ตอนที่ 4
รักนี้เกินห้ามใจไหว
ถังซูเจินออกไปนอกจวนโดยบอกมารดาว่าไปพบสหายอย่างเช่นทุกครั้ง แต่ความจริงนางนัดพบกับคุณชายรองเหยียนต่างหาก
รถม้ามุ่งหน้าออกนอกเมืองไปที่โรงน้ำชาเจ้าประจำ สาวใช้ส่วนตัวของหญิงสาวก็ไม่เคยแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปแม้แต่น้อย
เมื่อมาถึงสองนายบ่าวก็ถูกเชิญขึ้นไปยังห้องเดิม เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เห็นคุณชายรองเหยียนป๋อเหวินรออยู่ในห้องแล้ว สาวใช้รู้หน้าที่จึงปิดประตูให้นายสาวก่อนจะลงไปรอด้านล่าง
“น้องซูเจินพี่คิดถึงเจ้ายิ่งนัก” เหยียนป๋อเหวินเข้าไปสวมกอดคนรักของตนทันที
“ปากหวานเสียจริงนะเจ้าคะ” ถังซูเจินเอ่ยพลางตีแขนเขาไปเบา ๆ อย่างเอียงอาย
“จะหวานเท่าปากของเจ้าได้หรือ” เขาเอ่ยพร้อมกับประกบริมฝีปากตนกับริมฝีปากบางของหญิงสาวอย่างหิวกระหาย
“อื้อ!!...อื้ม!!! ดะ เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ” ถังซูเจินเคลิ้มไปเล็กน้อยก่อนจะผลักอกชายหนุ่มออก
“ทำไมล่ะ สามวันที่ไม่ได้พบหน้าพี่คิดถึงเจ้ามากนะรู้หรือไม่” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ใบหน้าก็เริ่มซุกไซร้ที่ซอกคอขาวผ่องแล้วสูดดมกลิ่นกายสาวเข้าไปเต็มปอด
มือไม้เริ่มเลื้อยไปทั่วตัวหญิงสาวจนนางต้องเผลอร้องครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“อื้ม...อ๊า...อย่าใจร้อนสิเจ้าคะ...อุ้ย...ท่านพี่” ถังซูเจินครางเสียงหวานเมื่อมือใหญ่เริ่มล้วงเข้าไปใต้ร่มผ้าพร้อมบีบเคล้นหน้าอกนางอย่างมันมือ
“ทำไมล่ะ พี่คิดถึงเจ้าจะตายอยู่แล้วรู้หรือไม่ วันนั้นที่จวนเจ้าก็เกิดเรื่องขึ้นทำให้เราไม่ได้ออกมาข้างนอกด้วยกันเลย”
เหยียนป๋อเหวินกระซิบเสียงแหบพร่า ตอนนี้น้องชายเขาแข็งจนปวดหนึบไปหมดแล้ว
เขาอยากจะสอดประสานกับร่างกายสาวตรงหน้าเต็มทน ยิ่งภาพตรงหน้าที่หญิงสาวนอนเสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโต๊ะ ยิ่งทำให้อารมณ์กำหนัดเขาพลุ่งพล่าน
“ท่านพี่ก็เป็นแบบนี้ทุกทีนั่นแหละ แต่ข้าก็ชอบท่านที่เป็นเช่นนี้นะเจ้าคะ” เอ่ยพร้อมกับแหวกสาบเสื้อออกอย่างเชิญชวน จนเห็นเนินอกอวบขาวเนียน
“เจ้ายั่วยวนพี่เก่งเหลือเกินนะ” เอ่ยจบก็ก้มลงดูดดื่มดอกบัวตูมตรงหน้าสลับกับขบเม้มเบา ๆ จนมันขึ้นสีระเรื่อ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ยังไม่ทันได้ทำอะไรกันต่อ เสียงเคาะที่หน้าประตูก็ดังขึ้นขัดจังหวะคนทั้งสองเสียก่อน
ทั้งสองชะงักไปเล็กน้อย แต่เพียงครู่เดียวเหยียนป๋อเหวินก็เริ่มซุกไซร้กายสาวต่อ
“เดี๋ยวเจ้าค่ะพี่เหวิน ไม่ออกไปดูหน่อยหรือเจ้าคะ” ถังซูเจินเอ่ยอย่างไม่จริงจังนัก
“ช่างเถอะ ถ้าเราไม่สนใจเดี๋ยวก็ไปเองแหละ” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ผลั๊วะ!!!!
คราวนี้เสียงเคาะตามมาด้วยเสียงกระชากประตูให้เปิดออก ทำให้คนในห้องที่กอดกายกันบนโต๊ะรีบผละออกจากกัน
กรี้ดดดดดดดด!!!!!
ถังซูเจินกรีดร้องอย่างตกใจ เมื่ออยู่ ๆ ก็มีคนเปิดประตูเข้ามาตอนที่นางกับคนรักกำลังทำกิจกรรมเรื่องอย่างว่ากันอยู่
“คุณชายรองเหยียน นี่หรือคือการที่ท่านบอกว่ารักข้าหนักหนาหรือ แล้วนี่มันอะไรกัน!!!” สตรีใบหน้างดงามเอ่ยทั้งน้ำตา สายตาของนางเต็มไปด้วยความผิดหวังและเสียใจ
“ถิงเอ๋อร์!!! เจ้ามาได้อย่างไร!!” เหยียนป๋อเหวินเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก
“หมายความว่าอย่างไรเจ้าคะพี่เหวิน!!” ถังซูเจินเอ่ยถามคนรักอย่างต้องการคำตอบ
“อะ เออ...” ชายหนุ่มอ้ำอึ้งพลางมองสลับไปมาระหว่างสตรีทั้งสองนาง
“จะอะไรเสียอีกล่ะ คุณชายรองเหยียนก็คือคนรักข้านะสิ เขาสัญญากับข้าไว้ว่าหากแต่งเจ้าเข้าจวนแล้ว จะแต่งข้าเป็นฮูหยินรองทันที แถมยังบอกว่ารักข้าเพียงคนเดียว ที่เขาต้องแต่งกับเจ้าเพราะสัญญาหมั้นหมายระหว่างตระกูลเท่านั้น เจ้ารู้เอาไว้ซะ!!!”
ลี่ถิงบุตรสาวคหบดีอันดับแปดของเมืองหลวงตะโกนใส่หน้าถังซูเจินเสียงดังลั่น
เสียงทะเลาะกันของคนบนชั้นสองเรียกให้คนสนใจไม่น้อย จนเริ่มมามุงดูกันเกือบเต็มโรงน้ำชา
แต่คนต้นเรื่องทั้งสามหาได้สนใจไม่ เพราะความโกรธและเสียใจจึงไม่มีใครสนใจสิ่งรอบตัว
“ไม่จริงนะน้องซูเจิน ลี่ถิงเจ้าเอาอะไรมาพูดข้ารักน้องซูเจินเพียงคนเดียว เป็นเพราะเจ้าตามตื้อข้าแล้วข้าไม่สนใจสินะ ถึงได้มาใส่ร้ายข้าต่อหน้าน้องซูเจินเช่นนี้” เหยียนป๋อเหวินแก้ตัวอย่งหน้าด้าน
“พี่ป๋อเหวินท่านกล้าพูดเช่นนี้กับข้าได้อย่างไร ไม่ใช่ท่านหรือที่ดื่มกินของของข้า แถมยังพร่ำบอกว่ารักข้าอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ที่สำคัญเรามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้วนะเจ้าคะ” ลี่ถิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ว่าอย่างไรนะ!! พี่เหวินนางพูดจริงหรือไม่เจ้าคะ” ถังซูเจินเริ่มโกรธ แต่ยังสามารถสงบสติอารมณ์ตนเองไม่ให้อาละวาดต่อหน้าคนรักได้อยู่
“ไม่จริงเลยนะ!!” เสียงเหลียนป๋อเหวิน
“จริงสิ!!” เสียงลี่ถิง
“เรื่องนี้ข้าไม่อาจตัดสินใจได้ แต่ข้าจะรอฟังคำอธิบายที่จวนนะเจ้าคะ” ถังซูเจินเอ่ยตับบท เพราะนางเห็นว่ามีคนมามุงดูกันเยอะแล้ว
นางไม่อยากมีชื่อเสียงเสื่อมเสียก่อนที่จะแต่งเข้าจวนสามีในอีกสามเดือนข้างหน้า
แต่มีหรือที่ลี่ถิงจะปล่อยศัตรูหัวใจไปง่าย ๆ เมื่อถังซูเจินเดินผ่าน นางจึงจิกหัวหญิงสาวไว้ แล้วตบไปเต็มแรงจนถังซูเจินหน้าหันไม่ตามแรงตบ
เพี๊ยะ!!!
“จะหนีไปไหน อย่างไรวันนี้ก็เกิดเรื่องแล้วขอข้าตบให้หายแค้นใจหน่อยเถอะ” ลี่ถิงเอ่ยพร้อมกับขึ้นคร่อมร่างของถังซูเจินไว้ แล้วตบหน้าหญิงสาวไปอีกสามครั้งรวด
เพี๊ยะ!!! เพี๊ยะ!!! เพี๊ยะ!!!
กรี้ด!!!!!!!
เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของถังซูเจินดังระงมไปทั่วชั้นสองของโรงน้ำชา จนได้ยินไปถึงถนนด้านหน้าทำให้เรียกความสนใจจากคนที่ผ่านไปผ่านมาได้มากกว่าเดิม
“หยุดนะลี่ถิง!!!” เหยียนป่อเหวินเข้าไปจับตัวของลี่ถิงให้ออกห่างจากถังซูเจิน ก่อนจะให้บ่าวช่วยจับตัวนางไว้
“พี่เหวินข้าเจ็บจังเลยเจ้าคะ ฮึก!!” ถังซูเจินเอ่ยพร้อมกับซบหน้าที่แผงอกคนรัก
“ไม่เป็นไรนะ เรื่องนี้พี่ไม่ให้มันจบลงง่าย ๆ แน่ พี่จะทวงความเป็นธรรมให้เจ้าเอง” เหยียนป๋อเหวินเอ่ยให้สัญญา
“หึ!! หน้าไม่อาย! ทุกคนมาดูเร็ว มาดูหน้าบุรุษกับสตรีหน้าไม่อายที่แอบมาพลอดรักกันกลางวันแสก ๆ ไม่รู้ว่าในท้องของสตรีนางนี้จะมีเด็กอยู่แล้วหรือยัง เป็นถึงบุตรสาวขุนนางแต่กลับกระทำตนราวกับหญิงคณิกา!!!”
ลี่ถิงตะโกนเสียงดัง ทุกคนที่มุงดูได้ยินเข้าต่างทำหน้าตาตื่น ก่อนจะหันไปซุบซิบกัน
“บุตรสาวขุนนางบ้านใดกันเหตุใดจึงกระทำตนเช่นนี้ มารดาไม่สั่งสอนเลยหรืออย่างไร” เสียงหนึ่งดังขึ้น
“ข้าจำได้นางคือคุณหนูถังซูเจิน บุตรสาวคนรองของท่านรองเจ้ากรมพิธีการกับฮูหยินรอง”
“จริงหรือ!!”
“จริงสิ! ส่วนบุรุษก็คือคุณชายรองเหยียนนั่นไงล่ะ”
“ที่ถอนหมั้นจากคนพี่เป็นคนน้องแทนน่ะรึ”
“ใช่ ๆ”
แล้วเสียงวิพากวิจารณ์ก็เริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ จนถังซูเจินทนไม่ไหววิ่งฝ่าฝูงชนออกไป ตามด้วยสาวใช้คนสนิท
ตอนที่ 7ฮูหยินเอกกับรองย่อมต่างกัน“ท่านย่าอย่าโกรธแม่นมมู่เลยเจ้าค่ะ นางก็เป็นนายคนหนึ่งเหมือนกัน ให้อภัยนางสักครั้งเถอะนะเจ้าคะ”สิ่งที่ถังซูเจียวเอ่ยทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นงุนงง แต่แม่นมมู่ตาโตจนแทบถลนออกมาแล้ว“เจ้าหมายถึงอะไรเจียวเอ๋อร์ บ่าวของฮูหยินรองจะมาเป็นนายของจวนได้อย่างไร” เสิ่นเจียอี๋เอ่ยถามบุตรสาวตัวเองอย่างไม่เข้าใจ“ท่านแม่ก็แม่นมมู่บอกว่านางเป็นคนของฮูหยินรอง จะเดินไปที่ใดในจวนนี้ทุกคนต้องก้มหัวให้ประหนึ่งนางเป็นนายของเรือนคนหนึ่ง”“ว่าอย่างไรนะ!!!” ฮูหยินผู้เฒ่าอุทานอย่างไม่เชื่อหู“ที่ผ่านมาหากลูกพบแม่นมมู่แล้วไม่ก้มหัวให้ข้าก็จะถูกสั่งให้คุกเข่าเป็นการลงโทษเสมอเลยนะเจ้าคะ”นางพูดใส่สีตีไข่ให้ดูเกินจริงมากขึ้น แต่เรื่องที่นางถูกแม่นมมู่สั่งให้คุกเข่าเป็นเรื่องจริง เรื่องนี้บ่าวในจวนหลายคนก็เคยเห็นแต่ไม่มีใครกล้าพูดเท่านั้น“เหลวไหล!! เช่นนี้สินะเจ้าถึงกล้าวิ่งไล่ตีหลานสาวข้า เอานางไปรับโทษตามกฎของจวนเสีย เสร็จแล้วขายนางออกไปบ่าวเช่นนี้ไม่ควรเก็บเอาไว้ในจวน!!”“ทะ ท่านแม่บ่าวของข้าเพียงหลงผิดไปเท่านั้น ท่านแม่โปรดอภัยให้นางสักครั้งเถอะ นางแก่ชราแล้วหากถูกโบยถึงห้าสิบ
ตอนที่ 6แย่งของผู้อื่นไป สุดท้ายก็ไม่ได้ดี ถังซูเจียวนั่งฟังลี่ลี่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเงียบ ๆ เสียงทะเลาะกันของนายท่านของเรือนดังลั่นจนบ่าวไม่ต้องแอบฟังก็ได้ยิน “เมื่อเช้าพ่อบ้านหลี่บอกว่าฮูหยินผู้เฒ่าส่งจดหมายมาแจ้งว่ากำลังเดินทางกลับจวน คาดว่าไม่เกินสองวันคงถึงเจ้าค่ะ” ลี่ลี่รายงาน “อืม...ท่านย่าคงกลับมาเพราะเรื่องของถังซูเจินนั่นแหละ” “คงเป็นเช่นนั้นเจ้าคะ แต่เราทำเช่นนี้มันจะเป็นผลดีหรือเจ้าคะ หากสตรีนางนั้นพูดเรื่องจดหมายขึ้นมา...”ลี่ลี่หมายถึงเรื่องลี่ถิงบุตรสาวคหบดีลำดับที่แปดของเมืองหลวง หรือก็คือหญิงสาวที่เหยียนป๋อเหวินแอบคบหานั่นแหละ ที่นางรู้เพราะในความทรงจำลี่ถิงมักมาแสดงตัวให้รู้เสมอว่าตนมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับอดีตคู่หมั้นตัวเอง แต่ถังซูเจียวคนเก่าโง่เกินไปเลยมองไม่ออก นางละอนาถใจแทนจริง ๆ แล้วเรื่องที่นางให้ลี่ลี่ไปทำคือใช้ให้คนส่งจดหมายให้ลี่ถิงบอกว่าคนรักของนางแอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคู่หมั้นที่โรงน้ำชานอกเมือง แล้วลงท้ายว่าท่านจะทำอะไรก็ลองพิจารณาดู เท่านี้ทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนนาง แต่มีเรื่
ตอนที่ 6แย่งของผู้อื่นไป สุดท้ายก็ไม่ได้ดีถังซูเจียวนั่งฟังลี่ลี่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเงียบ ๆ เสียงทะเลาะกันของนายท่านของเรือนดังลั่นจนบ่าวไม่ต้องแอบฟังก็ได้ยิน“เมื่อเช้าพ่อบ้านหลี่บอกว่าฮูหยินผู้เฒ่าส่งจดหมายมาแจ้งว่ากำลังเดินทางกลับจวน คาดว่าไม่เกินสองวันคงถึงเจ้าค่ะ” ลี่ลี่รายงาน“อืม...ท่านย่าคงกลับมาเพราะเรื่องของถังซูเจินนั่นแหละ”“คงเป็นเช่นนั้นเจ้าคะ แต่เราทำเช่นนี้มันจะเป็นผลดีหรือเจ้าคะ หากสตรีนางนั้นพูดเรื่องจดหมายขึ้นมา...”ลี่ลี่หมายถึงเรื่องลี่ถิงบุตรสาวคหบดีลำดับที่แปดของเมืองหลวง หรือก็คือหญิงสาวที่เหยียนป๋อเหวินแอบคบหานั่นแหละที่นางรู้เพราะในความทรงจำลี่ถิงมักมาแสดงตัวให้รู้เสมอว่าตนมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับอดีตคู่หมั้นตัวเองแต่ถังซูเจียวคนเก่าโง่เกินไปเลยมองไม่ออก นางละอนาถใจแทนจริง ๆ แล้วเรื่องที่นางให้ลี่ลี่ไปทำคือใช้ให้คนส่งจดหมายให้ลี่ถิงบอกว่าคนรักของนางแอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคู่หมั้นที่โรงน้ำชานอกเมือง แล้วลงท้ายว่าท่านจะทำอะไรก็ลองพิจารณาดูเท่านี้ทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนนาง แต่มีเรื่องที่เกินคาดหมายตรงที่ถังซูเจินไม่ได้เป็นอนุ แต่ได้เป็นฮูหยินรอ
ตอนที่ 5จากเอกเป็นรองข่าวลือแผ่กระจายไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็วราวกับไฟลามทุ่ง โรงน้ำชาหรือร้านอาหารที่ใดก็หยิบยกเรื่องคุณชายรองเหยียนป๋อเหวินกับคุณหนูรองถังซูเจินขึ้นมาพูดข่าวลือจากปากต่อปากความจริงก็เริ่มลดลง จนกลายเป็นว่าตอนนี้ถังซูเจินกำลังตั้งท้องลูกของคุณชายรองเหยียนไปเสียแล้วแถมยังบอกว่าทั้งสองแอบลักลอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันตั้งแต่ที่ฝ่ายหญิงยังไม่ได้ปักปิ่นด้วยซ้ำ น่าสงสารพี่สาวอย่างถังซูเจียวที่ไม่รู้เรื่องอะไรแม้แต่น้อยฮูหยินรองได้ยินข่าวลือก็บุกไปหาบุตรสาวที่เรือนทันที ถังซูเจินที่คิดว่าจะทำตัวตามปกติก็ต้องถูกมารดาคาดคั้น จนสุดท้ายต้องยอมเล่าความจริงทุกอย่างออกมา“น่าอับอายยิ่งนัก ข้าสอนให้เจ้าเอาใจบุรุษแต่ใช่ว่าให้เจ้าเอาตัวเข้าแลกเช่นนี้” ฮูหยินรองหว่านผู่เยว่เอ่ยพลางทอดถอนใจนางสอนบุตรสาวเสมอแต่ก็ยังพลาดจนได้ ทั้งที่อุตส่าห์แย่งคู่หมั้นของนังลูกเลี้ยงมาได้แล้วเชียว“ท่านแม่ลูกผิดไปแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ต้องช่วยลูกด้วยนะเจ้าคะ เป็นเพราะนังลี่ถิงคนเดียวที่มันป่าวประกาศออกไปเช่นนั้น” ถังซูเจินเอ่ยขอร้องมารดาทั้งน้ำตา“เจ้าไม่ต้องโทษผู้อื่น หากบิดาเจ้ารู้เรื่องนี้เจ้าตายแน่
ตอนที่ 4รักนี้เกินห้ามใจไหวถังซูเจินออกไปนอกจวนโดยบอกมารดาว่าไปพบสหายอย่างเช่นทุกครั้ง แต่ความจริงนางนัดพบกับคุณชายรองเหยียนต่างหากรถม้ามุ่งหน้าออกนอกเมืองไปที่โรงน้ำชาเจ้าประจำ สาวใช้ส่วนตัวของหญิงสาวก็ไม่เคยแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปแม้แต่น้อยเมื่อมาถึงสองนายบ่าวก็ถูกเชิญขึ้นไปยังห้องเดิม เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เห็นคุณชายรองเหยียนป๋อเหวินรออยู่ในห้องแล้ว สาวใช้รู้หน้าที่จึงปิดประตูให้นายสาวก่อนจะลงไปรอด้านล่าง“น้องซูเจินพี่คิดถึงเจ้ายิ่งนัก” เหยียนป๋อเหวินเข้าไปสวมกอดคนรักของตนทันที“ปากหวานเสียจริงนะเจ้าคะ” ถังซูเจินเอ่ยพลางตีแขนเขาไปเบา ๆ อย่างเอียงอาย“จะหวานเท่าปากของเจ้าได้หรือ” เขาเอ่ยพร้อมกับประกบริมฝีปากตนกับริมฝีปากบางของหญิงสาวอย่างหิวกระหาย“อื้อ!!...อื้ม!!! ดะ เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ” ถังซูเจินเคลิ้มไปเล็กน้อยก่อนจะผลักอกชายหนุ่มออก“ทำไมล่ะ สามวันที่ไม่ได้พบหน้าพี่คิดถึงเจ้ามากนะรู้หรือไม่” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ใบหน้าก็เริ่มซุกไซร้ที่ซอกคอขาวผ่องแล้วสูดดมกลิ่นกายสาวเข้าไปเต็มปอดมือไม้เริ่มเลื้อยไปทั่วตัวหญิงสาวจนนางต้องเผลอร้องครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่“อื้ม...อ๊
ตอนที่ 3 คนไม่ใช่พูดคำเดียวก็มีโทษ“ยังมีหน้ามายิ้มอีก!! เจ้าไม่เห็นหรือว่าน้องสาวเจ้าเสียใจเพียงใด แค่อภัยให้น้องเรื่องเล็กน้อยเท่านี้จะทำไม่ได้เลยเชียวหรือ!!” ผู้เป็นบิดาเอ่ยต่อว่าถังซูเจียว“ท่านพ่อ...ข้ายังไม่ได้ยิ้มเลยนะเจ้าคะ อีกอย่างข้ายังไม่เคยพูดสักคำว่าข้าไม่พอใจที่คุณชายรองเหยียนขอถอนหมั้นข้า แล้วไปหมั้นหมายกับน้องสาวแทน มีแต่พวกเขาสองคนที่พูดกันไปเองทั้งนั้น”คำพูดของถังซูเจียวยิ่งทำให้ผู้เป็นบิดาโกรธมากขึ้นกว่าเดิม จนถึงขั้นเกือบทำร้ายบุตรสาวตรงหน้าไป แต่ดีที่ฮูหยินรองรั้งแขนเอาไว้ได้ทัน“เจ้าจะบอกว่าน้องสาวเจ้ากำลังโกหกหรือ!!!” ถังซีฮั่นตวาดใส่บุตรสาวคนโตเสียงดังลั่น“ท่านพี่ใจเย็นก่อนเถิด คุณชายรองเหยียนก็อยู่ด้วยนะเจ้าคะ” ฮูหยินรองกระซิบเตือนสามีทำให้เขาสงบลงเล็กน้อย“เจ้ากลับเรือนไปสำนึกความผิดตัวเองเสีย ถ้ายังสำนึกไม่ได้อย่าก้าวขาออกจากเรือน!!” ถังซีฮั่นเอ่ย แบบนี้ก็เหมือนเป็นการกักบริเวณนั่นแหละ แค่ไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ เท่านั้น“ขอบคุณท่านพ่อที่สั่งสอนเจ้าค่ะเช่นนั้นลูกขอตัวก่อน น้องรองวันนี้พี่สาวได้เปิดหูเปิดตาแล้ว”ถังซูเจียวทำท่าจะเดินออกจากศาลานั้น แต่หันไปพูดก
ตอนที่ 2น้องสาวผู้เป็นที่รักของบิดาระหว่างนั้นเมย์ในร่างถังซูเจียวก็นั่งรอสาวใช้อยู่ที่ห้องหนังสืออย่างเชื่อฟัง ไม่นานลี่ลี่ก็กลับมาพร้อมหมอแต่ตรวจแล้วก็ไม่เจออะไรก็แน่ละสินางไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อย แค่ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของคนอื่นแค่นั้นเองหมอบอกว่าร่างกายนี้น่าจะเพลียจากการอดนอน และมีความเครียด หมอจึงจัดยาบำรุงให้เอาไว้ต้มกินแล้วหมอก็กลับไป ลี่ลี่จึงพานายสาวกลับเรือน“คุณหนูซูเจียว!!!! คุณหนูซูเจียว!!!!” เสียงเรียกจากหน้าเรือนทำให้ถังซูเจียวคนใหม่กับลี่ลี่มองหน้ากัน นี่นางเพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเองนะ“ลี่ลี่เจ้าออกไปดูหน่อยว่าใครมา” นางบอกลี่ลี่ บ่าวตัวน้อยจึงเดินออกไปดูต่อไปนี้คงต้องทิ้งตัวตนเก่าไปให้หมดแล้วใช้ชีวิตเป็นถังซูเจียวแทน แต่เรื่องความแค้นเก่าก่อนก็ไม่ได้ละทิ้งนะ ถังซูเจียวคนใหม่นี้จะแก้แค้นให้เอง“คุณหนูรองให้มาเชิญคุณหนูไปจิบน้ำชาชมดอกไม้ที่สวนด้วยกันเจ้าค่ะ” ลี่ลี่กลับเข้ามารายงาน“หืม...ปกตินางไม่ชวนข้านี่” จากความทรงจำทุกครั้งถ้าถังซูเจินจะจิบน้ำชาที่สวน นางจะให้บ่าวคอยกันพื้นที่ไว้ไม่ให้ใครเข้าโดยเฉพาะเจ้าของร่างคนเก่า แต่วันนี้มาแปลกคงต้องไปดูเสียหน่อยแล้ว“บ
ตอนที่ 1เกิดใหม่ในร่างสตรีต่างมิติแค่ก! แค่ก! แค่ก! เฮือก!!!เมย์ แม่ค้าสาววัยยี่สิบเจ็ดสำลักบางอย่างก่อนจะสะดุ้งเฮือกเอาอากาศเข้าเต็มปอด คิดว่าจะตายแล้วอีเมย์เอ้ย!!ตอนนี้ฉันก็น่าจะอยู่ที่โรงพยาบาลสินะ คิดพลางมองไปรอบ ๆ แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ในห้องที่คาดว่าเป็นห้องหนังสือ เพราะมองไปรอบ ๆ มีแต่ชั้นหนังสือเต็มไปหมดนี่มันอะไรกัน!! ฉันกำลังฝันอยู่หรือเปล่า เมื่อก้มมองดูชุดที่ตัวเองใส่ก็เป็นชุดจีนโบราณอย่างที่ชอบดูในซีรี่ย์ อย่าบอกว่าฉันทะลุมิติมาอยู่ในร่างคนอื่นนะ แย่แล้วอีเมย์!!!! เธอทรุดตัวลงกับพื้นก่อนจะสลบไปตรงนั้นเพราะรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นในฝันเธอกำลังเดินไปตามทางที่ไหนสักที่ รอบตัวเธอตอนนี้มีแต่ความมืดจนมองไม่เห็นสิ่งรอบข้าง นอกจากทางที่กำลังเดินไปเท่านั้น“เมย์ เมย์ เจ้าได้ยินข้าหรือไม่” เสียงแววหวานของสตรีดังมาจากที่ไหนสักแห่ง“ใครคะ!! ช่วยฉันด้วยค่ะฉันอยู่ตรงนี้!” เมย์รีบร้องขอความช่วยเหลือทันที“เจ้าไม่ต้องตกใจไป เพียงเดินตามทางนี้ไปเจ้าจะปลอดภัยเอง” เสียงนั้นตอบกลับมา“แล้วคุณเป็นใครคะ ฉันมองไม่เห็นคุณเลย” เมย์ตะโกนถามออกไปอีกครั้ง พลางมองซ้ายมอ