ความหอมหวานที่ได้รับทำเอาคเชนทร์แทบจะลืมไปแล้วว่าเขาไม่เคยทำเรื่องแบบนี้กับใครที่ไหนมาก่อนแก้วเจ้าจอมคือคนแรก ยิ่งได้รู้ว่าหล่อนไม่ประสาเขายิ่งภูมิใจกับสิ่งที่ได้รับ แม้จะได้มันมาด้วยการกระทำที่ไม่สมเป็นสุภาพบุรุษ แต่ลึกๆ ก็ยังดีใจอยู่ดี จูบแรกของเธอ...
View More“นะรามลูก ถือว่าช่วยแม่สักครั้ง” เกิดร่องรอยความลำบากใจขึ้นหลังจากสิ้นคำขอร้องของ ‘ผู้เป็นมารดา’ ที่นานๆ ครั้ง จะพาตัวเองมาเยี่ยมเยียนให้พอให้พบหน้า และก็เป็นทุกครั้งที่อีกฝ่ายมักจะนำพาปัญหามาให้ ‘คเชนทร์’ ลูกชายคนโตต้องคอยแก้ไขให้ หากแต่ครั้งนี้ปัญหาที่ท่านนำติดตัวมาด้วยนั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างทำให้รู้สึกลำบากใจไม่น้อย
“ขอโทษครับ แต่ครั้งนี้ผมคงช่วยอะไรไม่ได้” หากสิ่งที่คนตรงหน้าร้องขอ เป็นเรื่อง ‘เงิน’ เหมือนทุกครั้ง เขาคงยอมช่วยเพื่อตัดปัญหา หรือความวุ่นวายที่จะตามมาไม่จบสิ้น แต่เพราะครั้งนี้คำขอร้องของท่านมันต่างออกไปจากครั้งก่อนๆ จึงเป็นเรื่องยากที่จะรับปากออกไปส่งๆ โดยไม่คิดถึงสิ่งที่อาจจะตามมาในภายหลัง
คุณฉัตรแก้วมีสีหน้าลำบากใจไม่น้อยต่อคำปฏิเสธของลูก ลูก...ที่นางไม่ค่อยจะเหลียวแลเท่าไหร่ตราบเท่าที่พอจะจำความได้ ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกที่ดูเหมือนจะขาดหายไปนับตั้งแต่วันนั้น วันที่นางตัดสินใจหย่าขาดกับพ่อของลูก และก็เป็นผู้ชายจองหองคนนั้น ที่กักตัวลูกชายของเธอไว้ ไม่ยอมปล่อยให้คเชนทร์ไปกับนางด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่า เขากลัวนางพาลูกออกไปลำบาก
คงเป็นการดีกว่าที่ให้ลูกอยู่กับเขาที่นี่ เพื่อที่จะได้สืบทอดธุรกิจมูลค่าไม่ต่ำกว่าร้อยล้านของครอบครัว
ถึงจะโกรธแค้นอดีตสามีที่ยื่นเสนอเงื่อนไขในการหย่าร้างแบบนั้นมาให้สักแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วก็นางเองที่ไม่ยอมละทิ้งความเห็นแก่ตัวยอมรับ ไม่เว้นแม้แต่การรับเงินสิบล้านบาทของเขาเพื่อแลกกับการที่นางยอมยกลูกให้ ท่าทีของลูกที่มีต่อแม่อย่างนางถึงได้เย็นชาอย่างที่เห็น นับตั้งแต่นั้นมา และแม้จะไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเอาอะไรใส่หัวลูกไปมากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับนางแล้ว แม้จะแต่งงานมีลูกกับสามีใหม่ถึงสองคน แม้จะอยู่ห่างไกลกันคนละจังหวัด แต่ก็ไม่มีเลยสักวัน ที่นางจะไม่คิดถึงแก้วตาดวงใจของนางคนนี้ ลูกชายคนโต..ที่เป็นดั่งความภาคภูมิใจของนางและครอบครัว
ลูกที่เกิดจากผู้ชายที่แสนดี...
แต่เป็นนางเองที่ดีไม่พอสำหรับเขาและลูก ทางเดินใหม่ที่เลือกเดินไปนั้นจึงไม่เต็มไปด้วยความสุขอย่างที่เคยนึกฝันไว้ในตอนแรก แต่จะโทษใครที่ไหนได้นอกจากตัวเอง และนางไม่โทษใคร
กว่าจะมีโอกาสได้กลับเข้ามาในชีวิตลูกอีกครั้ง ก็หลังจากคุณการุณสามีเก่าเสียชีวิตไปแล้ว และก็เป็นทุกครั้งที่แม่อย่างนางมักจะนำเอาปัญหาของตัวเองมาให้ลูกอยู่เสมอ ครั้งนี้เองก็เช่นกัน
“แม่มีเหตุผลที่พาน้องไปอยู่ด้วยไม่ได้รามก็รู้ ช่วยแม่สักครั้งเถอะนะลูก น้องเป็นเด็กน่ารัก ว่านอนสอนง่าย แม่รับรองว่าหนูอ้อนจะไม่สร้างความวุ่นวายให้รามแน่นอน” คเชนทร์เงยหน้าขึ้นสบตามารดาอีกครั้งอย่างชั่งใจ ใช่ว่าจะไม่รู้ถึงเหตุผลที่ท่านเพิ่งจะเอ่ยถึง แต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่ท่าน ‘ขอ’ แล้วนั้น มันก็ยังเป็นเรื่องยากต่อการตัดสินใจอยู่ดี เพราะเขาไม่รู้จริงๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเผลอตบปากรับคำไปอย่างส่งๆ บุคคลที่แม่ลงทุนขอร้องให้ยื่นมือเข้าไปช่วยเป็นใคร มาจากไหนก็ไม่อาจรู้ และไม่นึกอยากจะรู้ด้วย!
อีกอย่างเขาไม่ชอบดูแลใคร เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ที่ต้องทำ!
“นะลูก ถือว่าช่วยแม่สักครั้ง แม่ขอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วแม่จะไม่เอาเรื่องวุ่นวายมากวนใจรามอีกเลย แม่ให้สัญญาจ๊ะ” เมื่อเล็งเห็นว่าลูกชายมีทีท่าว่าจะยอมอ่อนข้อให้ คุณฉัตรแก้วถึงได้เอ่ยขึ้นมาอีกครั้งและครั้งนี้ท่านยังจ้องตาลูกกลับเพื่อเป็นการกดดัน
ด้วยเชื่อว่าสุดท้าย แล้วคเชนทร์จะชอบช่วยเหมือนทุกครั้ง...
“แค่ให้มาอยู่ที่นี่...เท่านั้นใช่ไหมครับที่คุณต้องการ” เสียงเข้มจัดถามต่ออีกหน น้ำเสียงที่ใช้ดูคล้ายว่าใกล้จะใจอ่อนเต็มที
“ความจริงน้องเพิ่งเรียนจบบัญชีมา ถ้าไม่เหนือบากกว่าแรงอะไร แม่ก็อยากให้รามช่วยฝากงานในไร่ให้น้องด้วย...” เรื่องนั้นจะไม่เป็นปัญหาเลยเพียง ‘เด็กของแม่’ ดีพอสำหรับตำแหน่งงานที่มี
ไม่ว่าใครเขาก็ยินดีช่วยทั้งนั้นถ้าเดือดร้อนมา ขนาดคนงานในไร่บางคนที่เคยต้องคดีมาก่อน เขาก็ยังกล้าเสี่ยงรับเข้าทำงานเพราะเข้าใจดีถึงความเป็นคน ที่อาจจะมีผิดพลาดไปบ้างในบางครั้ง หากได้รับโอกาส คนเหล่านั้นจะกลับตัวกลับใจได้ในสักวัน
ภาพของเจ้านายที่ไม่ว่าจะไปไหนก็มักจะหอบเอาลูกสาวคนโตไปด้วยเสมอนั้นเป็นภาพที่ใครหลายคนได้เห็นจนชินตา โดยเฉพาะใบหน้าของทั้งสอง ที่ดูคล้ายกันมาก แต่ก็บางคนที่ทำเป็นมองไม่เห็นในความเหมือนนี้ด้วยเพราะถูกตาต้องใจพ่อของเด็ก “น้องสาวเหรอคะ หน้าตาน่ารักเชียว” คู่ค้ารายใหม่ที่เป็นสาววัยกลางคนเอ่ยถามขึ้น ในจังหวะที่กำลังจะก้มหน้าอ่านสัญญา เหมือนอยากได้คำตอบก่อนตัดสินใจลงนาม “ลูกสาวครับ คนโต อีกคนอยู่ในท้องแม่ กำหนดคลอดสิ้นเดือนนี้แล้ว” คเชนทร์ให้คำตอบที่ชัดถ้อยชัดคำที่สุดเหมือนจะรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรเสียวันนี้เขากับคนตรงหน้าอาจจะไม่ได้ทำธุรกิจร่วมกัน แต่ถามว่าต้องสนไหมก็ไม่ ยังมีคนอีกมากที่อยากมายืนอยู่ในจุดนี้ เพราะฉะนั้นเขาไม่จำเป็นต้องแคร์! “น่าเสียดายจังเลยนะคะที่เราเจอกันช้าไป จันทร์...ขอกลับไปคิดดูก่อนได้ไหมคะ ถ้าสนใจเดี๋ยวจะให้เลขาติดต่อกลับมาอีกที” เขายิ้มรับตามคำบอกกล่าวนั้น ก่อนจะเรียกบุญส่งให้เข้ามาทำหน้าที่ส่งแขกแทน เพราะตัวเองไม่ว่างจะไปดูแลใคร นอกจากแก้วตาดวงใจที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่บนตัก คาดว่าคงหลับลึกไปถึงเย็น
ปลายฝนแวะเวียนมาถึงอีกหนึ่งปีให้หลัง เป็นปีที่แก้วเจ้าจอมมีโอกาสได้ขึ้นมาดูทะเลหมอกกับสามี ตามที่เขาเคยให้สัญญาไว้ แม้จะรู้ดีว่าสถานที่ตรงนี้เคยมีความทรงจำกับเขากับอดีตคนรักอยู่ แต่เธอก็เลือกที่จะมองข้าม เพราะอย่างที่เขาเคยว่าไว้ ‘อดีตมันเป็นสิ่งที่กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้’ เพราะอย่างนั้นเธอเลยเปลี่ยนความคิดของตัวเองเสียใหม่ ไม่ฟูมฟายกับอดีตของเขา แม้ว่ามันจะไม่มีเธออยู่เลยก็ตาม วันเวลาทำให้เธอเติบโต และมีเหตุผลมากขึ้น และเธอยินดีให้เขาเก็บความทรงที่มีต่ออดีตคนรักไว้แบบนั้น ตราบเท่าที่มัน ไม่ได้ทำให้เขาทรมานเหมือนอย่างที่แล้วมาอีก “สวยจังเลยค่ะ” กลุ่มก้อนเล็กๆ สีขาวนวลที่จับกลุ่มกระจายอยู่รอบๆ ตัวนั้นทำให้เธอรู้สึกราวกับอยู่บนสวรรค์ก็ไม่ปาน มันสวยกว่าที่คิดไว้ สวยเสียจนเริ่มรู้สึกผิดที่ไม่ได้ชวนคุณผิงขึ้นมาด้วยกัน แต่ถึงชวน อีกฝ่ายก็คงมาด้วยไม่ได้เพราะกำลังตั้งท้อง ซ้ำยังได้ลูกแฝด และพี่ทัดก็เหมือนจะหวงคนทั้งสามเอามากๆ ด้วย ชนิดที่ไม่ยอมให้ภรรยาหยิบจับอะไร เพราะกลัวจะสะเทือนไปถึงลูกสุดท้ายคู่นั้นก็ไม่ได้หย่ากันจริงๆ อย่างที่เคยตกลงกันไว้ในตอนแรก ซึ่งไม่มีใ
หลายเดือนต่อมา “มากันอีกแล้ว!” “โวยวายอะไรของมึงครับ พวกกูมาหาน้องอ้อน กับหลาน ไม่ได้มาหาคนหน้าเมื่อยอย่างมึงสักหน่อย! หลงตัวเองใหญ่โตนะมึงน่ะ!” ก็นั่นแหละที่ทำให้เขาโมโห มาแต่ละทีก็สร้างแต่เรื่อง นี่เรื่องหนก่อนที่พวกมันสร้างไว้กว่าเขาจะปรับความเข้าใจกับเมียได้ ก็ถูกไล่ออกมานอนตบยุงหน้าห้องเป็นเดือน ก็พวกเล่นพูดแต่เรื่องสาวๆ ที่ผ่านมาของเขาไม่หยุด ผลที่ได้คือเขาถูกเมียหึงเป็นครั้งแรกสมใจ แต่ดูเหมือนนอกจากพวกมันจะไม่พากันสลดแล้วนั้น ยังคงแวะเวียนมาเยี่ยม และหาเรื่องให้เขาต้อง ‘งานเข้า’ อยู่เป็นประจำ! “ลูกกูยังไม่คลอดวันนี้พรุ่งนี้ จะรีบมากันไปไหน!” มากันทุกเดือน บางเดือนก็หลายหน ไม่รู้พวกมันไม่มีงานมีการทำกันรึไง! “แล้วไงวะ ก็คนมันคิดถึง ใช่ไหมครับน้องอ้อน ท้องใหญ่ขึ้นเยอะเลย กี่เดือนแล้วนะครับ” บุรินทร์ไม่หาความกับเพื่อนเพราะคนที่เขาอยากเจอยืนออกมารับแล้ว ยิ่งได้เห็นก็ยิ่งอดตื่นเต้นไม่ได้ “แปดเดือนกว่าแล้วค่ะ” ว่าที่คุณแม่มือใหม่ตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม แม้จะเดินเหินไม่ค่อยสะดวกนักแต่ก็อยากออกมาต้อน
เท่านั้นเองคนที่อยากมีลูกใจจะขาดก็แทบจะอุ้มเมียขึ้นรถไปโรงพยาบาล และก็เป็นอย่างที่ใครคาดไว้ เมียเขาท้องแล้วจริงๆ“พี่ราม อ้อนเดินเองได้ค่ะ” ยิ่งรู้ว่าเธอกำลังตั้งท้องอ่อนๆ อยู่ สามีผู้ซึ่งดีใจกว่าใครๆ ยิ่งตามติดเธอมากขึ้น เขาแทบไม่ยอมให้เธอละสายตาไปไหน ขนาดขอไปเข้าห้องน้ำก็ยังไม่วายเดินตามไปเฝ้า“ให้พี่อุ้มดีกว่า อ้อนจะได้ไม่เหนื่อยไง”“อ้อนไม่เหนื่อยจริงๆ ค่ะ” มากสุดเธอก็แค่หิว อยากกลับบ้านไวๆ เพราะเหมือนจะได้ยินผ่านโทรศัพท์มาว่าป้าฟางจัดมะม่วงน้ำปลาหวานกับข้าวต้มกุ้งเอาไว้รอ ซึ่งแค่ได้ยินก็เปรี้ยวปากแล้ว“อย่าดื้อกับพี่สิ ป้องกันไว้ก่อนดีกว่ามาตามแก้ทีหลัง ให้พี่อุ้มดีแล้ว” เขาว่ามาแบบนั้น เธอเลยปล่อยเลยตามเลย อย่างน้อยก็อยากทำตัวว่าง่าย เพื่อลบภาพตัวเองเมื่อสองชั่วโมงก่อนออกไป“แม่ได้ข่าว สรุปว่ายังไง!” กลับมาถึงก็ต้องตกใจเมื่อเจอเข้ากับคุณป้าฉัตรที่นั่งรออยู่ที่หน้าบ้าน ท่าทีของท่านนั้นดูตื่นเต้นพอๆ กับพ่อของลูกไม่มีผิด ส่วนคนอื่นเธอไม่เห็น คิดว่าคงรออยู่ในบ้าน“ตามนั้นครับ อ้อนท้องได้หนึ่งเดือนแล้ว!” คุณฉัตรแก้วแทบจะโผเข้ากอดลูกสะใภ้ทันทีที่ได้รับคำตอบ ดีใจเหลื
บุรินทร์และพวกเดินทางมาเยี่ยมเพื่อนทันทีที่รู้ข่าวจากปากต่อปากว่าเพื่อนรักของเขาตอนนี้กำลังอินเลิฟ และคงเป็นการดีที่พวกเขาจะมากวนประสาทมันเล่น โทษฐานที่ชิงมีเมียก่อนเป็นคนแรกของกลุ่ม ทั้งๆ ที่เคยลั่นวาจาเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าจะไม่มีใครเพราะผู้หญิงก็เหมือนๆ กันหมด แต่ไหงกลายมาเป็นแบบนี้ได้ก็ไม่รู้“กูได้ข่าวมาว่านลินจะพาลูกย้ายไปอยู่ที่อื่น” เขาเริ่มพุ่งประเด็นไปยังคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ และคงไม่มีโอกาสแล้วในชั่วชีวิตนี้“อืม กูรู้แล้ว...” ท่าทีของเพื่อนที่ดูเหมือนจะไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรต่อเรื่องที่ได้รู้นั้น ยิ่งทำให้ทั้งสามมั่นใจ ว่าตอนนี้มันคงไม่ได้รู้สึกอะไรกับคนในอดีตแล้วอย่างที่ปากพูดจริงๆ ซึ่งพวกเขาเองก็เห็นด้วยกับการตัดขาดในครั้งนี้จะได้หมดเวรหมดกรรมต่อกันเสียที“มึงลืมเขาได้แล้วจริงๆ”“กูไม่เคยลืมนลิน แต่กูเลือกที่จะมีความสุขกับปัจจุบัน” ก็แน่ล่ะ ปัจจุบันของมันน่ารักน่าหยอกออกขนาดนั้น เป็นเขาก็เลือก!“ไม่คิดว่ามึงจะมาลงเอยกับน้องอ้อน น้องดูไม่เหมือนนลิน” และอาจจะเป็นเพราะแบบนี้ ท่าทางของมันถึงได้ดูเป็นคนละคนเหมือนกับว่าตอนนี้จะดูมีความสุขมากกว่าครั้งนั้น ในอดีต“ใช่ อ้อนก
“พี่รักอ้อนขนาดนี้ พี่จะไล่อ้อนไปไหนได้ หลงจนโงหัวไม่ขึ้นอยู่แล้ว ไม่รู้ตัวเลยเหรอ” เป็นอีกครั้งที่เธอส่ายหน้ากลับไปให้“อ้อนไม่กล้าคิดค่ะ เพราะอ้อนไม่มีอะไรคู่ควร...” คเชนทร์จัดการปิดกั้นคำพูดที่เหลือ ด้วยการรั้งใบหน้าอ่อนหวานขึ้นมาจูบมันเป็นจูบที่เปิดเผยทุกความรู้สึกที่เขามีต่อผู้หญิงคนหนึ่งคนธรรมดาที่ไม่ได้วิเศษมาจากไหน แต่กลับเป็นคนที่ทำให้เขามีความสุขทุกครั้งที่อยู่ใกล้ ซึ่งแค่นี้มันก็มากพอแล้วที่จะทำให้เขารักมากพอแล้วจริงๆ“อย่าดูถูกตัวเองให้พี่ได้ยินอีกนะ บอกตามตรงพี่ไม่ชอบเลย พี่รักอ้อนเพราะอ้อนเป็นอ้อน อ้อนไม่จำเป็นต้องดีพร้อมถึงจะเหมาะสมกับพี่ พี่ขอแค่อ้อนรักพี่ เหมือนที่พี่รักอ้อนเท่านั้น...พี่ขอแค่นี้ อ้อนพอจะทำให้พี่ได้ไหม” มากกว่านี้เธอจะทำให้เขาได้ ขอแค่เขารักเธออย่างที่เธอเป็นเธอ แค่นั้นก็มากพอแล้ว มากพอแล้วจริงๆ“ขออ้อนอยู่กับพี่รามนะคะ อยู่ตลอดไป...” เขายิ้มรับแทนคำตอบ ก่อนจะอาศัยจังหวะเหมาะๆ ช้อนอุ้มภรรยาขึ้นจากพื้น มุ่งตรงไปยังห้องนอนที่ชั้นสองของบ้านเพื่อปรับความเข้าใจกันสองคน“โทษฐานที่เข้าใจพี่ผิด แถมยังคิดจะยกผัวให้คนอื่น คืนนี้อ้อนต้องถูกลงโทษนะครั
Comments