Share

ตอนที่ 2

Penulis: 橙花
last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-02 09:29:53

          ณ โลกมิติที่สาม โจวซูซูที่ถูกทำร้ายร่างกายและใช้งานหนักเยี่ยงทาสมาตลอดตั้งแต่จำความได้จนตอนนี้ร่างกายนางทนทรมานไม่ไหวแล้ว นางได้แต่ก่นด่าสวรรค์ว่าไร้ปราณี นางเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งเท่านั้น เหตุใดท่านแม่จึงได้ทำร้ายนางเหมือนกับนางไม่ใช่ลูกเหมือนพี่สาวพี่ชายคนอื่น ๆ ด้วยความที่โจวซูซูนั้นขาดสารอาหารจากการที่ได้กินเพียงน้ำซาวข้าวมาตลอด ทำให้ตอนนี้นางอดทนต่อความเจ็บปวดไม่ไหวจนลมหายใจค่อย ๆ อ่อนล้าลงไปทุกที ก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายของนางจะหมดไป เด็กน้อยได้แต่ขอร้องสวรรค์ว่าชาติหน้านางขอมีครอบครัวที่รักและดูแลนางบ้างเพื่อชดเชยกับชาตินี้ที่นางมีครอบครัวไม่ดี

          บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เหล่าเทพได้แต่มองเด็กน้อยซูซูอย่างเวทนา พวกเขาจึงตัดสินใจส่งซูซูที่มีความสามารถด้านการต่อสู้และพรสวรรค์สูงส่งไปเข้าร่างของเด็กน้อยแทน เพื่อให้ซูซูมีโอกาสใช้ชีวิตอีกครั้งและยังส่งกำไลเก็บของของนางติดร่างวิญญาณของซูซูไปด้วยเพื่อให้นางใช้ประโยชน์ได้บ้างในโลกมิติที่สามนี้

          ส่วนเด็กน้อยซูซูผู้อาภัพ เหล่าทวยเทพตอบแทนคำขอของนางโดยส่งนางไปยังโลกมิติที่หนึ่งตั้งแต่แรกเกิด คราวนี้ครอบครัวที่นางไปอยู่เป็นครอบครัวที่ดีและรักนางมาก ถือว่าพวกเขาเหล่าทวยเทพได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้วเพื่อปลอบประโลมดวงวิญญาณของเด็กน้อยในชาติก่อน พวกเขาได้แต่หวังว่าวิญญาณทั้งสองดวงที่สลับสับเปลี่ยนไปนั้นจะมีความสุขในชีวิตบ้างหลังจากผ่านวิบากกรรมมานานในชาติภพก่อน

          ซูซูที่เข้าร่างของเด็กน้อยโจวซูซูได้สติในเวลาไม่นานจากความเจ็บปวดทางร่างกาย นางได้แต่มองรอบด้านอย่างแปลกใจ ด้วยไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ที่ไหน กระทั่งมีความทรงจำของเด็กน้อยผ่านเข้ามาในหัวของซูซูตั้งแต่จำความได้จนกระทั่งวันที่เด็กน้อยนั้นสิ้นลมหายใจไป ตอนนี้ซูซูเข้าใจแล้วว่าสวรรค์เมตตาส่งนางมาอยู่ในร่างเด็กคนนี้เพื่อช่วยชีวิตของนางเอาไว้ ซูซูตรวจสอบลมปราณในร่างกายก็ไม่พบว่าเด็กคนนี้เคยฝึกฝนลมปราณมาก่อน แต่ร่างเดิมนี้อยู่ได้ด้วยความอดทนของร่างกายมาตลอดเท่านั้นเอง ซูซูคิดถึงคัมภีร์ที่อาจารย์เคยให้นางเอาไว้โดยบอกว่าหากต้องการฝึกฝนหนทางสะสมลมปราณในคัมภีร์ นางจะต้องทำลายวรยุทธตัวเองเสียก่อน ซึ่งในโลกเก่านั้นซูซูไม่คิดที่จะเริ่มฝึกใหม่จึงไม่ได้สนใจคัมภีร์เล่มนั้นมากนัก แต่ในเมื่อเป็นคัมภีร์ที่อาจารย์บอกว่าดีที่สุดในโลกแห่งลมปราณของนาง ครั้งนี้ที่นางมาอยู่ในร่างที่ไร้ซึ่งลมปราณ นางก็จะฝึกฝนตามคัมภีร์วิเศษที่อาจารย์ให้นางมาลองดู

          หลังตัดสินใจได้แล้ว ซูซูก็นึกขึ้นได้ว่านางนำคัมภีร์เก็บเอาไว้ในกำไลเก็บของของนาง ซูซูใช้มืออีกข้างลูบคลำไปที่ข้อมือเล็ก ๆ ก็พบกับกำไลอันเดิมของนาง ซูซูยิ้มอย่างดีใจ นางได้แต่กล่าวขอบคุณสวรรค์ที่ยังส่งกำไลมาพร้อมกับนางด้วย ไม่เช่นนั้นนางคงไม่สามารถมีชีวิตอยู่รอดในโลกใหม่ใบนี้ได้เป็นแน่

          ซูซูตั้งสมาธิและดึงเอาคัมภีร์ออกมาท่องจำ จนกระทั่งเวลาผ่านไปค่อนคืนแล้วนางจึงเข้าใจวิธีการสะสมลมปราณอันแสนสะดวกสบายภายในคัมภีร์ วิธีการนี้นางสามารถสะสมลมปราณได้ตลอดเวลาแม้กระทั่งเวลานอน ซึ่งจะทำให้ซูซูตัดผ่านขั้นลมปราณได้เร็วกว่าชาติก่อนถึงสองเท่าเลยทีเดียว เมื่อตัดสินใจว่าจะใช้วิชาในคัมภีร์นี้แล้ว ซูซูจึงค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งสมาธิเพื่อเปิดเส้นลมปราณด้วยตัวเอง แน่นอนว่าที่นางกล้าทำเช่นนี้ก็เพราะมั่นใจในร่างกายอันถึกทนของร่างเดิมด้วยที่น่าจะสามารถอดทนต่อความเจ็บปวดจากการเปิดเส้นลมปราณได้

          ซูซูอดทนต่อความเจ็บปวดเปิดเส้นลมปราณทั้งหมดในร่างกายภายในเวลาชั่วข้ามคืน นี่เป็นเพราะพรสวรรค์ดั้งเดิมของนางซึ่งรวมกับร่างกายที่แสนจะอดทนของร่างเดิมจึงทำให้ซูซูสามารถทำได้เช่นนี้ แต่ผลจากการเปิดเส้นลมปราณภายในครั้งเดียวคือตอนนี้ร่างกายนางเต็มไปด้วยคราบสกปรกมากมายที่ร่างเดิมขับออกมา ซูซูเห็นว่าตอนนี้นางอยู่ในห้องเก็บฟืนอยู่แล้วจึงไม่สนใจที่จะทำความสะอาดคราบสกปรกเหล่านี้ แต่นางแอบออกจากห้องเก็บฟืนขณะที่ฟ้ายังไม่สว่างดีนักเพื่อไปอาบน้ำในแม่น้ำที่อยู่ไม่ไกลตามความทรงจำเดิมที่ได้รับมา แน่นอนว่าตอนนี้ร่างกายของนางที่เปิดเส้นลมปราณแล้วแข็งแรงกว่าเดิมมาก จึงทำให้ใช้เวลาไม่นานนักซูซูก็กลับมานอนที่ห้องเก็บฟืนอีกครั้ง

          ขณะนอนหลับ ซูซูก็ใช้วิชาในคัมภีร์สะสมลมปราณไปเรื่อย ๆ ร่างเดิมที่เพิ่งถูกทำร้ายจนตายไม่น่าที่จะตื่นขึ้นได้ในวันสองวัน ซูซูจึงไม่คิดจะออกไปพบกับคนชั่วด้านนอกจนกว่าที่นางจะสะสมลมปราณจนข้ามขั้นหนึ่งไปได้เสียก่อน

          ด้านหยวนปิงกับโจวฮุ่ยเหมยก็ไม่คิดที่จะเอะอะให้ใครรู้ว่าพวกนางทำร้ายนังเด็กซูซูอีกแล้วจนล้มหมอนนอนเสื่อ ทุกครั้งที่ทำร้ายซูซูอย่างหนักพวกนางจะปล่อยให้ซูซูได้นอนพักสักสองสามวันค่อยใช้งานนาง อย่างไรคนอย่างพวกนางก็ไม่คิดที่จะตามหมอมาดูอาการเด็กที่เก็บมาเลี้ยงแต่แรก ไม่ว่านังเด็กนั่นจะเป็นหรือตายพวกนางก็ไม่คิดจะสนใจ นอกจากต้องการใช้งานนางไปเก็บหญ้าหมูเท่านั้นที่พวกนางสองแม่ลูกจะไปจิกหัวใช้ซูซูขึ้นเขาไปเก็บหญ้า แต่ตอนนี้ยังพอมีหญ้าหมูเหลืออยู่ คนขี้เกียจอย่างพวกนางสองแม่ลูกจึงทำอาหารกินกันโดยไม่สนใจคนที่นอนหลับอยู่ในห้องเก็บฟืนเลยแม้แต่น้อย

          ส่วนชาวบ้านที่คอยสังเกตบ้านโจวก็ได้แต่สงสัยว่าทำไมเด็กน้อยซูซูไม่ออกมาข้างนอก ปกติซูซูจะออกมาตักน้ำหรือขึ้นเขาหาหญ้าหมูเป็นประจำจนคนในหมู่บ้านต่างเวทนาสงสารเด็กตัวเล็ก ๆ คนนี้ไม่น้อย พวกเขามักจะแอบให้ของกินกับซูซูอยู่บ่อย ๆ ด้วยรู้ดีว่านางไม่ได้กินข้าวนอกจากน้ำซาวข้าวในทุกมื้อเพียงเท่านั้น พวกเขาไม่อยากยุ่งกับนางหยวนปิงกันนักหรอก ด้วยรู้ดีว่าหยวนปิงนั้นเป็นคนที่ชอบใช้กำลังและฝีปากของนางก็ใช่ย่อย เหล่าชาวบ้านจึงไม่อยากมีเรื่องกับคนอย่างนางกันนัก พวกเขาจึงได้แต่เฝ้ามองหาซูซูอย่างเป็นห่วง แต่ในเมื่อไม่ได้ยินเสียงก่นด่าของหยวนปิง พวกนางจึงแยกย้ายกันไปทำงานของตนเอง

          ซูซูตัดผ่านขั้นปราณขั้นที่สองได้ภายในเวลาสองวัน นับว่าเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ของนางเลยก็ว่าได้ ซูซูยังคงแอบไปล้างคราบสกปรกอยู่เหมือนสองวันที่ผ่านมา นางคิดว่าอย่างน้อย ๆ ให้เสื้อผ้านางสะอาดสักหน่อยก็ยังดี ถึงแม้ซูซูจะไม่ได้กินอาหารมาสองวันแล้ว แต่นางยังกินน้ำในลำธารประทังชีวิตได้อยู่ อีกอย่างการฝึกฝนของนางที่ก้าวหน้าไปมากก็ยิ่งทำให้ร่างกายแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

“นังซูซู แกตายแล้วหรือ? ทำไมไม่ออกมาทำงานทำการอีก นี่ก็สามวันเข้าไปแล้วนะ นังนี่ถ้าไม่ตีก็ไม่หลาบจำใช่ไหมฮะ ข้าบอกให้เจ้าออกมา!!!”

          เสียงแหลมสูงของหยวนปิงทำเอาซูซูถึงกับต้องเอามืออุดหู นางไม่คิดจะออกไปแต่แรกแล้ว นางจะปล่อยให้สองแม่ลูกนี่คิดว่านางตายไปแล้ว และนางจะดูสิว่าสองแม่ลูกนี่จะทำเช่นไร

“นี่นังซูซู ได้ยินเสียงท่านแม่แล้วทำไมเจ้ายังไม่รีบออกมาอีก? หรือว่าเจ้าตายไปแล้วจริง ๆ ท่านแม่ ถ้านางตายแล้วเล่า เราจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ”

“เพ้ย!!! นังนี่มันตายยากจะตายไป เจ้าคิดหรือว่าแค่ข้าตีมันไม่กี่ทีเมื่อสามวันก่อนนางจะถึงกับตายได้น่ะ ข้าคิดว่านังนี่แค่ขี้เกียจเท่านั้นแหละ”

“แต่ข้าว่าท่านน่าจะเข้าไปดูหน่อยนะเจ้าคะท่านแม่ เกิดนางตายไปจริง ๆ นี่ก็หลายวันแล้ว ศพจะไม่เหม็นเน่าหรือเจ้าคะ พูดแล้วข้าก็ว่าได้กลิ่นเหม็น ๆ จากในห้องเก็บฟืนด้วยนะเจ้าคะท่านแม่ ท่านลองดมดูสิ”

“อืม ข้าเองก็ได้กลิ่นตุตุเช่นกัน ไม่ใช่ว่ากลิ่นนังซูซูที่มันไม่ได้อาบน้ำหรอกนะ เดี๋ยวเจ้าเข้าไปดูสิว่านางตายแล้วหรือยังแล้วค่อยมาบอกข้า ถ้าผู้ใหญ่บ้านรู้เข้าว่าข้าตีนางจนตายไปล่ะก็ ข้าคงตกที่นั่งลำบากแน่”

“อ้าว ทำไมท่านแม่จะให้ข้าเข้าไปเล่าเจ้าคะ ข้ากลัวผีนะเจ้าคะท่านแม่ ท่านอยากดูว่านางตายแล้วหรือยังก็เข้าไปเองเถอะเจ้าค่ะ ข้าไปดีกว่า”

          โจวฮุ่ยเหมยได้แต่เดินหนีกลับเข้าบ้านด้วยกลัวผีนังเด็กนั่นจริง ๆ ส่วนหยวนปิงก็ได้แต่ยืนก่นด่าทั้งลูกสาวตัวเองที่ใจเสาะกับนังซูซูที่ยังไม่ลุกออกมาอีก

          ชาวบ้านที่อยู่ติดกันพอได้ยินว่าซูซูน่าจะตายไปแล้วก็รีบวิ่งไปบอกผู้ใหญ่บ้านให้มาดูทันที พวกนางก็คิดอยู่ว่าทำไมเด็กน้อยซูซูไม่ออกมาข้างนอกบ้าง ที่ไหนได้นางกลับถูกทำร้ายจนล้มหมอนนอนเสื่ออีกแล้ว และครั้งนี้คงรุนแรงมากจนกระทั่งสามวันแล้วนางก็ยังไม่ออกมาข้างนอกเลย

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 120

    สี่ปีผ่านไป อ๋องน้อยและท่านหญิงที่ได้รับอนุญาตให้เข้าวังบ่อย ๆ วันนี้พวกเขาก็มาเล่นกับเสด็จปู่ เสด็จย่าที่ตำหนักเฟิ่งหวงพร้อมกับเสด็จพ่อและเสด็จแม่ โดยที่ฮ่องเต้ทรงงดเว้นธรรมเนียมให้กับหลานทั้งสองที่ร่าเริงสดใสของพระองค์“เจ้าดูสิ นับวันอ๋องน้อยยิ่งตัวสูงใหญ่กว่าเด็กทั่วไปมากนัก ช่างเหมือนจ้าวหลงตอนเด็ก ๆ ไม่มีผิด”“จริงด้วยเพคะฝ่าบาท หม่อมฉันเองก็คิดว่าอ๋องน้อยน่าจะเติบโตขึ้นมาตัวสูงใหญ่เหมือนพ่อของเขาเป็นแน่” ฮ่องเต้กับฮองเฮาคุยกันพร้อมรอยยิ้มเต็มใบหน้า พวกเขาได้แต่นึกถึงตอนที่นำอ๋องเฉิงมาเลี้ยงในวัยเด็กแล้วก็ยิ่งอยากเลี้ยงอ๋องน้อยกับท่านหญิงอีกครั้ง เพียงแต่ตอนนี้ทั้งสองพระองค์พระชนมายุมากแล้ว ไม่สามารถวิ่งเล่นกับหลาน ๆ ได้เหมือนเมื่อก่อนตอนเลี้ยงอ๋องเฉิง เพียงแค่ได้นั่งมองพวกเขาเล่นกัน ทั้งสองพระองค์ก็มีความสุขไม่น้อยแล้ว

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 119

    เมื่ออ๋องน้อยมาถึงหน้าห้องคลอด พระองค์ทรงเห็นเสด็จพ่อนั่งรออยู่อย่างกระวนกระวาย อ๋องน้อยจึงเดินเข้าไปหาแล้วปีนขึ้นไปนั่งบนตักเสด็จพ่อ อ๋องเฉิงไม่คิดว่าลูกชายจะมาเร็วขนาดนี้ ปกติอ๋องน้อยจะตื่นตอนสาย ๆ แต่วันนี้เขากลับมาที่นี่เพื่อเป็นกำลังใจให้พระองค์กับพระชายาที่กำลังจะคลอด“เด็จพ่อรอน้องกับข้านะขอรับ” เสียงเล็ก ๆ แสนรู้ความเอ่ยออกมาพร้อมอ้อมกอดน้อย ๆ ที่เอื้อมไปกอดคอพ่อของตนเอง“อืม… เจ้าเป็นพี่ที่ดี มานั่งดี ๆ รอน้องกันเถอะ ขอบใจเจ้ามากที่มาให้กำลังใจเสด็จแม่ของเจ้า” อ๋องเฉิงลูบหัวบุตรชายแล้วปรับท่านั่งให้เขาได้นั่งบนตักอย่างสบาย ๆ ในห้องคลอด ซูซูปวดท้องมากจนนางอยากกรีดร้องออกมา แต่ด้วยนิสัยที่มักจะเก็บงำความเจ็บปวดเอาไว้ นางจึงทำเพียงกัดฟันอดทนแล้วหายใจตามจังหวะที่หมอตำแยกับแม่นมฉู่ช่วยกันบอกนางเท่านั้น“พระชายาอดทนอีกสักนิดนะเพคะ อีกไม่นานก็น่า

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 118

    วันต่อมามีขบวนของขวัญจากวังหลวงและจวนตระกูลฟางยาวนับหลายลี้มาจอดอยู่เต็มหน้าจวนอ๋อง ทำเอาชาวบ้านชาวเมืองต่างอยากรู้อยากเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นอีกแล้วกับจวนอ๋อง ขันทีที่ได้รับพระราชโองการแสดงความยินดีกับจวนอ๋องรีบประกาศราชโองการพร้อมกับพระราชเสาวนีย์ของฮองเฮาที่ร่วมแสดงความยินดีกับจวนอ๋องเช่นเดียวกัน“ข้าขอแสดงความยินดีกับจวนอ๋องที่กำลังจะมีทายาทอีกหนึ่งคน สิ่งของเหล่านี้เป็นของรับขวัญหลานคนที่สองของข้า หวังว่าการตั้งครรภ์ของพระชายาจะดำเนินไปอย่างราบรื่นปลอดภัยจนกว่าจะถึงวันประสูติ จบราชโองการ” ชาวเมืองที่พากันมามุงเมื่อได้ยินขันทีประกาศราชโองการเสียงดัง พวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดจึงได้มีขบวนของขวัญมากมายถึงเพียงนี้ สมแล้วที่จวนอ๋องได้รับพระเมตตาจากฮ่องเต้กับฮองเฮามาอย่างยาวนาน ไหนจะบ้านเดิมของพระชายาที่เป็นถึงคหบดีที่ร่ำรวยของแคว้นอีกเล่า ไม่แปลกที่เพียงแค่การตั้งครรภ์

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 117

    สองสัปดาห์ต่อมา ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ซูซูรู้สึกหิวมากกว่าปกติอย่างไรก็ไม่ทราบ แถมนางยังชอบกินขนมหวานแทบทั้งวันอีกด้วย กระทั่งหลังอาหารเช้าวันนี้ ขณะที่นางกำลังอุ้มบุตรชายพาเดินเล่นอยู่นั้นนางก็เกือบจะล้มลงบนพื้นทั้งแม่และลูก ด้วยเพราะซูซูจู่ๆ ก็หน้ามืดไปเสียเฉย ๆ โชคดีที่อ๋องเฉิงวันนี้อยู่กับพวกนางด้วย พระองค์รีบรับร่างภรรยากับบุตรชายแล้วอุ้มทั้งคู่เข้าไปยังห้องนอนในเรือนเล็กของซูซูที่อยู่ใกล้ที่สุด อ๋องเฉิงรีบร้องบอกให้องครักษ์ไปตามหมอหลวงมาทันที ตอนนี้พระองค์ทรงเป็นห่วงภรรยาไม่น้อย เพราะตอนนี้นางยังไม่ลืมตาขึ้นมาเลย ส่วนบุตรชายของพระองค์ไม่ได้ตกอกตกใจอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อ๋องน้อยเพียงแต่มองท่านพ่อที่เรียกคนให้นำผ้ากับอ่างน้ำมาเพื่อเช็ดหน้าให้กับท่านแม่ของพระองค์“ซูซู ซูซู เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ลืมตาขึ้นมาให้ข้าเบาใจหน่อยภรรยา อย่าทำให้ข้ากลัวเช่นนี้ ซูซู” อ๋องเฉิงเช็ดห

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 116

    หนึ่งเดือนต่อมา อ๋องเฉิงที่ส่งทหารออกไปยังแคว้นจ้านเมื่อหลายเดือนก่อนก็ได้รับข่าวตอบกลับจากทหารที่เพิ่งเดินทางกลับมาถึงค่ายทหารนอกเมืองหลวง“ทูลท่านอ๋อง นี่เป็นจดหมายจากองค์ชายสามที่ให้กระหม่อมนำมามอบให้พระองค์เพื่อส่งต่อไปยังฝ่าบาทพะย่ะค่ะ เหตุการณ์ที่แคว้นจ้านนั้นสงบสุขดีพะย่ะค่ะ ตอนนี้องค์ชายสามก็ส่งขุนนางเดินทางออกไปแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับประชาชนทั่วแคว้นได้เกือบครึ่งปีแล้วพะย่ะค่ะ อีกทั้งพระชายาก็คลอดองค์ชายน้อยได้สามเดือนแล้ว จึงทำให้องค์ชายสามไม่ค่อยมีเวลาที่จะส่งข่าวกลับมาให้พระองค์พะย่ะค่ะ” อ๋องเฉิงพยักหน้ารับจดหมายจากทหารแล้วเปิดอ่านเนื้อหาด้านในก่อนที่จะเข้าวังและนำไปมอบให้กับเสด็จลุงของพระองค์ ภายในจดหมายนั้นเขียนถึงความสำเร็จในการซื้อใจประชาชนขององค์ชายสามและกองทหารรักษาเมือง ยิ่งเมื่อเหล่าประชาชนในแคว้นจ้านเห็นถึงความเมตตาขององค์ชายสามและขุนนางที่ตั้งใจจะมาพัฒนาแคว้นของ

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 115

    “อืม… เอาล่ะ เราเลิกคุยเรื่องงานกันเถอะ ข้าอยากเล่นกับหลานแล้ว” อ๋องเฉิงเห็นท่าทางกระปรี้กระเปร่าของสหายที่พอพูดถึงหลานชายเข้าเมื่อไหร่ก็มักจะมีอาการเช่นนี้ พระองค์ได้แต่ยิ้มแล้วพาสหายเดินไปยังห้องโถงรับแขกที่เรือนเล็กของบุตรชายที่พระองค์สั่งคนเตรียมเอาไว้สำหรับอ๋องน้อยเมื่อเขาโตกว่านี้ในอีกไม่กี่ปี ในเรือนของอ๋องน้อยเต็มไปด้วยบ่าวรับใช้ที่คอยดูแลท่านอ๋องน้อยเวลาเล่นของเล่นอยู่ในห้องโถงรับแขกกับพระชายา ท่านตาและท่านยายที่มาเยี่ยมก่อนหน้าที่ลูกชายอย่างฟางฉือห่าวจะมาถึง“อ้าว ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันขอรับ”“พ่อกับแม่มากันตั้งแต่เช้าแล้ว วันนี้พ่อนำของเล่นใหม่มาให้อ๋องน้อยด้วยนะเจ้าดูสิ พ่อสั่งคนทำขึ้นมาเป็นพิเศษให้เขาเลยนะเนี่ย” ฟางเซียนหลงชี้ไปที่ม้าโยกไม้ที่ดูแ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status