กระเป๋ากับอุปกรณ์ทำงานของเธอมีครบพร้อม ที่ขาดไปคือเสื้อผ้า นิชาดายังอยู่ในชุดเดิมแม้บอกว่าจะคุยกับกัญญาแต่เอาเข้าจริงหญิงสาวก็อายเกินกว่าจะโทรไปบอกเพื่อนร่วมบ้านว่าตนคงไม่กลับ คิดว่าอย่างไรเจ้าตัวคงพอเดาได้อยู่แล้ว
เธอล้างจานแล้วยังเก็บกวาดเช็ดถูกทุกอย่าง รวมถึงทำความสะอาดภายในห้องรับแขกเล็กด้วย ต้องการทำตัวให้มีงานเพื่อจะไม่เข้าไปในห้องนอน ขณะกำลังถูพื้นก็ต้องสะดุ้งเมื่ออยู่ๆ ก็ถูกโอบจากด้านหลัง
“ทำไมชอบทำตัวเป็นเด็กดื้อจังนะเธอ”
ไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่าชายหนุ่มมาใกล้ตนเมื่อไร ทั้งยังรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ใส่เสื้อ ทำเอาใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มเลยทีเดียว
“เหงื่อชุ่มเชียว อาบน้ำอีกรอบละกันนะ”
“วะ...ว่าไงนะ”
เธอยังมึนงงอยู่ก็ถูกอุ้มขึ้นจนไม้ถูพื้นร่วงหลุดมือ ไม่ทันได้ดิ้นรนชายหนุ่มก็ก้าวยาวๆ พาเข้าห้องนอนมาจนถึงห้องน้ำแล้ว อีกฝ่ายวางเธอลงแล้วเขาก็ปิดประตูห้องน้ำ นิชาดามองด้วยสีหน้าเหวอ ขณะที่เขายื่นมือมาหาเธอจะแกะกระดุมร่างอรชรก็ถอยกรูด
“ไม่เอานะ”
“มาเถอะน่า ฉันไม่ชอบนอนแบบเหงื่อท่วมๆ”
ธีรดนย์ย่างสามขุมเข้าหาคนตัวเล็กอย่างนึกสนุก รู้อยู่หรอกว่าตนทำให้หญิงสาวตระหนก แต่ท่าทางหวาดหวั่นราวหนูน้อยหมวกแดงถูกหมาป่าไล่ต้อนของเจ้าตัวก็ทำให้เขาตื่นเต้นดีไม่หยอก พอใจกับบทราชห์สีจับหนูไม่น้อย เพราะแม่หนูน้อยแผลงฤทธิ์เก่งทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีทางต่อกรกับเขาได้ ยิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายไม่อยากให้เข้าใกล้ เขายิ่งอยากตอแย
“ฉันอาบให้สบายๆ ไม่ต้องทำอะไร”
ยิ่งมือหนาพยายามแกะและทึ้งดึงชุดเธอ นิชาดาก็พยายามคว้าไว้ ทั้งตีมือทั้งจิกข่วนแต่ก็ห้ามเขาไม่อยู่
“โอ๊ย...อย่ามายุ่งกับเนื้อตัวฉันได้ไหม”
“ทำไมจะยุ่งไม่ได้ เธอเป็นลูกหนี้ เป็นเมียฉัน ฉันเป็นเจ้าของตัวเธอ”
ร่างบอบบางกว่าถูกชายหนุ่มดันไปติดผนังใต้ฝักบัวทั้งยังเปิดน้ำไหลพรูลงมาใส่ทั้งเธอและเขาจนเริ่มเปียก
“นี่จะบ้าหรือไง เปียกหมดแล้วเห็นไหม”
“ให้เปียกหมดนี่แหละ จะได้ไม่ต้องใส่”
อีกฝ่ายบอกหน้าตาย มือก็ไม่ได้หยุดยื้อยุดเสื้อผ้าของเธอออกจากตัว
“เธออยู่กับฉันเสื้อผ้าไม่จำเป็นหรอก”
“คนลามก”
“เออ ฉันก็เป็นของฉันอย่างนี้ ถึงได้จ่ายเงินซื้อเธอมาไง”
ใบหน้าคมเข้มก้มลงมากระซิบชิดใบหูแล้วยังเลียซ้ำลากไล้เรื่อยลงยังซอกคอขาว นิชาดาขนลุกซู่ แต่แล้วอยู่ๆ ร่างสูงใหญ่ที่มีเพียงผ้าขนหนูพันกายก็ถอยห่าง
“รีบอาบแล้วก็รีบออกมา อย่ามัวโอ้เอ้ ไม่งั้นฉันจะมาอาบให้จริงๆ”
ธีรดนย์สั่งแล้วหันหลังเดินออกไป ได้คลุกเคล้าร่างนุ่มนิ่มอารมณ์เขาก็เริ่มมีปัญหาขึ้นมาอีก ได้แต่ส่ายหน้าเวทนาตัวเองที่ต้องทนสะกดความต้องการเอาไว้ เขาหยิ่งเกินกว่าจะผิดคำพูดและความตั้งใจของตัวเอง หากก็มั่นใจเต็มเปี่ยมในเสน่ห์อย่างบุรุษเพศของตน
มาดูกันว่านิชาดาจะทนต่อสิ่งเร้าทางอารมณ์ ทั้งที่อยู่ใกล้ชิดมนุษย์ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบอย่างเขาไปได้นานแค่ไหน
“อุ๊ย...”
ร่างอรชรสะดุ้งเมื่อเขาเปิดประตูกลับมาอีกครั้ง ทั้งที่เจ้าตัวยังยืนนิ่งไม่ขยับแม้แต่น้อย
“เอาชุดนอนมาให้ บอกให้รีบอาบ”
เขาย้ำพร้อมส่งสายตากดดันก่อนจะปิดประตูลง
เจ้าของร่างเล็กที่ใส่เสื้อยืดตัวใหญ่ของเขาเพียงตัวเดียว และเดินออกมาด้วยท่าทางกระมิดกระเมี้ยนไม่มั่นใจ พร้อมกับเสื้อผ้าที่เปียกในมือทำให้คนที่นั่งเปิดแมกบุ๊กอยู่บนเตียงเหลือบมอง อดไม่ได้ที่จะกวาดตามองเรียวขาขาวสวยที่โผล่พ้นปลายเสื้อของตน แต่ก็ต้องพยายามทำใจให้สงบเข้าไว้
“เอาไปแขวนตากหลังบ้านแล้วกัน ที่นี่ไม่มีเครื่องซักผ้า”
เขาบอกง่ายๆ แล้วก้มลงมองหน้าจอตัวเองอีกครั้ง เสื้อผ้าของตนต่อภพหรือเต้ยผู้ช่วยคนสนิท ผู้เป็นทุกอย่างให้เขา จะมาเอาไปให้แม่บ้านที่บ้านใหญ่ซักอาทิตย์ละครั้ง
นิชาดารับคำแล้วหาไม้แขวนในตู้เสื้อผ้าชายหนุ่มอย่างถือวิสาสะ เหลือบมองเจ้าของร่างสูงใหญ่เขาก็ไม่ได้สนใจ จึงออกไปด้านนอก แม้จะรู้สึกโล่งและแอบหวั่นใจทว่าไม่มีทางเลือกเพราะเสื้อผ้าของเธอเปียกทั้งหมดจากฝีมือเจ้าหนี้
“มานี่สิ มาดูหน้าเว็บที่จะปรับให้เธอ”
กลับเข้ามาชายหนุ่มก็ตบมือลงบนเตียงข้างตัวเขา หญิงสาวจำใจค่อยๆ เดินอย่างไม่มั่นใจเข้าไปนั่งลงริมเตียงฝั่งที่อีกฝ่ายบอก
“นั่งห่างอย่างนั้นจะเห็นได้ไง กลัวฉันกัดหรือไง”
อยากเถียงนักว่า ไม่กัดแต่น่ากลัวกว่ากัดเสียอีก ทว่านิชาดาทำใจกล้าขยับเข้าไปตรงส่วนที่ชายหนุ่มบอกแต่แรก เธอต้องปรับตัว หญิงสาวบอกตัวเอง ความเป็นจริงคือสิ่งที่ต้องยอมรับและเผชิญหน้ากับมัน
“นี่ ฉันเขียนตามแบบที่เธอเลือกไว้แล้ว ทดลองวางหน้าเว็บตัวอย่างให้ดู ถ้าโอเคก็ตามนี้เลย ส่วนที่อยากให้เพิ่มหน้าเผื่อกดเข้าไปอ่านเนื้อหา ไม่มีอะไรมาก แค่เพิ่มหน้าให้กดลิงค์ก็เรียบร้อย”
นิชาดามองหน้าเว็บในแบบที่ตนต้องการแล้วก็พยักหน้า เงยขึ้นยิ้มให้กับคนหน้ารกอย่างลืมตัว
“ฉันไม่ติดอะไรค่ะ”
ธีรดนย์จ้องดวงหน้าสวยหวานที่ระบายยิ้มสวยน่ามองนิ่งนาน เพราะเจ้าตัวไม่เคยยิ้มให้เขา
“ชอบใช่ไหม”
“ค่ะ”
“อืม...แล้วต้องทำไง”
ดวงตาคู่คมเข้มดูแพรวพราวขณะจ้องเธอแล้วหลุบตาลงต่ำ นิชาดาจึงกัดริมฝีปากตนเมื่อเห็นจุดหมายจากสายตาของชายหนุ่ม ทว่าไม่เพียงแค่นั้น ใบหน้าเข้มด้วยไรเครายังเอียงมาหาแล้วชี้จิ้มปลายนิ้วบนแก้มรกๆ ของตนสองครั้ง
“ผัวทำถูกใจจะไม่ให้รางวัลหน่อยเหรอ”
คำพูดที่ตามมาชวนโมโหมากกว่าท่าทางกวนของเขาเสียอีก นิ่งคิดไม่นานหญิงสาวก็หลับหูหลับตาแตะปากตนที่แก้มชายหนุ่มเบาๆ ทำให้จบๆ ไปดีกว่าอาจถูกบังคับฝืนใจมากกว่านี้แต่อีกฝ่ายกลับไม่พอใจ
“ดูไม่สมกับความชอบเมื่อกี้เลย เอาใหม่”
ทว่าพร้อมบอกเขากลับหันหน้าตรงแล้วแตะปลายนิ้วชี้บนกลีบปากแกร่งแทน คิ้วเข้มขยับสูงอย่างรอคอย หากแววในดวงตาของชายหนุ่มที่เธอมองเห็นนั้นไม่ได้กดดันหรือบังคับ เป็นความพราวระยับราวกำลังลุ้นให้ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ อาจเพราะเธอยอมหอมแก้มเขาโดยง่าย ชายหนุ่มจึงมีความหวังในสิ่งที่มากกว่า
“ขอบคุณนะคะ”
นิชาดาเลือกที่จะยกมือไหว้เขาอย่างหน้าตาย แล้วลุกขึ้นถอยห่างทว่าคนที่ถือแมกบุ๊กอยู่ก็ยังคว้าเอวเธอทันด้วยแขนข้างหนึ่ง
“คิดว่าจะรอดหรือไง”
ธีรดนย์ปิดหน้าจอแล้วโน้มกายผ่านร่างเล็กวางอุปกรณ์ทำงานบนโต๊ะใกล้ๆ รั้งอีกฝ่ายให้นอนลงก่อนจะกลับมาค้ำกายอยู่เหนือหญิงสาว
“เจ้าเล่ห์ขึ้นนะเธอ”
“ก็เรียนรู้มาจากนายนั่นแหละ”
“ปากเก่งจริง จูบให้เก่งเหมือนกันหน่อยสิ หรือว่า...”
อยู่ๆ ชายหนุ่มก็หยุดคิดก่อนจะยิ้มมุมปาก
“อย่าบอกนะว่าไม่เคยจูบ? ฉันเป็นจูบแรกของเธอด้วยเหรอ”
ทั้งที่ไม่ตอบแต่นิชาดาเผลอขยับสายตาลอกแลก นั่นทำให้ชายหนุ่มยิ่งยิ้มกว้าง
“จริงอะ?”
“ไม่ใช่สักหน่อย”
เธอแย้งแต่อีกฝ่ายดูมั่นใจในความคิดของตัวเอง ปลายนิ้วแกร่งไล้เหนือกลีบปากเธอแผ่วเบาพร้อมพึมพำ
“ฉันเป็นคนแรกของทุกอย่างสินะ”
คำพูดชายหนุ่มแฝงความภูมิใจพร้อมแววตาพอใจอย่างมากแต่นิชาดาหน่วงในใจจนหนักอึ้ง หากเป็นคำพูดของคนรักเธอคงรู้สึกดีไม่ต่างกัน ทว่าเวลานี้กลับเศร้าลึกๆ ที่ตนไม่เคยมีคนรักที่ทำให้นึกอยากจูบเลยแม้แต่คนเดียว เธอเคยจะถูกปล้ำจูบจากคนที่คบหาล่าสุดแต่ตบหน้าและข่วนเขาอย่างแรง จากนั้นความสัมพันธ์ก็จบลงทันที แต่กลับต้องมาเสียจูบกับร่างกายให้เจ้าหนี้ นึกไปแล้วก็สงสารตัวเองเหลือเกิน
“ยอมรับมาเถอะน่า ไม่ต้องอาย ยังไงฉันก็จะสอนเธออยู่แล้ว”
เมื่อใบหน้าคมเข้มเคลื่อนลงมาหานิชาดาก็เอียงหลบ ครั้งนี้ชายหนุ่มไม่บังคับให้รับจูบแต่เขาจูบแก้มเธอเน้นหนักเหมือนเคย
“เอาเถอะ ฉันจะปล่อยเด็กดื้ออย่างเธอไปก่อน เพราะต้องรีบนอนจะได้รีบตื่นไปอำเภอกันแต่เช้า จดทะเบียนกันแล้ว ผัวจะจูบเมียเมื่อไรก็ได้”
“แต่พรุ่งนี้วันหยุด”
“นายดนย์เสียอย่าง เรื่องนั้นฉันเคลียร์เอง เธอมีหน้าที่เซ็นอย่างเดียว”
พูดจบอีกฝ่ายก็ซบหน้าลงแนบซอกคอเธอ วางแขนกอดพร้อมทั้งก่ายท่อนขาหนักๆ เกยราวจงใจแกล้ง นิชาดาได้เพียงนอนนิ่งตัวแข็ง พยายามหายใจให้เบาที่สุด และแน่นอนว่าเธอไม่หลับง่ายๆ ได้ยินเสียงหายใจของคนตัวโตราวหลับสบายทว่าไม่ยอมคล้ายอ้อมกอดจากเธอ
======
ยังรวบหัวรวบหางไม่ได้ นายดนย์ก็รวบรัดจดทะเบียนไปก่อน จะได้หาทางใกล้ชิดเมียบ่อยๆ ^-^"
ปลายนิ้วแกร่งไล้แผ่วผิวตรงข้างเอวสูงขึ้นมาวนเวียนปลายยอดอกแล้วขยำเบาๆ ทำเอานิชาดาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นกลางดึก พร้อมกับที่ริมฝีปากอุ่นพรมไต่จากต้นแขนมายังไหล่มน ซอกคอจนถึงใบหูก่อนกระซิบ“หมอกจ๋า รักกันนะจ๊ะ”“คุณดนย์ นี่บ้านใหญ่นะคะ ลูกก็อยู่ด้วย”เธองัวเงียห้ามเสียงเบาเพราะเกรงจะทำให้ลูกชายตื่นและตนเองก็พึ่งหลับไปไม่นานหลังจากป้อนนมหนูน้อยจึงยังเพลียอยู่ ทั้งนอนไม่ค่อยเต็มอิ่มนักอยู่แล้ว ยังดีที่เวลากลางวันมีคุณนายแสงหล้ากับเหมยช่วยดูลูกพอให้ได้งีบบ้าง“น่านะ รับรองเบ๊าเบา ลูกไม่ตื่นแน่”สามียังกระซิบเสียงทุ้มนุ่ม มือก็เคล้าคลึงทรวงอกที่อวบอัดขึ้นของตนทำเอานิชาดาอกใจสั่นไหวไม่น้อย จะว่าไปตนก็คิดถึงสัมผัสจากชายหนุ่มอยู่เหมือนกัน หากก็ยังกังวล“ได้ด้วยเหรอคะ”“เดี๋ยวทำให้ดู”พร้อมพูดชายหนุ่มก็เชยคางให้เธอหันกลับไปรับจูบนุ่มนวลก่อนจะค่อยเพิ่มแรงจูบเม้มและกัดกลีบปากอิ่มด้านล่างให้เธอเผยอรับลิ้นร้อน นิชาดาขยับตัวพลิกมาโอบรอบลำคอหนาตอบรับจูบลึกซึ้งอย่างไม่ยอมน้อยหน้าร่างสองสองขยับเสียดสีเบาๆ ในสัดส่วนที่แตกต่างหากสอดรับกันอย่างลงตัว ลูกชายตัวน้อยนั้นนอนในเปลสี่เหลี่ยมไม่ต้องเกรงว่าแรงเคลื่อ
“คุณดนย์คะ”กลางดึกคืนหนึ่งหลังจากมาพักโรงแรมได้สองวันนิชาดาก็รู้สึกปวดท้องแล้วเหมือนมีบางอย่างไหลออกมา หญิงสาวพึมพำเรียก ชายหนุ่ม เพียงแตะแขนอีกฝ่ายก็รู้สึกตัวแล้วขยับนั่งเปิดโคมไฟทันที“เจ็บท้องเหรอหมอก”“ค่ะ...น่าจะน้ำเดินแล้ว”เธอพูดจนแทบไม่มีเสียงเพราะเจ็บ“งั้นหมอกอยู่นิ่งๆ ก่อนนะ แป๊บเดียว”ร่างสูงใหญ่รีบลุกขึ้นใส่เสื้อโดยเร็วแล้วคว้ากระเป๋าที่เตรียมเอาไว้ก่อนมาประคองร่างที่อุ้ยอ้ายขึ้นของภรรยา“เดินพอไหวไหม”“ค่ะ”นิชาดายังพอไหวจึงกัดฟันค่อยๆ เดินไปพร้อมกับที่ชายหนุ่มพยุง ธีรดนย์ตั้งใจเลือกห้องพักใกล้ลิฟต์จึงไม่ต้องเดินไกลมากหญิงสาวนอนรอเพื่อให้ปากมดลูกเปิดและปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสามีอยู่ข้างๆ เป็นทั้งคนปลอบใจให้กำลังใจและที่ระบายของตนเพราะบ่อยครั้งที่เธอมักจะจิกเล็บลงบนหลังมือหนาที่กุมมือตนไว้“อื้อ เจ็บจังค่ะ”ยิ่งเห็นดวงหน้าสวยซีดเผือด เหงื่อผุดพราย ทรมานด้วยความเจ็บปวดชายหนุ่มก็ทุรนทุรายตาม เพราะหญิงสาวนอนอยู่แบบนี้มาสามชั่วโมงแล้ว ก้มลงไปจูบหน้าผากมนเช็ดเหงื่อให้ก่อนจะกระซิบ“ฉันจะตามพยาบาลอีกรอบนะ”นิชาดาปล่อยให้ชายหนุ่มไปโดยไม่แย้ง เธอรู้สึกทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ไม่น
ไร่ชาดิฐวัฒน์ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสอากาศบริสุทธิ์แห่งขุนเขา นอนในบ้านท่ามกลางไร่ชาเขียวชอุ่ม มองเห็นเมฆลอยต่ำปกคลุมยอดเขา การเก็บชาก็ได้รับความนิยม มีคนจองคิวเต็มจำนวนในทุกวันนิชาดาที่ออกมาเก็บภาพบรรยากาศวันหยุดเพื่อโพสต์ในเว็บและโซเชียลต่างๆ ของไร่ยืนมองผู้คนที่มีความสุขกับการได้มาไร่นี้อย่างภูมิใจ ตอนนี้นอกจากเพจแล้วเธอเปิดแอคเคาต์โซเชียลของไร่เพิ่มขึ้นจนครบถ้วน เพราะโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในยุคสมัยนี้“ชอบไหมเจ้า”ส้มที่เป็นคนถ่ายภาพให้เธอเปิดกล้องให้ดู ขณะที่นิชาดามากับมธุรินซึ่งยืนเป็นเพื่อนและคอยดูแลเธอที่ท้องแก่ใกล้คลอด ความจริงธีรดนย์ไม่อยากให้หญิงสาวมาทำงานแต่นิชาดาไม่อยากอยู่เฉยๆ การได้ขยับตัวเดินไปเดินมาจะช่วยให้เธอคลอดธรรมชาติได้ง่ายขึ้น หากก็ต้องดูว่าเด็กกลับหัวด้วยหรือไม่เหมือนกัน“อืม ชอบจ้ะ ไปเก็บภาพมุมโน้น ให้เห็นคาเฟ่กับร้านอาหารด้วยนะจ๊ะ”“เจ้า”“พี่ไปกับส้มเองก็ได้ หมอกเข้าไปนั่งพักในคาเฟ่ดีกว่า”มธุรินเอ่ยปากเพราะดูท่าเหมือนภรรยาเจ้าของไร่จะเดินไปอีกไกลกับส้ม“ถ้าอย่างนั้นฝากพี่รินด้วยนะคะ แล้ว
“พอใจหรือยังเมียจ๋า”“อะไรคะ”“ก็รู้แล้วว่าฉันไม่ได้พลาดพลั้งเสียท่าคุณภัทร ฉันเป็นของหมอกคนเดียวมาตั้งแต่จดทะเบียนแล้วไงล่ะ”พร้อมกับถามใบหน้าคมเข้มก็ขยับมาชิด หน้าผากจรดแนบหน้าผากเธอ ส่งสายตาออดอ้อนก่อนจะดันตัวเธอให้ค่อยๆ ถอยไปชิดเตียง แต่เขาทิ้งตัวเองลงหงายหลังแล้วรั้งเธอให้นอนลงไปบนร่างแกร่งนิชาดายิ้มหวาน ไม่ได้ฝืนตัวเพราะตัวเองก็ไม่ได้ขุ่นเคืองอะไร เพียงแค่สงสัยเพราะธีรดนย์ไม่ได้กลับบ้านดึกนัก ยกเว้นช่วงก่อนจัดงานแต่ง“พอใจค่ะ”เธอตอบเสียงเบาชายหนุ่มก็ยิ้มมุมปาก“ผัวเป็นคนดี ไม่วอกแวก รักเมียคนเดียว เมียไม่ให้รางวัลหน่อยเหรอจ๊ะ”คนใต้ร่างอ้อนเสียงทุ้ม แววในดวงตาคู่คมเข้มนั้นหวานฉ่ำจนนิชาดารู้สึกว่าหัวใจตนกำลังละลายไปกับความหวานที่ส่งมาให้“อืม”ปลายนิ้วเรียวไล้วนเหนืออกกว้างพลางทำท่าทีราวครุ่นคิด“อยากได้รางวัลเล็กหรือรางวัลใหญ่คะ”“ชุดใหญ่สิจ๊ะเมียจ๋า”นิชาดาไม่ตอบรับทว่ามือบางเปลี่ยนเป็นลูบแผงอกหนาของคนไม่ใส่เสื้อ แล้วเห็นชายหนุ่มสูดหายใจลึก ยิ่งมือเธอลากลงต่ำ อีกฝ่ายก็ถึงกับกลืนน้ำลายมือนุ่มไม่ได้ต่ำลงไปอย่างที่เขาคาดหวังหากไล้แผ่วเพียงตรงช่วงเอว แต่ชายหนุ่มก็พอใจเพราะร่างหอ
ร่างอรชรออกมายืนหน้าระเบียง มองพระจันทร์ดวงโตผ่านแมกไม้แล้วก็เอาโทรศัพท์ถ่ายก่อนจะอัปโซเชียล ก็มีคนทักและพิมพ์คอมเม้นต์ว่าคิดถึงหลายคน ปกตินิชาดาอัปเดตบ่อยทว่านับแต่มาอยู่ที่นี่ก็ห่างหายเพราะปัญหาต่างๆ ที่รบกวนจิตใจและทุ่มเทความตั้งใจกับงานใหม่ของตน ทั้งยังไม่ได้ตัดวิดีโอที่ถ่ายขณะเดินทางมาไร่ดิฐวัฒน์ด้วย ช่องของเธอพร้อมโซเชียลหยุดเคลื่อนไหวมาสามเดือนแล้ว มานึกขึ้นได้ในตอนนี้ คิดว่าน่าจะพอมีเวลาทำงานตัวเองในวันหยุดได้ เพราะตอนนี้งานในไร่ลงตัวและมีกำหนดปล่อยคลิป Vlog เดือนละครั้ง“จะว่าไป เราไม่เคยชมจันทร์ด้วยกันเลยนะ ออกมาก็น่าจะรอฉันก่อน”เสียงเข้มดังขึ้นและผ้าคลุมที่มาพร้อมการโอบกอดจากด้านหลัง ธีรดนย์คุยงานกับวัชพลนิชาดาก็แวบไปอาบน้ำก่อนแล้วจำได้ว่าเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงซึ่งตนเองยังไม่เคยได้มองดูอย่างจริงจังว่าจะสวยดวงโตแค่ไหน ทั้งยังมีเรื่องให้คิดอยากให้ธรรมชาติยามค่ำคืนช่วยบำบัดความตึงเครียด จึงออกมาหน้าระเบียงในตอนชายหนุ่มอาบน้ำธีรดนย์วางคางบนบ่าเธอ กรุ่นกลิ่นครีมอาบน้ำอบอวลพร้อมไออุ่นจากร่างสูงใหญ่โอบล้อมทำให้หญิงสาวเอนอิงอีกฝ่ายราวต้องการความอบอุ่น“ก็เพราะเอะอะคุณดนย์ก็อุ้มเ
“ฉันเปล่า....”ภัทรดาส่ายหน้าพลางถอยหลังเสียงสั่นมากขึ้น“กลัวทุกคนจะรู้ว่าคุณมาถึงไร่หลังฉันเกิดอุบัติเหตุใช่ไหมคะ”นิชาดาจะไม่ไล่บี้อีกฝ่ายเลยหากเจ้าตัวไม่บอกว่าเธอใส่ร้าย“เธอเกิดเรื่องเมื่อไรฉันก็ไม่รู้ ฉันแค่มาทำงาน ไม่รู้อะไรทั้งนั้น”“ไม่เป็นไร ดูกล้องก่อนแล้วค่อยว่ากัน เพราะผมจำเวลาที่หมอกเกิดเรื่องได้ ถ้าคุณไม่รู้อะไรจริงก็รอให้การณ์กับตำรวจ”“คุณดนย์”คนที่หน้าซีดอยู่แล้วยิ่งตาโต พึมพำพลางถอยหลังช้าๆ“ภัทรไม่ได้ทำนะคะคุณดนย์ ไม่ใช่ภัทรนะ เมียคุณใส่ร้ายภัทร”“ถ้าไม่ได้ทำคุณก็ไม่ต้องกลัวอะไร ไม่ต้องห่วงไปหรอก ตำรวจก็แค่สอบถามเท่านั้น”ยิ่งธีรดนย์เอ่ยถึงตำรวจซ้ำอีกภัทรดายิ่งหวาดกลัวมากขึ้น หญิงสาวรีบหันหลังจะกลับไปขึ้นรถ“ไม่ ภัทรไม่ผิด ภัทรไม่ได้ทำอะไร อย่ามายุ่งกับภัทร”ภัทรดาเหมือนสติหลุดขยับพรวดออกไปราวต้องการหนี ขณะนั้นมีรถคันหนึ่งขึ้นเนินมา ซึ่งก่อนหน้านี้แต่ละคนก็ไม่ทันได้สังเกตสิ่งอื่นเช่นกันเพราะรถของภัทรดาจอดบังทางที่จะเห็นได้ และต่างก็กำลังสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่พอเห็นรถทั้งหมดก็ตะโกนรั้ง“คุณภัทร!”“กรี๊ดดด!”เอี๊ยด!!เสียงรถเบรกดังขึ้นอีกครั้ง ทว่าภัทรดาก็ถูกเ