author-banner
ปัฐน์พี
ปัฐน์พี
Author

Novel-novel oleh ปัฐน์พี

ดาบสังหาร (Sword of Annihilation)

ดาบสังหาร (Sword of Annihilation)

ไป๋เยว่หลิง เบื้องหน้า เขาคือคุณชายตระกูลใหญ่ สูง ขาว ผิวเนียน ดวงตาเรียวยาวราวภาพเขียน หล่อ ชุดขาวบริสุทธิ์(แซ่ไป๋(ขาว)) เป็นนักกระบี่อัจฉริยะในรอบร้อยปี แต่...หลังฉาก เขาเป็นลูกเลี้ยงที่ถูกกดขี่ดูถูกทุกอย่าง ถูกซ้อม วางยา ด่า เฆี่ยน และโดนขืนใจแบบวิปริต เขาจึงเป็นคนเก็บกด ไม่พูด แววตาเย็นชา และโดดเดี่ยว ....วันหนึ่งครอบครัวพ่อแม่เลี้ยงเขาถูกฆ่าล้างตระกูล แต่เขากลับหลงรักนักฆ่าคนนั้น....
Baca
Chapter: ออกเดินทาง
......เช้าวันรุ่งขึ้นทั้งคู่ก้าวย่างเดินออกจากประตูเมืองทางตะวันออก พอพ้นมาได้นิดเดียวเยว่หลิงก็หันหน้ามามองเลี่ยหยาง "กว่างโจวไปทางไหน?"เลี่ยหยางเกาหัวแกร่กๆ "ก็ต้องลงใต้ ถ้าจะเดินทางบนบกจากตรงนี้ก็ต้องไปลั่วหยางก่อน แล้วผ่านลงไปเรื่อยๆถึงเมืองฉางซา เลยไปอีกก็ถึงกว่างโจวละ""แต่...ถ้าเจ้าอยากไปทางน้ำเราอาจต้องอ้อมหน่อยไปทางตะวันออกเพื่อขึ้นเรือที่ท่าเรือหางโจวแล้วจึงลงใต้"เยว่หลิงมองหน้าอย่างเฉยชา เลี่ยหยางคิดในใจ "ให้ตรูตัดสินใจแทนอีกแล้วชิมิ""ถ้าเจ้าอยากกินซุปน้ำแกงและอาหารดอกโบตั๋น (ใช้ดอกไม้ในอาหาร) รวมถึงงานเลี้ยงรื่นเริงที่เสิร์ฟอาหารเยอะๆ 10-20 อย่าง ก็ลั่วหยาง""แต่...ถ้าเจ้าอยากกินปลามังกรน้ำใสตุ๋น, เนื้อหมูตงพอ และชาหลงจิ่ง และเจอพวกนักกลอนกวีเยอะๆ ก็ต้องหางโจว"เลี่ยอยางเอามือแตะที่ท้องบางๆของเยว่หลิง "ถามทาเถี่ย(สัตว์ในตำนานยุคโบราณ)ในท้องเจ้าดูว่ามันอยากกินอะไร?"เยว่หลิงมองหน้าอย่างเฉยชาเช่นเดิม เลี่ยหยางถอนหายใจแรง"งั้นก็ไปลั่วหยาง! เฮฮาดี ข้าเกลียดพวกกวีตุ๊งติ้ง" ว่าแล้วเลี่ยหยางก็เดินนำเลย โดยมีเยว่หลิงเดินตามหลังต้อยๆ.....เดินทางมาสักพักทั้งคู่ก็มาถึงที่ราบกว้า
Terakhir Diperbarui: 2025-10-14
Chapter: (ภาคฉางอัน) ค่ำคืนสุดท้ายที่ฉางอัน...
...คืนนี้เรือนพักเงียบสงบ มีเพียงแสงจากตะเกียงน้ำมันส่องวูบวาบไหวบนโต๊ะไม้ แสงนั้นทอดลงบนหน้าอกแน่นๆของเลี่ยหยาง เขาร้อนมากจึงถอดเสื้อออก เปลือยเปล่าท่อนบน กล้ามเนื้อไหล่และเแผ่นอกตึงแน่นมองเห็นได้ชัดเจน มีเหงื่อบางๆไหลซึมตามผิวอก และกล้ามท้องซิกแพ็คแน่น ๆ ของเขาเยว่หลิงอดไม่ได้ที่จะแอบดูรูปร่างอันเซ็กซี่นั้น จนเลี่ยหยางสังเกตุเห็น"อากาศว่าร้อนแล้ว แต่สายนั้นของเจ้าร้อนยิ่งกว่าอีกนะ หลิงหลิง"เลี่ยหยางยิ้มแล้วเดินเข้ามาหาเยว่หลิง ใบหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจประสานกัน ริมฝีปากแทบจะแตะต้องกัน เยว่หลิงถอยไปจนพิงขอบประตู"หลิงหลิงเจ้าก็ถอดบ้างสิ ร้อนซะขนาดนี้"เลี่ยหยางใช้มือขวาแกะเสื้อเยว่หลิงออก จนเสื้อแหวกออกทำให้เห็นหน้าอกแล้วซิกแพ็คลีนๆของเยว่หลิง ผิวที่ขาวเนี่ยนละเอียดนั่นพอต้องแสงตะเกียงแล้วมันช่างสว่างในที่มืดเสียจริง ราวกับปุยนุ่น เลี่ยหยางกลืนน้ำลายดังอึ่ก เขาอดใจไม่ได้ที่จะใชเปลายนิ้วสัมผัสผิวขาวออร่านั้น เขาใช้ปลายนิ้วสัมผัสค่อยๆไล่จากหน้าอกลงมาถึงใต้สะดือนิดหน่อย"ผิวเจ้านี่นุ่มดีจัง มีกลิ่นหอมนิดๆด้วย" เขาเผลอพูดออกไป เยว่หลิงเอามือจับหน้าอกแน่นๆของเลี่ยหยางคืน "อกเจ้าก็ชุ
Terakhir Diperbarui: 2025-10-14
Chapter: (ภาคฉางอัน) คำอธิษฐานแห่งดวงดาว
.....เช้าวันนี้เลี่ยหยางชวนเยว่หลิงไปไหว้ศาลเจ้าเทพแห่งดาวดาวซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของนครฉางอัน ศาลแห่งนี้สูงสง่า ประตูไม้ทาสีดำสนิท สลักลายกลุ่มดาวนับพัน เสมือนจักรวาลทั้งปวงถูกรวมไว้ในบานประตูเดียว ภายในศาลเจ้า เงียบสงัด มีเพียงกลิ่นธูปลอยคลุ้งขึ้นสู่ท้องฟ้า บนเพดานมีการวาดดาวฤกษ์เป็นจุดแสงทองคำ เมื่อจุดตะเกียงน้ำมันยามค่ำคืน จะระยิบระยับราวกับท้องฟ้าแท้จริงผู้คนเชื่อว่า หากมากราบไหว้จะได้รับการปกปักคุ้มครองจากเทพเจ้าแห่งดวงดาว ให้เดินทางปลอดภัย และชะตาชีวิตรุ่งเรืองทั้งสองประนมมือไหว้ แล้วเดินชมรอบ ๆ เลี่ยหยางชวยเยว่หลิงเขียนป้ายคำอธิษฐานแขวนไว้ในศาลเจ้า(ฉีหย่วนไผ๋)เหมือนคนอื่น ๆ ที่เขียนหอยแขวนไว้มากมายหลายพันชิ้น เยว่หลิงไม่ได้สนใจแต่ไม่อยากขัดเลี่ยอยางจึงนำแผ่นไม้หอมมาเขียนคำอธิษฐานโดยเลี่ยหยางไปเชื่อนักพรตในศาลเจ้าจ่ายเงินซื้อหยดหมึกผสมน้ำฟ้า(หมึกพิเศษผสมแร่เงิน) ซึ่งจะทำให้แสงจันทร์สะท้อนเป็นประกายเงิน คล้ายป้ายเรืองแสงยามราตรีได้ เสร็จแล้วทั้งคู่ก็นำไปแขวนไว้ที่เสาศิลาแกะสลักรูปดาว"เราใช้หมึกพิเศษ พอตกกลางคืนเมื่อแสงตะเกียงและแสงดาวตกกระทบ ป้ายพวกเราจะสะท้อนแสงวิบวับราวกับ
Terakhir Diperbarui: 2025-10-14
Chapter: (ภาคฉางอัน) ในคืนจันทร์เพ็ญ
....คืนนั้นแสงจันทร์สาดส่องลงมาบน สวนดอกท้อของโรงแรม ดอกสีชมพูอ่อนร่วงโปรยปรายตามทางเดิน เสียงลมพัดผ่านกิ่งไม้ประสานกับเสียงน้ำในสระเล็กที่ถูกลมเย็นๆพัดจนเกิดเป็นระลอกคลื่นจาง ๆ สร้างบรรยากาศเงียบสงบและโรแมนติกเยว่หลิงและเลี่ยหยาง นั่งบนก้อนหินที่วางอยู่ใต้ต้นท้อ โต๊ะเล็กวางไหสุราเสียน กลิ่นหอมของข้าวหมักผสมสมุนไพรลอยอบอวลในอากาศเลี่ยหยางรินสุราลงจอก ดวงตาเปล่งประกายสะท้อนแสงจันทร์บนกลีบดอกท้อ เขายกจอกขึ้นจิบ รสเข้มขมแรกแต่กลับหวานนุ่มลึกในลำคอ ส่วนเยว่หลิงแก้มเดาเพราะเมาสุราเล็กน้อย เขาเป่าขลุ่ยเสียงช่างไฟเราะแก่ผู้ฟังยิ่งนัก จนเจ้าแมวขาวประจำโรงแรมเข้ามานอนที่ตักเลี่ยหยางนอนฟังเสียงดนตรี“สุรานี้ช่างหอมเยี่ยงกลิ่นบุปผาในยามราตรี” “แต่สุขที่แท้… มิใช่รสสุรา หากคือผู้ร่วมจอกตรงหน้า” เลี่ยหยางมองหน้าเยว่หลิงด้วยรอยยิ้ม เขาเองก็เมานิด ๆ สุภาษิตจีนว่าเหล้าดีหนึ่งจอก ดีกว่าทองพันชั่ง หากดื่มกับมิตรแท้ใต้เงาดอกท้อนั้นทั้งสองดื่มด่ำความสุขเรียบง่ายดั่งปุถุชนสามัญทั่วไปแล้วจู่ๆก็มีกู่เจิง(เครื่องดนตรีประเภทสายของจีน)ดังสมทบขึ้น เสียงขลุ่ยและกู่เจิงนั้นเข้ากันได้อย่างดี ฟังดูยิ่งไพเร
Terakhir Diperbarui: 2025-10-07
Chapter: (ภาคฉางอัน) ท่านต้องเลือก
.....เมืองเริ่มกลับมาเป็นปกติ ร้านค้าหลาย ๆ ร้านกลับมาเปิดดังเดิม เลี่ยหยางและเยว่หลิงหลังกินโจ๊กร้อนในตลาดช่วงเช้าตรู่กันไปแล้ว คุณชายไป๋ยังอยากเดินหาของกินเพิ่มอีก ทำไมมันกินเยอะขนาดนี้ ตัวก็ผอม ๆ ลีน ๆ ท้องเจ้าหมอนี่ต้องมีทาเถี่ย(สัตว์ในตำนานยุคโบราณ)อยู่จริง ๆ นั่นแหละคุณชายไป๋หยุดที่ร้านขายฮู่ปิ่ง(พิซซ่าโบราณ) มันเป็นแป้งอบแบนโรยงาด้านบน เยว่หลิงนอกจากจะซื้อแล้วยังขอเข้าไปดูว่าเขาทำยังไงอีกด้วยพอออกมาเขาก็เดินไปซื้อเจียวจื่อ ซึ่งเป็นซาลาเปาห่อไส้ รสชาติที่กัดลงไปนั้นมีเครื่องเทศจากด่านแดน(เอเชียกลาง)อยู่ด้วย มันดูแปลกใหม่กว่าซาลาเปาที่อื่นจริง ๆ สมแล้วที่เป็นเมืองแห่งเส้นทางสายไหมสำคัญที่มีหลากหลายชาติพันธุ์อยู่ที่นี่ผลไม้ก็เช่นกัน ลูกอินทผาลัมแห้ง หรือแม้แต่อแปริคอตเชื่อมก็มี แต่ราคาแพงพอสมควร ซึ่งไม่เป็นปัญหากับคุณชายกระเป๋าหนักสกุลไป๋เลยแม้แต่น้อย เขากินทุกอย่างที่เขาอยากกิน ทั้งคู่เดินตลาดกันจนถึงเกือบเที่ยง "กลับที่พักกันเถอะหลิงหลิง เจ้าเดินกินมานานแล้วนะ ข้าเดินจนเมื่อยแล้ว"แล้วเลี่ยหยางก็แอบเห็นใครสักคนกำลังวิ่งหลบเข้าไปในมุมตึก เขาคือนักฆ่ากลุ่มเจ๊แพะตุ๋นนั่นเองเล
Terakhir Diperbarui: 2025-10-07
Chapter: (ภาคฉางอัน) เพื่อบะหมี่ซานซี
.....ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในงานเทศกาลโคมนั้นทำให้ทั้งเมืองฉางอันวุ่นวายกันไปเป็นสัปดาห์ ร้านค้าที่เคยคึกคักก็ไม่กล้าเปิด ทหารก็เดินตรวจตรากันหนาแน่น เลี่ยหยางนั่งเซ็ง ๆ อยู่ที่หน้าต่างในโรงแรมมองดูถนนด้านล่าง"เซ็ง เซ็ง เซ็งโว้ย!"แล้วเยว่หลิงก็เดินเข้ามาใกล้ เขาจับชายเสื้อเลี่ยหยางอยากมีเลศนัย"ข้า....อยากกินบะหมี่ซานซี..." เยว่หลิงกลืนน้ำลายยลงคอดังอึก เนื่องจากเขาเป็นคนผอมสูงอยู่แล้ว เห็นลูกกระเดือกชัดเจน เวลาเขากลืนน้ำลายยิ่งทำให้เห็นการเคลื่อนไหวที่คอนั้นชัดเจนเลี่ยหยางถอนหายใจ "เห้ออออ หลิงหลิง เจ้าก็ดูสิ ร้านอร่อยตรงโน้น ๆ ๆ ๆ มันปิดหมดเลยอ่ะ ข้าก็จนปัญญาจะพาเจ้าไปกิน รออีกหน่อยได้ป่าว?"เลี่ยหยางรีบเตือนเยวหลิงก่อนเลยว่า "แล้วเจ้าอย่าโดดขึ้นไปยอดหอคอยอีกนะ ทหารเต็มไปหมดแบบนี้ เดี๋ยวจะกลายเป็นไปกินข้าวในคุกเอาง่าย ๆ"เยว่หลิงทำปากเบ้ใส่ แววตาเคืองอย่างชัดเจน ทำเอาเลี่ยหยางยิ่งถอนหายใจใหญ่"ท่านลุงช่วงนี้ก็ต้องอยู่นิ่ง ๆ ไปก่อนยังไปติดต่อท่านไม่ได้..."เยว่หลิงทำสายตาน้อยใจ เลี่ยหยางมองดวงตาคู่นั้นพรางนึกในใจ นี่ข้าไม่ต่างจากมารดาเจ้าหลิงหลิงเลย ต้องเอาอกเอาใจดูแลทุกอย่าง ยังก
Terakhir Diperbarui: 2025-10-07
เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)

เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)

หลิน = ป่า สื่อถึงความเล็กน้อย ธรรมดา เหมือนหญ้าป่า เซียน = ปัญญา/คุณธรรม "หลินเซียน" จึงเป็นเสียดสีชะตา เพราะเกิดมาพรสวรรค์ต่ำสุด แต่ชื่อกลับหมายถึง “ผู้มีปัญญา” เหมือนคำประชดชะตา เด็กขยะ แต่ฝันสูงอยากจะเป็นเซียน...
Baca
Chapter: สัตว์เลี้ยงอสูรตัวแรก
....กลางป่าลึกที่เงียบสงัด เพียงเสียงลมพัดผ่านยอดไม้ก็เหมือนกรีดทิ่มใจ ณ ต้นไม้เซียนที่พ่อปลูก ขณะที่หลินเซียนกำลังทดลองนำเปลือกไม้และใบมาผสมปรุงยาอยู่นั้น หลินเซียนก็ขมวดคิ้วแน่น เพราะเขารู้สึกถึงสายตาลึกลับที่จ้องมองอยู่ตลอด เหมือนเส้นลมหายใจถูกกดทับจนแทบแตกสลาย “ใคร?!”เขาเรียกปราณกระบี่สายนทีวายุขึ้นมา 1 เล่มลอยข้างตัวเขาทันที"ออกมา! ถ้าไม่ออกอย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ"พุ่มไม้ข้างหน้าขยับวูบ ราวกับมีเงาดำซ่อนตัวอยู่ หลินเซียนยกมือแตะด้ามดาบ พลังปราณพลุ่งพล่านพร้อมปะทะในพริบตา บรรยากาศหนักหน่วงเข้มข้นจนแทบกลายเป็นเสียงดังก้องในหูแต่อีกวินาที… “ซวบ!”สิ่งที่โผล่ออกมาจากพุ่มไม้กลับเป็นเจ้าลูกหมีแพนด้าตัวน้อยมันมีขนสีขาวดำที่ควรจะนุ่มนวล แต่ตอนนี้กลับมอมแมมเลอะโคลนไปทั่ว ดวงตากลมโตสีดำสนิทช่างฉายประกายใสซื่อไร้เดียงสา มันยืนสองขาโงนเงน ก่อนจะทิ้งตัวนั่งตุ้บลงไปอย่างงุ่มง่าม กอดท่อนไผ่หักครึ่งท่อนแนบอกไว้แน่นเหมือนสมบัติล้ำค่าเสียง "กรอบๆ" เล็ดลอดออกมาจากฟันเล็กๆ ที่กำลังแทะไผ่ แต่พอเงยหน้าขึ้นมามอง หลินเซียนก็แทบสะดุ้งกับสายตานั้น… มันจ้องด้วยแววตากลมใสไม่กะพริบ ราวกับกำลังสื่อสารว่า
Terakhir Diperbarui: 2025-10-14
Chapter: สิ่งที่ข้ามีเหนือกว่า
....ภายในป่าลึกหลังบ้าน แสงจันทร์สาดส่องลอดกิ่งไม้ลงมาเป็นเส้นสาย ต้นไม้เซียนที่พ่อเคยปลูกตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ใบของมันมีประกายแสงระยิบราวหยดน้ำแข็ง ส่วนผลไม้สีม่วงกลมโตกลับแผ่วพลังปราณออกมาจางๆ จนบรรยากาศรอบตัวอบอวลไปด้วยพลังวิเศษหลินเซียนยืนนิ่ง สายตาจับจ้องต้นไม้นั้น แววตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและหนักแน่น“พ่อ…ท่านปลูกสิ่งนี้ไว้เพื่อข้า ข้าจะใช้มันไม่ให้สูญเปล่า เพื่อปกป้องท่านแม่และตัวข้า”เขารู้ตัวเองดี รากวิญญาณของตนต่ำต้อยกว่าคนทั่วไปมาก หากจะเดินตามตำราอย่างเดียว ย่อมไม่ทันใคร ไม่พ้นจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลังตลอดไป ดังนั้นเขาต้องสร้างเส้นทางที่ไม่เหมือนใครมือเรียวของเขาเอื้อมไปเด็ดผลไม้ลูกหนึ่งมากัดช้าๆ น้ำหวานหอมไหลซึมลงลำคอ พลังปราณเย็นไหลเข้าสู่เส้นลมปราณทันที แต่หลินเซียนไม่รีบร้อน เขานั่งขัดสมาธิ ปล่อยให้พลังนั้นซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างระมัดระวัง“ตำราเขียนไว้แค่ผลอวิ๋นฮวานี้(ผลไม้แห่งเมฆาและดวงดาว)เพียงอย่างเดียว แม้จะทรงค่า…แต่เหตุใดตำราจึงมิกล่าวถึงราก กิ่ง ก้าน หรือแม้แต่ใบ? ยังไงเสียมันก็คือต้นไม้ที่มีพลังเซียนทุกส่วน”เขาเริ่มขบคิด"ไก่ 2 ตัว เป็ด 3 ตัวออกไข่ได้ 5 ฟอง
Terakhir Diperbarui: 2025-10-14
Chapter: ความดีของท่านพ่อ
....หลินเซียนเปลี่ยนจากชุดผ้าไหมที่เคยสวมใส่เป็นชุดชาวบ้านสีเทาเก่า ๆ ผ้าขาดตรงชายเสื้อเล็กน้อย พอให้ดูไม่ต่างจากชาวบ้านธรรมดาที่เดินไปมาในตลาด เขาดึงหมวกงอบลงต่ำเพื่อบดบังใบหน้า หัวใจยังคงเต้นไม่เป็นจังหวะยามก้าวผ่านผู้คนเขายังคงครุ่นคิดไม่หยุดถึงความเป็นไปได้สำนักอวิ๋นเจิ้งอาจส่งคนออกมาตามล่าเขาอยู่ทุกย่างก้าว หรือบางทีหลิวเซี่ยง ไอ้อ้วนขี้อิจฉานั่น อาจลงมือเอง ส่งลูกน้องมือดีเฝ้าดักตามทางสายหลักหลินเซียนไม่กลัวตาย แต่สิ่งที่ทำให้เขาหนักใจคือท่านแม่ หากเขาพลาดท่า ศัตรูเหล่านั้นอาจลามไปถึงผู้ให้กำเนิด ความคิดนั้นทำให้ทุกก้าวที่เหยียบพื้นหินเย็นยะเยือกหนักอึ้งยิ่งกว่าภูเขามือเขาเผลอกำแน่นที่ชายเสื้อ หูคอยเงี่ยฟังทุกเสียงรอบด้าน เสียงฝีเท้าคนเดิน เสียงลมพัดกลีบดอกไม้ เสียงใด ๆ ก็อาจแฝงมีดสั้นจากเงามืดได้ทั้งสิ้นสายตาของเขากวาดมองรอบตลาดครั้งแล้วครั้งเล่า แม้เพียงร่างคนเมาสะดุดล้ม หลินเซียนก็สะดุ้งนึกว่าเป็นศัตรูมาโจมตี ความกังวลกัดกินใจ แต่สิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวเขาไว้คือภาพรอยยิ้มอ่อนโยนของมารดาในความทรงจำเขาต้องอยู่รอดให้ได้… ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อปกป้องนางจากเล่ห์กลของคนใจด
Terakhir Diperbarui: 2025-10-14
Chapter: ไม่เป็นไรลูก
....แสงแรกของรุ่งอรุณลอดผ่านปากถ้ำบาง ๆ กระทบหยดน้ำเกาะตามผนังหินหลินเซียนนั่งขัดสมาธิอยู่กลางถ้ำ ความมืดรอบตัวไม่อาจกลบความมุ่งมั่นในดวงตาเขาข้อมือและร่างกายยังมีรอยช้ำจากการเฆี่ยนในคุก แต่เขากลับไม่รู้สึกเจ็บอีกต่อไปทุกความเจ็บปวดคือเชื้อไฟให้หัวใจมุ่งมั่นต่อสู้ในมือ เขารวบรวมปราณวายุให้กลายเป็นคมกระบี่จาง ๆ ที่แทบมองไม่เห็นจากนั้นปราณหมื่นสายนทีเริ่มไหลเวียนในกายละอองน้ำมากมายรวมตัวกันเป็นก้อนน้ำลอยอยู่ระหว่างฝ่ามือทั้งสองของเขาน้ำหยดเล็ก ๆ จากเพดานถ้ำสั่นสะท้านตามจังหวะปราณที่เขาเรียกใช้หลินเซียนค่อย ๆ ผสานสองวิชาเข้าด้วยกันครั้งแรกที่ลอง รวมปราณทั้งสองเข้าด้วยกัน เขารู้สึกพลังปะทะกันรุนแรงเสียงสะท้อนดังก้องในถ้ำ คล้ายกับธรรมชาติทดสอบความเข้มแข็งของเขาเขาสูดลมหายใจลึก ปรับจังหวะลมหายใจให้สอดคล้องกับการไหลของน้ำปราณหมื่นสายนทีพุ่งออกมารอบตัว เป็นเกราะบาง ๆ รอบคมกระบี่วายุคมกระบี่แปรเปลี่ยนเป็นเส้นปราณใสคล้ายลมพายุในละอองน้ำหลินเซียนฟันอากาศ ฝึกซ้ำหลายครั้ง แต่ครั้งแรกยังไม่แม่นยำเสียงลมปราณและน้ำกระทบกันเป็นจังหวะราวกับดนตรีแห่งพลังเขาไม่ยอมแพ้ ล้มแล้วลุกใหม่ ลองปรั
Terakhir Diperbarui: 2025-10-07
Chapter: แหกคุกด้วยปัญญา
....ท่ามกลางความมืดชื้นและกลิ่นสนิมเลือดในคุกใต้ดิน แสงจันทร์ส่องลอดลงมา ภาพรอยยิ้มของมารดาก็ผุดขึ้นมาในใจหลินเซียนอย่างชัดเจนเขาจำได้ถึงอ้อมแขนอบอุ่นและเสียงปลอบโยนที่เคยคอยประคองเขายามบาดเจ็บและท้อแท้อีกด้านหนึ่ง ความทรงจำของย่าผู้เฒ่าที่คอยหุงหาอาหารและเล่านิทานยามค่ำคืน ทำให้หัวใจเขาอ่อนโยนแต่ก็สั่นไหวความคิดเป็นห่วงพวกท่าน กลัวว่ามารดาและย่าอาจถูกผู้คนภายนอกกดขี่หรือได้รับความอัปยศเพราะเขาทำให้ดวงตาที่เคยสิ้นหวังกลับลุกโชนขึ้นหลินเซียนกัดฟันแน่น ราวกับจะสลักคำสัตย์ลงในเลือดเนื้อของตนเอง“ต่อให้คุกนรกนี้กักขังข้าไว้ ข้าก็ต้องรอดออกไป... เพื่อปกป้องแม่และย่าของข้าให้ได้!”เขาเริ่มมองรอบๆตัวอย่าเพ่งพินิจ คุกใต้ดินหนาแน่นราวกับโคลนเหนียวกลิ่นอับชื้นผสมกับกลิ่นเลือดและสนิมเหล็กคละคลุ้งหลินเซียนนั่งพิงกำแพงหินครุ่นคิด ข้อมือและข้อเท้าถูกโซ่เหล็กหนาล่ามไว้แน่น“ในคุกนี้มีอะไร? แล้วตัวข้าตอนนี้มีอะไร? ข้าต้องเก็บข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อใช้สิ่งที่มีทุกอย่างพาข้าออกไปจากที่นี่!”เขาหลับตา สูดหายใจเข้า แม้เจ็บปวดก็ยังบังคับจิตใจให้นิ่งทบทวนวิชาที่เคยร่ำเรียนต่างๆกระบี่วายุปราณ = มันเปล
Terakhir Diperbarui: 2025-10-07
Chapter: เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า
....ภายใน หอพิพากษาสำนัก แสงไฟจากคบเพลิงสลัวสะท้อนเงาบนผนังหิน ทำให้บรรยากาศขึงขังและเย็นเยียบ ราวกับทุกลมหายใจถูกพันธนาการด้วยแรงกดดันที่มองไม่เห็น เมื่อบานประตูหินหนักค่อยๆ เปิดออก เสียงก้าวเท้าองครักษ์เกราะดำสิบคนกระแทกพื้นดังก้อง พวกมันกดบ่าหลินเซียนแน่นจนถูกบังคับให้คุกเข่าลงบนลานพิพากษาอันกว้างใหญ่เบื้องสูงสุดของแท่นหินดำประดับหยก เจ้าสำนักชุดคลุมสีครามเข้มประทับนั่ง ดวงตาเรียบเฉย แต่แฝงแรงกดข่มที่ทำให้แม้กระทั่งอากาศรอบตัวสั่นสะท้านสองข้างล่างลงมา อาจารย์เฉิงเสิน และ อาจารย์จื่อหยง นั่งขนาบซ้ายขวาอาจารย์เฉิงเสินมีใบหน้าคมคายแฝงรอยยิ้มเย้ยหยัน ดวงตาเหมือนมองทุกคนต่ำต้อยกว่าตนส่วนอาจารย์จื่อหยงนั้นสายตาเย็นชา ดั่งเฝ้าสังเกตโดยไร้อารมณ์ด้านข้างอีกชั้นคือ ผู้อาวุโสทั้งสาม ผู้ชรานั่งเรียงราย เคราขาวสะบัดตามลมปราณที่พัดไหว บรรยากาศเคร่งขรึมเต็มไปด้วยอำนาจเก่าแก่หลินเซียนถูกองครักษ์เกราะดำกดคุกเข่าลงตรงกลางลานหินเย็นเฉียบ เลือดที่มุมปากยังไม่แห้งสนิท หัวใจเต้นแรง แต่สายตายังคงแข็งกร้าวไม่ยอมก้มหัวให้ใครหลินเซียนเงยหน้าขึ้น ดวงตาอิดโรยแต่ยังพอมีประกายความหวังอยู่เล็กน้อย... เมื
Terakhir Diperbarui: 2025-10-07
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status