LOGINหลังจากวันนี้ที่บดินทร์ได้พบกับน้ำมนต์ครั้งแรก หลังจากโตเป็นหนุ่มเต็มวัย เขากลับต้องตกตะลึงในความงามที่เขาไม่เคยคาดคิดต่างจากภาพจำในอดีต น้ำมนต์ในวันนี้สวยหวานเซ็กซี่ผิดหูผิดตา และดูมีความมั่นใจในตัวเองสูง จนบดินทร์ต้องเปลี่ยนใจจากที่เคยดูถูกมาเป็นการตามจีบแทน
ระหว่างทานข้าวเสร็จบดินทร์พยายามที่จะนัดพาน้ำมนต์ไปเที่ยววันหยุด แต่น้ำมนต์ก็พยายามปฏิเสธวันนี้ยังไม่พร้อมจริงๆ เพราะไอ้พี่ดินมันก็สเปคน้ำมนต์ทุกอย่าง ขอกลับไปตั้งหลักปรึกษาข้าวโพดก่อนแล้วกัน น้ำมนต์เลยขอตัวกลับบ้านก่อนเพราะมีนัดกับเพื่อนจะไปเที่ยวรีสอร์ต
บดินทร์ได้ยินดังนั้นก็ใจร้อนรุ่มเพราะได้ยินข่าวว่าน้ำมนต์จะไปค้างคืนด้วย เขาเลยตั้งใจที่จะไปขัดขวางและเเสดงตัวว่าเป็นคู่หมั้นของอีกคน แต่เขาไม่รู้นี่ซิว่าน้ำมนต์ไปพักรีสอร์ตที่ไหน จึงต้องรอพ่อกับแม่ก่อนว่าจะได้ข่าวว่าน้ำมนต์ไปพักที่ไหน ถ้าได้เรื่องเเล้วจะโทรบอกบดินทร์อีกที บดินทร์รู้สึกเหมือนน้ำมนต์พยายามหนีเขา หนีให้รอดแล้วกัน เดี๋ยวเขานี่แหละจะตามล่าเอง แต่วันนี้ขอไปตั้งหลักกับไอ้บลูเพื่อนรักก่อนแล้วกัน
“อะไรของมึงดิน ไหนบอกว่าจะมาพรุ่งนี้ไง ไอ้ห่า”
บดินทร์โดนกิตติภูมิหรือไอ้บลูเพื่อนรักบ่นให้อย่างหัวเสีย หลังจากที่ตอนแรกเขาโทรมาหาเพื่อนบอกพรุ่งนี้จะมาหา แต่เขาเปลี่ยนใจมาวันนี้แทนเพราะเขาไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ อยากจะระบายความอัดอั้นให้เพื่อนรักฟัง
“ก็กูนอนไม่หลับอ่ะ กูเลยคิดถึงมึง” บดินทร์บอกเพื่อนก่อนที่จะเดินเข้ามาในบ้าน ปล่อยให้คนทำหน้าไม่สบอารมณ์เจ้าของบ้านปิดล็อคประตูบ้าน
“มึงมีอะไรว่ามาเลย อย่างมึงมีเรื่องอะไรให้คิดนักหนาวะ กูเห็นหัวฟาดหมอนมึงก็หลับเลยทุกที" ถึงจะโดนเพื่อนบ่นก็ให้มันบ่นไปตามระเบียบ แต่ทำไงได้ล่ะเขามีเรื่องให้คิดนี่นา
เมื่อหาที่แขวนเสื้อผ้าเสร็จแล้วบดินทร์ก็เดินกลับมานั่งที่โซฟาตัวที่ว่าง ก่อนที่จะเอาหมอนมานั่งกอดไว้ แล้วเริ่มเล่าเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับตัวเขาและคู่หมั้นให้เพื่อนฟัง
“มันก็ดีแล้วนี่ มึงก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับเค้าอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ เค้าเลื่อนงานแต่ง งานหมั้นออกไปก็เป็นผลดีของมึง มึงไม่ชอบเหรอ”
กิตติภูมิพูดขึ้นเพราะก่อนที่ครอบครัวของคู่หมั้นได้มากินข้าวที่บ้านของบดินทร์ มันโทรคุยกับเขาก่อนที่จะลงไปกินข้าว มันยังบอกเขาเลยว่ามันไม่แต่ง แต่พอคู่หมั้นมันบอกกับผู้ใหญ่ว่ายังไม่อยากหมั้น ยังไม่อยากแต่งงานขอเลื่อนออกไปก่อน แล้วมันจะเสือกเดือดร้อนทำไม ไม่เข้าใจมัน
“ตอนแรกกูก็ว่าดีหรอกนะ แต่ควรที่จะเป็นกูไหมวะที่ต้องเป็นคนพูด แม่งเสือกชิงพูดก่อนกู เสียหน้าฉิบหาย”
“เรื่องแค่เนี๊ยะนี่นะทำให้คนอย่างมึงนอนไม่หลับ” คนพูดหรี่ตาคมมองเพื่อนรัก มันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้นไม่งั้นมันไม่เดือดร้อนหรอก
“อ่อ มีอีกเรื่อง เรื่องที่แม่ก็จะให้เค้ามาทำงานกับกู เค้าก็ปฏิเสธโว้ย เพราะว่าเพิ่งตกลงทำงานกับที่อื่นไว้ เลยต้องลองประกาศหาคนงานใหม่ แม่งหงุดหงิดชะมัด”
“เรื่องแค่เนี๊ยะ”
“วุ้ย ไอ้ห่าบลู มึงจะซักอะไรนักหนา” บดินทร์เห็นสายตาเหล่มองของเพื่อนที่ส่งมาทางเขา เชิงบังคับให้เขาพูดออกมาให้หมด ไม่น่าเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทกับคนฉลาดอย่างไอ้พ่อเลี้ยงนี่เลย ปิดอะไรมันไม่เคยได้เลยสักอย่าง ดีนะที่ไอ้ตำรวจพงศ์มันไม่ค่อยว่างไม่อย่างนั้นเขาจะโดนซักยิ่งกว่านี้
“หึ หึ” เสียงคนโดนต่อว่าหัวเราะขำในลำคอ ทำเอาบดินทร์หมั่นไส้ในท่าทีของเพื่อน ก่อนที่จะสารภาพด้วยความหงุดหงิด
“เออ เออ ก็ได้ ก็หลังจากที่กูวางสายจากมึงวันนี้ กูก็ไปทานข้าวกับครอบครัวเขา แต่มึงรู้ไหมผิดคาดมากมึง น้องน้ำมนต์คู่หมั้นของกูอ่ะ โคตรสวย โคตรของความน่ารัก โคตรของโคตรตรงสเปคของกูทุกอย่าง ขี้อ้อนมากมึง จนกูอยากจะแต่งงานแม่งเร็วๆ แต่อะไรรู้ไหม แม่ง น้องทำวิมานกูพังหมดทุกอย่าง น้องแม่งใช้ลูกอ้อน อ้อนพ่อกับแม่กูขอเลื่อนงานหมั้น งานแต่งออกไปหมด พอกินข้าวเสร็จก็ขอตัวกลับทันทีบอกว่านัดเพื่อนไปเที่ยว ได้ยินข่าวว่าค้างคืนด้วย กูเลยอยากตามไปขัดขวางนี่ไง”
บดินทร์ยอมอธิบายยืดยาวเพื่อให้เพื่อนรักสงสาร ยอมไปเป็นเพื่อน พูดไปก็เสียดายมากที่ยังไม่ได้ทำให้อีกคนประทับใจเลย ดูทว่าอีกคนจะปฏิเสธเขาไปกลายๆ แล้ว
บดินทร์นอนไม่หลับรอการตอบกลับจากคุณพ่อคุณแม่ของคู่หมั้นว่าตกลงน้ำมนต์ไปเที่ยวที่ไหน ก่อนที่เขาจะพยายามข่มตาหลับเสียงข้อความก็ดังขึ้นมันเป็นโลเคชั่นของรีสอร์ตที่น้ำมนต์ไปพักคืนนี้ ตอนแรกว่าจะไปป่วนตอนเช้า แต่ตอนนี้ใจเขามันร้อนรุ่มรอจนถึงเช้าไม่ไหวหรอก เขาเลยต้องลากไอ้บลูเพื่อนรักออกจากไร่เพื่อที่จะไปนอนรีสอร์ตเดียวกับที่น้ำมนต์อยู่ โชคดีที่มีห้องพักว่างถ้าห้องพักเต็มเขากะว่าจะนอนมันในรถนี่แหละ
พอเช็กอินเสร็จบดินทร์ก็พาเพื่อนรักที่เหมือนอยากจะนอนมากมาพักก่อนดูท่ามันจะง่วงจริงๆ
“ไอ้ดิน มึงไปนอนโซฟาเลย เตียงมันเล็กกูเป็นแขก กูจะใช้สิทธิ์นอนเตียง” กิตติภูมิกะดูแล้วถึงเตียงจะกว้าง แต่ทว่าผู้ชายตัวใหญ่สองคนนอนด้วยกันมันจะอึดอัดมากกว่า บอกเพื่อนเสร็จร่างสูงก็ล้มตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้าทันที
บดินทร์ได้แต่ส่ายหน้ามองเพื่อนรักที่มันชิงหลับไปบนเตียงก่อนเเล้ว ส่วนเขาก็เดินไปอาศัยโซฟาเบดตัวใหญ่สำหรับนอนคืนนี้ ตื่นมาพรุ่งนี้ค่อยมาจัดการตัวแสบ
“นี่ไงข้าวโพด จะไม่ให้น้ำมนต์โมโหได้ยังไง เพราะถ้าไอ้พี่ดินไม่ปากดีหาว่าเราขี้เหร่ หาผัวไม่ได้ หาว่าเราแรดนะ ไม่งั้นเราก็ยอมตกลงแล้ว”
ณ รีสอร์ตที่น้ำมนต์กับข้าวโพดพากันมาพักเพื่อที่จะปรึกษากันเรื่องของน้ำมนต์และคู่หมั้นที่เพิ่งจะเจอหน้ากัน รีสอร์ตนี้อยู่ไม่ไกลจากไร่ชาเลิศธนา น้ำมนต์เล่าเรื่องที่ตนบังเอิญไปได้ยินบดินทร์พูดโทรศัพท์กับใครสักคนถึงตัวเอง ทั้งที่ยังไม่เคยได้เห็นหน้า ในแง่ไม่ดีเลยขอเลื่อนงานหมั้นและงานแต่งงานไปก่อน ซึ่งผู้ใหญ่ก็ตามใจน้ำมนต์
น้ำมนต์เลยต้องการที่จะแก้เเค้นเอาคืนบดินทร์ จึงต้องนัดข้าวโพดออกมานอนที่รีสอร์ตด้วยกัน น้ำมนต์ถอนหายใจลึก ก่อนจะเริ่มพูดถึงเรื่องที่ติดอยู่ในใจ “ข้าวโพดว่าน้ำมนต์ควรทำยังไงดี น้ำมนต์รู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกมกับพี่ดิน แต่ไม่รู้ว่าน้ำมนต์จะชนะเกมนี้ได้ยังไง”
ข้าวโพดที่ฟังเพื่อนรักอย่างตั้งใจ ก่อนจะวางตะเกียบที่ใช้คีบหมูกระทะลงในถ้วยแล้วเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ สายตาเต็มไปด้วยความคิด
“ข้าวโพดว่าน้ำมนต์ไม่ต้องเอาชนะหรอก ถ้าน้ำมนต์จะพยายามเอาชนะ พี่เค้าก็จะยิ่งคิดว่าน้ำมนต์ยังแคร์อยู่ ลองเปลี่ยนมาเป็นไม่สนใจพี่ดินเขาดูดีไหม บางทีพี่ดินอาจจะรู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญกับน้ำมนต์เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว”
น้ำมนต์พยักหน้าเห็นด้วย “น้ำมนต์ก็คิดแบบนั้น แต่ลึกๆ ก็ยังไม่แน่ใจว่าถ้าทำแบบนี้ แล้วน้ำมนต์จะตัดใจได้จริงๆ หรือเปล่า มันยากนะที่จะทำเป็นไม่สนใจทั้งที่ใจมันยัง...”
ข้าวโพดยิ้มและเอื้อมมือไปจับมือเพื่อนเบาๆ “ข้าวโพดเข้าใจ น้ำมนต์ไม่จำเป็นต้องตัดใจ แค่ทำให้พี่ดินรู้ว่าน้ำมนต์ไม่ได้หลงใหลเขาเหมือนเมื่อก่อนตอนเด็กอีกแล้ว น้ำมนต์ต้องทำให้เขาเห็นว่าน้ำมนต์มีคุณค่ามากพอที่จะไม่ต้องรอใครอีกต่อไป”
น้ำมนต์นิ่งฟัง ก่อนจะยิ้มบางๆ “งั้นข้าวโพดว่า น้ำมนต์ควรทำยังไงต่อไปดี”
“เริ่มจากการไม่ตอบรับง่ายๆ ทุกอย่างที่เขายื่นมา น้ำมนต์ต้องทำให้เขาเห็นว่าน้ำมนต์มีทางเลือกอื่นที่ไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับเขา”
“งั้นน้ำมนต์จะลองทำแบบนั้นดู” น้ำมนต์พยักหน้าอย่างมุ่งมั่น
“น้ำมนต์จะไม่ให้เขาคิดว่าแค่ตามตื๊อก็จะได้ทุกอย่างที่ต้องการอีกต่อไป”
“ถูกต้องที่สุดน้ำมนต์คนงามของข้าวโพด” ข้าวโพดสนับสนุนความคิดของเพื่อน
“ข้าวโพด ข้าวโพดว่าเราควรที่จะไปทำงานที่อื่นดีไหมหรือต้องไปทำกับไอ้พี่ดิน” น้ำมนต์ปรึกษาเพื่อน
“แล้วน้ำมนต์สะดวกใจแบบไหนดีกว่ากันล่ะ”
“มาคิดๆ ดูแล้วถ้าไอ้พี่ดินถามเราอีกที เราอาจจะทำกับเค้าดีกว่า จะได้ถือโอกาสแก้แค้นยั่วให้รักเสียให้เข็ดดีไหม”
“ฟังดูเข้าท่าดี ข้าวโพดสนับสนุนน้ำมนต์เต็มที่ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้เลย” ข้าวโพดมองเพื่อนรักด้วยความภูมิใจ
น้ำมนต์หัวเราะเบาๆ “แน่นอน น้ำมนต์คงต้องพึ่งข้าวโพดเยอะเลยล่ะ ขอบใจมากนะข้าวโพด” ใบหน้าสวยยิ้มอย่างซุกซนเมื่อนึกถึงวันที่อีตาพี่ดินจะหน้าแตกผิดคำพูด มารักและอยากแต่งงานกับตัวเอง คอยดูนะถึงเวลานั้น จ้างให้น้ำมนต์ก็จะไม่ยอมแต่งด้วยง่ายๆ จะเล่นตัวให้ดู
ทั้งสองมองตากันอย่างเข้าใจ ความสัมพันธ์ที่ยาวนานของพวกเขาทำให้ไม่ต้องพูดอะไรกันมาก แต่ก็เข้าใจถึงความรู้สึกของกันและกันได้เป็นอย่างดี
หลังจากต้าหงกลับมาและผ่านการทดสอบความเชื่อใจของทั้งน้ำเพชรและครอบครัว ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนก็ยิ่งแน่นแฟ้นมากขึ้น บดินทร์แม้จะยังคงหวงลูกรักอยู่ แต่ก็ค่อยๆ เปิดใจยอมรับต้าหงในฐานะคนที่จะดูแลน้ำเพชรไปตลอดชีวิต ในช่วงเวลาที่ต้าหงกลับมา ทั้งคู่ตัดสินใจที่จะเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยกันอย่างจริงจัง พวกเขาเริ่มวางแผนที่จะใช้ชีวิตร่วมกันและสร้างอนาคตร่วมกัน หลังจากที่ทั้งสองคนเดินเล่นกันที่สวนในเชียงดาว ต้าหงก็หันมาพูดกับน้ำเพชรอย่างจริงจัง “น้ำเพชร พี่คิดมาตลอดว่าพี่อยากใช้ชีวิตอยู่กับน้ำเพชร พี่ไม่อยากเสียเวลาห่างจากน้ำเพชรอีกแล้ว พี่พร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ไปกับน้ำเพชร”น้ำเพชรยิ้มอย่างอ่อนโยน “น้ำเพชรก็พร้อมเหมือนกันพี่ต้าหง น้ำเพชรรู้สึกว่าเราผ่านอะไรมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่เราจะได้ใช้ชีวิตไปด้วยกันจริงๆ สักที” ต้าหงจับมือน้ำเพชรและมองเขาไปในดวงตาของเขา “พี่อยากให้น้ำเพชรรู้ว่าพี่จะไม่ทิ้งน้ำเพชรอีก พี่จะอยู่ข้างน้ำเพชรตลอดไป น้ำเพชรเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตพี่” น้ำเพชรยิ้มและพยักหน้า “น้ำเพชรรู้แล้วล่ะ ตอนนี้น้ำเพชรเชื่อในตัวพี่มากกว่าครั้งไหนๆ น้ำเพชรอยากให้เรามีความสุขไป
หลังจากคุยกันเรื่องนี้ น้ำเพชรกลับไปที่บ้านพร้อมกับความรู้สึกที่หนักอึ้งในใจ เขาไม่อยากให้ต้าหงจากไปอีก แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากเป็นคนที่ขัดขวางอนาคตของต้าหง เขารู้ดีว่าต้าหงมีความฝันและความทะเยอทะยานที่จะเติบโตในสายงานของตัวเองและเขาเองก็ไม่อยากเป็นอุปสรรค คืนนั้น น้ำเพชรนั่งคิดเงียบๆ อยู่ที่สวนหลังบ้าน น้ำมนต์ผู้เป็นแม่เดินเข้ามานั่งข้างๆ เขามองเห็นความสับสนในสายตาของลูกชายและรู้ว่าน้ำเพชรกำลังมีเรื่องที่คิดมากอยู่“น้ำเพชร มีอะไรในใจหรือเปล่า ลูกดูเครียดๆ นะ” น้ำมนต์ถามเบาๆ ขณะที่นั่งลงข้างๆ ลูกน้ำเพชรถอนหายใจ “แม่ครับ พี่ต้าหงอาจจะต้องไปทำงานที่ต่างประเทศอีกครั้ง น้องไม่อยากให้พี่ต้าหงไปเลย”น้ำมนต์พยักหน้าเข้าใจ “แต่ลูกก็รู้ใช่ไหมว่าต้าหงต้องทำเพื่ออนาคตของเขา การไปทำงานครั้งนี้อาจเป็นโอกาสสำคัญ”น้ำเพชรหันมามองแม่ด้วยความลังเล “ครับ น้ำเพชรรู้ แต่น้องก็กลัวว่าจะเกิดเรื่องเหมือนตอนที่พี่ต้าหงไปครั้งแรก น้องเพิ่งเริ่มเชื่อใจเขาอีกครั้ง ถ้าพี่ต้าหงไป น้องไม่รู้ว่าตัวเองจะรับมือกับมันยังไง”น้ำมนต์ยิ้มเล็กน้อยและพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “แม่เข้าใจว่าลูกกลัว แต่บางครั้งการที่เรารั
ในวันต่อมา ต้าหงยังคงพยายามเข้าหาน้ำเพชรและทำให้น้ำเพชรเห็นถึงความจริงใจของเขา ชายหนุ่มพยายามใช้เวลาอยู่กับน้ำเพชรมากขึ้น แม้กระทั่งพยายามเข้าหาและทำความเข้าใจความรู้สึกของลุงดินที่ยังคงมองเขาอย่างระแวดระวัง ขณะที่ต้าหงและน้ำเพชรกำลังนั่งเล่นอยู่ในสวนหลังบ้าน บดินทร์เดินออกมาพอดี เขามองดูต้าหงและน้ำเพชรด้วยสายตาที่ดูเหมือนจะพยายามอ่านความตั้งใจของต้าหง ต้าหงที่เห็นบดินทร์เดินมาก็ยกมือไหว้ทักทายอย่างสุภาพ“ลุงดินครับ ผมอยากขอคุยกับลุงได้ไหมครับ” ต้าหงพูดขึ้นอย่างจริงจังบดินทร์เลิกคิ้วเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้า “ได้สิมาคุยกันหน่อยหลานชาย”น้ำเพชรที่นั่งอยู่ข้างๆก็เริ่มรู้สึกกังวลเล็กน้อย แต่เขาก็รู้ว่าต้าหงต้องการพิสูจน์ตัวเองให้พ่อตัวเองเห็น ต้าหงเดินตามบดินทร์ออกไปนั่งคุยที่โต๊ะในสวน บดินทร์จองมองหลานชายด้วยสายตาที่หนักแน่นและคาดหวัง“นายต้องการจะคุยอะไร” บดินทร์ถามด้วยน้ำเสียงที่ยังคงเคร่งขรึมต้าหงสูดหายใจลึกก่อนจะพูดออกมา “ผมรู้ครับว่าลุงดินไม่ไว้ใจผม เพราะผมทำให้น้ำเพชรเสียใจในอดีต แต่ผมอยากให้ลุงรู้ว่าผมกลับมาครั้งนี้เพราะผมรักน้ำเพชรจริงๆ ผมตั้งใจจะทำทุกอย่างเพื่อให้น้ำเพชรมีความสุข
หลังจากการพูดคุยครั้งนั้น ต้าหงพยายามเข้าไปหาน้ำเพชรทุกครั้งที่ว่างจากงานในไร่ชา และทุกครั้งที่มีโอกาส และทำทุกอย่างเพื่อทำให้น้ำเพชรเห็นว่าเขาพร้อมจะกลับมาอยู่ในชีวิตของน้ำเพชรอีกครั้ง น้ำมนต์แม้จะยังห่วงลูกชายแต่ก็เริ่มเห็นความจริงใจในสายตาของต้าหง เขาให้โอกาสต้าหงได้พิสูจน์ตัวเอง แต่ก็เฝ้าดูอย่างใกล้ชิด เพื่อปกป้องลูกจากการเจ็บปวด น้ำเพชรที่แม้จะยังไม่ยอมรับต้าหงเต็มที่ แต่ลึกๆ แล้วเขาก็ยังคงรู้สึกถึงความผูกพันที่ไม่เคยจางหาย นอกจากน้ำมนต์ที่หวงลูกชายแล้ว ยังมีอีกคนหนึ่งที่หวงไม่แพ้กัน บดินทร์หรือลุงดินของพี่ต้าหง บดินทร์ผู้รักและหวงลูกมากๆ ตั้งแต่น้ำเพชรยังเด็ก ตอนนั้นกว่าจะผ่านด่านลุงดินได้ต้าหงก็แทบแย่ ดีที่มีป๊าบลูพูดให้ หลังจากที่ต้าหงกลับมาอยู่ที่เชียงดาวและเริ่มพยายามจะเข้าใกล้น้ำเพชรอีกครั้ง บดินทร์ก็สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้ เขาไม่พอใจนักที่ต้าหงพยายามกลับมาในชีวิตของลูกรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่รู้ว่าน้ำเพชรเจ็บปวดแค่ไหนเมื่อต้าหงจากไป “ฉันจะไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายลูกฉันอีกแน่ๆ” บดินทร์คิดในใจขณะที่มองดูต้าหงที่เริ่มเข้ามาในชีวิตของน้ำเพชรอีกครั้ง บดินทร์นั
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว น้ำเพชรเรียนจบจนได้รับปริญญา ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ ต้าหงยังคงอยู่ต่างประเทศ แต่แม้จะมีระยะทางที่ห่างไกล ต้าหงก็ไม่เคยลืมน้ำเพชรได้เลยสักครั้ง ทุกครั้งที่เขาคิดถึงใคร น้ำเพชรคือคนแรกที่อยู่ในใจของเขาเสมอ เขาคอยสอบถามข่าวคราวของน้ำเพชรจากน้องฝาแฝดใบชากับทีทามของเขาเสมอ เพราะทั้งคู่สนิทและไปไหนมาไหนกับน้ำเพชรตลอด หลังจากเรียนจบและพร้อมจะกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิด ต้าหงรู้ดีว่าสิ่งแรกที่เขาต้องทำคือกลับไปหาน้ำเพชร เขาไม่ได้ลืมคำสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเองและน้ำเพชร ว่าเขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้น้ำเพชรกลับมาเข้าใจและเชื่อใจเขาอีกครั้ง ต้าหงกลับมาเยือนเชียงดาวอีกครั้ง สถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำระหว่างเขากับน้ำเพชร ชายหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นและกังวลไปพร้อมๆ กัน เพราะแม้จะพยายามติดต่อน้ำเพชรอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับกลับมา เขาหวังว่าการกลับมาครั้งนี้จะทำให้เขาได้อธิบายทุกอย่างกับน้ำเพชร ร่างสูงของต้าหงเดินทางมาที่บ้านที่ปางไม้ในช่วงเย็น วันนี้บรรยากาศรอบบ้านเต็มไปด้วยความสงบ ชายหนุ่มยืนอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน ขณะที่หัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น เขาเคาะประตูเบาๆ รอคอ
หลังจากการพูดคุยครั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างต้าหงและน้ำเพชรกลับคืนสู่ความสนิทสนมเหมือนเดิม ความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้น เพราะความหวั่นไหวในใจถูกแก้ไขด้วยความรักและความจริงใจที่ทั้งคู่มีให้กัน ต้าหงยังคงเป็นพี่ชายที่คอยปกป้องและดูแลน้ำเพชรอย่างใกล้ชิดเหมือนเดิม และน้ำเพชรก็เริ่มเข้าใจว่าต้าหงไม่ได้เปลี่ยนไป แม้ว่าจะมีผู้คนมากมายเข้ามาใกล้ทั้งสองคนเรียนรู้ที่จะสื่อสารกันมากขึ้นและไม่ปล่อยให้ความเข้าใจผิดมากั้นกลางระหว่างพวกเขาอีก ความรักและมิตรภาพที่เริ่มต้นตั้งแต่วัยเยาว์ยังคงเติบโตขึ้นไปพร้อมกับการเรียนรู้และความเข้าใจกัน ความผูกพันระหว่างต้าหงและน้ำเพชรที่เคยแน่นแฟ้นมาตั้งแต่วัยเด็ก เริ่มสั่นคลอนเมื่อต้าหงตัดสินใจที่จะไปเรียนต่อปริญญาที่ต่างประเทศ ความตั้งใจนี้มาพร้อมกับโอกาสที่ดีในการเรียนรู้และเติบโต แต่สำหรับน้ำเพชรแล้ว การตัดสินใจของต้าหงเป็นสิ่งที่เขารับมือได้ยากมาก ต้าหงได้รับทุนไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา ข่าวนี้ทำให้ทุกคนในครอบครัวดีใจ แต่สำหรับน้ำเพชร มันคือการเปลี่ยนแปลงที่เขาไม่พร้อมจะยอมรับ น้องน้อยไม่เคยคิดว่าต้าหงจะจากไป แม้จะเป็นเพียงชั่วคราว แต่ความกลัวที่ต้าหงจะไม่กลั






![สถานะลับ(รับ)สถานะรัก [เมะxเมะ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
