Se connecterภาพถ่ายในมือถือที่เห็นรถของจารุพงษ์จอดตรงจุดใกล้ๆ กับห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของพนักงานแล้วมีสาวสวยนั่งคู่กับเขาที่ถูกยื่นมาตรงหน้าให้เห็นในตอนเช้าขณะเข้าไปหาผู้เป็นป้าทำเอาเพชรถึงกับขมวดคิ้ว
“ตกลงเพื่อนคนนี้ของตีตี้เป็นคนยังไง ภาพนี้อรอุมาส่งมาให้ป้า นี่สองคนนี้ไปถึงขั้นไหนแล้ว”
คุณสุพรรณีเสียงแข็ง บ่งบอกว่าไม่คิดจะเอาไว้ถ้ามีเรื่องเกินเลยเกิดขึ้นมาจริงๆ
“ผมว่าเราสอบถามก่อนดีกว่าไหมครับ”
“ขนาดนี้ยังต้องถามอะไรอีก”
“เห็นแค่ภาพยังบอกอะไรไม่ได้นะครับ”
เพชรพยายามพูดให้ผู้เป็นป้าใจเย็นลง แต่อีกฝ่ายหน้าบึ้งตึง ไม่แตะอาหารเช้าแม้แต่น้อย
“ยายตีตี้ก็จริงๆ เลย คบเข้าไปได้ยังไงเพื่อนแบบนี้”
คนฟังได้แต่ทำหน้าเครียด คาดว่าป้าของเขาคงไม่ถามกับสามีของตัวเองให้รู้ตัวก่อน ถ้าจะเชือดท่านจะทำแบบไม่ทันได้ตั้งตัว และฝ่ายหญิงก็จะกลายเป็นคนต้องไปอย่างกะทันหัน ซึ่งเขาไม่อยากให้เป็นแบบนั้น
เมื่อรู้สึกว่าตัวเองมักจะคอยช่วยเหลือผู้หญิงคนนั้นอยู่บ่อยๆ เพชรก็นึกหงุดหงิด ทั้งที่เขารู้ว่าเธอเคยทำอะไรมา แล้วก็ระแวงมาตลอด แต่พอเห็นว่าเธอกำลังจะเดือดร้อนเขาก็มักจะอยู่เฉยไม่ได้ คงเป็นเพราะวาสิฐีฝากมา ชายหนุ่มบอกตัวเอง
“ผมจะขอให้คุณนภาสืบเรื่องนี้ให้นะครับ ยังไงตีตี้ก็ฝากเพื่อนเขามา ถ้าเราทำอะไรลงไปก็ควรจะมีข้อมูลหลักฐานชัดเจนว่าเป็นเรื่องจริง”
เขาอ้างชื่อวาสิฐีเพราะรู้ว่าคุณสุพรรณีก็เอ็นดูอีกฝ่ายอยู่ไม่น้อย สุดท้ายผู้เป็นป้าก็ยอมตกลงให้เวลาเขาแม้จะฮึดฮัดขัดใจก็ตาม
ร่างระหงค่อยๆ เดินมาจนถึงชายหาดในตอนเช้า ข้อเท้าบวมเล็กน้อยแทบมองไม่ออกไม่เป็นอุปสรรคมากนัก ความจริงศศิไม่คิดจะหยุดงานด้วยซ้ำ แต่หมอบอกให้พักสักหนึ่งวัน เพราะการต้องยืนเป็นเวลานานบนร้องเท้าส้นสูงจะยิ่งทำให้แย่ลง
หญิงสาวไม่ได้ลุยไปบนพื้นทราย เธอแค่ออกมานั่งมองพระอาทิตย์ขึ้นตรงม้านั่งริมทางเดิน
“ดีใจจังที่เจอคุณที่นี่”
คนที่กำลังทอดสายตามองผืนน้ำกับท้องฟ้าอร่ามสดใสสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อหันกลับไปมองก็เห็นเพื่อนของเจ้านายคนที่ช่วยเธอเมื่อวานกำลังเดินเข้ามาพร้อมสีหน้ายิ้มแย้ม
ศศิแอบถอนหายใจบางเบา เธอไม่คิดว่าจะได้เจอเขาเร็วขนาดนี้ นอกจากจารุพงษ์ที่ทำให้ลำบากใจมากแล้ว ผู้ชายคนนี้ก็เป็นอีกคนที่ทำให้เธอสุ่มเสี่ยงจะต้องตกงาน
“สวัสดีตอนเช้าครับ”
“สวัสดีค่ะ”
หญิงสาวตอบกลับสั้นๆ แต่อีกฝ่ายก็หาทางคุยต่ออีก
“ผมคิดว่าตอนนี้คุณน่าจะอยู่ที่ฟรอนท์เสียอีก”
“ไม่สบายน่ะค่ะ ก็เลยขอลา”
“แล้วมานั่งโดนลมแรงๆ ตรงนี้จะดีเหรอ”
ใบหน้าขาวดูห่วงใยมากกว่าจะถามไปอย่างนั้น ทั้งเขายังมาทรุดลงนั่งบนเก้าอี้ตัวยาวที่เธอนั่งอยู่ แต่เว้นระยะห่างประมาณช่วงแขน ทว่าก็ยังทำให้ศศิอึดอัดอยู่ดี เพราะหากพนักงานที่รู้จักมาเห็นแขกหรือเพื่อนของเจ้านายนั่งอยู่กับเธอ มันก็ไม่ดีสำหรับเธอทั้งนั้น
“กำลังจะกลับอยู่เหมือนกันน่ะค่ะ ขอตัวตัวก่อนนะคะ”
หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้น หากอีกฝ่ายก็รีบรั้งเอาไว้
“เดี๋ยวสิครับ”
เพราะขาของเธอเจ็บ เมื่อถูกคนที่แข็งแรงกว่าฉุดข้อมือ แม้เพียงกระตุกนิดเดียวร่างระหงก็ทรุดกลับลงมานั่ง
“อุ๊ย! คุณ...”
แขนกำยำพยายามจะจับร่างของเธอเอาไว้ ศศิรีบถอยไม่ให้เขามาใกล้เกินไปจนข้อเท้าเจ็บแปลบซ้ำขึ้นมา แต่ยังฝืนตัวเองเหมือนไม่ได้เจ็บอะไร
“ขอโทษค่ะ ฉันขอตัวนะคะ”
“อยู่คุยกันก่อนก็ได้นี่ครับ”
“คงไม่เหมาะหรอกค่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“ฉันเป็นแค่พนักงาน คุณเป็นแขก”
หญิงสาวบอกตามตรง ตั้งใจให้เขารู้ว่าเธอไม่ต้องการให้มายุ่งกับตนเอง
“ผมว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องส่วนตัวนะ”
ไคจิมองเธอพร้อมรอยยิ้ม คิดว่าถูกใจก็เดินหน้าเลยน่าจะดีที่สุดเพราะเขาไม่ใช่คนที่จะสนใจใครง่ายๆ ครั้งแรกที่เห็นหญิงสาวอยู่หน้าเคาน์เตอร์ก็คิดว่าสวย แต่พอยิ่งได้มองใกล้ๆ และแตะตัวตอนช่วยพยุงเธอยิ่งรู้สึกว่าอีกฝ่ายดูน่าสนใจ เพราะปฏิกิริยาเหมือนไม่เคยเข้าใกล้ผู้ชายมาก่อน เขารู้มาว่าผู้หญิงไทยบางคนก็ยังรักนวลสงวนตัวนั่นทำให้ไคจินึกอยากลองทำความรู้จักกับอีกฝ่าย
“ถ้าผมสนใจคุณจริงๆ มันก็ไม่แปลกอะไรถ้าเราจะทำความรู้จักกัน”
=====
“นั่นคุณจะไปไหน”“ไปจากที่นี่”ร่างสูงใหญ่กระโดดพรวดก้าวสามก้าวก็ไปถึงหญิงสาวก่อนที่มือบางจะทันได้จับลูกบิดประตู แขนกำยำรวบเอวบางขึ้นอุ้มจนร่างระหงลอยขึ้นทั้งตัว ศศิพยายามดิ้นถีบเท้าไปมาแต่ไม่สามารถหลุดออกจากคนตัวโตกว่าได้“ปล่อยนะ ปล่อยฉัน ฉันจะไปจากที่นี่ ไปจากเกาะนี้”“เราต้องคุยกันก่อน”“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณอีกแล้ว”“แต่ผมมี”เพชรบอกพร้อมพาร่างสวยกลับมายังเตียงนอนอีกครั้ง แล้วทิ้งตัวลงไปนอนด้วยกัน พอเธอพลิกตัวจะหนีไปอีกด้านเขาก็เท้าแขนขวางเอาไว้ศศิจำต้องหันมาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มเมื่อเขาปิดทางหนีของเธอทั้งสองด้าน“คุณได้ในสิ่งที่ต้องการไปแล้ว ยังมีอะไรต้องคุยอีก”“ใช่ ผมได้แล้ว แล้วก็ได้เป็นคนแรกของคุณด้วย”เขาบอกพร้อมจ้องดวงตาคู่สวยนิ่งไม่ไหวติง และเห็นแววตาสั่นไหวจากนัยน์ตาคู่นั้น ก่อนที่เธอจะมองเมินไปทางอื่น“เรามาคุยกันแบบดีๆ ดีกว่าศศิ”เพชรพยายามใช้คำพูดให้ดูซอฟต์ที่สุด เขาเป็นคนผิด ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจของเธอ พูดอะไรออกไปก็คงทำให้หญิงสาวเจ็บทั้งนั้น“ผู้หญิงหน้าเงินอย่างฉันคุยดีๆ ไม่เป็นหรอก”“ไม่เอาน่า”ชายหนุ่มอดถอนหายใจไม่ได้ ทุกอย่างมันกลับตาลปัตรไปหมด เขาด่าว่า
ก่อนที่คนใต้ร่างเขาจะดึงความรู้สึกนึกคิดกลับมาได้เพชรก็ดันเรียวขาสวยสองข้างให้เปิดสำหรับตนเองพร้อมเบียดลงไปหาอีกฝ่าย นำพาร่างแกร่งโลมไล้สัดส่วนอ่อนไหวที่มีซับในบางขวางกั้นอย่างร้อนแรงเรียกร้องเพื่อให้ตนเองพรักพร้อมสำหรับเพลงใคร่บทนี้สิ่งที่สัมผัสร่างกายเธอทำให้ศศิเผยอปากด้วยความไม่คาดคิด เหงื่อซึมจนท่วมตัว กลัวที่สุดในชีวิต นึกอยากกรีดร้องออกมาแต่กลับกลายเป็นเสียงครวญพร่าแผ่ว อยากพูดอยากห้ามแต่กลับพูดไม่ออก นวลเนื้อตื่นตัวตอบรับการแตะต้องอย่างไม่อาจบังคับได้“คุณเพชร...อย่า...ได้โปรด”ใบหน้าสวยส่ายไปมาบอกถึงความไม่เต็มใจ เสียงพร่าบางเบาถูกเค้นออกมาจากจิตสำนึกส่วนลึก เมื่อรับรู้ถึงการแตะต้องที่มากเกินกว่าผ่านเนื้อผ้า“ไม่...ไม่...”เพชรไม่สนใจฟัง เขาเกี่ยวแพนตี้ชิ้นน้อยให้พ้นทางเพื่อสัมผัสร่างสาวโดยตรง เพียงแตะไล้แผ่วผิวทั้งร่างระหงก็สั่นเทิ้ม แม้แต่เขาเองยังซ่านสยิวจนต้องสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างหนักหน่วง กลั้นใจเดินหน้าเต็มขั้นในทันทีเพราะไม่อยากรั้งรออีกต่อไปแล้วเสียงหวีดพร่าตามมาทันควันพร้อมกับความรู้สึกบางอย่างในร่างนุ่มอุ่นที่ทำเอาร่างสูงใหญ่ถึงกับชะงักตัวแข็งทื่อ ตาคมมองร่างสวยท
“ไม่ใช่สิ ฉันผ่านใครต่อใครมาแล้วตั้งหลายมือ รู้สึกดีจังที่คุณก็จะเป็นคนหนึ่งในนั้น”ท่าทางที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือของหญิงสาวทำให้เพชรชะงักไป นึกรังเกียจคนใต้ร่างขึ้นมาวูบหนึ่งจนอยากสะบัดตัวลุกหนีไป แต่เขาต้องการให้บทเรียนกับเธอ อยากให้รู้ว่าร่างกายของเธอไม่ได้ทำให้เขาหลงหรือคลั่งอยากได้เหมือนผู้ชายพวกนั้น หลังจากเขาก้าวลงจากเตียงไปเธอจะกลายเป็นผู้หญิงไร้ค่าคนหนึ่ง ไม่ได้แม้แต่เงินสักบาทจากเขา และเขาก็จะไม่หันมามองเธอซ้ำอีก“ดี แต่อย่าติดใจจนลืมผมไม่ลงก็แล้วกัน”เพชรขยับลงมาใกล้ใบหน้าสวยแล้วพูดต่อเบาๆ“เพราะบอกไว้เลยว่า ผมจะไม่นอนกับคุณเป็นครั้งที่สอง”พูดจบเขาก็เคลื่อนใบหน้าคมมายังลำคอขาวผ่อง“อย่านะคุณเพชร”ศศิพยายามหันหน้าหนีและพลิกตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะแขนถูกชายหนุ่มกดเอาไว้ ทว่าเพชรก็ยังแนบริมฝีปากลงมาบนผิวบางข้างลำคอเธอได้ ร่างทั้งร่างของศศินิ่งงันไป รู้สึกร้อนวูบวาบจากจุดที่ปากชายหนุ่มแตะจรดปลายเท้า“อะไรกัน แค่เริ่มต้นเอง อย่าเพิ่งเสร็จไปก่อนซะล่ะ”จบคำหยาบคายนั้นร่างระหงก็เริ่มดิ้นรนพยายามสะบัดตัวให้แรงขึ้น“ปล่อยฉัน คุณรังเกียจฉันจะแตะต้องฉันทำไม”“เพราะคุ
“คุณเพชรปล่อยฉัน”ศศิโวยวายทุบหลังชายหนุ่มแต่เขาไม่สนใจ พาเธอมาจนถึงรถของตนแล้วจัดการให้หญิงสาวขึ้นรถทางด้านคนขับส่วนเขาตามขึ้นมาเบียดทำให้ศศิต้องขยับไปเบาะด้านข้าง เมื่อเธอจะเปิดประตูเขาก็กดล็อกเสียก่อน“คุณจะไปไหนคะ”เธอถามอีกครั้งเมื่อชายหนุ่มออกรถ ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความกังวล ทว่าเพชรไม่ตอบ สีหน้าหน้าเขาดูโกรธจัดและเงียบจนน่ากลัวเพียงไม่กี่นาทีรถคันโตของเพชรก็มาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ ศศิใจหายวาบทันควัน“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม”แม้จะไม่เคยมาแต่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นบ้านของเขาเองเพราะอยู่ในบริเวณด้านหลังของรีสอร์ตเพชรไม่ตอบเช่นเคยและไม่ได้หันมามองเธอแต่เขาลงรถ ศศิจึงรีบลงตามตั้งใจจะคุยกับเขาให้รู้เรื่องว่าตกลงจะให้เธอออกใช่หรือไม่ จะได้กลับไปเก็บของและบอกลาปภาภร แต่ร่างสูงใหญ่วนมาหาเธออย่างรวดเร็วแถมยังรวบร่างเธอขึ้นพาดบ่าหนาในทันที หญิงสาวได้แต่อุทานโดยไม่สามารถทำอะไรได้“คุณเพชรปล่อยฉันนะ”เขาทำให้หญิงสาวเริ่มกลัวมากขึ้นเมื่อเข้ามาในบ้านแล้วไม่ได้หยุดที่ห้องรับแขก เพชรพาเธอตรงเข้าไปด้านในกว่านั้น บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียว และชายหนุ่มก็เข้ามาในห้องหนึ่งที่ทำเอาศศิถึงกับตระหนก“คุ
คนที่นั่งนิ่งอยู่ในห้องผู้บริหารของสำนักงานเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่างที่ความมืดค่อยๆ โรยตัวปกคลุม เธอได้แต่อยู่ในนี้มาหลายชั่วโมงแล้ว แต่ยังดีที่อารยาไม่ได้ปล่อยเธอไว้โดยไม่ใส่ใจ อีกฝ่ายสั่งข้าวมาให้ทั้งกลางวันและตอนเย็น แม้จะไม่รู้สึกหิวสักนิดทว่าอารยาก็คะยั้นคะยอจนศศิต้องฝืนใจทานลงไป แถมยังเอื้อเฟื้อหายามาทาตรงมุมปากที่แตกเพราะแรงตบของจารุพงษ์ให้อีกด้วยหญิงสาวกำลังเครียดและวิตกกังวล เรื่องของตัวเองนั้นพอทำใจได้ว่าสุดท้ายแล้วเธอคงต้องไปจากที่นี่ แต่หญิงสาวอดเป็นห่วงอาการของคุณสุพรรณีไม่ได้ ทว่าก็ทำได้เพียงภาวนาให้ท่านไม่เป็นอะไรมากอยู่ๆ ประตูห้องก็เปิดขึ้น ในตอนแรกศศิเข้าใจว่าเป็นอารยาทว่าร่างสูงใหญ่ที่ปรากฏทำให้เธอนิ่งงันไป ไม่ได้แปลกใจที่เห็นชายหนุ่มเข้ามาเพราะรู้ดีว่านี่เป็นห้องของอีกฝ่าย เธอเห็นป้ายหน้าห้องตั้งแต่ตอนที่เข้ามาแล้วว่าเป็นห้องรองประธานกรรมการเพชรใบหน้าเคร่งเครียด มองร่างระหงที่กำลังลุกขึ้นยืนช้าๆ ด้วยความรู้สึกทั้งรังเกียจและเคืองขุ่นระคนกัน เขาโมโหมากจนจัดการไอ้คนหน้าไม่อายที่ตามไปโรงพยาบาลจนเลือดกบปาก ตั้งใจจะเอาให้ฟันร่วงหมดปากด้วยซ้ำถ้านภาไม่ขอร้องเอาไว้“คุณ
“ว้าย! ท่านประธานคะ”อารยาเองก็เดินตามมาเช่นกัน หญิงสาวรีบขยับเข้าไปรับร่างของคนเป็นเจ้านายที่ทรุดลงได้ทัน อรอุมาก็รีบเข้าไปช่วยประคองด้วย จารุพงษ์กำลังอึ้งอยู่ก็ตกใจจนนิ่งไปเช่นกันในเวลานั้นร่างสูงใหญ่ก็ขยับกายมาอยู่ด้านหลังของอรอุมาแล้วช่วยพยุงคุณสุพรรณี“คุณป้า!”ชายหนุ่มเรียกป้าตนเองด้วยความตกใจแล้วเหลือบสายตาเข้ามาในห้อง ภาพที่เห็นก็ทำเอาสติของเขาขาดผึง ราวได้ยินเสียงบางอย่างขาดในหูตัวเองดังเปรี้ยะเลยทีเดียว สันกรามถูกขบแน่นขณะมองร่างสวยระหงที่รีบถอยให้ไกลจากร่างหนาของจารุพงษ์ ตาคมเต็มไปด้วยแววมาดร้ายกวาดตามมือบอบบางที่พยายามรั้งชายผ้าถุงลงปกปิดเรียวขาขาวสวย“ผมจะพาคุณป้าไปโรงพยาบาลก่อน ระหว่างนี้ผมไม่ต้องการให้ใครหายไปไหนเด็ดขาด จะต้องมีคนรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นกับป้าของผม”เขาออกคำสั่งรัวเร็วจากนั้นร่างสูงใหญ่ก็อุ้มร่างของป้าตนเองขึ้นแล้วก้าวพรวดพุ่งไปยังประตูทางออกของสำนักงาน ราวกับไม่รับรู้ถึงน้ำหนักใดๆ เลยแม้แต่น้อยนภาที่มาพร้อมกับเพชรรีบก้าวตามไปด้วยเผื่อว่าต้องเป็นคนจัดการทุกอย่างจารุพงษ์เองก็เร่งรีบตามออกไปด้านนอกหลังจากเรียกสติตนเองกลับมาได้“คุณจารุพงษ์คะ”อารยารีบเ







