หลังจากจัดการงานทุกอย่างที่ไร่เสร็จแล้วฐากูรก็ยกลังไวน์ขึ้นหลังรถกระบะก่อนจะขับรถเข้ามาในเมืองวันนี้เขาต้องส่งไวน์ให้กับร้านอาหารของคุณนีรนุชลูกค้าประจำ
“สวัสดีค่ะคุณฐา คุณวันนี้มาส่งเองเหรอคะ”
“สวัสดีครับคุณนุช ผมจะเข้ามาทานข้าวที่นี่อยู่แล้วก็เลยเอาไวน์มาส่งเองจะได้ไม่เสียเที่ยวครับ” เขาพูดขณะยกกล่องไวน์เข้าทางหลังร้าน
“ขอบคุณนะคะที่เอาไวน์มาส่งก่อนเวลา ช่วงนี้ลูกค้าสั่งไวน์กันเยอะก็เลยต้องสั่งด่วน”
“ไม่เป็นไรครับ ลูกค้าคุณนุชเยอะผมเองก็ขายไวน์ได้เยอะ” เขายิ้มก่อนจะยกไวน์ลังสุดท้ายเข้าไปวางในห้องครัวจากนั้นก็เดินออกมาด้านหน้าเลือกโต๊ะนั่งประจำของตนเองก่อนจะสั่งเมนูคุ้นเคยมาทาน
ระหว่างรออาหารนีรนุชก็มาชวนคุย
“เมื่อวานลูกสาวฉันไปกวนอะไรคุณฐาหรือเปล่าคะ”
“ไม่หรอกครับเธอก็เหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป”
“ถ้าลูกสาวของฉันไปกวนคุณฐาบอกมาได้เลยนะคะ เนสยังเด็กไม่ค่อยรู้กาลเทศะเท่าไหร่บางครั้งก็ติดจะพูดมากไปหน่อย ฉันกลัวคุณฐาจะรำคาญค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับแล้วนี่เจ้าตัวไปไหนล่ะ ปกติผมจะเห็นมาคอยรับออเดอร์”
“ไม่สบายค่ะ”
“อ้าวเป็นอะไรล่ะครับ”
“ก็คงตากแดดทั้งวันน่ะค่ะก็เลยเป็นไข้”
“ผมขอโทษนะครับที่พาลูกสาวคุณนุชไปตากแดด” ฐากูรพูดอย่างรู้สึกผิด
“คุณฐาจะขอโทษทำไมคะ ฉันรู้ดีค่ะว่าลูกสาวของฉันน่ะดื้อแค่ไหน”
“แต่ผมรู้สึกผิดจังเลยครับ”
“คุณฐาอย่ารู้สึกแบบนั้นเลยค่ะ ลูกสาวของฉันไม่เคยตากแดดแบบนั้นมาก่อน แต่เธอก็บอกว่าสนุกมากและถ้าหายก็อยากจะเข้าไปที่ไร่อีก”
“ผมว่ารอให้หายดีก่อนเข้าไปดีกว่านะครับ ตอนนี้องุ่นส่วนใหญ่ก็ตัดเกือบหมดแล้วไม่ค่อยน่าเที่ยวเท่าไหร่”
“เนสบอกว่าอยากจะไปดูโรงบ่มไวน์”
“ครับ ผมสัญญาไว้ว่าจะพาไป เอาไว้ถ้าวันไหนผมเข้ามาแล้วเธอจะติดรถไปก็ได้ไม่มีปัญหาอะไรเลย”
“ขอบคุณนะคะ มื้อนี้ให้ฉันเลี้ยงเป็นการตอบแทนได้ไหมที่คุณฐาให้ลูกสาวของฉันไปเที่ยวที่ไร่และคงมีหลายครั้งที่เธออจะไปรบกวนคุณ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณนุชเมื่อวานลูกสาวคุณก็พาผมไปเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวกับขนมปังสังขยามาแล้ว”
“นี่ลูกสาวของฉันเลี้ยงคุณไปแล้วเหรอคะ”
“ครับ เธอยังบอกผมอีกด้วยนะครับว่าถ้าวันไหนผมมาทานอาหารที่ร้านเธอจะเป็นคนทำอาหารให้ผมทานเอง”
“เนสพูดแบบนั้นเหรอคะ”
“ครับแต่ผมก็ไม่รู้หรอกว่าเธอทำอาหารเป็นหรือเปล่า”
“เนสทำอาหารได้ทุกอย่างเลยค่ะ แต่อาจจะทำช้าไปหน่อยส่วนเรื่องรสชาติก็พอได้อยู่ เอาไว้ถ้าคุณฐามาครั้งหน้าฉันจะให้เนสเป็นคนทำนะคะ”
“ได้ครับ” ชายหนุ่มยิ้มให้กับเจ้าของร้าน นีรนุชยิ้มตอบก่อนจะกลับเข้ามาทำงานในครัว
ฐากูรทานสเต๊กไปด้วยและใช้ความคิดไปด้วยเขารู้สึกผิดที่ไม่ห้ามตอนเธอตามเขาไปดูคนงานตัดองุ่นในช่วงบ่าย
เขารู้ว่าแดดมันร้อนมากถึงแม้เธอจะนั่งดูอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่บ้างลงมาตัดองุ่นบ้างแต่คนที่ไม่เคยโดนแดดนานๆ ก็คงจะทนไม่ไหว
หลังจากทานอาหารเสร็จเขาก็ขับรถเอามาจากร้านแต่ในใจก็ยังเป็นกังวลชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองเบอร์โทรศัพท์ที่เนสิตาบันทึกไว้ให้เมื่อวานแล้วตัดสินใจกดโทรออก รอไม่นานปลายสายก็กดรับ
“สวัสดีค่ะคุณฐาคิดถึงเนสเหรอคะถึงได้โทรมา” เธอถามด้วยน้ำเสียงสดใส
“ผมไปทานข้าวที่ร้านแม่คุณบอกว่าคุณไม่สบาย”
“เนสแค่ตัวร้อนนิดหน่อย”
“แล้วตอนนี้ดีขึ้นหรือยัง”
“เมื่อกี้ยังเป็นไข้นิดหน่อย แต่พอเนสได้ยินเสียงคุณฐาปุ๊บก็หายทันทีเลยค่ะ” เนสิตาพูดไปหัวเราะไปอย่างอารมณ์ดี เธอดีใจมากที่ฐากูรโทรศัพท์มาหา
“ผมไม่ใช่หมอแล้วไม่ใช่ยานะที่คุยแล้วจะหาย ผมถามจริงๆ ว่าตอนนี้อาการเป็นยังไงบ้าง”
“เนสดีขึ้นแล้วค่ะพรุ่งนี้ก็น่าจะไปที่ไร่คุณฐาได้แล้วค่ะ คุณจะเข้ามากินข้าวที่ร้านไหม เนสจะได้เตรียมตัวค่ะ”
“เพิ่งหายไข้อย่าพึ่งไปเลย”
“ก็คุณฐาสัญญาแล้วว่าจะพาเนสไปดูโรงบ่มไวน์นี่คะ”
“โรงบ่มไวน์อากาศค่อนข้างเย็นแล้วคุณเพิ่งหายจากไข้ผมว่าเว้นระยะไว้สักสองวันก่อนดีไหม องุ่นโรงบ่มมันไม่หนีไปไหนหรอก”
“คุณฐาปฏิเสธเพราะไม่อยากให้เนสกลับไปที่นั่นใช่ไหมคะ คุณฐารำคาญหรือเปล่า”
“ผมทำแบบนั้นไปทำไมล่ะ แล้วผมก็ไม่ได้รำคาญด้วย”
“ถ้างั้นเนสรอให้หายดีก่อนก็ได้ค่ะ แต่เนสขออะไรอีกอย่างได้ไหมคะ”
“ขออะไรล่ะ”
“คุณฐาพาเนสไปเล่นน้ำที่น้ำตกได้ไหม”
“ผมบอกแล้วว่ามันไม่ใช่น้ำตกมันเป็นแค่ธารน้ำเล็กๆ เองนะ ผมว่าถ้าคุณเห็นอาจจะหมดสนุกก็ได้”
“คุณฐาต้องพาไปดุก่อนแล้วเนสจะบอกเองว่ามันสนุกไหม”
“เอางั้นก็ได้”
“แล้วคุณจะเข้ามาที่ร้านอีกวันไหนคะ”
“ยังไม่แน่ใจเลย เอาไว้ถ้าผมจะเข้ามาผมจะโทรบอกก็แล้วกันนะ วันนี้คุณพักผ่อนเถอะ”
“โทรมาคุยแค่นี้เองเหรอคะเนสยังไม่หายเหงาเลยเนสอยู่บ้านคนเดียวเหงามาก”
“เหงาก็หาอะไรทำสิตอนนี้ผมต้องขับรถกลับไร่แล้ว”
“ก็ได้ค่ะ แต่ถ้าคุณถึงไร่แล้วเนสโทรหาได้ใช่ไหมคะ”
“ก็คงได้ ผมว่างก่อนนะ”
ชายหนุ่มวางสายแล้วก็ขับรถเพื่อกลับไปยังบ้านของตนเองที่อยู่ภายในไร
ฐากูรรู้สึกแปลกใจตัวเองมากที่เป็นคนโทรศัพท์ไปหาเนสิตาและคุยกับเธอเหมือนกับรู้จักกันมานานทั้งที่เพิ่งเคยเจอกันไม่กี่ครั้ง เขาคิดว่าอาจเป็นเพราะเธอเป็นหลานสาวของนวพลรุ่นพี่ที่เขารู้จักมานานก็เลยสนิทสนมกับเธอได้ง่ายขึ้น อีกอย่างมารดาของเธอก็เป็นลูกค้าของเขามาปีกว่าแล้วบางทีความคุ้นเคยนี้มันอาจจะมาจากเหตุผลนี่ก็ได้
ชายหนุ่มขับรถด้วยความเร็วปกติใช้เวลาจากในเมืองมาถึงไร่ประมาณครึ่งชั่วโมงเขาอาบน้ำแต่งตัวเลยนั่งทำงานต่อแต่ทำงานได้ไม่นานเนสิตาก็โทรศัพท์เข้ามาเสียก่อน
“คุณฐาถึงได้นานแล้วใช่ไหม”
“ถึงได้สักพักแล้ว คุณล่ะยังไม่นอนอีกเหรอ”
“ยังค่ะเนสรอแม่ ระหว่างที่เนสรอแม่กลับมาจากร้านคุณฐาคุยเป็นเพื่อนเนสได้ไหม”
“ผมเป็นคนคุยไม่เก่งนะอาจจะหนักไปทางฟังมากกว่า อยากคุยอะไรล่ะ”
“ก็คุยเรื่องไร่ของคุณฐาค่ะ เนสสนใจอยากเข้าไปเรียนรู้งานที่ไร่ได้ไหมคะ”
“อยากจะเรียนรู้ไปทำไม”
“เผื่ออนาคตได้ไปทำงานที่นั่น ช่วงปิดเทอมเนสอยากหาอะไรทำแก้เบื่อ”
“แล้วงานที่ร้านล่ะ”
“ที่ร้านมีคนทำงานแล้วค่ะ”
“ถ้าอยากมาก็มาได้ผมไม่ว่าอะไรหรอก แต่ต้องให้แม่อนุญาตด้วยนะ” เขาไม่ขัดข้องที่เธอจะมาแต่นั่นต้องไม่ทำกระทบกับงานที่ร้านของคุณนีรนุช
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับความฝัน ตอนนี้เนสิตาเรียนจบแล้ว หลังจากผ่านงานรับปริญญามาเมื่อเดือนก่อน วันนี้ก็เป็นวันสำคัญของเธออีกหนึ่งวันเนสิตา“เสร็จแล้วค่ะคุณเนส สวยที่สุดเลยค่ะ” ช่างแต่งหน้าเอ่ยชม“ขอบคุณนะคะ เนสเกือบจำตัวเองไม่ได้เลย” หญิงสาวพูดกับช่างแต่งหน้าและช่างทำผมที่มาช่วยแต่งตัวอยู่นานนับชั่วโมงเนสิตายืนนิ่งอยู่หน้ากระจกเงาบานใหญ่วันนี้เธอสวมแต่งงานขาวตัดเย็บอย่างประณีตด้วยช่างฝีมือดีที่ฐากูรเป็นคนติดต่อให้ เธอใช้มือลูบไล้ไปตามเส้นผมที่ถูกเกล้าขึ้นอย่างบรรจง เผยให้เห็นลำคอระหงที่เคยเป็นที่ปรารถนาของว่าที่เจ้าบ่าว เนสิตาจำได้ดีถึงสัมผัสร้อนแรงและคำกระซิบหวานๆ ที่ฐากูรมอบให้ในค่ำคืนเหล่านั้นและวันนี้คือวันที่ทุกความปรารถนาระหว่างเธอกับเขาจะถูกเติมเต็มอย่างถูกต้องทั้งนิตินัยและพฤตินัย“นี่ฉันจริงๆ เหรอเนี่ย...” เธอพึมพำกับตัวเอง เสียงหวานแผ่วเบาแทบไม่ได้ยิน ภาพเจ้าสาวในกระจกนั้นงดงามเกินกว่าที่เธอเคยจินตนาการไว้หลายเท่าและในอีกไม่กี่ชั่วโมงเธอกำลังจะก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ที่ยิ่งใหญ่ บทบาทของภรรยาฐากูรชายหนุ่มที่เธอรักหมดหัวใจความตื่นเต้นปนความประหม่าแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่าง เ
เมื่อคนรักขอมีหรือเขาจะไม่ทำตาม ฐากูรก้มลงมาจูบเธออีกครั้ง จูบนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งหวานและเร่าร้อนขึ้นทุกขณะ ยิ่งจูบก็ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ปรารถนาให้ลุกโชนเนสิตาก็ตอบสนองเขาได้ไม่ต่างกัน ลิ้นเล็กของหญิงสาวสอดแทรกเข้ามาหยอกล้อกับลิ้นของเขา ทำให้ชายหนุ่มครางในลำคออย่างพอใจฐากูรผละจูบออกเมื่อเธอเริ่มขาดอากาศ เขาไล้ปลายลิ้นจูบซับลงมาจากปลายคางมน ขบเม้มซอกคอขาวจนขึ้นรอยสีกุหลาบตีตราแสดงความเป็นเจ้าของไปทั่วผิวเนียนลิ้นร้อนลากไล้ผ่านฐานสีชมพูสวย ก่อนจะงับยอดทับทิมเข้าอุ้งปากร้อน เนสิตาได้แต่นอนดิ้นพล่านให้เขาได้ดูดกินอย่างที่ต้องการ“ผมชอบกินนมจากเต้าที่สุด”เขากระซิบก่อนจะลากไล้ลิ้นร้อนต่ำลงมายังกึ่งกลางลำตัว ขบเม้มท้องที่เรียบเนียนนิ้วร้ายลากต่ำสอดนิ้วเข้าไปยังจุดอ่อนไหวที่ตอดรัดทันทีเมื่อเขาเข้าไปได้เพียงนิดเดียว“อ๊ะ!...” เนสิตาสะดุ้งเฮือก“เจ็บเหรอ” ฐากูรถามอย่างอ่อนโยน“ไม่เจ็บ...แต่เนสเสียว”คำตอบของเธอทำให้เขายิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนที่จะขยับปลายนิ้วเข้าลึกไปจนสุดความยาว แล้วคว้านหมุน กดย้ำลงตรงจุดกระสันทางด้านในจนหญิงสาวร้องครางด้วยความเสียวซ่าน เธอขยับสะโพกไปตามจังหวะน
เช้ามืดวันรุ่งขึ้นฐากูรขับรถจากไร่มายังกรุงเทพฯ ทันที เขารู้สึกตื่นเต้นและประหม่าในเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มกลัวว่าเนสิตาจะไม่ยกโทษให้และถ้ามันเป็นแบบนั้นเขาคงทนไม่ได้อย่างแน่นอน แต่เขาก็จะทำอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้เธอกลับมาเป็นคนรักของเขาอีกครั้งเขาไปดักรอเนสิตาที่ด้านล่างหอพัก เมื่อเห็นร่างเล็กๆ ที่คุ้นเคยเดินออกมาจากประตูฐากูรก็รีบก้าวลงจากรถไปหาเธอทันที“เนส” ฐากูรดีใจมากที่ได้เจอกับอีกครั้งหลังจากไม่เจอกันนานเกือบสองสัปดาห์เนสิตาชะงักเธอหันมามองฐากูรด้วยความตกใจและดีเป็นอย่างมากดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อเห็นเขาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเธอคิดถึงเขาจนใจจะขาด“คุณฐา!” เนสิตาเอ่ยเรียกชื่อเขาด้วยเสียงสั่นเครือ น้ำตาเอ่อคลอขึ้นในดวงตาอย่างห้ามไม่ได้ฐากูรเดินเข้าไปหาเธออย่างรวดเร็ว เขากุมมือเนสิตาไว้แน่นเหมือนกลัวว่าเธอจะหนีไปไหน“ไปคุยกันในรถนะ”เนสิตาเดินตามเขาไปอย่างว่าง่ายในใจมีเรื่องราวมากมายที่อยากพูดคุยกับเขา“มีอะไรคะ” เธอถามออกไปแต่ไม่กล้ามองหน้าเขาเพราะกลัวฐากูรจะเห็นว่าตอนเธอคิดถึงเขามากแค่ไหน เรื่องที่เกิดขึ้นเธอเองก็มีส่วนผิดที่ไปบอกเลิกเขาทั้งที่ควรจะคุยกันด้วยเหตุผล“ผมขอโทษนะเนส
การคบกันอย่างเปิดเผยทำให้ฐากูรและเนสิตามีความสุขมาก เนสิตากลับบ้านบ่อยมากขึ้นโดยมีฐากูรเป็นคนรับส่ง และจะช่วยงานที่ร้านหนึ่งวัน ส่วนอีกหนึ่งวันก็ไปที่ไร่กับฐากูร พอช่วงปิดเทอมเธอก็ช่วยงานทั้งสองที่อย่างเต็มที่ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูจะดำเนินไปอย่างราบรื่นและงดงาม จวบจนกระทั่งเนสิตาขึ้นปีสี่และต้องไปฝึกงานเนสิตาได้เข้าฝึกงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เธอตั้งใจทำงานและเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้เป็นอย่างดี เธอมีรุ่นพี่คนหนึ่งที่สนิทสนมด้วยและคอยช่วยเหลือเธอทุกอย่าง ซึ่งนั่นทำให้ฐากูรเริ่มไม่พอใจ เขามาหาเนสิตาที่กรุงเทพฯ บ่อยขึ้น และทุกครั้งที่มาเขามักจะเห็นเนสิตาสนิทสนมกับรุ่นพี่คนนั้น ซึ่งทำให้เขาหึงหวงอย่างรุนแรงและเริ่มแสดงอาการไม่พอใจออกมาให้เห็นในเย็นวันหนึ่งหลังจากที่ฐากูรมารับเนสิตาที่บริษัทใบหน้าของเขาดูบึ้งตึงผิดปกติต่างจากทุกครั้งที่มารับเธอ“คุณฐา คิดถึงจังค่ะ ขับรถมาเหนื่อยไหม” เนสิตายิ้มอย่างดีใจที่คนรักมารอรับ“ไม่หรอก เนสล่ะเหนื่อยไหม” เขาถามอย่างห่วงใย“เหนื่อยนิดหน่อยค่ะ ฝึกงานที่นี่เนสได้อะไรหลายอย่างเลยค่ะ เหนื่อยบ้างแต่ก็สนุกด้วยค่ะ” เธอตอบด้วยท่าทางสดใส“แล้วทำไมวั
วันจันทร์มาถึงเร็วกว่าที่เนสิตาคิดไว้ วันนี้ฐากูรจะไปคุยกับมารดาของเธอที่ร้านอาหารหลังจากทานอาหารเช้าฝีมือเนสิตาแล้วฐากูรก็ขับรถมาส่งหญิงสาวที่มหาวิทยาลัยตามปกติ แต่บรรยากาศบนรถกลับแตกต่างออกไปจากทุกครั้ง เนสิตารู้สึกประหม่าและกังวลอย่างเห็นได้ชัด เธอจับมือของฐากูรแน่นตลอดทาง“ไม่ต้องกังวลนะครับเนส ผมจะทำให้ดีที่สุด” ฐากูรบีบมือเธอเบาๆ เพื่อปลอบโยน สายตาของเขาอ่อนโยน แต่แฝงไปด้วยความมุ่งมั่น“เนสรู้ค่ะ แต่เนสก็ยังกลัวอยู่ดี” เนสิตาตอบเสียงแผ่ว ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยความกังวล“อย่าคิดมากทุกอย่างจะเรียบร้อย” เขาบอกให้เธอคลายความกังวลเมื่อรถจอดสนิทหน้าตึกคณะฐากูรกดจูบลงบนหลังมืออย่างรักใครj“ตั้งใจเรียนนะครับ แล้วเดี๋ยวผมจะโทรหา”“ขับรถดีๆ นะคะ” หญิงสาวมองด้วยสายตาห่วงใย“ครับผมไปนะ”เนสิตาพยักหน้าก่อนจะดึงมือออกอย่างแล้วเดินลงจากรถไปอย่างช้าๆ ฐากูรมองตามหลังเธอจนกระทั่งร่างเล็กหายลับไปในอาคารเรียน จากนั้นเขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ปรับเปลี่ยนสีหน้าให้จริงจัง ก่อนจะขับรถมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารอิตาเลียนที่คุณนีรนุชมารดาของเนสิตาฐากูรเข้าไปจัดการธุระในไร่ก่อนจะขับรถมายังร้านอาหารอาหารอิตาเลี่ยน
สายของวันใหม่ร่างเปลือยเปล่าของเนสิตาและฐากูรที่ยังคงกอดเกี่ยวกันอยู่บนเตียง ฐากูรตื่นขึ้นมาก่อนเขาก้มมองใบหน้าสวยหวานที่ซบอยู่บนแผงอกอย่างหลงใหล ลมหายใจแผ่วเบาสม่ำเสมอแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังหลับอย่างสบาย ชายหนุ่มยิ้มอย่างอ่อนโยน นิ้วเรียวเกลี่ยปอยผมที่ปรกหน้าผากของเนสิตาออกอย่างแผ่วเบา เพราะไม่อยากให้คนรักตื่นแต่ไม่นานนักเนสิตาก็รู้สึกตัวเธอลืมตาขึ้นช้าๆ ก่อนจะพบว่าดวงตาคมกริบของฐากูรกำลังจ้องมองเธออยู่ รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอทันที“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณฐา” เธอเอ่ยเสียงหวานดวงตาเป็นประกายระยับรู้สึกดีมากที่ตื่นมาแล้วเจอคนรักนอนอยู่ข้างๆ“อรุณสวัสดิ์หลับครับสบายไหมครับ” ฐากูรตอบแล้วก้มลงจูบบนหน้าผากเนียนของเธออย่างอ่อนโยน“สบายที่สุดเลยค่ะ เนสไม่อยากตื่นเลย” เธอซบใบหน้าลงกับแผงอกของเขาอีกครั้ง การอยู่ในอ้อมกอดของฐากูรทำให้หญิงสาวรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นไปถึงหัวใจ“เมื่อคืนเนสคงเหนื่อยมาก” เขาเอ่ยแซวพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม“ก็คุณฐานั่นแหละค่ะที่ทำให้เนสเหนื่อย” เนสิตาหน้าแดงระเรื่อค้อนเขาอย่างน่ารักและตีแผงอกของเขาเบาๆ ในแววตากลับเต็มไปด้วยความสุข“ผมแค่อยากชดเชยให้เนสเท่านั้นเองค