author-banner
ปัฐน์พี
ปัฐน์พี
Author

Novels by ปัฐน์พี

เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)

เดินวิถีเซียน (Walking the Immortal Path)

หลิน = ป่า สื่อถึงความเล็กน้อย ธรรมดา เหมือนหญ้าป่า เซียน = ปัญญา/คุณธรรม "หลินเซียน" จึงเป็นเสียดสีชะตา เพราะเกิดมาพรสวรรค์ต่ำสุด แต่ชื่อกลับหมายถึง “ผู้มีปัญญา” เหมือนคำประชดชะตา เด็กขยะ แต่ฝันสูงอยากจะเป็นเซียน...
Read
Chapter: ตามความสามารถ
(3 เดือนผ่านไป).....บัดนี้ศิษย์ทั้ง 6 คนบรรลุระดับรวบรวมปราณขั้นต้นได้หมดแล้ว หลินเซียนเริ่มให้แต่ละคนฝึกฝนต่างกัน - หลี่เทียนอวิ๋น แม้เขาจะเป็นคนก้าวร้าวแต่เขาเป็นลูกขุนนางจึงมีการศึกษาดีกว่าทุกคน หลินเซียนเริ่มสอนทักษะพื้นฐานการสร้าวงค่ายกลให้แก่เขา- เซียวฉิง นางฝึกฝนวิชากระบี่มาจากแม่แล้วหลินเซียนจึงสอนการบรรจุพลังปราณลงในกระบี่ให้- หวังต้า หลินเซียนสอนปราณธาตุไฟให้เขา หวังต้าชอบมากเพราะเขาคิดว่าอนาคตย่อมมีประโยชน์กับงานร้านตีเหล็กของเขาได้- จางซาน หลินเซียนสอนวิชาการปรุงยา และความรู้เรื่องสมุนไพรเซียนให้เขา เผื่อวันหน้าเขาจะหลอมยาไว้บำรุงร่างกายตัวเอง- หานซิ่วเรียนรู้พลังปราณธาตุน้ำตาหลินเซียน- หลิงเออร์แม้จะเป็นเด็กแต่รากวิญญาณเซียนเธอดีพิเศษ หลินเซียนจึงให้เธอฝึกปราณธาตุน้ำ, ไม้ และดิน ซึ่งปราณธาตุไม้นั้นหลินเซียนให้เสี่ยวหมิงออกมาช่วยด้วย เธอจึงทั้งสนุกที่ได้เล่นหมีแพนด้าและสัมผัสปราณธาตุไม้การสอนศิษย์ทุกคนหลายเดือนนี้หลินเซียนก็เหมือนได้ทบทวนวิชาต่างๆที่ตัวเองเคยร่ำเรียนมาให้ความรู้แน่นขึ้น เก็บตกเศษชิ้นส่วนเล็กๆในแต่ละวิชามาเติมเต็มปัญญาตนเอง บางครั้งกลางดึกเขาเองก็ไป
Last Updated: 2025-12-02
Chapter: สัมผัสปราณ
....ข่าวการไล่ตะเพิดอันธพาลทำให้ไม่มีีอาจารย์สถาบันติวอื่นกล้ามาคบหากับหลินเซียน แต่ก็ทำให้มีชื่อเสียงในกลุ่มเด็กๆเยาวชนที่อยากผ่านการทดสอบเป็นเซียนบางคน ทำให้สถาบันของหลินเซียนคึกคักขึ้น ห้องเรียนเล็กๆบัดนี้มีคนหนุ่มสาวทั้งชายหญิงรวมถึงเด็กน้อยครั้งก่อนมาเรียนด้วย 6 คนแล้วคนแรก คือเด็กหญิงตัวน้อยที่มาช่วยหลินเซียนครั้งที่แล้ว เธอชื่อหลิงเออร์ เป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่อยู่กับคุณปู่ที่เปิดร้านขายน้ำหมึกและพู่กันข้างๆบ้านหลินเซียนนี่เอง เนื่องจากหลินเซียนบอกจะสอนให้ฟรี ปู่เธอจึงอนุญาตให้มาเรียนด้วยคนที่ 2 ชื่อหลี่อวิ๋นเทียน อายุ 14-15 ปีแล้ว เขาเป็นคุณชายสกุลขุนนางปลายแถว เนื่องด้วยเป็นเด็กมั่นใจตัวเองสูงพ่อแม่สอนไม่ฟัง จึงเอามาฝากให้หลินเซียนช่วยอบรมให้คนที่ 3 ชื่อหวังต้า เป็นลูกชายคนโตของร้านช่างตีเหล็กในตลาดคนที่ 4 ชื่อหานซิ่ว เป็นลูกชาวนายากจนจากชนบท แต่เป็นคนเรียบร้อยถ่อมตน หลินเซียนให้เขาพักที่สถาบัน โดยให้ทำงานทำความสะอาดเรือนแลกกับการให้ที่พักคนที่ 5 ชื่อเซียวฉิง เธอเป็นลูกสาวจอมยุทธหญิง ชำนาญวิชาดาบ แต่เมื่อตรวจพบว่ามีรากวิญญาณเซียน แม่เธอจึงพาเข้าเมืองหลวง และได้ยินชื่อเสียงหล
Last Updated: 2025-12-02
Chapter: อาจารย์หลิน
....แคว้นจูตั้งอยู่ทางเหนือสุดของทวีป ถูกขนาบด้วยเทือกเขาหิมะที่สูงเสียดฟ้าปกคลุมด้วยหิมะตลอดปี และในหุบเขามีทะเลสาบน้ำแข็งนิรันดร์ที่เล่ากันว่าซ่อนสมบัติเซียนและกระบี่โบราณไว้อยู่ด้วยส่วนพื้นที่ราบเป็นทุ่งน้ำแข็งและทะเลสาบที่ถูกแช่แข็งเกือบทั้งปี แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนสั้นๆจะมีทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่มให้สัตว์เลี้ยงและกวางป่าออกหากินมีลมเหนือหนาวเย็นพัดลงมาที่เมืองทั้งปี ดวงอาทิตย์ส่องแสงน้อยจึงเป็นแคว้นที่กลางวันสั้นส่วนกลางคืนยาว ทำให้ผู้คนที่นี่แข็งแกร่งและอดทนณ เมืองหลวงขอแคว้นชื่อไป๋ซวง(น้ำค้างขาว) มีกำแพงเมืองที่ถูกสร้างด้วยหินแข็งแรงและไม้สนดำ ทนทานต่อพายุหิมะผู้คนแคว้นนี้มีผิวซีดขาว แก้มแดงจากอากาศหนาว มักสวมเสื้อคลุมหนังสัตว์ซ้อนหลายชั้นอาชีพหลักคือ ล่าสัตว์, ทำหนังสัตว์, ค้าขนสัตว์, และหลอมเหล็กจากแร่ในภูเขา จึงมีตลาดแลกเปลี่ยนที่คึกคัก แม้จะเป็นแคว้นห่างไกลที่นี่ยังเป็นแคว้นที่ผู้คนมีรากวิญญาณเซียนหลายคน นั่นจึงทำให้มีสำนักเซียนมากมายในแคว้น ซึ่งการทดสอบเข้าเป็นศิษยืแต่ละสำนักก็มีทั้งการสอบมาตรฐานที่ราชสำนักกำหนด และการทดสอบเฉพาะแต่ละสำนักด้วยและด้วยทางการสนับสนุนอย่างด
Last Updated: 2025-12-02
Chapter: สิบปีสุดท้ายนี้ลูกจะอยู่กับแม่ไม่ไปไหน
A : ไง?หลินเซียน : ท่านเป็นใคร ทำไมข้าไม่เห็นหน้าท่าน? แล้วที่นี่ที่ไหน?B : สำคัญด้วยรึ?หลินเซียน : พวกท่านเป็นใคร? ข้าอยู่ที่ไหน?B : เจ้าหนู ที่นี่มันเป็นสถานที่ๆอธิบายยากอยู่นะ เจ้าอย่าสนใจเลยA : เจ้าช่วยตอบคำถามพวกเราสัก 2 ข้อได้ไหม? แล้วเราจะปล่อยเจ้าไปหลินเซียน : ท่านจะถามอะไรขอรับ?A : ข้าจะถามว่า.......B : ส่วนข้าอยากถามเจ้าว่า.....A+B : แล้ววันหลังพวกเราจะมาขอคำตอบหลินเซียนลืมตาเบิกโพลง เขามองรอบๆตัว ตอนนี้เขานอนอยู่บนเตียง มีผ้าห่ม และผ้าพันแผลพันกายนิดหน่อย"เจ้าฟื้นแล้วรึ?" ไม่ใช่ใครที่ไหน คือนางปีศาจจิ้งจอกเก้าหางนั่นเอง นางนั่งเฝ้าเขาอยู่ไม่ไปไหน แถมมีเสี่ยวหมิงแพนด้าตัวน้อยอยู่ข้าง ๆ พอมันเห็นว่าหลินเซียนฟื้นแล้วมันดีใจรีบเดินเข้าไปออดอ้อนทันที"ขอบใจเจ้ามากที่มาช่วยพวกเรา" หลินเซียนเอื้อมไปจับมือนางจิ้งจอก ทำเอานางเขินแก้มแดง"ม....ไม่มีอะไรนี่ การตอบแทนบุญคุณเป็นเรื่องธรรมดา" หางนางโผล่ออกและบิดไปมา หลินเซียนยิ้มใความเขินอายของสาวแก่อายุตั้งพันปี"อาจารย์ท่านตื่นแล้ว!" องค์ชายดีใจพูดเสียงดัง อาการบาดเจ็บเขาดีขึ้นมากเพราะน้ำวิเศษในน้ำเต้าที่หลินเซียนให้เขาดื่ม
Last Updated: 2025-11-29
Chapter: ดั่งคำสัญญา....
.....หลินเซียนใช้ม่านวารีพิทักษ์ป้องกันครบไปแล้ว 3 ครั้ง ดังนั้นลูกไฟสีน้ำเงินและสีเขียวที่ลอยพุ่งมานี้เขาไม่สามารถใช้วิธีเดิมป้องกันได้อีกแล้วหลินเซียนรีบชูแหวนธาราสวรรค์ขึ้นมา เขาเสี่ยงดวงดูว่าแหวนธาราสวรรค์จะสามารถดูดพลังไฟประหลาดทั้งสองนี้เก็บไว้ได้ไหม ปรากฏว่าแหวนธาราสวรรค์ดูไฟทั้งสองสีเข้าไปได้ แต่หากถอดจิตเข้าไปดูด้านในไฟนั้นลุกท่วมไปทั่วทำเอาปราณน้ำที่สะสมไว้ระเหยปั่นป่วนไปหมดหลินเซียนคิดว่าคงไม่อาจเก็บไว้ประหลาดแบบนี้ได้อีกแล้ว ฝ่ายเซียนหยวนอิงประหลาดใจไม่น้อย ไม่คิดว่าหลินเซียนจะมีแหวนธาราสวรรค์ของหายาก เขารู้สึกเจ็บแผลที่ถูกดาบวารีแทงเมื่อสักครู่"โทษที่เจ้าทำให้ข้าเจ็บ งั้นข้าจะเผาเจ้าด้วยสุดยอดไฟของข้า!"เขาปล่อยพลังออกมามากมายจะเศษซากอาคารถล่ม แผ่นดินสั่นไหว เขาใช้สิงมือกุมกันจนมีลูกไฟสีทองแดงโผล่ขึ้นมามันไม่ใ่ชไฟธรรมดา เพียงคนทั่วไปมองก็ตาบอดทันที พวกเซียนระดับต่ำก็มองแล้วจะรู้สึกเหมือนถูกโดนแผดเผาทั้งร่างส่วนหลินเซียนมั้นมองได้แค่แผบเดียวแล้วต้องรีบเอามือมาปิดบัง "นี่คือไฟจากแกนพิภพ!"เซียนชุดแดงหยิบสมบัติเซียนออกมาขว้างไปที่หลินเซียนกลายเป็นกรงแสงที่ไม่มีทางหนีห
Last Updated: 2025-11-29
Chapter: ไฟ...ปะทะ...น้ำ
....กลางสมรภูมิ แผ่นฟ้าสีเลือดฉาบด้วยแสงอัคคีแดงฉาน บัดนี้กองทัพขององค์ชายจ้าวหานเฟิง ที่มีทั้งทหารกล้าและเหล่าเซียนแคว้นจ้าวกำลังถลำลึกสู่ขอบเหวแห่งความพ่ายแพ้เสียงโครมครามของอาวุธชนกับอาวุธปะปนกับเสียงโหยหวน สายลมพัดกลิ่นคาวเลือดโชยอวลจนแทบหายใจไม่ออก ร่างทหารผู้กล้าและเซียนถูกเปลวเพลิงนรกกลืนกิน ร่างพวกเขากรีดร้องเพียงครู่ก่อนจะแหลกสลายกลายเป็นเถ้าธุลีเหนือสนามรบ บนฟากฟ้าสีแดงฉานปรากฏเงาร่าง เซียนหยวนอิงฝ่ายศัตรูเพียงหนึ่งเดียว ชายชราผมขาวหนวดขาวในชุดสีแดง นัยน์ตาเขาราวกับแผดเผาด้วยเพลิงโลกันต์ ปราณของเขาเป็น "ไฟนรก" ที่ไม่ดับสิ้นแม้เมื่อดวงวิญญาณหลุดร่าง เปลวไฟนี้กัดกร่อนทั้งเนื้อหนังและวิญญาณ ผู้ที่ถูกเผาแม้ตายแล้วก็ยังได้ยินเสียงกรีดร้องของตนเองก้องสะท้อนอยู่ในห้วงว่างเหล่าเซียนแคว้นจ้าวพยายามค้ำยันค่ายกลถึงที่สุด เพื่อป้องกันไฟนรก แต่เส้นลายยันต์บนฟ้าและพื้นดินแตกร้าวอย่างน่าสยดสยอง ราวกับมังกรที่ใกล้ขาดลมหายใจ เซียนหนุ่มสาวและชายชรามากมายผู้รับหน้าที่เป็นเสาหลักของค่ายกล เลือดไหลจากเจ็ดทวาร ร่างสั่นสะท้านจนแทบจะยืนไม่อยู่ หากค่ายกลแตกพังเมื่อใด กองทัพแคว้นจ้าวทั้งหมดจะถูกไฟ
Last Updated: 2025-11-29
ดาบสังหาร (Sword of Annihilation)

ดาบสังหาร (Sword of Annihilation)

ไป๋เยว่หลิง เบื้องหน้า เขาคือคุณชายตระกูลใหญ่ สูง ขาว ผิวเนียน ดวงตาเรียวยาวราวภาพเขียน หล่อ ชุดขาวบริสุทธิ์(แซ่ไป๋(ขาว)) เป็นนักกระบี่อัจฉริยะในรอบร้อยปี แต่...หลังฉาก เขาเป็นลูกเลี้ยงที่ถูกกดขี่ดูถูกทุกอย่าง ถูกซ้อม วางยา ด่า เฆี่ยน และโดนขืนใจแบบวิปริต เขาจึงเป็นคนเก็บกด ไม่พูด แววตาเย็นชา และโดดเดี่ยว ....วันหนึ่งครอบครัวพ่อแม่เลี้ยงเขาถูกฆ่าล้างตระกูล แต่เขากลับหลงรักนักฆ่าคนนั้น....
Read
Chapter: งานประลองยุทธ
.....หุบเขาเทียนกวง อยู่ท่ามกลางภูเขาสูงชัน สองฝั่งเขาสูงเสียดฟ้า ดุจกำแพงธรรมชาติ กั้นลมและเสียงจากโลกภายนอกกลางหุบเขาเป็น ลานประลองวงกลมขนาดใหญ่ พื้นหินสีขาวอมเทา แกะสลักเป็นลวดลาย มังกรพยัคฆ์คู่ สัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งและความสมดุลน้ำใสจากลำธารเล็ก ๆ ไหลผ่านลานด้านข้าง สะท้อนแสงแดดเป็นประกายระยับราวกับดวงดาวด้านเหนือของลาน มีแท่นหินสูงชื่อแท่นประจักษ์ฟ้า เป็นที่ประทับของปรมาจารย์ยุทธภพที่ตัดสินการประลองมุมหนึ่งของแท่นมีต้นพลัมขาวเก่าแก่ ทิ้งดอกสีขาวราวปุยเมฆ เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และความยุติธรรมวันนี้เป็นงานประลองทุก 10 ปีที่เหล่าจอมยุทธมากมายเดินทางมารวมตัวกันที่นี่"หลิงหลิง เจ้าดูนั่นสิ สำนักดังๆทั้งนั้นเลย" เลี่ยหยางตื่นเต้นมาก เขาไม่เคยเจอจอมยุทธมากมายขนาดนี้ในคราเดียวสักที แต่เยว่หลิงนั้นกลับยืนนิ่งด้วยใบหน้าเย็นชา"ดูนั่นสิ ไม่ผิดแน่ คุณชายชุดขาวหน้าตาหล่อราวเทพเซียนแบบนี้ เขาคือราชบุตรเขยไป๋เยว่หลิง" "เขาได้ยินข่าวลือว่าวิชากระบี่จันทรานั่นฟันตำหนักขาดครึ่งได้เชียวนะ!" เริ่มมีเสียงซุบซิบและหลายสายตามองมาทางคุณชายชุดขาวเลี่ยหยางงอน ไม่มีใครพูดถึงเขาเลย เขารีบ
Last Updated: 2025-12-02
Chapter: หญิงพิการในป่า
....หิมะโปรยปรายลงมาอย่างช้าๆ เยว่หลิงและเลี่ยหยางค่อยๆเดินอย่างระมัดระวัง น้ำค้างแข็งเกาะบนกิ่งไม้เลี่ยหยางหันมามองเขา และยิ้มแบบเจื่อนๆ“หลิงหลิง ข้าว่าพวกเราหลงทางแล้วนะ?”เยว่หลิงทำหน้าตาเย็นชาและไม่พูด เลี่ยหยางเกาหัวแกร่กๆทั้งคู่เดินไปพลางหยอกล้อกัน แต่หมอกหนาและหิมะทำให้ ทิศทางเริ่มสับสนขึ้นเรื่อยๆทันใดนั้นก็เสียงกรอบแกรบจากพุ่มไม้ด้านข้าง ทำให้เลี่ยหยางหันไปและชักดาบขึ้นทันทีและแล้ว… หมีใหญ่ตัวหนึ่งก็ออกมาจากพุ่มไม้ ขนสีขาวอมเทาของมันดูคล้ายหมอกเคลื่อนไหว แววตาดูดุร้าย ไม่ได้มาอย่างเป็นมิตรเยว่หลิงรีบจับแขนเลี่ยหยางและวิ่ง“หนี!”ทั้งคู่รีบวิ่งออกจากตรงนั้น โดยมีเจ้าหมีตัวใหญ่วิ่งตามหลังไม่ลดละ เสียงกรงเล็บขูดพื้นดังเป็นระยะๆเลี่ยหยางหันหน้ามามองเยว่หลิง แล้วยักไหล่อย่างหมั่นไส้“หลิงหลิง เจ้าวิ่งไปทางไหนเนี่ย?”“หนีให้ได้ก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน” เยว่หลิงตอบ ก่อนที่ทั้งสองจะพุ่งเข้าป่าลึกกว่าเดิมแล้วทีนี้ก็ได้หลงกันจริงๆ ป่าไม้ทึบมากและอากาศเย็น แม้จะหลุดจากการตามล่าของหมียักษ์ได้ แต่ทั้งสองคนเริ่มมีอาการหนาวสั่นเพราะเสื้อผ้าที่สวมใส่ไม่ได้กันหนาวมากนัก ทั้งคู่เดินกันไ
Last Updated: 2025-12-02
Chapter: เสื้อข้า!
.....เยว่หลิงและเลี่ยหยางเดินข้ามป่าและภูเขา แล้วก็เพราะเยว่หลิงชวนวิ่งเล่นออกนอกเส้นทาง ในที่สุดทั้งคู่ก็หลงอยุ่ในป่างตามลำพัง 2 คนจนได้ แต่ก็ไม่ได้แย่ไปเสียหมด เดินไปเดินมาเจอบึงน้ำใสถูกปกคลุมด้วยหิมะบางๆ แม้อากาศจะหนาว แต่ด้วยความเหนื่อยเหงื่อไคลไหลจนตัวเหม็นทั้งคู่จึงอดไม่ได้ที่จะลงไปอาบน้ำในบึงนั้น (จริงๆแล้วอากาศหนาว น้ำในสระ,บึง,ทะเลจะอุ่นกว่าบนบก)เยว่หลิงถอดชุดขาวสะอาดของตนออก วางไว้บนก้อนหินใกล้บึง ใบหน้าเรียบเย็นแต่แฝงความสงบ น้ำใสไหลลูบไล้ผิวพรรณเขา เส้นผมดำยาวลอยละล่องตามกระแสน้ำเลี่ยหยางยืนก็ถอดเสื้อลงอาบด้วยกัน แม้ร่างกายจะเปลือบเปล่าแต่เดี๋ยวนี้ทั้งคู่ไม่ค่อยจะเคอะเขินกันแล้ว “หลิงหลิง… น้ำเย็นจนหน้าซีดเลย อย่าอาบนานล้ะ”“ข้าสบายดี… อย่ามาวุ่นวายกับข้า”เลี่ยหยางหัวเราะในลำคอ เข้ามาใกล้ๆ และใช้มือตักน้ำใสไหลลูบไล้ร่างกายเยว่หลิง เยว่หลิงมีแก้มแดงนิดๆด้วยควมเขินอายสายตาซุกซนของเลี่ยหยาง“เจ้า… มองอะไรข้า?”เลี่ยหยางย่นจมูกเล็กน้อย มือกุมผ้าเช็ดน้ำหนักเบา “ข้าก็มองไปเรื่อยแหละ… อะไรน่ามอง ข้าก็มอง”ทั้งคู่หยอกล้อกันไปมา ท่ามกลางความเงียบสงบของป่า หิมะบางๆ ร่วงลงมาเป็
Last Updated: 2025-12-02
Chapter: คัมภีร์สวรรค์ไร้พ่าย
.......ภูเขาสั่นสะเทือน ภูติซ้าย ปากสั่น "นี่คือวิชาสวรรค์ไร้พ่ายขั้นที่ 8""ไม่น่าเชื่อว่าราชครูผังจะฝึกได้ถึงระดับนี้" จริงๆราชครูผังติดต่อกับพรรคมารนี้มาหลายปีแล้วเขาเป็นผู้สนับสนุนหลักแก่พรรคมาร และเขาได้ร่วมมือกับภูติซ้ายช่วยให้เข้าไปอ่านคัมภีร์สวรรค์ไร้พ่ายในห้องลับและแอบฝึกมานานแล้ว แต่ประมุขพรรคมารกลับไปได้แค่ขั้นที่ 4 ในขณะที่เขาแอบฝึกจนสำเร็จไปถึงระดับ 8 ทุกคนรีบช่วยกันจับภูติซ้ายมัดไว้ ภูติซ้ายมีอาการเพ้อ "ข้า....ข้าขอโทษ.....ท่านประมุข"ทุกคนเฝ้าจดจ้องวิชากระบี่ระดับเทพสวรรค์ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่ผ่านไปสักพักภูเขาก็หยุดสั่นและทุกอย่างก็เงียบสักพักผู้เฒ่าเจ้าสำนักกระบี่ขาวก็ประคองไป่เยว่หลิงลงมา เขาอยู่ในสภาพใกล้หลับเพราะหมดแรง กระบี่ขาวสมบัติประจำสำนักยังไม่หักหรือสลายเป็นฝุ่นผง (โชคดีแล้วนะ)เลี่ยหยางรีบเข้าไปอุ้มไป๋เยว่หลิง และหันไปถามผู้เฒ่าชรา"เกิดอะไรขึ้น?"ท่านผู้เฒ่าส่ายหน้า "ทั้งคู่พลังปราณหมด ใช้กระบวนท่าสุดท้ายไม่ไหว จึงต่างฝ่ายต่างหนี""คัมภีร์สวรรค์ไร้พ่ายล่ะ?"ผู้เฒ่าชราหยิบออกมา แต่มันขาดครึ่ง"ดาบแรกก่อนหน้านี้ฟันคัมภีร์ขาดครึ่ง ราชครูคว้าครึ่งแรกหนีไป
Last Updated: 2025-11-25
Chapter: วิชากระบี่จันทราเต็มดวง
....จอมยุทธทุกคนตกใจ คุณชายไป๋คนนี้วิชาตัวเบาสูงส่งเหลือเกิน ยมฑูตโลหิตยิ้มดีใจ ในที่สุดข้าก็ได้เจอผู้ที่คู่ควรแก่ข้าแล้ว แล้วเสียงก็อึกทึก หัวหน้าพรรคฝ่ายธรรมะต่างตะโกนหาคุณชายไป๋ แต่เขาไม่สนใจพลิกอ่านตำรานั้นอย่างรวดเร็ว "นี่ของปลอม...""หลิงหลิงมือเจ้า!" ที่นิ้วมือมีสีเขียว คัมภีร์มีพิษ!แต่นั่นไม่ใช้ปัญหาสำหรับคุณชายไป๋ เขาเอาเข็มออกมาแทงตามจุดต่างๆของร่างกายอย่างรวดเร็ว เข็มหนึ่งเจาะฝ่ามือ และยกฝ่ามือไปทางภูติขวา ซัดพลังปราณปล่อยพิษใส่ภูติขวาโดนพิษนั้นจนใบหน้ากลายเป็นสีเขียวดิ้นทุรนทุรายเจ็บปวดด้วยพิษของตนเอง และตายในเวลาถัดมาทุกคนตะลึง ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก คุณชายชุดขาวคนนี้....ข้าว่าแล้วเขาต้องไม่ธรรมดา หัวหน้าสำนักกระบี่ขาวนึกในใจ"หลิงหลิง กลับมานี่ เร็วๆ" เลี่ยหยางตะโกนเรียกจากด้านหลังสุดแต่ไป๋เยว่หลิงไม่ไป เขามองไปทั่วห้องโถง และมองผุ้คุมกฎทั้ง 4 แล้วจึงตะโกนหาเลี่ยหยาง"เลี่ยหยาง หมุนแท่งโลหิตกลางห้อง"เลี่ยหยางรีบแทรกเข้ามาหมุน ส่วนเยว่หลิงกระโดดขึ้นไปเหยียบหัวผู้คุมกฎทั้ง 4 แรงๆจนพื้นมีแรงกระแทกใช่แล้วผู้คุมกฎทั้ง 4 ยืนตรงตำแหน่งกลไกไว้นั่นเองแล้วประตูห้องลับที
Last Updated: 2025-11-25
Chapter: ฝ่ายธรรมะ vs พรรคมาร
.....การเดินทางจากลั่วหยางไปกว่างโจว ถือเป็นเส้นทางยาวเหยียดผ่านทั้ง หุบเขา ลำน้ำ และแล้วก็มาถึงหุบเขาเซียงหยู เขตแดนที่ปกคลุมด้วยกลิ่นคาวเลือดของยุทธภพ นั่นคือ "หุบเขาเซียงหยู"หุบเขาเซียงหยูตั้งอยู่ระหว่างเขตแดนระหว่างลั่วหยางกับกว่างโจว เป็นหุบเขาที่แม้แต่พ่อค้าเกวียนหรือพรานป่าก็ไม่กล้าเข้าใกล้ ผู้คนในละแวกนั้นเรียกขานมันว่าหุบเหวของเสียงคร่ำครวญ ยามค่ำคืนจะมีเสียงลมคล้ายเสียงคนร้องไห้ลอดออกมาจากซอกเขา บ้างว่าคือเสียงภูต บ้างว่าคือเสียงของเหล่าผู้ฝึกยุทธที่สิ้นชีพ ณ ที่แห่งนั้นหุบเขานี้ยาวราว 30 ลี้ ขนาบด้วยผนังหินสูงชันประดุจกำแพงสวรรค์ที่ผ่าลงจากเบื้องบน ยอดไม้โบราณสูงเทียมเมฆขึ้นแทรกอยู่ตามรอยแยกของหิน มอสสีเขียวและเถาวัลย์ปกคลุมราวกับม่านผืนยักษ์ที่ธรรมชาติขึงไว้ที่นี่เป็นที่ตั้งของ “สำนักกระบี่ขาว” และ “พรรคมารโลหิตคราม” ซึ่งสู้รบกันจนเลือดสาดหลายครั้งกลางช่องแคบหุบเขาเซียงหยู มีสะพานโบราณทอดข้ามเหวลึกในขณะที่ไป่เยว่หลิงและเลี่ยหยางกำลังเดินข้ามสะพานนั้น ก็มีจอมยุทธกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ที่ทางลงท้ายสะพาน"หยุด! ผู้ที่มาเป็นใคร?" จอมยุทธถือกระบี่สีขาวผู้เป็นหัวหน้าถาม"แหะๆ พ
Last Updated: 2025-11-25
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status