로그인[หนึ่งสัปดาห์ต่อมา]
“คุณกาวินเอียงซ้ายหน่อยครับ ดีครับ โอเคครับ ทีนี้เปลี่ยนเป็นเอียงขวาหน่อยครับ คุณกาวิน ฮัลโหล คุณกาวิน”
“ ... ”
เสียงเรียกของตากล้องทำให้กาวินที่กำลังอยู่ในภวังค์ได้สติ เขาปรายตามองเพียงนิดเสียงอื้ออึงที่ดังอยู่ก็เงียบลง แน่ละเขาไม่ใช่แค่นักแสดงเท่านั้น แต่ยังมีหุ้นส่วนในบริษัทถึงแปดสิบเปอร์เซ็นเลยทีเดียวนี่จึงเป็นเหตุผลที่ไม่ค่อยมีใครกล้าต่อรองกับเขา
“ฉันขอพักเดี๋ยว” ว่าจบกาวินเดินออกมาจากสตูดิโอที่กำลังถ่ายทำโฆษณานาฬิกาแบรนด์หรูที่มีมูลค่าหลักล้าน
หนึ่งสัปดาห์มานี้ผมรู้สึกว่าผมติดโทรศัพท์หนักมากไม่ได้ทำอะไรหรอกนะแต่เข้าไปดูอินสตาแกรมของยัยกระเพราน้องสาวที่รัก ถ้าถามว่าส่องทำไมน่ะเหรอก็ส่องเพื่อนเธอไง เอิงเอย
ผมยังจำได้ดี ครั้งแรกที่ผมเจอเธอหัวใจของผมเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งโดยไม่ทราบสาเหตุ หัวใจของผมไม่เคยเต้นแรงกับใครเลยนะ
เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน ผมเพิ่งกลัมมาจากถ่ายงานที่อิตาลี ในสนามบินผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนเงอะง่ะอยู่ ท่าทางเธอดูน่ารักน่าทะนุถนอมผมมองเธออยู่พักใหญ่ๆ จนการ์ดที่คอยดูแลผมต้องเรียกสติ แต่ผมก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ ผมมันคนบ้างานไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนอยู่แล้วผมแค่รู้สึกว่าเธอน่าสนใจ
ผมเห็นเธอยืนดูรูปผมที่ติดอยู่ในสนามบิน “เฮ้อ ... ก็แค่คนบ้าดาราอีกแล้วซินะ” ผมไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่บ้าดาราอย่างนี้ ผู้หญิงอย่างนี้พวกเธอมักจะหาข้ออ้างเข้าหาผมจนได้แหละ ผมเจอมานักต่อนักแล้ว จนกระทั้งผมกำลังจะเดินไปตรงทางออกก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้นบ่นพึมพำ
"ในสนามบินนี่ป้ายบอกทางมันไปไหนหมด เอารูปดารามาติดอยู่ได้ หน้ารำคาญจริง" บ้าเอ้ยเธอรำคาญผม ผมก็โกรธซิครับ ผมน่ะซุปตาร์ระดับโลกเลยนะฮอลลีวูดน่ะรู้จักไหม ไม่มีใครไม่รู้จักผมหรอก ปกติสาวๆ มักจะกรี๊ดให้ผม ไม่เคยมีใครรำคาญผมสักคน
ผมเลยตั้งใจเดินชนเธอเข้าเต็มแรง ช่วยไม่ได้ อยากมารำคาญผมก่อนทำไม ถ้าทุกคนได้เห็นท่าทางเวลาเธอโกรธมันไม่ได้น่ากลัวเลยนะครับมันกลับดูน่ารักน่าเอ็นดู
ผมแอบมองเธอผ่านกระจกเงาที่สนามบินอยู่ครู่หนึ่งจนการ์ดของผมบอกว่าเธอโวยวายไม่หยุด ผมไม่ได้กลัวชื่อเสียงผมจะเสียหายหรอกครับ ตอนนี้ผมอยู่ตัวแล้วต่อให้ไม่รับงานแสดง แต่ผมก็ยังมีธุรกิจอีกสองสามอย่างที่จะเลี้ยงชีวิตผม และน้องสาวจนสบายไปทั้งชาติได้เลย
ผมนึกสนุกเห็นเธอคนนั้นกำลังโวยวาย จนผมจะเดินออกไปอยู่แล้ว อยู่ดีๆ สาวน้อยคนนั้นก็วิ่งเข้ามากระชากแขนผม เพราะอะไรน่ะเหรอครับ “ขอโทษฉันก่อน” ฮ่า ฮ่า ฮ่า มันน่าขำใช่ไหมละ
ผมแอบยิ้มอยู่ในใจก่อนตีสีหน้าเรียบหันกลับไปสะบัดแขนเธอออก แล้วเดินออกมา ยัยเด็กนั้นหน้าตาโมโหมากๆ แต่มันก็น่ารักมากๆ ไม่ได้การละ ผมต้องรู้ชื่อเธอให้ได้แล้วละ ผมหมุนตัวกลับไปแล้วถามชื่อเธอ ยิ่งเห็นใกล้ๆ ยิ่งน่ารัก เชี้ยเอ้ยทำไมน่ารักได้ขนาดนี้วะเนี่ย แต่สาวน้อยคนนี้ดื้อเหลือเกินแหะ
"ชื่ออะไร"
"ฉันต้องการคำขอโทษ ขอโทษฉันซะ ทุกอย่างก็จะจบ"
"ถ้าไม่บอกชื่อ ก็ไม่มีคำขอโทษ"
"อะ เอิงเอย"
"..."
"ฉัน-ชื่อ-เอิงเอย"
"อืม อย่าให้ฉันเจอเธออีกเป็นครั้งที่สองละกันนะ บาย เอิงเอย"
นี่แหละครับบทสนทนาระหว่างผมกับเอิงเอย และที่ผมพูดไป ผมพูดจริงนะ อย่าให้ผมได้เจอเธออีกเป็นครั้งที่สอง เพราะการได้เจอเธออีกครั้งผมก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อ แต่ตอนนี้เนี่ยหน้าเธอกลับลอยอยู่ในห้วงความคิดผมแทบจะตลอดเวลาผมเหมือนคนบ้าที่นั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว ถ้าได้เจอเธออีกครั้งก็คงจะดี
ช่วงเย็นของวันนั้น ผมจะต้องไปรับกระเพรากลับคอนโดก่อนกลับผมแวะเข้าไปทำธุระที่บริษัท ผมว่างๆ ก็เปิดอินสตาแกรมดู เลื่อนไปเรื่อยๆ จนเจอน้องสาวตัวแสบโพสรูปกับสาวน้อยน่ารักที่สนามบิน พร้อมคำบรรยายใต้ภาพ
‘เอิงเอย เพื่อนกระเพรา’
ให้ตายเถอะดังนรกชังหรือสวรรค์แกล้งเธอเป็นเพื่อนน้องสาวผม ได้ไง อย่างนี้ก็สวยซิ เอิงเอย แต่ผมก็ไม่ได้เจอเธอหรอกนะ ผมมันคนบ้างาน
แต่ไม่รู้ทำไมใบหน้าของเธอมันถึงลอยเด่นอยู่ในห้วงความคิดผมแทบจะตลอดเวลาที่ผมว่างผมแทบไม่มีสติทำงาน เย็นวันนั้นผมไปรับกระเพราที่ร้านไอศครีม ผมแอบถามน้องสาวดูว่าคนที่เธอโพสรูปคู่ด้วยใช่คนเดียวกันกับที่ผมรู้จักไหม และคำตอบก็ตรงใจผมมาก ใช่ครับเธอคือสาวน้อยที่สนามบินของผมแน่ๆ
วันต่อมาผมมาถ่ายโฆษณารองเท้าผ้าใบยี่ห้อดังแถวสวนสาธารณะมองโซในระหว่างที่พักกองผมก็ทำแบบเดิมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูปรากฎว่ามีข้อความรูปภาพจากน้องสาวของผมส่งมาให้ทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ผมกดเข้าไปดู ก็พบว่าเป็นรูปของเอิงเอยที่ขับรถมินิคูเปอร์สีน้ำเงินเข้มเปิดประทุนใส่แว่นกันแดดขับเข้ามาที่มหาลัย
เชี้ย น่ารักมาก นี่ขนาดจากระยะไกลนะ ถ้าเธอมาเป็นดาราผมว่าน่าจะต้องดังกว่าดาราฮอลลี่วูดบางคนด้วยซ้ำ แต่ที่ผมรู้สึกไม่ค่อยพอใจน่าจะเป็นชุดที่สาวเจ้าใส่มาเรียน เสื้อส่ายเดี่ยวสีดำ ที่มีแค่เสื้อยีนส์คลุมด้านนอก มันไม่ใช่ไหมอะ
ที่มหาลัยน้องสาวผมใส่ชุดอะไรไปเรียนก็ได้ไม่จำกัดมันเลยทำให้กระเพรากับเอิงเอยแต่งตัวไปเรียนแบบสบายๆ
ช่วงเย็นผมส่องอินสตาแกรมของน้องสาว หวังว่าจะได้เห็นมุมน่ารักๆ ของเอิงเอย ที่น้องสาวผมชอบแอบถ่ายเป็นประจำแต่ครั้งนี้ผมรู้สึกขัดใจยังไงไม่รู้ กระเพราลงรูปเอิงเอยกับผู้ชายคนหนึ่งในลานว่างของการเล่นกิจกรรมบางอย่าง ผมไม่พอใจจนมือลั่นเผลอไปกดอิโมจิหน้าโกรธเข้า ทำไงได้อะ ก็ไม่พอใจไปแล้ว และผมคงต้องถูกยัยกระเพราถามรัวๆ แน่นอน
ผมว่าผมเหมือนโรคจิตเข้าไปทุกที คุยกันยังไม่เกินสิบประโยคแต่กลับแอบส่องเธอได้เป็นวันๆ หรือผมจะกลายเป็นเอฟซีของเธอไปด้วยอีกคน แต่ผมไม่ได้ชอบเธอหรอกนะอย่าเพิ่งเข้าใจผมผิด เธอแค่น่าแกล้งเท่านั้น เธอเด็กกว่าผมตั้งห้าปี ผมไม่ชอบเด็กหรอก อีกอย่างเธอเป็นเพื่อนน้องสาว ก็เปรียบเสมือนน้องสาวผมนั่นแหละ
“พี่วิน”
“ … ”
“พี่วิน”
“ … ”
“พี่วิน!!”
“จะตะโกนทำไม แก้วหูจะแตก” จะใครละครับยัยกระเพราเธอมาหาผมที่ทำงานอีกแล้ว วันนี้สงสัยจะเลิกเรียนเร็วเลยแวะมาหาผมได้
“เหม่ออะไรอยู่ได้”
“เปล่า”
“แน่นะ” กระเพราถามผมอย่างจับผิด
“เออ” ผมตอบปัดๆ ไปงั้น ผมรู้เลยน้องสาวผมคนนี้ต้องมีเรื่องมาถามผมแน่ อาการแบบนี้ผมดูออก ผมเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เท้าเท่าฝาหอย จนตอนนี้หอยจะเท่าฝ่าเท้าอยู่แล้ว ทำไมจะไม่รู้
“นี่พี่วิน ทำไมต้องเมนต์อิโมจิหน้าโกรธลงไปใต้รูปภาพของเอิงเอยเพื่อนเพราด้วยล่ะ”
“มือมันไปโดนน่ะ”
“แน่ใจนะ”
“อะไรเล่า พี่ไปทำงานก่อนนะ เธอรอในนี้แหละ” ผมต้องรีบเดินออกมาก่อน ก่อนที่ยัยน้องสาวจะถามเซ้าซี่มากกว่านี้
หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่อรู้สึกถึงของเหลวอุ่นพุ่งเข้ามาในโพรงสาว กาวินยังคงขยับเข้าออกอีกสองสามครั้งเพื่อรีดน้ำรักที่ยังคงคั่งค้างออกให้หมด"พะ ... พี่วิน ปล่อยใน""ใช่" นะ หน้ามึนเกินไปแล้ว"พี่วินปล่อยในทำไม""ทำไม ?" ทำไมเขาจะปล่อยในไม่ได้ในเมื่อเอิงเอยเป็นเมียเขาแล้ว และหากเกิดมีเจ้าตัวเล็กขึ้นมาเขาก็พร้อมจะดูแลทั้งแม่ทั้งลูก"ทะ ทำไมพี่วินไม่ป้องกัน ... ฮึ่ก ..." ถะ ถ้าเกิดพลาดแล้วแดดดี้บาสเตียนรู้ขึ้นมาจะทำยังไง"แล้วทำไมพี่วินต้องป้องกัน หรือต่อให้มีถุงยางพี่วินก็จะสด" เห็นแก่ตัวที่สุด"อะ ... ออกไป""กลัวท้องรึไง""... ฮึ่ก ... ใช่ เอยกลัวท้อง เอยยังไม่พร้อม ได้ยินไหม เอยยังไม่พร้อม ... ฮื้อ ..."หัวใจแกร่งกระตุกวูบเมื่อเมียหมาดๆ ตะโกนก้องแสกหน้า เหมือนถูกตบหน้ากลางสี่แยกเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเอง แต่นั้นไม่ได้ทำให้กาวินสำนึกผิดขึ้นเลยในเมื่อเขาพร้อมที่จะดูแลเอิงเอยอยู่แล้วกาวินค่อยๆ ถอดแก่นกายใหญ่ออกจากช่องทางรักคับแคบ ทำให้มีน้ำรักปนเลือดบริสุทธิ์ไหลย้อนออกมาจากโพรงสาว เนื้อตัวของเอิงเอยตอนนี้
"ฮึ่ก ... อะ ... เอามันออกไป ละ ... แล้วออกไปจากห้องเอยด้วย ... ฮึ่ก ..." เอิงเอยดีดดิ้นอยู่ใต้ร่างของกาวินขณะที่แก่นกายใหญ่ยังคงอยู่ในกายเธอ น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลออกมาหยดแล้วหยดเล่า"พี่วินจะนอนที่นี่" บะ บ้าไปแล้วจะมานอนทีี่นี่ได้ยังไง"พะ ... พี่วิน ไม่มีสิทธิ์ ... ฮึ่ก ... นะ" เอิงเอยสะอื้นไห้ไม่คาดคิดว่าจะเสียพรหมจรรย์ที่รักษามาตลอดยี่สิบปี ให้กับกาวิน"พี่วินจะรับผิดชอบน้องเอยเอง" มือหนาลูบไล้ใบหน้าหวานนวลเนียนอย่างหลงไหล"มะ ... ไม่ต้อง ... เอยไม่ต้องการ" เธอปัดมืิอเขาออกอย่างไม่ใยดี หัวใจแกร่งกระตุกวูบที่ถูกคนใต้ร่างปฎิเสธความรับผิดชอบ ถ้าเป็นคนอื่นคงจะเรียกร้องให้เขารีบรับผิดชอบเลยด้วยซ้ำ"อะไรวะ ได้กันแล้วจะทิ้งงั้นหรอ" กาวินพูดออกมาด้วยอารมย์เกรี้ยวกราด ผู้หญิงอะไรไม่หวงแหนพรหมจรรย์เลยหรือยังไง"อะ ... เอามันออกไป" มือเล็กดันแผงอกแกร่งของคนตรงหน้า แต่ด้วยเรี่ยวแรงที่เสียไปมันไม่ได้ทำให้กาวินรู้สึกเลยสักนิด"งั้นก็รับผิดชอบฉันมา" เดี๋ยวนะ ทำไมฉันต้องรับผิดชอบตานี่ด้วย"ไม่!! ออกไป""ไม่ไป""ออกไปจากห้อ
กาวินไล่ประทับสัมผัสทิ้งรอยกุหลาบไว้ทั่วร่างกายของสาวน้อยตรงหน้า เลื่อนริมฝีปากร้อนผ่าวลงไปยังใจกลางความเป็นสาว ประทับฝีปากกับกลีบกุหลาบอวบนูนแผ่วเบา ส่งปลายลิ้นเลื่อนขึ้นลงตามรอยแยกของกลีบดอกไม้งาม“อืมมม ...”“อะ ... อ๊าาาา ... พะ ... พี่ิวิน~” เอิงเอยเผลอไผลไปกับสัมผัสเร่าร้อนแต่นุ่มละมุนของกาวินเธอไม่เคยได้ลิ้มรสของความเสียวซ่านมาก่อน เธอส่งมือเล็กขยุ้มศรีษะที่กำลังขยับขึ้นลงตรงกลางหว่างขาด้วยความเสียวซ่านจนยากจะยับยั้งชั่งใจ“พะ ... พอ แล้ว พี่วิน~”"อืมมม ..." มาถึงขนาดนี้แล้วจะให้เขาพอได้อย่างไร ในเมื่อเขาตั้งใจจะกำราบเด็กดื้อให้อยู่หมัดจะได้ไม่ต้องไปโปรยเสน่ห์ให้ใครได้อีกกาวินค่อยๆ ดันนิ้วเรียวยาวเข้าออกช้าๆ ควบคู่ไปกับการใช้ปลายลิ้นสัมผัสติ่งเกสรของดอกไม้งามจนเกิดเสียงลามกดังกึงก้องไปทั่วทั้งห้องนอนหรู"อ๊าาา ... พี่วิน~""ครับ"กาวินผละใบหน้าออกจากใจกลางความเป็นสาวแต่เรียวนิ้วยังคงขยับเข้าออกอย่างเนิบนาบ กระตุ้นให้ร่างกายของเอิงเอยปลดปล่อยน้ำหล่อลื่นออกมาชโลมเรียวนิ้วจนเปียกแฉะ
กาวินไม่รอช้าก้มตัวลงอุ้มคนตัวเล็กขึ้นพาดบ่าแกร่งเดินเข้าลิฟ กดชั้นบนสุดในทันที“ปล่อยนะกาวิน ปล่อย!!”“ฉันบอกแล้วใช่ไหม ฉันโตกว่าเธอ อย่าปีนเกลียว”เพี้ยะ!!“โอ้ยยย มาตีก้นฉันทำไมเนี่ย” กาวินฟาดมือหนาลงที่บั้นท้ายกลมกลึงอย่างไม่แรงมากนักแต่ก็สร้างความเจ็บปวดให้สาวน้อยได้ไม่ยาก“ไม่ใส่อะไรเลยออกจากบ้านได้ยังไง โดนตีก้นแค่นี้อย่ามาร้องโอดครวญ”“ปล่อยนะ กาวิน ปล่อย!!”“ฉันบอกให้เรียกว่ายังไง”“กะ ก็นายยังพูดว่าฉันอยู่เลย แล้วจะให้ฉันเรียกนายแบบอื่นได้ยังไง”“อย่างนั้นเหรอ”“ปล่อยฉันนะ!!”“พี่วินแบกน้องเอยได้ทั้งคืนนะ” แม้จะอึ้งกับสรรพนามที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของกาวิน ราวกับเขาอยากจะพูดมันอยู่แล้วอย่างไรอย่างนั้นแต่ตอนนี้ฉันต้องหาทางเอาตัวรอดจากซุปตาร์ เผด็จการนี้ก่อน“พะ พี่วินปล่อยเอยก่อน เอยเวียนหัวหมดแล้ว” คงต้องลองตามน้ำไปก่อน มันอาจจะช่วยให้รอดพ้นจากเงื้อมือของเขาก็
ภาพเหตุการณ์เก่าย้อนเข้าห้วงความคิดเมื่อเห็นเข็มไมล์รถที่กาวินเป็นคนเหยีบคันเร่งด้วยความเร็ว ทำให้เนื้อตัวสาวน้อยบนหน้าตักสั่นเทิ้มน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย ดวงตาหวานสั่นระริกราวกับมันคืออดีตที่เลวร้ายของเธอ“ฮึ่ก .... พะ ... พี่วิน ... ชะ ... ช้าลงหน่อย เอยกลัว” สองมือเล็กโอบรอบลำคอหนาไว้แน่นราวกับมันเป็นที่พึงสุดท้าย แต่ด้วยอารมย์หึงหวงที่พุ่งพล่านของกาวิน เขาเองก็ไม่อาจหยุดหรือขับรถให้ช้าลงตามคำสั่งของเธอได้ทั้งสองคนอยู่ในห้วงความรู้สึกที่ต่างกัน เอิงเอยอยู่ในห่วงความรู้สึกอดีตที่เลวร้ายบนท้องถนน ส่วนกาวินอารมย์หึงหวงมันพุ่งพล่านเพราะเขาเองก็ข่มอารมย์มาตั้งแต่ต้นงานแล้วเช่นกัน จนลืมคำนึงถึงความรู้สึกของคนตัวเล็กบนหน้าตัก“ฮึ่ก ... พะ ... พี่วินเอยกลัว ...” เป็นอีกครั้งที่เอิงเอยเอ่ยคำขอจากเขาทำให้กาวินเริ่มได้สติกลับมาเมื่อเนื้อตัวของเอิงเอยสั่นเทามากจนเกินไปในขณะที่กาวินกำลังผ่อนคันเร่งลง“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!” เสียงกรี๊ดของสาวน้อยบนหน้าตักทำให้เขาต้องหยุดรถไว้ข้างทางแม้ว่าอีกหนึ่งกิโลจะถึงคอนโดอยู่แล้วก็ตาม&ldqu
“ฉันปล่อยแน่ แต่ไม่ใช่ปล่อยเธอนะ” มือหนายังคงบังคับจับมือเล็กของเอิงเอย หัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นสำเมื่อภาพหน้าจอเป็นหน้าของกาวิน อีกทั้งผู้ชายที่นั่งข้างกายเธอก็ยังเป็นกาวินผู้โด่งดังเอิงเอยพยายามขยับตัวให้กะเพรารู้ตัว และหันมาสนใจเธอ แต่!!! เพื่อนสาวของเธอตอนนี้กำลังดำดิ่งอยู่ในห้วงนิทรา มันน่าจับมาตีเสียให้เข็ดเมื่อกาวินจับสังเกตุได้จึงกระตุกมือเอิงเอยอย่างแรงก่อนเอี้ยวใบหน้าคมคายมากระซิบข้างหู “ฉันไม่อายนะถ้าจะต้องแสดงหนังสดตรงนี้ แต่นางเองหนังอย่างเธอจะทนได้ไหมนั่นมันก็อีกเรื่องหนึ่ง” น่ารังเกียจนิสัยแบบนี้มาเป็นดาราได้ยังไงวะ“ปล่อยมือฉันสักทีได้ไหม”“ถ้าฉันได้จับแล้ว ฉันไม่มีวันปล่อยมันหรอกยัยหนู” คำตอบของกาวินทำให้สาวน้อยตรงหน้าชะงักไป พวงแก้มนวลเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงลูกตำลึง หัวใจดวงน้อยกลับเต้นแรงให้กับคำพูดไม่กี่คำนี้หรอเอิงเอยเหลือบมองใบหน้าคมคายที่ตอนนี้กำลังจ้องมองภาพยนต์ที่ตัวเองแสดง แต่มือของเขากลับจับมือเธอเอาไว้แน่นราวกับว่ากลัวเธอจะหายไปไหนอย่างไรอย่างนั้น“จะเป็น







