‘พี่ราม’ ของคุณป้าฉัตรดูหล่อ และเด็กกว่าในรูปที่เคยเห็นอยู่มากนัก แม้เขาจะดูเย็นชาไปหน่อยก็เถอะ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เธอได้รับรู้มาก่อนล่วงหน้าแล้วจึงไม่ได้ตกใจอะไรเท่าไหร่กับท่าทีที่เขาแสดงออกต่อกัน... ‘หนูอ้อนไม่ต้องตกใจนะลูก ถ้าพี่เขาจะเย็นชาไปสักนิด ตารามก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว กับป้าเองเขาทำแบบนี้เหมือนกัน’ ขนาดกับแม่แท้ๆ ยังเย็นชาใส่ ก็ไม่แปลกใจเลยถ้าเขาจะทำแบบนั้นกับเธอ หรือคนอื่นๆ
“มาถึงแล้วก็รีบขึ้นรถ ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมาทำเรื่องไร้สาระทั้งวัน!” ไม่ทันจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ เสียงเข้มจัดก็เอ่ยขึ้นเหมือนคล้ายว่าจะตำหนิที่เธอยังไม่ยอมพาตัวเองขึ้นมาบนรถเสียที
การทำอะไรช้าๆ ของเธอ ทำให้เขาเสียเวลาที่มีค่าไปสินะ!
“ขอโทษค่ะ” หญิงสาวกล่าวขึ้นเพียงสั้นๆ ก่อนจะรีบพาตัวเองขึ้นมานั่งบนรถข้างคนหน้าดุ พยายามเบียดตัวเข้าหาประตูรถให้ได้มากที่สุด ทว่าท่าทีนั้นยิ่งกลับทำให้คนเห็นถึงกลับหน้าตึง!
กลัวเขา...แต่ไม่ยักกลัวไอ้บุญส่ง!
ช่างเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกก็ว่าได้...
ปกติแล้วผู้หญิงมักจะชอบเข้าหาเขาด้วยเหตุผลเพียงไม่กี่อย่าง ไม่ให้ท่า ก็อยากลองของ แต่กับคนตรงหน้ากลับแปลกออกไป หล่อนดูเหมือนไม่ค่อยอยากจะเข้าใกล้เขาเท่าไหร่ จะเป็นเพราะมารยาหรืออะไรก็ไม่อาจทราบได้ แต่ที่รู้คือเขาไม่พอใจที่เห็น!
“จะขยับหนีไปไหนนักหนา นั่งดีๆ ไม่เป็นรึไง!”
เป็นเขาที่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอีกครั้ง ก่อนจะเป็นฝ่ายขยับเข้าไปใกล้คนขี้วิตก แต่วินาทีต่อมาก็ต้องชะงักเมื่อพบเข้ากับกลิ่นหอมอ่อนๆ จากช่อผมสวย ซึ่งแม้จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีให้อีกฝ่ายได้รับรู้ ถึงความผิดปกตินี้ของตัวเอง
ไม่เพียงแค่ผมเท่านั้นที่หอม
ผู้หญิงคนนี้หอมไปทั้งตัว! กลิ่นเธอเหมือนเด็กทารกที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ซึ่งมันแปลกจากผู้หญิงทั่วไปที่ชอบฉีดน้ำหอมจนหอมฟุ่งไปทั่วทั้งตัว ถ้าถามซึ่งไม่มีใครถาม เขาชอบกลิ่นแบบนี้มากกว่า
“ขอโทษค่ะ...คุณราม”
แก้วเจ้าจอมกล่าวขอโทษออกไปอีกครั้ง ก่อนจะพยายามนั่งนิ่งๆ ไม่ขยับไปไหนอีก ราวกลัวคนข้างกายจะรู้สึกรำคาญไปมากกว่าที่เป็นอยู่ แม้จะไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเอง ‘เผลอ’ ไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจเมื่อไหร่ แต่ก็ไม่กล้าพอจะเอ่ยปากถาม พยายามสงบปากสงบคำจนกระทั่งรถคันใหญ่ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกมาจากท่ารถ
ส่วนจุดหมายของมันจะเป็นที่ไหนนั้น
ก็สุดแล้วแต่เขาจะพาไปเลย...
คนที่นั่งเกร็งมาตลอดทางเผลอหลับไปตอนที่รถกำลังเลี้ยวเข้ามาในไร่ ทำให้พลาดโอกาสดีๆ ที่จะได้เห็นภาพอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้า ซึ่งมันเป็นภาพที่ผู้เป็นเจ้าของตั้งใจเป็นอย่างมากที่จะอวด หลุมที่เกิดจากฝนที่ตกอย่างหนักตลอดหลายวันที่ผ่านมาทำให้หัวของหล่อนโยกไปมาจนน่าหวาดเสียว เดือดร้อนคนที่ทนมองมาพักใหญ่ต้องขยับไปประคองก่อนจะกดร่างบอบบางให้ค่อยๆ นอนบนตักตัวเอง เพื่อตัดปัญหาเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้น
คงไม่ดีเท่าไหร่ถ้าเกิดเด็กเส้นของแม่จะหัวแตกตั้งแต่วันแรกที่มาถึง เขาไม่อยากมีปัญหากับทางนั้น เพราะดูยังไงก็เหมือนจะทั้งรักและเอ็นดู ‘เด็กนี่’ ไม่น้อย ซึ่งพอได้มาเห็นหน้าก็พอจะเข้าใจได้
เธอดูเหมือนเด็ก ทั้งๆ ที่ก็ไม่ใช่เด็กแล้ว...
เขาพอรู้ประวัติเธอมาบ้างว่าเรียนจบแล้ว ซ้ำเกรดเฉลี่ยที่มารดายกมาอวดนั้นก็ไม่เลวทีเดียว มันบอกให้รู้ว่าเด็กของท่านเก่ง
“จะให้ผมแวะไปส่งคุณอ้อนที่บ้านพักคนงานก่อนดีไหมครับนาย” เป็นบุญส่งที่จำต้องร้องถามขึ้นทำลายความเงียบเพราะนึกสงสารคนบนตักนาย บอบบางไปทั้งเนื้อทั้งตัวแบบนั้นไม่รู้ว่าจะทนลำบากทำงานที่นี่ไปได้สักกี่น้ำ เขาพนันเอาว่าไม่น่าจะเกินสามวัน
ที่ทำให้ต้องคิดแบบนั้นเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีผู้หญิงมาสมัครงานกับเจ้านายของเขา ซึ่งเจตนาของคนพวกนั้นก็ชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ได้มีความตั้งใจอยากทำงานในสวนในไร่อย่างปากว่า แต่มาเพราะอยากตกถังข้าวสารเป็นนายหญิงของไร่ ซึ่งเขาก็ได้แต่ภาวนากับตัวเองขอให้คนบนตักของนายต่างจากคนพวกนั้น
สักนิดก็ยังดี...
คงดีไม่น้อยถ้าได้เห็นนายตกลงปลงใจกับใครสักคนในช่วงชีวิตนี้ และไม่ว่าคนนั้นที่ว่าจะเป็นใคร มาจากไหน ขอเพียงแค่เธอคือคนที่นายรัก เขาและทุกคนที่นี่ก็พร้อมที่จะรักและให้ความเคารพ
“ไปทำไมบ้านพักคนงาน” คเชนทร์ถามกลับด้วยน้ำเสียงดุ ก่อนที่จะลดฝ่ามือไปลูบเบาๆที่แก้มป่องเมื่อเจ้าของมันทำท่าจะตื่น
ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องทำ รู้ก็แต่ว่ายิ่งทำก็ยิ่งเพลินจนหยุดมือไม่อยู่ ก็ใครใช้ให้มีแก้มเยอะ ใช่ความผิดเขาที่ไหน!
“กะ...ก็นายสั่งให้เตรียมห้อง...”
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว กลับบ้าน” ตัวเล็กๆ แค่นี้จะกินจุสักแค่ไหนกันเชียว เขาเชื่อว่าเขาเลี้ยงเธอได้สบาย อีกอย่างเขารับปากแม่ไว้แล้วว่าจะดูแลเด็กของท่านให้ ก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามนั้น!
เขาไม่อยากผิดคำพูด!
เมื่อมาถึงบ้านคเชนทร์ก็ทำในสิ่งที่ทำให้ใครหลายๆ คนต้องตาค้างด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ ภาพของเจ้านายที่อุ้มเด็กผู้หญิงคนหนึ่งลงมาจากรถก็ปรากฎต่อสายตา ซ้ำเจ้าตัวยังดูเหมือนจะไม่สนใจภาพลักษณ์ ‘ชายผู้มีรักเดียว’ ที่สะสมมาครึ่งชีวิตเลยสักนิด
“นั่นนายมึงไปขโมยลูกใครมาวะไอ้ส่ง!” นางฟาง แม่บ้านคนเก่าแก่อดไม่ได้เลยต้องหันไปถาม คนที่น่าจะตอบคำถามให้นางกับคนอื่นๆ ได้ดีกว่าใครๆ เพราะอีกฝ่ายเป็นถึงคนสนิท น่าจะพอรู้อะไรดีๆมาบ้างไม่มากก็น้อย ต่างจากนางที่วันๆอยู่แต่บ้านไม่รู้อะไร
“เธอชื่อคุณอ้อน เด็กของนายแม่ เห็นว่าฝากให้มาทำงานที่นี่” ซึ่งอีกฝ่ายก็บอกไปตามที่รู้ ส่วนเรื่องต่อจากนี้ก็คงสุดแล้วแต่เจ้านายแล้ว ว่าจะให้ ‘คนในอ้อมแขน’ นั้นอยู่ในสถานะไหนกันแน่
“แล้วทำไมนายต้องอุ้มเข้าไปในบ้านแบบนั้นด้วยวะ!” ด้วยกลัวว่านั่นอาจเป็นมารยาหญิง เลยต้องถามต่อด้วยความเป็นห่วง
“คุณอ้อนเธอเพลียจากการเดินทางเลยเผลอหลับไป นายแกไม่อยากปลุกก็เลยอุ้มลงจากรถ ที่เหลือถ้าป้าอยากรู้อะไรก็รอถามนายเองแล้วกัน” ใครมันจะไปกล้าถาม พูดอย่างกับไม่รู้ว่า ‘คุณราม’ ของนางเป็นพวกปากหนักใจแข็งแค่ไหน ถามไปก็เท่านั้นอยู่ดี
เพราะลองถ้าพ่อไม่อยากเล่า
ใครหน้าไหนก็อย่าหวังจะได้คำตอบ!
ภาพของเจ้านายที่ไม่ว่าจะไปไหนก็มักจะหอบเอาลูกสาวคนโตไปด้วยเสมอนั้นเป็นภาพที่ใครหลายคนได้เห็นจนชินตา โดยเฉพาะใบหน้าของทั้งสอง ที่ดูคล้ายกันมาก แต่ก็บางคนที่ทำเป็นมองไม่เห็นในความเหมือนนี้ด้วยเพราะถูกตาต้องใจพ่อของเด็ก “น้องสาวเหรอคะ หน้าตาน่ารักเชียว” คู่ค้ารายใหม่ที่เป็นสาววัยกลางคนเอ่ยถามขึ้น ในจังหวะที่กำลังจะก้มหน้าอ่านสัญญา เหมือนอยากได้คำตอบก่อนตัดสินใจลงนาม “ลูกสาวครับ คนโต อีกคนอยู่ในท้องแม่ กำหนดคลอดสิ้นเดือนนี้แล้ว” คเชนทร์ให้คำตอบที่ชัดถ้อยชัดคำที่สุดเหมือนจะรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรเสียวันนี้เขากับคนตรงหน้าอาจจะไม่ได้ทำธุรกิจร่วมกัน แต่ถามว่าต้องสนไหมก็ไม่ ยังมีคนอีกมากที่อยากมายืนอยู่ในจุดนี้ เพราะฉะนั้นเขาไม่จำเป็นต้องแคร์! “น่าเสียดายจังเลยนะคะที่เราเจอกันช้าไป จันทร์...ขอกลับไปคิดดูก่อนได้ไหมคะ ถ้าสนใจเดี๋ยวจะให้เลขาติดต่อกลับมาอีกที” เขายิ้มรับตามคำบอกกล่าวนั้น ก่อนจะเรียกบุญส่งให้เข้ามาทำหน้าที่ส่งแขกแทน เพราะตัวเองไม่ว่างจะไปดูแลใคร นอกจากแก้วตาดวงใจที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่บนตัก คาดว่าคงหลับลึกไปถึงเย็น
ปลายฝนแวะเวียนมาถึงอีกหนึ่งปีให้หลัง เป็นปีที่แก้วเจ้าจอมมีโอกาสได้ขึ้นมาดูทะเลหมอกกับสามี ตามที่เขาเคยให้สัญญาไว้ แม้จะรู้ดีว่าสถานที่ตรงนี้เคยมีความทรงจำกับเขากับอดีตคนรักอยู่ แต่เธอก็เลือกที่จะมองข้าม เพราะอย่างที่เขาเคยว่าไว้ ‘อดีตมันเป็นสิ่งที่กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้’ เพราะอย่างนั้นเธอเลยเปลี่ยนความคิดของตัวเองเสียใหม่ ไม่ฟูมฟายกับอดีตของเขา แม้ว่ามันจะไม่มีเธออยู่เลยก็ตาม วันเวลาทำให้เธอเติบโต และมีเหตุผลมากขึ้น และเธอยินดีให้เขาเก็บความทรงที่มีต่ออดีตคนรักไว้แบบนั้น ตราบเท่าที่มัน ไม่ได้ทำให้เขาทรมานเหมือนอย่างที่แล้วมาอีก “สวยจังเลยค่ะ” กลุ่มก้อนเล็กๆ สีขาวนวลที่จับกลุ่มกระจายอยู่รอบๆ ตัวนั้นทำให้เธอรู้สึกราวกับอยู่บนสวรรค์ก็ไม่ปาน มันสวยกว่าที่คิดไว้ สวยเสียจนเริ่มรู้สึกผิดที่ไม่ได้ชวนคุณผิงขึ้นมาด้วยกัน แต่ถึงชวน อีกฝ่ายก็คงมาด้วยไม่ได้เพราะกำลังตั้งท้อง ซ้ำยังได้ลูกแฝด และพี่ทัดก็เหมือนจะหวงคนทั้งสามเอามากๆ ด้วย ชนิดที่ไม่ยอมให้ภรรยาหยิบจับอะไร เพราะกลัวจะสะเทือนไปถึงลูกสุดท้ายคู่นั้นก็ไม่ได้หย่ากันจริงๆ อย่างที่เคยตกลงกันไว้ในตอนแรก ซึ่งไม่มีใ
หลายเดือนต่อมา “มากันอีกแล้ว!” “โวยวายอะไรของมึงครับ พวกกูมาหาน้องอ้อน กับหลาน ไม่ได้มาหาคนหน้าเมื่อยอย่างมึงสักหน่อย! หลงตัวเองใหญ่โตนะมึงน่ะ!” ก็นั่นแหละที่ทำให้เขาโมโห มาแต่ละทีก็สร้างแต่เรื่อง นี่เรื่องหนก่อนที่พวกมันสร้างไว้กว่าเขาจะปรับความเข้าใจกับเมียได้ ก็ถูกไล่ออกมานอนตบยุงหน้าห้องเป็นเดือน ก็พวกเล่นพูดแต่เรื่องสาวๆ ที่ผ่านมาของเขาไม่หยุด ผลที่ได้คือเขาถูกเมียหึงเป็นครั้งแรกสมใจ แต่ดูเหมือนนอกจากพวกมันจะไม่พากันสลดแล้วนั้น ยังคงแวะเวียนมาเยี่ยม และหาเรื่องให้เขาต้อง ‘งานเข้า’ อยู่เป็นประจำ! “ลูกกูยังไม่คลอดวันนี้พรุ่งนี้ จะรีบมากันไปไหน!” มากันทุกเดือน บางเดือนก็หลายหน ไม่รู้พวกมันไม่มีงานมีการทำกันรึไง! “แล้วไงวะ ก็คนมันคิดถึง ใช่ไหมครับน้องอ้อน ท้องใหญ่ขึ้นเยอะเลย กี่เดือนแล้วนะครับ” บุรินทร์ไม่หาความกับเพื่อนเพราะคนที่เขาอยากเจอยืนออกมารับแล้ว ยิ่งได้เห็นก็ยิ่งอดตื่นเต้นไม่ได้ “แปดเดือนกว่าแล้วค่ะ” ว่าที่คุณแม่มือใหม่ตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม แม้จะเดินเหินไม่ค่อยสะดวกนักแต่ก็อยากออกมาต้อน
เท่านั้นเองคนที่อยากมีลูกใจจะขาดก็แทบจะอุ้มเมียขึ้นรถไปโรงพยาบาล และก็เป็นอย่างที่ใครคาดไว้ เมียเขาท้องแล้วจริงๆ“พี่ราม อ้อนเดินเองได้ค่ะ” ยิ่งรู้ว่าเธอกำลังตั้งท้องอ่อนๆ อยู่ สามีผู้ซึ่งดีใจกว่าใครๆ ยิ่งตามติดเธอมากขึ้น เขาแทบไม่ยอมให้เธอละสายตาไปไหน ขนาดขอไปเข้าห้องน้ำก็ยังไม่วายเดินตามไปเฝ้า“ให้พี่อุ้มดีกว่า อ้อนจะได้ไม่เหนื่อยไง”“อ้อนไม่เหนื่อยจริงๆ ค่ะ” มากสุดเธอก็แค่หิว อยากกลับบ้านไวๆ เพราะเหมือนจะได้ยินผ่านโทรศัพท์มาว่าป้าฟางจัดมะม่วงน้ำปลาหวานกับข้าวต้มกุ้งเอาไว้รอ ซึ่งแค่ได้ยินก็เปรี้ยวปากแล้ว“อย่าดื้อกับพี่สิ ป้องกันไว้ก่อนดีกว่ามาตามแก้ทีหลัง ให้พี่อุ้มดีแล้ว” เขาว่ามาแบบนั้น เธอเลยปล่อยเลยตามเลย อย่างน้อยก็อยากทำตัวว่าง่าย เพื่อลบภาพตัวเองเมื่อสองชั่วโมงก่อนออกไป“แม่ได้ข่าว สรุปว่ายังไง!” กลับมาถึงก็ต้องตกใจเมื่อเจอเข้ากับคุณป้าฉัตรที่นั่งรออยู่ที่หน้าบ้าน ท่าทีของท่านนั้นดูตื่นเต้นพอๆ กับพ่อของลูกไม่มีผิด ส่วนคนอื่นเธอไม่เห็น คิดว่าคงรออยู่ในบ้าน“ตามนั้นครับ อ้อนท้องได้หนึ่งเดือนแล้ว!” คุณฉัตรแก้วแทบจะโผเข้ากอดลูกสะใภ้ทันทีที่ได้รับคำตอบ ดีใจเหลื
บุรินทร์และพวกเดินทางมาเยี่ยมเพื่อนทันทีที่รู้ข่าวจากปากต่อปากว่าเพื่อนรักของเขาตอนนี้กำลังอินเลิฟ และคงเป็นการดีที่พวกเขาจะมากวนประสาทมันเล่น โทษฐานที่ชิงมีเมียก่อนเป็นคนแรกของกลุ่ม ทั้งๆ ที่เคยลั่นวาจาเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าจะไม่มีใครเพราะผู้หญิงก็เหมือนๆ กันหมด แต่ไหงกลายมาเป็นแบบนี้ได้ก็ไม่รู้“กูได้ข่าวมาว่านลินจะพาลูกย้ายไปอยู่ที่อื่น” เขาเริ่มพุ่งประเด็นไปยังคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ และคงไม่มีโอกาสแล้วในชั่วชีวิตนี้“อืม กูรู้แล้ว...” ท่าทีของเพื่อนที่ดูเหมือนจะไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรต่อเรื่องที่ได้รู้นั้น ยิ่งทำให้ทั้งสามมั่นใจ ว่าตอนนี้มันคงไม่ได้รู้สึกอะไรกับคนในอดีตแล้วอย่างที่ปากพูดจริงๆ ซึ่งพวกเขาเองก็เห็นด้วยกับการตัดขาดในครั้งนี้จะได้หมดเวรหมดกรรมต่อกันเสียที“มึงลืมเขาได้แล้วจริงๆ”“กูไม่เคยลืมนลิน แต่กูเลือกที่จะมีความสุขกับปัจจุบัน” ก็แน่ล่ะ ปัจจุบันของมันน่ารักน่าหยอกออกขนาดนั้น เป็นเขาก็เลือก!“ไม่คิดว่ามึงจะมาลงเอยกับน้องอ้อน น้องดูไม่เหมือนนลิน” และอาจจะเป็นเพราะแบบนี้ ท่าทางของมันถึงได้ดูเป็นคนละคนเหมือนกับว่าตอนนี้จะดูมีความสุขมากกว่าครั้งนั้น ในอดีต“ใช่ อ้อนก
“พี่รักอ้อนขนาดนี้ พี่จะไล่อ้อนไปไหนได้ หลงจนโงหัวไม่ขึ้นอยู่แล้ว ไม่รู้ตัวเลยเหรอ” เป็นอีกครั้งที่เธอส่ายหน้ากลับไปให้“อ้อนไม่กล้าคิดค่ะ เพราะอ้อนไม่มีอะไรคู่ควร...” คเชนทร์จัดการปิดกั้นคำพูดที่เหลือ ด้วยการรั้งใบหน้าอ่อนหวานขึ้นมาจูบมันเป็นจูบที่เปิดเผยทุกความรู้สึกที่เขามีต่อผู้หญิงคนหนึ่งคนธรรมดาที่ไม่ได้วิเศษมาจากไหน แต่กลับเป็นคนที่ทำให้เขามีความสุขทุกครั้งที่อยู่ใกล้ ซึ่งแค่นี้มันก็มากพอแล้วที่จะทำให้เขารักมากพอแล้วจริงๆ“อย่าดูถูกตัวเองให้พี่ได้ยินอีกนะ บอกตามตรงพี่ไม่ชอบเลย พี่รักอ้อนเพราะอ้อนเป็นอ้อน อ้อนไม่จำเป็นต้องดีพร้อมถึงจะเหมาะสมกับพี่ พี่ขอแค่อ้อนรักพี่ เหมือนที่พี่รักอ้อนเท่านั้น...พี่ขอแค่นี้ อ้อนพอจะทำให้พี่ได้ไหม” มากกว่านี้เธอจะทำให้เขาได้ ขอแค่เขารักเธออย่างที่เธอเป็นเธอ แค่นั้นก็มากพอแล้ว มากพอแล้วจริงๆ“ขออ้อนอยู่กับพี่รามนะคะ อยู่ตลอดไป...” เขายิ้มรับแทนคำตอบ ก่อนจะอาศัยจังหวะเหมาะๆ ช้อนอุ้มภรรยาขึ้นจากพื้น มุ่งตรงไปยังห้องนอนที่ชั้นสองของบ้านเพื่อปรับความเข้าใจกันสองคน“โทษฐานที่เข้าใจพี่ผิด แถมยังคิดจะยกผัวให้คนอื่น คืนนี้อ้อนต้องถูกลงโทษนะครั