เข้าสู่ระบบ
หญิงสาวเดินออกจากรถไปเปิดประตูห้องพัก เธอยังคงเหม่อลอยจ่อมจมในความคิดของตัวเองจนไม่สังเกตเห็นว่าเขาตามเธอไปด้านหลัง โอลิเวอร์ตะครุบร่างงามกอดรัดไว้แน่น ขณะลากดึงเธอเข้าไปด้านใน
“คุณ คุณฟื้นแล้วเหรอ ปล่อยนะจะทำอะไรฉัน”
สิตาภาสะบัดแขนเร่าๆ พยายามดิ้นหนีให้หลุดจากการจับกุมของโอลิเวอร์ เธอมัวแต่คร่ำครวญจนไม่ทันสังเกตเห็นว่าเขาฟื้นแล้ว เพราะตกใจจนขวัญบินเธอถึงได้ขับรถหนีมาโดยมีเขาติดรถมาด้วย หากสติไม่หลุดสิตาภาคงโยนเขาทิ้งกลางทางไปแล้ว
“ทำอะไรเหรอ ก็ลงโทษผู้หญิงร้ายกาจอย่างเธอน่ะสิ” เขาคำรามเสียงเข้ม ขณะอุ้มกึ่งลากพาตัวเธอมาโยนไว้บนที่นอน ก่อนจะโถมกายกักร่างงามไว้ใต้ร่างหนา จับข้อมือบางกดตรึงไว้กับที่นอน ดวงตาคมจ้องใบหน้าของเธอด้วยแววตาวาวกล้า
“อย่านะ อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว ปล่อยฉันเถอะโอลิเวอร์” สิตาภาสั่นไปทั้งตัว หวาดกลัวท่าทีคุกคามของเขา ภาวนาอย่าให้เขาทำอะไรแบบที่เธอกลัวเลย
“ผมไม่ยกโทษให้คนที่ทำให้ผมกลายเป็นคนโง่หรอกสิตา” โอลิเวอร์แค่นยิ้มหยัน มองร่างงามของเธอด้วยแววตาหยามเหยียด ทั้งรักทั้งแค้นในอกจนแทบจะระเบิด “คุณไม่ได้รักผมใช่ไหม คุณเกลียดผู้ชายและชอบเล่นรักกับผู้หญิงใช่หรือเปล่า มันดียังไงบอกผมหน่อยสิ ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงเวลามีอะไรกัน มันดีกว่ากันยังไงเคยลองเปรียบเทียบหรือยัง”
“อย่านะโอลิเวอร์ อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ คุณเคยบอกว่าคุณจะไม่ทำร้ายคนที่คุณรักยังไงล่ะ” เธอทวนคำพูดครั้งเก่าของเขา หวังให้เขาหยุดการกระทำเลวร้าย
“ใช่ผมเคยบอกว่าว่าผมจะไม่ทำร้ายผู้หญิงที่ผมรัก” โอลิเวอร์ มองหน้าหญิงสาวด้วยแววตาเจ็บปวด
“แต่ตอนนี้ผมไม่ได้รักคุณแล้วสิตา ผมเกลียดคุณยิ่งกว่าที่เคยเกลียดอะไรมาทั้งหมด ครั้งหนึ่งผมเคยหลงผิดหน้ามืดตามัวเพราะความรัก ต่อไปนี้ผมจะไม่รักผู้หญิงคนไหนอีก และผมจะผลาญพร่าผู้หญิงให้กลายเป็นแค่ของเล่น คุณคือผู้หญิงคนแรกที่ผมจะใช้บำบัดความต้องการของตัวเอง ผมไม่ได้รักคุณแล้ว แต่ผมยังอยากได้คุณอยู่ อยากได้ร่างกายสวยๆ นี่ อยากลองชิมดูว่าผู้หญิงเลสเบี้ยนมันจะสู้ผู้หญิงแท้ๆ ได้ไหม” พูดจบโอลิเวอร์ก็กระชากเสื้อผ้าของหญิงสาวออกจากร่าง
กรี๊ดดดด !!!
ชายหนุ่มถอนหายใจยาวขณะปัดภาพรบกวนหัวใจตลอดห้าปีเต็มออกจากหัว เขาทอดสายตาเปลี่ยนทิศทางไปมองอย่างอื่นบ้าง ก่อนจะสะดุดตากับร่างคุ้นตาของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่กำลังจูงมือเด็กชายหน้าตาน่ารักเดินเล่นอยู่ริมหาด
“สิตา...”
โอลิเวอร์ถอดแว่นกันแดดออก เพื่อจะจ้องมองร่างนั้นให้ชัดเจน ดวงตาวาบไหวเมื่อแน่ใจว่าหญิงสาวคนนั้นคือสิตาภาจริงๆ เขารีบลุกขึ้นเดินแกมวิ่งไปหาเธออย่างลืมตัว
“สิตา... นั่นคุณใช่ไหม” เขาเอ่ยทักทาย เมื่อเดินเข้ามาเกือบจะใกล้แล้ว
หญิงสาวหันมาตามเสียงเรียก ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างราวกับเห็นผี ร่างบางถอยหลังกรูดมือจับข้อมือเด็กช่ายไว้แน่น มองหน้าเขาอย่างตื่นตะลึง ก่อนจะอุ้มเด็กชายแล้วออกวิ่งหนี โอลิเวอร์รีบวิ่งตามแต่เหมือนฟ้าแกล้ง เขาตามเธอเกือบทันที่ตรงทางเข้ารีสอร์ต แต่ไปชนกับพนักงานชายคนหนึ่งที่กำลังยกของผ่านมาพอดี ข้าวของหล่นกระจายเขาสะดุดล้มหน้าแทบขมำ พอลุกขึ้นได้หญิงสาวพร้อมเด็กชายก็หายไปจากสายตาแล้ว
“โถ่เว้ย! สิตา คุณหนีผมทำไม”
โอลิเวอร์สบถด้วยความโมโห จนพนักงานที่ชนเขาล้มรีบพนมมือไหว้ขอโทษ
“ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจชนท่าน ผมรีบมากจนไม่ทันระวัง ขอโทษด้วยครับ”
โอลิเวอร์ถอยหายใจแรง ลูบหน้าให้คลายความหงุดหงิด “รู้จักผู้หญิงกับเด็กคนเมื่อกี้ไหม ผู้หญิงสวยๆ กับเด็กผู้ชายลูกครึ่งอายุน่าจะสามสี่ขวบ” เขาถามไปอย่างนั้น ไม่คิดว่าพนักงานจะจำลูกค้าได้ทุกคน
“อ๋อ... ผู้หญิงคนเมื่อกี้ใช่ไหมครับ เธอคือคุณวาสินีหุ้นส่วนคนหนึ่งของรีสอร์ตนี้ครับ ส่วนเด็กก็เป็นลูกชายของเธอชื่อน้องเอื้อ ชื่อเต็มว่าอลันครับ คุณวาสินีพักอยู่ที่บ้านพักด้านหลังรีสอร์ตครับ เดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายก็เจอครับ”
“วาสินี...” โอลิเวอร์ทวนชื่อหญิงสาว เขานิ่วหน้าแปลกใจ “เธอไม่ได้ชื่อสิตาภาเหรอ แล้วสามีของเธอคือใคร”
เขาไม่คิดว่าตัวเองจะจำคนผิด รูปร่างหน้าตาแบบนั้น อยู่ในใจเขามาตลอดห้าปี จะไม่ใช่สิตาภาได้อย่างไร
“คุณวาสินีเธอเป็นม่ายครับ ไม่มีใครรู้ว่าพ่อของน้องเอื้อเป็นใคร เธอไม่เคยพูดถึง ดูเหมือนตอนนี้คุณโจนาธานตามขายขนมจีบอยู่ครับ ผมต้องรีบไปก่อนครับเดี๋ยวส่งของไม่ทัน” พนักงานชายเผลอเล่าเรื่องของนายจ้างไป กว่าจะรู้ตัวก็เล่าจนหมดพุง จึงรีบเผ่นไปก่อนจะถูกเพ่งเล็ง
โอลิเวอร์กุมคางอย่างครุ่นคิด ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อสิ่งนี้วาบเข้ามาในหัว
“สิตาภาอาจเปลี่ยนชื่อเป็นวาสินีเพื่อหลบหนีคดียิงพี่เอริก ส่วนเด็กนั่นก็เป็น...”
ชายหนุ่มใจเต้นรัว ใบหน้าน้อยๆ ปรากฏในมโนนึก เขาแย้มริมฝีปากกว้างรีบวิ่งไปยังทิศทางของบ้านพักของหญิงสาวทันที...
เขาจะไม่มีวันปล่อยเธอไปอีกแล้ว ไม่มีวัน !
โอลิเวอร์เดินมาตามทางเดินไปยังบ้านพักของผู้บริหารของรีสอร์ตตามคำบอกของพนักงานชายคนนั้น เขาเปิดรอยยิ้มเมื่อเห็นบ้านสองชั้นหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ในรั้วไม้ ตัวบ้านเป็นไม้กึ่งปูนสร้างตามแบบคล้ายวิลล่าในรีสอร์ต แต่มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า รอบบ้านประดับตกแต่งด้วยต้นไม้ดอกไม้ให้ความร่มรื่นเย็นสบาย มีสนามหญ้าเล็กๆ อยู่ด้านหน้าวางซุ้มชิงช้าเป็นที่นั่งเล่น เขาเห็นเด็กชายคนเมื่อครู่กำลังนั่งเล่นอยู่บนสนามหญ้าโดยไร้เงาคนเป็นแม่ ชายหนุ่มหยุดนิ่งมองใบหน้าเล็กๆ นั้นอย่างพินิจ แม้หัวใจจะเชื่อเกินครึ่งว่าเด็กน้อยคือลูกชายของเขากับสิตาภาแต่ก็อดจ้องหน้าแกไม่ได้
เด็กชายกะพริบตาปริบๆ ดวงตาสีฟ้าสวยจ้องชายร่างสูงสีตาแบบเดียวกันอย่างไร้เดียงสา ริมฝีปากแดงแย้มน้อยๆ เมื่อเห็นรอยยิ้มของคนที่แกจ้องอยู่ รู้สึกถูกชะตากับผู้ชายตรงหน้าราวกับคุ้นเคยกันมานาน อาจเป็นเพราะเขามีดวงตาสีฟ้าสดแบบเดียวกับตน เจ้าตัววางรถเด็กเล่นลงแล้วลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินมาหาคนที่ยืนนิ่งอยู่นอกรั้วบ้าน
“มาหาใครครับ”
สำเนียงภาษาอังกฤษค่อนข้างชัด เอ่ยถามผู้มาเยือนออกไป ด้วยคิดว่าควรสื่อสารกับฝรั่งตัวโตคนนี้ด้วยภาษาอังกฤษตามที่มารดาสอน เพราะลูกค้าของรีสอร์ตล้วนแต่เป็นชาวต่างชาติ บวกกับเจ้าตัวเรียนโรงเรียนนานาชาติจึงถนัดภาษานี้
โอลิเวอร์ใจเต้นแรง เขามองหน้าของเด็กชายด้วยแววตาอ่อนโยน “หนูชื่ออะไรครับ เป็นลูกของใคร” เขาถามเด็กน้อยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
น้องเอื้อมองหน้าคนถาม คิ้วน้อยๆ หู่นิดๆ อย่างเจ้าสงสัย แต่ก็ยอมตอบคำถามคนแปลกหน้าโดยดี
“ผมชื่อเอื้อครับ เป็นลูกแม่สินี” เด็กชายมองหน้าของผู้มาเยือนด้วยแววตาเศร้านิดๆ ก่อนจะพูดต่อ “คุณพ่อชื่อโอลิเวอร์ครับ ตอนนี้พ่อผมไม่อยู่ แม่บอกว่าพ่อไปทำงานไกลยังกลับมาหาผมกับแม่ไม่ได้”
ท่าทางของเด็กน้อยซ่อนรอยหม่นซึมไม่มิด ใบหน้ากลมป้อมหมองลงเมื่อเอ่ยถึงบิดาที่แกไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จักตัวตนมากกว่าชื่อที่ผู้เป็นแม่ยอมบอกให้รู้ แม้จะได้รับความรักเต็มที่แต่ไม่เต็มเปี่ยมในหัวใจ น้องเอื้อยังปรารถนาอ้อมกอดของบิดาอยู่ทุกวัน แต่เจ้าตัวไม่รู้จะบอกกับมารดาอย่างไร เมื่อเอ่ยถามถึงผู้เป็นพ่อครั้งใด มารดาจะนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะบอกด้วยประโยคเดิมๆ ว่า
“คุณพ่อของน้องเอื้อทำงานอยู่ต่างประเทศ ไกลมากๆ คุณพ่อต้องทำงานหาเงินส่งมาให้เราสองแม่ลูกยังไงล่ะครับ ถ้าน้องเอื้อรักคุณพ่อ น้องเอื้อต้องเป็นเด็กดีไม่ดื้อไม่ซนตั้งใจเรียน แล้ววันหนึ่งแม่จะพาไปหาคุณพ่อนะครับ”
เด็กชายรอแล้วรอเล่าแม่ก็ไม่พาไปหาพ่อสักที และยิ่งมีเพื่อนแม่อย่างลุงโจนาธานมาทำตัวสนิทสนมกับเขาและแม่ น้องเอื้อยิ่งไม่ชอบใจรู้สึกหวงแม่แทนพ่อที่อยู่ไกล จนต้องหาเรื่องแกล้งลุงตัวโตขี้หลีนี่ทุกครั้ง ไม่ว่าจะแกล้งทำน้ำหวานหกใส่ แกล้งเอาหมากฝรั่งไปใส่ในรองเท้า หรือแม้แต่แกล้งวางหมุดแหลมไว้ที่โซฟาให้ทิ่มก้นคนนั่ง สารพัดอย่างที่เด็กน้อยคิดได้ ทำเอาคนเป็นแม่ต้องกุมขมับและคาดโทษจนเต็มหน้ากระดาษ ถึงจะโกรธมากแค่ไหนแม่ของเขาก็ไม่เคยตีสักแปะ น้องเอื้อเลยได้ใจหาเรื่องแกล้งเพื่อนชายของแม่อยู่เรื่อยๆ
“ขอบคุณสำหรับความรักที่มอบให้สิตา”เธอฝืนยิ้มทั้งที่รู้สึกรวดร้าว หัวใจทำไมถึงเจ็บปวดแบบนี้ มันเร็วไปไหมกับการรู้สึกแบบนี้กับเขา หรือที่เคยได้ยินว่ารักไม่ต้องการเวลามันคือเรื่องจริง “ผมขอโทษ ขอโทษที่เคยทำร้ายคุณ” เขากล่าวคำที่อยากบอกเธอมานานหลายปีออกมาวาสินีพยักหน้าช้าๆ “มันผ่านไปแล้วค่ะ สิตาก็ทำผิดไว้กับคุณและครอบครัวของคุณมากมาย ถือว่าชดใช้ให้กันนะคะ” เธอยิ้มให้เขาโอลิเวอร์นิ่งงันกับคำตอบของเธอ ดวงตาคมมองใบหน้างามของเธอนิ่ง ในหัวนึกถึงเรื่องของสิตาภาในอดีต หญิงสาวเคยทำร้ายเขาและพี่ชายไว้ร้ายแรงนัก หลอกลวง ปั้นหน้า สร้างเรื่องโกหกสารพัด จนถึงขั้นยิงเอริกจนปางตายเธอก็ทำมาแล้ว หัวใจของเขาเจ็บปวดกับการกระทำของเธอจนแทบขาดใจตาย และกลั่นความรู้สึกเจ็บแค้นมาทำร้ายเธอในภายหลัง วูบแรกที่เจอเธอมันทั้งดีใจและปวดใจในคราเดียวกัน ทั้งรักทั้งแค้นแต่ก็ไม่อาจปล่อยเธอไป“เราจะเริ่มต้นกันใหม่นะ ให้โอกาสผมนะสินี”โอลิเวอร์ยิ้มให้เธอ ก่อนจะก้มลงมาประทับจุมพิตบนริมฝีปากอิ่มสีกุหลาบแล้วแทรกปลายลิ้นร้อนเข้าไปควานหาความหวานฉ่ำอย่างโหยหา เมื่อคืนเขาทนทรมานตัวเองนอนหันหลังให้เธอตลอดทั้งคืนไม่ใช่เพราะเขาโกร
หญิงสาวถอนความคิดออกจากภวังค์ แล้วรามือจากการคนเมื่อเห็นข้าวสุกจนได้ที่ โอลิเวอร์อาสาช่วยยกหม้อลงจากเตา เขาตามติดเป็นเงามานั่งข้างๆ ตอนเธอทำอาหารอย่างอื่น ทำตัวน่ารักสงบเสงี่ยมนั่งมองเธอทำนู่นนี่ด้วยความเพลิดเพลิน ไม่อาสาช่วยเพราะเธอเคยห้ามเขาไว้เมื่อวานเย็น เมื่อปรุงอาหารเสร็จก็ช่วยกันยกมาวางที่โต๊ะหน้ากระท่อมโอลิเวอร์ มองหญิงสาวช่วยคนข้าวต้มในถ้วยของเขาให้คลายร้อน เธอตักไข่เจียวใส่ให้เขา ก่อนจะส่งถ้วยที่ข้าวเริ่มเย็นให้“ค่อยๆ ทานนะคะ มันยังร้อน” วาสินีส่งข้าวต้มให้เขา ก่อนจะตักของตัวเองบ้าง“ของคุณก็ร้อน ระวังลวกปากนะ” เขาบอกอย่างห่วงใยวาสินียิ้มละมุน “ขอบคุณค่ะ” เธอตักข้าวต้มในถ้วยของตัวเองมาเป่าแรงๆ ก่อนจะเอาเข้าปาก“ไข่เจียวอร่อยดี แต่ยำกุ้งแห้งก็น่าอร่อย” เขายื่นมือไปหมายจะตัก แต่วาสินีจับมือเขาไว้ก่อน“เดี๋ยวสินีตักให้ค่ะ มันมีพริก ต้องเขี่ยออกก่อน” เธอใช้ช้อนเขี่ยพริกขี้หนูซอยไปวางข้างขอบจาน เลือกตักแต่กุ้งให้เขาแทน “เห็นเม็ดเล็กๆ แบบนี้เผ็ดจนปากพองเลยนะคะ ปกติถ้าสินีทำทานเองจะชอบตำให้ละเอียดเผ็ดถึงใจดี”โอลิเวอร์ยิ้มขอบคุณตั้งหน้าตั้งตารับประทานอาหารด้วยความเอร็ดอร่อย รู้ส
พระอาทิตย์ทอแสงแรกแห่งวันสาดส่องผืนน้ำสีคราม สายลมอ่อนๆ พัดโชยหอบเอาไอทะเลเย็นฉ่ำกระจายไปทั่วบรรยากาศในยามเช้าบนเกาะดาวเคียงเดือนแสนสดชื่น ผืนป่าเขียวขจีอุดมสมบูรณ์ด้วยต้นไม้ใบหญ้าดั่งมรกตกลางทะเล เหล่านกกาพากันออกหากินต่างโบยบินกระพือปีกส่งเสียงดังไปทั่วเกาะแห่งนี้ ในกระท่อมหลังน้อยอันเป็นที่พักของคู่แต่งงานใหม่ สองหนุ่มสาวนอนหันหลังให้กันมือสองข้างยังถูกพันธนาการด้วยปลอกข้อมือร้อยโซ่ทองเหลือง เป็นตรวนแห่งการพิสูจน์รักแท้ตามธรรมเนียมปฏิบัติของชาวเกาะล้อมรัก ให้คู่แต่งงานใหม่ได้เรียนรู้กันและกัน ทว่าแค่วันเดียวบ่าวสาวชาวเมืองก็พากันแตกคอนอนหันหลังให้กันเสียแล้วฝ่ายหญิงลืมตาตื่นขึ้นก่อนขยับลุกขึ้นนั่งมองคนที่นอนหลับตาหันหลังให้เธอ ใบหน้าหล่อเหลานิ่งสงบอยู่ในห้วงนิทราดูละม้ายคล้ายลูกชายตัวน้อย ต่างจากยามตื่นที่มักทำให้คนถูกมองรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ มือบางยื่นไปแตะแก้มสากคายที่มีตอหนวดขึ้นเขียวครึ้มแผ่วเบา ใจคนมองอ่อนยวบลงด้วยความรู้สึกวูบไหว ดวงตาคู่สวยจ้องมองเขานิ่งอยู่แบบนั้นขณะสมองคิดทบทวนถึงเหตุการณ์ตั้งแต่แรกพบจวบจนถึงตอนนี้ เวลาแค่สองวันกลับเปลี่ยนชะชีวิตของเธอให้ตกอยู่ใต้เงื้อมมือของ
“หยุดพูดเลยนะ” เธอสะบัดเสียงใส่อย่างลืมตัว ก่อนจะลดเสียงลงเมื่อเห็นผู้ใหญ่สองคนหันมามอง “ฉันเกลียดผู้ชายอย่างคุณที่สุด ปากร้าย ปากเสีย ชอบใช่ไหมพูดจิกกัดคนอื่นเนี่ย”“เห้อ คนอะไร ไม่ยอมรับความจริงแล้วยังพาลเหมือนหมาบ้าอีก”โจนาธานหัวเราะหึหึ ไม่ได้สะดุ้งสะเทือนกับคำด่าของเธอสักนิด เขาขยับเข้ามาใกล้คนขี้โมโหจงใจเบียดร่างหนากับร่างบางจนแทบจะเกยกัน“เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ ลองคบกับผมดูไหมล่ะ ถ้าไม่รักไม่หลงผมในสามวัน ยินดีให้ถีบหัวส่งโดยไม่คิดค่าเสียหาย” “บ้า ! ฝันไปเถอะย่ะ ชาติหน้าตอนบ่ายแก่ๆ ฉันยังไม่แลตามองคุณ ไปศัลยกรรมให้หล่อเท่าพี่โอลิเวอร์แล้วหาเงินให้รวยๆ เท่าเขาก่อน แล้วค่อยมาเสนอตัวเป็นแฟนฉัน” เธอตอกกลับเขาแบบไม่ไว้หน้า“แหม ถึงผมจะไม่รวยเท่าเขา แต่ก็เลี้ยงดูคุณไม่ให้อดตายได้หรอกน่า” โจนาธานยังยิ้มได้ แม้จะโดนเปรียบเทียบแบบนั้น “และถึงผมจะไม่หล่อในสายตาคุณ แต่ผมเชื่อว่าผมทำให้คุณร้องครางใต้ร่างผมจนลืมผู้ชายคนนั้นได้ก็แล้วกัน”“คุณ! คุณมันไอ้ทุเรศ” มิเชลแทบกรีดร้องออกมาด้วยความคับแค้นใจเธอไม่น่าปล่อยให้เขามีโอกาสได้พูดจาร้ายกาจแบบนี้ นึกเจ็บใจตัวเองที่เสียท่าถูกเขามอมเมาด้วยเส
“ตอนนี้แยกไม่ได้ สักวันพอตาเอื้อโตรู้ความ คงเลือกอยู่กับเราเองค่ะ แกคงไม่อยู่กับแม่ที่เคยทำร้ายพ่อกับลุงของแกหรอก วันหนึ่งฉันจะบอกหลานเรื่องนี้” คุณอโณมาไม่ยอมแพ้“อย่าพูดเรื่องนี้กับหลานเด็ดขาด” คุณโรเบิร์ตเสียงเข้มขึ้น มองภรรยาด้วยแววตาคมดุ“ผมไม่อยากให้หลานของเรา รับรู้เรื่องไม่ดีในอดีตของพ่อแม่ ถ้าแกรู้ว่าตัวแกเกิดมาจากการข่มขืน คุณคิดดูว่ามันจะเป็นปมด้อยในใจแกแค่ไหน สิตาภาอาจจะเคยทำผิดจริง แต่โอลิเวอร์ก็ทำร้ายสิตาภาไม่น้อยกว่ากัน อย่ามองความผิดของคนอื่นเท่าภูเขาแล้วมองความผิดของลูกชายเราเท่าเม็ดฝุ่นสิคุณ”คุณโรเบิร์ตเตือนสติภรรยา ไม่ให้เอาอคติความเกลียดชังมารดาหลานชายมาสร้างรอยแผลเป็นในใจให้หลาน“คุณคิดเหรอว่าผู้หญิงลักเพศอย่างนั้นจะกลับใจได้ ฉันรู้นะว่าตาโอลิเวอร์คงไปบังคับหรือยื่นข้อเสนออะไรบางอย่างกับสิตา ไม่อย่างนั้นเลสเบี้ยนหรือจะยอมแต่งงานกับผู้ชาย” คุณอโณมาหาเรื่องมาโต้แย้งสามี“คุณจะตัดสินคนจากอดีตสิ ตอนนี้สิตาภาอาจเปลี่ยนไปแล้วก็ได้” คุณโรเบิร์ตถอนหายใจ เหนื่อยหน่ายกับความอคติของภรรยา “ให้โอกาสสิตาภาบ้าง ถ้าไม่เห็นแก่ใครก็เห็นแก่หลานเราบ้าง อย่าปิดตาปิดใจไม่ยอมรับเพราะคว
“มิเชลมีงานค้างอยู่ค่ะ อยากรีบไปสะสาง” มิเชลหาเหตุผลมาอ้างเธอเกรงใจผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่อยากอยู่ต่อเพราะไม่ต้องการเผชิญหน้ากับโจนาธานอีก แค่ถูกเขารังแกจนแทบเสียเนื้อเสียตัวก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เธอไม่ชอบโกหกแต่ก็ไม่กล้าบอกความจริงเรื่องนี้ให้ใครรู้ ได้แต่หาทางหลบไปให้พ้นจากสถานการณ์อึดอัดนี้ก่อนคุณอโณมาส่ายหน้าไม่ยอม “ไม่เอาๆ ป้าไม่ให้หนูกลับ งานทางโน้นให้มาคัสดูแลก็ได้ อีกสองสามวันเอริกก็กลับแล้ว ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอก ถ้าหนูยังไม่วางใจก็โทรสั่งงานมาคัสไว้สิ” ท่านหาทางออกให้“ป้าเขาไม่ค่อยแข็งแรง หนูช่วยเป็นเพื่อนป้าเขาหน่อยนะมิเชล ลุงเองก็ต้องช่วยป้าเขาดูแลเจ้าตัวเล็กนี่ด้วย”คุณโรเบิร์ตช่วยภรรยาเกลี้ยกล่อมมิเชลอีกแรง ท่านเห็นแววตาของหญิงสาวก็รู้ว่ามีความอึดอัดใจบางอย่างซ่อนอยู่ และรู้ดีว่าทำไมมิเชลถึงได้คิดอยากกลับ ผู้สูงวัยกว่าลอบยิ้มเมื่อนึกถึงภาพที่ท่านเห็นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนบางทีพรหมลิขิตกำลังเล่นกลกับมิเชลอยู่ คู่แท้ของเธอคงไม่ใช่โอลิเวอร์ลูกชายของท่านแต่เป็นชายหนุ่มเจ้าของเกาะแห่งนี้ก็ได้ ท่านจะขอเป็นกามเทพจับคู่สองหนุ่มสาวแข่งกับภรรยาดูสักหน คุณอโณมาอาจจะผิดหวังบ้างที่







