ไอ้หมอเวรนั่น มันเป็นคนที่ทำให้พี่หมี่ของผมเจ็บปวด
มันมีชื่อที่ไม่น่าจดจำว่าที่สอง เป็นที่สองรองทุกอย่างที่เป็นผม แค่ไม่รักพี่หมี่มากพอก็เทียบผมไม่ได้แล้ว สำหรับผม ถ้าให้เลือกงานกับเธอ ผมพร้อมจะพุ่งไปหาพี่หมี่ได้ทุกเวลาด้วยซ้ำ
มันรักงานมากกว่าผู้หญิงดีๆ อย่างเธอ ก็สมควรแล้วที่จะถูกทิ้ง
ได้แค่จูบเฉยๆ แต่ไม่มีวันได้ตัวเหมือนอย่างกูหรอกว่ะ
และกูจะทำมากกว่าเมื่อเช้านี้อีก ไม่ว่ายังไงครั้งแรกของพี่หมี่ต้องเป็นของกู
ผมคิดในใจอย่างกับหมาบ้าหวงของ อย่างที่บอก ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ไม่มีอิทธิพลต่อใจผมมากเท่าเธอ พี่หมี่เป็นทุกอย่างให้ผม ทั้งพ่อแม่ เพื่อน หรือแม้กระทั่งที่พักเวลาที่ผมเจ็บ
ไม่ว่ายังไงก็ตาม ต่อให้ต้องกลายเป็นแค่ตัวเลือก แต่ขอแค่เธอมีเซ็กซ์กับผมเป็นคนแรกก็พอ เพราะอย่างน้อยๆ เวลาใครเข้าหาเธอและเธอเลือกมันจริงๆ ผมจะได้มีความรู้สึกที่ว่าเป็นคนแรกของเธอแล้วมาดับอารมณ์ที่ฟุ้งซ่านแทบบ้านี่
ผมคิดว่าผมคงทนได้
ใช่ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจเหมือนกันว่าไม่มีทางทนได้แน่ ถ้าเกิดเรามีเซ็กซ์กันจริงๆ แล้วเธอจะไปเปลือยเปล่าขึ้นขย่มใครต่อใครนอกจากผมอีก
ผมล้วงกุญแจรถฮอนด้าซีวิคจากกระเป๋าเสื้อกาวน์ของคนตัวเล็ก เหมือนมันกลับมาเป็นเหมือนคืนนั้นที่เราพลาดไปด้วยกัน จนสุดท้ายก็ต้องมาตกอยู่ในสถานะคลุมเครือนี่เพราะดันเป็นคนแรกที่รู้ความลับที่ว่าพี่หมี่ยังซิง
แต่อย่างน้อย ไอ้สถานะคู่นอนนี่ก็ชัดเจนกว่าก่อนหน้านั้นที่ผมพยายามตื้อจีบเธอแล้วพี่หมี่ก็มองผมเป็นแค่น้องชายนั่นแหละวะ
ผมทิ้งรถมอเตอร์ไซค์ไว้ที่โรงพยาบาล เพราะยังไงตอนเช้าค่อยมัดมือชกขับรถพี่หมี่มาเอากลับไปเรียนแทนละกัน ไหนๆ วันนี้เธอก็ป่วย ผมจะอยู่ดูแลเธอเอง
ในสถานะเหี้ยอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน
ผมขับวนมาจอดในลานจอดรถชั้นสอง พร้อมกับอุ้มร่างเล็กขึ้นไปที่ชั้นสี่ซึ่งเป็นชั้นห้องของพี่หมี่ จนมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องของเธอแล้วแตะคีย์การ์ดเข้าไป
ห้องของพี่หมี่ยังเหมือนเดิม สะอาดเรียบร้อยเหมือนผิวขาวๆ ของเธอ ผมกดเปิดสวิตช์ไฟเหมือนในคืนนั้น และพาเธอเข้าไปวางในห้องนอนเหมือนคืนนั้น ทำทุกอย่างเหมือนในคืนแรกของเรา
วันต่อวันเลยสินะที่ได้เข้าออกห้องของพี่สาวที่มีอิทธิพลต่อใจผมขนาดนี้ พาลทำให้อดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้
ถ้าเธอยังบริสุทธิ์ ก็แปลว่าไม่ได้พาใครเข้าห้องเลย
ผมนี่ถือว่าเป็นคนแรกรึเปล่าวะ
“อื้อ... ปวดหัว” เสียงหวานดังขึ้นพร้อมกับร่างบางในชุดแซกทับกาวน์ที่กระสับกระส่ายดูไม่สบายตัว ผมหลุบตาลงมองหน้าอกของเธอที่เด่นชัดจากชุดแซก แล้วก็ค่อยๆ ถอดเสื้อกาวน์ออกให้
“ยกแขนหน่อยพี่หมี่ ผมจะถอดชุดให้” ผมพูดกับร่างอรชรที่เอามือมาขยี้ตาไปมาเหมือนเด็กที่กำลังป่วยแล้วงอแง ในขณะที่พี่หมี่จะครางรับเบาๆ แล้วยกแขนให้ผมถอดกาวน์ออกจากแขนทั้งสองข้างของเธอ
“อื้อออ ไม่สบายตัวเลยค่ะ” เธอยังบ่นอุบเสียงเครือๆ ผมฉีกยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนที่จะปลดซิปชุดแซกของเธอตามมาอย่างว่าง่าย แล้วคนตัวเล็กก็เม้มริมฝีปาก “มะ... ไม่ใช่ชุด”
“...?”
“พี่หมายถึง... กางเกงใน” ท้ายประโยคเธอพูดเสียงแผ่วเหมือนกำลังอาย และยังไม่รู้ตัวว่าได้ขออะไรที่เป็นอันตรายต่อตัวเองกับคนคิดไม่ซื่ออย่างผมเข้าแล้ว “มะ... มันเลอะน้ำหล่อลื่นพี่ตั้งแต่เช้า เหนียวตัวค่ะ”
มุมปากผมยกสูงขึ้นในวินาทีนั้น
“ได้สิครับ” ผมรับคำอย่างง่ายดาย ในขณะที่จะใช้ฝ่ามือหนาถลกกระโปรงชุดแซกรัดรูปของเธอขึ้นสูง ถือโอกาสลูบวนไปมาที่ต้นขาขาวจัดของเธอ แล้วค่อยๆ รั้งซับในที่ไม่มีอะไรสวมทับเหมือนจงใจจะท้าทายความโรคจิตของผมลงอย่างช้าๆ
เนินเนื้ออวบอูมเป็นทรงสวย แถมกลีบยังชมพูสัสๆ ปะทะสู่สายตาคมกร้าวของผม ในขณะที่ผมจะรูดกางเกงในเธอจนสุดปลายเท้า หัวใจเต้นหนักหน่วงอย่างตื่นเต้นกับความสวยของมัน
ให้ตาย
โคตรน่าเลีย
ผมแลบลิ้นเลียปลายเขี้ยวของตัวเอง กลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกให้กับความขาวอมชมพูของพี่หมี่ และในจังหวะที่เธอกำลังกระสับกระส่ายจากพิษไข้ ผมก็ถือโอกาสนั้นค่อยๆ แยกเรียวขาของพี่หมี่ออก จนกลีบเนื้อตูมนั่นแบออกมามากขึ้น
ความชมพูที่เด้งตุบๆ ด้านใน ทำเอาแทบคุมสติไม่อยู่
ผมไม่รู้ว่าในจังหวะที่พี่หมี่เป็นไข้เพราะเธอฝืนมาทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเพราะแฮงก์เหล้าหนักก็ดี หรืออาจเพราะผมรุนแรงกับเธอมากไปทั้งเมื่อคืนและในตอนเช้าก็ดี แล้วผมที่คิดแต่จะทำเรื่องอย่างว่ากับเธอนี่มันถือว่าเป็นผู้ชายที่เหี้ยแค่ไหน แต่เอาเป็นว่ากูไม่สน
รู้แค่ว่าพรุ่งนี้
เธอน่าจะได้คลานไปทำงาน
[จบพาร์ท : ขาล]
“อ๊ะ อื้อ” ริมฝีปากถูกครอบครองอีกครั้ง นิ้วทั้งห้าสะบัดไปมาตรงกลีบเนื้ออวบอูมจนฉันกระตุกแล้วก็ปลดปล่อยน้ำหล่อลื่นออกมารดมือของเขามากมาย ขาลดูดปลายลิ้นของฉัน ก่อนที่เขาจะปลดซิปกางเกงลงฉันเอาหลังมือมากัดไว้แน่น ตัวสั่นงันงกเมื่อขาลชักแก่นกายที่แข็งชูชันออกมา เขาถูเบาๆ ที่กลีบชื้นแฉะ และค่อยๆ ดันมันเข้าไปอย่างช้าๆ“... เดี๋ยว!” ฉันทึ้งเสื้อที่เปียกน้ำของคนตัวโตไว้แน่น เมื่อขาลรุดเข้าไปได้แค่ครึ่งหัว มันก็สร้างความปวดร้าวและคับแน่นจนแทบกรี๊ดออกมาดังๆ เพื่อระบายความเจ็บ “ดะ เดี๋ยว เดี๋ยวนะคะ เดี๋ยวก่อน”ฉันละล่ำละลั่กเสียงสั่นไปหมด เลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูกเมื่อน้องขาลผละกายแกร่งที่ตระกองกอดฉันออกมา เขาสบตาฉันด้วยแววตาที่แดงก่ำจากฤทธิ์ของกัญชาที่น้องอาจสูบก่อนมาที่นี่ ร่างสูงเอื้อมมือมาปิดปากฉันไว้ แล้วกระซิบชิดหลังมือหนาของตัวเอง“แค่ครึ่งหัวก็เจ็บแล้วเหรอครับ?” น้ำเสียงเข้มข้นของน้องขาลทำให้ฉันเบิกตาโต ใจสั่นไหวเมื่อเขาดันมันเข้าไปอีก และโพรงนุ่มที่เจ็บระบมของฉันก็ราวกับหลุมลึกขนาดเล็กที่ดูดท่อนเนื้อของเขาเข้าไป“อื้ออออ!!” ฉันทุบอกเขาเสียงดังปั่กๆ ฉันอยากให้น้องขาลเอาออก แต่เหมือนน้องจะรู้เ
“น้องขาล ทำไม... อื้อ!” พอรู้ว่าเป็นร่างสูงของคนที่มีความสัมพันธ์สวาทด้วย ฉันก็เปิดประตูออกมารับทันที แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยปากถามอะไรเขาด้วยซ้ำ ร่างกำยำก็รวบท้ายทอยของฉันเข้ามาประกบปากจูบกับริมฝีปากที่เปียกชื้นจากน้ำฝนและความอุ่นร้อนจากพิษรักของเขาทันทีกลิ่นบุหรี่คละคลุ้งปนไปกับน้ำฝนที่ออกรสเค็มเล็กๆ ขาลดูดริมฝีปากของฉันจากหน้าประตู เขาตระกองกอดฉันไว้แนบอกแกร่ง และแลกลมหายใจกับฉันจนแทบอ่อนเปลี้ยอยู่ตรงนั้น“แฮ่ก... ขาล” ฉันทึ้งคอเสื้อที่เปียกชื้นของเขาไว้ หอบหายใจ พร้อมกับผละริมฝีปากออกด้วยตัวเองเพราะหายใจไม่ทัน “มีอะไรเหรอ รุดมาตอนที่ฝนตกอยู่เลย”“ผมอยาก” เขาตอบกลับมาแค่นั้น เพียงสั้นๆ แต่กลับทำให้ฉันรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว“อะ...! ไม่ได้นะ เดี๋ยวติดหวัด” และทันทีที่น้องขาลพูดว่าอยาก เขาก็ซุกไซร้ริมฝีปากหยักลึกเข้าที่ซอกคออุ่นๆ ของฉัน ดูดจนเป็นรอยจ้ำอีกรอย ส่วนมือหนาก็บีบขยำหน้าอกที่ซ่อนอยู่ใต้ชุดคลุมอาบน้ำไปด้วย จนฉันต้องร่นถอยหลังแล้วเอี้ยวตัวไปปิดประตู“พี่ปฏิเสธผมจัง ผมก็แค่...” ริมฝีปากหยักลึกกระซิบกลับ ก่อนที่ฉันจะเป็นฝ่ายกอดขาลเอาไว้เอง“ขาล... ถอดชุดก่อน นะคะ” ท้ายประโยคฉั
“ระ... เราอยากมีอะไรกับนาย”“...”“ไม่ต้องผูกมัดก็ได้ ขอแค่ได้มีอะไรกับขาล... ก็พอแล้ว”เกิดเดดแอร์ขึ้นระหว่างเราทั้งคู่ ผมพ่นควันกัญชาออกมาอย่างเฉื่อยชา ไม่ใช่ไม่รู้ว่าน้ำอิงชอบผมมาตั้งนานแล้ว และความรู้สึกดีๆ มันก็มากขึ้นในคืนที่เรานัวปากกันโดยที่นั่นคือจูบแรกของเธอแต่สำหรับผม นั่นก็แค่จูบที่สิบจากใครหลายต่อหลายคนที่ผ่านมา“น้ำอิง” ผมเรียกชื่อเล่นเต็มๆ ของมัน และเจ้าของวงแขนเล็กก็สะดุ้ง “รู้ปะ ว่าที่ทำอยู่เนี่ย เธอจะไม่ได้ความชัดเจนอะไรจากเราทั้งนั้น”“...”“ถ้าเราพลั้งมีเซ็กซ์กับเธอ มันก็แค่วันไนท์ เธอจะไม่ได้เป็นแฟนเรา เพราะเราไม่ได้คิดอะไรกับเธอ”“ระ... เราขอโทษ” จนเธอผละวงแขนออกเหมือนเพิ่งรู้สึกตัวว่าได้ทำอะไรลงไป น้ำอิงไม่กล้าพอที่จะมีอะไรกับคนอย่างผมจริงๆ หรอก เธอรู้กิตติศัพท์ในวิทยาลัยผมดี “เราดูใจง่ายใช่มั้ย ที่ขอมีอะไรกับนาย”“ก็ไม่แปลก” แต่ผมก็เข้าใจความรู้สึกของอิงดี เธอกับผมมีส่วนคล้ายกัน “ชอบใคร ก็ต้องอยากมีเซ็กซ์ด้วยสิ”“เราเห็นนายกับพี่สาวคนนั้น” มันเลยโพล่งขึ้นมาเพื่อเข้าประเด็น และคงเป็นเรื่องที่ทำให้คนเรียบร้อยอย่างน้ำอิงถึงกับถ่อมาหาผมที่นี่ “นายขับรถผ่านหน้าเรา
[พาร์ท : ขาล]ผมกลับมาที่บ้านด้วยความรู้สึกเจ็บหน่วงที่อกเป็นปกติใช่มั้ยวะที่พอชอบใครมากๆ แต่เป็นไปไม่ได้มากกว่าความสัมพันธ์ที่ฉาบฉวยมันก็เจ็บใจ เจ็บใจที่คาดหวังไปเองเจ็บใจเพราะว่าส่วนหนึ่งที่พี่หมี่ยังไม่เลือกผมก็เพราะแฟนเก่า เธอยังลืมไอ้หมอคนนั้นไม่ได้ ก็แค่ไม่มั่นใจในตัวผมสักเท่าไหร่ผมเดินสะพายกระเป๋าฟีบๆ ผ่านโต๊ะที่ว่างเปล่า บ้านที่เงียบสงัดเพราะไร้เงาของน้องแท้ๆ ทำให้ผมถอนหายใจหนัก คงอยู่กับไอ้เหี้ยเตมั้ง แต่ผมไม่ใช่คนที่หวงน้องสาวหนักจนบ้าอะไรเทือกนั้น ยิ่งมันอายุสิบแปดขึ้นยิ่งปล่อย คิดว่าชีวิตมัน มันจัดการเองได้ผมไม่ได้หวงใครไปมากกว่าพี่หมี่เลยว่ะผมคีบมวนบุหรี่ในกระป๋องเหล็กที่ซื้อพิเศษมาคาบไว้แล้วจุดไฟสูบ มันเป็นกัญชาผสมยาเส้น รู้ว่าเหี้ยต่อสุขภาพ แต่มันทำให้ผมลืมความเจ็บปวดที่มีได้เร็วขึ้นเหมือนกันผมพ่นควันที่มีกลิ่นเฉพาะตัวออกมา นั่งพิงกับเบาะโซฟาอย่างอ้อยอิ่ง เพราะถ้าสูบต่อหน้าไอ้ขิม มันคงบ่นผมเป็นต่อยหอยพร้อมกับเอาไปฟ้องพ่อว่าผมยังไม่เลิกกัญชาเหมือนตอนที่อยู่อเมริกาก็อย่างว่า ผมเสพมันตั้งแต่อายุสิบสองผมรู้ว่าสำหรับพี่หมี่ ผมมันเป็นไปไม่ได้ ผมมันเป็นแค่ผู้ชายที่อายุ
ฉันคิดว่าในตอนที่น้องขาลเล้าโลม ฉันต้องการตัวตนของขาลเข้ามานะ ก็เลยเผลอทำสีหน้าเย้าอารมณ์คนเหนือร่างแบบนั้น แต่เพราะครั้งแรกของฉันดันเป็นผู้ชายที่มีขนาด 60 อย่างขาล ก็เลยต้องกังวลเป็นพิเศษไม่ใช่อะไรหรอก ฉันเป็นหมอแผนกสูตินารีเวทย์ เป็นหมอตรวจภายในสำหรับสตรีซะด้วยสิ ขนาดเท่านั้นอาจจะทำให้อวัยวะเพศฉีกขาดได้เลยนะสุดท้ายเพราะไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ แถมฉันก็เป็นไข้อยู่ด้วย ขาลเลยเข้าไปทำโจ๊กสำเร็จรูปที่มีอยู่ในตู้เก็บของในครัวให้ฉันทานแทน เขาบอกว่าเขาทำอาหารไม่เป็น แต่ถ้าแค่ต้มโจ๊กให้ผู้หญิงที่ชอบก็น่าจะทำได้สบายๆฉันพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ จะพูดว่ายังไงดีล่ะ... ฉันก็ทำอาหารไม่เก่งเหมือนกัน แถมไม่ค่อยมีเวลาด้วย ในตู้ก็เลยมีแต่อาหารสำเร็จรูปเต็มไปหมดได้กลิ่นหอมของโจ๊กหมูสับในครัวใกล้ๆ ห้องนอน นั่นก็เพราะว่าขาลเปิดประตูอยู่ด้วยล่ะนะจนผ่านไปสิบห้าวินาทีเขาก็เข้ามาพร้อมกับถ้วยโจ๊กที่ควันฉุย ฉันเม้มริมฝีปากแน่นตอนที่ขาลวางโจ๊กลงบนโต๊ะแก้วข้างๆ เตียง พร้อมกับก้าวฉับๆ ไปเอายาจากกล่องใสที่ฉันเขียนว่าเป็นยาสำหรับแก้อะไรๆ จะได้หยิบใช้ง่ายเวลาฉุกเฉินมาพร้อมกับแก้วน้ำใจเต้นเลยนะเนี่ย ปกติเขาก็ดูแลฉั
“แค่ถู จะพอจริงๆ เหรอครับ”“...”“เพราะสีหน้าพี่ตอนนี้ แม่งเหมือนอยากให้ผมใส่เข้าไปจะตายอยู่แล้ว”และ... ใช่ สีหน้าของฉันมันคงยั่วยวนขาลมาก เขาถึงได้ผงาดขึ้นถูไถกับกลีบเนื้อชื้นของฉันซะขนาดนั้นเหงื่อของขาลหยดลงมาที่ริมฝีปากเป็นหยดเล็กๆ ฉันเผลอแลบลิ้นตวัดเลียมันเข้าไปในปากอย่างเร่าร้อน จนถูกร่างสูงใหญ่รวบข้อมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัวด้วยฝ่ามือใหญ่เพียงมือเดียว พร้อมกับริมฝีปากแห้งผากที่ต้องการน้ำจากกายของเราทั้งคู่จะตระโบมเข้าหากันอย่างดุเดือด“อื้อออ” ฉันครางในลำคอเมื่อถูกดูดปลายลิ้นอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บระบม ขาลจูบจนได้ยินเสียงดังจ๊วบจ๊าบ เขาไม่อ่อนโยนเลย มืออีกข้างก็เคล้นหน้าอกอวบของฉันจนแทบกลายเป็นก้อนแป้งพิซซ่าแหลกเหลวในอุ้งมือก็ไม่ปานแต่ทว่า... มันกลับทำให้ฉันเสร็จคาท่อนที่ถูไถอยู่ด้านนอกไม่หยุดรสชาติจากริมฝีปากของขาลปะปนไปด้วยกลิ่นบุหรี่ และกลิ่นยาสีฟันชาร์โคลมิ้นท์ในแบบของผู้ชายที่น่าหลงใหล แววตาของฉันพร่าเบลอ ในขณะที่ขาลจะรูดซิปลงแล้วหยัดกายขึ้นสูงรูดกางเกงยีนส์ออกอย่างเอาเรื่องฉันผงกหัวไปดูเขาในจังหวะที่ขาลปลดบ็อกเซอร์ออกจนท่อนเนื้อที่ใหญ่โตดีดผึงออกมา เป็นครั้งแรกที่ฉันได้
สัมผัสได้ถึงความร้อนจากพิษไข้จนสติแทบไม่หลงเหลือ กับเรียวขาที่ถูกแยกออกกว้างด้วยฝ่ามือใหญ่ที่กรุ่นร้อนฉันยกหลังมือขึ้นมาบังหน้าผากของตัวเองที่ร้อนจี๋ จริงๆ ขาลไม่น่าผลุนผลันพาฉันกลับมาที่ห้องเลย แค่กินยาแล้วนอนพักที่โรงพยาบาลสักครึ่งวันก็น่าจะหาย แต่เพราะว่าได้ยินเสียงของที่สองที่คอยตามตื้อฉันตลอดมาดังขึ้นในช่วงที่อาการไม่ค่อยดี ฉันเลยแกล้งหลับคาอกของน้องขาล และใช้น้องขาลเป็นไม้กันหมา ยอมให้น้องเอาตัวเองออกมาจากที่ที่มีผู้ชายคนนั้นรู้สึกผิดที่แอบใช้เขาเป็นเครื่องมือเพื่อให้ลืมแฟนเก่าเหมือนกัน แต่ถ้าต้องมาสบตาที่สองตรงๆ ฉันคงทำใจปฏิเสธความหวังดีของเขาลำบาก ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าที่สองคบกับใครใหม่ไปแล้วมีแต่ฉันสินะที่ไม่มูฟออนออกจากวงจรอุบาทว์นี่“... อ๊ะ” ฉันสะดุ้งเฮือก เมื่อช่องทางที่อ่อนนุ่มที่ไม่รู้ว่าโล่งโจ้งต่อหน้าผู้ชายตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่ถูกล้วงล้ำด้วยปลายนิ้วสากที่อุ่นวาบ เขาเขี่ยเม็ดกระสันของฉันเบาๆ เหมือนจงใจหยั่งเชิง ในขณะที่ความรู้สึกแปลกใหม่จะเข้ามาแทนที่จนต้องถามคำถามโง่ๆ ออกไป “อื้อ น้องขาล ทะ... ทำอะไรคะ”ไม่ได้สังเกตเลย มัวแต่วางใจให้น้องขาลถอดเสื้อให้ด้วยพิษไข
ไอ้หมอเวรนั่น มันเป็นคนที่ทำให้พี่หมี่ของผมเจ็บปวดมันมีชื่อที่ไม่น่าจดจำว่าที่สอง เป็นที่สองรองทุกอย่างที่เป็นผม แค่ไม่รักพี่หมี่มากพอก็เทียบผมไม่ได้แล้ว สำหรับผม ถ้าให้เลือกงานกับเธอ ผมพร้อมจะพุ่งไปหาพี่หมี่ได้ทุกเวลาด้วยซ้ำมันรักงานมากกว่าผู้หญิงดีๆ อย่างเธอ ก็สมควรแล้วที่จะถูกทิ้งได้แค่จูบเฉยๆ แต่ไม่มีวันได้ตัวเหมือนอย่างกูหรอกว่ะและกูจะทำมากกว่าเมื่อเช้านี้อีก ไม่ว่ายังไงครั้งแรกของพี่หมี่ต้องเป็นของกูผมคิดในใจอย่างกับหมาบ้าหวงของ อย่างที่บอก ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ไม่มีอิทธิพลต่อใจผมมากเท่าเธอ พี่หมี่เป็นทุกอย่างให้ผม ทั้งพ่อแม่ เพื่อน หรือแม้กระทั่งที่พักเวลาที่ผมเจ็บไม่ว่ายังไงก็ตาม ต่อให้ต้องกลายเป็นแค่ตัวเลือก แต่ขอแค่เธอมีเซ็กซ์กับผมเป็นคนแรกก็พอ เพราะอย่างน้อยๆ เวลาใครเข้าหาเธอและเธอเลือกมันจริงๆ ผมจะได้มีความรู้สึกที่ว่าเป็นคนแรกของเธอแล้วมาดับอารมณ์ที่ฟุ้งซ่านแทบบ้านี่ผมคิดว่าผมคงทนได้ใช่ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจเหมือนกันว่าไม่มีทางทนได้แน่ ถ้าเกิดเรามีเซ็กซ์กันจริงๆ แล้วเธอจะไปเปลือยเปล่าขึ้นขย่มใครต่อใครนอกจากผมอีกผมล้วงกุญแจรถฮอนด้าซีวิคจากกระเป๋าเสื้อกาวน์ของคนตัวเล็
พอตัดบทแบบนั้น ไอ้อิงก็เงียบไปจนผมขับมาถึงวิทยาลัยผมไม่ได้ใส่ใจนัก บางเรื่องผมไม่จำเป็นต้องอธิบายในเรื่องที่ผมอธิบายไปหมดแล้ว ในคืนนั้นแม้ว่าเราจะแค่จูบกัน แต่ผมไม่ได้ติดใจอะไร และเพื่อนๆ ในวงก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีก ทุกคนรู้กันดีว่าควรต้องจัดการความรู้สึกตัวเองยังไงอย่างที่บอก ผมมันไม่ใช่คนดี ผมมั่วสุม เสพยาตามประสาวัยรุ่น และเผลอจูบกับผู้หญิงที่เป็นเพื่อนสนิทตัวเองผมไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่เหมาะกับใคร เลยไม่ได้บังคับขืนใจพี่หมี่ให้มาจริงจังกับผม เพราะก็พอรู้ตัวว่าสำหรับผู้หญิงอนาคตไกลอย่างเธอ ผมมันก็แค่เด็กหนุ่มที่มีดีแค่ความตื่นตัวผมยังเกเร ยังทำตัวไม่เป็นผู้เป็นคน และยังใช้เงินพ่อแม่อยู่ผมกับเธอ ได้เป็นแค่ความสัมพันธ์แบบคู่ขาก็ดีแค่ไหนแล้วผมเดินนำน้ำอิงมาถึงห้องเรียน เธอทำหน้าหงอยเหงาไปนั่งหลบมุมคนเดียว ซึ่งแน่นอนว่าเพราะอิงเป็นนางฟ้าของกลุ่ม เพื่อนถึงมารุมทึ้งผมที่นั่งเคาะมวนบุหรี่เล่น“วันนี้ทำไมอิงดูแปลกๆ มึงไปทำไรมันปะ” ไอ้เตเป็นฝ่ายถามก่อนเหมือนเป็นตัวแทนหมู่บ้าน มันคงเป็นคนเดียวที่ไม่ได้ถูกใจน้ำอิงมากเท่าเพื่อนคนอื่นๆ และคงไม่ต้องถามว่าทำไม เพราะแม่งมี