CW: มีการกล่าวถึง คำหยาบคาย
“รู้ใช่ไหมว่าประธานไม่อยากให้ผมแต่งออก”
“เชื่อมือกระผมได้เลยครับ คุณหนูนรินทร์ ผมจะหาคนที่เหมาะสมกว่ามาให้เอง”
ทนายควบตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวโค้งศีรษะน้อมรับคำนายน้อยแห่งตระกูลด้วยความยินดี ก่อนส่งยิ้มหวานไปทางอดีตคู่หมั้นที่คุณหนูนรินทร์เรียกมาตบหน้ากลางสี่แยก คุณหนูของเขานี่ช่างมีอารมณ์ขันเสียจริง สมแล้วที่ชื่นชมติดตามเป็นแฟนคลับมาตลอด
“เรียกมาแล้วพูดแบบนี้ พี่เสียใจนะครับ”
“นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องรู้ ธุระของเราจบแล้ว เชิญครับ”
ว่าแล้วคุณหนูโอเมก้าจึงจรดปลายนิ้วชี้ไปยังบานประตูทางออกห้องผู้อำนวยการ ทำเอาธนินที่นั่งไขว่ห้างถอนหายใจเฮือกใหญ่กับความดื้อรั้น หลายครั้งแล้วที่คนน้องปฏิเสธการนัดเดต หรือแม้แต่การเข้าพบส่วนตัว เข้าใจว่าไม่ต้องการแต่งงานออก แต่โอเมก้าตัวเล็ก ๆ ในบริษัทใหญ่โตจะไปทำอะไรได้
“เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะครับนรินทร์ พี่จะดูแลเราอย่างดี”
“ผมดูแลตัวเองได้ เชิญครับ”
“เป็นโอเมก้าแท้ ๆ มาอยู่กับพี่ นอนสบาย ๆ แล้วก็ได้เงินเดือน ดีออกจะตายไป”
“ผมชอบนั่งมากกว่านอน เชิญครับ”
“จำเรื่องวันนี้ให้ดีล่ะ”
“กล้องวงจรปิดมีระบบเก็บเสียง ผมไม่จำเป็นต้องจำ เชิญครับ”
นรินทร์พยักพเยิดใบหน้าให้ทนายคนสนิทเป็นคนเปิดประตูเรียนเชิญทายาทอสังหาริมทรัพย์ออกไปแต่โดยดี ธนินจึงไม่มีทางเลือกได้แต่กลอกตาเอามือยัดใส่กระเป๋ากางเกงเดินออกไปพร้อมกับวิลเลี่ยม
เมื่อได้รับความสงบกลับคืนมา ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจึงสามารถกลับมาสานต่องานที่คั่งค้างได้อย่างสะดวก โดยงานของวันนี้ก็มีตั้งแต่การอนุมัติงบประมาณลงทุนสำหรับการขยายโรงแรม ประเมินความคุ้มค่าของการลงทุนกับโครงงานที่พนักงานเสนอขึ้นมา แล้วช่วงหัวค่ำจะมีประชุมออนไลน์กับเอเจนซีต่างประเทศ ซึ่งคงได้นอนอีกทีราวสี่ทุ่ม เพราะประชุมกับต่างชาติแม้จะนาน ๆ ครั้งแต่จริงจังกว่าของไทยมากนัก
ปีนี้เขาก็อายุยี่สิบห้าปีบริบูรณ์ แม้เป็นโอเมก้าหากแต่บิดาไม่ได้ปฏิบัติกับเขาเหมือนครอบครัวทั่วไป เพราะพี่สาวเลือกออกไปทำกิจการเป็นของตัวเอง ตัวเขาที่เป็นน้องจึงต้องสานต่องานอย่างช่วยไม่ได้ ดังนั้นตลอดช่วงเวลาที่ผ่านเขาจึงต้องเคี่ยวเข็ญตัวเองไม่ต่างจากอัลฟ่า แม้มีช่วงฮีตก็ต้องกินยากดขนานแรงไม่ให้ฟีโรโมนออกมากระทบอาจารย์หรือคนรอบข้าง
ตอนนี้ท่านประธานอนุมัติให้เขาแต่งงานปีนี้ แต่เพราะครอบครัวอดีตคู่หมั้นบิดพลิ้วสัญญา ทุกอย่างจึงเป็นโมฆะ สื่อในตอนนี้คงนำเรื่องนี้ไปใส่สีตีไข่กันสนุกเลยกระมัง
อ่านเอกสารไปก็คิดไตร่ตรองสถานการณ์และการวางตัวให้เหมาะสมสำหรับเรื่องในอนาคต จนเวลาล่วงเลยจนถึงช่วงหัวค่ำ เลยเวลาเลิกงานของพนักงานมาราว 2 ชั่วโมง จู่ ๆ โทรศัพท์ก็มีข้อความเด้งขึ้นมาจากเลขานุการวิลเลี่ยม
[เจอว่าที่เจ้าบ่าวคนต่อไปแล้วคร้าบ ٩ (ˊᗜˋ*) و ♡]
เจอประโยคดังกล่าวเข้าไปนรินทร์ก็ตกใจถึงกับต้องวางเอกสาร เขาพึ่งถอนหมั้นไปเมื่อเที่ยง ตกเย็นวิลเลี่ยมหาคนใหม่ให้ได้แล้วอย่างนั้นหรือ อัลฟ่าที่ยอมรับข้อตกลงนั้นใช่ว่าจะหากันได้ในวันสองวันนะ คิดสงสัยได้ไม่ทันไรทนายก็ส่งข้อความต่อ
[ประวัติทุกอย่างอยู่ใน Folder นี้นะครับ เพื่อนกระผมเอง ตรงกับสิ่งที่คุณหนูต้องการทุกอย่าง ദ്ദി ˉ͈̀꒳ˉ͈́) ✧]
ไม่รอช้า คุณหนูโอเมก้ารีบเปิดแล็ปท็อปเข้าตรวจสอบไฟล์ดังกล่าวทันทีโดยไม่แม้แต่จะมองหน้าตาว่าที่สามี เลือกสำรวจประวัติการศึกษาและประสบการณ์การทำงานเป็นอย่างแรกก่อนจะต้องตกตะลึง
‘Académie Royale de Sagesse’ (อากาเดมี รัวยาล เดอ ซาแฌส) สถาบันอันดับหนึ่งในฝรั่งเศส แถมยังจบจากหลักสูตรการทำอาหารฝรั่งเศสที่ขึ้นชื่อว่ามีผู้สอบชิงทุนปีละไม่ต่ำกว่าห้าพันคน ไหนจะมีประกาศนียบัตรหลักสูตรการจัดการโรงแรม คนแบบนี้น่ะหรือจะสิ้นเนื้อประดาตัว เอาเข้าจริงแค่มาสมัครงานกับโรงแรมก็ได้ตำแหน่งหัวหน้าเชฟประจำแผนกได้แบบง่ายดายโดยไม่ต้องทดสอบแล้วแท้ ๆ
นรินทร์อ่านไล่ลงมาเรื่อย ๆ ก่อนจะพบว่าเจ้าตัวแม้จะเรียนจบจากสถาบันในฝรั่งเศส แต่เลือกกลับมาสานต่อกิจการร้านอาหารไทยประยุกต์เล็ก ๆ แถบชานเมืองซึ่งเน้นขายครอบครัวเป็นหลัก เป็นหนี้รวมอยู่ราวสิบล้าน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นเพราะปู่เจ้าตัวต้องนอนโรงพยาบาลตลอดเวลา
[นัดเจอให้ที ขอภายในสัปดาห์นี้]
[รับทราบครับ ลงตารางให้แล้วครับ (◡̀_◡́) ᕤ]
เมื่อผู้จัดการกล่าวเช่นนั้นคุณหนูโอเมก้าจึงเบาใจลงโข ก่อนเผลอหันมาสบตากับเจ้าของประวัติในจอ ทีแรกไม่คิดว่าจะหน้าตาดีขนาดนี้ แม้สารรูปจะกระเซอะกระเซิงสกปรกไปบ้าง แต่ถ้าจับแปลงโฉมคงออกงานสังคมด้วยกันได้อยู่ ประวัติการศึกษาระดับคนนั้นคงไม่โดนดูถูกง่าย ๆ
อ่านจบนรินทร์จึงปิดไฟล์ลง กดเข้าลิงก์ประชุมออนไลน์ ระหว่างรอเจ้าภาพกดรับเริ่มการประชุมก็หันมาให้ความสนใจกับแผนงบประมาณเพื่อตรวจสอบความถูกต้องต่อ
‘นรินทร์ โสภณวิจิตร ทายาทคนที่สองของตระกูลโสภณวิจิตร ว่าที่ประธานคนต่อไปของโฮเต็ล-เลอ-ลัว และเป็นโอเมก้า’
ราเชนทร์หลังเก็บครัวเก็บร้านเสร็จก็ขึ้นมานั่งสะสางงานบัญชี กว่าจะได้มานอนเอนหลังบนเตียงก็ปาไปห้าทุ่ม ก่อนถึงวันใหม่เขาจึงถือโอกาสสืบประวัติคุณหนูคนนั้นโดยละเอียดอีกครั้งก่อนไปเจอหน้าในวันพุธนี้
ไถหน้าจอไปก็เห็นหน้าคุณหนูในหลากหลายมุม ดูเป็นคนที่สมบูรณ์แบบจนเหนือจริง มักออกงานในชุดสูททางการมากกว่าสวมเสื้อผ้าสไตล์อ่อนหวานอย่างที่โอเมก้านิยม ทั้งที่หน้าตาก็น่ารักใช้ได้ แต่งเนื้อแต่งตัวสักหน่อยคงขึ้นกล้องไม่หยอก คิดไปคิดมาสมองก็เริ่มจินตนาการไปไกล สงสัยการแต่งงานชั่วคราวของเราจะเจริญหูเจริญตามากกว่าที่คิด
เลื่อนไปเลื่อนมาก็ชักง่วง แต่จะว่าไปยังไม่ทันได้อ่านสัญญาที่ไอ้วินมาส่งมาให้ในไลน์เลยนี่หว่า
ไม่คิดเปล่าราเชนทร์เปิดหน้าแอปเขียว กดไปยังภาพโพรไฟล์หน้ายิ้มแป้นของไอ้เพื่อน จิ้มดาวน์โหลดไฟล์มากวาดสายตาอ่านให้พอเข้าใจก่อนจะต้องชะงักงันเมื่อเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิด
‘...ฝ่ายสามี ตกลงที่จะให้ความร่วมมือในการกำเนิดทายาทแก่ ฝ่ายภรรยา...’
งานเข้าล่ะกู
CW: มีการกล่าวถึง คำหยาบคายนรินทร์นั่งไตร่ตรองสักพัก เจ้าของร้านอัลฟ่าก็เดินถือปิ่นโตออกมาพร้อมถุงน้ำกะทิแยกต่างหาก และมือขวาที่ลากคอทนายตัวดีให้ออกมาคุยกันต่อเพื่อความกระจ่าง จนทราบว่าไอ้วินมันหลอกให้เขาทำสัญญากลาย ๆ เพราะไม่ได้บอกถึงการเพิ่มอาชีพขึ้นมาอีกหนึ่ง“เล่ามา”“ก๊าบ...”ทนายวิลเลี่ยมหน้าหงอเพราะโดนยึดถ้วยขนม ท้ายที่สุดจึงเปิดปากเล่าความเพิ่มเติมต่อจากคุณหนูโดยสรุปคือทั้งคู่ต้องเล่นละครและเข้าใจตรงกันว่าสองสามีภรรยามาพบรักกันในร้านอาหารเล็ก ๆ แถบชานเมือง แต่เมื่อก่อนภรรยาติดพันกับอดีตคู่หมั้นจึงไม่สามารถมาเยือนร้านได้ด้วยตัวเองเนื่องจากเกรงว่าจะเป็นข่าว ภายหลังเมื่อมีการถอนหมั้นความสัมพันธ์จึงพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วโดยมีผู้จัดการส่วนตัวเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ เมื่อความรักสุกงอมจนเราสองได้แต่งงาน คุณหนูจึงทาบทามสามีให้มาช่วยเหลืองานภายในแผนกอาหารฝรั่งเศสที
“สวัสดีครับ ผมนรินทร์ โสภณวิจิตร”“ผมราเชนทร์ ธรรมคุณครับ คุณหนูสนใจทานขนมไหมครับ ผมทำเตรียมไว้”“ขอบคุณมากครับ”นรินทร์ถูกเชิญให้มานั่งยังโต๊ะมุมหนึ่งของร้าน ซึ่งมองออกไปเห็นถนนและวิวไร่นาได้อย่างชัดเจน ตลอดทางมานี้เขาเองก็คิดว่ามีร้านอาหารที่เปิดในที่ร้างผู้คนยังมีลูกค้าแวะมาได้อยู่อีกหรือ แต่ดูจากรีวิวในแผนที่ก็มียอดผู้ชมไม่ใช่น้อย ไม่น่ามาตั้งในที่ห่างไกลแบบนี้เลยจริง ๆคิดแล้วก็พลางเหลือบตามองเจ้าของร้านร่างสูงในครัวที่กำลังตักนู่นตักนี่ในถ้วย ปกติเขาไม่กินมื้อเย็นเพราะมันเสียเวลา ส่วนมื้อเช้ากับมื้อเที่ยงก็เน้นกินเป็นขนมปังกับน้ำชงโปรตีนไม่ก็กาแฟ แต่มาหาว่าที่หัวหน้าเชฟประจำแผนกทั้งทีจะไม่ลองชิมฝีมือเจ้าตัวหน่อยคงไม่เหมาะ“มาแล้วครับ อินทนิลครับ”“มันเยอะ...ไปรึเปล่าครับ” นึกว่าจะเป็นอาหารฝรั่งเศสเสียอีก“คุณหนูทานน้อยเกินไปต่างหาก”วิลเลี่ยมที่เดินตามเข้ามาทักคุณหนูตัวเล็ก ในฐานะคนสนิทอย่างเขา คอยจ้ำจี้จ้ำไชให้คุณหนูทานอาหารให้ครบห้าหมู่ตลอด แต่เจ้าตัวไม่เคยทำได้เลยสักครั้งเพราะกินข้าวไปไม่เกินห้าคำก็อิ่
CW: มีการกล่าวถึง คำหยาบคายสัญญาการแต่งงานชั่วคราวสัญญาฉบับนี้ทำขึ้นเมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ.2568 ระหว่าง1. นายนรินทร์ โสภณวิจิตร (ต่อไปนี้เรียกว่า "ฝ่ายภรรยา") อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/11 ชั้น 10 โครงการ เดอะ แพลทินัม ถ.ราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นคู่สัญญาฝ่ายที่หนึ่ง2. นายราเชนทร์ ธรรมคุณ (ต่อไปนี้เรียกว่า "ฝ่ายสามี") อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154/2 ซ.เทศบาล ถ.บางกรวย ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นคู่สัญญาฝ่ายที่สองคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงเข้าสู่การสมรสตามกฎหมายเป็นระยะเวลาจำกัด โดยมีข้อตกลงและเงื่อนไขดังต่อไปนี้ข้อ 1: วัตถุประสงค์ของการสมรส การสมรสครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เ
CW: มีการกล่าวถึง คำหยาบคาย“รู้ใช่ไหมว่าประธานไม่อยากให้ผมแต่งออก”“เชื่อมือกระผมได้เลยครับ คุณหนูนรินทร์ ผมจะหาคนที่เหมาะสมกว่ามาให้เอง”ทนายควบตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวโค้งศีรษะน้อมรับคำนายน้อยแห่งตระกูลด้วยความยินดี ก่อนส่งยิ้มหวานไปทางอดีตคู่หมั้นที่คุณหนูนรินทร์เรียกมาตบหน้ากลางสี่แยก คุณหนูของเขานี่ช่างมีอารมณ์ขันเสียจริง สมแล้วที่ชื่นชมติดตามเป็นแฟนคลับมาตลอด“เรียกมาแล้วพูดแบบนี้ พี่เสียใจนะครับ”“นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องรู้ ธุระของเราจบแล้ว เชิญครับ”ว่าแล้วคุณหนูโอเมก้าจึงจรดปลายนิ้วชี้ไปยังบานประตูทางออกห้องผู้อำนวยการ ทำเอาธนินที่นั่งไขว่ห้างถอนหายใจเฮือกใหญ่กับความดื้อรั้น หลายครั้งแล้วที่คนน้องปฏิเสธการนัดเดต หรือแม้แต่การเข้าพบส่วนตัว เข้าใจว่าไม่ต้องการแต่งงานออก แต่โอเมก้าตัวเล็ก ๆ ในบริษัทใหญ่โต
CW: มีการกล่าวถึง คำหยาบคาย และเนื้อหาล่อแหลมทางเพศ“อะ...อึก!”“ไหนคุณหนูบอกว่ามีประสบการณ์ไงครับ แบบนี้ทำผมลำบากใจนะ”เชฟหนุ่มกล่าวพลางชำแรกนิ้วเบิกทางในขณะที่แก่นกายพร้อมใช้งานเต็มที่ ดวงตาคมมองต่ำจับจ้องคุณหนูโอเมก้าผู้สมบูรณ์แบบในกำมือ ใครจะไปรู้ว่าวันใดวันหนึ่งชาติไพร่อย่างเขาจะได้เป็นคนเปลื้องผ้าเนื้อดีพวกนั้นออก แม้ว่านี่จะไม่ใช่เพราะโชคชะตา แต่เป็นสัญญาวิวาห์ก็ตามอัลฟ่า เบต้า และโอเมก้า สามชนชั้นซึ่งถูกจำแนกสถานะไว้อย่างชัดเจนในสังคม นับตั้งแต่ยุคโบราณล่วงเลยมาจนถึงยุคโลกาภิวัตน์อันเต็มไปด้วยความทันสมัยอัลฟ่า (Alpha - α) ชนชั้นผู้นำ มักมีบุคลิกโดดเด่น อุดมไปด้วยเงินตราและอำนาจเบต้า (Beta - β) ช