“ก็แค่ทานข้าวด้วยกันสี่ห้าสิบมื้อเอง”
“แล้วเธอเห็นพี่เขยเธอว่างงานมากหรือจ๊ะไอ้ตัวแสบ”
“ก็พี่เยลไม่ค่อยว่างนี่คะ แยมเลยต้องสอดส่องแทนให้” เพราะก่อนที่พี่สาวตนจะแต่งงานนั้น เธอมีอาชีพเป็นแอร์โฮสเตสต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้เที่ยวบินหลักจะเป็นทางโซนเอเชียก็ตาม
“รู้ไหมสามีพี่เขาว่ายังไง เขาบอกว่าหนึ่งเดือนเขาจะเจอกับพี่ประมาณสองครั้ง พอๆ กับที่เขาต้องไปเจอกับแยมมี่เลย น้องเขายังเคยแซวเลยว่าตกลงแฟนพี่ชายเขาคนไหนกันแน่”
ดาวลดาหัวเราะด้วยความถูกใจ แล้วนึกสงสัยคำพูดของพี่สาว “พี่เฮียวริใช่ไหม แยมจำพี่เขาไม่ค่อยได้แล้วค่ะ เห็นกันแค่ตอนงานแต่งงานครั้งเดียว”
“ใช่จ้ะ แต่คนที่แซวเขาไม่ใช่เฮียวรินะ เป็นเจสันน่ะ”
“เจสันวูเหรอพี่เยล” ดาวลดาเบิกตาด้วยความตื่นเต้นเมื่อพูดถึงผู้ชายคนนั้น นักร้องนักแสดงขวัญใจสาวเอเชียแล้วยังเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทตัวจริงที่พี่เขยออกหน้าบริหารอยู่ และเขาก็เป็นญาติสนิทกับพี่เขยของเธอ
“ซองอาเขาบอกว่าถ้าไม่ได้ถือหุ้นอยู่ในบริษัทด้วย สงสัยโดนน้องชายไล่ออกไปแล้ว”
“เขาเป็นญาติทางไหนกันเหรอพี่เยล พ่อของพวกเขาเป็นพี่น้องกันใช่ไหม”
“ใช่ ไหนบอกว่าจำไม่ได้”
“จำไม่ค่อยได้ แต่ถ้าผ่านสมองมาบ้างแล้วก็พอมีเค้าหลงเหลืออยู่”
“เป็นญาติกัน ปู่กับปู่เป็นพี่น้องกัน ปู่ของเจสันเขาไปได้เมียฝรั่งและใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา แต่แม่ของเจสันเป็นคนเกาหลี”
“เออใช่ แยมจำได้แล้วที่พี่เคยเล่าให้ฟังว่าเขาเป็นลูกเสี้ยว” ดาวลดาเริ่มจำได้มากขึ้น ตอนนั้นพี่สาวตนเพิ่งแต่งงานกับพี่เขย เธอเห็นเขาในงานแต่งและจำได้ว่าเป็นนักแสดงจึงถาม จำได้ดีว่าตัวจริงเขาดูดีราวกับเทพบุตรกรีก อาจจะเป็นเพราะมีเชื้อของฝรั่งปนอยู่
“นั่นแหละ”
ติ๊งหน่อง ๆ
“ใครมานะ” เดือนนภาถามขึ้นลอย ๆ และจะลุกไปกดดูที่อินเตอร์คอม
“ไม่ต้อง แยมเอง” ดาวลดารีบลุกขึ้นและเดินไปที่หน้าจอ “สวัสดีค่ะ ใครคะ” เธอเพ่งมองที่หน้าจอเมื่อเจอชายหนุ่มวัยใสหน้าตาดีมากคนหนึ่งส่งยิ้มมาให้ รู้สึกคุ้นหน้ามากแต่นึกไม่ออก
“สวัสดีครับ มินวูเองครับ”
“สักครู่นะคะ พี่เยล มินวู” บอกกับชายหนุ่มแล้วจึงหันมาพูดกับพี่สาว
“อ๋อ เปิดประตูให้เขาเลย”
ดาวลดาทำตามที่พี่สาวบอก “เชิญค่ะ หน้าคุ้นมากเลยพี่เยล”
“วงพลีสไง วงนี้เจสันคัดเลือกเองกับมือเลยนะ แถมยังเขียนเพลงและมีร้องแจมด้วยอีกต่างหาก ดังจะตาย”
“อ๋อๆ ๆ มิน่าทำไมถึงคุ้น นักร้องน้องใหม่มาแรงแห่งปีนี่เอง”
“สวัสดีครับคุณนายวู” หนุ่มน้อยวัยใสที่เปิดประตูบ้านเข้ามากล่าวทักทายพร้อมรอยยิ้มสดใสน่ารักสมวัย “สวัสดีครับ..”
“น้องสาวพี่เองจ้ะเรียกพี่แยมมี่ก็ได้ แยมนี่มินวู ปาร์คมินวู” เดือนนภาแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน
“พี่แยมมี่ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมมินวูนะครับ” มินวูแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นเดียวกันค่ะ พี่อายุยี่สิบเจ็ด สูงหนึ่งร้อยหกสิบเก้า แล้วคุณล่ะคะ” เพื่อไม่ให้น่าเกลียดเธอจึงทำการแนะนำสิ่งที่ตนอยากรู้จากฝ่ายตรงข้ามก่อน ความจริงเธออยากรู้ว่าเขาสูงเท่าไหร่มากกว่า แต่มันคงจะน่าเกลียดไปถ้าถามออกไปแบบนั้นอย่างเดียว
“อายุย่างยี่สิบเอ็ด สูงร้อยแปดสิบหกครับพี่สาว”
“โอ้ว! สูงมาก ๆ เลยค่ะ ดีนะที่อายุเกินยี่สิบแล้ว ไม่งั้นอาจจะสูงถึงสองร้อยเซ็นก็ได้เนอะ” เธอฉีกยิ้มขณะพูดคุย ถูกชะตากับเด็กหนุ่มคนนี้นัก อาจจะเป็นเพราะว่าเธออยากมีน้องชายเหมือนคนอื่นเขาบ้าง เมื่อมาเจอเขาจึงรู้สึกแบบนี้ โดยเฉพาะตอนที่เขาเรียกเธอว่าพี่สาว มันฟังดูดีจริง ๆ
“ฮาๆ ๆ อาจจะนะครับพี่สาว”
“คิกๆ ๆ รู้ไหมว่าพี่อยากมีน้องชายมากแค่ไหน พอมาเจอเธอพี่รู้สึกถูกชะตามาก ๆ เลย”
“ถ้าอย่างนั้นผมขอสมัครเป็นน้องชายพี่ได้ไหมครับ” มินวูก็รู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวเหมือนกัน เมื่อได้ยินเธอพูดดังนั้นจึงรีบเสนอตัว เขาจะดีใจมากถ้าเธอยอมรับเพราะเขาเองก็มีแต่น้องชาย
“จริงหรือเปล่า พี่เอาจริงนะ”
“พี่สาวๆ ๆ ด้วยความยินดีครับ”
“มินวู แยมมี่ พวกเธอลืมใครอีกคนหรือเปล่าเนี่ย” เดือนนภาขัดขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะ เธอรู้ว่าดาวลดาอยากมีน้องชายมากแค่ไหน และก็รู้ว่าดีใจขนาดไหนที่รู้ว่าลูกในท้องของตนเป็นเด็กผู้ชาย
“ขอโทษครับคุณนายวู ผมไม่ได้ตั้งใจจะลืมคุณนะครับ แต่ผมแค่ดีใจมากไปหน่อยเท่านั้น” มินวูแสร้งทำหน้าเศร้า แต่ปากยังประดับด้วยรอยยิ้ม
“โอ้ มินวู! นายมาได้ไงเนี่ย” ซองอาเดินออกมาจากครัว บนตัวเขายังมีผ้ากันเปื้อนสวมอยู่
“สวัสดีครับประธานวู คุณเจสันให้ผมแวะมาเอาของให้เขาครับ”
“อ๋อ เขาโทรมาบอกฉันแล้ว รอสักครู่นะ”
“ครับ” มินวูตอบรับ แล้วหันมาส่งยิ้มให้ดาวลดา “บ้านผมอยู่ห่างจากที่นี่ไม่มากครับพี่สาว พอดีคุณเจสันเขารู้ว่าผมกลับบ้านเขาก็เลยไหว้วานให้ผมแวะเอาของให้”
“จ้ะ นั่งรอก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำมาให้” เธอเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ได้เตรียมอะไรให้แขกหนุ่ม
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมทานจากบ้านมาเรียบร้อยแล้วทั้งข้าวทั้งน้ำ ตอนนี้ยังแน่นท้องอยู่เลยครับ”
“โอเค” ดาวลดานั่งลงตามเดิม “เธอน่ารักมาก ๆ เลยมินวู พี่ดีใจมากเลยที่มีน้องชายน่ารักแบบเธอ”
“พี่ก็สวยมากเลยครับ ทั้งสวยทั้งน่ารัก ดูดีกว่าดาราอีก ผมก็ดีใจมากเลยครับ”
“แยมพี่ว่าเธอต้องหลงรักมินวูหัวปักหัวปำแน่ ดูคารมเขาสิ” เดือนนภาพูดกลั้วหัวเราะเป็นภาษาไทย
“มีน้องชายน่ารักๆ ทั้งคนก็ต้องหลงรักเป็นธรรมดาค่ะ”
“ก็ขอให้รักแบบน้องชายเถอะนะ ไม่ใช่ลืมตัวล่ะ”
“พี่เยลไม่รู้จักนิสัยแยมเหรอคะ แยมไม่นิยมเด็กค่ะ แต่ถึงจะใช่ก็คงไม่ใช่แบบนี้หรอกค่ะ ถ้าเป็นหนุ่มเกาหลีแยมชอบแบบฮยอนบินหรือโซจีซบ ถ้าเป็นหนุ่มไทยแยมชอบแบบซันนี่ แต่ถ้าเป็นฝรั่งแยมชอบแบบเจสัน โมโมอา แบบมินวูนี่รักได้แบบน้องชายหมดใจเลยค่ะ รับรองไม่มีแบบอื่นแอบแฝง จริงไหมมินวู” ท้ายประโยคเธอถามชายหนุ่มเป็นภาษาเกาหลี
“ใช่ครับพี่สาว” มินวูไม่รู้หรอกว่าเธอพูดอะไรกับพี่สาวของเธอ แต่ดูจากสายตาและคำพูดคงไม่ใช่เรื่องไม่ดีแน่...
“ผมไปส่งนะครับ” มินวูรีบเสนอตัวแล้วลุกขึ้น มีอาการเสียหลักอย่างเห็นได้ชัด“ไม่ต้องหรอกจ้ะ พี่จะกลับกับท่านประธาน เธออยู่ดื่มกับเพื่อน ๆ เถอะ ถึงโรงแรมแล้วพี่จะโทรหานะ” ดาวลดารีบปฏิเสธเพราะไม่อยากเห็นเขาล้มระหว่างทาง“ตกลงครับ ถึงแล้วอย่าลืมโทรบอกผมนะครับพี่สาว” มินวูย้ำอีกครั้งพร้อมคว้าตัวเธอเข้ามากอดแนบอก “ผมรักพี่สาวนะครับ”“จ้ะ” ดาวลดารีบผละจากอ้อมกอดของเด็กหนุ่ม เพราะยังไม่คุ้นเคยกับการกระทำแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่ถ้าเธอได้เจอกับเขาบ่อย ๆ มันคงกลายเป็นเรื่องปกติ“ทำอะไรของนายน่ะมินวู”เสียงเครียดขรึมที่ดังมาจากด้านหลัง ทำให้ทุกคนหันไปมองและนิ่งเงียบไปชั่วขณะ สายตาดุดันดุจเหยี่ยวคู่นั้นที่มองมินวูไม่กะพริบ ก่อนที่มันจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นนิ่งเฉยราวทะเลไร้คลื่นลมเหมือนปกติ“ทำไมถึงมาช้านักล่ะเจสัน” ซองอาเป็นคนแรกที่เอ่ยถามชายหนุ่ม ซึ่งเป็นญาติที่สนิทกันมาก“เพิ่งถ่ายละครเสร็จครับ วันนี้อากาศไม่เป็นใจเสียเวลาไปหลายชั่วโมง สวัสดีครับพี่สะใภ้&rdq
อย่าว่าแต่ดาวลดาเลยที่ตกใจ ทุกคนที่ออกันอยู่ตรงระเบียงชั้นลอยของบ้านเพื่อมองดูพี่สาวของมินวูต่างก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน พวกเขาไม่ได้ตกตะลึงกับการกระทำของมินวูเท่ากับตกตะลึงในความสวยของเธอ ไม่เสียแรงที่มินวูมาคุยไว้จริง ๆ ทุกคนต่างลงความเห็น โดยเฉพาะดงซิก“ฉันอยากจะเป็นลมค่ะที่รัก” เดือนนภาถึงกับกุมขมับอยู่ในอ้อมกอดของสามี“มินวูเขานิสัยเหมือนเด็กคุณก็รู้นี่ แล้วเขาก็โตที่อเมริกาด้วย ทักทายแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก”“แต่ผู้หญิงคนนั้นน้องสาวฉันนะคะ” เธอกระทุ้งศอกใส่ท้องสามีเบา ๆ“แต่คุณบอกผมว่าเขารับเป็นพี่เป็นน้องกันแล้วนี่ อย่าคิดมากเลยนะครับ เดี๋ยวลูกเครียดนะ” ซองอากระเซ้าภรรยาสุดที่รัก“ใครก็ได้ช่วยบอกฉันทีว่านั่นนางฟ้าหรือพี่สาวมินวูกันแน่” ดงซิกเหมือนคนตกอยู่ในอาการศรรักปักอก แต่มันไม่ใช่ครั้งแรก มันจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เจอผู้หญิงสวย ๆ“เฮ้พวกนาย! ทำอะไรเกรงใจพี่สะใภ้ฉันบ้างนะ คนที่นายกำลังพูดถึงเป็นน้องสาวของเธอนะ” เฮียวริซึ่งเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของซองอารีบพูดดักคอ ก่อนที่คำ
ดาวลดาชวนไกด์ร่วมงานอีกสองคนเดินไปที่ลิฟต์ เมื่อจัดการเรื่องห้องพักให้ลูกทัวร์เรียบร้อยแล้ว “แยม เมื่อกี้พนักงานโรงแรมบอกว่ามีข้อความฝากถึงหนูน่ะ” ศรันยูบอกกับไกด์สาวรุ่นน้อง “ขอบคุณค่ะพี่ยู น้องหนูขึ้นไปกับพี่ยูก่อนนะเดี๋ยวพี่ตามไป ฝากน้องขึ้นไปด้วยนะคะพี่ยู” “โอเค”... “สวัสดีค่ะ ฉันแยมมี่ค่ะ มีข้อความฝากถึงฉันหรือคะ” เธอเดาว่าน่าจะเป็นพี่สาว เพราะเป็นคนเดียวในเกาหลีที่รู้เบอร์โทรที่พักของเธอทุกแห่ง เพราะเมื่อเธอเดินทางมาที่นี่ทุกครั้ง เธอจะส่งรายละเอียดเกี่ยวกับที่พักไปให้พี่สาวเสมอ “นี่ค่ะ” “ขอบคุณค่ะ” ดาวลดารับมาอ่าน มีข้อความสั้นๆ กับเบอร์โทรให้ติดต่อกลับด่วน “มินวูนี่นา” หญิงสาวฉีกยิ้มเมื่อนึกถึงน้องชายกำมะลอที่น่ารักคนนั้น เขายังไม่ลืมเธอ ดาวลดายืนรออยู่อีกครู่ใหญ่ กะเวลาให้สมฤดีเข้าห้องพักแล้วจึงบอกพนักงานให้ต่อเบอร์ห้องให้ เพื่อแจ้งให้หญิงสาวทราบว่าตัวเองจะไม่กลับขึ้นห้อง“ขอโทษนะที่ปล่อยให้นอนคนเดียวอีกแล้ว”(ไม่เป็นไรค่ะพี่แยม หนูเตรียมใจมาก่อนเดินทางแล้วค่ะ เพราะพี่ๆ ที่เขาเคยมากับพี่แยมเขาบอกให้หนูท
“ก็แค่ทานข้าวด้วยกันสี่ห้าสิบมื้อเอง” “แล้วเธอเห็นพี่เขยเธอว่างงานมากหรือจ๊ะไอ้ตัวแสบ” “ก็พี่เยลไม่ค่อยว่างนี่คะ แยมเลยต้องสอดส่องแทนให้” เพราะก่อนที่พี่สาวตนจะแต่งงานนั้น เธอมีอาชีพเป็นแอร์โฮสเตสต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้เที่ยวบินหลักจะเป็นทางโซนเอเชียก็ตาม “รู้ไหมสามีพี่เขาว่ายังไง เขาบอกว่าหนึ่งเดือนเขาจะเจอกับพี่ประมาณสองครั้ง พอๆ กับที่เขาต้องไปเจอกับแยมมี่เลย น้องเขายังเคยแซวเลยว่าตกลงแฟนพี่ชายเขาคนไหนกันแน่” ดาวลดาหัวเราะด้วยความถูกใจ แล้วนึกสงสัยคำพูดของพี่สาว “พี่เฮียวริใช่ไหม แยมจำพี่เขาไม่ค่อยได้แล้วค่ะ เห็นกันแค่ตอนงานแต่งงานครั้งเดียว” “ใช่จ้ะ แต่คนที่แซวเขาไม่ใช่เฮียวรินะ เป็นเจสันน่ะ” “เจสันวูเหรอพี่เยล” ดาวลดาเบิกตาด้วยความตื่นเต้นเมื่อพูดถึงผู้ชายคนนั้น นักร้องนักแสดงขวัญใจสาวเอเชียแล้วยังเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทตัวจริงที่พี่เขยออกหน้าบริหารอยู่ และเขาก็เป็นญาติสนิทกับพี่เขยของเธอ “ซองอาเขาบอกว่าถ้าไม่ได้ถือหุ้นอยู่ในบริษัทด้วย สงสัยโดนน้องชายไล่ออกไปแล้ว” “เขาเป็นญาติทางไห
บทที่ 5 พี่สาว พี่เขยดาวลดาหันไปทางบิดา คลี่ยิ้มกว้างก่อนวิ่งเข้าไปกอดผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ เขย่งปลายเท้าขึ้นหอมแก้มอีกหนึ่งทีด้วยความรัก“จริงด้วยค่ะ ยังมีอีกหนึ่งหนุ่มที่รักแยมมาก แยมลืมได้ไงกันเนี่ย”“แล้วรักป๋าเท่าป้าเขาไหมล่ะ” อาทิตย์หอมแก้มลูกสาวแรงๆ ด้วยความรัก เขาต้องไปทำงานอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เดือนนภาที่เป็นลูกสาวคนโตเริ่มเข้าประถม และดาวลดาซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กมีอายุแค่หนึ่งขวบ เหตุผลที่เขาไปครั้งนั้นก็เพื่อความอยู่รอดของปากท้อง และไปเพื่อลืมความเจ็บช้ำที่ต้องสูญเสียภรรยาสุดที่รัก เขาทำงานอย่างหนักเพื่อเก็บเงินส่งกลับมาให้พี่สาวทั้งสองได้เลี้ยงดูลูกน้อยอีกสิบห้าปีต่อมาจึงกลับมาที่เมืองไทย ลงทุนร่วมหุ้นเปิดบริษัทรับเหมากับเพื่อนสนิท จนมีรายได้เป็นกอบเป็นกำจำนวนมหาศาลภายในระยะเวลาแค่สามปี แต่เงินทองไม่เคยเข้าใครออกใคร ในที่สุดเขาก็จับได้ว่าถูกเพื่อนสนิทที่รักมากที่สุดโกง จึงตัดสินใจถอนตัวออกมาโดยไม่ได้เครื่องมืออะไรมาสักอย่าง แต่เขาก็ไม่เคยเสียใจ เพราะตลอดเวลาสามปีเขาก็เก็บเกี่ยวมาได้เยอะพอสมควร จึงคิดเสียว่าของพวกนั้นมอบให้เพื่อนเพื่อเป็นการต่อทุนให้มันเมื่อแยกตัวกับเพื่อนแ
บทที่ 4 ต้องเป็นแบบนี้เพราะใครที่เธอต้องเป็นแบบนี้เพราะใครกัน.. ก็เพราะเขานั่นแหละ ถ้าเธอไม่ทะเลาะกับเขา เพราะจับได้ว่าเขานอนอยู่กับผู้หญิงคนอื่น เธอก็คงไม่วิ่งเตลิดออกมาจนโดนรถมอเตอร์ไซค์ชนจนสลบคาที่ แต่เธอก็หายโกรธเขาเป็นปลิดทิ้ง เมื่อฟื้นขึ้นมาในห้องนี้แล้วเห็นเขานั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง พร่ำคำขอโทษไม่ขาดปาก และนอนเธอมาทั้งคืน เธอมีความสุขและหายโกรธเขาสนิทใจ จนกระทั่งดาวลดามาถึง ผู้หญิงคนเดียวที่เธอยอมหลีกทางให้ เพราะรู้ว่าพิษนุรักหล่อนมากเพียงใด“ไม่ได้หรอกคุณก้อย ถ้าทำแบบนั้นจริง ๆ ผมคงเป็นเจ้านายที่แย่ที่สุด”“ถ้าอย่างนั้นปีนี้ก็เพิ่มโบนัสให้พวกเราอีกสักเดือนสิคะ รับรองคุณเต้เป็นเจ้านายที่ดีมากที่สุดในโลกแน่ ๆ” ทุกคนต่างหัวเราะออกมาเมื่อวาสนาพูดจบ“ไม่มีปัญหาครับ ผมจะเพิ่มโบนัสให้ทุกคน แต่หักโบนัสของพี่หนาออกดีไหม”“ถ้าอย่างนั้นขอรับเท่าเดิมก็ได้ค่ะ” วาสนาทำหน้างอก่อนหัวเราะออกมา เมื่อเห็นทุกคนหัวเราะด้วยความพอใจ“ก้อยแกเป็นยังไงบ้างวะ พอรู้ข่าวฉันกับป้าหนาก็รีบมาดูแกเลยนะ แกรู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงแกแค่ไหน” ถึงแม้จะคลางแคลงใจ แต่มิตรภาพระหว่างเพื่อนสำคัญที่สุด ดาวลดาจึงทิ้งเรื่องส่วน