LOGIN“นี่พี่วิน เอิงเอยเท่มากเลยอะ เป็นนักออกแบบตั้งแต่อายุยังน้อย แถมตอนนี้ก็มีรายได้จากการออกแบบ แบบไม่ต้องพึ่งพ่อแม่เลยนะ” ผมนั่งฟังน้องสาวพูดถึงเอิงเอยเพื่อนของเธอมาตลอดการเดินทาง
กระเพราพูดเก่งเป็นพิเศษแถมดูชื่นชอบเอิงเอยคนนี้เป็นอย่างมากเลยนะ แน่ละ ก็น่ารักขนาดนั้นเป็นใครก็ต้องชอบทั้งนั้น แต่ผมขอบายนะ เพื่อนน้องสาวผมไม่อยากยุ่งหรอก
“เพรารู้มาว่า เธอเป็นลูกสาวของนักธุรกิจระดับโลกสองคน รู้สึกจะชื่อคุณบาสเตียน กับคุณเค้ก คือรวยเวอร์ แต่เอิงเอยก็ไม่ขอเงินพ่อแม่มานะ เธอสอบชิงทุนมาได้ เก่งใช่ไหมล่ะเพื่อนเพราคนนี้”
เอิงเอยคงเป็นเพื่อนคนแรกของกระเพราที่เธอพูดถึงไม่หยุดหยอนขนาดนี้ พูดซะตอนนี้ผมแทบจะท่องประวัติของเอิงเอยได้แล้วนะเนี่ย แต่ก็ดีเพราะผมก็ฟังได้ทั้งวันไม่เบื่อ
“เธอก็หัดทำให้ได้อย่างเขามั่ง ไม่ใช่วันๆ โพสแต่รูปลงโซเชี่ยล รีวิวสินค้าเรื่อยเปื่อย”
“แหม่พี่วิน ก็เพราถนัดด้านนี้ แต่ที่เลือกเรียนคณะนี้เพราะเพราอยากช่วยงานพี่วินในอนาคต” กาวินยกมือหนาขึ้นวางทับบนศรีษะเล็กของน้องสาวอย่างเอ็นดูพร้อมกับโปรยยิ้มอ่อนโยนออกมา ยิ้มแบบนี้ถ้าไม่ใช่น้องสาวกับเรื่องงานก็ไม่มีใครได้เห็นหรอก
“พี่จะไปกองถ่าย มีถ่ายหนังเธอจะไปกับพี่ไหม หรือจะให้พี่ไปส่งที่คอนโดก่อน”
“อยู่คอนโดก็เบื่อๆ ช่วงนี้เอิงเอยต้องเร่งส่งงานลูกค้าด้วยคงไม่ว่างเมาส์กับเพรา งั้นเพราขอไปดูพี่วินทำงานได้ไหมอ่า” เธอส่งสายตาออดอ้อนพี่ชายสุดที่รัก แต่สายตานั้นไม่ได้ทำอะไรกาวินได้นอกจากคำพูดของเธอที่พูดถึงเอิงเอย
“เธอพูดอย่างกับเพื่อนเธออยู่ใกล้ๆ อย่างนั้นแหละ” กาวินลองพูดหยังเชิง เพราะคำพูดของกระเพรามันคล้ายกับว่าเอิงเอยอยู่ไม่ไกลมากนัก
“อืม เอิงเอยอยู่คอนโดเดียวกันกับเราอะพี่วิน และแบบมันยิ่งบังเอิญกว่านั้นตรงที่ห้องฝั่งตรงข้ามเราอ่ะ แดดดี้ของเอิงเอยซื้อไว้ให้ มันบังเอิญมาเลยเนอะ”
น้ำเสียงใสซื่อบริสุทธิ์ของกระเพราเปล่งออกมาอย่างไร้เดียงสาโดยไม่รู้ว่านั่นเป็นการชี้โพรงให้กระรอก
“เหรอ” น้ำเสียงราบเรียบของกาวินไม่ได้ทำให้กระเพรานึกสงสัยอะไรขึ้นมาบ้างเลย กาวินยกยิ้มร้ายมุมปากขณะที่ดวงหน้ายังคงตั้งตรงมองท้องถนนตรงหน้าอย่างไม่มีพิรุจน์
เมื่อรู้ว่าเอิงเอยอยู่ใกล้แค่ปลายจมูกจิตใจที่เคยกระวนกระวายก็รู้สึกชื้นขึ้นมา
@กองถ่าย
“คุณกาวิน เดี๋ยวเชิญแต่งตัวได้เลยนะคะ น้องกระเพรามาเฝ้าพี่ชายเหรอคะ เชิญนั่งก่อนนะ ทำตัวตามสบายค่ะ” หนึ่งในทีมงานเดินเข้ามาทักทายทั้งคู่ตามปกติ
โดยปกติแล้วหากไม่มีอะไร กาวินจะพากระเพรามากองถ่ายด้วยบ่อยๆ และหากไม่มีเหตุจำเป็นอะไรกาวินจะไม่เคยนอนที่กองถ่ายเลยสักครั้ง เพราะเป็นห่วงน้องสาวเขาจึงเลือกเดินทางไกลไปกลับ ดีกว่าปล่อยให้น้องต้องอยู่คนเดียว
[ถาปัตย์ ขั้นเทพ]
มาร์ติน : ทำอะไรกันอยู่ทุกคน
มาร์แชล : นั่งอยู่ข้างมึงนี่ไง
มาร์ติน : กูหมายถึงคนอื่นแมะ
เกรย์ : เล่นกีต้าร์อยู่
กระเพรา : เกรย์เล่นกีตาร์เป็นด้วยหรอ
เกรย์ : ก็ เล่นได้นิดหน่อย
กระเพรา : ไว้มาเล่นให้เราฟังบ้างซิ
เกรย์ : ถ้าว่างนะ
มาร์แชล : เอิงเอยไปไหนอะ
มาร์ติน : นั่นดิ
เอิงเอย : ออกแบบอยู่อ่ะ เร่งส่งงานให้ลูกค้า
หลังจากที่ไลน์คุยกับเพื่อนๆ ในกลุ่ม กระเพราก็กดเลื่อนดูรูปภาพในสมาร์ทโฟนเครื่องหรูไปมาจนมาหยุดอยู่ที่รูปภาพของเกรย์กับเอิงเอยที่เธอแอบถ่ายไว้ตอนเล่นกิจกรรม
กระเพราซูมดูรูปนั่นอย่างพินิจพิจารณาก่อนที่จะปิดหน้าจอมือถือลง “ทำไมหัวใจเต้นแรงกับเกรย์นะ” มือเล็กยกขึ้นกอบกุมหัวใจข้างซ้าย เธอไม่อยากเชื่อว่าเธอจะมีความรู้สึกดีๆ ให้กับเกรย์ หรือบางทีอาจจะไม่ใช่ เธออาจจะแค่วูบไหวเพราะไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายมาก่อน
“ทำอะไรอยู่ เบื่อแล้วเหรอ พี่ถ่ายอีกแค่สองฉากก็เสร็จแล้วรอแป๊ปหนึ่งนะ” กาวินเดินเข้ามาดูน้องสาวหลังจากปล่อยให้เธออยู่คนเดียวราวสี่ชั่วโมง
“เย้ๆ พี่วินไปกินติมกันไหม” ด้วยความที่อยู่ด้วยกันสองคนพี่น้องมาตั้งแต่เด็กทำให้กาวิน และกระเพราสนิทกันมาก กาวินดูแลกระเพรามาเป็นอย่างดี เขาเป็นทั้งพี่ และผู้ปกครองของเธอได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
“ถ้าพี่วินเหนื่อยเราแวะซื้อแล้วกลับไปกินที่คอนโดก็ได้”
“พรุ่งนี้ได้ไหม วันนี้พี่เหนื่อย”
“อ้าวหรอ ก็ได้ค่ะ เพราว่าจะซื้อฝากเอิงเอยด้วย เอิงเอยชอบกินไอติม เห็นว่าช่วงนี้เร่งปั่นงานให้ลูกค้า ไม่รู้ได้กินอะไรบ้างหรือยัง แต่ค่อยซื้อวันอื่นก็ได้ค่ะ”
“ถ้าเจอพี่จะจอดให้ละกัน เร็วๆ หน่อยละ พี่เหนื่อย”
“เย้ พี่วินใจดีที่สุด”
@คอนโดหรูใจกลางเมือง
“พี่วินไปพักเถอะ เดี๋ยวเพราเอาไอติมไปให้เอิงเอยก่อน” กาวินเพียงแค่พยักหน้ารับไม่ได้ว่าอะไร แอบสร้างความประหลาดใจให้กับกระเพราไม่น้อย เมื่อก่อนเคยมีเพื่อนเธอคนหนึ่ง ที่เธอก็สปอยเพื่อนแบบนี้ แต่กาวินกลับไม่ชอบ เขาให้เหตุผลว่าเพื่อนเธอพยายามเข้าหาเขามากจนเกินไป
แต่เอิงเอยไม่แม้แต่จะสนใจพี่ชายเขาด้วยซ้ำอีกทั้งยังไม่เคยรู้ว่ากาวินเป็นพี่ชายของกระเพราอีกต่างหาก กระเพราเคยลองเชิงด้วยการเอารูปกาวินให้เอิงเอยดู แต่เอิงเอยกลับมีท่าทีไม่สนใจ เธอสนใจสิ่งปลูกสร้างงานออกแบบมากกว่าดาราฮอลลีวูดเสียอีก
“ทำไมพี่วินดูแปลกๆ”
“แปลกยังไง อย่าให้เพื่อนเธอมาวุ่นวายกับพี่ก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่ไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้นนะ” กาวิน ยังไงก็ยังคงเป็นกาวินเช่นเดิม กระเพราคิดว่ากาวินแอบสนใจเพื่อนเธอเสียอีก
“เพรารับรองได้ว่าเพื่อนเพราคนนี้ไม่หลงความหล่อของพี่วินหรอก เพราคอนเฟิร์ม”
“หึ อะไรทำให้เธอมั่นใจขนาดนั้น”
“เพราเคยลองเชิงมาแล้ว ไม่ใช่แค่พี่วินนะ ไม่ว่าจะดาราคนไหน เอิงเอยก็ไม่เห็นสนใจสักคน แต่ลองถามเรื่องสิ่งปลูกสร้าง สถาปัตยกรรม ซิ เอิงเอยสามารถอยู่กับมันได้เป็นวันๆ เลยนะ”
“ขอให้มันจริงอย่างที่เธอว่าละกัน เพื่อนเธอกี่คนๆ แรกๆ ก็มาแนวนี้ทั้งนั้น สุดท้ายก็หวังใช้เธอเป็นสะพานมาหาพี่จนได้”
“แต่คนนี้เพราคอนเฟิร์มจริงๆ นะ ว่าแต่พี่วินแหละอย่ามาหลงเสน่ห์เพื่อนเพราละกัน เพราไม่อยากเห็นซุปตาร์ คลั่งรัก นะคะ”
“หึ มันไม่มีวันนั้นหรอก” กาวินเค้นเสียหัวเราะออกมาจากลำคออย่างเย้ยหยัน เขาไม่มีวันรักใครได้หรอก และไม่เคยคิดที่จะรักใครด้วย อารมย์ที่มีต่อเอิงเอยคงเป็นเพียงแค่ความเอ็นดูที่มีให้อย่างน้องสาวเท่านั้น
หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่อรู้สึกถึงของเหลวอุ่นพุ่งเข้ามาในโพรงสาว กาวินยังคงขยับเข้าออกอีกสองสามครั้งเพื่อรีดน้ำรักที่ยังคงคั่งค้างออกให้หมด"พะ ... พี่วิน ปล่อยใน""ใช่" นะ หน้ามึนเกินไปแล้ว"พี่วินปล่อยในทำไม""ทำไม ?" ทำไมเขาจะปล่อยในไม่ได้ในเมื่อเอิงเอยเป็นเมียเขาแล้ว และหากเกิดมีเจ้าตัวเล็กขึ้นมาเขาก็พร้อมจะดูแลทั้งแม่ทั้งลูก"ทะ ทำไมพี่วินไม่ป้องกัน ... ฮึ่ก ..." ถะ ถ้าเกิดพลาดแล้วแดดดี้บาสเตียนรู้ขึ้นมาจะทำยังไง"แล้วทำไมพี่วินต้องป้องกัน หรือต่อให้มีถุงยางพี่วินก็จะสด" เห็นแก่ตัวที่สุด"อะ ... ออกไป""กลัวท้องรึไง""... ฮึ่ก ... ใช่ เอยกลัวท้อง เอยยังไม่พร้อม ได้ยินไหม เอยยังไม่พร้อม ... ฮื้อ ..."หัวใจแกร่งกระตุกวูบเมื่อเมียหมาดๆ ตะโกนก้องแสกหน้า เหมือนถูกตบหน้ากลางสี่แยกเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเอง แต่นั้นไม่ได้ทำให้กาวินสำนึกผิดขึ้นเลยในเมื่อเขาพร้อมที่จะดูแลเอิงเอยอยู่แล้วกาวินค่อยๆ ถอดแก่นกายใหญ่ออกจากช่องทางรักคับแคบ ทำให้มีน้ำรักปนเลือดบริสุทธิ์ไหลย้อนออกมาจากโพรงสาว เนื้อตัวของเอิงเอยตอนนี้
"ฮึ่ก ... อะ ... เอามันออกไป ละ ... แล้วออกไปจากห้องเอยด้วย ... ฮึ่ก ..." เอิงเอยดีดดิ้นอยู่ใต้ร่างของกาวินขณะที่แก่นกายใหญ่ยังคงอยู่ในกายเธอ น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลออกมาหยดแล้วหยดเล่า"พี่วินจะนอนที่นี่" บะ บ้าไปแล้วจะมานอนทีี่นี่ได้ยังไง"พะ ... พี่วิน ไม่มีสิทธิ์ ... ฮึ่ก ... นะ" เอิงเอยสะอื้นไห้ไม่คาดคิดว่าจะเสียพรหมจรรย์ที่รักษามาตลอดยี่สิบปี ให้กับกาวิน"พี่วินจะรับผิดชอบน้องเอยเอง" มือหนาลูบไล้ใบหน้าหวานนวลเนียนอย่างหลงไหล"มะ ... ไม่ต้อง ... เอยไม่ต้องการ" เธอปัดมืิอเขาออกอย่างไม่ใยดี หัวใจแกร่งกระตุกวูบที่ถูกคนใต้ร่างปฎิเสธความรับผิดชอบ ถ้าเป็นคนอื่นคงจะเรียกร้องให้เขารีบรับผิดชอบเลยด้วยซ้ำ"อะไรวะ ได้กันแล้วจะทิ้งงั้นหรอ" กาวินพูดออกมาด้วยอารมย์เกรี้ยวกราด ผู้หญิงอะไรไม่หวงแหนพรหมจรรย์เลยหรือยังไง"อะ ... เอามันออกไป" มือเล็กดันแผงอกแกร่งของคนตรงหน้า แต่ด้วยเรี่ยวแรงที่เสียไปมันไม่ได้ทำให้กาวินรู้สึกเลยสักนิด"งั้นก็รับผิดชอบฉันมา" เดี๋ยวนะ ทำไมฉันต้องรับผิดชอบตานี่ด้วย"ไม่!! ออกไป""ไม่ไป""ออกไปจากห้อ
กาวินไล่ประทับสัมผัสทิ้งรอยกุหลาบไว้ทั่วร่างกายของสาวน้อยตรงหน้า เลื่อนริมฝีปากร้อนผ่าวลงไปยังใจกลางความเป็นสาว ประทับฝีปากกับกลีบกุหลาบอวบนูนแผ่วเบา ส่งปลายลิ้นเลื่อนขึ้นลงตามรอยแยกของกลีบดอกไม้งาม“อืมมม ...”“อะ ... อ๊าาาา ... พะ ... พี่ิวิน~” เอิงเอยเผลอไผลไปกับสัมผัสเร่าร้อนแต่นุ่มละมุนของกาวินเธอไม่เคยได้ลิ้มรสของความเสียวซ่านมาก่อน เธอส่งมือเล็กขยุ้มศรีษะที่กำลังขยับขึ้นลงตรงกลางหว่างขาด้วยความเสียวซ่านจนยากจะยับยั้งชั่งใจ“พะ ... พอ แล้ว พี่วิน~”"อืมมม ..." มาถึงขนาดนี้แล้วจะให้เขาพอได้อย่างไร ในเมื่อเขาตั้งใจจะกำราบเด็กดื้อให้อยู่หมัดจะได้ไม่ต้องไปโปรยเสน่ห์ให้ใครได้อีกกาวินค่อยๆ ดันนิ้วเรียวยาวเข้าออกช้าๆ ควบคู่ไปกับการใช้ปลายลิ้นสัมผัสติ่งเกสรของดอกไม้งามจนเกิดเสียงลามกดังกึงก้องไปทั่วทั้งห้องนอนหรู"อ๊าาา ... พี่วิน~""ครับ"กาวินผละใบหน้าออกจากใจกลางความเป็นสาวแต่เรียวนิ้วยังคงขยับเข้าออกอย่างเนิบนาบ กระตุ้นให้ร่างกายของเอิงเอยปลดปล่อยน้ำหล่อลื่นออกมาชโลมเรียวนิ้วจนเปียกแฉะ
กาวินไม่รอช้าก้มตัวลงอุ้มคนตัวเล็กขึ้นพาดบ่าแกร่งเดินเข้าลิฟ กดชั้นบนสุดในทันที“ปล่อยนะกาวิน ปล่อย!!”“ฉันบอกแล้วใช่ไหม ฉันโตกว่าเธอ อย่าปีนเกลียว”เพี้ยะ!!“โอ้ยยย มาตีก้นฉันทำไมเนี่ย” กาวินฟาดมือหนาลงที่บั้นท้ายกลมกลึงอย่างไม่แรงมากนักแต่ก็สร้างความเจ็บปวดให้สาวน้อยได้ไม่ยาก“ไม่ใส่อะไรเลยออกจากบ้านได้ยังไง โดนตีก้นแค่นี้อย่ามาร้องโอดครวญ”“ปล่อยนะ กาวิน ปล่อย!!”“ฉันบอกให้เรียกว่ายังไง”“กะ ก็นายยังพูดว่าฉันอยู่เลย แล้วจะให้ฉันเรียกนายแบบอื่นได้ยังไง”“อย่างนั้นเหรอ”“ปล่อยฉันนะ!!”“พี่วินแบกน้องเอยได้ทั้งคืนนะ” แม้จะอึ้งกับสรรพนามที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของกาวิน ราวกับเขาอยากจะพูดมันอยู่แล้วอย่างไรอย่างนั้นแต่ตอนนี้ฉันต้องหาทางเอาตัวรอดจากซุปตาร์ เผด็จการนี้ก่อน“พะ พี่วินปล่อยเอยก่อน เอยเวียนหัวหมดแล้ว” คงต้องลองตามน้ำไปก่อน มันอาจจะช่วยให้รอดพ้นจากเงื้อมือของเขาก็
ภาพเหตุการณ์เก่าย้อนเข้าห้วงความคิดเมื่อเห็นเข็มไมล์รถที่กาวินเป็นคนเหยีบคันเร่งด้วยความเร็ว ทำให้เนื้อตัวสาวน้อยบนหน้าตักสั่นเทิ้มน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย ดวงตาหวานสั่นระริกราวกับมันคืออดีตที่เลวร้ายของเธอ“ฮึ่ก .... พะ ... พี่วิน ... ชะ ... ช้าลงหน่อย เอยกลัว” สองมือเล็กโอบรอบลำคอหนาไว้แน่นราวกับมันเป็นที่พึงสุดท้าย แต่ด้วยอารมย์หึงหวงที่พุ่งพล่านของกาวิน เขาเองก็ไม่อาจหยุดหรือขับรถให้ช้าลงตามคำสั่งของเธอได้ทั้งสองคนอยู่ในห้วงความรู้สึกที่ต่างกัน เอิงเอยอยู่ในห่วงความรู้สึกอดีตที่เลวร้ายบนท้องถนน ส่วนกาวินอารมย์หึงหวงมันพุ่งพล่านเพราะเขาเองก็ข่มอารมย์มาตั้งแต่ต้นงานแล้วเช่นกัน จนลืมคำนึงถึงความรู้สึกของคนตัวเล็กบนหน้าตัก“ฮึ่ก ... พะ ... พี่วินเอยกลัว ...” เป็นอีกครั้งที่เอิงเอยเอ่ยคำขอจากเขาทำให้กาวินเริ่มได้สติกลับมาเมื่อเนื้อตัวของเอิงเอยสั่นเทามากจนเกินไปในขณะที่กาวินกำลังผ่อนคันเร่งลง“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!” เสียงกรี๊ดของสาวน้อยบนหน้าตักทำให้เขาต้องหยุดรถไว้ข้างทางแม้ว่าอีกหนึ่งกิโลจะถึงคอนโดอยู่แล้วก็ตาม&ldqu
“ฉันปล่อยแน่ แต่ไม่ใช่ปล่อยเธอนะ” มือหนายังคงบังคับจับมือเล็กของเอิงเอย หัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นสำเมื่อภาพหน้าจอเป็นหน้าของกาวิน อีกทั้งผู้ชายที่นั่งข้างกายเธอก็ยังเป็นกาวินผู้โด่งดังเอิงเอยพยายามขยับตัวให้กะเพรารู้ตัว และหันมาสนใจเธอ แต่!!! เพื่อนสาวของเธอตอนนี้กำลังดำดิ่งอยู่ในห้วงนิทรา มันน่าจับมาตีเสียให้เข็ดเมื่อกาวินจับสังเกตุได้จึงกระตุกมือเอิงเอยอย่างแรงก่อนเอี้ยวใบหน้าคมคายมากระซิบข้างหู “ฉันไม่อายนะถ้าจะต้องแสดงหนังสดตรงนี้ แต่นางเองหนังอย่างเธอจะทนได้ไหมนั่นมันก็อีกเรื่องหนึ่ง” น่ารังเกียจนิสัยแบบนี้มาเป็นดาราได้ยังไงวะ“ปล่อยมือฉันสักทีได้ไหม”“ถ้าฉันได้จับแล้ว ฉันไม่มีวันปล่อยมันหรอกยัยหนู” คำตอบของกาวินทำให้สาวน้อยตรงหน้าชะงักไป พวงแก้มนวลเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงลูกตำลึง หัวใจดวงน้อยกลับเต้นแรงให้กับคำพูดไม่กี่คำนี้หรอเอิงเอยเหลือบมองใบหน้าคมคายที่ตอนนี้กำลังจ้องมองภาพยนต์ที่ตัวเองแสดง แต่มือของเขากลับจับมือเธอเอาไว้แน่นราวกับว่ากลัวเธอจะหายไปไหนอย่างไรอย่างนั้น“จะเป็น







