เข้าสู่ระบบดาวลดาชวนไกด์ร่วมงานอีกสองคนเดินไปที่ลิฟต์ เมื่อจัดการเรื่องห้องพักให้ลูกทัวร์เรียบร้อยแล้ว
“แยม เมื่อกี้พนักงานโรงแรมบอกว่ามีข้อความฝากถึงหนูน่ะ” ศรันยูบอกกับไกด์สาวรุ่นน้อง
“ขอบคุณค่ะพี่ยู น้องหนูขึ้นไปกับพี่ยูก่อนนะเดี๋ยวพี่ตามไป ฝากน้องขึ้นไปด้วยนะคะพี่ยู”
“โอเค”...
“สวัสดีค่ะ ฉันแยมมี่ค่ะ มีข้อความฝากถึงฉันหรือคะ” เธอเดาว่าน่าจะเป็นพี่สาว เพราะเป็นคนเดียวในเกาหลีที่รู้เบอร์โทรที่พักของเธอทุกแห่ง เพราะเมื่อเธอเดินทางมาที่นี่ทุกครั้ง เธอจะส่งรายละเอียดเกี่ยวกับที่พักไปให้พี่สาวเสมอ
“นี่ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” ดาวลดารับมาอ่าน มีข้อความสั้นๆ กับเบอร์โทรให้ติดต่อกลับด่วน “มินวูนี่นา” หญิงสาวฉีกยิ้มเมื่อนึกถึงน้องชายกำมะลอที่น่ารักคนนั้น เขายังไม่ลืมเธอ
ดาวลดายืนรออยู่อีกครู่ใหญ่ กะเวลาให้สมฤดีเข้าห้องพักแล้วจึงบอกพนักงานให้ต่อเบอร์ห้องให้ เพื่อแจ้งให้หญิงสาวทราบว่าตัวเองจะไม่กลับขึ้นห้อง
“ขอโทษนะที่ปล่อยให้นอนคนเดียวอีกแล้ว”
(ไม่เป็นไรค่ะพี่แยม หนูเตรียมใจมาก่อนเดินทางแล้วค่ะ เพราะพี่ๆ ที่เขาเคยมากับพี่แยมเขาบอกให้หนูทำใจไว้แล้ว เขาว่าพี่มาเกาหลีทีไรต้องแวบออกไปหาพี่สาวทุกครั้ง หนูไม่ต้องคิดมากนะ)
หญิงสาวอดหัวเราะไม่ได้เมื่อได้ยินคำพูดของสมฤดี “ช่างร้ายเหลือ ใครกันนะที่กล้านินทาพี่แยมคนสวย”
(ทุกคนเลยค่ะพี่แยม คิกๆ ๆ พี่แยมไม่ต้องห่วงหนูนะคะ ตามสบายเลยค่ะ ขอแค่กลับมาให้ทันตอนเช้าเท่านั้นพอ เพราะหนูยังไม่ค่อยชำนาญ)
“โอเคจ้ะ ขอบใจมากนะ” วางสายจากสมฤดีแล้วจึงกล่าวขอบคุณพนักงาน
“พี่สาวเหรอครับ!.. สวัสดีครับพี่สาว ตอนนี้พี่อยู่ที่ไหนครับ” เมื่อรู้ว่าคนที่โทรมาคือพี่แยมมี่ เขาก็เก็บความดีใจไว้ไม่อยู่ ลุกพรวดจากที่นั่งและถามกลับไปอย่างตื่นเต้น พลอยทำให้เพื่อนร่วมวงที่กำลังดื่มกินกันอยู่สะดุ้งตกใจและมองมาที่เขาเป็นจุดเดียวกัน
(อยู่ที่โรงแรมจ้ะ มินวูคิดถึงพี่เหรอ ถึงได้โทรหา)
“ใช่ครับ พี่สาวครับวันนี้วันเกิดผม แต่ไม่มีใครซื้อเค้กให้ผมเลย พี่สาวจะซื้อเค้กให้ผมและมาฉลองวันเกิดกับผมได้ไหมครับ” มินวูเริ่มปฏิบัติการออดอ้อนตามที่ตนถนัด
(จริงเหรอ สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะมินวู ขอให้มี)
“ไม่เอาครับ ผมไม่อยากได้คำอวยพรผ่านทางโทรศัพท์ ผมอยากให้พี่สาวมาอวยพรให้ผมที่นี่พร้อมกับเค้ก นะครับพี่สาว มาฉลองวันเกิดกับผมนะครับ”
(... ที่ไหนเหรอ)
“สุดซอยบ้านประธานวูแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามทาง จะมีหอพักสีชมพูฟ้าตั้งเด่นอยู่ เลยไปอีกนิดจะเป็นบ้านเดี่ยว หลังนั้นเลยครับ”
(แล้วมีใครไปบ้างล่ะ ประธานวูกับภรรยาไปหรือเปล่า)
“พวกเขาบอกว่าจะแวะมาครับ ผมได้เบอร์โรงแรมที่พักของพี่สาวมาจากคุณนายวูนี่แหละครับ” เขาบอกเธอตามความจริงเพราะกลัวเธอไม่เชื่อ “พี่สาวต้องมานะครับ ผมอยากอวดพี่สาวให้เพื่อนๆ ได้รู้จักด้วย นะครับพี่สาว”
(โอเคจ้ะ พี่จะไป แต่ไปได้แค่แป๊บเดียวนะ)
“เย้ๆ ขอบคุณครับพี่สาว รีบมาเร็วๆ นะครับผมจะรอ” มินวูตัดสายด้วยใบหน้าเป็นสุข
“เฮ้! มินวู เค้กจากแฟนคลับของนายตั้งหลายสิบกล่องนี่ยังไม่มีปัญญากินเลย นายยังมีหน้าเรียกร้องหามันอีกเหรอ” หนุ่มหน้าหวานนามว่าดงโฮที่เป็นหนึ่งในสมาชิกวงพลีสขัดขึ้นด้วยความหมั่นไส้ ชี้ไปที่กล่องเค้กเกือบสี่สิบกล่องที่เหล่าแฟนคลับเอาไปฝากไว้ที่บริษัทเมื่อช่วงเย็น
“ก็เอามาแบ่งให้เพื่อนๆ คนอื่นด้วยไง” มินวูชี้ไปที่หอพักซึ่งอยู่ห่างกันไม่มาก
“แล้วตอนนี้มีใครอยู่บ้างล่ะ ทุกคนเขาก็มีกิจกรรมกันทั้งนั้น มีแต่วงเรานี่แหละที่ว่างวันนี้ เฮ้อ! ช่างเป็นวันเกิดที่เหงาหงอยเหลือเกิน” หนุ่มหน้าใสที่ชอบบริหารเสน่ห์ใส่สาว ๆ นามว่าดงซิกพูดขึ้น
“สำหรับนายแล้วถึงจะมีคนเป็นร้อย แต่ถ้าไร้ผู้หญิงก็กลายเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่ายเหมือนกันแหละ” หนุ่มน่ารัก เป็นผู้ใหญ่เกินตัวนามว่าอินซูกล่าวขัดคอดงซิกเนิบ ๆ ก่อนหยิบน้ำส้มขึ้นมาดื่ม
“พี่อินซูพูดถูกที่สุด ใครบอกว่าคนน้อยเดี๋ยวก็ต้องมีคนมาเพิ่ม คุณเจสัน ประธานวูและภรรยา พี่เฮียวริแล้วยังพี่สาวฉันอีกล่ะ นั่นไงประธานวูกับภรรยามาแล้ว” มินวูชี้ไปที่รถที่วิ่งเข้ามาจอด ได้แต่โบกมือทักทายแต่ไม่ได้เดินลงไปรับ เพราะรู้ว่าประธานวูรู้ทางเข้าออกบ้านหลังนี้ดี หลังจากนั้นไม่นานผู้จัดการวูหรือพี่เฮียวริก็มาถึงพร้อมกับเพื่อนสาวที่เป็นนักแสดงชื่อดังนามว่าฮานิ
ไม่นานหลังจากนั้นคนที่มินวูรอคอยก็มาถึง เขารู้ว่าต้องเป็นเธอเพราะรถที่จอดหน้าประตูรั้วคือรถแท็กซี่ไม่ใช่รถยนต์ส่วนตัว จึงรีบวิ่งลงไปรับด้วยความดีใจ
“พี่สาว” มินวูไม่สนใจว่าเธอจะรู้สึกยังไง เขารู้แต่ว่าเขาดีใจมากที่ได้พบเธอ จึงรีบวิ่งเข้าไปกอดและหอมแก้มนวลนั้นหนึ่งที ถึงแม้จะเพิ่งเจอกันแค่สองครั้งแต่เขาก็เห็นว่าเธอเป็นพี่สาวจริง ๆ ไปแล้ว ดังนั้นการทำแบบนี้จึงไม่รู้สึกผิดอะไร
“มินวู!” ดาวลดากุมแก้มด้วยความตกใจ
“ขอโทษครับที่ทำให้พี่สาวตกใจ แต่ผมดีใจที่เจอพี่สาวนี่นา” มินวูทำหน้าเศร้าลุแก่โทษ เขาไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝงเลยนะ นอกจากความรู้สึกแบบพี่สาวน้องชาย “ผมคิดว่าพี่แยมมี่เป็นพี่สาวของผมจริง ๆ นะครับ ไม่ได้มีความรู้สึกอื่นแอบแฝงเลย”
“พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ แค่ตกใจกับการต้อนรับของนายเท่านั้นเอง” เห็นหน้าเศร้า ๆ ของเขาแล้วก็ตำหนิไม่ลงจริง ๆ
“เย้ ๆ รักพี่สาวที่สุดเลยครับ ไปครับ เข้าบ้านกันดีกว่า คุณนายวูมาถึงได้สักพักแล้วครับ” เขาคว้ามือของเธอมาจูงแล้วเดินนำเข้าบ้าน “นั่นเค้กของผมหรือเปล่าครับ ถ้าใช่ก็ส่งมาผมจะถือเอง” เขาทวงพร้อมรอยยิ้ม
ดาวลดาหัวเราะเบาๆ ยื่นกล่องเค้กให้ชายหนุ่ม “พี่ไม่รู้ว่าเค้กร้านไหนอร่อย และไม่รู้ว่าเธอชอบเค้กรสไหนก็เลยซื้อรสที่พี่ชอบกินมาแทน หวังว่าเธอจะชอบและกินอย่างอร่อยนะมินวู”
“ผมกินได้ทุกรสแหละครับถ้าพี่สาวซื้อให้”...
หญิงสาวเบี่ยงหน้าไปมองคนรัก ยื่นปากรับจูบที่เขาส่งมาแล้วยิ้มกว้าง ก่อนหันกลับไปมองบรรยากาศเบื้องหน้าที่มีต้นไม้ใหญ่และสนามหญ้า มันไม่มีอะไรพิเศษ มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความมืดสลัวที่มีแค่แสงไฟประปราย จึงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อมองดวงดาวที่ส่องแสง“คืนนี้ดาวเยอะดีนะคะ”“ครับ” เขาตอบและฝังจูบลงบนศีรษะเธอ “คืนนี้สระผมด้วยนะครับ”ดาวลดากลั้วหัวเราะเมื่อถูกเขาหยอกเอินเรื่องผม เอนหลังไปพิงกับแผ่นอกกว้างแสนอบอุ่นของเขา“ตอนนี้ฉันมีความสุขมากที่สุดเลยค่ะเจสัน ฉันคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่หนีมารักษาแผลใจที่นี่”ชายหนุ่มโอบกอดคนรักไว้แน่น เกยคางกับศีรษะของเธอเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มสุขใจ มองขึ้นไปบนท้องฟ้ากว้างที่ประดับด้วยหมู่ดาวพราวระยับ“คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหมครับแยม”“คุณว่าคู่ของเราเป็นพรหมลิขิตหรือคะ” เธอกอดแขนที่กอดเธอไว้เจสันโน้มหน้าลงไปใกล้หูของคนรัก “เมื่อก่อนลมหายใจ ก็คิดว่าเป็นของฉัน แต่พอได้พบเธอ เพิ่งรู้จริง ๆ ลมหายใจคือเธอเท่านั้น มีคนเป็นล้านคน ช่างไร
ฉันจะจ้างกลุ่มแอนตี้แฟนมาจัดการเธอ ผู้หญิงร้ายกาจ ผู้หญิงหน้าไม่อาย เซมีกร่นด่าอีกฝ่ายอยู่ในใจ ส่งสายตาเรืองรองตามเธอไปไม่ลดละ เมื่อเล่นงานซึ่ง ๆ หน้าไม่ได้ ก็จะขอตามรังควานให้เธออยู่อย่างไม่มีความสุข ให้ความรักของเธอลุ่ม ๆ ดอน ๆ จนต้องเลิกกันไปเลยเซมีมองไปโดยรอบ เมื่อไม่เห็นใครมองมาทางนี้ก็รีบเดินตามดาวลดาไปใกล้ ๆ จงใจกระแทกอีกฝ่ายให้ล้มคะมำ แต่โชคไม่เข้าข้างเธอสักนิด เพราะหล่อนดันเบี่ยงตัวไปอีกทางพอดี คนที่เสียหลักจนล้มจึงกลายเป็นตัวเธอเองดาวลดายืนนิ่งอยู่กับที่ มองหญิงสาวที่กองอยู่กับพื้นด้วยความตกใจ แต่เมื่อเห็นสายตาเรืองรองที่ค้อนใส่ก็ค่อย ๆ เข้าใจอะไรมากขึ้น หล่อนจงใจแกล้งเธอ แต่บังเอิญเหลือเกินที่โทรศัพท์เธอดังขึ้นพอดี จึงตั้งใจเดินไปอีกทางเพื่อหามุมคุยสาย หล่อนก็เลยพลาดเสียเองสินะ“เจ็บไหมคะคุณเซมี เดินระวังหน่อยสิคะ รีบลุกขึ้นเร็ว ๆ ค่ะ ก่อนที่คนอื่นจะเห็นเข้า จะได้ไม่ต้องอายมาก”เห็นสายตาที่เต็มไปด้วยแววเยาะเย้ยของอีกฝ่าย ก็รู้สึกโมโหมากกว่าอาย แต่อารมณ์อยากเอาชนะยังมีอยู่ จึงแสร้งทำเป็นยื่นมือไปหาเธอ“ช่วยดึงฉันขึ้นหน
“ทำเป็นเอาน้องมาอ้าง ความจริงอยากไปดูศิลปินค่ายอื่นมากกว่า ผมพูดถูกใช่ไหม” นอกเหนือจากที่พูดแหย่ไป เขารู้ว่าเธอผูกพันกับมินวูมากยิ่งขึ้นหลังจากอุบัติเหตุครั้งนั้น“ถูก” หญิงสาวยิ้มกว้างให้คนรักที่มองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก“ผมให้คุณไปอยู่แล้ว แต่คุณอย่าเอาแต่สนุก ไปกับพวกเขาจนลืมผมล่ะ”“ถึงฉันจะรักมินวูเขามากแค่ไหน แต่ก็ยังน้อยกว่าคุณอยู่เท่านี้” เธอยกมือขวา ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้กะระยะความต่างประมาณหนึ่งข้อนิ้ว“แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว ขอแค่มากกว่าผมก็ไม่อิจฉามินวูเขาแล้ว” เขาตอบแบบคนใจป้ำ“คุณเป็นคนใจแคบตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย”“ตั้งแต่มีคุณเป็นแฟนนี่แหละ”“นึกว่าตั้งแต่เกิด” เธอเลิกคิ้วค้างไว้ ชักสีหน้าอมยิ้มยียวน“พูดแบบนี้จูบโชว์คนในกองซะดีไหม”“ไม่ดี” ดาวลดารีบส่ายหน้าแล้วลดเสียงพูดให้เบาลงกว่าเดิมอีกหน่อย “ไว้จูบที่บ้านคืนนี้ดีกว่าค่ะ เผื่อจะได้มากกว่านั้น”เจสันหรี่ตา เอียง
“พวกเราเป็นห่วงพี่มากเลยครับ โทรมาถามอาการจากพี่เจสันทุกวันเลย” ดงโฮพูดขึ้นบ้าง“ตอนที่มินวูวิ่งออกไปกลางรายการพวกเราตกใจมากเลยครับ พอรู้ว่าพี่สาวประสบอุบัติเหตุพวกเราไม่มีกะจิตกะใจจะถ่ายต่อเลยครับ” ดงซิกเล่าบ้างดาวลดาคลี่ยิ้มมองชายหนุ่มรุ่นน้องด้วยความซาบซึ้งใจ “พี่หายดีแล้วเราจัดปาร์ตี้กันนะ พี่เฮียวริ คุณฮานิด้วยนะคะ”“ครับผม” ชายหนุ่มทั้งสี่รีบตอบรับ“มินวูเข้ามาใกล้ ๆ พี่หน่อย ขอพี่กอดหน่อยสิ” เจสันบอกว่าเขาคือคนที่ช่วยต่อชีวิตให้เธอ เพราะเขามีกรุ๊ปเลือดพิเศษเหมือนกับเธอชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้กับหญิงสาวแล้วโน้มตัวลงไปหา ปล่อยให้เธอโอบกอดด้วยความเต็มใจ“ขอบใจนะ ถ้าไม่ใช่เพราะเลือดของเธอ พี่อาจจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาคุยอยู่แบบนี้”“ไม่ได้มีเฉพาะผมคนเดียวนะครับที่อยากช่วยพี่แยมมี่ มีอีกเป็นพันคนที่อยากช่วยพี่”“แต่อีกหลายพันคนที่ว่าฉันแค่แถลงข่าวขอบคุณเท่านั้นเอง ไม่เห็นต้องให้กอดแบบนาย” เจสันเข้ามาตอนไหนไม่มีใครเห็น แต่ทุกคนได้ยินน้ำเ
“ต่อให้มีอีกหมื่นข้อความหรือหมื่นของฝากผมก็ไม่รู้สึกดีหรอกพี่ ตราบใดที่คุณแยมเธอยังไม่ฟื้น” เขารู้สิ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายพีอาร์จัดการไปเดือนนภาแตะมือลงบนบ่าของเจสัน “เธอจะต้องฟื้น ตอนนี้เธอแค่นอนพักผ่อนเพื่อชาร์ตพลัง หลังจากที่ต้องเหนื่อยมานาน”“ครับพี่สะใภ้ครับ” ชายหนุ่มยิ้มบาง ๆ “พี่สะใภ้ครับเรื่องนี้คุณพ่อกับคุณป้าทั้งสองท่านทราบหรือยัง” เขาถามเมื่อนึกขึ้นได้“พี่ไม่อยากให้พวกท่านหัวใจวาย คุณหมอก็ยืนยันว่าแยมเขาปลอดภัยดีแล้ว พี่เลยตัดสินใจไม่บอกให้พวกท่านรู้จะดีกว่า”“จะดีหรือครับ ถ้าท่านรู้เข้าท่านอาจจะโกรธผมนะครับ” แค่นี้ท่านก็ไม่อยากได้เขยต่างชาติอยู่แล้ว ถ้ารู้เรื่องนี้เข้าทีหลังคงพาลูกสาวกลับไปแน่ ๆ“พี่เชื่อว่าแยมก็คิดแบบเดียวกับพี่.. หรือว่าเธอเบื่อน้องสาวพี่แล้วก็เลยเอาพ่อมาอ้าง พ่อพี่จะได้รีบมารับแยมเขากลับไป” เดือนนภาแกล้งทำสีหน้าจริงจังเจสันรีบโบกมือปฏิเสธพัลวัน “ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ ผมรักแยมมี่แทบตายพี่ก็น่าจะทรา
“ถ้าอย่างนั้นวันนี้ทุกคนก็แยกย้ายกลับไปพักผ่อนกันเถอะ ขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลยนะครับ” วูซองอาเป็นคนพูดขึ้นหลังจากทีมแพทย์ทั้งหมดเดินจากไปแล้ว“ครับ/ค่ะ”“ขอบคุณทุกคนมากนะครับ เอาไว้แยมมี่หายดีแล้วผมจะเลี้ยงอาหารตอบแทนน้ำใจนะครับ” เจสันพูดขึ้นมาบ้าง สบตากับน้องชายกำมะลอของคนรักด้วยความซาบซึ้งใจ ก่อนเดินเข้าไปกอด “โดยเฉพาะนายนะมินวู ขอบใจมากจริง ๆ”มินวูกอดตอบแล้วผละออก “เธอเป็นพี่สาวผมนะ พี่จะทำคะแนนคนเดียวได้ยังไง” ทำเป็นพูดติดตลกด้วยเสียงที่สั่นเครือ “ความจริงผมอยากอยู่เป็นเพื่อนพี่นะ แต่พรุ่งนี้พวกเราต้องไปแฟนมีตที่ญี่ปุ่นแต่เช้าเลยไม่สะดวก ฝากบอกพี่สาวด้วยว่าให้คอลหาเราด้วย เราอยากนัดเธอไปดูหนัง”“ฉันจะบอกเธอให้นะ” เจสันรับปากแล้วเดินไปส่งทุกคนที่ลิฟต์“คุณเจสันครับ ถ้าทราบหมายเลขห้องแล้วโทรบอกผมนะครับ ผมจะเอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน” คังวูวานบอกกับเจ้านายก่อนเดินเข้าไปในลิฟต์“ขอบคุณมากครับคุณคัง”หนึ่งคืนกับหนึ่งวันผ่







