“ขาล คือเมื่อคืน...” เธอพูดเสียงแผ่ว จ้องมองริมฝีปากผมที่หยัดยิ้มอย่างอ้อยอิ่ง “พี่ทำอะไรน่าอายลงไปเยอะเลย ขอโทษนะคะ”
“แต่ผมกลับชอบที่พี่ทำแบบนั้นนะ” ผมโพล่งขึ้นมาอย่างไม่แคร์ความรู้สึกผิดจากแววตาคู่สวยที่หวานซึ้ง ผมรู้ว่าในใจลึกๆ ของเธอกำลังกระหายใคร่รู้ในตัวตนที่ซ่อนอยู่ของผม แต่เธอแค่ยังกลัวกับขนบธรรมเนียมเก่าๆ “แล้ววันนี้”
“...”
“พี่จะให้ผมแวะไปหาที่ห้องอีกรึเปล่า?”
“หยุดก่อนเลยนะ” พอเห็นว่าผมเริ่มเข้ามาประชิดตัว พี่หมี่ที่เสียเปรียบเพราะเธอตัวเล็กกว่าก็เลยพยายามดันแผงอกผมออกไป “เหมือนน้องขาลจะลืมไปว่าที่นี่คือโรงพยาบาล”
“ผมไม่สน” ผมสวนกลับทันที ก่อนที่จะเบี่ยงหน้าไปกระซิบข้างกกหูขาว “ผมอยาก ที่มาหาพี่ก็เพราะอยาก”
“... แต่พี่ยังไม่พร้อมนะ” เธอเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อผมใช้ฝ่ามือหนาเกลี่ยปอยผมยาวๆ สีชมพูอ่อนที่ปรกหน้าเธอจนเห็นพวงแก้มนวลเชื่อมต่อไปจนถึงใบหูที่ขึ้นสีจัดจากสิ่งที่ผมทำ ผมเลยขบหูเธอเบาๆ “อ๊ะ ขาล ฟังพี่ด้วย”
แปลกดี ปากห้ามผมแทบตาย แต่กลับไม่ผลักผมออกสักที
พี่หมี่กำลังท้าทายผมอ้อมๆ โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว
“เมื่อคืนผมยังไม่เสร็จ พี่ก็ไม่เสร็จไม่ใช่เหรอ” ผมพูดเย้าแหย่ข้างกกหูตอนที่ดึงเส้นผมหอมๆ ของเธอมาสูดดมอย่างหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นกายสาว หรือแม้แต่เส้นผม ก็หอมหมดจดไปซะทุกส่วนจริงๆ
“แต่ที่นี่มันโรงพยาบาล อีกอย่างขาลก็ไม่ได้ล็อกประตูด้วยนะคะ”
“ไม่มีใครเข้ามาหรอกครับพี่หมี่”
“ขาล เมื่อคืนที่พี่พลั้งเกือบมีอะไรกับเรา พี่เมานะ แล้วพี่ก็ไม่... อื้อ” พอเห็นว่าพี่หมี่เริ่มตั้งท่าที่จะปฏิเสธเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาเพราะเถียงสู้ผมไม่ได้ ทั้งที่เธอก็รู้อยู่แก่ใจว่าพวกเรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว ผมในวันนี้ไม่ใช่ขาลผู้ภักดีและเว้นระยะห่าง ในเมื่อพี่หมี่ยั่วยวน ผมก็จะไม่หยุด
ผมดูดปลายลิ้นที่หอมหวานของเธอจนเกิดเสียงภายในห้องพักของแพทย์ที่เงียบสงัด พี่หมี่พยายามทุบอกผมที่ตัวใหญ่กว่ามาก แต่แรงเธอกลับไม่ทำให้ผมสะเทือน กลับกัน ผมจูบเธอแรงขึ้น หนักขึ้น และดูดดื่มขึ้นมากกว่าเดิมจนคนตัวเล็กหอบหายใจชิดริมฝีปากของผม
“แฮ่ก... อื้อ” เธอโดนผมจูบอีกรอบเพราะใบหน้ายั่วๆ นั่น มือแกร่งเริ่มปลดกระดุมเม็ดบนของเสื้อกาวน์ออก ในขณะที่พี่หมี่พยายามดิ้นทุรนทุรายในอ้อมแขนของผม “อ๊ะ ขาล”
“ทำไมชอบปฏิเสธผม” ผมกระซิบชิดพวงแก้มที่ขึ้นสีแดงฝาดของเธอโดยไม่ต้องการคำตอบ กดจูบมันหนักๆ ในขณะที่มือหนาก็บีบเคล้นหน้าอกทรงโตที่ซ่อนความเซ็กซี่เหลือร้ายนั่นไว้ใต้เสื้อกาวน์สีขาวและชุดแซก “พี่ปฏิเสธผมมากี่ร้อยครั้งแล้ว พี่หมี่”
“อื้อ ขาล พี่เจ็บ” เธอเบ้หน้าที่ขึ้นสีแดงจัดนั่นเมื่อผมใช้แผ่นอกและตัวใหญ่ๆ ดันร่างบางจนบั้นท้ายกลมกลึงชนกับโต๊ะทำงานที่อยู่ด้านหลัง เธอจนมุมอยู่ตรงนั้น ในขณะที่มืออีกข้างที่ยังว่างของผมก็เชยคางเธอขึ้นมา
“แต่ใจผมมันด้านพอ ผมไม่ยอมแพ้หรอกครับ”
“...”
“เมื่อคืนสำหรับพี่หมี่อาจเป็นเรื่องพลาด แต่สำหรับผม” ผมกดเสียงเน้นย้ำในประโยคท้าย ถึงความเรียลลิสติกในใจผม “มันคือของจริง”
“แฮ่ก...”
“ผมจะไม่ให้พี่ไปให้ครั้งแรกกับใคร นอกจากผมคนเดียว”
[จบพาร์ท : ขาล]
ฉันใจสั่น ยิ่งใจสั่นมากขึ้นเมื่อน้องขาลมีท่าทางจริงจัง
เมื่อเช้า ฉันตื่นมาด้วยความทรงจำที่ยากจะลืม ทั้งสัมผัสร้อนแรง ทั้งความเสียวสะท้านเมื่อคืนที่ขาลปรนเปรอให้ มันยังติดอยู่ในใจฉัน ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลของคุณพ่อ
ฉันเป็นแพทย์หญิงดีเด่นในช่วงอายุยี่สิบห้าปี แต่เชื่อมั้ยว่าฉันกลับยังคงเวอร์จิ้นทั้งๆ ที่อายุขนาดนี้แล้ว และที่น่าตกใจกว่าก็คือในวันที่ตัวเองอกหักและอยากมีเซ็กซ์กับใครสักคน ก็ดันไปเผลอพลั้งปากสัญญาว่าจะเสียพรหมจรรย์แรกให้กับผู้ชายที่มองว่าเป็นน้องชายมาตลอด
ขาลในช่วงก่อนหน้านั้นแวะเวียนมาหาฉันบ่อยๆ และแสดงออกว่าชอบฉัน แต่เขาไม่เคยเข้ามาประชิดตัวและรุกรานแบบวันนี้ เขาเปลี่ยนไปหลังจากเมื่อคืน ขาลรุกไล่ฉันอย่างหนักหน่วง เหมือนเส้นด้ายที่กั้นระหว่างเราได้ขาดไปเพราะความคิดชั่ววูบของฉันเมื่อคืนนี้
ก็แค่ต้องการในบางครั้ง แล้วขาลก็ดันเป็นคนๆ นั้นที่เข้ามาถูกจังหวะพอดีเท่านั้นเอง
มันคือความพลั้งเผลอของฉัน
แม้จะรู้สึกโชคดีที่ไม่เผลอตัวเผลอใจตกเป็นของน้องชายสมัยเด็ก แต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนฉันให้ความหวังน้องขาลไปแล้วเต็มๆ เปา
ฉันอยากจะปฏิเสธแบบจริงจัง ฉันอยากจะพูดออกมาตรงๆ ว่า ฉันมองเห็นขาลเป็นแค่น้องชายเท่านั้น
แต่ปากกับร่างกายกลับไม่ต่อต้านเขา
จนร่างของฉันถูกเด็กหนุ่มยกขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ ให้หน้าอกฉันอยู่เกือบประชิดใบหน้าของขาล แต่เพราะเขาตัวใหญ่มาก ก็เลยต้องค้อมหัวลงมา ทรงผมมัดจุกครึ่งหัวไม่ทำให้ขาลดูฮอตน้อยลงเลย
ใช่ เพราะฉันรู้ว่าน้องขาลหน้าตาดี ร่างกายกำยำล่ำสัน และร้อนแรงแค่ไหน เพราะรู้ว่าขาลเป็นแบบนี้ในสายตาผู้หญิงคนอื่น ในใจลึกๆ ก็เลยอยากจะตกเป็นของเขา
ฉันมันก็แค่ผู้ใหญ่ที่อยากรู้อยากลองเหมือนเด็กสาววัยแรกรุ่น
จนขาลเริ่มเอื้อมมาปลดซิปจากชุดแซกข้างหลัง ซึ่งเขาดูช่ำชองและรู้จุดที่จะถอดชุดแบบนี้ออกในทันที ทั้งๆ ที่ขาลก็แค่เด็กอายุยี่สิบเอ็ดที่ไม่น่าจะมีประสบการณ์มากมายขนาดนั้น
ฉันกัดริมฝีปากแน่น มือที่ทึ้งเสื้อช็อปสีเลือดหมูของขาลจิกมันแน่นขึ้น ในขณะที่เสื้อกาวน์ของฉันตกไหล่ไปกองอยู่บนพื้นโต๊ะ และซิปข้างหลังก็ถูกรูดลงไปถึงกลางหลัง
คนตัวใหญ่ปลดชุดแซกแขนกุดของฉันออกจนเห็นลาดไหล่ขาวนวล เขากลืนน้ำลายลงคอ ในขณะที่จะโน้มใบหน้าเข้ามาพรมจูบไปตามลาดไหล่ของฉันที่นั่งตัวแข็ง
ทำไมไม่ห้ามเขาล่ะ ทำไมไม่ผลักออก?
ได้แต่ถามตัวเองแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไร นอกจากความรู้สึกแสบเล็กๆ เพราะขาลกำลังดูดเม้มที่ไหปลาร้าเหมือนคนที่กำลังมัวเมากับของหวาน
“ผมชอบพี่จัง พี่หมี่” จนเขากระซิบชิดลาดไหล่เปลือยเปล่าของฉัน พร้อมๆ กับปลายนิ้วสากที่เริ่มเกี่ยวสายชั้นในของฉันจนตกลงไปที่แขน
“...”
“ชอบจนแทบบ้าเลย”
คนตัวใหญ่ปลดชุดแซกแขนกุดของฉันออกจนเห็นลาดไหล่ขาวนวล เขากลืนน้ำลายลงคอ ในขณะที่จะโน้มใบหน้าเข้ามาพรมจูบไปตามลาดไหล่ของฉันที่นั่งตัวแข็งทำไมไม่ห้ามเขาล่ะ ทำไมไม่ผลักออก?ได้แต่ถามตัวเองแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไร นอกจากความรู้สึกแสบเล็กๆ เพราะขาลกำลังดูดเม้มที่ไหปลาร้าเหมือนคนที่กำลังมัวเมากับของหวาน“ผมชอบพี่จัง พี่หมี่” จนเขากระซิบชิดลาดไหล่เปลือยเปล่าของฉัน พร้อมๆ กับปลายนิ้วสากที่เริ่มเกี่ยวสายชั้นในของฉันจนตกลงไปที่แขน“...”“ชอบจนแทบบ้าเลย”ตึกตักหัวใจฉันเต้นแรงเมื่อได้ยินคำบอกชอบจากร่างสูงใหญ่ที่พยายามทำลายความสัมพันธ์ที่มีช่องว่างของเราลง ฉันเคยคิดว่าขาลคือเด็กน้อยที่เชื่องและไม่มีประสบการณ์ เขาก็แค่เด็กวัยรุ่นเลือดร้อนทั่วไปแต่พอฉันพลาดพลั้งเปิดทางให้เขาไปครั้งเดียวเท่านั้น ก็เหมือนกับว่าขาลพร้อมที่จะพุ่งตรงเข้ามาแบบไม่คิดชีวิตฉันได้รู้ธาตุแท้ของน้องชายข้างบ้านวันนี้เอง ว่าเขาไม่ใช่สุนัขที่เชื่องและเชื่อฟังคน แต่จริงๆ แล้วเขาคือหมาล่าเนื้อที่รอเจ้าของตายใจ และพร้อมที่จะเข้ามาขย้ำอย่างรุนแรงได้ทุกเมื่อฉันได้ทำลายเส้นกั้นระหว่างเราไปแล้ว และน้องขาลคงจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ จนกว
พอเห็นว่าฉันอนุญาต เด็กน้อยตัวยักษ์ที่ยืนรออยู่ก็กดริมฝีปากลงมาท่ามกลางความเงียบภายในห้องพักของคุณหมอ ฉันจูบตอบกลับไปด้วยสัญชาตญาณ ทั้งตัวกระตุกยามเมื่อฝ่ามือแกร่งขย้ำก้อนหน้าอกนุ่มนิ่มที่เปลือยเปล่ามือของฉันถูกยกขึ้นโอบรอบคอของน้องขาล และปล่อยให้ริมฝีปากและปลายลิ้นนำพาเราไปสู่ความหฤหรรษ์ที่ฉันไม่เคยได้สัมผัส จูบที่มากกว่าแตะปากนี่มันดีจริงๆ ดูดดื่ม ล่องลอย เหมือนจะได้แตะขอบสวรรค์อยู่ตลอดเวลาแต่ก็ต้องอดชมไม่ได้เลยจริงๆ ว่าขาลจูบเก่งมาก ใช้ลิ้นเก่ง จนรู้สึกกลัวเลยถ้าเขาใช้ลิ้นแตะในจุดที่ไม่ควรจะแตะ เขาจะนำพามันไปสู่ความร้อนแรงแค่ไหนจนปลายลิ้นร้อนนัวเนียไปมากับปลายลิ้นของฉัน ขาลเบี่ยงองศาใบหน้าไปด้านข้างเพื่อที่จะได้แทรกความเปียกแฉะเข้ามาในริมฝีปากของฉันได้ง่ายขึ้น ฉันหลับตาลง เลื่อนวงแขนไปโอบรอบคอของขาล ไม่สนว่าตอนนี้ตัวเองกำลังจะอยู่ในโรงพยาบาลของพ่อบังเกิดเกล้า ไม่สนว่าขาลจะไม่ล็อกประตูอยากได้อีก อยากได้มากกว่านี้จนขาลผละริมฝีปากออกมา เราสบตากันในความเงียบ ฝ่ามือหนาแตะเบาๆ ที่ข้างแก้ม และเขี่ยเส้นผมสีชมพูอ่อนที่ปรกหน้าจนดูยุ่งเหยิงออกแววตาของขาลที่มองใบหน้าที่คิดว่าคงจะยั่วเขาอ
[พาร์ท : ขาล]ผมมองภาพตรงหน้า พี่หมี่ที่เคยมีความมั่นใจในตัวเองตอนนี้กำลังตื่นกลัวกับขนาดของท่อนเนื้อที่ซ่อนอยู่ภายใต้บ็อกเซอร์ของผม และใช่ เธอจะกลัวก็ไม่แปลก เพราะขนาดของผมมันไม่ใช่เล่นๆ เลยเวลามีเซ็กซ์กับแฟน ก็ต้องสั่งถุงยางไซส์พิเศษมาเก็บไว้ตลอดไซส์ 60 เนี่ย ไม่เคยได้ลองกับผู้หญิงที่ยังซิงเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเวลาสอดใส่เข้าไป มันจะตอดแค่ไหน เพราะขนาดแค่ของคนที่เคยมาก่อน ยังตอดรัดจนปวดแปลบซะขนาดนั้นพอคิดได้แบบนั้นผมก็แลบลิ้นเลียเขี้ยวขาวของตัวเอง ความกระหายอยากในตัวพี่หมี่พุ่งสูงขึ้นจนน่าตกใจ เธอเป็นคนเดียวที่ทำให้เอเนอร์จี้ของผมในเรื่องพรรค์นั้นเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาจริงๆช่วยไม่ได้ อยากเกิดมาด้วยร่างกายเอ็กซ์ๆ นั่นทำไม“ขะ ขาล แค่ถูได้มั้ย” ใบหน้าจิ้มลิ้มที่แดงซ่านกระซิบเสียงสั่นกับผมที่ทำท่าเหมือนจะชักลำโคนออกมาจากบ็อกเซอร์ ผมเงยหน้าขึ้นมองเธอนิดหน่อย รู้น่าว่าพี่อยาก แต่กลัวเหมือนกัน และผมก็ไม่ได้แคร์หรอก“อยากให้ผมเอามันออกมามั้ย” ผมเอนกายลงไปกระซิบข้างริมฝีปากของหมอสาวในเรือนร่างที่ยั่วยวนจนน่าอันตรายต่อใจ เธอเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนที่จะพยักหน้ารับเบาๆ“ยะ... อยากลองเห็นสักครั้งค่
ฉันกุมหน้าอกของตัวเองแน่น หลังจากยืนอยู่ที่หน้ากระจกใสที่เห็นเกือบครึ่งตัวภายในห้องน้ำของโรงพยาบาลจ้องใบหน้าที่แดงซ่านจากพิษรัญจวนแล้วได้แต่เม้มริมฝีปากแน่น ที่พลั้งเผลอทำเรื่องลามกกับเด็กคนนั้นไปถึงสองครั้งอสุจิสีขาวขุ่นเหนียวข้นติดที่หน้าท้องหลังจากสัมผัสอากาศได้ไม่นาน ฉันปลดชุดแซกออกแล้ววักน้ำมาล้างที่หน้าท้องของตัวเอง หลังจากที่ขาลกลับไปก็ปวดปัสสาวะมากจนต้องรีบตรงเข้ามาที่ห้องน้ำทันทีให้ตายสิ ซับในเปียกหมดเลย สงสัยต้องใส่เปียกๆ อย่างนี้ไปทั้งวันซะแล้ว ฉันนึกบ่นอุบถึงคนตัวสูงในใจ ถึงแม้ว่าส่วนลึกจะชอบความรู้สึกแปลกใหม่เมื่อครู่กับน้องชายสมัยเด็กมากก็ตามก่อนที่จะกลับไป ขาลถามว่าจะให้ทำอีกมั้ยถ้าครั้งหน้าเขาจะมาหาอีก ฉันจึงเผลอตอบไปตามแรงปรารถนาว่า ‘ได้สิ’แน่นอนว่าหลังจากได้คำตอบที่พอใจ ขาลก็มีสายโทรเข้า เห็นลางๆ ว่าเป็นรูปผู้หญิงที่โทรมาจากหน้าเฟส หน้าตาดูเรียบร้อยน่ารักทีเดียว หลังจากนั้นคนตัวโตก็รีบร้อนออกไปถามว่าฉันรู้สึกยังไง?ฉันไม่สนใจหรอกว่าขาลจะมีผู้หญิงซุกไว้อีกสักกี่คน เพราะความสัมพันธ์ที่ฉันต้องการมันเกี่ยวพันกับแค่เรื่องอย่างว่าอย่างเดียวถ้าขาลจะมีแฟน ขอแค่เขาบอกฉ
พอตัดบทแบบนั้น ไอ้อิงก็เงียบไปจนผมขับมาถึงวิทยาลัยผมไม่ได้ใส่ใจนัก บางเรื่องผมไม่จำเป็นต้องอธิบายในเรื่องที่ผมอธิบายไปหมดแล้ว ในคืนนั้นแม้ว่าเราจะแค่จูบกัน แต่ผมไม่ได้ติดใจอะไร และเพื่อนๆ ในวงก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีก ทุกคนรู้กันดีว่าควรต้องจัดการความรู้สึกตัวเองยังไงอย่างที่บอก ผมมันไม่ใช่คนดี ผมมั่วสุม เสพยาตามประสาวัยรุ่น และเผลอจูบกับผู้หญิงที่เป็นเพื่อนสนิทตัวเองผมไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่เหมาะกับใคร เลยไม่ได้บังคับขืนใจพี่หมี่ให้มาจริงจังกับผม เพราะก็พอรู้ตัวว่าสำหรับผู้หญิงอนาคตไกลอย่างเธอ ผมมันก็แค่เด็กหนุ่มที่มีดีแค่ความตื่นตัวผมยังเกเร ยังทำตัวไม่เป็นผู้เป็นคน และยังใช้เงินพ่อแม่อยู่ผมกับเธอ ได้เป็นแค่ความสัมพันธ์แบบคู่ขาก็ดีแค่ไหนแล้วผมเดินนำน้ำอิงมาถึงห้องเรียน เธอทำหน้าหงอยเหงาไปนั่งหลบมุมคนเดียว ซึ่งแน่นอนว่าเพราะอิงเป็นนางฟ้าของกลุ่ม เพื่อนถึงมารุมทึ้งผมที่นั่งเคาะมวนบุหรี่เล่น“วันนี้ทำไมอิงดูแปลกๆ มึงไปทำไรมันปะ” ไอ้เตเป็นฝ่ายถามก่อนเหมือนเป็นตัวแทนหมู่บ้าน มันคงเป็นคนเดียวที่ไม่ได้ถูกใจน้ำอิงมากเท่าเพื่อนคนอื่นๆ และคงไม่ต้องถามว่าทำไม เพราะแม่งมี
ร่างสูงกำยำพร้อมกับรอยสักเต็มทั้งสองแขนนั่งถือไม้ทีกระดิกเท้าอยู่หน้าห้องตรวจ คนไข้ พยาบาล รวมถึงผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างมองมาทางชายหนุ่มร่างใหญ่เป็นตาเดียว นั่นเพราะที่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยแผลฟกช้ำ เสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูกับเสื้อกล้ามขาวด้านในเปรอะเลือดจนดูไม่ออกว่าเป็นเลือดจากปากแผลของเขา หรือเลือดของใครกันแน่เขาคือ ‘ขาล’ หัวโจก ปวส. เทคนิคเครื่องกล เจ้าของใบหน้าดุดันกับทรงผมไถข้างมัดจุกสุดเท่ ขาลเป็นผู้ชายที่บ้าดีเดือด กล้าได้กล้าเสีย และเป็นคนหัวรุนแรงพอสมควร เขามีเรื่องตีกับวิทยาลัยอื่นเป็นประจำ และเข้าออกโรงพยาบาลเป็นบ้านหลังที่สองแต่แรงจูงใจที่ทำให้คนที่เกลียดโรงพยาบาลเข้าใส้ตั้งแต่เด็กอย่างขาลเลือกที่จะมาที่นี่ ก็มีอยู่อย่างเดียว“คุณขาล ปริชาพิพัฒน์ คุณหมอเรียกพบค่ะ”พยาบาลสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มขานชื่อของเขาหลังจากที่ร่างสูงรอมายี่สิบนาที ขาลในสภาพสะบักสะบอมหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูง เขาผิวปากอย่างอารมณ์ดีซึ่งขัดกับบาดแผลภายนอกที่ออกจะหนักหน่วงเอาเรื่อง ก่อนที่จะกระตุกยิ้มให้พยาบาลที่ขานเรียกชื่อเขาแต่ถึงแม้ว่าพยาบาลคนนั้นจะน่ารักแค่ไหน ก็สู้พี่สาวของเขาไม่ได้คนตัว
[พาร์ท : ขาล]ย้อนไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อนผมกระดกเหล้าอยู่ในคลับ ที่ปลายหางคิ้วแตกเพราะมีปัญหากับเทคนิกวิทยาลัยตรงข้ามนิดหน่อย เรามีปัญหากันเรื่องแหวนรุ่นที่ออกแบบคล้ายกันโดยบังเอิญ แน่นอนว่าอีกฝ่ายเป็นพวกอีโก้จัดไม่ชอบเหมือนใคร เลยยกพวกมาตะลุมบอนระหว่างที่ผมกับเพื่อนขึ้นรถเมล์ด้วยเรื่องปัญญาอ่อนแค่นั้นแต่ก็อย่างว่า ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายมันสูงเหมือนตึก ขนาดแค่มองหน้ากันยังไม่พอใจจนแทบฆ่ากันตาย นับประสาอะไรกับแหวนรุ่นที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แทนศักดิ์ศรีฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ของเด็กช่างแต่ถ้าถามว่าเรื่องนั้นเป็นหนึ่งในเรื่องที่ทำให้ผมให้ความสำคัญจนถึงขั้นมานั่งก๊งเหล้ากับเพื่อนทั้งที่ปกติจะนอนอยู่บ้านมั้ยไม่ว่ะ ผมไม่ใส่ใจผมก็แค่อกหัก แล้วก็กำลังหาที่พึ่งทางใจที่ไม่ใช่การจีบผู้หญิงคนใหม่ และมันก็มาลงตัวที่น้ำเมามากกว่า“พี่หมี่อายุยี่สิบห้าแล้ว ก็ไม่แปลกมั้ยวะที่จะมีคนคุย” เพื่อนในกลุ่มเดียวกันเริ่มเข้าประเด็นที่จี้ใจมาตลอดขึ้นในขณะที่นั่งกระดิกตีนชงเหล้าอยู่อีกฝั่ง ผมนั่งเงียบ ก่อนที่จะเสยผมยาวๆ ของตัวเองขึ้นอย่างหัวเสีย“กูรู้ ไม่ต้องย้ำ” เสียงที่เปล่งออกไปห้วนจัดซะจนเพื่อนต้องเงียบกันทั้ง
ผมไม่ได้แคร์ว่าเพื่อนในวงเหล้าจะรอ ไว้ค่อยแชทไปบอกก็ได้ว่าปลีกตัวออกมากับพี่หมี่แล้ว พวกมันคงไม่กล้าแย้งอะไรหรอกก็ลองแย้งดู เดี๋ยวก็จะได้รู้ว่าจะได้เจอกับอะไร ทุกคนบนโลกถ้าไม่ใช่พี่หมี่ ผมก็ไม่แคร์ทั้งนั้นผมประคองร่างบางมาที่รถฮอนด้าซีวิคสีแดงที่พี่หมี่เคยบ่นว่าอยากได้แล้วก็ซื้อมันมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองสำเร็จ เงินเดือนเธอแม่งเยอะกว่าเงินเดือนที่ผมขอพ่อแม่ไปวันๆ เพราะเขาอยากให้ผมเรียนให้จบก่อน จะไปตีรันฟันแทงกับใครก็ได้ แต่ขอแค่เรียนให้จบพ่อกับแม่ไม่ได้คาดหวังกับคนอย่างผมมาก เพราะเขารู้ว่าผมแอบชอบพี่สาวข้างบ้านที่เป็นถึงแพทย์หญิงดีเด่นและรายได้เป็นแสน ครอบครัวพี่หมี่ก็หมอทั้งบ้าน ผมเลยต้องพยายามทำตัวเองให้ดีเพื่อให้เหมาะสมกับเธออยู่แล้วไม่รู้พี่เค้าจะเอาผมมั้ย แต่ผมคิดไว้ก่อนเลยไงพี่หมี่ถูกผมประคองร่างอรชรเข้าไปที่ที่นั่งข้างคนขับ เธอโอบรอบคอผมไว้เพื่อกันสะดุด และปล่อยให้ผมเป็นคนนำพาเธอ หน้าอกหน้าใจที่ใหญ่โตเกินตัวล้นออกมานอกเกาะอกสีชมพูที่เหมือนกับสีผมของเธอยามเมื่อเธอเอนหัวมาพิงขอบประตูรถด้วยความเมาผมกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกให้ตาย ใหญ่อะไรขนาดนี้วะ แม่ง“พี่หมี่ นั่งดีๆ หน
พอตัดบทแบบนั้น ไอ้อิงก็เงียบไปจนผมขับมาถึงวิทยาลัยผมไม่ได้ใส่ใจนัก บางเรื่องผมไม่จำเป็นต้องอธิบายในเรื่องที่ผมอธิบายไปหมดแล้ว ในคืนนั้นแม้ว่าเราจะแค่จูบกัน แต่ผมไม่ได้ติดใจอะไร และเพื่อนๆ ในวงก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีก ทุกคนรู้กันดีว่าควรต้องจัดการความรู้สึกตัวเองยังไงอย่างที่บอก ผมมันไม่ใช่คนดี ผมมั่วสุม เสพยาตามประสาวัยรุ่น และเผลอจูบกับผู้หญิงที่เป็นเพื่อนสนิทตัวเองผมไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่เหมาะกับใคร เลยไม่ได้บังคับขืนใจพี่หมี่ให้มาจริงจังกับผม เพราะก็พอรู้ตัวว่าสำหรับผู้หญิงอนาคตไกลอย่างเธอ ผมมันก็แค่เด็กหนุ่มที่มีดีแค่ความตื่นตัวผมยังเกเร ยังทำตัวไม่เป็นผู้เป็นคน และยังใช้เงินพ่อแม่อยู่ผมกับเธอ ได้เป็นแค่ความสัมพันธ์แบบคู่ขาก็ดีแค่ไหนแล้วผมเดินนำน้ำอิงมาถึงห้องเรียน เธอทำหน้าหงอยเหงาไปนั่งหลบมุมคนเดียว ซึ่งแน่นอนว่าเพราะอิงเป็นนางฟ้าของกลุ่ม เพื่อนถึงมารุมทึ้งผมที่นั่งเคาะมวนบุหรี่เล่น“วันนี้ทำไมอิงดูแปลกๆ มึงไปทำไรมันปะ” ไอ้เตเป็นฝ่ายถามก่อนเหมือนเป็นตัวแทนหมู่บ้าน มันคงเป็นคนเดียวที่ไม่ได้ถูกใจน้ำอิงมากเท่าเพื่อนคนอื่นๆ และคงไม่ต้องถามว่าทำไม เพราะแม่งมี
ฉันกุมหน้าอกของตัวเองแน่น หลังจากยืนอยู่ที่หน้ากระจกใสที่เห็นเกือบครึ่งตัวภายในห้องน้ำของโรงพยาบาลจ้องใบหน้าที่แดงซ่านจากพิษรัญจวนแล้วได้แต่เม้มริมฝีปากแน่น ที่พลั้งเผลอทำเรื่องลามกกับเด็กคนนั้นไปถึงสองครั้งอสุจิสีขาวขุ่นเหนียวข้นติดที่หน้าท้องหลังจากสัมผัสอากาศได้ไม่นาน ฉันปลดชุดแซกออกแล้ววักน้ำมาล้างที่หน้าท้องของตัวเอง หลังจากที่ขาลกลับไปก็ปวดปัสสาวะมากจนต้องรีบตรงเข้ามาที่ห้องน้ำทันทีให้ตายสิ ซับในเปียกหมดเลย สงสัยต้องใส่เปียกๆ อย่างนี้ไปทั้งวันซะแล้ว ฉันนึกบ่นอุบถึงคนตัวสูงในใจ ถึงแม้ว่าส่วนลึกจะชอบความรู้สึกแปลกใหม่เมื่อครู่กับน้องชายสมัยเด็กมากก็ตามก่อนที่จะกลับไป ขาลถามว่าจะให้ทำอีกมั้ยถ้าครั้งหน้าเขาจะมาหาอีก ฉันจึงเผลอตอบไปตามแรงปรารถนาว่า ‘ได้สิ’แน่นอนว่าหลังจากได้คำตอบที่พอใจ ขาลก็มีสายโทรเข้า เห็นลางๆ ว่าเป็นรูปผู้หญิงที่โทรมาจากหน้าเฟส หน้าตาดูเรียบร้อยน่ารักทีเดียว หลังจากนั้นคนตัวโตก็รีบร้อนออกไปถามว่าฉันรู้สึกยังไง?ฉันไม่สนใจหรอกว่าขาลจะมีผู้หญิงซุกไว้อีกสักกี่คน เพราะความสัมพันธ์ที่ฉันต้องการมันเกี่ยวพันกับแค่เรื่องอย่างว่าอย่างเดียวถ้าขาลจะมีแฟน ขอแค่เขาบอกฉ
[พาร์ท : ขาล]ผมมองภาพตรงหน้า พี่หมี่ที่เคยมีความมั่นใจในตัวเองตอนนี้กำลังตื่นกลัวกับขนาดของท่อนเนื้อที่ซ่อนอยู่ภายใต้บ็อกเซอร์ของผม และใช่ เธอจะกลัวก็ไม่แปลก เพราะขนาดของผมมันไม่ใช่เล่นๆ เลยเวลามีเซ็กซ์กับแฟน ก็ต้องสั่งถุงยางไซส์พิเศษมาเก็บไว้ตลอดไซส์ 60 เนี่ย ไม่เคยได้ลองกับผู้หญิงที่ยังซิงเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเวลาสอดใส่เข้าไป มันจะตอดแค่ไหน เพราะขนาดแค่ของคนที่เคยมาก่อน ยังตอดรัดจนปวดแปลบซะขนาดนั้นพอคิดได้แบบนั้นผมก็แลบลิ้นเลียเขี้ยวขาวของตัวเอง ความกระหายอยากในตัวพี่หมี่พุ่งสูงขึ้นจนน่าตกใจ เธอเป็นคนเดียวที่ทำให้เอเนอร์จี้ของผมในเรื่องพรรค์นั้นเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาจริงๆช่วยไม่ได้ อยากเกิดมาด้วยร่างกายเอ็กซ์ๆ นั่นทำไม“ขะ ขาล แค่ถูได้มั้ย” ใบหน้าจิ้มลิ้มที่แดงซ่านกระซิบเสียงสั่นกับผมที่ทำท่าเหมือนจะชักลำโคนออกมาจากบ็อกเซอร์ ผมเงยหน้าขึ้นมองเธอนิดหน่อย รู้น่าว่าพี่อยาก แต่กลัวเหมือนกัน และผมก็ไม่ได้แคร์หรอก“อยากให้ผมเอามันออกมามั้ย” ผมเอนกายลงไปกระซิบข้างริมฝีปากของหมอสาวในเรือนร่างที่ยั่วยวนจนน่าอันตรายต่อใจ เธอเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนที่จะพยักหน้ารับเบาๆ“ยะ... อยากลองเห็นสักครั้งค่
พอเห็นว่าฉันอนุญาต เด็กน้อยตัวยักษ์ที่ยืนรออยู่ก็กดริมฝีปากลงมาท่ามกลางความเงียบภายในห้องพักของคุณหมอ ฉันจูบตอบกลับไปด้วยสัญชาตญาณ ทั้งตัวกระตุกยามเมื่อฝ่ามือแกร่งขย้ำก้อนหน้าอกนุ่มนิ่มที่เปลือยเปล่ามือของฉันถูกยกขึ้นโอบรอบคอของน้องขาล และปล่อยให้ริมฝีปากและปลายลิ้นนำพาเราไปสู่ความหฤหรรษ์ที่ฉันไม่เคยได้สัมผัส จูบที่มากกว่าแตะปากนี่มันดีจริงๆ ดูดดื่ม ล่องลอย เหมือนจะได้แตะขอบสวรรค์อยู่ตลอดเวลาแต่ก็ต้องอดชมไม่ได้เลยจริงๆ ว่าขาลจูบเก่งมาก ใช้ลิ้นเก่ง จนรู้สึกกลัวเลยถ้าเขาใช้ลิ้นแตะในจุดที่ไม่ควรจะแตะ เขาจะนำพามันไปสู่ความร้อนแรงแค่ไหนจนปลายลิ้นร้อนนัวเนียไปมากับปลายลิ้นของฉัน ขาลเบี่ยงองศาใบหน้าไปด้านข้างเพื่อที่จะได้แทรกความเปียกแฉะเข้ามาในริมฝีปากของฉันได้ง่ายขึ้น ฉันหลับตาลง เลื่อนวงแขนไปโอบรอบคอของขาล ไม่สนว่าตอนนี้ตัวเองกำลังจะอยู่ในโรงพยาบาลของพ่อบังเกิดเกล้า ไม่สนว่าขาลจะไม่ล็อกประตูอยากได้อีก อยากได้มากกว่านี้จนขาลผละริมฝีปากออกมา เราสบตากันในความเงียบ ฝ่ามือหนาแตะเบาๆ ที่ข้างแก้ม และเขี่ยเส้นผมสีชมพูอ่อนที่ปรกหน้าจนดูยุ่งเหยิงออกแววตาของขาลที่มองใบหน้าที่คิดว่าคงจะยั่วเขาอ
คนตัวใหญ่ปลดชุดแซกแขนกุดของฉันออกจนเห็นลาดไหล่ขาวนวล เขากลืนน้ำลายลงคอ ในขณะที่จะโน้มใบหน้าเข้ามาพรมจูบไปตามลาดไหล่ของฉันที่นั่งตัวแข็งทำไมไม่ห้ามเขาล่ะ ทำไมไม่ผลักออก?ได้แต่ถามตัวเองแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไร นอกจากความรู้สึกแสบเล็กๆ เพราะขาลกำลังดูดเม้มที่ไหปลาร้าเหมือนคนที่กำลังมัวเมากับของหวาน“ผมชอบพี่จัง พี่หมี่” จนเขากระซิบชิดลาดไหล่เปลือยเปล่าของฉัน พร้อมๆ กับปลายนิ้วสากที่เริ่มเกี่ยวสายชั้นในของฉันจนตกลงไปที่แขน“...”“ชอบจนแทบบ้าเลย”ตึกตักหัวใจฉันเต้นแรงเมื่อได้ยินคำบอกชอบจากร่างสูงใหญ่ที่พยายามทำลายความสัมพันธ์ที่มีช่องว่างของเราลง ฉันเคยคิดว่าขาลคือเด็กน้อยที่เชื่องและไม่มีประสบการณ์ เขาก็แค่เด็กวัยรุ่นเลือดร้อนทั่วไปแต่พอฉันพลาดพลั้งเปิดทางให้เขาไปครั้งเดียวเท่านั้น ก็เหมือนกับว่าขาลพร้อมที่จะพุ่งตรงเข้ามาแบบไม่คิดชีวิตฉันได้รู้ธาตุแท้ของน้องชายข้างบ้านวันนี้เอง ว่าเขาไม่ใช่สุนัขที่เชื่องและเชื่อฟังคน แต่จริงๆ แล้วเขาคือหมาล่าเนื้อที่รอเจ้าของตายใจ และพร้อมที่จะเข้ามาขย้ำอย่างรุนแรงได้ทุกเมื่อฉันได้ทำลายเส้นกั้นระหว่างเราไปแล้ว และน้องขาลคงจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ จนกว
“ขาล คือเมื่อคืน...” เธอพูดเสียงแผ่ว จ้องมองริมฝีปากผมที่หยัดยิ้มอย่างอ้อยอิ่ง “พี่ทำอะไรน่าอายลงไปเยอะเลย ขอโทษนะคะ”“แต่ผมกลับชอบที่พี่ทำแบบนั้นนะ” ผมโพล่งขึ้นมาอย่างไม่แคร์ความรู้สึกผิดจากแววตาคู่สวยที่หวานซึ้ง ผมรู้ว่าในใจลึกๆ ของเธอกำลังกระหายใคร่รู้ในตัวตนที่ซ่อนอยู่ของผม แต่เธอแค่ยังกลัวกับขนบธรรมเนียมเก่าๆ “แล้ววันนี้”“...”“พี่จะให้ผมแวะไปหาที่ห้องอีกรึเปล่า?”“หยุดก่อนเลยนะ” พอเห็นว่าผมเริ่มเข้ามาประชิดตัว พี่หมี่ที่เสียเปรียบเพราะเธอตัวเล็กกว่าก็เลยพยายามดันแผงอกผมออกไป “เหมือนน้องขาลจะลืมไปว่าที่นี่คือโรงพยาบาล”“ผมไม่สน” ผมสวนกลับทันที ก่อนที่จะเบี่ยงหน้าไปกระซิบข้างกกหูขาว “ผมอยาก ที่มาหาพี่ก็เพราะอยาก”“... แต่พี่ยังไม่พร้อมนะ” เธอเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อผมใช้ฝ่ามือหนาเกลี่ยปอยผมยาวๆ สีชมพูอ่อนที่ปรกหน้าเธอจนเห็นพวงแก้มนวลเชื่อมต่อไปจนถึงใบหูที่ขึ้นสีจัดจากสิ่งที่ผมทำ ผมเลยขบหูเธอเบาๆ “อ๊ะ ขาล ฟังพี่ด้วย”แปลกดี ปากห้ามผมแทบตาย แต่กลับไม่ผลักผมออกสักทีพี่หมี่กำลังท้าทายผมอ้อมๆ โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว“เมื่อคืนผมยังไม่เสร็จ พี่ก็ไม่เสร็จไม่ใช่เหรอ” ผมพูดเย้าแหย่ข้างกกหูตอ
[พาร์ท : ขาล]ผมตื่นขึ้นมาในเช้าวันถัดไป ในห้องของตัวเองยันตัวลุกขึ้นมาจากเตียงพร้อมกับขยี้ผมยาวๆ อย่างงัวเงีย เสียงคนทำอาหารข้างล่างดังเป็นระลอก เลยรู้ว่า ‘ขิม’ มันกำลังทำอาหารเช้าเตรียมเอาไว้ให้อีกแล้วผมออกไปยืนสูบบุหรี่ที่นอกระเบียง พร้อมกับหวนนึกถึงเรื่องเมื่อคืนหลังจากที่ตกลงกันว่าผมจะไม่มีเซ็กซ์กับพี่หมี่จนกว่าเธอจะพร้อม ผมก็รอให้เธอเมาหลับไป รอจนกว่าพี่หมี่จะหลับสนิทจริงๆ ถึงได้ปลีกตัวกลับมา ปลดปล่อยความใคร่และนึกถึงหน้าอกอวบขาวกับยอดทับทิมสีชมพูอยู่คนเดียว ใช้อุ้งมือพาตัวเองไปจนถึงจุดสุดยอดในห้องนอนถ้าไปเล่าให้เพื่อนฟัง แม่งคงบอกว่าไม่คุ้มแต่สำหรับผม มันคุ้มผมพ่นควันบุหรี่ออกมาในขณะที่ร่างกายแกร่งเปลือยเปล่า มือข้างขวากดโทรศัพท์ส่องหน้าไอจีของพี่หมี่ เห็นว่าเธอลงรูปเซลฟี่ที่โรงพยาบาล พอเสหน้าไปมองนาฬิกาก็เห็นว่าตอนนี้มันจะเที่ยงแล้วผมมีเรียนตอนบ่ายสอง แวะไปหาดีมั้ยวะก็นะ แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของสักหน่อย ถึงพี่หมี่จะไม่ชอบ แต่ผมก็ต้องแน่ใจที่สุดว่าครั้งแรกเธอจะเสียให้กับผมหมับผมชะงักเมื่อใจลอยคิดอะไรเงียบๆ ก็ถูกวงแขนเล็กกอดรัดอย่างแนบแน่น พอเหลือบไปมองก็เห็นว่าเป็น
ตึกตัก ตึกตักฉันใจเต้นหนักเมื่อเด็กผู้ชายที่ฉันเคยภาวนากับตัวเองว่าจะไม่หวั่นไหวกับเขากำลังนั่งคุกเข่า ร่างกายกำยำที่เต็มไปด้วยรอยสัก ซิกแพคเป็นลอนหนาเย้ายวน พร้อมกับความผงาดใต้กางเกงยีนส์ที่กะจากระยะสายตาตรงนี้ว่ามันคงใหญ่ยาวเอาเรื่องขาลเคยเป็นเพียงแค่เด็กตัวเล็กๆ คนนึง เป็นน้องชายที่ฉันเอ็นดู เพราะเขาว่านอนสอนง่าย เชื่อฟังฉันเหมือนสุนัขเชื่องๆ และพร้อมจะทำทุกอย่างตามที่ฉันขอจนวันนี้ขาลกำลังรุกฉันในคืนที่ฉันเสียการควบคุม น้องชายตัวน้อยที่ฉันเคยเอ็นดู บัดนี้กลายเป็นเพียงชายหนุ่มกลัดมันที่เร่าร้อนคนนึงเท่านั้นฉันเม้มริมฝีปากแน่น หน้าอกอวบสะท้อนตามแรงหายใจ มันเปลือยเปล่าจนเห็นยอดอกสีชมพู และร่างกายขาวจัดที่ไม่เคยเปิดเผยให้กับผู้ชายคนไหนมาก่อนที่บอกว่าฉันเวอร์จิ้นน่ะ เรื่องจริงนะฉันเคยจูบกับแฟนเก่า แต่นั่นก็นานมาแล้ว อีกอย่างฉันก็ไม่ได้เป็นฝ่ายรุกจูบก่อนด้วย นั่นก็เพราะฉันจูบไม่เก่งดูเหมือนว่าฉันเซ็กซี่ แต่งตัววาบหวิว และขี้อ่อยใครต่อใคร แต่เอาจริงๆ มั้ย ฉันไม่เคยถูกใครดูดหน้าอก ไม่เคยถูกจูบได้ดูดดื่มขนาดนี้ รวมถึงความใกล้ชิดที่อุ่นร้อนนี่ด้วยฉันแค่พยายามสร้างลุคยั่วยวนเพื่อป้องก
[พาร์ท : ขาล]ผมเคยมีแฟน และมีเซ็กซ์กับแฟนอยู่สองสามคนที่มีตอนนั้นก็เพราะพยายามจะตัดใจจากพี่หมี่เพราะรู้ดีว่าระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ พี่หมี่ไม่เคยมองเห็นผมเป็นมากกว่าน้องชายข้างบ้านของเธอ แม้ว่าผมจะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองมากแค่ไหน พยายามเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งมากมาย แต่เธอก็ยังทำเหมือนผมเป็นแค่น้องในสายตาผมมันก็แค่ไอ้โง่งี่เง่า ที่ตัดพี่หมี่ไม่ขาด มีแฟนมาสามคน มีเซ็กซ์กับกี่คน สุดท้ายก็ต้องโดนทิ้ง เพราะลมหายใจเข้าออกของผมมีแต่พี่หมี่เท่านั้น จนคนที่คบอยู่ไม่โอเคกับสิ่งที่ผมเป็นแต่ผมไม่ได้แคร์เหมือนกัน ไม่ว่าจะมีแฟนหรือไม่มีก็ไม่ต่างกัน ในความคิดของผมมีแต่พี่หมี่ และใช้คนที่คบด้วยเป็นตัวแทนเวลามีเซ็กซ์กับเธอเห็นแก่ตัวดีใช่ปะ เออ ผมรู้ แต่ผมเปลี่ยนตัวเองไม่ได้พี่หมี่เองก็รู้ดีว่าผมทำไม่ได้ เธอเลยยังอยู่ตรงนี้ ให้ความหวังป้อนความหมายในการมีชีวิตต่อของผมไปวันๆ แต่ไม่คิดที่จะทำอะไรมากกว่านั้น แม้ว่าในบางครั้งผมจะรู้สึกโมโห อยากตัดใจกับความสัมพันธ์ที่คลุมเครือสัสๆ นี่ แต่พอแม่งทำไม่ได้ ก็เลยเหมือนเดินอยู่ในเขาวงกตเขาวงกตที่ผมจงใจจะตายอยู่ในนั้น และเชื่อมั่นในพระเจ้าว่าสักวันพระองค์ต้