LOGIN“มันอยู่ไหนลีเดีย มันตามน้องมาอีกหรือเปล่า” คนเป็นพี่ชายโอบไหล่บางของน้องสาวไว้
“เขาเป็นคนไทยค่ะ ตัวสูงๆหน้าขาวๆปากแดงๆ” ลีเดียบอกลักษณะคนโรคจิตให้พี่ชายรู้ เธอมองไปยังทางเดินที่มีผู้คนพลุกพล่าน แต่ไร้เงาชายคนนั้น “เขาหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เมื่อกี้ยังวิ่งตามลีเดียมา”
“มันคงเห็นว่าลีเดียอยู่กับพี่เลยไม่กล้าตามมาอีก” ราฟาเอลลูบศีรษะน้องสาวปลอบโยน คิ้วเข้มหนาขมวดเล็กน้อยเมื่อสังเกตเห็นว่าคนเป็นน้องไม่ได้สวมรองเท้า “นี่กลัวไอ้โรคจิต จนลืมใส่รองเท้าหรือไง”
ลีเดียย่นจมูก ก้มลงมองเท้าเปลือยเปล่าของตัวเองด้วยใบหน้างอง้ำ “เมื่อกี้ มีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้ วิ่งมาชนลีเดียจนส้นรองเท้าหัก แล้วไอ้โรคจิตปากแดงนั่นก็ยังมาลวนลามลีเดียอีก มันเข้ามากอดลีเดียเรียกลีเดียว่ากี้ กีรดารินทร์อะไรนี่แหละ ลีเดียเลยตบมันจนหน้าหัน แล้วถอดรองเท้าทิ้ง ไม่นึกว่ามันยังจะตามมารังควานอีก”
คำบอกเล่าของน้องสาวทำให้พี่ชายหน้าเครียด ดวงตาคมงามระริกไหวด้วยความรู้สึกบางอย่าง เขาหันไปมองหน้าบอดี้การ์ดส่วนตัวของบิดา อังตวนมองตอบมาด้วยสีหน้าไม่ต่างกัน ชายหนุ่มโอบไหล่บางกระชับแน่น รู้สึกห่วงใยน้องสาวต่างสายเลือดคนนี้ขึ้นมา
“กลับบ้านกันเถอะ ป๋ารออยู่ ถ้าท่านรู้ว่าลีเดียแอบมารับพี่โดยไม่มีบอดี้การ์ดมาดูแลแบบนี้ ท่านจะเป็นห่วงเอานะ” เขาประคองร่างน้อยพาเดินไปยังที่จอดรถ
บอดี้การ์ดเดินล้อมผู้เป็นนายทั้งสอง ระแวดระวังภัยอย่างเต็มที่ หากไม่พบไอ้โรคจิตที่นายสาววิ่งหนีมาเฉียดใกล้เลย เมื่อถึงหน้าประตูทางออก รถสุดหรูติดตราสัญลักษณ์นกอินทรีย์ก็เคลื่อนเข้ามาจอดรอ ผู้คนยืนอยู่บริเวณนั้นต่างจดจ้องสองชายหญิงที่มีบอดี้การ์ดร่างยักษ์รุมล้อมด้วยสายตาตื่นเต้น ใบหน้าหล่อจัดของชายหนุ่มร่างสูงสง่าทำให้หญิงสาวหลายคนถึงกับอ้าปากค้าง หญิงสาวคนหนึ่งจดจำใบหน้าหล่อเหลานั้นได้ เธอสะกิดบอกเพื่อนข้างกาย ก่อนที่รถจะเคลื่อนออกไป
“ใช่ ราฟาเอล ราโดรเปรเรส จริงๆด้วย เขานี่แหละคือมาทาดอร์ที่ค่าตัวแพงที่สุดในตอนนี้”
“รถคันนั้น เธออยู่ในรถคันนั้น ยายลิงเพราะแกทำให้ฉันต้องคลาดกับกี้ ! ”
นภวินท์มองท้ายรถที่แล่นออกไปไกล ด้วยแววตาเสียดาย เขาหันมามองรุ่นน้องตัวแสบที่ลากกระเป๋าสัมภาระมาหยุดอยู่ข้างกายอย่างโมโห ไม่เพราะสิงหกัลยาวิ่งมาดักหน้าดักหลังเขาไว้ก่อน เจ้าหล่อนมาสายไม่พอยังซุ่มซ่ามไปชนข้าวของในร้านขายของที่ระลึกจนกระจายเกลื่อน เขาต้องเสียเวลาช่วยเก็บของ ทำให้ตามกีรดารินทร์ไม่ทัน เห็นเพียงเจ้าหล่อนถูกผู้ชายชาวสเปนร่างใหญ่คนนั้นโอบไหล่พาไปขึ้นรถ ท่าทางของทั้งสองสนิทสนมกันจนทำให้คนเห็นถึงกับแปลบปลาบในหัวใจ
“ใจเย็นๆน่าเฮียวินท์ เดี๋ยวหนูถามเขาให้ เผื่อมีคนรู้จักเจ้าของรถนั่น”
ว่าแล้วสิงหกัลยา ก็สวมวิญญาณนักสืบ เดินเข้าไปตีสนิทกับผู้หญิงสองคนที่ยืนคุยกันอยู่แถวนั้น ไม่ถึงสิบนาทีนักสืบจำเป็นก็ยิ้มร่าเดินมาบอกคนที่ทำหน้าหงิกงอ ด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“หนูรู้แล้ว ว่าเจ้าของรถเป็นใคร”
“แล้วเป็นใครล่ะรีบบอกมาไวไว”
นภวินท์สะบัดเสียงใส่ เขารำคาญลีลายึกยักของรุ่นน้องจอมแสบเหลือเกิน เจ้าหล่อนเหมือนอยากจะแกล้งเขาถึงได้ไม่รีบบอก คนใจร้อนมองหน้าเรียวคมของอีกฝ่ายอย่างฉุนๆ สิงหกัลยาดูเหมือนจะไม่รู้ตัว ว่ากำลังแหย่ต่อมโมโหของรุ่นพี่อยู่
“เมื่อกี้นะ ผู้หญิงสองคนโน้น เขาบอกหนูว่าผู้ชายหล่อๆคนนั้นเป็นมาทาดอร์ชื่อดังของที่นี่ ค่าตัวเงี้ยสูงที่สุดในตอนนี้เลยนะ เขามีฉายาว่านักฆ่าดาบเดียว แทงจึกเดียวตรงหัวใจวัวกระทิงชักตายแหงกๆเลยนะเฮีย”
เจ้าหล่อนอธิบายสิ่งที่ผู้ฟังไม่อยากรู้ออกมา น้ำเสียงใสแจ้วที่ปกติรบกวนโสตประสาทของนภวินท์อยู่แล้ว ยามนี้ทำให้เขาปวดหัวตุบๆมากขึ้นกว่าเก่า เมื่อคนเล่าไม่ยอมบอกในสิ่งที่อยากฟังสักที
“แหม... ยิ่งฟังก็ยิ่งอยากไปดูตอนเขาลงสนามจัง ดูเหมือนวันพรุ่งนี้เขาจะลงสู้วัวที่สนามในมาดริดด้วย หนูต้องรีบหาตั๋วก่อนเดี๋ยวจะอดดู เขาว่ากันว่าตั๋วหายาก ถ้าไม่ได้จริงๆอาจต้องยอมซื้อตั๋วผี เฮียจะไปดูกับหนูด้วยไหมล่ะ”
สิงหกัลยายังเล่าอย่างเมามัน ไม่เฉียดใกล้สิ่งที่รุ่นพี่อยากรู้แม้แต่น้อย อาการปวดศีรษะของนภวินท์กำเริบหนักขึ้นทุกขณะ หลังจากเมื่อครู่เขาลืมมันไปเพราะเจอหน้ากีรดารินทร์
“ยายลิง แกจะพล่ามเรื่องมาทาดอร์บ้าบอนี่ อีกนานไหมวะ ! ” นภวินท์ตวาดเข้าใส่อย่างเหลืออด
ส่งผลให้คนกำลังเพลินรีบหุบปาก ยิ้มแหยๆ “แหะ แหะ ก็เรื่องมันยาวนี่เฮียก้อ เอาล่ะ เข้าเรื่องก็ได้ ผู้ชายคนนั้น ชื่อ ราฟาเอล ราโดรเปรเรส เขาเป็นมาทาดอร์และก็เป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงทายาทคนเดียวของตระกูล ราโดรเปรเรสที่ยิ่งใหญ่”
“ตระกูลราโดรเปรเรสเหรอ...”
นภวินท์ทวนชื่อนั้น ดวงตาสีเข้มลุกวาบเมื่อนึกถึงเจ้าของนามสกุลนี้ ชายหนุ่มนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อนขึ้นมา
บนเรือกลางทะเลกว้าง เขาเห็นเฟอร์นันโดประคองร่างบอบบางอ่อนปวกเปียกที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือด ที่ไหลออกมาจากศีรษะของกีรดารินทร์ไว้ในอ้อมแขน เลือดแดงฉานเต็มตัวหญิงสาว ร่างบางแน่นิ่งไม่ไหวติง เหมือนคนหมดลมหายใจ
“กี้ คุณเป็นอะไร ได้ยินผมไหม ! ” เขาตะโกนเรียกหญิงสาว ขณะที่ตัวเองอยู่บนเรืออีกลำ ระยะห่างทำให้เขาไม่สามารถเข้าไปหาเธอได้
เฟอร์นันโดวางร่างบอบบางชุ่มโชกด้วยเลือดลง มือหน้าลูบใบหน้าที่ซีดเซียวนั้นอย่างอ่อนโยน ดวงตาของนักธุรกิจข้ามชาติแดงกล่ำ เมื่อหันไปมองหน้าเขาแล้วเอ่ยว่า
“หนูกี้ ... หนูกี้ ตายแล้ว ! ”
สองปี เป็นสองปีที่เขาต้องเจ็บปวด ทุกข์ทรมานอย่างสาหัส หัวใจของเขาแหลกยับพร้อมกับการตายของกีรดารินทร์ เฟอร์นันโดทำให้เขาเข้าใจว่ากีรดารินทร์จากเขาไปแล้ว นภวินท์กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ดวงตาวาววับด้วยแรงแค้น
“เฟอร์นันโด ราโดรเปรเรส ไอ้คนเส็งเคร็ง แกหลอกฉัน ! ”
คฤหาสน์ของตระกูลราโดรเปรเรส
ในห้องทำงานของเฟอร์นันโด อังตวนบอดี้การ์ดคนสนิทของเจ้าของคฤหาสน์ กำลังรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นที่สนามบินให้ผู้เป็นนายรู้
“นายนภวินท์ได้พบกับคุณหนูลีเดียแล้วครับนายท่าน เขาเดินทางมาสเปนเพื่อถ่ายรูปงานเทศกาลวิ่งวัว ที่จะจัดขึ้นในพัมโพลน่าในอาทิตย์หน้านี้ครับ”
เฟอร์นันโดลุกขึ้นจากเก้าอี้นวมเดินไปยืนที่หน้าต่าง สีหน้าของชายสูงวัยมีรอยครุ่นคิด ดวงตาสีควันบุหรี่ทอดมองไปยังสนามกว้างสีเขียวสดด้านหน้าคฤหาสน์ ร่างเพรียวบางของหญิงสาวร่างเพรียวกำลังง้างคันธนูเล็งเป้า ซึ่งเป็นแอปเปิ้ลสีแดงบนหัวของบอดี้การ์ดคนหนึ่ง ลูกธนูแหวกอากาศปักกลางลูกแอปเปิ้ลอย่างแม่นยำ พร้อมเสียงปรบมือดังเกรียวของคนยืนชม ร่างสูงสง่างามของราฟาเอลเดินมาหยิบลูกแอ็ปเปิ้ลที่ถูกลูกธนูปักคามายื่นให้คนยิง ลีเดียหัวเราะเสียงดัง เมื่อเห็นของในมือพลางเกาะแขนพี่ชายพากันไปนั่งพักที่เก้าอี้ไม้
“สองปีแล้วสินะ สองปีที่ฉันได้ลูกสาวคนนี้มา” เฟอร์นันโดพึมพำ ดวงตายังจ้องหญิงสาวด้วยแววตารักใคร่ เอ็นดู
“กีรดารินทร์ได้ตายไปพร้อมกับความเจ็บปวดในครั้งนั้นแล้ว เธอเกิดใหม่เป็นลีเดียลูกสาวของฉัน และฉันจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนนั้นมาแตะต้องลีเดียอีก”
หลังจากที่กีรดารินทร์ได้รับบาดเจ็บ จากการปะทะระหว่างคนของคาลอสกับนายภัทรบิดาของเธอกลางทะเลเมื่อสองปีก่อน หญิงสาวถูกแรงกระแทกจากระเบิดทำให้ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง เขาเป็นคนนำร่างเธอขึ้นจากน้ำมาบนเรือ สภาพของเธอเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลออกมาจากศีรษะนองท่วมร่างจนชุ่มโชก
“คุณ เอ่อ... ขอโทษด้วย ผมจำชื่อคุณไม่ได้” นภวินท์หัวเราะกลบเกลื่อน“ผมชื่อฟิลลิป เป็นเลขาของท่านนิโคไลน์ กอนซาเลสครับ” เขาเอ่ยแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการนภวินท์พยักหน้ารับรู้ หากไม่ยอมเอ่ยถึงอาการหลงลืมของตัวเองออกมา “ที่นี่ไหนกันเนี่ย ผมคงเมาจนจำอะไรไม่ได้”“ที่นี่คือซาน เซบาสเตียนครับ เกสเฮ้าส์หลังนี้เป็นของเจ้านายของผม ท่านจัดให้คุณพักในระหว่างเดินทางมาพักผ่อนที่นี่ครับ” เลขาของนิโคไลน์เอ่ยขึ้นนภวินท์ลุกขึ้นยืน ผายมือเชื้อเชิญผู้มาเยือนให้ไปนั่งที่เก้าอี้ริมระเบียง ชายหนุ่มครุ่นคิดถึงวิธีสืบหาความทรงจำที่หายไปของเขา หรือเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้สมองของเขามึนงง จนจำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ว่าเหล้าที่เขาดื่มเข้าไปชื่ออะไร จะได้ไม่ดื่มมันอีก“ที่นี่บรรยากาศดีนะครับ เหมาะสำหรับพักผ่อน แต่ผู้คนเยอะไปหน่อยดูพลุกพล่าน” นภวินท์ชวนคุยฟิลลิปยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นคู่สนทนาเอนหลังอย่างสบายอารมณ์ เขายื่นถุงกระดาษและกล่องที่ถือมาให้ชายหนุ่ม คนรับมองของที่ได้รับด้วยความสงสัย เมื่อเปิดกล่องออกดูก็พบกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพ ของที่อยู่ในถุงเป็นเสื้อผ้าชุดใหม่“ เอามาให้ผมทำไมครับ”“ของที่คุณซื้อเมื่อวานยังไงค
“นิโคไลน์ แกอย่าคิดอะไรโง่ๆแบบนั้นนะ ยายผู้หญิงนั่นมันเป็นคนในตระกูลราโดรเปรเรส มันต้องร่วมชดใช้” เขาตอกย้ำเป้าประสงค์หลักให้อีกฝ่ายรับรู้“ผมจะแต่งงานกับเธอ ให้เธอเป็นคนในตระกูลกอนซาเลสของเรา แค่นี้เธอก็ไม่เกี่ยวของกับเฟอร์นันโดแล้ว” คนเป็นหลานหาทางออกให้ทางออกของนิโคไลน์ทำให้คนเป็นลุงรู้สึกขัดใจ คาลอสไม่ต้องการให้สายเลือดของกอนซาเลสไปรวมกับราโดรเปรเรส ไม่ว่าจะโดยตรงหรือทางอ้อม เขาไม่มีวันยอมให้นิโคไลน์เอาลูกสาวของเฟอร์นันโดมายกย่องเป็นเมียออกหน้าออกตา“ถ้าแกไม่ทำตามที่ฉันสั่ง แกก็ส่งเธอมาให้ฉัน แล้วแกก็ไสหัวไปไกลๆฉันเลย ! ” คาลอสเริ่มอารมณ์เสีย เขาตวาดใส่คนปลายสายอย่างหงุดหงิด“ผมไม่ยอมให้ลุงทำอะไรลีเดียหรอกครับ เธอเป็นของผมและผมไม่ยอมส่งเธอให้ลุงเด็ดขาด ถ้าลุงอยากได้ตัวประกัน ผมจะส่งนายนภวินท์ไปให้” นิโคไลน์ไม่ยอมอ่อนข้อให้ผู้เป็นลุง ยามนี้เขาลุกขึ้นมาปกป้องลีเดียอย่างเต็มตัว แสดงให้คาลอสรับรู้ว่าเขาจริงจังกับผู้หญิงคนนี้มากเพียงใด“แกจับตัวนภวินท์ไปด้วยเหรอ ไอ้หลานโง่ แกทำเกินคำสั่งอีกแล้วนะ” คาลอสตะโกนลั่นอย่างหัวเสียสิ่งที่สั่ง นิโคไลน์ไม่ยอมทำ แต่สิ่งที่ไม่ได้สั่งกลับทำเกินหน
คฤหาสน์ตระกูลราโดรเปรเรส คนของตระกูลอรรถไกรสิบคน ที่ส่งมาตามคำขอของนภวินท์ผู้เป็นนายเล็ก ได้เดินทางมาถึงสเปนและมาพบกับเฟอร์นันโด ตามคำสั่งของฆนากรพี่ชายนภวินท์ ขจรเกียรติกับนายวงค์หัวหน้าบอดี้การ์ดร่วมประชุมกับเจ้าของบ้านและลูกชาย ที่เพิ่งกลับมาจากพัมโพลนา “ไอ้คาลอส มันจับตัวลีเดียลูกสาวผมกับคุณนภวินท์ไป ตอนนี้เรากำลังส่งคนตามสืบหาที่อยู่” เฟอร์นันโดเอ่ยขึ้น ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “พวกนั้นคงไม่กล้าทำอะไรคุณหนูกับคุณวินท์ เพราะมิสเตอร์คาลอสกับคุณฆนากร เคยมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาก่อน” ขจรเกียรติให้ความเห็น ก่อนหน้านี้เขาได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฆนากรรับรู้ ผู้เป็นนายได้ติดต่อพูดคุยกับมาเฟียอิตาเลี่ยนผู้นั้นแล้ว คาลอสรับปากจะส่งตัว นภวินท์กลับมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่ยอมเอ่ยถึงการปล่อยตัวลูกสาวบุญธรรมของเฟอร์นันโด ขจรเกียรติเก็บงำเรื่องนี้ไว้ ไม่ยอมเอ่ยให้อีกฝ่ายรับรู้ ด้วยเกรงจะทำให้หมางใจกันเปล่าๆ เมื่อคาลอสกับเฟอร์นันโดเป็นศัตรูกัน จึงไม่ควรแสดงท่าทีสนิทสนมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไป“ตอนนี้ ลีเดียอยู่กับพวกมัน เราไม่
ทายาทตระกูลกอนซาเลส หันไปมองด้านหลังของรถ เขามองร่างของช่างภาพหนุ่มชาวไทยอย่างครุ่นคิด เขาจะจัดการเจ้าหมอนี่ยังไงดี นิโคไลน์ไม่ต้องการฆ่าใครโดยไม่จำเป็น ครู่หนึ่งริมฝีปากหยักหนายกขึ้นพร้อมประกายบางอย่างปรากฏขึ้นบนดวงตาเมื่อความคิดหนึ่งเกิดขึ้น“ฟิลลิป ทำให้ไอ้หมอนี่กลายเป็นคนความจำเสื่อมได้ไหม ฉันจำเป็นต้องเก็บมันไว้” ผู้เป็นนายสั่งลูกน้องคู่ใจ“ท่านจะให้ผมใช้ยานั่นกับมันหรือครับ” ฟิลลิปเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ เขามียากล่อมประสาทชนิดหนึ่งที่ทำให้คนได้รับยา กลายเป็นคนความจำเสื่อมชั่วคราวจากการถูกฤทธิ์ยากดประสาท จนไม่สามารถจำอะไรได้ ง่ายต่อการล้างสมองให้ทำอะไรตามคำสั่ง ตัวยานี้ คาลอส มันชินี่ นำมาให้ใช้เพื่อจัดการกับคนที่ขัดขวางการก้าวสู่อำนาจของ นิโคไลน์ ซึ่งเขาได้ใช้มันกับคณะกรรมการของเมืองหลายคน ที่คัดค้านการขึ้นดำรงตำแหน่งรองประธานผู้เพาะพันธุ์วัวกระทิงของผู้เป็นนาย “จัดการให้เรียบร้อย ก่อนที่มันจะตื่นมาอาละวาด ฉันต้องการให้มันลืมเรื่องของลีเดีย มันจะเป็นเพียงแค่ช่างภาพที่ฉันจ้างมาทำงานให้เท่านั้น” นิโคไลน์ก้มลงมอง ใบหน้างามที่นอนอยู่บนตักตัวเอง “ฉันกับลีเดีย อาจจะอยู่ที่นี่อีกหลายวั
อังตวนสีหน้าขึ้งเครียดกว่าเมื่อครู่ เมื่อยื่นบางสิ่งให้ผู้เป็นนายน้อย “เราพบแต่ไอ้นี่ครับ ผมขอโทษที่ดูแลคุณลีเดียไม่ดีพอ” หัวหน้าบอดี้การ์ดก้มหน้ารับผิดราฟาเอลชาไปทั้งตัวใจหายวาบ เขาหันหลังให้บอดี้การ์ดคนสนิทของบิดา สีหน้าของชายหนุ่มเรียบนิ่งหากแววตากลับวาววับราวกับมีเปลวไฟอยู่ในนั้น มือหนากำแหวนสัญญาณในมือแน่น เขารู้ดีว่าฝ่ายตรงข้ามโหดร้ายทารุณแค่ไหน แม้แต่เด็กตัวเล็กๆมันยังกล้าทำร้ายจนเกือบพิการ ภาพในอดีตวาบผ่านเข้ามาในมโนนึก“ไอ้หนู แกโชคร้ายเอง ที่เกิดมาเป็นคนในตระกูลราโดรเปรเรสนั่น”เสียงห้าวทุ้มของผู้ชายร่างใหญ่ดังขึ้น ขณะมองลูกสมุนของตนกำลังทรมานเด็กชายวัยแปดขวบด้วยการใช้เข็มหมุด ปักลงที่ปลายนิ้วน้อยๆนั้น เสียงร้องไห้ดังลั่น ไม่ทำให้คนมองใจอ่อนสักนิด ดวงตาสีอำพันยังคงมองความเจ็บปวดของเด็กน้อยด้วยสีหน้าพอใจ ร่างของเด็กชายพยายามดิ้นหนีแต่ถูกผู้ใหญ่ตัวโตจับไว้แน่น“ถ่ายรูปส่งไปให้พ่อมันดู ฉันอยากให้ไอ้เฟอร์นันโดมันเห็นลูกชายของมันตอนนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” คาลอสหัวเราะสะใจราฟาเอลในวัยเยาว์จดจำใบหน้าของชายใจร้ายฝังใจ ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าชายคนนั้นเป็นใคร เพราะความซุกซนทำให้เขาได้รับบทเรีย
สิงหกัลยาถูกกักไว้ในวงแขนกำยำของมาทาดอร์หนุ่มจนดิ้นไม่หลุด ราฟาเอลยังคงกอดรัดร่างน้อยไม่ยอมปล่อย แม่สิงห์สาวร้อนวูบวาบไปทั้งตัวเมื่อจมูกโด่งงามซุกไซ้ไปทั่วซอกคอหอมกรุ่น โต๊ะที่ทั้งสองนั่งอยู่เป็นมุมอับสายตาคนแถมไฟยังสลัว เสียงเพลงเปิดคลอผสานกับเสียงของผู้คนที่นั่งอยู่ตามโต๊ะต่างๆ ทำให้ไม่มีใครสนใจว่าใครกำลังทำอะไร บอดี้การ์ดของเขายืนหันหลังให้เปิดโอกาสให้นายน้อยของตน ได้วาดลวดลายสีหญิงเต็มที่ ยิปซีสาวหลงถิ่นมองหาทางรอดแทบไม่เจอ เมื่อถูกเขารังแกแบบไร้ทางสู้ราฟาเอลเพลินกับเนื้อตัวนุ่มนิ่มของสาวน้อยในอ้อมกอด ทำให้หัวใจของเขาโรจน์แรง จากที่คิดจะแกล้งเธอให้ตกใจเล่น แต่เมื่อได้สัมผัสเนื้อนวล มาทาดอร์หนุ่มกลับห้ามใจตัวเองไว้ไม่อยู่ ลืมเรื่องที่น้องสาวออกไปกับช่างภาพหนุ่มไป เขากดริมฝีปากจุมพิตแก้มนวลแรงๆอีกครั้ง อย่างอดใจไม่ไหว กระซิบเสียงพร่าว่า“ลีโอโนร่า... ฉันชอบเธอ”“แต่ฉันเกลียดนาย ไอ้มาทาดอร์หื่น”สิงหกัลยาดันหน้าที่ก้มลงมาแนบชิดออกห่าง ไม่ได้เคลิ้มไปกับคำพูดของเขาเลย เขาเคยบอกว่าจะทำให้เธอรัก แต่สิ่งที่เขากำลังทำเธอกลับเพิ่มความเกลียดมากกว่าจะรู้สึกรักเขาลง ผู้ชายอย่างเขามองผู้หญิงเป







