Share

ฮั่วซาน

last update Last Updated: 2025-10-21 07:20:56

...เพียงปลายเท้าแตะดินก็นิ่งมากตัวไม่ไหวเลย บ่งถึงทักษะวิชาตัวเบาชั้นสูง นางเป็นหญิงวัย 50 กว่าปีร่างท้วมนิดๆ ดวงตาเรียวคมเหมือนดาบปลายพู่ ผมสีขาวประปรายยาวประบ่า เกล้าผูกเรียบง่ายด้วยผ้าไหมครามเข้ม ใบหน้าที่มีรอยเหี่ยวย่นจากกาลเวลากลับแฝงความสง่างามอย่างธรรมชาติ

เลี่ยหยางสายตาสอดส่ายสำรวจพบว่าเธอใช้มือซ้ายจับกระบี่ เขาคิดในใจว่าช่างหายากนักคนที่ถนัดกระบี่มือซ้ายแบบป้าคนนี้

อาจารย์อายิ้มบางๆให้เลี่ยหยางและเยว่หลิง

"ต้องขออภัยจอมยุทธทั้งสองที่ศิษย์ของข้าล่วงเกินพวกท่าน"

"นี่ก็เริ่มเย็นแล้ว ระยะทางไปโรงแรมก็ยังอีกไกล ให้ข้าไถ่โทษด้วยการเชิญพวกท่านพักค้างแรมในสำนักดีหรือไม่?"

เลี่ยหยางไม่เคยขึ้นไปข้างบนดูในสำนักฮั่วซานเลย เขาเลยตอบตกลง ส่วนเยว่หลิงก็ทำหน้านิ่งๆเช่นเคย แนวว่าเจ้าเอาไงข้าก็เอาอย่างงั้นแหละ

แต่พอมีเห็นบันไดทางขึ้นเขา เลี่ยหยางก็เพิ่งรู้ตัวว่าตัดสินใจผิด คือมันแทบจะเป็นแนวตั้ง เพราะภูเขามีลักษณะสูงชัน หน้าผาแทบจะตั้งฉากกับพื้นดิน แค่บันไดทางขึ้นก็เรียกได้ว่าอันตราย สมแล้วที่เขาเล่าลือว่ามีเทพเซียนอยู่บนยอดเขา

ศิษย์ทั้ง 10 ของสำนักฮั่วซานขึ้นบันไดกันอย่างคล่องแคล่ว และหันม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ดาบสังหาร (Sword of Annihilation)   กระบี่เซียนแห่งฮั่วซาน

    ....วันรุ่งขึ้น เมฆหนาทึบปกคลุมยอดเขาฮั่วซาน ลมแรงหอบเสียงกระพือของผืนธงในลานพิธี ศิษย์สำนักเกือบร้อยคนยืนเรียงแถวเป็นสองฝั่ง ทุกคนถือดาบในมือเยว่หลิงและเลี่ยหยางถูกศิษย์จับมัดตรึงกับเสาไม้สูงกลางลานคนละต้น แขนแผ่กางออกร่างแน่นหนาด้วยเชือกหยาบเลี่ยหยางหันคอไปมองเยว่หลิงที่ถูกผูกข้าง ใบหน้าของคุณชายชุดขาวยังคงสงบนิ่ง ราวกับไม่ใช่ผู้ต้องสังเวย แต่เป็นเพียงผู้ชม“หลิงหลิง…ท่าทางเจ้าน่าจะชอบนะ ถูกผูกไว้เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร” เลี่ยหยางยิ้มเจื่อๆ เอียงหัวทำตาหวานใส่เสียงฝีเท้าก้าวเข้ามา ตึง! อาจารย์อา ก้าวเข้ามาพร้อมศิษย์ 4 คน เสื้อคลุมขาวพลิ้วไหว ใบหน้างดงามแต่เย็นยะเยือก รังสีอำมหิตฉายแสงออกมาจากดวงตา“วันนี้ เราจะเริ่มพิธี สังเวยวิญญาณกระบี่ เพื่อความรุ่งโรจน์นิรันดร์ของสำนักฮั่วซาน!”เสียงศิษย์ทุกคนชูดาบขึ้นพร้อมกัน ก้องสะท้อนหุบเขา“สังเวย! สังเวย!”ดาบนับร้อยแสงวาบเป็นประกายเยือกเย็น แสงคมกระบี่สะท้อนเข้าตาของเลี่ยหยาง เขาหัวเราะหึๆ“พิธีสังเวยวิญญาณกระบี่? มันเป็นแค่เหล็กจะมีผีในนั้นได้ยังไง พวกเจ้าบ้ากันไปแล้ว”อาจารย์อาหันขวับ แววตาแหลมคมเหมือนเพลิงไฟที่พร้อมจะแผดเผา“ปากของเจ้ามัน

  • ดาบสังหาร (Sword of Annihilation)   โศกนาฏกรรมความรัก

    ....คุกใต้สำนักฮั่วซานนั้นอยู่ลึกและเย็นชื้น กำแพงหินหนาทึบแผ่ไอความชื้นออกมา เยว่หลิงนั่งพิงผนังหิน ใบหน้าเย็นชาไร้อารมณ์ ราวกับรูปสลักน้ำแข็ง เขามิได้ดิ้นรน มิได้เอ่ยคำถาม เพียงทอดสายตามองเลี่ยหยางเลี่ยหยางตรงกันข้าม เขายิ้มแสยะยิ้มเดินวนไปวนมา แล้วก็หันกลับมามองคุณชายเย็นชา“หลิงหลิง… นั่งนิ่งทั้งวันไม่เมื่อยบ้างรึ? ให้ข้ากดนวดบ่าให้มั้ย?”เยว่หลิงพยักหน้า เลี่ยหยางจึงมานั่งข้างๆแล้วยกมือขึ้นลูบต้นแขนเยว่หลิงอย่างเอาใจ“สบายไหมขอรับคุณชาย ข้าทำหน้าที่ภรรยา ส่วนท่านก็แค่นั่งหล่อไปเรื่อยๆ” เยว่หลิงหลับด้วยความฟิน"หลิงหลิง…” เสียงเขาแผ่วลง แต่แฝงความจริงจัง “ข้าสงสัยว่า ผู้หญิงที่ข้าเห็นใต้บ่อน้ำร้าง อาจเป็นเหตุผลที่พวกมันยังไม่ฆ่าเราทันที”เยว่หลิงหันตามสายตาเลี่ยหยางช้า ๆ ไม่มีคำพูด มีเพียงการรับฟังเหมือนโลกนี้ไม่เหลือสิ่งอื่นสำคัญนอกจากคนตรงหน้า“คนในนั้นมันกินศพมนุษย์!”แววตาของเยว่หลิงสั่นไหววูบหนึ่ง ริมฝีปากชมพูอ่อนโค้งขึ้นน้อยจนแทบไม่เห็น แสดงว่าเขารับทราบแล้วทันใดนั้น เสียงกรงเหล็กดัง อาจารย์อาก้าวเข้ามาในเงามืด อยู่หน้าห้องขังพร้อมศิษย์อีก 2 คน กลิ่นหอมดอกเหมยอวลอบอวล แต่ส

  • ดาบสังหาร (Sword of Annihilation)   ฮั่วซาน

    ...เพียงปลายเท้าแตะดินก็นิ่งมากตัวไม่ไหวเลย บ่งถึงทักษะวิชาตัวเบาชั้นสูง นางเป็นหญิงวัย 50 กว่าปีร่างท้วมนิดๆ ดวงตาเรียวคมเหมือนดาบปลายพู่ ผมสีขาวประปรายยาวประบ่า เกล้าผูกเรียบง่ายด้วยผ้าไหมครามเข้ม ใบหน้าที่มีรอยเหี่ยวย่นจากกาลเวลากลับแฝงความสง่างามอย่างธรรมชาติ เลี่ยหยางสายตาสอดส่ายสำรวจพบว่าเธอใช้มือซ้ายจับกระบี่ เขาคิดในใจว่าช่างหายากนักคนที่ถนัดกระบี่มือซ้ายแบบป้าคนนี้อาจารย์อายิ้มบางๆให้เลี่ยหยางและเยว่หลิง "ต้องขออภัยจอมยุทธทั้งสองที่ศิษย์ของข้าล่วงเกินพวกท่าน""นี่ก็เริ่มเย็นแล้ว ระยะทางไปโรงแรมก็ยังอีกไกล ให้ข้าไถ่โทษด้วยการเชิญพวกท่านพักค้างแรมในสำนักดีหรือไม่?"เลี่ยหยางไม่เคยขึ้นไปข้างบนดูในสำนักฮั่วซานเลย เขาเลยตอบตกลง ส่วนเยว่หลิงก็ทำหน้านิ่งๆเช่นเคย แนวว่าเจ้าเอาไงข้าก็เอาอย่างงั้นแหละแต่พอมีเห็นบันไดทางขึ้นเขา เลี่ยหยางก็เพิ่งรู้ตัวว่าตัดสินใจผิด คือมันแทบจะเป็นแนวตั้ง เพราะภูเขามีลักษณะสูงชัน หน้าผาแทบจะตั้งฉากกับพื้นดิน แค่บันไดทางขึ้นก็เรียกได้ว่าอันตราย สมแล้วที่เขาเล่าลือว่ามีเทพเซียนอยู่บนยอดเขาศิษย์ทั้ง 10 ของสำนักฮั่วซานขึ้นบันไดกันอย่างคล่องแคล่ว และหันม

  • ดาบสังหาร (Sword of Annihilation)   ออกเดินทาง

    ......เช้าวันรุ่งขึ้นทั้งคู่ก้าวย่างเดินออกจากประตูเมืองทางตะวันออก พอพ้นมาได้นิดเดียวเยว่หลิงก็หันหน้ามามองเลี่ยหยาง "กว่างโจวไปทางไหน?"เลี่ยหยางเกาหัวแกร่กๆ "ก็ต้องลงใต้ ถ้าจะเดินทางบนบกจากตรงนี้ก็ต้องไปลั่วหยางก่อน แล้วผ่านลงไปเรื่อยๆถึงเมืองฉางซา เลยไปอีกก็ถึงกว่างโจวละ""แต่...ถ้าเจ้าอยากไปทางน้ำเราอาจต้องอ้อมหน่อยไปทางตะวันออกเพื่อขึ้นเรือที่ท่าเรือหางโจวแล้วจึงลงใต้"เยว่หลิงมองหน้าอย่างเฉยชา เลี่ยหยางคิดในใจ "ให้ตรูตัดสินใจแทนอีกแล้วชิมิ""ถ้าเจ้าอยากกินซุปน้ำแกงและอาหารดอกโบตั๋น (ใช้ดอกไม้ในอาหาร) รวมถึงงานเลี้ยงรื่นเริงที่เสิร์ฟอาหารเยอะๆ 10-20 อย่าง ก็ลั่วหยาง""แต่...ถ้าเจ้าอยากกินปลามังกรน้ำใสตุ๋น, เนื้อหมูตงพอ และชาหลงจิ่ง และเจอพวกนักกลอนกวีเยอะๆ ก็ต้องหางโจว"เลี่ยอยางเอามือแตะที่ท้องบางๆของเยว่หลิง "ถามทาเถี่ย(สัตว์ในตำนานยุคโบราณ)ในท้องเจ้าดูว่ามันอยากกินอะไร?"เยว่หลิงมองหน้าอย่างเฉยชาเช่นเดิม เลี่ยหยางถอนหายใจแรง"งั้นก็ไปลั่วหยาง! เฮฮาดี ข้าเกลียดพวกกวีตุ๊งติ้ง" ว่าแล้วเลี่ยหยางก็เดินนำเลย โดยมีเยว่หลิงเดินตามหลังต้อยๆ.....เดินทางมาสักพักทั้งคู่ก็มาถึงที่ราบกว้า

  • ดาบสังหาร (Sword of Annihilation)   (ภาคฉางอัน) ค่ำคืนสุดท้ายที่ฉางอัน...

    ...คืนนี้เรือนพักเงียบสงบ มีเพียงแสงจากตะเกียงน้ำมันส่องวูบวาบไหวบนโต๊ะไม้ แสงนั้นทอดลงบนหน้าอกแน่นๆของเลี่ยหยาง เขาร้อนมากจึงถอดเสื้อออก เปลือยเปล่าท่อนบน กล้ามเนื้อไหล่และเแผ่นอกตึงแน่นมองเห็นได้ชัดเจน มีเหงื่อบางๆไหลซึมตามผิวอก และกล้ามท้องซิกแพ็คแน่น ๆ ของเขาเยว่หลิงอดไม่ได้ที่จะแอบดูรูปร่างอันเซ็กซี่นั้น จนเลี่ยหยางสังเกตุเห็น"อากาศว่าร้อนแล้ว แต่สายนั้นของเจ้าร้อนยิ่งกว่าอีกนะ หลิงหลิง"เลี่ยหยางยิ้มแล้วเดินเข้ามาหาเยว่หลิง ใบหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจประสานกัน ริมฝีปากแทบจะแตะต้องกัน เยว่หลิงถอยไปจนพิงขอบประตู"หลิงหลิงเจ้าก็ถอดบ้างสิ ร้อนซะขนาดนี้"เลี่ยหยางใช้มือขวาแกะเสื้อเยว่หลิงออก จนเสื้อแหวกออกทำให้เห็นหน้าอกแล้วซิกแพ็คลีนๆของเยว่หลิง ผิวที่ขาวเนี่ยนละเอียดนั่นพอต้องแสงตะเกียงแล้วมันช่างสว่างในที่มืดเสียจริง ราวกับปุยนุ่น เลี่ยหยางกลืนน้ำลายดังอึ่ก เขาอดใจไม่ได้ที่จะใชเปลายนิ้วสัมผัสผิวขาวออร่านั้น เขาใช้ปลายนิ้วสัมผัสค่อยๆไล่จากหน้าอกลงมาถึงใต้สะดือนิดหน่อย"ผิวเจ้านี่นุ่มดีจัง มีกลิ่นหอมนิดๆด้วย" เขาเผลอพูดออกไป เยว่หลิงเอามือจับหน้าอกแน่นๆของเลี่ยหยางคืน "อกเจ้าก็ชุ

  • ดาบสังหาร (Sword of Annihilation)   (ภาคฉางอัน) คำอธิษฐานแห่งดวงดาว

    .....เช้าวันนี้เลี่ยหยางชวนเยว่หลิงไปไหว้ศาลเจ้าเทพแห่งดาวดาวซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของนครฉางอัน ศาลแห่งนี้สูงสง่า ประตูไม้ทาสีดำสนิท สลักลายกลุ่มดาวนับพัน เสมือนจักรวาลทั้งปวงถูกรวมไว้ในบานประตูเดียว ภายในศาลเจ้า เงียบสงัด มีเพียงกลิ่นธูปลอยคลุ้งขึ้นสู่ท้องฟ้า บนเพดานมีการวาดดาวฤกษ์เป็นจุดแสงทองคำ เมื่อจุดตะเกียงน้ำมันยามค่ำคืน จะระยิบระยับราวกับท้องฟ้าแท้จริงผู้คนเชื่อว่า หากมากราบไหว้จะได้รับการปกปักคุ้มครองจากเทพเจ้าแห่งดวงดาว ให้เดินทางปลอดภัย และชะตาชีวิตรุ่งเรืองทั้งสองประนมมือไหว้ แล้วเดินชมรอบ ๆ เลี่ยหยางชวยเยว่หลิงเขียนป้ายคำอธิษฐานแขวนไว้ในศาลเจ้า(ฉีหย่วนไผ๋)เหมือนคนอื่น ๆ ที่เขียนหอยแขวนไว้มากมายหลายพันชิ้น เยว่หลิงไม่ได้สนใจแต่ไม่อยากขัดเลี่ยอยางจึงนำแผ่นไม้หอมมาเขียนคำอธิษฐานโดยเลี่ยหยางไปเชื่อนักพรตในศาลเจ้าจ่ายเงินซื้อหยดหมึกผสมน้ำฟ้า(หมึกพิเศษผสมแร่เงิน) ซึ่งจะทำให้แสงจันทร์สะท้อนเป็นประกายเงิน คล้ายป้ายเรืองแสงยามราตรีได้ เสร็จแล้วทั้งคู่ก็นำไปแขวนไว้ที่เสาศิลาแกะสลักรูปดาว"เราใช้หมึกพิเศษ พอตกกลางคืนเมื่อแสงตะเกียงและแสงดาวตกกระทบ ป้ายพวกเราจะสะท้อนแสงวิบวับราวกับ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status