“ขาล คือเมื่อคืน...” เธอพูดเสียงแผ่ว จ้องมองริมฝีปากผมที่หยัดยิ้มอย่างอ้อยอิ่ง “พี่ทำอะไรน่าอายลงไปเยอะเลย ขอโทษนะคะ”
“แต่ผมกลับชอบที่พี่ทำแบบนั้นนะ” ผมโพล่งขึ้นมาอย่างไม่แคร์ความรู้สึกผิดจากแววตาคู่สวยที่หวานซึ้ง ผมรู้ว่าในใจลึกๆ ของเธอกำลังกระหายใคร่รู้ในตัวตนที่ซ่อนอยู่ของผม แต่เธอแค่ยังกลัวกับขนบธรรมเนียมเก่าๆ “แล้ววันนี้”
“...”
“พี่จะให้ผมแวะไปหาที่ห้องอีกรึเปล่า?”
“หยุดก่อนเลยนะ” พอเห็นว่าผมเริ่มเข้ามาประชิดตัว พี่หมี่ที่เสียเปรียบเพราะเธอตัวเล็กกว่าก็เลยพยายามดันแผงอกผมออกไป “เหมือนน้องขาลจะลืมไปว่าที่นี่คือโรงพยาบาล”
“ผมไม่สน” ผมสวนกลับทันที ก่อนที่จะเบี่ยงหน้าไปกระซิบข้างกกหูขาว “ผมอยาก ที่มาหาพี่ก็เพราะอยาก”
“... แต่พี่ยังไม่พร้อมนะ” เธอเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อผมใช้ฝ่ามือหนาเกลี่ยปอยผมยาวๆ สีชมพูอ่อนที่ปรกหน้าเธอจนเห็นพวงแก้มนวลเชื่อมต่อไปจนถึงใบหูที่ขึ้นสีจัดจากสิ่งที่ผมทำ ผมเลยขบหูเธอเบาๆ “อ๊ะ ขาล ฟังพี่ด้วย”
แปลกดี ปากห้ามผมแทบตาย แต่กลับไม่ผลักผมออกสักที
พี่หมี่กำลังท้าทายผมอ้อมๆ โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว
“เมื่อคืนผมยังไม่เสร็จ พี่ก็ไม่เสร็จไม่ใช่เหรอ” ผมพูดเย้าแหย่ข้างกกหูตอนที่ดึงเส้นผมหอมๆ ของเธอมาสูดดมอย่างหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นกายสาว หรือแม้แต่เส้นผม ก็หอมหมดจดไปซะทุกส่วนจริงๆ
“แต่ที่นี่มันโรงพยาบาล อีกอย่างขาลก็ไม่ได้ล็อกประตูด้วยนะคะ”
“ไม่มีใครเข้ามาหรอกครับพี่หมี่”
“ขาล เมื่อคืนที่พี่พลั้งเกือบมีอะไรกับเรา พี่เมานะ แล้วพี่ก็ไม่... อื้อ” พอเห็นว่าพี่หมี่เริ่มตั้งท่าที่จะปฏิเสธเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาเพราะเถียงสู้ผมไม่ได้ ทั้งที่เธอก็รู้อยู่แก่ใจว่าพวกเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว ผมในวันนี้ไม่ใช่ขาลผู้ภักดีและเว้นระยะห่าง ในเมื่อพี่หมี่ยั่วยวน ผมก็จะไม่หยุด
ผมดูดปลายลิ้นที่หอมหวานของเธอจนเกิดเสียงภายในห้องพักของแพทย์ที่เงียบสงัด พี่หมี่พยายามทุบอกผมที่ตัวใหญ่กว่ามาก แต่แรงเธอกลับไม่ทำให้ผมสะเทือน กลับกัน ผมจูบเธอแรงขึ้น หนักขึ้น และดูดดื่มขึ้นมากกว่าเดิมจนคนตัวเล็กหอบหายใจชิดริมฝีปากของผม
“แฮ่ก... อื้อ” เธอโดนผมจูบอีกรอบเพราะใบหน้ายั่วๆ นั่น มือแกร่งเริ่มปลดกระดุมเม็ดบนของเสื้อกาวน์ออก ในขณะที่พี่หมี่พยายามดิ้นทุรนทุรายในอ้อมแขนของผม “อ๊ะ ขาล”
“ทำไมชอบปฏิเสธผม” ผมกระซิบชิดพวงแก้มที่ขึ้นสีแดงฝาดของเธอโดยไม่ต้องการคำตอบ กดจูบมันหนักๆ ในขณะที่มือหนาก็บีบเคล้นหน้าอกทรงโตที่ซ่อนความเซ็กซี่เหลือร้ายนั่นไว้ใต้เสื้อกาวน์สีขาวและชุดแซก “พี่ปฏิเสธผมมากี่ร้อยครั้งแล้ว พี่หมี่”
“อื้อ ขาล พี่เจ็บ” เธอเบ้หน้าที่ขึ้นสีแดงจัดนั่นเมื่อผมใช้แผ่นอกและตัวใหญ่ๆ ดันร่างบางจนบั้นท้ายกลมกลึงชนกับโต๊ะทำงานที่อยู่ด้านหลัง เธอจนมุมอยู่ตรงนั้น ในขณะที่มืออีกข้างที่ยังว่างของผมก็เชยคางเธอขึ้นมา
“แต่ใจผมมันด้านพอ ผมไม่ยอมแพ้หรอกครับ”
“...”
“เมื่อคืนสำหรับพี่หมี่อาจเป็นเรื่องพลาด แต่สำหรับผม” ผมกดเสียงเน้นย้ำในประโยคท้าย ถึงความเรียลลิสติกในใจผม “มันคือของจริง”
“แฮ่ก...”
“ผมจะไม่ให้พี่ไปให้ครั้งแรกกับใคร นอกจากผมคนเดียว”
[จบพาร์ท : ขาล]
ฉันใจสั่น ยิ่งใจสั่นมากขึ้นเมื่อน้องขาลมีท่าทางจริงจัง
เมื่อเช้า ฉันตื่นมาด้วยความทรงจำที่ยากจะลืม ทั้งสัมผัสร้อนแรง ทั้งความเสียวสะท้านเมื่อคืนที่ขาลปรนเปรอให้ มันยังติดอยู่ในใจฉัน ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลของคุณพ่อ
ฉันเป็นแพทย์หญิงดีเด่นในช่วงอายุยี่สิบห้าปี แต่เชื่อมั้ยว่าฉันกลับยังคงเวอร์จิ้นทั้งๆ ที่อายุขนาดนี้แล้ว และที่น่าตกใจกว่าก็คือในวันที่ตัวเองอกหักและอยากมีเซ็กซ์กับใครสักคน ก็ดันไปเผลอพลั้งปากสัญญาว่าจะเสียพรหมจรรย์แรกให้กับผู้ชายที่มองว่าเป็นน้องชายมาตลอด
ขาลในช่วงก่อนหน้านั้นแวะเวียนมาหาฉันบ่อยๆ และแสดงออกว่าชอบฉัน แต่เขาไม่เคยเข้ามาประชิดตัวและรุกรานแบบวันนี้ เขาเปลี่ยนไปหลังจากเมื่อคืน ขาลรุกไล่ฉันอย่างหนักหน่วง เหมือนเส้นด้ายที่กั้นระหว่างเราได้ขาดไปเพราะความคิดชั่ววูบของฉันเมื่อคืนนี้
ก็แค่ต้องการในบางครั้ง แล้วขาลก็ดันเป็นคนๆ นั้นที่เข้ามาถูกจังหวะพอดีเท่านั้นเอง
มันคือความพลั้งเผลอของฉัน
แม้จะรู้สึกโชคดีที่ไม่เผลอตัวเผลอใจตกเป็นของน้องชายสมัยเด็ก แต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนฉันให้ความหวังน้องขาลไปแล้วเต็มๆ เปา
ฉันอยากจะปฏิเสธแบบจริงจัง ฉันอยากจะพูดออกมาตรงๆ ว่า ฉันมองเห็นขาลเป็นแค่น้องชายเท่านั้น
แต่ปากกับร่างกายกลับไม่ต่อต้านเขา
จนร่างของฉันถูกเด็กหนุ่มยกขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ ให้หน้าอกฉันอยู่เกือบประชิดใบหน้าของขาล แต่เพราะเขาตัวใหญ่มาก ก็เลยต้องค้อมหัวลงมา ทรงผมมัดจุกครึ่งหัวไม่ทำให้ขาลดูฮอตน้อยลงเลย
ใช่ เพราะฉันรู้ว่าน้องขาลหน้าตาดี ร่างกายกำยำล่ำสัน และร้อนแรงแค่ไหน เพราะรู้ว่าขาลเป็นแบบนี้ในสายตาผู้หญิงคนอื่น ในใจลึกๆ ก็เลยอยากจะตกเป็นของเขา
ฉันมันก็แค่ผู้ใหญ่ที่อยากรู้อยากลองเหมือนเด็กสาววัยแรกรุ่น
จนขาลเริ่มเอื้อมมาปลดซิปจากชุดแซกข้างหลัง ซึ่งเขาดูช่ำชองและรู้จุดที่จะถอดชุดแบบนี้ออกในทันที ทั้งๆ ที่ขาลก็แค่เด็กอายุยี่สิบเอ็ดที่ไม่น่าจะมีประสบการณ์มากมายขนาดนั้น
ฉันกัดริมฝีปากแน่น มือที่ทึ้งเสื้อช็อปสีเลือดหมูของขาลจิกมันแน่นขึ้น ในขณะที่เสื้อกาวน์ของฉันตกไหล่ไปกองอยู่บนพื้นโต๊ะ และซิปข้างหลังก็ถูกรูดลงไปถึงกลางหลัง
คนตัวใหญ่ปลดชุดแซกแขนกุดของฉันออกจนเห็นลาดไหล่ขาวนวล เขากลืนน้ำลายลงคอ ในขณะที่จะโน้มใบหน้าเข้ามาพรมจูบไปตามลาดไหล่ของฉันที่นั่งตัวแข็ง
ทำไมไม่ห้ามเขาล่ะ ทำไมไม่ผลักออก?
ได้แต่ถามตัวเองแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไร นอกจากความรู้สึกแสบเล็กๆ เพราะขาลกำลังดูดเม้มที่ไหปลาร้าเหมือนคนที่กำลังมัวเมากับของหวาน
“ผมชอบพี่จัง พี่หมี่” จนเขากระซิบชิดลาดไหล่เปลือยเปล่าของฉัน พร้อมๆ กับปลายนิ้วสากที่เริ่มเกี่ยวสายชั้นในของฉันจนตกลงไปที่แขน
“...”
“ชอบจนแทบบ้าเลย”
“อ๊ะ อื้อ” ริมฝีปากถูกครอบครองอีกครั้ง นิ้วทั้งห้าสะบัดไปมาตรงกลีบเนื้ออวบอูมจนฉันกระตุกแล้วก็ปลดปล่อยน้ำหล่อลื่นออกมารดมือของเขามากมาย ขาลดูดปลายลิ้นของฉัน ก่อนที่เขาจะปลดซิปกางเกงลงฉันเอาหลังมือมากัดไว้แน่น ตัวสั่นงันงกเมื่อขาลชักแก่นกายที่แข็งชูชันออกมา เขาถูเบาๆ ที่กลีบชื้นแฉะ และค่อยๆ ดันมันเข้าไปอย่างช้าๆ“... เดี๋ยว!” ฉันทึ้งเสื้อที่เปียกน้ำของคนตัวโตไว้แน่น เมื่อขาลรุดเข้าไปได้แค่ครึ่งหัว มันก็สร้างความปวดร้าวและคับแน่นจนแทบกรี๊ดออกมาดังๆ เพื่อระบายความเจ็บ “ดะ เดี๋ยว เดี๋ยวนะคะ เดี๋ยวก่อน”ฉันละล่ำละลั่กเสียงสั่นไปหมด เลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูกเมื่อน้องขาลผละกายแกร่งที่ตระกองกอดฉันออกมา เขาสบตาฉันด้วยแววตาที่แดงก่ำจากฤทธิ์ของกัญชาที่น้องอาจสูบก่อนมาที่นี่ ร่างสูงเอื้อมมือมาปิดปากฉันไว้ แล้วกระซิบชิดหลังมือหนาของตัวเอง“แค่ครึ่งหัวก็เจ็บแล้วเหรอครับ?” น้ำเสียงเข้มข้นของน้องขาลทำให้ฉันเบิกตาโต ใจสั่นไหวเมื่อเขาดันมันเข้าไปอีก และโพรงนุ่มที่เจ็บระบมของฉันก็ราวกับหลุมลึกขนาดเล็กที่ดูดท่อนเนื้อของเขาเข้าไป“อื้ออออ!!” ฉันทุบอกเขาเสียงดังปั่กๆ ฉันอยากให้น้องขาลเอาออก แต่เหมือนน้องจะรู้เ
“น้องขาล ทำไม... อื้อ!” พอรู้ว่าเป็นร่างสูงของคนที่มีความสัมพันธ์สวาทด้วย ฉันก็เปิดประตูออกมารับทันที แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยปากถามอะไรเขาด้วยซ้ำ ร่างกำยำก็รวบท้ายทอยของฉันเข้ามาประกบปากจูบกับริมฝีปากที่เปียกชื้นจากน้ำฝนและความอุ่นร้อนจากพิษรักของเขาทันทีกลิ่นบุหรี่คละคลุ้งปนไปกับน้ำฝนที่ออกรสเค็มเล็กๆ ขาลดูดริมฝีปากของฉันจากหน้าประตู เขาตระกองกอดฉันไว้แนบอกแกร่ง และแลกลมหายใจกับฉันจนแทบอ่อนเปลี้ยอยู่ตรงนั้น“แฮ่ก... ขาล” ฉันทึ้งคอเสื้อที่เปียกชื้นของเขาไว้ หอบหายใจ พร้อมกับผละริมฝีปากออกด้วยตัวเองเพราะหายใจไม่ทัน “มีอะไรเหรอ รุดมาตอนที่ฝนตกอยู่เลย”“ผมอยาก” เขาตอบกลับมาแค่นั้น เพียงสั้นๆ แต่กลับทำให้ฉันรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว“อะ...! ไม่ได้นะ เดี๋ยวติดหวัด” และทันทีที่น้องขาลพูดว่าอยาก เขาก็ซุกไซร้ริมฝีปากหยักลึกเข้าที่ซอกคออุ่นๆ ของฉัน ดูดจนเป็นรอยจ้ำอีกรอย ส่วนมือหนาก็บีบขยำหน้าอกที่ซ่อนอยู่ใต้ชุดคลุมอาบน้ำไปด้วย จนฉันต้องร่นถอยหลังแล้วเอี้ยวตัวไปปิดประตู“พี่ปฏิเสธผมจัง ผมก็แค่...” ริมฝีปากหยักลึกกระซิบกลับ ก่อนที่ฉันจะเป็นฝ่ายกอดขาลเอาไว้เอง“ขาล... ถอดชุดก่อน นะคะ” ท้ายประโยคฉั
“ระ... เราอยากมีอะไรกับนาย”“...”“ไม่ต้องผูกมัดก็ได้ ขอแค่ได้มีอะไรกับขาล... ก็พอแล้ว”เกิดเดดแอร์ขึ้นระหว่างเราทั้งคู่ ผมพ่นควันกัญชาออกมาอย่างเฉื่อยชา ไม่ใช่ไม่รู้ว่าน้ำอิงชอบผมมาตั้งนานแล้ว และความรู้สึกดีๆ มันก็มากขึ้นในคืนที่เรานัวปากกันโดยที่นั่นคือจูบแรกของเธอแต่สำหรับผม นั่นก็แค่จูบที่สิบจากใครหลายต่อหลายคนที่ผ่านมา“น้ำอิง” ผมเรียกชื่อเล่นเต็มๆ ของมัน และเจ้าของวงแขนเล็กก็สะดุ้ง “รู้ปะ ว่าที่ทำอยู่เนี่ย เธอจะไม่ได้ความชัดเจนอะไรจากเราทั้งนั้น”“...”“ถ้าเราพลั้งมีเซ็กซ์กับเธอ มันก็แค่วันไนท์ เธอจะไม่ได้เป็นแฟนเรา เพราะเราไม่ได้คิดอะไรกับเธอ”“ระ... เราขอโทษ” จนเธอผละวงแขนออกเหมือนเพิ่งรู้สึกตัวว่าได้ทำอะไรลงไป น้ำอิงไม่กล้าพอที่จะมีอะไรกับคนอย่างผมจริงๆ หรอก เธอรู้กิตติศัพท์ในวิทยาลัยผมดี “เราดูใจง่ายใช่มั้ย ที่ขอมีอะไรกับนาย”“ก็ไม่แปลก” แต่ผมก็เข้าใจความรู้สึกของอิงดี เธอกับผมมีส่วนคล้ายกัน “ชอบใคร ก็ต้องอยากมีเซ็กซ์ด้วยสิ”“เราเห็นนายกับพี่สาวคนนั้น” มันเลยโพล่งขึ้นมาเพื่อเข้าประเด็น และคงเป็นเรื่องที่ทำให้คนเรียบร้อยอย่างน้ำอิงถึงกับถ่อมาหาผมที่นี่ “นายขับรถผ่านหน้าเรา
[พาร์ท : ขาล]ผมกลับมาที่บ้านด้วยความรู้สึกเจ็บหน่วงที่อกเป็นปกติใช่มั้ยวะที่พอชอบใครมากๆ แต่เป็นไปไม่ได้มากกว่าความสัมพันธ์ที่ฉาบฉวยมันก็เจ็บใจ เจ็บใจที่คาดหวังไปเองเจ็บใจเพราะว่าส่วนหนึ่งที่พี่หมี่ยังไม่เลือกผมก็เพราะแฟนเก่า เธอยังลืมไอ้หมอคนนั้นไม่ได้ ก็แค่ไม่มั่นใจในตัวผมสักเท่าไหร่ผมเดินสะพายกระเป๋าฟีบๆ ผ่านโต๊ะที่ว่างเปล่า บ้านที่เงียบสงัดเพราะไร้เงาของน้องแท้ๆ ทำให้ผมถอนหายใจหนัก คงอยู่กับไอ้เหี้ยเตมั้ง แต่ผมไม่ใช่คนที่หวงน้องสาวหนักจนบ้าอะไรเทือกนั้น ยิ่งมันอายุสิบแปดขึ้นยิ่งปล่อย คิดว่าชีวิตมัน มันจัดการเองได้ผมไม่ได้หวงใครไปมากกว่าพี่หมี่เลยว่ะผมคีบมวนบุหรี่ในกระป๋องเหล็กที่ซื้อพิเศษมาคาบไว้แล้วจุดไฟสูบ มันเป็นกัญชาผสมยาเส้น รู้ว่าเหี้ยต่อสุขภาพ แต่มันทำให้ผมลืมความเจ็บปวดที่มีได้เร็วขึ้นเหมือนกันผมพ่นควันที่มีกลิ่นเฉพาะตัวออกมา นั่งพิงกับเบาะโซฟาอย่างอ้อยอิ่ง เพราะถ้าสูบต่อหน้าไอ้ขิม มันคงบ่นผมเป็นต่อยหอยพร้อมกับเอาไปฟ้องพ่อว่าผมยังไม่เลิกกัญชาเหมือนตอนที่อยู่อเมริกาก็อย่างว่า ผมเสพมันตั้งแต่อายุสิบสองผมรู้ว่าสำหรับพี่หมี่ ผมมันเป็นไปไม่ได้ ผมมันเป็นแค่ผู้ชายที่อายุ
ฉันคิดว่าในตอนที่น้องขาลเล้าโลม ฉันต้องการตัวตนของขาลเข้ามานะ ก็เลยเผลอทำสีหน้าเย้าอารมณ์คนเหนือร่างแบบนั้น แต่เพราะครั้งแรกของฉันดันเป็นผู้ชายที่มีขนาด 60 อย่างขาล ก็เลยต้องกังวลเป็นพิเศษไม่ใช่อะไรหรอก ฉันเป็นหมอแผนกสูตินารีเวทย์ เป็นหมอตรวจภายในสำหรับสตรีซะด้วยสิ ขนาดเท่านั้นอาจจะทำให้อวัยวะเพศฉีกขาดได้เลยนะสุดท้ายเพราะไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ แถมฉันก็เป็นไข้อยู่ด้วย ขาลเลยเข้าไปทำโจ๊กสำเร็จรูปที่มีอยู่ในตู้เก็บของในครัวให้ฉันทานแทน เขาบอกว่าเขาทำอาหารไม่เป็น แต่ถ้าแค่ต้มโจ๊กให้ผู้หญิงที่ชอบก็น่าจะทำได้สบายๆฉันพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ จะพูดว่ายังไงดีล่ะ... ฉันก็ทำอาหารไม่เก่งเหมือนกัน แถมไม่ค่อยมีเวลาด้วย ในตู้ก็เลยมีแต่อาหารสำเร็จรูปเต็มไปหมดได้กลิ่นหอมของโจ๊กหมูสับในครัวใกล้ๆ ห้องนอน นั่นก็เพราะว่าขาลเปิดประตูอยู่ด้วยล่ะนะจนผ่านไปสิบห้าวินาทีเขาก็เข้ามาพร้อมกับถ้วยโจ๊กที่ควันฉุย ฉันเม้มริมฝีปากแน่นตอนที่ขาลวางโจ๊กลงบนโต๊ะแก้วข้างๆ เตียง พร้อมกับก้าวฉับๆ ไปเอายาจากกล่องใสที่ฉันเขียนว่าเป็นยาสำหรับแก้อะไรๆ จะได้หยิบใช้ง่ายเวลาฉุกเฉินมาพร้อมกับแก้วน้ำใจเต้นเลยนะเนี่ย ปกติเขาก็ดูแลฉั
“แค่ถู จะพอจริงๆ เหรอครับ”“...”“เพราะสีหน้าพี่ตอนนี้ แม่งเหมือนอยากให้ผมใส่เข้าไปจะตายอยู่แล้ว”และ... ใช่ สีหน้าของฉันมันคงยั่วยวนขาลมาก เขาถึงได้ผงาดขึ้นถูไถกับกลีบเนื้อชื้นของฉันซะขนาดนั้นเหงื่อของขาลหยดลงมาที่ริมฝีปากเป็นหยดเล็กๆ ฉันเผลอแลบลิ้นตวัดเลียมันเข้าไปในปากอย่างเร่าร้อน จนถูกร่างสูงใหญ่รวบข้อมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัวด้วยฝ่ามือใหญ่เพียงมือเดียว พร้อมกับริมฝีปากแห้งผากที่ต้องการน้ำจากกายของเราทั้งคู่จะตระโบมเข้าหากันอย่างดุเดือด“อื้อออ” ฉันครางในลำคอเมื่อถูกดูดปลายลิ้นอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บระบม ขาลจูบจนได้ยินเสียงดังจ๊วบจ๊าบ เขาไม่อ่อนโยนเลย มืออีกข้างก็เคล้นหน้าอกอวบของฉันจนแทบกลายเป็นก้อนแป้งพิซซ่าแหลกเหลวในอุ้งมือก็ไม่ปานแต่ทว่า... มันกลับทำให้ฉันเสร็จคาท่อนที่ถูไถอยู่ด้านนอกไม่หยุดรสชาติจากริมฝีปากของขาลปะปนไปด้วยกลิ่นบุหรี่ และกลิ่นยาสีฟันชาร์โคลมิ้นท์ในแบบของผู้ชายที่น่าหลงใหล แววตาของฉันพร่าเบลอ ในขณะที่ขาลจะรูดซิปลงแล้วหยัดกายขึ้นสูงรูดกางเกงยีนส์ออกอย่างเอาเรื่องฉันผงกหัวไปดูเขาในจังหวะที่ขาลปลดบ็อกเซอร์ออกจนท่อนเนื้อที่ใหญ่โตดีดผึงออกมา เป็นครั้งแรกที่ฉันได้