บทที่ 3-4
เขาเหลือบตาไปทางสาวน้อยที่ยังไม่ยอมหันกลับมา จนกระทั่งนารินทร์ว่ายไปใกล้จึงได้ขยับตัว ร่างสูงแกร่งยืดกายสูงขึ้นเดินอ้อมไปทางบันไดทางขึ้นสระกลมขณะที่เบอาว่ายน้ำตามนารินทร์อย่างไม่เต็มใจนัก
นายหัวเมืองหาดใหญ่ถึงกลับสูดลมหายใจลึกสะกดกลั้นอารมณ์ปรารถนาตัณหาอันแกร่งกล้าที่พุ่งขึ้นกระทันหัน เมื่อเบอาเดินขึ้นจากสระว่ายน้ำ รูปร่างสูงโปร่งของเบอาไม่ได้ผอมบางอย่างที่เห็นภายนอกยามสวมเสื้อผ้า
หากแต่เป็นสาวเต็มตัวด้วยสัดส่วนอวบอิ่มทั้งด้านบนและสะโพกที่ผายออก เอวขอดกิ่ว หน้าท้องเนียนแบนราบ บิกีนี่สีเข้มยิ่งขับเน้นสีผิวขาวจัดดั่งน้ำนมเนียนละเอียดไปทั้งตัว เขารอจนเบอาสวมเสื้อคลุมเรียบร้อยจึงเดินตามไปสมทบ
หน้าหวานคมดวงตาสีน้ำตาลทองยังอารมณ์ขุ่นมัวจากเรื่องเล่าลือถึงความเสเพล ในระหว่างที่นิ่งฟังยิ่งได้ยินชื่อเสียงระบือไกล
นอกจากพี่ชายเพื่อนรักจะเจ้าชู้มีหญิงสาวหลายคน ยังลามไปเรื่องพลังทางเพศล้นเหลือจนใบหน้าสาวน้อยแดงซ่านขวยเขินแทนคนเล่า ผู้หญิงพวกนั้นพูดออกมาไม่กระดากปาก แม้ตัวเธอเองไม่เคยเห็นเขาเปลือยกายเต็มตาแต่สาว ๆ สาธยายจนเธอแทบรู้ตำหนิทุกส่วนสัดของเขาว่าอยู่ตรงไหนบ้าง ยังขนาดของถุงยางที่เขาใช้ เธอไม่แน่ใจนักว่าขนาดที่พวกเธอพูดมันเป็นยังไงแต่จากเสียงวี้ดว้ายเวลากระซิบกระซาบมันคงไม่ธรรมดา เบอารีบส่ายศีรษะสลัดภาพที่ผุดขึ้นมาทิ้งไป
แต่แล้วพอขึ้นจากสระว่ายน้ำสายตากระหายหิวไม่ปิดบังยิ่งสร้างความรู้สึกกรุ่นโกรธหวาดระแวง ใจสาวน้อยสับสนไปหมดว่าตัวเองสนใจแต่ผู้ชายคนนี้ทำไม ชอบเขาหรือไม่? แต่อย่างไรเธอก็ไม่อยากเป็นหนึ่งสาว ๆ เหล่านั้นที่เขาเชยชมสมใจก็ทิ้งขว้าง
ตอนนี้ทุกคนในกลุ่มหยุดเดินเมื่อเพื่อนรักกับพี่ชายคนรองแวะซุ้มขายเครื่องดื่มของโรงแรม มือเธอจับสาบเสื้อด้านหน้าไว้แน่นเมื่อสัมผัสได้ถึงไออุ่นร้อนทางด้านหลัง ก่อนที่จะมีลมหายใจผ่าวร้อนยื่นมาใกล้ใบหูเธอ
“วันหลังอย่าสวมชุดบิกีนี่เล่นน้ำอีกนะเบย์”
เสียงกระซิบแผ่วเบาส่งกระแสบางอย่างเป็นคลื่นที่มองไม่เห็น แผ่นหลังของเบอายืดสูงเหยียดตรง เธอกลืนน้ำลายข่มกลั้นอารมณ์ พยายามนึกถึงประโยคของสาวเหล่านั้น
เจ้าชู้ มักมาก ผูกปิ่นโต ท่องไว้นะเบอา
“ฉันจะสวมชุดแบบไหนอันที่จริงมันก็เรื่องของฉัน”
เบอาได้ยินเสียงสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนที่ไอร้อนจากฝ่ามือแกร่งจะจับเธอตรงข้อศอก
“มันไม่มีทางที่จะเป็นเรื่องของเบย์คนเดียวได้หรอก อย่างฝืนปฏิเสธว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา เพียงแค่เรามองตากันพี่ก็รู้ว่าเบย์รู้สึกยังไง แต่ตอนนี้พี่สงสัยว่าเบย์เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น”
ดวงหน้าหวานยิ่งแดงซ่านเมื่อรู้ว่านาวินทร์ทราบทุกอย่างว่าเธอรู้สึกอย่างไร มันเป็นเรื่องน่าอายที่ร่างกายของเธอยังตอบสนองเพียงแค่เขาจับข้อศอก
“ฉันปกติดีทุกอย่าง และไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา ถ้าฉันทำให้คุณเข้าใจผิดก็ต้องขอโทษด้วย”
เธอขืนข้อศอกพยายามดึงออกจากการเกาะกุม แต่ฝ่ามือใหญ่เขาจับไว้แน่นขึ้น
“อย่าคิดว่าพี่โง่เบย์”
เขากระชากเธอใกล้ขึ้นอีกโดยไม่สนใจว่ากำลังเป็นที่สนใจของคนในรีสอร์ตโดยเฉพาะพวกพนักงาน
“พวกสาว ๆ กลุ่มนั้นพูดอะไรเบย์ถึงได้อารมณ์เสีย”
คราวนี้ร่างระหงอย่างสาวเต็มตัวบานสะพรั่งหันกลับมองเขาเต็มตัว ร่างสูงโปร่งของเธอเลยหัวไหล่เขาจนถึงติ่งหู หน้าหวานสวยแม้จะแดงซ่านหากแต่กลับเรียบเฉย ริมฝีปากกว้างเย้ายวนเผยอคำพูดบางอย่างที่ทำเขาจุก
“ฉันไม่ได้อารมณ์เสีย! แต่ถ้าคุณอยากจะรู้จริง ๆ ล่ะก็ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของนายหัวนาวินทร์คนดังของเมือง อ้อ! มีเรื่องของคุณพีชลูกสาวนายอำเภอซึ่งกำลังจะแต่งงานในไม่ช้าแต่ยังคั่วกันอยู่ และคุณแพรวนักศึกษาสาวในรั้วมหาวิทยาลัยที่ผูกปิ่นโตไว้ใกล้เรียนจบแล้ว”
“ให้ตายเถอะ! อย่าไปฟัง!!”
เสียงกัดฟันกรอดเล็ดลอดพร้อมคำสั่งห้าม เบอาทำเพียงเลิกคิ้วโก่งสวย ยิ้มหวานที่ไปไม่ถึงดวงตาสีทองจ้องตอบดวงตาคมกริบดุดันไม่ลดละเช่นกัน
“นายหัวนาวินทร์ควรปล่อยข้อศอกของฉันได้แล้วนะคะ ถ้าใครเขามาเห็นเข้าจะเหมารวมฉันไปด้วยว่าเป็นเด็กผูกปิ่นโตของนายหัว!”
“เบอา!!”
เสียงกร้าวดังลั่นจนคนโดยรอบหันมองสองหนุ่มสาว แม้กระทั่งสองพี่น้องที่เพิ่งออกมาจากซุ้มขายน้ำยังชะงัก นารินทร์เห็นมือพี่ชายของตัวเองกุมข้อศอกเบอาแน่นจนสาวน้อยร่างโปร่งบางต้องแอ่นตัวช่วยกันเจ็บตัว
นารินทร์ไม่เคยเห็นใบหน้าแข็งกร้าวของพี่ชายลักษณะนี้มาก่อน เขาแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ หน้าก้มต่ำจ้องมองเพื่อนของเธอด้วยความต้องการที่ปิดไม่มิด
เธอหันหน้าไปหาพี่ชายคนรองซึ่งเขาเอี้ยวหน้ามองเธออยู่พอดีด้วยความตกใจ
“เกิดอะไรขึ้น”
นารินทร์อ่านปากของพี่ชายที่พูดกระซิบผ่านไรฟัน เธอได้แต่ส่ายหน้าแล้วหันกลับไปยังสองหนุ่มสาวที่ยังจ้องตากัน
“คุณกำลังทำให้เราเป็นจุดสนใจนายหัว”
เบอาเปล่งเสียงออกมาได้ในที่สุด เธอยอมรับว่าค่อนข้างตกใจและหวาดกลัวลักษณะท่าทางของนาวินทร์ กรามแกร่งขบแน่น ข้อศอกที่เขาจับไว้แน่นของเธอเริ่มเจ็บ คาดได้ว่าคงเป็นรอยแดงหลังจากนี้ แต่เธอยังยืนหยัด เธอต้องแสดงออกมาให้เขาเห็นว่าเธอมันเป็นตัวปัญหา เป็นหญิงสาวเอาแต่ใจปากร้ายจนเขาต้องเอือมระอา
“ช่างหัวคนอื่น!”
“แต่บังเอิญมันเป็นหัวของฉันเหมือนกัน แล้วก็กรุณาปล่อยข้อศอกของฉันได้แล้ว ฉันเจ็บ”
นาวินทร์ปล่อยข้อศอกของเบอาทันทีเมื่อเธอบอกว่าเจ็บ เขาลืมตนจนออกแรงกำแน่น กัดกรามเอ่ยคำขอโทษผ่านไรฟันอย่างข่มอารมณ์
“ขอโทษด้วย พี่ลืมตัวไป”
“ไม่เป็นไรคะ แต่ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายที่คุณจะได้แตะตัวฉัน ต่อไปกรุณารักษาระยะห่างไว้ด้วย ฉันไม่อยากตกเป็นขี้ปากของชาวบ้าน!”
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ยังยืนนิ่งที่เดิมมองตามแผ่นหลังบอบบางเดินห่างออกไปกลับห้องพักหลังจากทิ้งระเบิดลูกใหญ่ใส่เขา
ดวงตาแข็งกร้าวจ้องนิ่งสักพักแล้วจึงกลับหลังหันออกไปจากโรงแรม ไม่น่าเชื่อว่าเมืองหาดใหญ่จะเล็กถึงเพียงนี้ สิ่งแรกที่เขาควรทำคือการลบข่าวฉาวในเมืองแต่นั่นมันจะเป็นไปได้อย่างไร นอกเสียจากเขาต้องตัดไฟเสียแต่ต้นลม
พวกเธออาจจะร้องไห้ฟูมฟายที่เขาบอกตัดสัมพันธ์ แต่เขาจะดูแลให้เงินพวกเธอเพียงพอที่จะตั้งต้นชีวิตใหม่ได้อีกหลายปี
ในเมื่อข่าวฉาวมันเกิดขึ้นเพราะตัวเขา เขาก็จะจบมันด้วยตัวเอง
บทที่ 12-1** nc จบบริบูรณ์สาวน้อยหน้าหวานลูกครึ่งโปรตุเกสนอนหลับสนิทคว่ำหน้าบนหมอนใบนุ่มจนไม่รู้เลยว่ายังมีชายหนุ่มอีกคนนอนกระสับกระส่ายอยู่ข้าง ๆนาวินทร์เพียรพยายามทั้งลูบตัว ทั้งกระซิบและพลิกร่าง แต่สาวสวยยังนอนพลิกร่างกลับไปคว่ำตามเดิม ลูบผ่านต้นแขนจนถึงข้อมือบางกระทั่งถึงแหวนหมั้นเพชรเม็ดเล็กพอเหมาะอย่างที่เธอชอบเขาหงายตัวลงใช้มือก่ายหน้าผากสะกดกลั้นความต้องการยามเช้าที่พุ่งทะยานแม้ว่ายามค่ำคืนจะสุขสมไปแล้วเปลือกตาของเบอายังหลับพริ้มไม่รับรู้สิ่งรอบข้างจากความเหนื่อยอ่อนจนเขาต้องลุกขึ้นจากเตียงหยิบบุหรี่ออกไปสูบมือควานหาไฟแช็กในลิ้นชักโต๊ะแต่ไม่เจอ พลันนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนตอนพาเบอาไปทานข้าวเขาได้ฝากไว้ที่เธอ จึงเดินกลับไปยังหน้ากระจกหยิบกระเป๋าสะพายสีดำใบเดิมที่เธอชอบใช้ขึ้นมาเขาล้วงมือควานหาและพบว่ามันอยู่ที่ก้นกระเป๋าเพราะน้ำหนักของไฟแช็กแบบซิปโป ขณะที่กำลังหยิบพลันนิ้วไปโดนแผงยาบางอย่าง ด้วยความสงสัยจึงหยิบมันออกมานาวินทร์หรี่ดวงตาคมกริบลงเมื่อเห็นแผงยาชัด ๆ ท่ามกลางแสงยามเช้าที่เริ่มสาดเข้ามาในห้อง เม็ดสีชมพูสวยบนแผงมีลูกศรชี้ว่าควรเริ่มทานจากเม็ดไหนไปถึงเม็ดไหนยาคุม!
บทที่ 11-3เขาหันกลับไปมองเห็นสาวน้อยออกมายืนอยู่ด้านข้างตัวรถห่มด้วยผ้าห่มผืนใหญ่สีขาวเหมือนเดิม สีของผ้าห่มขาวโพลนตัดกับสีของผืนป่ายามโพล้เพล้นายหัวนาวินทร์ยังเดินขึ้นบันไดบ้านต่อจนถึงร่างของไอ้สิงห์ จากนั้นเดินเลยไปยังครัวที่ทำใหม่ปลดถังแก๊สออกมาลากจนถึงกลางบ้านเทน้ำมันเบนซินโดยรอบตัวและเทเป็นทางจนเกือบถึงประตูบ้านก็หมดเสียก่อน ยืนมองร่างที่เริ่มเย็นชืดของไอ้สารเลวอีกครั้ง“ไม่ต้องกังวลไอ้สิงห์ เดี๋ยวตัวมึงก็ร้อนแล้ว”เขาหยิบซิบโปออกมาจากกระเป๋ากางเกงจุดใส่เศษกระดาษนิตยสารที่หยิบมาจากในบ้านแล้ววางให้ตรงกับคราบน้ำมันเบนซินที่เริ่มระเหยจากนั้นจึงปิดประตูบ้านแล้วลงมาจากตัวบ้านให้เร็วที่สุดวิ่งกลับไปที่รถบรึ้ม!!นาวินทร์สะดุ้งเมื่อเสียงระเบิดจากถังแก๊สดังขึ้นพร้อมกับเสียงไม้บ้านแตกลั่นเขาหันไปมองบ้านหลังเล็กที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อไว้พักผ่อนกับสาวๆ แต่บ้านหลังนี้กลับกลายเป็นสถานที่ที่เกือบจะทำให้เขาเสียเบอาไป“พี่วินทร์”นาวินทร์เดินกลับมาที่รถสวมกอดเบอาไว้แน่น โน้มใบหน้าลงหอมศีรษะ“ขึ้นรถเถอะ พี่จะพาไปบ้านพี่”“แต่ว่า..”“อย่าเพิ่งดื้อนะคนดี ใจพี่จะไม่ไหวแล้ว”เบอาเงยหน้ามองชายร่าง
บทที่ 11-2เอี๊ยดดดด!!นาวินทร์หักหลบรถกระบะเก่าที่สวนกับเขากลางทางขณะที่กำลังออกจากถนนเข้าท้ายสวนเห็นลาง ๆ เป็นผู้ชายสองคนมีหญิงสาวอยู่ในอ้อมแขนของคนนั่งฝั่งข้างคนขับอีกหนึ่งคนเขาขับรถต่อไปอีกสักพักจึงนึกขึ้นได้ว่าถนนสายนี้เป็นทางส่วนบุคคลเข้าท้ายสวนของเขาโดยเฉพาะ และมีไม่กี่คนที่รู้ทางนี้เอี๊ยด!!นาวินทร์เหยียบเบรกกะทันหันเมื่อนึกถึงผู้หญิงที่ถูกขนาบข้าง หล่อนดูเหมือนจะนอนนิ่งไม่ไหวติง ผมสีน้ำตาลอ่อนพระเจ้า!! ระยำ ไอ้ห่าเอ้ย!!เขาหักรถเลี้ยวกลับทันที ระยะทางที่เขาขับสวนกับรถคันนั้นเพิ่งผ่านไปไม่นานแต่ใจเขากลัวเหลือเกินว่าจะไปไม่ทันนาวินทร์เหลือบตามองผู้ชายร่างสูงผอมเกร็งผิวคล้ำที่เดินสวนออกมาบนไหล่ทางเล็ก มันเดินออกมาจากบ้านท้ายสวน สบตาตื่นตระหนกของไอ้หมอนั่นด้วยตาแข็งกร้าว แต่เขาไม่หยุดรถเวลามันกระชั้นชิดเกินไป ถ้าเขาหยุดรถถามมันตอนนี้ เบอาอาจถูกทำร้ายถึงขั้นเสียชีวิตเขาจอดรถดับเครื่องก่อนที่จะถึงทางเข้าบ้าน ตั้งใจไม่ให้คนร้ายอีกคนรู้ตัว เปิดลิ้นชักรถแล้วหยิบปืนสั้นออกมา เปิดดูกระสุนในรังปืนแล้วหมุนปิดขึ้นไกนกค้างไว้นาวินทร์ลงจากรถกระบะคันเก่าสีดำ เดินอาดไม่กลัวเกรงสิ่งใดตัด
บทที่ 11-1บ้านหลังเล็กหรือกระท่อมที่นาวินทร์มักเรียกดูเรียบร้อยดี กลิ่นสีทาไม้เปลี่ยนจากสีไม้แดงเป็นสีไม้โอ๊ก เตียงใหญ่เขาสั่งให้เปลี่ยนใหม่เช่นกันพร้อมกับฟูกที่นอนเขาเดินออกไปดูในห้องน้ำ ช่างขาประจำทำงานดีเหมือนเคย อ่างอาบน้ำสุดหรูติดตั้งถูกต้องและงานเนี้ยบจากนั้นจึงเดินออกมาทางห้องครัวที่ทำเพิ่ม ใจคิดไปว่าบางวันอาจชวนสาวน้อยทำบาร์บีคิวนั่งเล่นนอกบ้านบ้างรอยยิ้มมุมปากผุดขึ้นบนใบหน้าคมเข้มยามนึกไปถึงดวงหน้างามของเบอา เธอคงบ่นบ้างเวลาให้ทำกับข้าวเพราะเป็นงานที่เธอไม่ถนัด แต่เขาจะคอยช่วยเป็นลูกมืออยู่ไม่ห่าง ยิ่งถ้าให้สาวน้อยลองนั่งบนเคาน์เตอร์ครัวหลังใหม่ขนาดความสูงกำลังพอดีแล้วมีเขาที่อยู่ตรงกลางมั่นโยกคลึงบ่อย ๆ เบอาคงจะชอบงานครัวมากขึ้นนาวินทร์ปิดประตูบ้านใส่กุญแจแล้วเดินลงบันได เวลาเย็นของป่าสวนยางมืดเร็วขนาดยังไม่ทันห้าโมงครึ่งก็เกิดเงาแสงสีอ่อนทอดยาวผ่านใบไม้ของต้นยางมายังลานจอดรถบรื้น!ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ขับรถออกจากลานจอดของบ้านหลังเล็กกลางป่าท้ายสวน กลับรถวนจนล้อสะบัดเข้าสู่เลนถนนลูกรังสีแดงฝ่าสวนยางออกไปยังถนนใหญ่เพื่อไปยังสวนข้างเคียง ไปหาสาวน้อยของเขา“ไอ้ห่า ไหนว่ะ”“อ
บทที่ 10-4ยามเย็นของอำเภอเล็ก ๆ ขอบชายแดนสุดของภาคใต้ เบอาขับรถกลับจากอำเภอไปยังทางที่คุ้นเคยโดยไม่คิดเอะใจอารมณ์ยังขุ่นมัวจากเรื่องเมื่อบ่ายจนไม่ต้องการเห็นหน้านายหัวตัวต้นเรื่อง เสียงเอะอะโวยวายเมื่อเธอโทรศัพท์ไปบอก นึกภาพใบหน้าคมเข้มของนายหัวอารมณ์ฉุนเฉียวให้ยิ้มกริ่มในหน้าอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย มองไปยังเบาะด้านข้าง นอกจากเสียตัวเป็นดอกเบี้ย เธอยังต้องเอาใจซื้อของขวัญวันเกิดให้เขาอีกยายเบย์ เธอนี่มันใจง่ายจริง ๆจากวันนั้นในบ้านริมทะเลเธอเริ่มรู้สึกแล้วว่านายหัวนาวินทร์มีใจให้เธอ เขาให้คำมั่นว่าจะไม่มีใครอีกตลอดระยะสัญญาสัญญาที่ทำกันไว้หนึ่งปีแม้ดูเหมือนว่าจะนานเกินพอแต่เบอากลับไม่คิดเช่นนั้น หนึ่งปีมันช่างสั้นเหลือเกินและเธอเก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้ให้ดีที่สุดเป็นความทรงจำไว้ในยามที่ต้องจากกันหน้าหวานคมลูกครึ่งอมยิ้ม เมื่อวันก่อนพาเธอไปทานข้าวร้านเดิมมาอีกครั้งทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่าเจ๊ศศิคงจะเที่ยวเอาไปเป่าประกาศ และในที่สุดเธอก็ได้ทานอาหารรสจืดสมใจแต่นายหัวกลับทำหน้าปุเลี่ยนเพราะรสชาติชืดเกินไปเธอมองไปยังข้างทางที่มีแต่ป่าสวนยางสุดลูกหูลูกตาในแถบนี้ล้วนส่วนใหญ่เป็นของนายหัวที่แบ่งให้คน
บทที่ 10-3แพรวนภากำเช็คในมือแน่น จำนวนเงินสองล้านมากโขสำหรับการตั้งต้นชีวิตใหม่ เธอลงทุนกับนายหัวไว้มากเกินกว่าจำนวนที่นายหัวเซ็นเช็คมาให้ ทั้งแรงกายแรงใจ ร่างกายของเธอพร้อมสำหรับนายหัวคนเดียวสาวร่างอวบหยิบเช็คใส่กระเป๋าสะพาย หลังจากลุกขึ้นจากโต๊ะแผนกบัญชีของโรงแรมชื่อดัง แพรวนภาไม่แน่ใจว่าคนในแผนกนี้จะสงสัยที่มาของเช็คใบนี้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใดนายหัวถึงสั่งจ่ายเงินเป็นจำนวนมากผ่านมาแล้วเกือบอาทิตย์ที่เธอไม่พบกับนายหัวอีกเลย เขาเหมือนหายไปจากตัวเมืองหาดใหญ่จนน่าแปลกใจ เธอพาร่างเดินผ่านโถงทางเข้ากระทั่งพบกับคนรู้จักคุ้นเคย“อ้าว แพรว ไม่เจอกันนาน”ใบหน้าอย่างคนใต้ของแพรวนภาค่อนข้างตกใจเมื่อเจอกับแฟนเก่าสมัยช่วงที่เธอเลิกลากับนายหัว ผู้ชายเลวที่ตบตีเธอสารพัดและยังปอกลอกเงินที่นายหัวให้มาจนเกลี้ยงเธอจึงพยายามเดินเลี่ยงแต่มือแข็งสีเข้มดึงไว้ ใบหน้าหล่อแต่เหี้ยมโหดยิ้มกริ่ม“จะรีบไปไหน ทำเป็นคนไม่รู้จักกันไปได้”แพรวนภารู้สึกขยะแขยงเต็มทน เธอสลัดแขนจนหลุดจากการเกาะกุม มองหน้าเหี้ยมที่แฝงความหื่นกาม“ต้องการอะไร!”“ไม่เห็นยาก ดูก็รู้ว่าต้องการอะไร”“ฉันไม่มีเงินให้แกหรอกไอ้สิงห์”“โอ๊ะโอ