"ถ้าเธอคิดหนี ฉันจะพลิกแผ่นดินตามหาเธอ และถ้าฉันเจอเธอ เธอจะไม่มีวันได้รู้จักคำว่าอิสระอีกเลย ถ้าเธอฉลาดพอ เธอจะไม่ทำมัน" ว่าจบพ่อมาเพียใหญ่ก็เดินหายไปพร้อมกับลูกน้องนับสิบ
[วันถัดมา @มหาวิทลัยเอกชน]
"อาจารย์ครับ ไปทานข้าวด้วยกันไหมครับ" เด็กหนุ่มหน้าตาละอ่อน ต่างกรูกันเข้ามาขายขนมจีบอาจารย์สุดแซ่บประจำมหาลัย เหมือนทุกๆ วัน "ถ้าเธอได้เกรด A เมื่อไหร่เดี๋ยวครูจะไปทานข้าวด้วย" คำพูดหยอกเข้ากับเหล่าลูกศิษย์กลายเป็นเรื่องปกติของมหาวิทลัยไปแล้ว
คำพูดของชายหนุ่มยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของบะหมี่ อีกสามเดือนข้างหน้าฉันต้องแต่งงาน ถ้าฉันหนีงานแต่งไม่เพียงแค่เขาที่เสียหน้า แต่พ่อของเธอก็คงเสียเพื่อน เสียคำพูด เราจะเป็นลูกอกตัญญูไม่ได้นะ "ทำไมชีวิตวุ่นวายขนาดนี้วะ" บะหมี่สบดออกมาเพื่อแค่ให้ตัวเองได้ผ่อนคลายความเครียดลงบ้าง
ก๊อกก๊อกก๊อก
"เข้ามาค่ะ"
"อาจารย์หมี่คะ มีคนมารออาจารย์อยู่หน้ามหาลัยค่ะ"
"ขอบใจจ๊ะ" ใครวะ บะหมี่ทำหน้าครุ่นคิดก่อนหยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กออกมาด้วย ทันทีที่เดินมาถึงหน้าประตู หญิงสาวกลับไม่พบใครเลย เว้นแต่รถลีมูซีนคันหรูที่จอดอยู่หน้ามหาวิทยาลัย ชายชุดดำคนหนึ่งเดินลงมาเปิดประตูรถยนต์คันหรู
ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นคนที่เดินลงมากำลังย่างสามขุมเข้ามาหา "มะ มอร์แกน" เธอเผลอเปล่งเสียงเรียกชื่อของชายหนุ่มตรงหน้า ร่างกายเย็นวาบเหมือนถูกน็อคด้วยน้าแข็ง "จะยืนแข็งอีกนานไหม" สติที่กระเจิดกระเจิงเมื่อครู่พลันหายไปทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียบของใครบางคน
"คะ คุณมาทำไมที่นี่" หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความฉงน "มารับว่าที่เมียกลับบ้าน" เออ อีตานี อยากมีเมียขนาดนั้นเลยหรอไง ทำไมจะต้องกุลีจุจอมาด้วย "หมี่กลับเองได้ค่ะ! .... เหวออออ" ทันทีที่หญิงสาวปฏิเสธ ร่างกายบอบบางของเธอถูกชายหนุ่มยกขึ้นพาดบ่าแกร่งเรียบร้อยแล้ว
"ปล่อย!! คุณมอร์แกน จะพาหมี่ไปไหน" หญิงสาวเอ่ยถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ "นี่เธอเป็นอาจารย์จริงไหมเนี่ย ทำไมแต่งตัวอย่างกับดาวยั่วขนาดนี้" ไอ้บ้านี่ แทนที่จะตอบคำถาม กลับมาพ่นคำด่าใส่ฉันซะงั้น "นี่มันร่างกายของหมี่ หมี่จะแต่งยังไงก็ได้ หมี่พอใจ"
สองแขนแกร่งยกคนตัวเล็กขึ้นมานังตักอย่างถือวิสาสะ มือหยาบจับปลายคางมนเชิดขึ้นก่อนฉกริมฝีปากหนากระทบริมฝีปากอวบอิ่มเซ็กซี่สอง มือเล็กทุบกำปั้นลงบนแผงอกแกร่ง โดยไม่รู้เลยว่ามือหยาบของใครบางคนได้ล้วงเข้าไปปลดตะขอบราเซียร์ของเธอเรียบร้อยแล้ว
"นี่!!! คุณมอร์แกน หยุดลวนลามฉันสักที" ทันทีที่ริมฝีปากอวบอิ่มถูกปล่อยให้เป็นอิสระ หญิงสาวตะคอกคนตรงหน้าด้วยอาการกระฟัดกระเพียด เมื่อเพิ่งรู้ว่าตัวเองถูกปลดตะขอบราเซียร์
"ฉันหยุดไม่ได้หรอก ฉันเป็นว่าที่สามีเธอ ฉันต้องได้สิทธิ์ในตัวเธอด้วย" เอาแต่ใจชะมัด "เอาอย่างนี้ไหมคะคุณมอร์แกน
เรามาทำ ข้อตกลงกัน" ในเมื่อไม่ได้รักกัน ก็ทำข้อตกลงกันไปก็จบ"ไปเพนท์เฮาส์ฉัน" ชายหนุ่มสั่งลูกน้อง ก่อนหันมองใบหน้าสวยงามที่ตอนนี้ดวงตาสั่นระริก เนื้อตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัว "กลัวฉันหรอ" ชายหนุ่มเอ่ยถาม หญิงสาวพยักหน้า เธอยอมรับว่าเธอกลัวเขา "ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวก็ชิน"
ทันทีที่ถึงเพนท์เฮาส์ ชายหนุ่มจูงมือหญิงสาวขึ้นบนชั้นสอง "เออ คุณมอร์แกน จริงๆ เราคุยกันข้างล่างก็ได้นะคะ" หญิงสาวเอ่ยขึ้น
"..."
มอร์แกนนั่งลงที่ปลายเตียง หันใบหน้าคมคายจ้องมองหญิงสาวที่ยืนก้มหน้าก้มตา "'มานี" เขาเอ่ยเรียกหญิงสาว ฝ่ามือแกร่งตบที่หน้าตักตัวเองสองสามที เป็นการเชิญหญิงสาวให้นั่งลง
"จะทำไหมข้อตกลงหน่ะ"
"ค่ะ" หญิงสาวเดินไปนั่งบนหน้าตักแกร่งอย่างจนปัญญา มอร์แกนจัดท่าทางการนั่งให้เธอโดยครั้งนี้จัดให้เธอนั่งหันหน้าเข้าหาเขา ความใกล้ชิดทำให้ลมหายใจอุ่นเป่ารดกัน "ไหนละ ข้อตกลง" มอร์แกนเอ่ยทวง มือหยาบลูบไล้แผ่นหลังของสตรีที่นั่งอยู่บนหน้าตัก ยิ่งดูใกล้ๆ ยิ่งสวย มีเสน่ห์ ร่างกายร้อนวูบวาบ สิ่งที่ควรหลับไหลกำลังจะตื่นภายใต้อาภรณ์ราคาแพง "ข้อตกลงของหมี่ คือ ถึงเราจะต้องแต่งงานกัน แต่ชีวิตคู่ของเราไม่ได้เริ่มต้นด้วยความพึงพอใจต่อกัน เราควรต่างคนต่างใช้ชีวิตดีไหมคะ อยู่ด้วยกันไปสัก ปี สองปี แล้วค่อยหย่า บอกกับผู้ใหญ่ที่บ้านว่าเราเข้ากันไม่ได้ ตามนี้นะคะ" "ฉันไม่ตกลง" คิดจะไปจากฉันมันยากสักหน่อยนะบะหมี่"แล้วเราจะอยู่กันยังไงค่ะ ในเมื่อเราไม่ได้รักกัน" เธอยังคงมองภาพอนาคตไม่ออกว่าคนที่ไม่ได้รักกันจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้อย่างไร
"ฉันมีวิธี ละกัน" ชายหนุ่มยกยิ้มเจ้าเล่ห์ มันจะยากอะไรก็แค่ทำให้เธอรักฉันเท่านั้นเอง "งั้นคุณต้องไม่แตะเนื้อต้องตัวหมี่นะคะ ห้ามลวนลาม ห้ามถูกของสงวน ห้าม เอ่อ ห้ามมีอะไรกับหมี่" เธอกลัวว่าหากวันหนึ่งต้องเลิกกันแล้วสิ่งที่เธอเสียไปจะเอากลับมาได้อย่างไรเธออยากเก็บเอาไว้ให้กับคนที่คู่ควร "ฉันไม่ตกลง เธอเป็นเมียฉัน จะให้ฉันนอนชักว่าว ทั้ง ๆ ที่มีเมียนอนข้างๆ หน่ะหรอ" ผู้หญิงคนนี้แปลกจริงๆ ทั้ง ๆ ที่ตำแหน่งตรงนี้มีผู้หญิงนับพัน นับหมื่น อยากจะได้มาครอง แต่เธอได้มันมาด้วยความเต็มใจของฉัน ถ้าฉันไม่ยอมมีหรอที่พ่อจะบังคับฉันได้ "เออ หมี่สัญญานะคะ ว่าจะเป็นภรรยาที่ดีของคุณ แต่เราไม่ได้พึงพอใจกันมาก่อน หมี่เกรงว่าเราอาจจะเข้ากันไม่ได้ก็ได้นะคะ หมี่คิดว่าเราต้องใช้เวลา" เธอพยายามพูดจาหว่านล้อมมาเพียหนุ่มให้คล้อยตาม
"งั้นวันนี้เรามาซ้อมดูไหม จะได้รู้ว่าเราเข้ากันได้หรือเปล่า" ความเจ้าเล่ห์ของเธอสู้ฉันไม่ได้หยอกยัยตัวเล็ก"ซ้อม? ซ้อมอะไรหรือคะ" เธอยังคง งง กับคำว่าซ้อม มีด้วยหรอการซ้อมเป็นสามีภรรยา ถึงแม้เธอจะดูเป็นผู้หญิงกร้านโลก แต่เธอก็ไม่เคยในเรื่องอย่างว่า เธอเพียงแค่ชอบแต่งตัวสวยงามเท่านั้น
รอยยิ้มร้ายยุดขึ้นมุมปากของมาเพียหนุ่ม ก่อนที่เขาจะฉกริมฝีปากหนาประทับริมฝีปากอวบอิ่มแผ่วเบา ไม่มีการสอดใส่ด้วยปลายลิ้น แต่อย่างใดใครจะอดใจไหววะ ว่าที่เมียสวยเซี้ยะขนาดนี้ ทันทีที่ผละริมฝีปากออกใบหน้าสวยงามของหญิงสาวแดงระเรือด้วยความเขินอาย หัวใจดวงน้อยเต้นเร็วอย่างบ้าคลั่ง ไม่รู้ทำไมถึงยอมให้เขาจูบได้อย่างง่ายดาย
"อาทิตย์หน้า ตัวเล็กต้องย้ายมาอยู่ที่นี่นะครับ" บะ ข้าแล้ว ทำไมมันเร็วอย่างนี้ "เออ อาทิตย์หน้า ทำไมเร็วจังคะ กำหนดการคืออีกสามเดือนข้างหน้าไม่ใช่หรอ" เธอใคร่ถามเพราะความอยากรู้เสร็จสิ้นพิธีฝังศพของคุณแด๊ด พวกเราก็กลับเข้ามายังเพนท์เฮาส์ที่เมื่อก่อนครึกครื้น มีคุณแด๊ดคอยวิ่งเล่นกับมาร์ติน มาร์แชล อย่างมีความสุขบัดนี้มันไม่มีอีกแล้ว ฉันจับมือแดดดี้ไว้เพื่อให้กำลังใจสามีของตัวเอง อดไม่ได้ที่เห็นสามีต้องเศร้าแดดดี้บีบมือฉันแน่นตอนนี้ภายในจิตใจของเขาคงจะกำลังแตกสลายไม่มีชิ้นดี “แดดดี้ไปพักเถอะค่ะ เดี๋ยวหมี่ทำอะไรให้ทานนะคะ”มอร์แกนรั้งตัวหญิงสาวเอาไว้ เขากอดเธอไว้แน่นราวกับต้องการที่พักใจให้หายเหนื่อยเพียงเท่านั้น ร่างกายไม่เท่าไหร่ แต่จิตใจอ่อนล้าเหลือเกิน “ไม่เป็นไรนะคะ เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้นเองค่ะ”[ห้าปีต่อมา]“ยินดีที่ได้ร่วมทำธุรกิจกับคุณนะครับคุณมอร์แกน” บาสเตียนเอ่ยขึ้นเมื่อได้ตกลงทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ร่วมกันกับมอร์แกน ผู้ที่เป็นทั้งมาเฟียและนักธุรกิจที่ไม่มีใครยำเกรง รวมถึงตัวเขาผู้ที่มีอำนาจทั้งบนดินและได้ดิน“ผมก็ยินดีที่ได้ทำธุรกิจร่วมกับคุณครับคุณบาสเตียน” สองหนุ่มยื่นมือจับแสดงความยินดีกับธุรกิจของทั้งคู่ที่ร่วมลงทุนด้วยกันจนได้ผลกำไรเป็นกอบเป็น
“จัดการเรียบร้อยไหม” ทันทีที่ประตูห้องทำงานเปิดออกมามอร์แกนถามเพื่อนรักทั้งสองด้วยความเป็นกังวน กังวนว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันจะผิดไหม กังวนว่า สิ่งที่เขาทำมันรุนแรงไปหรือเปล่า แต่เขาก็มีคำตอบให้ตัวเองในใจแล้ว ใครที่แตะต้องลูกเมียเขา ใครที่คิดร้าย เขาคงปล่อยให้มีชีวิตต่อไปไม่ได้จริงๆ“อืม ... เรียบร้อยไม่ต้องกังวนให้ลูกน้องเก็บกวาดอยู่” คอสโม่เป็นคนตอบคำถามนั้น ขณะที่วิคเตอร์กำลังจุดบุหรี่เดินไปนั่งตรงโซฟา “ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก มึงทำถูกต้องแล้ว” วิคเตอร์เอ่ยขึ้นเพื่อให้มอร์แกนสบายใจ ถึงแม้ว่าตัวเองจะรู้สึกไม่ต่างกันเลยก็ตาม“อย่าคิดมาก ทุกคนรู้สึกเหมือนกันหมดนั่นแหละ” คอสโม่เองก็รู้สึกไม่ต่างกัน เมื่อเพื่อนต้องมาดับชีวิตลงด้วยน้ำมือของเพื่อน ใครกันเล่าจะทนรับไหว แม้แต่หัวใจมาเฟียที่แข็งแกร่งดังหินผาเฉกเช่น มอร์แกน วอคเตอร์ และตัวเขาเอง ก็เจ็บปวดไม่น้อย อีกทั้งเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทันเป็นเพราะดีออนเองที่ทำมันพัง
[หลายสัปดาห์ต่อมา]"ตัวเล็กค้าบบบ ผลเป็นไงบ้าง" ช่วงเช้าของหลายสัปดาห์ต่อมามอร์แกนมักจะให้บะหมี่ตรวจครรภ์เพื่อหวังว่าจะมีนางฟ้าตัวน้อยๆ มาวิ่งเล่นเป็นเพื่อมาร์ติน กับมาร์แชล และเช้านี้ก็เช่นกันบะหมี่ส่ายหน้าเบาๆ สายตาแอบผิดหวังนิดๆ ที่ทำให้สามีผิดหวัง เธอเองก็หวังให้สามีสมหวังกับการมีลูกสาวเช่นกัน"ไม่เป็นไรครับ แด๊ดโอเค" ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่มอร์แกนกลับมีสายตาผิดหวังนิดๆ แต่หากบะหมี่ไม่สามารถมีตัวเล็กๆ ได้อีก เขาก็ไม่ว่าอะไรมอร์แกนดึงคนรักเขามาสวมกอดด้วยความรักใคร่เพื่อหวังปลอบใจให้เธอไม่ต้องกังวนใดๆแกร่ก~!!!เสียงเปิดประตูดังขึ้นทำให้มอร์แกน และบะหมี่ต้องหันไปมองตามเสียงที่ดังขึ้น เมื่อเห็นเป็นวิคเตอร์กับคอสโม่ มอร์แกนยิ่งกอดบะหมี่แน่นขึ้นเพื่อแสดงความหวงแหน"หวงเป็นหมาหวงกระดูกเลยนะมึง" วิคเตอร์เอ่ยขึ้นอย่างนึกหมั่นไส้เมื่อเห็นอาการของมอร์แกนที่หวงภรรยาสาว"พวกมึงเคาะประตูเป็นป่ะ ไอ้ห่ากูว่ากูก็สร้างประตูไว้นะ" วิคเตอร์ไม่สนใจคำกระแหนะกระแหนของมอร์แกนเลยสักนิด แถมยังยักไหล่ให้เขาเป็นเชิงไม่สนใจอีกต่างหาก
[หนึ่งสัปดาห์ต่อมา]"มาทานข้าวด้วยกันซิคะ คอสโม่ วิคเตอร์" บะหมี่เอ่ยชวนเพื่อนสามีที่ตอนนี้ย้ายมาอยู่ด้วยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเหตุเพราะความหน้ามึนของเพื่อนสามีทั้งสองคนอยากจะอยู่ใกล้มาร์ติน กับ มาร์แชล ตลอดเวลา ทำให้อยู่ก็กลายเป็นครอบครัวเดียวกันไปโดยปริยาย"มีอะไรกินบ้าง บะหมี่ทำเองหรอ" คอสโม่เดินตรงไปยังโต๊ะรับประทานอาหารขณะที่วิคเตอร์ก็ตามมาติดๆ"มาร์ติน มาร์แชล ไปไหน" ดูท่าแล้วคนที่ติดเด็กแฝดจะไม่ใช่แค่มอร์แกน คนเดียว ทุกครั้งที่วิคเตอร์ กับ คอสโม่ กลับมาจากทำงาน ไม่ว่าจะดึก จะเหนื่อยแค่ไหน เขาต้องเข้ามาขุดเอาสองแฝดไปนอนด้วยทุกครั้ง"แดดดี้พาไปเดินเล่นที่สวนหลังบ้านคะ" คอสโม่นั่งลงที่โต๊ะอาหารมองหน้าบะหมี่ อย่างนึกอาลัยอาวรณ์ แต่เมื่อนึกถึงหน้าสองแฝดขึ้นมาเขาลุกพรวดขึ้นในทันทีเดินตรงไปยังสวนหลังบ้าน"เออ ... อย่าบอกนะว่าจะไปแย่งมาร์ติน กับมาร์แชลมาน่ะ" วิคเตอร์พยักหน้าพลางเลื่อนเก้าอี้แล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามบะหมี่"มีอีกสักสองคนซิ ถ้ามอร์แกนมันไม่มีน้ำยาแล้วเดี๋ยวฉันทำเอง""ไม่ได้!!"พูดไม่ทันขาดคำน้ำเสียงท
เวลาล่วงเลยมาร่วมสิบเดือนเศษแล้วนอกจากมอร์แกนที่ทำหน้าที่หลักคือเลี้ยงสองจอมมาร เป็นทาสเมีย แล้วยังต้องคอยกันพวกพ่อบุญธรรมมโนอีกเห้อชีวิตมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ใครมาเห็นเข้าเขาจะว่ายังไงเนี่ย มอร์แกนได้แค่บ่นในใจถึงอย่างไร เขาก็เต็มใจที่จะทำหน้าที่นี้"แอ๊ะ~ / แอ๊ะ~" ลูกรัก ตื่นทีก็ตื่นพร้อมกันเลยหรอเนี่ย ถึงจะเป็นแฝดแต่ก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันขนาดนี้ก็ได้ เขาแอบคิดในใจก่อนหยัดกายลุกขึ้นอุ้มมาร์ติน กับ มาร์แชล ลงไปนั่งเล่นที่ห้องรับแขกข้างล่าง"วันนี้อย่าดื้อกับแด๊ดนะครับ มัม ไม่อยู่ไปสอนหนังสือ" เขาวางมาร์ติน กับ มาร์แชล ลงบนเบาะสำหรับเด็กเล็กขนาดใหญ่ที่สั่งทำพิเศษเพื่อลูกชายที่รักด้วยความระมัดระวัง"ทีวันนี้ต้องการความช่วยเหลือ ไอ้สองพ่อบุญธรรมจอมมโนก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย" มอร์แกนทิ้งตัวลงนอนมองสองแฝดที่กำลังไล่งับหูกันอยู่อย่างอารมย์ดี"มาร์ติน อย่าอมหูน้องซิลูก โอ้ยยย มาร์แชล คลานมานี่ ไปให้พี่อมหูเล่นทำไมลูก" โอ้ยย กูจะบ้าตายลูกไล่อมหูกันสงสัยคิดว่าเป็นนมละมังทันทีที่แยกสองแฝดออกจากกันได้ โดยให้มาร์ตินอยู่ฝั่งซ้าย มาร์แชล อยู่ฝั่งขวา แล้วมอร
ทันทีที่ได้ยินเสียงเด็กร้องระงมห้องคลอดความเจ็บปวดที่มีเมื่อครู่กลับหายไปฉับพลันราวกับว่ามันไม่เคยเจ็บปวดเลยสักนิด และทันทีที่เห็นใบหน้าจิ้มลิ้มของลูกรัก น้ำตากลับไหลออกมาอย่างต่อเนื่องด้วยความยินดี ก่อนที่ทุกอย่างที่มองเห็นจะพร่ามัวและดับวูบลงไปทันทีมอร์แกนยังคงมองเด็กแฝดด้วยดวงตาพร่ามัวเช่นกัน เพราะน้ำตาที่เออรื้นออกมามันบังม่านตาจนพร่ามัว เขาได้สัมผัสกับคำว่าครอบครัวแล้วจริงๆ จมูกโด่งคมเป็นสันสัมผัสกับพวงแก้มนุ่มนิ่มของลูกรักทั้งสองอย่างหวงแหนเวลาผ่านไปราวสามชั่วโมงที่บะหมี่หลับไปภายในห้องพักฝื้นผู้ป่วย เธอลืมตาตื่นขึ้นมากวาดตามองไปรอบๆ พลันเห็นคนรักของตัวเล่นกำลังจ้องมองเด็กแฝดที่เพิ่งออกมาลืมตาดูโลกไมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ข่าวการคลอดลูกของบะหมี่ถูกส่งถึงคอสโม่ และวิคเตอร์ อัตโนมัติด้วยฝีมือของทั้งสองเอง ปม้พ่อเด็กจะไม่ได้ส่งข่าวใดๆ ไปเลยก็ตาม“ตื่นแล้วเหรอครับ ตัวเล็ก ค่อยๆ นั่งเดี๋ยวแด