Share

Chapter 6 มาเรียม

last update Last Updated: 2025-08-27 08:01:11

บางครั้งความเจ็บปวดมันก็ไม่ได้หมายความว่าเรากำลังทุกข์ เพราะการเจ็บปวดครั้งนี้มันมาพร้อมกับความสุข รถพยาบาลแล่นเข้ามาหน้าตึกทางเข้าห้องฉุกเฉิน โดยมีหญิงท้องแก่นอนปวดท้องอยู่ภายในรถ ก่อนที่เธอจะถูกพยาบาลและบุรุษพยาบาลพาขึ้นรถเข็นเข้าไปยังห้องคลอด                                             

ภายในห้องสี่เหลี่ยมสีขาวเขมิกากำลังนอนรอให้กำเนิดทารกน้อย ความเจ็บปวดและการบีบรัดบวกกับการหดตัวเป็นจังหวะของมดลูกนั้น มันมีความรุนแรงสม่ำเสมอและถี่มากขึ้นเรื่อยๆ เม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นเต็มใบหน้าบวกกับความเจ็บปวดที่บ่งบอกถึงนาทีเป็นนาทีตาย ซึ่งมันเจ็บเกินคำบรรยายใดๆ หากเวลานี้มีบิดาของลูกยืนอยู่ข้างๆ คอยกุมมือให้กำลังใจและซับเหงื่อให้ มันคงจะรู้สึกดีหรืออาจจะบรรเทาความเจ็บปวดลงได้บ้างไม่มากก็น้อย                                                                               

แต่เวลานี้เขมิกากำลังเผชิญกับความเจ็บปวดนี้เพียงลำพัง เมื่อความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากมดลูกหดรัดตัวดีขึ้นเรื่อยๆ นิการู้สึกเจ็บมากที่สุดที่เคยเจ็บมาในชีวิตนี้ ความรู้สึกครั้งนี้ทำให้เธอนึกถึงใบหน้าของผู้เป็นมารดา ในวันนั้นแม่คงเจ็บปวดไม่ต่างอะไรกับเธอในเวลานี้ แต่มารดาก็ยังมีบิดาที่คอยยืนข้างๆ ให้กำลังใจ แต่เธอไม่มีใครอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายถ้าตายก็คงต้องตายคนเดียว

เมื่อความเจ็บปวดเดินทางมาถึงระยะสุดท้ายนั่นคือระยะเบ่ง เขมิการู้สึกเจ็บปวดรุนแรงมากที่สุดกับระยะเกือบชั่วโมงนั้น เมื่อปากมดลูกเริ่มบางและอ่อนนุ่มลงมันหดรัดตัวสม่ำเสมอขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งความหนาของปากมดลูกนั้นหมดไปและเปิดกว้างออกจนถึงสิบเซนติเมตร ศีรษะของทารกน้อยค่อยๆ โผล่ออกมา แต่ทว่าความเจ็บปวดนี้มันมาพร้อมกับความสุขและความปลาบปลื้มปีติยินดี

 เมื่อหมอที่ทำคลอดบอกว่าเธอได้ลูกสาว น้ำตาแห่งความดีใจก็ไหลออกมาอีกครั้งจากตาก็สวยนั่น ความเจ็บปวดนั้นได้มลายหายไปจนสิ้นเมื่อพยาบาลอุ้มลูกน้อยมาวางที่อกหยดน้ำตาใสๆ ที่ไหลออกมานั้นมันคือน้ำตาแห่งความยินดีมากกว่าความเจ็บปวดที่ได้รับ                                                           

"ยินดีต้อนรับสู่โลกกว้างนะสาวน้อยของแม่ หนูมาเรียม แม่ขอตั้งชื่อลูกว่ามาเรียมนะ แม่จะเลี้ยงดูลูกให้เติมใหญ่ จะเป็นทั้งพ่อทั้งแม่เป็นทุกอย่างให้หนูเอง แม่คนนี้จะดูแลหนูเป็นอย่างดี แม่รักหนูจังมาเรียมน้อยของแม่" หญิงสาวพร่ำบอกรักทารกน้อยพร้อมกับน้ำตาคลอ เมื่อลูกคือสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้เธอนั้นอยากอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป                    

เวลาผ่านไปได้สักพัก เขมิกาก็ถูกส่งตัวมายังห้องผู้ป่วย ซึ่งเป็นโซนเด็กและคุณแม่หลังคลอดทั้งหมด ใครเล่าจะรู้ว่าลูกคุณหนูอย่างเธอ จะมาตกระกำลำบากอาศัยรถโรงพยาบาลมาคลอด ซึ่งสถานที่ทำคลอดก็เป็นโรงพยาบาลของรัฐ ห้องพักฟื้นคือห้องรวมที่มีคนหนาตามากพอสมควร นางฟ้าตกสวรรค์อย่างเธอไม่มีสิทธิ์เรียกร้องขอความยุติธรรมใดๆ กับใครทั้งสิ้น สักพักใหญ่ๆ ลัลนาก็ถือของพะรุงพะรังมาเต็มไม้เต็มมือ เดินตรงมาที่เตียง ขณะที่เพื่อนรักอย่างเขมิกากำลังนอนพัก            

"เป็นยังไงบ้างคะคุณแม่คนเก่ง เสียดายที่ติดธุระ ไม่อย่างนั้นคงได้มาช่วยลุ้นถึงห้องคลอด อุ้ย! น่ารักน่าชังจังเลย ผู้หญิงหรือผู้ชายเขม"   "ผู้หญิงจ้ะ เขมตั้งชื่อให้ยัยหนูว่ามาเรียมไพเราะไหม”                 

"ดีจัง น่ารักน่าชังมากหลานฉัน แล้วทำไมถึงตั้งชื่อว่ามาเรียมล่ะ ยังไม่ลืมเขาเหรอ ทำไมต้องตั้งชื่อเหมือนคุณหญิงขวัญเรียมด้วย" ลัลนาเอ่ยถามเพื่อนออกมาด้วยความแปลกใจ                          

"อย่างน้อยคุณหญิงขวัญเรียมท่านก็ดีกับเขมมาก ซึ่งท่านเคยบอกกับเขมเอาไว้ถ้ามีหลานสาวท่านขอให้ตั้งชื่อเด็กคนนั้นว่ามาเรียม เขมก็แค่อยากจะทำตามคำร้องขอของคุณหญิงก็เท่านั้นเอง"              

"อืม..ถ้าเขมออกจากโรงพยาบาลย้ายไปอยู่ชั้นบนนะ นาขอเฮียกับเจ๊ไว้แล้ว ซึ่งนาให้เด็กทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วด้วยเขมเข้าไปอยู่ได้เลย"                                                                            

"แต่เขมเกรงใจเขา เราอยู่ฟรีๆ ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลย เขาไม่ว่าเหรอนา” เขมิกาเอ่ยถามเพื่อนออกมาด้วยความรู้สึกเกรงใจ               

"นี่ใคร ตัวแม่ของที่นั่นเลยนะ!” ลัลนาพูดพร้อมกับชี้นิ้วมาที่ตัวเอง เพื่อให้เพื่อนรักสบายใจได้ เพราะเธอคือคนคุมที่นี่มีหน้าที่หาเด็กให้กับแขกตามแต่แขกจะขอมา ซึ่งลัลนาทำงานได้ดีจนเจ้าของที่นี่เกรงใจและให้เกียรติเธอ ในการตัดสินใจเมื่อลัลนาคือผู้จัดการในสถานเริงรมย์แห่งนี้

"ถ้ายัยหนูโตพอจะเข้าโรงเรียนได้ เขมก็จะออกหางานทำทันที        

"เรื่องนั้นค่อยว่ากันอีกที นาพอมีเงินเก็บอยู่บ้างเดี๋ยวจะเลี้ยงยัยหนูช่วย"                              

"นาเก็บไว้เถอะ ครอบครัวนาก็ตั้งหลายคน เฉพาะพวกเขานาก็รับผิดชอบจะแย่อยู่แล้ว ไหนน้องนาจะเรียนอีก สำหรับยัยหนูมาเรียม เขมพอมีเงินเก็บอยู่บ้างไม่เป็นไรหรอกขอบใจนะ"                                

"ถ้าขาดเหลือยังไงก็บอกแล้วล่ะกัน นาช่วยได้ก็ยินดีช่วยเขมเสมอ เวลานาเดือดร้อนเขมยังไม่เคยทิ้งนาเลย นายังจำได้ดีนะ ตอนที่นาไม่มีเงินไปโรงเรียนไม่มีข้าวกิน เขมเป็นคนเดียวเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่ยื่นมือมาช่วยนา” ทั้งสองส่งสายตาให้กันพร้อมกับจับมือแล้วส่งยิ้มบางๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้กันและกัน ไม่ว่าทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เขมิกาก็ตั้งใจไว้แล้ว สำหรับมาเรียมเธอจะทำทุกอย่าง เพื่อให้เด็กคนนี้มีชีวิตและอนาคตที่ดีให้ได้ ไม่ว่าเธอจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม

บ้านรชนิศภานุพงษ์ หลายเดือนผ่านไปหลังจากที่แชมเปญได้คลอดลูก เธอก็ไม่ได้แยแสหรือดูแลทารกน้อยเลยสักนิด เธอเอาแต่เที่ยวเตร่ไปวันๆ โดยปล่อยให้แม่นมของชยันต์เป็นผู้เลี้ยงและดูแลแทน    

"นี่! แชมเปญ! คุณจะออกไปไหน ดูแลลูกบ้างสิ ไม่ใช่ทำตัวอย่างกับสาวๆ เที่ยวไปวันๆ แบบนี้”           

"โอ๊ย! น่าเบื่อ! จะอะไรกันนักกันหนาก็แค่เด็กคนเดียว แม่บ้านตั้งหลายคนหรือจะจ้างพี่เลี้ยงเพิ่มก็ได้นะ เดี๋ยวแชมเปญจะบอกคุณพ่อให้" หญิงสาวพูดจาโวยวายออกมาด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่กระฟัดกระเฟียด

"มันไม่เกี่ยวกันหรอกแชมเปญ คุณเป็นแม่ ควรจะดูแลให้ความอบอุ่นกับลูกบ้าง ไม่ใช่ออกนอกบ้านทั้งกลางวันและกลางคืนแบบนี้”                   

"คุณไม่ต้องมาสั่งฉัน! ขนาดพ่อของฉันยังไม่เคยว่า หน้าที่ของคุณคืออะไรทำงานหาเงินเข้าบ้านไม่ใช่เหรอ ก็ทำไปสิ! ส่วนเด็กนั่นก็ให้นางพวกนั้นเลี้ยงไป” 

หลังจากพูดจบประโยค แชมเปญพก็เดินกระทืบเท้าปังๆ ออกจากบ้าน แล้วรีบขับรถออกไปทันทีปล่อยให้ชยันต์ยืนถอนหายใจอยู่ตรงนั้น เขากลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับสิ่งที่เธอทำ เมื่อแชมเปญไม่ให้ลูกดูดนมจากเต้าด้วยซ้ำ เพราะกลัวว่ามันจะเสียทรง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 74 ตอนพิเศษ

    เวลาผ่านไปสามปีกว่า มาเรียมได้ให้กำเนิดลูกสาวคน ชื่อว่ามาติยา ดวงหน้าและแววตาของหนูน้อยมีความคล้ายคลึงเขมิกามารดาของเธอมาก ใครเห็นต่างก็รักและเอ็นดู เพราะมาติยาเป็นเด็กเลี้ยงง่ายไม่งอแง ซึ่งวันนี้เป็นวันหยุด ในช่วงบ่ายแก่ๆ มาเรียมและติณณ์ได้พาลูกสาวไปเล่นกับคุณตาและคุณทวดที่บ้านรชศภานุพงศ์ ส่วนชนัญหลังจากที่บิดาให้ไปเรียนรู้งานกับตุลย์พี่ชายของติณณ์ความใกล้ชิด ทำให้คนทั้งคู่ตกหลุมรักกัน จากนั้นในปีถัดมาคนทั้งสองได้ตกลงปลงใจแต่งงานกัน จนตอนนี้ชนัญตั้งครรภ์ท้องแก่ กำหนดคลอดต้นเดือนหน้านี้แล้ว ซึ่งหญิงสาวยังคงอยู่ที่บ้านรชศภานุพงศ์ เพราะมาเรียมได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านของติณณ์ จึงทำให้พี่ชายของเขาต้องจำใจย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้แทน เนื่องจากชยันต์ไม่ยอมให้ลูกสาวอีกคนย้ายออกไปทางด้านแชมเปญหลังจากที่ชยันต์วิ่งเต้นประกันตัวให้ออกมาห้องขัง หล่อนได้ย้ายออกไปอยู่คอนโดใช้ชีวิตเพียงลำพัง เพราะไม่อยากข้องเกี่ยวกับชยันต์ให้เป็นเวรเป็นกรรมต่อกันอีก แต่ชนัญก็ได้แวะเวียนไปหามารดาของเธอบ่อยๆ เพราะกลัวว่าแชมเปญจะเหงา ที่ต้องไปอยู่อย่างโดเดี่ยวแบบนั้น เพราะตั้งแต่นายทรงพลบิดาของเธอเ

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 73 บทส่งท้าย2

    "คุณสวยมากรู้ตัวหรือเปล่ามาเรียม ตรงนี้เป็นของผม ตรงนี้เป็นของผม และตรงนี้มันก็เป็นของผม ตัวของคุณทุกซอกทุกมุมเป็นของผม เพียงคนเดียว" ติณณ์ใช้สายตากวาดมองเรือนร่างเปลือยเปล่าของภรรยาด้วยความรู้สึกเสน่หา พร้อมกับจับตรงนั้นตรงนี้จนมาเรียมรู้สึกเขินอายแทบจะมุดลงใต้เตียงแล้วในตอนนี้"ผมรักคุณจัง" ติณณ์พูดออกมาพร้อมกับจับมาเรียมนอนราบลงไปกับเตียง ขณะชายหนุ่มได้เข้าไปคร่อมร่างอรชรเอาไว้ ทั้งสองจ้องมองไปที่ดวงตาของกันและกัน ซึ่งเวลานี้มันได้หวานหยาดเยิ้ม ใบหน้าหวานกับเรียวปากอวบอิ่มที่ถูกแต่งแต้มเอาไว้ด้วยลิปสติกสีแดง ทำให้หญิงสาวแลดูเซ็กซี่และเย้ายวนเกินห้ามใจ"มาเรียมก็รักคุณค่ะ" หญิงสาวบอกรักชายตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่เขินอาย เมื่อสายตาคมของเขาจ้องมองลงต่ำไปหยุดที่ทรวงอกเปลือยเปล่าของเธอ"แม่บอกว่าอยากอุ้มหลานแล้ว คืนนี้จัดเต็มนะที่รัก" เสียงทุ้มของชายหนุ่มกระซิบลงไปที่ข้างหูของภรรยา ก่อนที่เขานั้นจะซุกไซ้ใช้ปลายจมูกคม กดลงไปที่ลำคอระหง พร้อมกับพรมจูบลงไป ติณณ์ใช้ปลายลิ้นลากเลียลงมาที่เม็ดบัวอมชมพู พร้อมกับใช้มือเคล้นคลึงเบาๆ"อืม...อ๊า คุณติณณ์ขา" หญิงสาวร้องเรียกชายหนุ่มออกมา เมื่อปลายล

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 72 บทส่งท้าย

    วันเวลาผ่านไป งานแต่งระหว่างมาเรียมกับติณณ์ ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีผู้คนหลายร้อยพันมาเป็นสักขีพยาน ทุกคนล้วนแสดงความยินดีกับคนทั้งคู่ ที่ได้เป็นฝั่งเป็นฝาสมใจสักที ชนัญก็มาร่วมงานนี้ด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องคนละสายเลือด เริ่มสนิทและคุ้นเคยรักกันไม่ต่างพี่น้องแท้ๆ ที่คลานตามกันมา คนที่สุขใจที่สุดเห็นจะเป็นชยันต์บิดาของมาเรียม เมื่อเขานั้นไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าเรื่องราวดีๆ จะเกิดขึ้นกับชีวิตของเขา เมื่อลูกสาวทั้งสองรักใคร่ปรองดองกัน แม้ชนัญจะไม่มีสายเลือดของเขาสักหยด แต่ชยันต์ก็รักไม่ต่างจากมาเรียม เพราะเขาเป็นคนเลี้ยงดูมาแต่อ้อนแต่ออก ส่วนมาเรียมนั้นไม่ต้องบอกเขารักลูกสาวคนนี้ โดยไร้เงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น"ขอให้ทั้งสองครองรักกัน ตราบชั่วนิรันดรขอให้แต่ละวันคืนในชีวิตคู่เป็นวันที่แสนพิเศษ หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะลูก ย่ารักหนูนะมาเรียม" หญิงสูงวัยอวยพรให้กับคู่บ่าวสาว ก่อนที่ทั้งสองจะลงก้มลงกราบที่เท้าด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ"ขอบคุณนะคะคุณหญิงย่า มาเรียมก็รักคุณหญิงย่านะคะ" มาเรียมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับหญิงสูงวัย ด้วยความรู้สึกรัก แม้จะเข้ามาอยู่ในบ้านรชนิศนุพงศ์ได้ไม่นาน แต่ควา

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 71 ความเข้าใจ

    ณ บ้านรชนิศภานุพงศ์วันนี้ชยันต์ได้ออกจากโรงพยาบาล คุณหญิงขวัญเรียมได้จัดแจงให้แม่บ้านทำอาหารไว้ต้อนรับลูกชาย ซึ่งสิ่งที่หญิงสูงวัยมีความสุขมากที่สุด นั่นคือการที่มาเรียมและบิดาได้ปรับความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนชนัญยังคงเก็บตัวเงียบ เธอไม่สนใจโลกภายนอกตั้งแต่วันนั้นที่เกิดเรื่อง ชนัญลงมาทานข้าวแล้วขึ้นห้องเธอทำแบบนี้ตั้งแต่แชมเปญถูกจองจำ และที่น่าสมเพชไปยิ่งกว่านั้น ไม่มีใครไปเยี่ยมมารดาเธอเลยสักครั้ง แชมเปญคงต้องอยู่ในนั้นอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย เหมือนดั่งที่เขมิกาเคยใช้ชีวิตอย่างลำพัง พร้อมกับความยากลำบากแสนเข็ญ คนที่พูดปดมดเท็จไปทั่วแย่งสามีชาวบ้านอย่างแชมเปญ ผลของกรรมเหล่านั้นกำลังจะตามเธอทัน เหมือนดั่งที่เขมิกาเคยได้รับ แต่แชมเปญคงเจ็บปวดกว่าหลายเท่า เมื่อเธอต้องไร้ซึ่งอิสรภาพและต้องตกอยู่ในสถานที่แบบนั้น อีกไม่นานศาลชั้นต้นก็คงจะพิพากษาแชมเปญ ที่มีได้กระทำความผิด แน่นอนเธอคงได้นอนอยู่ในกรงขังนานหลายปี เมื่อไม่มีใครไปประกันตัวซึ่งอีกคนที่ได้รับกรรมครั้งนี้อีกคนคือชนัญ เมื่อเธอรู้ความจริงหมดทุกอย่างแล้วสิ้น ชยันต์ไม่ใช่บิดาแท้ๆ แม้เขาจะดูแลเธอมาทั้งชีวิต และมันคงถึงเวลา

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 70 ความรู้สึกของการมีพ่อ

    ภายใต้ห้องสี่เหลี่ยมที่มีชายวัยกลางคนนอนหลับใหล ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนเขาถึงจะตื่นฟื้นขึ้นมา หมอบอกว่าชยันต์บิดาของเธอพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้มาเรียมคลายความกังวลลงเลยแม้แต่น้อย เมื่อชยันต์ยังคงนอนเป็นผักอยู่แบบนี้มาหลายวันแล้ว"ทานอะไรบ้างสิมาเรียม คุณต้องเข้มแข็งหากคุณอาชยันต์ฟื้นขึ้นมา คุณจะเอาแรงจากไหนมาดูแลพ่อ" คำพูดของติณณ์ไม่ได้เข้ามาอยู่ในหูของมาเรียมเลยสักนิด หญิงสาวยังคงนั่งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย เธอกุมมือผู้เป็นบิดาเอาไว้นานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ จนฝ่ามือของคนทั้งสองเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ“นี่ก็หลายวันแล้ว พ่อควรฟื้นได้แล้วนะคะ ทุกคนเป็นห่วงพ่อมาก มาเรียมเองก็เป็นห่วงอยากให้พ่อกลับมา กลับมาเป็นพ่อของมาเรียมเถอะนะคะ" มาเรียมพูดพร้อมกับเอามือของชยันต์ขึ้นมาแนบไว้ที่แก้มนวลของเธอ ก่อนที่น้ำตาใสๆ จะไหลหยดลงใส่หลังมือของผู้เป็นบิดา สายใยความผูกพันระหว่างพ่อกับลูก คงไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้น แต่มาเรียมกับชยันต์สองพ่อลูกช่างมีอุปสรรคเหลือเกินเมื่อเธอมุ่งแต่จะเอาคืนผู้เป็นบิดา จนลืมนึกถึงความถูกต้อง หญิงสาวเกือบพลั้งมือทำลายบริษัท ที่บิดานั้นเก็บรักษาเอาไว้ให้เธอ แต่นั่นมันก็ไ

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 69 เมื่อความจริงปรากฏ

    ซึ่งความรู้สึกผิดที่มาเรียมมีต่อบิดานั้น ไม่ได้เกิดมาจากการที่เขายกสมบัติอะไรนั่นให้เธอเลยสักนิด แต่มันเกิดจากความรู้สึกผิด ที่บิดานั้นต้องทนทุกข์ทรมานจากการกระทำของเขาที่มีต่อแม่เขมิกามาโดยตลอด แต่พอมาเรียมเดินเข้ามาในชีวิตของชยันต์ ไม่ต่างอะไรกับที่เธอนั้นใช้มีดกรีดลงไปซ้ำที่แผลเดิม"ใจเย็นไม่ร้องนะครับคนดี คุณอาชยันต์ต้องปลอดภัยเชื่อผม แม่เขมิกาคงไม่อยากเอาพ่อของมาเรียมไปอยู่ด้วยหรอก เพราะแม่อยากให้คุณอาชยันต์ดูแลมาเรียมมากกว่า" คำพูดของติณณ์แม้จะเป็นเพียงแค่คำปลอบโยน มาเรียมก็ได้แต่ภาวนาหากดวงวิญญาณมีจริง ก็ขอให้แม่เขมิกาปกป้องให้บิดากลับมาอย่างปลอดภัย เพราะเธอยังมีเรื่องราวอีกมากมายเกี่ยวกับมารดาอยากจะเล่าให้บิดาฟัง ซึ่งเขมิกาก็ไม่เคยให้ใจใครไปเช่นกัน ความรักที่นางมีให้กับชยันต์นั้น มันยังมั่นคงตราตรึงตราบจนนางสิ้นลมหายใจ"พ่อของมาเรียมเป็นคนดี เคยได้ยินไหมคนดีผีคุ้ม ยังไงก็ต้องปลอดภัย" เมฆเพื่อนเพียงคนเดียวที่ไม่เคยทอดทิ้งมาเรียมไปไหนตั้งแต่เล็กจนโต และคงไม่มีใครเป็นเพื่อนแท้เท่าเมฆได้อีกแล้ว แม้ยามสุขหรือยามทุกข์เขาก็มักจะอยู่ข้างๆ มาเรียมเสมอ"ขอบใจมากนะเมฆ" มาเรียมพูดออกมา ขณ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status