แม้ตอนนี้เนสิตาจะหายจากอาการไข้แล้วแต่มารดาของเธอก็ยังไม่ให้ไปช่วยงานที่ร้านด้วยเหตุผลที่ว่าอยากให้เธอได้พักผ่อน แต่ดูเหมือนเนสิตาจะไม่ได้คิดแบบนั้นเลย สองวันมานี้เธออยู่บ้านและรู้สึกเหงามากแม้ตอนกลางวันจะโทรศัพท์ไปคุยกับเพื่อนและดูซีรี่ส์เรื่องโปรดแต่มันก็ไม่สนุกเลยเมื่อเทียบกับการออกไปที่ไร่องุ่นของฐากูร
เมื่อวานหญิงสาวโทรศัพท์ไปชวนเขาคุยในเวลาหัวค่ำแต่ก็คุยได้ไม่นานเพราะฐากูรขอตัวไปทำงานก่อนหญิงสาวไม่รู้ว่าทำไมเขายังจะต้องทำงานอะไรกลางคืนอีกแต่ถ้าเจอกันครั้งหน้าเธอจะต้องถามเขาให้ได้ว่าที่เขาชอบพูดว่าขอตัวไปทำงานนั้นเพราะเขาไม่อยากจะคุยกับเธอหรือเพราะเขามีงานที่จะต้องทำจริงๆ
เหตุผลที่ไม่ถามทางโทรศัพท์ก็เพราะอยากจะเห็นสีหน้าและท่าทางของเขาขณะตอบคำถามของเธอด้วยว่ามันมีความจริงใจหรือกำลังโกหกถึงกันแน่
เนสิตานอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงจนกระทั่งได้ยินเสียงรถของมารดาที่ขับเข้ามาในบริเวณบ้านในเวลาเกือบจะสี่ทุ่มหญิงสาวรีบเปิดประตูต้อนรับทันที
“เหนื่อยไหมคะแม่วันนี้ลูกค้าเยอะไหม”
“เยอะจ้ะลูกค้าเต็มทุกโต๊ะเลย”
“กินน้ำเย็นๆ ก่อนนะคะแม่ กินข้าวมาหรือยังคะ” เนสิตารีบเอาน้ำในตู้เย็นมาให้มารดาแล้วนวดไปบนไหล่อย่างเอาใจ
“แม่กินแล้วเนสล่ะลูกเย็นนี้กินอะไร”
“หนูข้าวผัดกินค่ะแม่ ตอนนี้หนูหายดีแล้วพรุ่งนี้หนูจะไปช่วยช่วยงานที่ร้านนะคะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะพรุ่งนี้แม่จะมีพนักงานใหม่เข้ามาทำงานอีกคน”
“แม่ไม่ให้หนูไปช่วยแล้วทำไมต้องรับพนักงานใหม่มาเหรอคะคนไม่พอใช่ไหมหรือหนูทำงานไม่ได้เรื่อง” หญิงสาวรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถช่วยงานมารดาได้จนต้องจ้างคนใหม่มาช่วย
“เรื่องนี้แม่คิดไว้นานแล้วแม่อยากได้คนเข้ามาช่วยงานน้าเหมียวในครัว คนที่รับเขามาใหม่เขาเคยทำงานเป็นผู้ช่วยเชฟในโรงแรมมาก่อนแม่เห็นประวัติการทำงานแล้วก็เลยอยากจะรับไว้ฝึกอีกนิดหน่อยก็น่าจะทำงานได้คล่องขึ้น มันไม่เกี่ยวกับหนูเลย”
“ก็ดีเหมือนกันนะคะถ้ามีคนมาช่วยน้าเหมียวทำงาน แม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยอยู่ในครัว”
“แม่ก็คิดว่าอย่างนั้น แม่ว่าจะนั่งคิดเงินที่หน้าเคาน์เตอร์อย่างเดียว ตอนนี้ลูกค้าเราก็เยอะขึ้นถ้าแม่เอาแต่อยู่ในครัวก็กลัวว่ามาลีกับลูกปลาจะดูแลลูกค้าไม่ทั่วถึง”
“ถ้างั้นพรุ่งนี้หนูไปช่วยงานแม่นะคะ” หญิงสาวขอมารดาอีกครั้ง
“ไม่ใช่ว่าแม่ไม่อยากให้หนูช่วยงานในร้านนะ แต่แม่รู้ว่าถ้าเปิดเทอมหนูก็ต้องไปเรียน แม่เลยอยากให้ทุกคนในร้านได้ทำงานกันอย่างเป็นระบบถ้าหนูอยากจะเข้าไปจริงๆ ก็ไปช่วยแม่คิดเงินที่เคาน์เตอร์หรือไม่ก็ไปช่วยทำบัญชีตอนใกล้จะปิดร้านก็แล้วกันนะ” นีรนุชอธิบายให้ลูกสาวฟังอย่างใจเย็น
“เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ แม่คะวันนี้คุณฐาได้มาทานข้าวที่ร้านเราหรือเปล่าคะ”
“วันนี้เขาไม่มานะแต่โทรมาสั่งแล้วให้ลูกน้องแวะมารับนะสงสัยช่วงนี้งานที่ไร่จะยุ่งหนูอย่าเพิ่งไปกวนเขาเลยนะ เอาไว้ถ้าวันไหนเขาเข้ามาที่ร้านแล้วแม่จะลองถามเขาก่อนว่ายุ่งไหม ถ้าไม่ค่อยยุ่งแล้วหนูก็ไปเที่ยวได้ เอาล่ะคืนนี้แม่ขอไปพักก่อนนะหนูก็รีบเข้านอนล่ะ เพิ่งหายไข้ใหม่ๆ เดี๋ยวมันจะกลับมาเป็นซ้ำอีก”
“ค่ะแม่ฝันดีนะคะ หนูรักแม่ที่สุดเลย”
“แม่ก็รักลูกจ้ะ”
“แม่เข้าไปนอนก่อนเลยนะคะเดี๋ยวหนูจัดการปิดไฟข้างนอกเอง”
“ขอบใจนะลูก”
เนสิตาปิดไฟห้องรับแขกจากนั้นก็กลับเข้ามาในห้องนอนของตัวเองเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วลังเลว่าจะโทรไปหาฐากูรดีหรือเปล่า
ใจหนึ่งก็คิดว่ามันจะเป็นการรบกวนเขาจนเกินไปแต่อีกใจหนึ่งก็อยากได้ยินเสียงเขาอยากถามว่าเขาเป็นยังไงบ้างยิ่งมารดาบอกว่าที่ไร่เขายุ่งเธอก็ยิ่งอยากรู้ว่ามีอะไรที่เธอพอจะช่วยเขาได้หรือเปล่า
หญิงสาวกดโทรศัพท์โทรออกและคิดว่าถ้าเสียงสัญญาณรอนานเกินสิบวินาทีเธอจะกดวางสายแต่ยังนับหนึ่งไม่ถึงสิบฐากูรก็กดรับเสียก่อน
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีค่ะคุณฐาเนสเองนะคะ”
“ครับ”
“เนสโทรมารบกวนหรือเปล่า”
“ไม่หรอกผมทำงานเสร็จพอดีคุณล่ะหายดีแล้วใช่ไหม”
“หายดีแล้วค่ะ แม่บอกว่าช่วงนี้ที่ไร่กำลังยุ่งใช่ไหมคะมีอะไรให้เนสช่วยไหม”
“ช่วงบ่ายวันนี้ยุ่งครับแต่ตอนนี้ทุกอย่างเคลียร์แล้ว”
“ถ้ายังงั้นคุณฐาก็คงมีเวลาเข้ามาในเมืองใช่ไหม เนสจะได้ขอตามไปที่ไร่ด้วย”
“คุณคงต้องรอก่อนเพราะพรุ่งนี้ผมต้องเข้ากรุงเทพ”
“เข้าไปทำไมคะแล้วจะค้างหรือไปเช้าเย็นกลับ”
“ผมมีธุระต้องไปติดต่อที่โรงแรมของเพื่อนนิดหน่อยคิดว่าเย็นๆ ก็คงจะกลับ”
“จะว่าอะไรไหมถ้าเนสจะติดรถไปด้วย พอดีเนสเพิ่งนึกขึ้นได้ค่ะว่ามีธุระต้องไปจัดการที่หอค่ะ คุณฐามีธุระจะไปทำแถวไหนคะแล้วไปกับใคร”
“ไปคนเดียวครับ ผมไปทำธุระแถวรังสิตครับ”
“พอดีเลยค่ะหอพักคงเนสก็อยู่แถวนั้น เนสขอไปด้วยได้ไหม”
“ผมไม่มีปัญหาหรอก แต่คุณต้องขอแม่ก่อน”
“ค่ะ เนสจะขอแม่ แล้วคุณฐาจะไปกี่โมงคะ”
“ผมคิดว่าจะออกจากไร่ประมาณแปดโมงครับเพราะนัดกับทางโรงแรมไว้ประมาณสิบเอ็ด”
“ถ้างั้นเนสจะไปรอคุณฐาที่ร้านนะคะ”
“เช้าแบบนั้นร้านยังไม่เปิดเลยนะ จะให้ผมไปรับที่บ้านก็ได้”
“คุณฐารู้จักบ้านเนสเหรอคะ”
“เคยไปกับพี่พลอยู่หลายครั้ง ว่าแต่ที่บอกมีธุระจะไปทำเรื่องจริงใช่ไหม”
“เรื่องจริงสิคะ ตอนแรกเนสก็คิดว่าจะนั่งรถเข้าไปคนเดียวอาทิตย์หน้าค่ะ แต่บอกคุณฐาจะเข้าไปเนสก็เลยว่าขอติดรถไปจะดีกว่า เนสจะได้นั่งเป็นเพื่อนคุณฐาไปด้วย รับรองว่าคุณไม่มีทางง่วงแน่ค่ะ”
“ผมก็คิดว่าอย่างนั้น” ฐากูรหัวเราะเมื่อนึกถึงเสียงเจื้อยแจ้วของเธอ
“พรุ่งนี้คุณฐาไม่ต้องทานข้าวมานะคะ เนสว่าจะทำแซนด์วิชไปกินระหว่างทางค่ะ”
“ขอบใจนะถ้างั้นผมว่างก่อนจะเตรียมเอกสารให้ทางโรงแรมอีกนิดหน่อย”
“ได้พรุ่งนี้เจอกันนะคะ”
หญิงสาวดีใจมากที่จะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเขาอีกครั้งระยะทางจากโคราชไปยังกรุงเทพมันก็เกือบจะสามชั่วโมงเธอกับเขาคงมีเวลาคุยกับเขาอีกเยอะ
หญิงสาวรีบเปิดประตูห้องนอนออกมาและเมื่อเห็นแสงไฟใต้ประตูห้องของมารดายังสว่างอยู่ก็เคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไปเมื่อได้ยินเสียงมารดาอนุญาต
“มีอะไรหรือเปล่าแม่นึกว่าหนูนอนไปแล้ว”
“แม่คะ แม่จำได้ไหมที่หนูต้องไปทำธุระที่หอพักอาทิตย์หน้า”
“จำได้สินี่แม่ก็ว่าจะสั่งงานที่ร้านไว้แล้วจะขับรถไปส่ง”
“แม่ไม่ต้องไปส่งหนูแล้วนะคะ”
“แล้วหนูจะไปยังไงนั่งรถตู้ไปเหรอ”
“เปล่าค่ะแม่หนูจะไปกับคุณฐา”
“จะไปรบกวนคุณฐาเขาได้ยังไง แล้วคุยกันตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ก็แม่บอกว่าที่ไร่คุณฐางานยุ่งหนูก็เลยโทรไปถามว่ามีอะไรให้หนูช่วยได้หรือเปล่า แต่คุณฐาบอกว่าที่ไร่หายยุ่งแล้วและพรุ่งนี้เขาจะไปทำธุระที่กรุงเทพ หนูก็เลยขอติดรถเข้าไปด้วย”
“แล้วเขาว่ายังไงบ้าง”
“เขาก็ไม่ว่าอะไรค่ะ เขาจะไปทำธุระที่โรงแรมแถวรังสิตมันก็พอดีกับหอพักหนูเลยนะคะแม่”
“แน่ใจนะว่าไม่ได้บังคับให้เขาไปส่ง”
“แน่ใจสิคะไม่เชื่อแม่ถามคุณฐาได้เลยพรุ่งนี้คุณเขาจะมารับที่นี่ค่ะ หนูว่าจะทำแซนด์วิชกับกาแฟให้เขาไปกินในรถ”
“แล้วตอนกลับล่ะจะกลับยังไง”
“ก็รอกลับพร้อมคุณฐาค่ะ หนูทำธุระที่หอพักเสร็จจากนั้นก็เดินเที่ยวที่ห้างรอเขาบอกว่าเขาจะไปคุยธุระที่โรงแรมแต่คงไม่นานหรอกค่ะ คงหลับถึงบ้านตอนเย็น”
“ถ้างั้นหนูก็รีบนอนเถอะส่วนเรื่องแซนด์วิชกับกาแฟเดี๋ยวแม่จะจัดการให้แม่จะคุยกับเขาตอนที่เขามารับหนูด้วย”
“ก็ได้ค่ะแม่งั้นหนูไปนอนก่อนนะคะฝันดีอีกครั้งค่ะ” หญิงสาวกอดมารดาหอมแก้มของท่าก่อนจะปิดประตูและเดินออกมาด้วยรอยยิ้มมันเป็นโอกาสดีที่พรุ่งนี้เธอจะได้เจอกับคนที่คิดถึงมาตลอดสองวัน
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับความฝัน ตอนนี้เนสิตาเรียนจบแล้ว หลังจากผ่านงานรับปริญญามาเมื่อเดือนก่อน วันนี้ก็เป็นวันสำคัญของเธออีกหนึ่งวันเนสิตา“เสร็จแล้วค่ะคุณเนส สวยที่สุดเลยค่ะ” ช่างแต่งหน้าเอ่ยชม“ขอบคุณนะคะ เนสเกือบจำตัวเองไม่ได้เลย” หญิงสาวพูดกับช่างแต่งหน้าและช่างทำผมที่มาช่วยแต่งตัวอยู่นานนับชั่วโมงเนสิตายืนนิ่งอยู่หน้ากระจกเงาบานใหญ่วันนี้เธอสวมแต่งงานขาวตัดเย็บอย่างประณีตด้วยช่างฝีมือดีที่ฐากูรเป็นคนติดต่อให้ เธอใช้มือลูบไล้ไปตามเส้นผมที่ถูกเกล้าขึ้นอย่างบรรจง เผยให้เห็นลำคอระหงที่เคยเป็นที่ปรารถนาของว่าที่เจ้าบ่าว เนสิตาจำได้ดีถึงสัมผัสร้อนแรงและคำกระซิบหวานๆ ที่ฐากูรมอบให้ในค่ำคืนเหล่านั้นและวันนี้คือวันที่ทุกความปรารถนาระหว่างเธอกับเขาจะถูกเติมเต็มอย่างถูกต้องทั้งนิตินัยและพฤตินัย“นี่ฉันจริงๆ เหรอเนี่ย...” เธอพึมพำกับตัวเอง เสียงหวานแผ่วเบาแทบไม่ได้ยิน ภาพเจ้าสาวในกระจกนั้นงดงามเกินกว่าที่เธอเคยจินตนาการไว้หลายเท่าและในอีกไม่กี่ชั่วโมงเธอกำลังจะก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ที่ยิ่งใหญ่ บทบาทของภรรยาฐากูรชายหนุ่มที่เธอรักหมดหัวใจความตื่นเต้นปนความประหม่าแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่าง เ
เมื่อคนรักขอมีหรือเขาจะไม่ทำตาม ฐากูรก้มลงมาจูบเธออีกครั้ง จูบนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งหวานและเร่าร้อนขึ้นทุกขณะ ยิ่งจูบก็ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ปรารถนาให้ลุกโชนเนสิตาก็ตอบสนองเขาได้ไม่ต่างกัน ลิ้นเล็กของหญิงสาวสอดแทรกเข้ามาหยอกล้อกับลิ้นของเขา ทำให้ชายหนุ่มครางในลำคออย่างพอใจฐากูรผละจูบออกเมื่อเธอเริ่มขาดอากาศ เขาไล้ปลายลิ้นจูบซับลงมาจากปลายคางมน ขบเม้มซอกคอขาวจนขึ้นรอยสีกุหลาบตีตราแสดงความเป็นเจ้าของไปทั่วผิวเนียนลิ้นร้อนลากไล้ผ่านฐานสีชมพูสวย ก่อนจะงับยอดทับทิมเข้าอุ้งปากร้อน เนสิตาได้แต่นอนดิ้นพล่านให้เขาได้ดูดกินอย่างที่ต้องการ“ผมชอบกินนมจากเต้าที่สุด”เขากระซิบก่อนจะลากไล้ลิ้นร้อนต่ำลงมายังกึ่งกลางลำตัว ขบเม้มท้องที่เรียบเนียนนิ้วร้ายลากต่ำสอดนิ้วเข้าไปยังจุดอ่อนไหวที่ตอดรัดทันทีเมื่อเขาเข้าไปได้เพียงนิดเดียว“อ๊ะ!...” เนสิตาสะดุ้งเฮือก“เจ็บเหรอ” ฐากูรถามอย่างอ่อนโยน“ไม่เจ็บ...แต่เนสเสียว”คำตอบของเธอทำให้เขายิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนที่จะขยับปลายนิ้วเข้าลึกไปจนสุดความยาว แล้วคว้านหมุน กดย้ำลงตรงจุดกระสันทางด้านในจนหญิงสาวร้องครางด้วยความเสียวซ่าน เธอขยับสะโพกไปตามจังหวะน
เช้ามืดวันรุ่งขึ้นฐากูรขับรถจากไร่มายังกรุงเทพฯ ทันที เขารู้สึกตื่นเต้นและประหม่าในเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มกลัวว่าเนสิตาจะไม่ยกโทษให้และถ้ามันเป็นแบบนั้นเขาคงทนไม่ได้อย่างแน่นอน แต่เขาก็จะทำอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้เธอกลับมาเป็นคนรักของเขาอีกครั้งเขาไปดักรอเนสิตาที่ด้านล่างหอพัก เมื่อเห็นร่างเล็กๆ ที่คุ้นเคยเดินออกมาจากประตูฐากูรก็รีบก้าวลงจากรถไปหาเธอทันที“เนส” ฐากูรดีใจมากที่ได้เจอกับอีกครั้งหลังจากไม่เจอกันนานเกือบสองสัปดาห์เนสิตาชะงักเธอหันมามองฐากูรด้วยความตกใจและดีเป็นอย่างมากดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อเห็นเขาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเธอคิดถึงเขาจนใจจะขาด“คุณฐา!” เนสิตาเอ่ยเรียกชื่อเขาด้วยเสียงสั่นเครือ น้ำตาเอ่อคลอขึ้นในดวงตาอย่างห้ามไม่ได้ฐากูรเดินเข้าไปหาเธออย่างรวดเร็ว เขากุมมือเนสิตาไว้แน่นเหมือนกลัวว่าเธอจะหนีไปไหน“ไปคุยกันในรถนะ”เนสิตาเดินตามเขาไปอย่างว่าง่ายในใจมีเรื่องราวมากมายที่อยากพูดคุยกับเขา“มีอะไรคะ” เธอถามออกไปแต่ไม่กล้ามองหน้าเขาเพราะกลัวฐากูรจะเห็นว่าตอนเธอคิดถึงเขามากแค่ไหน เรื่องที่เกิดขึ้นเธอเองก็มีส่วนผิดที่ไปบอกเลิกเขาทั้งที่ควรจะคุยกันด้วยเหตุผล“ผมขอโทษนะเนส
การคบกันอย่างเปิดเผยทำให้ฐากูรและเนสิตามีความสุขมาก เนสิตากลับบ้านบ่อยมากขึ้นโดยมีฐากูรเป็นคนรับส่ง และจะช่วยงานที่ร้านหนึ่งวัน ส่วนอีกหนึ่งวันก็ไปที่ไร่กับฐากูร พอช่วงปิดเทอมเธอก็ช่วยงานทั้งสองที่อย่างเต็มที่ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูจะดำเนินไปอย่างราบรื่นและงดงาม จวบจนกระทั่งเนสิตาขึ้นปีสี่และต้องไปฝึกงานเนสิตาได้เข้าฝึกงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เธอตั้งใจทำงานและเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้เป็นอย่างดี เธอมีรุ่นพี่คนหนึ่งที่สนิทสนมด้วยและคอยช่วยเหลือเธอทุกอย่าง ซึ่งนั่นทำให้ฐากูรเริ่มไม่พอใจ เขามาหาเนสิตาที่กรุงเทพฯ บ่อยขึ้น และทุกครั้งที่มาเขามักจะเห็นเนสิตาสนิทสนมกับรุ่นพี่คนนั้น ซึ่งทำให้เขาหึงหวงอย่างรุนแรงและเริ่มแสดงอาการไม่พอใจออกมาให้เห็นในเย็นวันหนึ่งหลังจากที่ฐากูรมารับเนสิตาที่บริษัทใบหน้าของเขาดูบึ้งตึงผิดปกติต่างจากทุกครั้งที่มารับเธอ“คุณฐา คิดถึงจังค่ะ ขับรถมาเหนื่อยไหม” เนสิตายิ้มอย่างดีใจที่คนรักมารอรับ“ไม่หรอก เนสล่ะเหนื่อยไหม” เขาถามอย่างห่วงใย“เหนื่อยนิดหน่อยค่ะ ฝึกงานที่นี่เนสได้อะไรหลายอย่างเลยค่ะ เหนื่อยบ้างแต่ก็สนุกด้วยค่ะ” เธอตอบด้วยท่าทางสดใส“แล้วทำไมวั
วันจันทร์มาถึงเร็วกว่าที่เนสิตาคิดไว้ วันนี้ฐากูรจะไปคุยกับมารดาของเธอที่ร้านอาหารหลังจากทานอาหารเช้าฝีมือเนสิตาแล้วฐากูรก็ขับรถมาส่งหญิงสาวที่มหาวิทยาลัยตามปกติ แต่บรรยากาศบนรถกลับแตกต่างออกไปจากทุกครั้ง เนสิตารู้สึกประหม่าและกังวลอย่างเห็นได้ชัด เธอจับมือของฐากูรแน่นตลอดทาง“ไม่ต้องกังวลนะครับเนส ผมจะทำให้ดีที่สุด” ฐากูรบีบมือเธอเบาๆ เพื่อปลอบโยน สายตาของเขาอ่อนโยน แต่แฝงไปด้วยความมุ่งมั่น“เนสรู้ค่ะ แต่เนสก็ยังกลัวอยู่ดี” เนสิตาตอบเสียงแผ่ว ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยความกังวล“อย่าคิดมากทุกอย่างจะเรียบร้อย” เขาบอกให้เธอคลายความกังวลเมื่อรถจอดสนิทหน้าตึกคณะฐากูรกดจูบลงบนหลังมืออย่างรักใครj“ตั้งใจเรียนนะครับ แล้วเดี๋ยวผมจะโทรหา”“ขับรถดีๆ นะคะ” หญิงสาวมองด้วยสายตาห่วงใย“ครับผมไปนะ”เนสิตาพยักหน้าก่อนจะดึงมือออกอย่างแล้วเดินลงจากรถไปอย่างช้าๆ ฐากูรมองตามหลังเธอจนกระทั่งร่างเล็กหายลับไปในอาคารเรียน จากนั้นเขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ปรับเปลี่ยนสีหน้าให้จริงจัง ก่อนจะขับรถมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารอิตาเลียนที่คุณนีรนุชมารดาของเนสิตาฐากูรเข้าไปจัดการธุระในไร่ก่อนจะขับรถมายังร้านอาหารอาหารอิตาเลี่ยน
สายของวันใหม่ร่างเปลือยเปล่าของเนสิตาและฐากูรที่ยังคงกอดเกี่ยวกันอยู่บนเตียง ฐากูรตื่นขึ้นมาก่อนเขาก้มมองใบหน้าสวยหวานที่ซบอยู่บนแผงอกอย่างหลงใหล ลมหายใจแผ่วเบาสม่ำเสมอแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังหลับอย่างสบาย ชายหนุ่มยิ้มอย่างอ่อนโยน นิ้วเรียวเกลี่ยปอยผมที่ปรกหน้าผากของเนสิตาออกอย่างแผ่วเบา เพราะไม่อยากให้คนรักตื่นแต่ไม่นานนักเนสิตาก็รู้สึกตัวเธอลืมตาขึ้นช้าๆ ก่อนจะพบว่าดวงตาคมกริบของฐากูรกำลังจ้องมองเธออยู่ รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอทันที“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณฐา” เธอเอ่ยเสียงหวานดวงตาเป็นประกายระยับรู้สึกดีมากที่ตื่นมาแล้วเจอคนรักนอนอยู่ข้างๆ“อรุณสวัสดิ์หลับครับสบายไหมครับ” ฐากูรตอบแล้วก้มลงจูบบนหน้าผากเนียนของเธออย่างอ่อนโยน“สบายที่สุดเลยค่ะ เนสไม่อยากตื่นเลย” เธอซบใบหน้าลงกับแผงอกของเขาอีกครั้ง การอยู่ในอ้อมกอดของฐากูรทำให้หญิงสาวรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นไปถึงหัวใจ“เมื่อคืนเนสคงเหนื่อยมาก” เขาเอ่ยแซวพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม“ก็คุณฐานั่นแหละค่ะที่ทำให้เนสเหนื่อย” เนสิตาหน้าแดงระเรื่อค้อนเขาอย่างน่ารักและตีแผงอกของเขาเบาๆ ในแววตากลับเต็มไปด้วยความสุข“ผมแค่อยากชดเชยให้เนสเท่านั้นเองค