ก้อนหมั่นโถวของท่านแม่ทัพ

ก้อนหมั่นโถวของท่านแม่ทัพ

last updateLast Updated : 2025-05-09
By:  ณ ขณะฝันUpdated just now
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
11Chapters
4views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

เพราะแม่ทัพเฉินคือชายที่เสี่ยวเม่ยมอบใจให้ ถึงจะต้องปลอมตัวเป็นนายคณิกา แต่ขอแค่ได้ใกล้ชิดอีกฝ่ายเขาก็ยอม แต่ความสัมพันธ์ของพวกเราเป็นเช่นนั้น เริ่มต้นด้วยความหลอกลวงอันเงียบงัน และจะจบลงอย่างไร้ร่องรอยราวกับไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้น

View More

Chapter 1

บทนำ

จันทร์เพ็ญส่องสกาวกลางท้องฟ้ายามราตรี หมู่ดารากะพริบแสงริบหรี่ลงคล้ายพยายามหลบเร้น

ใครบางคนยืนแหงนหน้ามองภาพเดือนและดาวจุดประกายแสงสว่างด้วยแววตาเหม่อลอย มือเรียวยาวเอื้อมคว้าไปกลางอากาศ ทำราวกับว่าต้องการสัมผัสจับดวงจันทราที่อยู่สูงเกินกว่าจะเอื้อมถึง

จนเมื่อภวังค์ที่ลอยละล่องไปไกลคืนกลับ ชายหนุ่มในอาภรณ์สีม่วงเนื้อดีจึงแย้มยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยันในความโง่งมของตน

เขาลดแขนลงแล้วจ้องมองเนื้อผ้าที่ตนสวมใส่ แม้นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตนหยิบยืมผ้าอาภรณ์ผืนนี้มาใช้ แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่คุ้นชิน

จนเมื่อแว่วเสียงตีกลองบอกเวลาว่าเข้าสู่ยามจื่อ (23.00-00.59) ชายหนุ่มจึงก้าวถอยออกห่างจากระเบียงหน้าต่าง ณ ชั้นบนสุดของหอว่านเหอ อันเป็นหอนายโลมอันดับต้น ๆ ของแคว้นเฉิน

***

ชุดฮั่นฝูกรุยกรายที่กำลังสวมใส่ยังคงสร้างความรู้สึกเงอะงะให้กับเขาเสมอยามก้าวเดิน ร่างเพรียวเยื้องย่างไปยังโต๊ะเครื่องแป้งที่ตั้งอยู่มุมห้องเพื่อหยิบเอาผ้าคาดตาที่ปักลวดลายดอกเหลียนฮวาสีขาวนวล (ดอกบัว) ขึ้นมาถือ จากนั้นจึงลากเท้าไปยังตั่งเตียงที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อรอการใช้งาน

ผ้าคาดเนื้อบางถูกผูกจนแน่น เขาพยายามตรวจสอบเพื่อความมั่นใจว่าผ้าผืนนี้จะไม่หลุดหล่น จนเมื่อขยับซ้ายขยับขวาจนพอใจ มือเล็กจึงลดลงมาประสานเอาไว้ที่ตัก

กลิ่นกำยานบางเบาที่ถูกจุดเคยทำให้เขาประหม่าจนแทบคลั่ง เสียงดนตรีที่ค่อย ๆ เงียบลงจากภายนอกครั้งหนึ่งสามารถทำให้เขาเสียขวัญ ทว่ายามนี้สิ่งเหล่านั้นดูคล้ายกับเป็นเรื่องธรรมดาสามัญไปเสียแล้ว

แม้แต่ยามที่ประตูห้องนอนถูกเปิดออกพร้อมกับการมาเยือนของใครบางคน ก็ไม่อาจทำให้เขารู้สึกตื่นตระหนกได้อีกต่อไป

คนบนเตียงส่งยิ้มให้กับ ‘แขกพิเศษ’ ผู้ที่จะมาเยือนสถานที่แห่งนี้ในทุกคืนจันทร์เพ็ญ แม้ผ้าคาดตาจะสามารถบดบังใบหน้าของแขกพิเศษขาประจำผู้นี้ให้เลือนลง แต่ในห้วงจินตนาการของเขานั้น กลับสามารถมองเห็นใบหน้าเย็นชาของคนผู้นี้ได้อย่างชัดเจน

ฝีเท้าก้าวเดินอย่างหนักแน่นตามวิสัย เจ้าของห้องผู้ปิดตาตามกฎที่ถูกตั้งเอาไว้ตั้งแต่ราตรีแรกแว่วได้ยินเสียงเสียดสีของเนื้อผ้าที่ถูกถอดออก มันถูกพาดวางทิ้งเอาไว้ที่ไหนสักแห่ง ตามมาด้วยเสียงโลหะกระทบดังอย่างอ้อยอิ่ง

คนนั่งรอบนเตียงรู้สึกจนใจไม่น้อย เพราะดูเหมือนว่าแขกผู้นี้คงเพิ่งกลับมาจากนอกด่านเป็นแน่แท้ เขาล่ะนึกอยากเปิดปากต่อว่าอีกฝ่ายสักหน มีอย่างที่ไหนใส่เครื่องแบบแม่ทัพเดินเข้าหอโคมเขียว ไม่รู้จะเรียกได้ว่าองอาจกล้าหาญหรือหน้าด้านหน้าทนดี

แม้ในใจจะมีคำพูดนับร้อยพัน แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีเสียงใดหลุดรอดออกไปแม้ครึ่งคำ มีเพียงรอยยิ้มบางที่ประดับเอาไว้ไม่จางหายและการที่ผู้สวมตำแหน่งเจ้าของห้องขยับตัวเล็กน้อย โดยหมายเว้นที่ว่างบนเตียงนอนให้มากขึ้นอึดใจต่อมาแขกผู้มาเยือนก็เดินมานั่งลงเคียงกัน

ระหว่างพวกเขาไม่มีคำพูดใดเอื้อนเอ่ย จะมีเพียงการขยับเข้าใกล้อย่างเป็นธรรมชาติ ร่างเพรียวในอาภรณ์สีม่วงเอนอิงซบกับอกแกร่ง ใบหูแนบลงเพื่อสดับฟังเสียงชีพจรที่เต้นอย่างมั่นคง จมูกสูดดมกลิ่นกายบุรุษแบบเฉพาะตัวของคนผู้นี้ ก่อนมือเล็กทั้งสองข้างจะกอบกุมมือแกร่งของอีกฝ่ายขึ้นมา พลางก้มลงประทับริมฝีปากลงไปที่ปลายนิ้วหยาบกร้านจากการเคี่ยวกรำทำศึกในสนามรบมานานหลายปี

กริยาออดอ้อนอ่อนหวานทำให้ร่างเพรียวถูกรวบกอด ก่อนจะถูกพลิกกดลงกับเตียงนอนในวินาทีต่อมา อาภรณ์ที่เดิมก็ไม่ได้ถูกสวมให้แน่นหนาอันใด ยามนี้จึงเลื่อนคลายออกเผยผิวเนียนใต้ร่มผ้าออกมาล่อสายตาคนมอง ใบหน้าของพวกเขาห่างกันไม่ถึงคืบ คนที่คร่อมทับเหนือร่างเริ่มซุกไซ้ปลายจมูกสูดดมกลิ่นกรุ่นจากเนื้อนวล

ช่างน่าประหลาดที่กลิ่นกายของนายบำเรออันดับหนึ่งแห่งหอว่านเหอ หาใช่กลิ่นเครื่องหอมหรือดอกไม้ตามที่เคยได้ยินคำร่ำลือ

แต่มันกลับคล้ายกลิ่นแป้งสาลีที่ถูกนำมานวดและนึ่งจนกลายเป็นหมั่นโถวลูกขาวอวบน่ากิน

พอสมองจินตนาการภาพของกินขึ้นมา ปฏิกิริยาทางร่างกายก็ตอบรับโดยพลัน ลำคอของแขกพิเศษในค่ำคืนนี้แห้งผาก เขาเลียริมฝีปากของตนด้วยความรู้สึกหิวกระหายที่ไม่อาจยับยั้ง สุดท้ายจึงฝังเขี้ยวลงบนลาดไหลเล็ก ฝากรอยฟันบาง ๆ เอาไว้บนผิวกายนุ่ม

คนโดนกัดไม่ส่งเสียงร้องใด ๆ ออกมา ทำเพียงขบเม้มริมฝีปากแน่นเพื่อสกัดกั้น ไม่ให้มีสุ้มเสียงใดเล็ดลอด

ห้ามจ้องมอง...เพราะแบบนั้นเขาจึงได้คาดปิดดวงตาเอาไว้

ห้ามเอ่ยวาจา...เพราะแบบนั้นเขาจึงได้พยายามข่มเสียงไว้ในลำคอ

ห้ามใช้มารยาสาไถย...เพราะแบบนั้นเขาจึงออดอ้อนอย่างใสซื่อ

ห้ามขัดขืน...เพราะแบบนั้นเขาจึงโอบกอดคนผู้นี้เอาไว้อย่างแนบแน่น

นี่คือกฎไม่กี่ข้อที่ถูกตั้งขึ้นระหว่างเรา นับตั้งแต่คืนจันทร์เพ็ญราตรีแรกที่ความสัมพันธ์เช่นนี้เริ่มต้น จวบจนวันเพ็ญครั้งที่สิบสองเช่นค่ำคืนนี้

เมื่อถึงช่วงเวลาราตรีกาล นายท่านผู้นี้จะปรากฏกายในยามจื่อ (23.00-00.59) เพื่อร่วมอภิรมย์กับ ฟางซิน นายโลมอันดับหนึ่งแห่งหอว่านเหอ เขาจะกกกอด ส่วนตัวข้ามีหน้าที่ทอดกาย เราสองเริงรักเร่าร้อน ราวต้องการหลอมรวมกลายเป็นหนึ่ง

จวบจนเมื่อทิวากรมาเยือน ความแนบชิดสนิทเนื้อดูคล้ายเลือนรางไม่ต่างจากภาพฝัน นายท่านผู้นั้นจากไปช่วงยามอิ๋น (3.00-4.59) เสมอ

อุ่นไอที่เคยร้อนระอุจางหายจนเย็นชืด สิ่งที่หลงเหลือไว้เป็นหลักฐานของค่ำคืนที่พ้นผ่าน มีเพียงรอยยับย่นของผ้าปูที่นอน และเงินแปดตำลึงทองบนโต๊ะข้างเตียง

***


Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

Comments

No Comments
11 Chapters
บทนำ
จันทร์เพ็ญส่องสกาวกลางท้องฟ้ายามราตรี หมู่ดารากะพริบแสงริบหรี่ลงคล้ายพยายามหลบเร้นใครบางคนยืนแหงนหน้ามองภาพเดือนและดาวจุดประกายแสงสว่างด้วยแววตาเหม่อลอย มือเรียวยาวเอื้อมคว้าไปกลางอากาศ ทำราวกับว่าต้องการสัมผัสจับดวงจันทราที่อยู่สูงเกินกว่าจะเอื้อมถึงจนเมื่อภวังค์ที่ลอยละล่องไปไกลคืนกลับ ชายหนุ่มในอาภรณ์สีม่วงเนื้อดีจึงแย้มยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยันในความโง่งมของตนเขาลดแขนลงแล้วจ้องมองเนื้อผ้าที่ตนสวมใส่ แม้นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตนหยิบยืมผ้าอาภรณ์ผืนนี้มาใช้ แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่คุ้นชินจนเมื่อแว่วเสียงตีกลองบอกเวลาว่าเข้าสู่ยามจื่อ (23.00-00.59) ชายหนุ่มจึงก้าวถอยออกห่างจากระเบียงหน้าต่าง ณ ชั้นบนสุดของหอว่านเหอ อันเป็นหอนายโลมอันดับต้น ๆ ของแคว้นเฉิน***ชุดฮั่นฝูกรุยกรายที่กำลังสวมใส่ยังคงสร้างความรู้สึกเงอะงะให้กับเขาเสมอยามก้าวเดิน ร่างเพรียวเยื้องย่างไปยังโต๊ะเครื่องแป้งที่ตั้งอยู่มุมห้องเพื่อหยิบเอาผ้าคาดตาที่ปักลวดลายดอกเหลียนฮวาสีขาวนวล (ดอกบัว) ขึ้นมาถือ จากนั้นจึงลากเท้าไปยังตั่งเตียงที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อรอการใช้งานผ้าคาดเนื้อบางถูกผูกจนแน่น เขาพยายามตรวจสอบเพื่อความมั่น
last updateLast Updated : 2025-05-09
Read more
01
สิ่งที่เกิดขึ้นดูคล้ายความสัมพันธ์ที่ไม่ได้มีสิ่งใดพิเศษเท่าใดนัก เป็นเพียงการใช้บริการของลูกค้าขาประจำกับผู้ขายทั่วไปตามปกติทว่าสิ่งหนึ่งที่แขกพิเศษผู้นั้นไม่รู้และจะไม่มีทางได้รู้เป็นอันขาด นั่นคือความจริงที่ว่า คนที่เขากกกอดแนบชิดมาตลอดหนึ่งปีหาใช่นายโลมอันดับหนึ่งของหอโคมเขียวครืด…เสียงเปิดประตูห้องนอนเกิดขึ้นอีกครั้ง ผู้มาเยือนคนใหม่หนึ่งคือหญิงท้วมวัยกลางคนที่มีสีหน้าจนใจ ส่วนอีกหนึ่งคือเด็กหนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพราที่กำลังทำท่าทางหงุดหงิด“อาเม่ย...ลุกไหวหรือไม่...มา ๆ ให้ป้าประคองไปล้างตัว” เป็นฝ่ายหญิงวัยกลางคนที่เอ่ยขึ้น ก่อนที่จะเดินรุดเข้าไปหมายโอบประคองร่างของคนที่นั่งนิ่งบนเตียงนอนอันยุ่งเหยิงใช่แล้ว...ตัวเขาไม่ใช่ ฟางซิน นายโลมเลื่องชื่อแห่งหอว่านเหอ นามที่แท้จริงของเขาคือ เสี่ยวเม่ย พ่อค้าขายหมั่นโถวจากตรอกเล็ก ๆ ในย่านสถานเริงรมย์ และหากถามหาฟางซินตัวจริงน่ะหรือ ก็คือคนที่ทำหน้าตางุ่นง่านพร้อมจะกระโดดขย้ำหัวเขาเบื้องหน้านี่อย่างไรเล่า“ท่านแม่...ไหนบอกคราวนี้จะดุด่าสั่งสอนเขาสักคราอย่างไรเล่า...ใยโอ๋เขาอีกแล้ว” ฟางซินเอ่ยถามกับ 'ท่านแม่' ซึ่งเป็นสรรพนามเรียกขาน
last updateLast Updated : 2025-05-09
Read more
02
หากจะเอ่ยถึงต้นตอความสัมพันธ์ลวงหลอกที่เกิดขึ้นของเสี่ยวเม่ยและเฉินฮ่าวเทียนแล้ว ก็คงต้องย้อนกลับไปเมื่อราวหนึ่งปีก่อนรัชศกลู่เฉิงปีที่สามสิบหก แคว้นเฉินบนแผ่นดินต้าเว่ยในช่วงที่ฤดูหนาวเพิ่งพ้นผ่านนั้น ได้มีข่าวสะเทือนเลือนลั่นข่าวหนึ่งถูกประกาศซึ่งข่าวที่ว่านั้นก็คืองานสมรสพระราชทานจากองค์จักรพรรดิ มอบให้แก่ท่านอ๋องน้อยแห่งแคว้นเฉินและคุณหนูใหญ่แห่งจวนเสนาบดีกรมโยธาเดิมการที่สองตระกูลใหญ่เกี่ยวดองเป็นทองแผ่นเดียวกันก็หาใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องอันใดกับชีวิตของคนธรรมดาหาเช้ากินค่ำ ทว่าเหตุที่ทำให้งานสมรสพระราชทานนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหัวข้อซุบซิบในวงน้ำชา ก็เป็นเพราะเบื้องหลังฉากหน้างานมงคลสมรสของคู่ยวนยางที่เหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก ยังมีข่าวลือเรื่องชิงรักหักสวาทของเหล่าชนชั้นสูง ให้ชาวบ้านร้านตลาดได้จับกลุ่มคุยกันได้อย่างออกรสเพราะมีใครบ้างในเขตเมืองหลวงและแคว้นเฉินจะไม่ทราบ ว่าตัวว่าที่คู่บ่าวสาวนั้นหาได้ชอบพอกันไม่ท่านอ๋องน้อย เฉินหนิงเทียน คือบุตรชายคนโตของเฉินชินอ๋องและพระชายาเอก เฉินหนิงเทียน เป็นท่านชายผู้เพียบพร้อมไปด้วยรูปลักษณ์เป็นเอกและฐานันดรสูงศักดิ์ สตรีทั่วแคว้นต่าง
last updateLast Updated : 2025-05-09
Read more
03
จะเห็นได้ว่าชีวิตหน้าที่การงานของแม่ทัพประจิมผู้นี้รุ่งเรืองเพียงใด แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าเรื่องการสู้รบจับศึก คือเรื่องรักใคร่ในมุ้งของอีกฝ่ายมากกว่าชีวิตของเฉินฮ่าวเทียนนอกจากมารดาวิปลาสของตนแล้ว เขาเกี่ยวข้องกับสตรีอยู่นางหนึ่งคุณหนูใหญ่เหลียนจินหลินจากจวนเจ้ากรมโยธา สตรีเพียงนางเดียวที่เฉินฮ่าวเทียนไปมาหาสู่ตลอดหลายปีการคบหาของคนทั้งคู่เป็นที่รับรู้กันทั่วเมืองหลวง ความสัมพันธ์จากเพื่อนเล่นต่างอายุในวัยเยาว์ สู่การเป็นคนสำคัญในใจของกันและกันเมื่อเติบใหญ่ในตอนที่เฉินฮ่าวเทียนยังเป็นเพียงแม่ทัพน้อยและกำลังเร่งสร้างชื่อเสียงจากการออกทำศึก ฝ่ายคุณหนูเหลียนก็รั้งรอไม่ยอมออกเรือนจนอายุพ้นวัยปักปิ่นไปไกล คุณหนูบ้านอื่นที่รุ่นราวคราวเดียวกันแต่งงานมีลูกไปแล้วสองสามคน เหลียนจินหลินยังยึดมั่นครองเรือนเพื่อรอคนกลับมาจากชายแดนภายหลังได้รับอวยยศเป็นแม่ทัพประจิม ผู้คนต่างมั่นใจว่าอีกไม่นานคงได้มีข่าวการวิวาห์ของคนทั้งคู่เป็นแน่ และในที่สุดราชโองการมอบสมรสพระราชทานจากองค์จักรพรรดิก็ถูกประกาศทั้งที่ควรเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ที่ไหนได้ชื่อบ่าวสาวกลับไม่เป็นไปตามที่ผู้คนคาดคิด เจ้าสาวยังคงเป็
last updateLast Updated : 2025-05-09
Read more
04
“ข้าว่าแล้วเจ้าต้องมา” นี่คือคำทักทายแรกของผู้เป็นเจ้าของห้องทันทีที่เห็นว่าผู้ใดมาเยือนผู้กล่าวทักมีนามว่า ฟางซิน เด็กหนุ่มรูปร่างอ้อนแอ้นบอบบาง ใบหน้างดงามจิ้มลิ้มพริ้มเพรา ดวงตาดอกท้อฉายแววเบื่อหน่ายอยู่บ้าง แต่มันกลับยิ่งขับให้บรรยากาศรอบกายของเขาดูคล้ายภูตจิ้งจอกยามทอดกายอาบแดดอย่างสบายอารมณ์เสียมากกว่า ท่าทางเย้ายวนใจแม้แต่ยามนอนเอกเขนกอย่างเกียจคร้านเช่นนี้ ช่างเหมาะสมกับตำแหน่งนายโลมอันดับหนึ่งแห่งหอว่านเหอ“จริงหรือไม่?” เสี่ยวเม่ยวิ่งรุดเข้าไปทรุดตัวนั่งลงที่พื้น มือเกาะขอบตั่งเตียงของอีกฝ่าย พร้อมส่งสายตาที่เต็มไปด้วยแววคาดหวังฟางซินเหลือบมองเจ้าคนที่กระตือรือร้นไม่ต่างจากยามลูกกระรอกถือเมล็ดทานตะวันแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา เขาไม่พยักหน้า เพียงแต่เอ่ยตอบกลับมาลอย ๆ“พ่อบ้านจางเพิ่งกลับไปเมื่อครู่”ซึ่งคำเอ่ยนั้นก็แทนเครื่องยืนยันได้แล้วว่าเรื่องเล่าลือในตลาดที่ได้ยินมานั้นเป็นความจริง เสี่ยวเม่ยรู้สึกหมดแรงขึ้นมาเสียเฉย ๆ มือที่เกาะขอบเตียงตกลงพื้นราวไร้กระดูก ริมฝีปากอิ่มคว่ำลงตามอารมณ์ที่ดำดิ่งสู่ความผิดหวังไม่รู้จบความชื่นชมในใจของเสี่ยวเม่ยที่มีต่อเฉินฮ่าวเทียนนั้น
last updateLast Updated : 2025-05-09
Read more
05
“เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี...ข้าคืนเทียบเชิญกับเงินมัดจำดีหรือไม่” ลี่จินกระซิบขึ้นด้วยความเป็นกังวล ในใจแม้จะหวั่นเกรงเรื่องสัญญาที่รับปากกับจวนแม่ทัพไปแล้วไม่น้อย แต่เมื่อเทียบกับน้ำตาของเสี่ยวเม่ยที่กำลังหลั่งริน นางเลือกที่จะยกเลิกเทียบเชิญเสียดีกว่าเพราะสำหรับลี่จินและฟางซินแล้ว พ่อค้าขายหมั่นโถวตัวน้อยนับเป็นผู้มีพระคุณเมื่อสิบกว่าปีก่อนลี่จินและฟางซินเดินทางร่อนเร่มาถึงแคว้นเฉินเพื่อหนีภัยสงคราม ลี่จินใช้เงินทุนก้อนสุดท้ายที่มีติดตัวเปิดเหลาสุรา ฟางซินเองก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ติดตามมา ลี่จินจึงให้เขาทำงานเป็นเสี่ยวเอ้อแลกกับให้อาหารและที่ซุกหัวนอนแต่ในช่วงเวลาที่ผู้คนเผชิญความแร้นแค้น จะมีใครบ้างยอมเสียเบี้ยเงินซื้อสุราและกับแกล้ม เงินทุนก้อนสุดท้ายไม่อาจงอกเงย ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในแต่ละวันยังคงมากขึ้น ลี่จินโอบกอดความผิดหวังและความหิวโหยเอาไว้อย่างกล้ำกลืนเย็นวันหนึ่งเสี่ยวเม่ยในวัยแปดขวบปีปรากฏตัวขึ้นที่หน้าเหลาสุราอันเงียบเหงา เขาเดินจูงมือฟางซินที่กอดหมั่นโถวลูกหนึ่งเอาไว้แน่นไม่ปล่อยมาส่งพอลี่จินสอบถามก็ได้ความว่า เสี่ยวเม่ยพบฟางซินแอบนั่งแทะหมั่นโถวที่มีคนทำตกพื้นเอาไ
last updateLast Updated : 2025-05-09
Read more
06
  “ไม่ได้/ไม่ได้!” ไม่ต้องคิดให้มากความสองเสียงประสานตวาดดังลั่น แม่เล้าลี่จินเข่าอ่อนแทบลมจับ อาเม่ยตัวน้อยของนางนึกอยากพลีกายให้ผู้อื่นเสียแล้ว ด้านฟางซินยิงแล้วใหญ่ เขายกมือขึ้นจิกทึ้งเส้นผมตนเองไปมาราวกับจะเป็นบ้าตายเสียเดี๋ยวนี้“ท่านป้า...ฟางซิน...เหตุใดเล่า” เสี่ยวเม่ยยังคงร้องถาม พ่อค้าหมั่นโถวหันซ้ายทีขวาทีมองดูปฏิกิริยาของคนข้างกายทั้งสอง“ยังจะถาม...เจ้าเป็นพ่อค้าขายหมั่นโถว!” ฟางซินว่า เขานึกอยากเปิดกะโหลกของอีกฝ่ายดูนักว่าภายในนอกจากแป้งสาลีแล้วมีสิ่งอื่นหรือไม่ ด้านลี่จินนางยังคงนั่งดมยาหอมเพื่อสงบจิตสงบใจ ปล่อยเด็กหนุ่มสองคนโต้เถียงกันไปก่อน“ข้าทำได้” เจ้าตัวดียังไม่ยอมแพ้ ยกมือตบอกแสดงท่าทางมั่นอกมั่นใจ ฟางซินยกแขนขึ้นกอดอกแล้วจ้องหน้าสหายอย่างไม่ยินยอมเช่นกัน“ยั่วยวนบุรุษเจ้าทำได้หรือ? ”“....” คำถามนั้นทำเอาเสี่ยวเม่ยตอบไม่ถูกคำว่ายั่วยวนคืออย่างไร ใช่กายโยนผ้าเช็ดหน้าทิ้งไว้ แล้วทอดสายตามองชายที่หมายปองหรือไม่?
last updateLast Updated : 2025-05-09
Read more
07
  และคำกล่าวของฟางซินก็หาใช่คำขู่ไม่ เพราะมันคือความจริงทุกประการ“ลึกกว่านี้...อย่าสำลักออกมา” เสียงสั่งสอนดังขึ้นไม่ขาดมาได้หลายชั่วยามแล้วเสี่ยวเม่ยเหลือบสายตาขึ้นมองคนที่นั่งพิงพนักเก้าอี้อย่างเอื่อยเฉื่อย ใบหน้างดงามของนายโลมอันดับหนึ่งมีล่องลอยของความเหนื่อยล้า มือเล็กที่มีกลิ่นยาสูบบางเบาเอื้อมมาบีบที่คางของพ่อค้าหมั่นโถวผู้ที่ตอนนี้กำลังขะมักเขม้นเรียนรู้วิชา“อ๊อก!” แรงบีบของนายโลมคนงามมากพอที่จะทำให้คนที่ปากไม่ว่างสำลักออกมาอึกใหญ่ ความใหญ่โตที่เดิมค้างอยู่ที่ลำคอเลื่อนออก แต่ก่อนที่จะหลุดจากริมฝีปากอิ่มเสี่ยวเม่ยผู้ถูกบังคับให้ใช้โพรงปากครอบอมความแข็งขืนของ ‘สิ่งนั้น’ มาได้หลายชั่วยาม ก็รีบใช้ฟันงับกัดวัตถุแปลกปลอมเอาไว้เพื่อไม่ให้สิ่งใดหลุดไป“อย่ากัด!เจ้าอยากโดนตีตายหรือ” คนสั่งสอนเอ่ยเสียงเข้มแล้วจ้วงดันท่อนแข็งให้มุดลึกเข้าไปในโพรงลำคอ แรงกระทุ้งที่เกิดคิดอย่างฉับพลันสร้างความระคายเคืองให้ก็เกิดขึ้นต
last updateLast Updated : 2025-05-09
Read more
08
  การฝึกฝนดำเนินต่อไปอีกสามวันสามคืน พ่อค้าหมั่นโถวตัวน้อยถูกเคี่ยวเข็ญอย่างเข้มงวด เรื่องใดที่ไม่เคยรู้ก็ได้รู้ สิ่งใดที่ไม่เคยทำก็ได้ทำ ดินแดนคาวโลกีย์ที่ตนไม่เคยนึกเหยียบย่าง บัดนี้เสี่ยวเม่ยเรียกได้ว่าถูกลากดึงให้ดำดิ่งสู่วิถีนายคณิกาอย่างเต็มตัวซึ่งแน่นอนว่าหลักสูตรที่เสี่ยวเม่ยถูกพร่ำสอนหาใช่ทั้งหมดทั้งมวลที่ต้องรู้ กับคนที่มีเวลาน้อยนิดจะให้ร่ำเรียนทั้งศาสตร์เพื่อให้ความบันเทิง และศิลปะในการเริงรักนั้นเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วเพื่อเตรียมคนไม่รู้ความให้พร้อมสำหรับการลงสนามจริง เนื้อหาบทเรียนส่วนใหญ่ที่เสี่ยวเม่ยต้องฝึกฝนล้วนรวบรัดตัดตอนและมุ่งเป้าไปที่การเผด็จศึกบนเตียงนอนเสียเป็นส่วนใหญ่จนในที่สุด…ก็มาถึงวันตามเทียบจองตัว จันทร์เพ็ญกระจ่างเปล่งประกายเด่นกลางนภา แสงนวลสาดสองลงมา ณ ชั้นบนสุดของหอว่านเหอ ห้องรับรองที่เคยเนืองแน่นในวันนี้กลับว่างเปล่า เหลือไว้เพียงห้องริมสุดที่อยู่ริมระเบียง ซึ่งค่ำคืนนี้ถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อรอรับรองแขกพิเศษท่านหนึ่งเสี่ยวเม่ยถูกกักตัวอยู่
last updateLast Updated : 2025-05-09
Read more
09
  เวลาล่วงเลยเข้าใกล้ยามจื่อ [1] ผู้ที่อยู่ภายในห้องรับรองต่างเร่งรีบตรวจความเรียบร้อยในขั้นสุดท้าย เสี่ยวเม่ยถูกจับนั่งลงที่บริเวณตั้งไม้ตัวยาว มือเล็กประสานเข้าหากันอย่างสำรวมลี่จินมองความนิ่งสงบของเด็กหนุ่มแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ก่อนหน้านี้นางยังคิดเอาไว้อยู่เลยว่า ถ้าเห็นอาเม่ยคนดีของนางมีท่าทางตื่นตระหนกแม้เพียงสักนิด ร้ายดีอย่างไรก็จะยกเลิกแผนการนี้และให้ฟางซินอยู่รับรองแทนแต่ทว่า…พ่อค้าหมั่นโถวตัวน้อยแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความตั้งมั่นแรงกล้า เห็นคนมีใจมาขนาดนี้แล้ว ลี่จินก็ไม่คิดขัดขวางใดอีก นางได้แต่อธิษฐานขอสวรรค์โปรดช่วยประทานพรจนเมื่อเสียงตีกลองบอกเวลา [2] ดังแว่ว แม่เล้าประจำหอคณิกาจึงเดินเข้าไปกำชับบอกคนที่นั่งนิ่งเป็นครั้งสุดท้าย“อาเม่ย...ค่ำคืนแรกอาจไม่ได้มีความสุขดังฝัน...แต่ในเมื่อเลือกแล้ว...ต่อให้ท่านแม่ทัพไม่ถนอมก็ต้องห้ามปร
last updateLast Updated : 2025-05-09
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status