้ามเนื้อ เป็นวิธีล้างพิษที่มีประสิทธิภาพที่สุด

จางเอ้อไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน มองดูเข็มฉีดยาอย่างสงสัย “นี่คือสิ่งใด? ใช้เจ้าสิ่งนี้แทงหัวหน้าก็สามารถล้างพิษได้แล้วหรือ?”

กู้หว่านเยว่ไม่พูดอะไร เพ่งสมาธิไปที่การสังเกตอาการของซุนอู่

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที การฉีดเซรั่มล้างพิษก็เสร็จสิ้น

กู้หว่านเยว่โยนเข็มฉีดยาลงในกระเป๋าสะพายหลังแล้วพูดยืนยันว่า “อีกครึ่งชั่วยามเขาก็จะตื่นแล้ว”

ส่วนเข็มฉีดยาเข็มนั้น นางไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่ม อย่างไรเสีย พวกเขาก็ไม่เคยเห็นมันมาก่อน ไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องอธิบาย

ขอเพียงแค่แก้พิษได้ก็เป็นพอ

พอดีกับที่ซุนอู่พึมพำออกมา เหล่านักการพุ่งมาล้อมตัวเขาไว้อย่างรวดเร็ว และกว่าที่เขาจะตื่นก็ใช้เวลาอีกพอควร ทั้งหลายจึงพักอยู่กับที่ รอให้ซุนอู่ตื่นแล้วค่อยออกเดินทางต่อ

กู้หว่านเยว่เดินกลับไปหาซูจิ่งสิง

ทุกคนในตระกูลซูมองนางอย่างสงสัย ทว่าเพราะตัดสัมพันธ์แล้วจะไม่สะดวกใจจะเอ่ยถาม

ซูจิ่นเอ๋ออดไม่ได้ จึงพูดขึ้นมาก่อนว่า “ดาวไม้กวาด เจ้ารู้วิชาแพทย์จริงๆ หรือ? ทำไมข้าไม่รู้ว่าก่อนเลยเล่า?”

กู้หว่านเยว่พูดอย่างใจเย็น “สมองเจ้าไม่ดี ย่อมไม่รู้อยู่แล้ว”

“เจ้า!” ซูจิ่นเอ๋อพองแก้มด้วยความโกรธ แต่พอนึกถึงสิ่งที่ต้องการจากคำตอบก็กลืนความโกรธลงท้อง และถามว่า “ในเมื่อเจ้ารู้วิชาแพทย์ เช่นนั้นก็สามารถรักษาบาดแผลให้พี่ใหญ่ได้ใช่หรือไม่?”

นางยังคงกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของพี่ใหญ่

หากกู้หว่านเยว่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของพี่ชายนางได้จริงๆ เช่นนั้นจากนี้นางก็จะลับฝีปากกับนางให้น้อยลงหน่อย

หลี่ซือซือที่นั่งอยู่ข้างๆ ฮูหยินผู้เฒ่าจงใจพูดขึ้นมาว่า “ไม่เคยได้ยินว่าตระกูลโหว[footnoteRef:1]สกุลใดส่งบุตรีไปร่ำเรียนวิชาแพทย์ คงไม่ใช่ว่าอ่านหนังสือการแพทย์ไปไม่กี่เล่มแล้วลำพองตน บอกว่ารู้วิธีการรักษากระมัง?” [1: ตำแหน่งขุนนางลำดับที่สอง]

ทุกคนในตระกูลซูเดิมทีกำลังดูเรื่องตลก แต่เมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนั้น ก็พลันนั่งไม่ติดที่

“กู่หว่านเยว่ เจ้าก็ช่างสร้างเรื่องเก่งเหลือเกินแล้ว หากนักการคนนั้นเป็นอะไรไป เช่นนั้นไม่ใช่ว่าพวกเราต้องพลอยโดนหางเลขไปกับเจ้าหรือ?”

ซูหัวหลินรีบพูดว่า “ตัดสัมพันธ์กันไปแล้ว บ้านสามของพวกเจ้าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเราอีก หากจะโชคร้ายพวกเจ้าก็ไปโชคร้ายกันเองเสีย”

เฉียนซื่อยังกล่าวอีกว่า “ใช้แล้ว อย่ามาลากพวกเราลงน้ำไปด้วย!”

เดิมทีบรรดาฮูหยินผู้เฒ่าที่นั่งใกล้กู้หว่านเยว่อยู่หน่อยก็รีบหลบหลีก ทำท่าราวกับว่าซ่อนตัวจากเทพโรคระบาด ขยับห่างจากนางด้วยความรังเกียจ กลัวว่าจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย

ซูจิ่นเอ๋อลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้เข้าร่วมดุด่ากู้หว่านเยว่กับพวกเขา นางยอมเชื่อว่ากู่หว่านเยว่รู้วิชาแพทย์ หวังว่าพี่ใหญ่ของนางจะมีวิธีช่วย

กู้หว่านเยว่ไม่มีเวลาสนใจพวกเขา

ถือเวลาที่ยังว่างนี้ ก้มหัวลงเก็บหญ้าสมุนไพรสองข้างทาง

หยางซื่อและซูจื่อชิงไม่มีอะไรทำ ดังนั้นจึงมาช่วยนางเก็บอีกแรง

ครึ่งชั่วยามต่อมา จางเอ้อก็เดินเข้ามา

ค่ำคืนมืดมิด ใบหน้าของอีกฝ่ายมองอย่างไรก็เลือนราง

คนตระกูลซูคิดไปก่อนแล้วว่าจางเอ้อมาเพื่อกล่าวโทษ หลิวซื่อพูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆ ว่า “บางคนนะ รีบเข้าไปเอาใจเหล่านักการพวกนั้นจนตัวสั่น ใครจะรู้ว่าพาตัวเองเข้าคุกไปเสียแล้ว ข้าจะรอดูว่านางจะได้รับโชคร้ายอย่างไรไป”

“พี่สะใภ้ใหญ่…” ซูจื่อชิงจับมือกู่หว่านเยว่โดยไม่รู้ตัว

ไม่ใช่ว่าเขาไม่ไว้ใจกู้หว่านเยว่ แต่จางเอ้อโหดร้ายเลวทราม ดูแล้วก็เหมือนว่ากำลังมาสร้างปัญหาอยู่จริงๆ

ซูจิ่งสิงที่นอนอยู่บนรถเข็นเองก็ขมวดคิ้ว ในใจไม่มั่นคง

แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เขาจะปกป้องกู้หว่านเยว่อย่างแน่นอน

ภายใต้การจ้องมองของสายตาหลายคู่ที่แตกต่างกันไป จางเอ้อก็ก้าวเข้ามาหากู้หว่านเยว่ และทันใดนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะแสนตื่นเต้นออกมา

“แม่นางน้อยกู้ ท่านประเสริฐเหลือเกิน! หัวหน้าของเรารู้สึกตัวแล้ว พูดได้แล้วด้วย”

ทุกคนในตระกูลซูต่างตกตะลึง

คนคนนั้นถูกกู้หว่านเยว่ช่วยกลับมาได้แล้วจริงๆ หรือ?

จากนั้น ดวงตาของพวกเขาก็ฉายความอิจฉาออกมามากขึ้น มองเห็นจางเอ้อหยิบห่อซาลาเปาเนื้อที่เปรอะน้ำมันมันเยิ้มมาจากด้านหลัง

“พวกเราไม่มีอะไรจะขอบคุณ เช่นนั้นก็ขอมอบซาลาเปานี้ให้แทน ท่านอย่าได้รังเกียจเลย”

พวกเขาซื้อซาลาเปาเนื้อห่อนี้มาจากเมืองหลวงในราคาไม่กี่หยวน ราคาไม่สูงนัก แต่สำหรับนักโทษที่อยู่ระหว่างการเนรเทศกลับมีค่ายิ่ง

กู้หว่านเยว่ประหลาดใจเล็กน้อย แต่นางก็ไม่ปฏิเสธ แผ่นแป้งไส้เนื้อเมื่อช่วงกลางวันนางกินไปไม่เยอะ อาหารปรุงสุกในมิติก็ไม่สะดวกจะเอาออกมา ท้องจึงหิวอยู่ไม่หยอก

“ขอบคุณมาก เช่นนั้นข้าก็ขอรับไว้แล้ว”

“สมควรแล้ว ท่านรีบพักผ่อนเถอะ ข้าต้องกลับไปดูแลหัวหน้าต่อแล้ว”

จางเอ้อแจ้งให้ทุกคนทราบว่า คืนนี้พวกเขาจะพักผ่อนกันที่นี่

เมื่อจางเอ้อจากไป ทุกคนในตระกูลซูก็จ้องไปที่ซาลาเปาเนื้อในมือของกู่หว่านเยว่ตาเป็นมัน แทบรอไม่ไหว อยากกระโจนไปตะครุบ

“กู่หว่านเยว่ ได้รับซาลาเปาเนื้อมามากเช่นนั้น ควรให้พวกเราผู้อาวุโสได้ลิ้มลองก่อน”

เฉียนซื่อกล่าวอย่างไร้ยางอาย

ฮูหยินผู้เฒ่ากลืนน้ำลาย เดินมาทั้งวัน นางก็กินไปแค่ซาลาเปาเนื้อเพียงลูกเดียว หิวจนหน้ามืดตาลายอยู่นานแล้ว

นางรอให้กู้หว่านเยว่มาส่งซาลาเปามาให้อย่างเชื่อฟัง

กู้หว่านเยว่หัวเราะเย็น พูดอย่างไร้ความปรานี “ตัดสัมพันธ์กันไปแล้ว เจ้านับเป็นผู้อาวุโสของตระกูลใดกัน?”

“ซาลาเปาก้อนนี้ต่อให้ต้องกลายเป็นอาหารสุนัข ก็จะไม่แบ่งให้พวกคนใจเหี้ยมใจสามานย์อย่างพวกเจ้า”

“เจ้า……”

เฉียนซื่อโกรธจนเริ่มพับแขนเสื้อขึ้น ซูหัวหลินรีบเข้ามาหยุดนางไว้ ความสามารถในการต่อสู้ของกู้หว่านเยว่เป็นที่รู้กันดี หากเข้าไปประมือมีแต่พวกเขาที่จะโชคร้าย

เขาขยิบตาให้เฉียนซื่อ เป็นนัยว่ารอให้หลับกันไปก่อนแล้วค่อยลงมือ

“ท่านแม่ จื่อชิง ซาลาเปาของพวกท่าน”

กู้หว่านเยว่เปิดห่อกระดาษเยิ้มน้ำมัน หยิบซาลาเปาเนื้อสองชิ้นออกมาแล้วแบ่งให้หยางซื่อกับซูจื่อชิง

ทั้งสองแสนจะสุขใจ

กู้หว่านเยว่หยิบออกมาอีกลูกหนึ่งแล้วยื่นให้ซูจิ่งสิง

“สามี ของท่านเจ้าค่ะ”

หลังจากที่เห็นซูจิ่งสิงหยิบซาลาเปาเนื้อไป นางก็หยิบอีกลูกออกมายัดเข้าปาก จากนั้นก็ห่อกระดาษเยิ้มน้ำมันนั้นใหม่ แล้วเก็บใส่กระเป๋าเล็กๆ ของตน

ซูจิ่นเอ๋อมองดูเคลื่อนไหวทั้งหมดของนางที่คล้ายว่าลืมตนเองไปจนสิ้น รีบพูดอย่างกังวลใจว่า

“ดาวไม้กวาด ยังมีข้านะ!”

กู้หว่านเยว่เหลือบมองไปที่นาง “เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?”

ใบหน้าของซูจิ่นเอ๋อเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่นางตะกละในซาลาเปาเนื้อ จึงไม่ลังเลใจที่จะเปลี่ยนสรรพนาม

“พี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่ยังมีข้าเจ้าค่ะ ขอร้องท่านแบ่งซาลาเปาเนื้อให้ข้าสักลูกเถอะ”

เด็กน้อย ยังจะรักษาเจ้าไม่ได้หรืออย่างไร?

กู้หว่านเยว่หยิบซาลาเปาเนื้ออีกชิ้นออกมาจากห่อกระดาษน้ำมัน แต่แบ่งให้ซูจิ่นเอ๋อเพียงครึ่งลูก เหตุผลก็เพราะเมื่อกลางวันนางแอบไปกินซาลาเปาเนื้อลับหลังทุกคน พฤติกรรมน่าละอาย

ใบหน้าของซูจินเอ๋อเปลี่ยนเป็นสีแดง นางก้มศีรษะลง กัดเอาซาลาเปาครึ่งลูกนั้นเข้าปากไปแต่โดยดี

ค่ำคืนลึกล้ำ

นักโทษที่เดินทางมาทั้งวันต่างก็ล้มลงกับพื้น เหนื่อยล้าจนหลับสนิท

กู้หว่านเยว่เอนหลังพิงรถเข็น แล้วหยิบเข็มกับด้ายออกมาเย็บปะบางอย่าง

ซูจิ่งสิงเองก็ไม่ได้หลับไป หันข้างไปมองนาง ดวงตาของทั้งสองคนบังเอญหันมาสบกัน...
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (3)
goodnovel comment avatar
วริศรา กัณหาสร้อย
ดีมากสนุกมากหวังว่าจะจบแบบแฮพปี้เอนดิ้งนะคะ
goodnovel comment avatar
Dumpjea
สนุกค่ะ หวังว่าน้องพระเอก จะปรับนิสัยได้ จะได้ร่วมเสพสุขด้วยกัน
goodnovel comment avatar
วรรณดี ศาลาทอง
ยิ่งอ่านยิ่งสนุกขึ้นเรื่อยเรื่อยค่ะ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2258

    วันนี้เมื่อนึกขึ้นมาได้จึงรู้สึกว่าคนผู้นี้อาจเป็นคนเก่ง ดังนั้นจึงอาจหาญแนะนำใต้เท้าโจวพูดจบในคราวเดียว หน้าผากมีเหงื่อผุดซึมออกมาแล้ว จึงรีบใช้ชายแขนเสื้อเช็ด“ตอนนี้คนผู้นั้นอยู่ที่ใดหรือ?”ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีความสามารถนี้หรือไม่ อย่างไรก็ต้องเรียกมาพบก่อนลองสอบถามดูก่อนเผื่อสามารถสร้างเรือรบที่ออกทำศึกสงครามได้ ก็ไม่ถือว่าสูญเสียคนมีความสามารถไปโดยเปล่าประโยชน์ ขณะเดียวกันก็คลี่คลายสถานการณ์คับขันได้ด้วยใต้เท้าโจวรีบกล่าว “คนผู้นี้มีนามว่าฟางเฉียน เป็นเถ้าแก่ทำการค้าเรียบชายฝั่ง ตอนนี้คาดว่าน่าจะยังอยู่ในลี่สุ่ยที่กระหม่อมเคยรับราชการพ่ะย่ะค่ะ”ซูจิ่งสิงพยักหน้า เรื่องนี้จัดการไม่ยาก แค่ให้คนไปพาตัวอีกฝ่ายมาก็ได้แล้ว“ในเมื่อเจ้ารู้จักเถ้าแก่ฟางคนนี้ ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้ขอมอบให้เจ้าไปจัดการ ใต้เท้าโจว เราหวังว่าเจ้าจะออกเดินทางวันนี้ แล้วพาคนผู้นั้นกลับมาภายในเจ็ดวัน”ซูจิ่งสิงเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย ใต้เท้าโจวนึกไม่ถึงว่าซูจิ่งสิงจะเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของตัวเอง จึงดีใจโดยพลัน รีบคุกเข่าลง“ฝ่าบาทโปรดวางใจ กระหม่อมจะไม่ทำให้พระองค์ผิดหวัง จะนำคนผู้นั้นกลับมาอย่างปลอดภั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2257

    เรือรบที่ซูจื่อชิงนำผู้ใต้บัญชาสร้างขึ้น ซูจิ่งสิงดูมาแล้ว แต่กลับมีปัญหาต้าฉีไม่สันทัดเรื่องสร้างเรือรบ ยิ่งไม่เคยทำศึกบนทะเลมาก่อนเรือรบที่ซูจื่อชิงพาผู้ใต้บัญชาสร้างขึ้น แม้จะดูยิ่งใหญ่อลังการมาก อานุภาพดูรุนแรง แต่กลับมีข้อบกพร่องที่อันตรายถึงชีวิตนั่นคือมีทุกสิ่งมารวมกัน เป็นเรือสารพัดประโยชน์ แต่ก็ไม่มีสิ่งใดโดดเด่นเลยอีกทั้งตัวเรือที่ออกแบบมีแกนกลางของเรือสูงเกินไป ทำให้ลงน้ำได้ไม่ลึก หากเจอลมพายุจะพลิกคว่ำได้ง่าย ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ออกรบไม่ได้เด็ดขาดเหล่าขุนนางต่างไม่เข้าใจ “ฝ่าบาท เรือรบนี้มีสิ่งใดไม่ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ?”ซูจิ่งสิงอธิบาย “เราเคยเห็นเรือรบของแคว้นอู๋วั่ง เล็กกะทัดรัด ปราดเปรียวอย่างมาก หากเรือรบของเราปะทะกับเรือรบของพวกเขา เกรงว่าคงไม่มีทางชนะ”เมื่อได้ยินซูจิ่งสิงอธิบายเช่นนี้ ใจของพวกเขาจมดิ่งไปกว่าครึ่ง“ตามที่ฝ่าบาทอธิบาย หากเรือรบของพวกเราปะทะกับเรือของพวกเขา น่าจะไม่มีทางชนะจริงๆ”“ทหารของพวกเราไม่เคยทำศึกบนทะเลมาก่อน ส่วนเรื่องเรือรบก็ไม่มีความรู้เลยสักนิด ไม่ต่างจากคนตาบอดจุดตะเกียงข้ามคลอง”เดิมซูจื่อชิงเตรียมการพร้อมแล้ว แต่นึกไม่ถึงว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2256

    ตอนเช้าเพิ่งตื่นมา พวกเขาสองคนก็รออยู่ด้านนอก เขากับกู้หว่านเยว่ยังไม่ได้กินอาหารเช้า“พวกเจ้าสองคนออกไปก่อน” ซูจิ่งสิงเห็นคนทั้งสองมองหน้ากันไปมา มีตาหามีแววไม่ จึงทำหน้าเข้มแล้วไล่แขกซูจื่อชิงถึงได้รู้สึกตัว แล้วยิ้มอย่างเขินอาย “พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่ยังไม่ได้กินอาหารเช้าสินะ? ถ้าอย่างนั้นน้องขอตัวลาไปก่อน ไว้ตอนบ่ายค่อยกลับมา”ซูจิ่งสิงพยักหน้า กู้หว่านเยว่ที่อยู่ข้างกันเห็นทั้งสองคนรีบจากไป จึงหันมองซูจิ่งสิงอย่างจนปัญญา“ดุเหลือเกิน”ซูจิ่งสิงกอดเอวกู้หว่านเยว่ ทำหน้าอาลัยอาวรณ์“ตอนนี้เรารู้แล้วว่าอะไรคือฮ่องเต้ไม่ว่าราชการตอนเช้าแล้ว”กู้หว่านเยว่ยื่นนิ้วมือออกมาแตะปลายจมูกซูจิ่งสิง“ฮ่องเต้พูดอย่างนี้ อยากเป็นทรราชหรือเพคะ”ซูจิ่งสิงกระแอมหนึ่งเสียง สีหน้าเปลี่ยนเป็นขึงขังไม่น้อยเขาย่อมไม่เป็นทรราชก็แค่พูดเล่นไปอย่างนั้นเอง“ไปกินอาหารเช้าก่อน กินอาหารเช้าเสร็จแล้วข้าจะไปจัดการธุระ เจ้าพักอยู่ในตำหนักให้ดี”เมื่อนึกถึงฎีกาที่กองพะเนินเหมือนภูเขา ซูจิ่งสิงขมวดคิ้วแน่นกู้หว่านเยว่พยักหน้า พอดีอาหารเช้าเป็นสิ่งที่นางชอบทั้งนั้น จึงกินอย่างเอร็ดอร่อยไปหนึ่งมื้อ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2255

    ซูจิ้งได้เห็นภาพนี้ ความกังวลในใจลดลงไม่น้อยเขากังวลมาตลอดว่าซูจื่อชิงจะไม่รู้จักแยกแยะ แต่ดูจากตอนนี้ ลูกชายรู้จักแยกแยะมากกว่าผู้ใดเมื่อการทารข้าวฉันท์ครอบครัวจบลง กู้หว่านเยว่กับซูจิ่งสิงกลับไปในวัง ทั้งสองคนเดินทางติดต่อกัน ยามวิการก็ไม่อยากจัดการเรื่องใดอีก จึงพักผ่อนโดยตรงหลังนอนหลับเต็มอิ่ม เช้าวันรุ่งขึ้น ซูจื่อชิงมารออยู่ข้างนอกตั้งแต่เช้าตรู่ นอกจากนี้คนที่มาขอเข้าเฝ้ายังมีเว่ยเฉิง“องค์ชายน้อยล่ะ?”สายตาเว่ยเฉิงตัดพ้อ สอนได้แค่ไม่กี่วัน นักเรียนก็หายไปแล้วกู้หว่านเยว่ยิ้มแล้วให้ทั้งสองคนนั่ง “จ้านจ้านยังไม่กลับมา ยังอยู่ที่ราบแห่งความโกลาหล”เว่ยเฉิงถอนหายใจ แล้วกุมขมับอย่างจนปัญญา “เอาเถอะ เอาเถอะ ขอให้ตอนที่องค์ชายน้อยกลับมาอย่าลืมสิ่งที่กระหม่อมเคยสอนก็พอ”กู้หว่านเยว่สีหน้าขึงขัง “รอให้ได้พบเขา ข้าจะบอกเขาแทนราชครู ว่าท่านคิดถึงเขา”ใบหน้าเว่ยเฉิงแดงเถือก “กระหม่อมไม่ได้หมายความเช่นนั้น เพียงแต่เป็นห่วงว่าองค์ชายน้อยจะลืมทำการบ้าน แต่องค์ชายอายุยังน้อย ชอบเที่ยวเล่นก็เป็นเรื่องปกติ”เว่ยเฉิงไม่รู้เลย ที่จ้านจ้านยังอยู่ที่ราบแห่งความโกลาหลไม่ใช่เพื่อเที่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2254

    เดิมทีซูจิ่นเอ๋อร์พูดเช่นนี้โดยไม่มีเจตนา ทว่ากลับตรงใจกู้หว่านเยว่พอดิบพอดีความคิดของกู้หว่านเยว่ตรงกับซูจิ่นเอ๋อร์ ในเมื่อทำลายกระปุกพิษและสังหารฮ่องเต้ชีไปแล้ว ตอนนี้ทั่วทั้งแคว้นอู๋วั่งวุ่นวายโกลาหลไปหมด ไม่สู้ฉวยโอกาสนี้จัดการแคว้นอู๋วั่งให้สิ้นซากเสีย“ที่จิ่นเอ๋อร์ว่ามาไม่ผิดเลยสักนิด ในเมื่อพวกเขาไม่มีคุณธรรม ไม่สู้พวกเราก็หาโอกาสบุกไปโจมตีพวกเขาเสีย”กู้หว่านเยว่หันมองซูจิ่งสิง สองสามีภรรยาหารือกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว“ก่อนพวกเราจะกลับมา ข้าได้เขียนจดหมายถึงเจ้าหนึ่งฉบับ โดยให้เหยี่ยวทองส่งมา เจ้าได้รับหรือไม่?”ซูจื่อชิงได้ยินดังนั้น จึงรีบพยักหน้า“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่ จดหมายที่พวกท่านเขียนถึงข้า ข้าล้วนได้รับทั้งสิ้น อีกอย่างข้าได้สั่งการตามเนื้อหาในจดหมายแล้ว ช่วงเวลาที่ผ่านมาล้วนกำลังฝึกทหารเรือ”ซูจื่อชิงรีบกล่าว “ยังให้ผู้บัญชาการเรียบชายฝั่งเริ่มสร้างเรือรบ ตอนนี้น่าจะเสร็จไปพอสมควรแล้ว”ซูจิ่งสิงพยักหน้าอย่างพอใจ ตอนนี้ซูจื่อชิงทำงานได้น่าเชื่อถือมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว หนักแน่นกว่าเมื่อก่อนไม่น้อย เขาจึงรู้สึกวางใจ“ส่วนเรื่องรายละเอียด ชั่วขณะหนึ่งข้าก็อธิบาย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2253

    ซูจิ่นเอ๋อร์ยิ้มอย่างดูแคลน “แม่สามีข้า...ตอนนี้นางยังเอาตัวไม่รอด จะมีเวลามาสนใจข้าได้อย่างไร”นางหยางยังไม่รู้สึกตัวซูจิ่นเอ๋อร์กลับเปลี่ยนหัวข้อ ไม่อยากพูดเรื่องนี้อีกต่อไปนางไม่ใช่เด็กสาวที่จริงใจต่อผู้อื่นโดยไม่คิดจะป้องกันตัวแม้แต่น้อยเหมือนในอดีตแล้ว ในเมื่อฮูหยินผู้เฒ่าฟู่ไม่อยากอยู่ร่วมกับนาง นางก็มีสารพัดวิธีทำให้อีกฝ่ายเจ็บใจ“ท่านแม่วางใจเถอะ บัดนี้พี่ใหญ่ของข้าเป็นฮ่องเต้ พี่รองเป็นท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ตระกูลฝั่งมารดาคือจวนกั๋วกง ตัวข้าเองก็เป็นองค์หญิงใหญ่ ไม่มีใครรังแกข้าได้หรอก”เมื่อก่อนซูจิ่นเอ๋อร์ขี้เกรงใจมากเกินไปคิดแต่อยากจะอยู่ร่วมกันกับคนสกุลฟู่ให้ดี ไม่อยากใช้อำนาจข่มใคร ไม่เคยวางท่าขององค์หญิงใหญ่ กลับทำให้พวกเขานึกว่าตัวเองรังแกได้ง่าย ๆแต่ลืมไปว่าสันดานคนก็คือรังแกผู้อ่อนแอกว่า พวกเขานึกว่าซูจิ่นเอ๋อร์รังแกได้ง่าย ๆ จึงยิ่งได้คืบจะเอาศอกนางหยางจับมือซูจิ่นเอ๋อร์อย่างคนที่เคยผ่านโลกมาแล้ว กล่าวเตือน “อย่าทำจนน่าเกลียดเกินไป อย่างไรก็เป็นมารดาของสามีเจ้า เขาอยู่ตรงกลางก็ลำบากใจ ระวังจะกระทบความสัมพันธ์ของพวกเจ้า”ซูจิ่นเอ๋อร์ถอนหายใจเฮือ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status