Home / อื่น ๆ / ตราบาปบริสุทธิ์ / Chapter 5 ไม่น่าจดจำ

Share

Chapter 5 ไม่น่าจดจำ

last update Last Updated: 2025-08-27 08:00:37

อดีตมันคือเรื่องราวของเมื่อวาน..แม้เพิ่งผ่านมาไม่นานจะขอจดจำแต่สิ่งดี                                        บ้านรชนิศภานุพงศ์                                                                   

คุณหญิงขวัญเรียมนั่งถอนหายใจอยู่ที่ห้องรับแขก เมื่อเห็นสภาพของลูกชายที่เหลือเพียงคนเดียวตอนนี้ชยันต์ไม่ต่างอะไรกับศพที่เดินได้ หน้าตาที่เคยหล่อเหลาเวลานี้มันรุงรังไปด้วยหนวดเครา เนื้อตัวที่ซูบผอมเสื้อผ้าที่เคยเนี้ยบ คนรีดต้องใช้เวลาและพิถีพิถันเป็นอย่างดีเขาจึงจะสวมใส่

แต่เวลานี้เขากลับสวมเพียงแค่เสื้อยืดกางเกงยีนที่ไม่ได้ถอดไปซักเป็นเวลาหลายวันแล้ว มันดูมอซอเสียจนผู้เป็นมารดาแทบทนไม่ได้ กลิ่นน้ำเมาส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลคละคลุ้งไปทั่วร่าง แทนน้ำหอมแบรนด์เนมที่เคยใช้ น้ำที่ไม่ได้ไหลชำระล้างผ่านร่างกายมาหลายวันนั้น ทำให้สภาพของเขาเวลานี้ช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว ใครเห็นคงไม่เชื่อแน่ว่าเขาคือนักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อไฟแรง ที่บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่เคยแย่งกันขายขนมจีบ                                                                                           

"ชยันต์แกจะหยุดดื่มได้หรือยังแม่ขอเถอะนะ แม่เหลือแกแค่เพียงคนเดียว อย่าทำให้แม่ต้องเสียใจไปมากกว่านี้อีกเลย" คุณหญิงขวัญเรียมพูดพร้อมกับเดินมานั่งลงข้างๆ ลูกชายที่โซฟา ก่อนที่จะโน้มเขาเข้ามากอดเอาไว้ แล้วลูบปอยผมของชยันต์ด้วยความรัก

 จากนั้นผู้เป็นมารดาได้เอามือปาดน้ำตาที่แก้มของลูกชายออกอย่างอ่อนโยน ต่อให้ลูกชายทำผิดมากแค่ไหน ผู้เป็นมารดาก็อภัยให้ได้เสมอ แม้ว่าสิ่งที่ชยันต์ได้กระทำต่อเขมิกานั้น มันไม่น่าให้อภัยเลยก็ตามที ในเวลานี้คุณหญิงขวัญเรียมก็อดที่จะสงสารลูกชายกับสภาพที่เขากำลังเป็นอยู่ไม่ต่างจากร่างที่ไร้วิญญาณ    

“ฮึกฮือ! ผมขอโทษครับแม่” เสียงร้องไห้ของชายหนุ่มพร้อมกับสะอื้นออกมาเบาๆ บ่งบอกให้รู้ว่าความเจ็บปวดที่เขาได้รับในเวลานี้นั้น มันหนักหนาเพียงใด ไม่มีใครแบ่งเบาความเจ็บปวดนี้ไปได้ เมื่อเขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเขาก็ต้องรับมันไว้เอง                                                          

"แม่ครับผมเลวจนเกินจะให้อภัย ป่านนี้เขมิกาจะเป็นอย่างไรเธอจะอยู่กับใคร"                    

ทำไมแกไม่ออกตามหาเมียแกชยันต์ แกจะจมปลักดื่มเหล้าแบบนี้ไม่ได้นะ การงานแกก็ต้องรับผิดชอบ แกคือผู้สืบทอดธุรกิจจากฉันเพียงคนเดียว ตั้งสติให้มั่นแล้วตามหาเมียแกซะ"                  

ฮึกฮื้อ” เสียงสะอื้นของเขาดังออกมาอีกครั้ง เมื่อนึกถึงเขมิกากับลูกน้อยในครรภ์ ซึ่งเขากลับไม่กล้าบอกกล่าวผู้เป็นมารดาเรื่องลูกให้รับรู้ เพราะชยันต์กลัวว่ามารดาจะเสียใจและรับไม่ได้กับการกระทำของเขา ที่สั่งให้เขมิกาฆ่าลูกในไส้ของตัวเอง คำพูดของแม่มันดูง่าย แต่สำหรับเขาแล้วมันยากยิ่งกว่าการทำกำไรธุรกิจเป็นร้อยล้านเสียอีก เมื่อสิ่งที่เขาทำต่อเขมิกานั้นมันยากเกินกว่าที่เธอจะอภัยให้กับเขาได้                       

เช้าวันใหม่เสียงดังเอะอะโวยวายราวกับว่าบ้านจะถล่มก็ไม่ปาน เสียงของใครกันนั่นคือคำถามของคุณหญิงขวัญเรียม นางไม่รอช้ารีบเดินออกจากห้องแล้วลงบันไดไปด้านล่าง อยากเห็นเหลือเกินแขกที่มาเยือนในเวลานี้เป็นใครกัน ช่างไม่มีมารยาทเสียจริง                                        

"พวกคุณเป็นใครกัน ทำไมถึงได้มาโวยวายที่บ้านของฉันตั้งแต่เช้า"                                     

"อ๋อ..นี่คงเป็นคุณหญิงขวัญเรียมสินะ ลูกชายตัวดีของคุณหญิงไปไหน เรียกมันมาพบผมเดี๋ยวนี้!" ชายสูงวัยพูดจาปนตะคอกราวกับว่าโกรธกันมาแต่ชาติปางก่อน ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะรู้จักกันด้วยซ้ำ                      

"คุณมีอะไรก็ว่ามา พอดีว่าลูกชายดิฉันไม่ค่อยสบายอยู่บนห้อง"     

“หึหึ...” เสียงหัวเราะในลำคอของชายสูงวัยดังขึ้นอย่างน่ากลัว พร้อมกับแววตาที่มองมายังคุณหญิงขวัญเรียมราวกับว่าเป็นศัตรูกัน              

"ไม่สบายหรือหน้าตัวเมียกันแน่ มันทำลูกสาวผมท้อง! ถ้ามันไม่อยากตายก็ให้มันมารับผิดชอบลูกสาวผมซะ!"                          

คุณหญิงขวัญเรียมถึงกับเอามือทาบอกตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ก็ต้องตกใจหนักกว่าเดิมเมื่อพินิจพิเคราะห์ชายสูงวัยตรงหน้า ก่อนจะนึกออกว่าเขาเป็นใคร ตายแน่ๆ เขาเป็นผู้มีอิทธิพลมาก เขาคงไม่ได้ขู่เล่นๆเพราะการฆ่าใครสักคนสำหรับเขามันง่ายกว่าปลอกกล้วยเสียอีก อย่าว่าแต่ฆ่าคนเลย แม้แต่ธุรกิจของชยันต์เขาก็สามารถทำให้มันเจ๊งล้มละลายได้ในพริบตา                                                                                   

“อนงค์ช่วยไปเรียกชยันต์ลงมาหน่อย บอกเขาให้รับรู้ในสิ่งที่เขาได้กระทำไว้แล้วให้รีบลงมา" 

"ผมชื่อทรงพล คุณหญิงคงรู้จักดีคงไม่ต้องแนะนำนะว่าผมเป็นใคร ในทีวีหรือว่าหนังสือพิมพ์ลงข่าวผมออกบ่อย ส่วนนี่คือแชมเปญลูกสาวของผมเธอกำลังตั้งท้องหลานคุณอยู่" แชมเปญมั่นหน้านั่งขาไขว่ห้างตามสไตล์ของสาวนักเรียนนอก เรื่องมารยาทไม่ต้องพูดถึง เธอไม่มีแม้แต่จะยกมือไหว้ผู้เป็นมารดาของสามีในอนาคตด้วยซ้ำ ซึ่งคุณหญิงขวัญเรียมไม่ถูกชะตาในตัวของว่าที่สะใภ้คนนี้เอาเสียเลย                                   

เมื่ออนงค์แม่นมไปบอกกล่าวถึงเรื่องราวทั้งหมดให้กับชยันต์ฟัง เขาต้องแปลกใจเพราะทุกครั้งที่มีอะไรกับผู้หญิงทุกคนเขาจะป้องกันเสมอ มีเพียงเขมิกาเท่านั้นที่เขาตั้งใจทำให้เธอท้องเพื่อแก้แค้นอะไรบ้าๆ นั่น ซึ่งชยันต์รับรู้ถึงบาปกรรมที่มันตามทัน และมันไวยิ่งกว่าจรวดเสียอีก ยิ่งรู้ว่าแชมเปญเป็นลูกของใครทางเลือกของเขามันก็มืดมิด ทางเดียวที่จะทำให้มารดาและธุรกิจไม่เดือดร้อนก็คือการแต่งงานกับแชมเปญเท่านั้น

เมื่อเขาเดินลงไปข้างล่างสิ่งที่เขาพูดทั้งหมดคือการยอมรับทุกอย่าง แม้รู้อยู่เต็มอกว่าแชมเปญกำลังยัดเยียดเด็กในท้องให้เป็นลูกของเขาและงานแต่งก็จะเกิดขึ้นในเร็ววัน เพราะท้องของแชมเปญเริ่มโผล่เห็นได้ชัด นั่นมันยิ่งทำให้เขามั่นใจ เมื่อเปรียบเทียบกับท้องของเขมิกาแล้ว ที่เธอบอกเขาว่าท้องได้สามเดือน มันแตกต่างกันมาก ยิ่งเป็นท้องสาวไม่น่าจะโตขนาดนี้                                                                                       

แชมเปญขยับมานั่งใกล้ๆ พร้อมทั้งคล้องแขนและซบไหล่ออดอ้อนชายหนุ่มอย่างโน้นอย่างนี้ อย่างไม่อายผู้ใหญ่ทั้งสองที่นั่งอยู่ เธอเห็นพวกเขาเป็นเพียงหัวหลักหัวตอเท่านั้น คุณหญิงขวัญเรียมถึงกับเอือมในกิริยาของว่าที่สะใภ้

เดือนต่อมา                                                                

งานแต่งถูกจัดขึ้นภายในโรงแรมหรู ซึ่งข่าวสะพัดไปทั่วทั้งหน้าหนังสือพิมพ์และทีวี ทำให้หญิงท้องแก่ที่กำลังยืนกดเลือกช่องอยู่นั้นถึงกับทรุดนั่งลงอย่างหมดแรง เมื่อคนในข่าวคือเจ้าบ่าวสามีของเธอ เขมิกาจำหน้าผู้หญิงคนนั้นได้ดี ชยันต์เคยพามาค้างที่บ้านหลายหน ทุกครั้งที่ผู้หญิงคนนี้เข้ามา หล่อนมักจะพูดดูถูกดูแคลนและด่าเธอทอเธอสารพัด โดยมีชยันต์คอยให้ท้ายส่งเสริมสนับสนุนผู้หญิงคนนี้ในการทำร้ายจิตใจของเธอ ก่อนที่เขมิกาจะถูกชยันต์เนรเทศออกไปนอนนอกห้อง                

แม้ว่าเธอจะทำใจได้แล้วในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่เมื่อดูข่าวแล้วเห็นใบหน้าเขาอีกครั้ง มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจ เหมือนโดนมีดปักลงไปซ้ำแล้วซ้ำอีก เมื่อครั้งหนึ่งในชีวิตของเขมิกา ตรงที่ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ ที่ตรงนั้นคนที่ยืนเคียงข้างผู้ชายร่างสูงใหญ่มันเคยเป็นที่ของเธอมาก่อน ซึ่งมันเป็นวันคืนที่ดีที่สุดและมีความสุขที่สุดในชีวิตตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มันคือช่วงเวลาเดียวที่น่าจดจำที่สุดสำหรับชีวิตของเธอ เขาปฏิบัติกับเธออย่างอ่อนโยนราวกับเธอเป็นเจ้าหญิงในคืนส่งตัว           

 แต่ใครเล่าจะรู้ถึงความเจ็บปวดที่เขมิกาได้รับ เมื่อยิ่งหนีกลับยิ่งเจอ เธอเป็นคู่จิ้นกับความเจ็บปวดหรืออย่างไร รีโมตในมือถูกยกขึ้นพร้อมกับกดปุ่มปิด ก่อนที่น้ำตาจะไหลอาบแก้มสองข้างอีกครั้ง ในรอบหลายเดือนแต่ครั้งนี้เขมิกาสัญญากับตัวเองว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย ที่เธอจะร้องไห้ให้กับผู้ชายคนนี้ที่ชื่อชยันต์ ผู้ชายที่สั่งฆ่าลูกในท้องของเธอ เขาคือสิ่งที่เธอไม่น่าจดจำอีกต่อไปในชีวิต

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 74 ตอนพิเศษ

    เวลาผ่านไปสามปีกว่า มาเรียมได้ให้กำเนิดลูกสาวคน ชื่อว่ามาติยา ดวงหน้าและแววตาของหนูน้อยมีความคล้ายคลึงเขมิกามารดาของเธอมาก ใครเห็นต่างก็รักและเอ็นดู เพราะมาติยาเป็นเด็กเลี้ยงง่ายไม่งอแง ซึ่งวันนี้เป็นวันหยุด ในช่วงบ่ายแก่ๆ มาเรียมและติณณ์ได้พาลูกสาวไปเล่นกับคุณตาและคุณทวดที่บ้านรชศภานุพงศ์ ส่วนชนัญหลังจากที่บิดาให้ไปเรียนรู้งานกับตุลย์พี่ชายของติณณ์ความใกล้ชิด ทำให้คนทั้งคู่ตกหลุมรักกัน จากนั้นในปีถัดมาคนทั้งสองได้ตกลงปลงใจแต่งงานกัน จนตอนนี้ชนัญตั้งครรภ์ท้องแก่ กำหนดคลอดต้นเดือนหน้านี้แล้ว ซึ่งหญิงสาวยังคงอยู่ที่บ้านรชศภานุพงศ์ เพราะมาเรียมได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านของติณณ์ จึงทำให้พี่ชายของเขาต้องจำใจย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้แทน เนื่องจากชยันต์ไม่ยอมให้ลูกสาวอีกคนย้ายออกไปทางด้านแชมเปญหลังจากที่ชยันต์วิ่งเต้นประกันตัวให้ออกมาห้องขัง หล่อนได้ย้ายออกไปอยู่คอนโดใช้ชีวิตเพียงลำพัง เพราะไม่อยากข้องเกี่ยวกับชยันต์ให้เป็นเวรเป็นกรรมต่อกันอีก แต่ชนัญก็ได้แวะเวียนไปหามารดาของเธอบ่อยๆ เพราะกลัวว่าแชมเปญจะเหงา ที่ต้องไปอยู่อย่างโดเดี่ยวแบบนั้น เพราะตั้งแต่นายทรงพลบิดาของเธอเ

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 73 บทส่งท้าย2

    "คุณสวยมากรู้ตัวหรือเปล่ามาเรียม ตรงนี้เป็นของผม ตรงนี้เป็นของผม และตรงนี้มันก็เป็นของผม ตัวของคุณทุกซอกทุกมุมเป็นของผม เพียงคนเดียว" ติณณ์ใช้สายตากวาดมองเรือนร่างเปลือยเปล่าของภรรยาด้วยความรู้สึกเสน่หา พร้อมกับจับตรงนั้นตรงนี้จนมาเรียมรู้สึกเขินอายแทบจะมุดลงใต้เตียงแล้วในตอนนี้"ผมรักคุณจัง" ติณณ์พูดออกมาพร้อมกับจับมาเรียมนอนราบลงไปกับเตียง ขณะชายหนุ่มได้เข้าไปคร่อมร่างอรชรเอาไว้ ทั้งสองจ้องมองไปที่ดวงตาของกันและกัน ซึ่งเวลานี้มันได้หวานหยาดเยิ้ม ใบหน้าหวานกับเรียวปากอวบอิ่มที่ถูกแต่งแต้มเอาไว้ด้วยลิปสติกสีแดง ทำให้หญิงสาวแลดูเซ็กซี่และเย้ายวนเกินห้ามใจ"มาเรียมก็รักคุณค่ะ" หญิงสาวบอกรักชายตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่เขินอาย เมื่อสายตาคมของเขาจ้องมองลงต่ำไปหยุดที่ทรวงอกเปลือยเปล่าของเธอ"แม่บอกว่าอยากอุ้มหลานแล้ว คืนนี้จัดเต็มนะที่รัก" เสียงทุ้มของชายหนุ่มกระซิบลงไปที่ข้างหูของภรรยา ก่อนที่เขานั้นจะซุกไซ้ใช้ปลายจมูกคม กดลงไปที่ลำคอระหง พร้อมกับพรมจูบลงไป ติณณ์ใช้ปลายลิ้นลากเลียลงมาที่เม็ดบัวอมชมพู พร้อมกับใช้มือเคล้นคลึงเบาๆ"อืม...อ๊า คุณติณณ์ขา" หญิงสาวร้องเรียกชายหนุ่มออกมา เมื่อปลายล

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 72 บทส่งท้าย

    วันเวลาผ่านไป งานแต่งระหว่างมาเรียมกับติณณ์ ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีผู้คนหลายร้อยพันมาเป็นสักขีพยาน ทุกคนล้วนแสดงความยินดีกับคนทั้งคู่ ที่ได้เป็นฝั่งเป็นฝาสมใจสักที ชนัญก็มาร่วมงานนี้ด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องคนละสายเลือด เริ่มสนิทและคุ้นเคยรักกันไม่ต่างพี่น้องแท้ๆ ที่คลานตามกันมา คนที่สุขใจที่สุดเห็นจะเป็นชยันต์บิดาของมาเรียม เมื่อเขานั้นไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าเรื่องราวดีๆ จะเกิดขึ้นกับชีวิตของเขา เมื่อลูกสาวทั้งสองรักใคร่ปรองดองกัน แม้ชนัญจะไม่มีสายเลือดของเขาสักหยด แต่ชยันต์ก็รักไม่ต่างจากมาเรียม เพราะเขาเป็นคนเลี้ยงดูมาแต่อ้อนแต่ออก ส่วนมาเรียมนั้นไม่ต้องบอกเขารักลูกสาวคนนี้ โดยไร้เงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น"ขอให้ทั้งสองครองรักกัน ตราบชั่วนิรันดรขอให้แต่ละวันคืนในชีวิตคู่เป็นวันที่แสนพิเศษ หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะลูก ย่ารักหนูนะมาเรียม" หญิงสูงวัยอวยพรให้กับคู่บ่าวสาว ก่อนที่ทั้งสองจะลงก้มลงกราบที่เท้าด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ"ขอบคุณนะคะคุณหญิงย่า มาเรียมก็รักคุณหญิงย่านะคะ" มาเรียมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับหญิงสูงวัย ด้วยความรู้สึกรัก แม้จะเข้ามาอยู่ในบ้านรชนิศนุพงศ์ได้ไม่นาน แต่ควา

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 71 ความเข้าใจ

    ณ บ้านรชนิศภานุพงศ์วันนี้ชยันต์ได้ออกจากโรงพยาบาล คุณหญิงขวัญเรียมได้จัดแจงให้แม่บ้านทำอาหารไว้ต้อนรับลูกชาย ซึ่งสิ่งที่หญิงสูงวัยมีความสุขมากที่สุด นั่นคือการที่มาเรียมและบิดาได้ปรับความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนชนัญยังคงเก็บตัวเงียบ เธอไม่สนใจโลกภายนอกตั้งแต่วันนั้นที่เกิดเรื่อง ชนัญลงมาทานข้าวแล้วขึ้นห้องเธอทำแบบนี้ตั้งแต่แชมเปญถูกจองจำ และที่น่าสมเพชไปยิ่งกว่านั้น ไม่มีใครไปเยี่ยมมารดาเธอเลยสักครั้ง แชมเปญคงต้องอยู่ในนั้นอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย เหมือนดั่งที่เขมิกาเคยใช้ชีวิตอย่างลำพัง พร้อมกับความยากลำบากแสนเข็ญ คนที่พูดปดมดเท็จไปทั่วแย่งสามีชาวบ้านอย่างแชมเปญ ผลของกรรมเหล่านั้นกำลังจะตามเธอทัน เหมือนดั่งที่เขมิกาเคยได้รับ แต่แชมเปญคงเจ็บปวดกว่าหลายเท่า เมื่อเธอต้องไร้ซึ่งอิสรภาพและต้องตกอยู่ในสถานที่แบบนั้น อีกไม่นานศาลชั้นต้นก็คงจะพิพากษาแชมเปญ ที่มีได้กระทำความผิด แน่นอนเธอคงได้นอนอยู่ในกรงขังนานหลายปี เมื่อไม่มีใครไปประกันตัวซึ่งอีกคนที่ได้รับกรรมครั้งนี้อีกคนคือชนัญ เมื่อเธอรู้ความจริงหมดทุกอย่างแล้วสิ้น ชยันต์ไม่ใช่บิดาแท้ๆ แม้เขาจะดูแลเธอมาทั้งชีวิต และมันคงถึงเวลา

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 70 ความรู้สึกของการมีพ่อ

    ภายใต้ห้องสี่เหลี่ยมที่มีชายวัยกลางคนนอนหลับใหล ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนเขาถึงจะตื่นฟื้นขึ้นมา หมอบอกว่าชยันต์บิดาของเธอพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้มาเรียมคลายความกังวลลงเลยแม้แต่น้อย เมื่อชยันต์ยังคงนอนเป็นผักอยู่แบบนี้มาหลายวันแล้ว"ทานอะไรบ้างสิมาเรียม คุณต้องเข้มแข็งหากคุณอาชยันต์ฟื้นขึ้นมา คุณจะเอาแรงจากไหนมาดูแลพ่อ" คำพูดของติณณ์ไม่ได้เข้ามาอยู่ในหูของมาเรียมเลยสักนิด หญิงสาวยังคงนั่งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย เธอกุมมือผู้เป็นบิดาเอาไว้นานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ จนฝ่ามือของคนทั้งสองเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ“นี่ก็หลายวันแล้ว พ่อควรฟื้นได้แล้วนะคะ ทุกคนเป็นห่วงพ่อมาก มาเรียมเองก็เป็นห่วงอยากให้พ่อกลับมา กลับมาเป็นพ่อของมาเรียมเถอะนะคะ" มาเรียมพูดพร้อมกับเอามือของชยันต์ขึ้นมาแนบไว้ที่แก้มนวลของเธอ ก่อนที่น้ำตาใสๆ จะไหลหยดลงใส่หลังมือของผู้เป็นบิดา สายใยความผูกพันระหว่างพ่อกับลูก คงไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้น แต่มาเรียมกับชยันต์สองพ่อลูกช่างมีอุปสรรคเหลือเกินเมื่อเธอมุ่งแต่จะเอาคืนผู้เป็นบิดา จนลืมนึกถึงความถูกต้อง หญิงสาวเกือบพลั้งมือทำลายบริษัท ที่บิดานั้นเก็บรักษาเอาไว้ให้เธอ แต่นั่นมันก็ไ

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 69 เมื่อความจริงปรากฏ

    ซึ่งความรู้สึกผิดที่มาเรียมมีต่อบิดานั้น ไม่ได้เกิดมาจากการที่เขายกสมบัติอะไรนั่นให้เธอเลยสักนิด แต่มันเกิดจากความรู้สึกผิด ที่บิดานั้นต้องทนทุกข์ทรมานจากการกระทำของเขาที่มีต่อแม่เขมิกามาโดยตลอด แต่พอมาเรียมเดินเข้ามาในชีวิตของชยันต์ ไม่ต่างอะไรกับที่เธอนั้นใช้มีดกรีดลงไปซ้ำที่แผลเดิม"ใจเย็นไม่ร้องนะครับคนดี คุณอาชยันต์ต้องปลอดภัยเชื่อผม แม่เขมิกาคงไม่อยากเอาพ่อของมาเรียมไปอยู่ด้วยหรอก เพราะแม่อยากให้คุณอาชยันต์ดูแลมาเรียมมากกว่า" คำพูดของติณณ์แม้จะเป็นเพียงแค่คำปลอบโยน มาเรียมก็ได้แต่ภาวนาหากดวงวิญญาณมีจริง ก็ขอให้แม่เขมิกาปกป้องให้บิดากลับมาอย่างปลอดภัย เพราะเธอยังมีเรื่องราวอีกมากมายเกี่ยวกับมารดาอยากจะเล่าให้บิดาฟัง ซึ่งเขมิกาก็ไม่เคยให้ใจใครไปเช่นกัน ความรักที่นางมีให้กับชยันต์นั้น มันยังมั่นคงตราตรึงตราบจนนางสิ้นลมหายใจ"พ่อของมาเรียมเป็นคนดี เคยได้ยินไหมคนดีผีคุ้ม ยังไงก็ต้องปลอดภัย" เมฆเพื่อนเพียงคนเดียวที่ไม่เคยทอดทิ้งมาเรียมไปไหนตั้งแต่เล็กจนโต และคงไม่มีใครเป็นเพื่อนแท้เท่าเมฆได้อีกแล้ว แม้ยามสุขหรือยามทุกข์เขาก็มักจะอยู่ข้างๆ มาเรียมเสมอ"ขอบใจมากนะเมฆ" มาเรียมพูดออกมา ขณ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status