บริษัทยักษ์ใหญ่..
“ทางนั้นมาถึงรึยัง” เดนนิสกล่าวถามคนด้านหลังขณะที่กำลังเดินไปทางห้องคุยงาน “คาดว่าอีกห้านาทีคงถึงค่ะ” เลขาสาวที่กำลังเดินตามหลังผู้เป็นนายได้กล่าวตอบ ทั้งสองได้ย่างเข้ามาในห้องคุยงานท่ามกลางบริษัทใหญ่ ก่อนคนร่างใหญ่จะนั่งลงบนเก้าอี้ราคาแพง มือหนายื่นออกไปหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมาอ่าน “นํ้าหอมแบรนด์ดัง..เจ้าของแบรนด์เป็นพรีเซนเตอร์เองทั้งหมด แถมยังขึ้นชื่อว่าเป็นนางแบบชื่อดังในฝรั่งเศส“ ”ใช่ค่ะ ได้ยินมาว่าเธอไม่รับงานอื่น นอกจากพรีเซ็นแบรนด์ตัวเอง“ “อืม..” เดนนิสเผยสีหน้าเข้าใจ ก่อนจะปิดแฟ้มวางไว้ที่เดิม แกร๊ก! ไม่นาน เสียงประตูที่ถูกเปิดออกก็ดังขึ้น นำพาสองคนในห้องหันหน้าไปมอง เมื่อเห็นร่างที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า สีหน้าเดนนิสเปลี่ยนทันที ”ขอโทษที่ให้รอนะคะ..“ หญิงสาวร่างบางเดินเข้ามาพร้อมกล่าวเสียงหวาน ด้วยรอยยิ้มประกบอยู่บนสีหน้า พร้อมกับชายในสูทสีดำที่เดินตามเธอเข้ามา เมื่ออีกคนเห็นว่าเป็นผู้หญิงคนนี้ เขาก็นิ่งเงียบไปทันที ก่อนจะเปล่งราศีเย็นยะเยือกออกมา ”เอ่อ..ไม่เป็นไรเลยค่ะ เชิญคุณพิชชานั่งก่อนค่ะ“ เลขาสาวเห็นว่าบรรยากาศมันไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ จึงตัดสินใจแทรกบทพูดขึ้นมา ทำลายราศีแห่งความอึดอัด พิชชาพยักหน้าเบาๆ พรางหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าเบื้องหน้าคนที่กำลังนั่งหน้านิ่งจ้องมองเธอ หญิงสาวเผยยิ้มบางให้กับคนตรงหน้า พร้อมกล่าวทักทายนํ้าเสียงหวาน ”ไม่เจอกันนานเลยนะคะ คุณเดนนิส..“ ชายร่างสูงหลบสายตา หันมาเปิดแฟ้มงานตรงหน้าพร้อมกล่าวเปลี่ยนหัวข้อหลีกเลี่ยงอีกคน ” เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เรามาเริ่มคุยงานกันดีกว่าครับ“ “เอางั้นก็ได้ค่ะ” “เท่าที่ผมดูข้อมูลคุณ คุณเองก็มีอิทธิพลไม่น้อยเลยนะครับ ทำไมถึงอยากร่วมลงทุนกับผม”เดนนิสกล่าวทั้งที่สายตาไม่ได้จับอยู่บนใบหน้าสง่าเลยแม้แต่นิด ต่างจากพิชชาที่เอาแต่จ้องมองสีหน้าเข้มไม่คลาด ”เพราะว่าบริษัทคุณอยู่ระดับต้นๆในประเทศ ฉันเชื่อว่างานฉันจะก้าวไกลได้มากกว่านี้แน่นอนค่ะ หากได้ร่วมงานกับคุณ“ แม้จะกล่าวออกไปเช่นนั้น แต่มันคือความจริงที่ไหนกัน ก็แค่แต่งเรื่องมาบังหน้าเพื่อจุดประสงค์ที่ว่าจะเอาผู้ชายคนนี้กลับมาครอบครองก็เพียงเท่านั้น เดนนิสเงยมองหน้าพิชชา ทั้งคู่สบตากันไม่ผละ ต่างก็รู้ว่าในใจกำลังคิดอะไรกันอยู่ ก่อนเสียงดังโวยวายจากนอกห้องจะดังทะลุกำแพงเข้ามา ”นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาห้ามฉัน ฉันจะเข้าไปหาเดน!!!“ “ เสียงกรี๊ดร้องที่ทุกคนในบริษัทต่างคุ้นเคย คนในห้องต่างพากันหันมองไปตามต้นเสียง ก่อนประตูบานใหญ่จะถูกเปิดออก พร้อมหญิงร่างอวบรีบวิ่งเข้ามา “เดนขาาาา”ฟางฟางวิ่งแจ้นเข้ามาก่อนจะนั่งลงบนตักแกร่งเดนนิส โดยไม่สนสายตาที่ต่างจ้องมองมาที่ตน ”ขอโทษครับบอส ผมห้ามเธอแล้ว“แดนลูกน้องผู้ภักดีที่รีบตามเข้ามาได้กล่าวขึ้นด้วยสีหน้ารู้สึกผิด ก่อนจะเดินไปประกบข้างเลขาสาว “ฟาง ผมคุยงานอยู่” เอ่ยบอกคนบนตักนํ้าเสียงอ่อนโยนแม้สีหน้าจะเยือกเย็น เมื่อเขารู้ตัวเองว่าหญิงคนรักเก่ากำลังนั่งจ้องอยู่ด้านหน้า “ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่คะ หวังว่าคุณจะเข้าใจนะคะ..” มืออวบคล้องคอหนาพรางหันหน้ามามองพิชชาพร้อมถามออกมาด้วยความมั่นหน้า ทุกคนในห้องรวมถึงเดนนิสหันมองหน้าพิชชา รอคอยกับคำตอบของเธอ เมื่อเห็นเช่นนั้น คนสวยก็ไม่รอช้าที่จะเผยยิ้มหวานออกมา พร้อมเอ่ยปากตอบอย่างนุ่มนวล ”ต้องขอโทษด้วยนะคะคุณผู้หญิง แต่ฉันคงไม่สามารถที่จะเข้าใจได้ เพราะงานคือสิ่งสำคัญสำหรับฉันมาก“ ทุกคนต่างตกใจกับคำตอบของหญิงสาว ยกเว้นเดนนิสที่ยังคงนิ่งเฉย เมื่อคำตอบของพิชชานั้นเด็ดขาดต่างจากรอยยิ้มที่เธอเผยออกมา นี่หรือที่เขาพูดกันว่าตอบโต้ดั่งผู้ดี คิดจะมาต่อกรกับเธอหรอ ฝันต่อไปเถอะ.. ฟางฟางกำหมัดแน่นด้วยเศษหน้าที่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ทว่าไม่ลืมที่จะกดอารมณ์ความแค้นไว้ไม่ให้ทะลุออกมา ร่างอวบรีบหันหน้าเข้าหาชายร่างแกร่งพร้อมสีหน้าอ้อนวอน ”เดนคะ..“ ”ฟาง คุณออกไปก่อน ผมคุยงานอยู่“ได้ยินคำตอบจากชายตรงหน้าเช่นนั้นยิ่งเพิ่มอารมณ์ความร้อนให้กับฟางฟางเป็นเท่า นี่เขากำลังเข้าข้างยัยผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้หรือ ฟางฟางกัดปากเล็กน้อยพรางกลบเกลื่อนสีหน้าด้วยรอยยิ้ม “ก็ได้ค่ะ งั้นคุณรีบออกมาหาฟางนะคะ ฟางจะไปรอด้านนอก”หญิงร่างอวบกล่าวพร้อมยื่นหน้าไปหอมแก้มเดนนิส ก่อนจะเดินออกไปโดยที่ชายหน้านิ่งไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับ ผ่านไปครึ่งชั่วโมง… “บอส คิดดีๆนะครับ หากเราเซ็นสัญญากับคุณพิชชา ทั้งสองฝ่ายจะมีแต่ได้ต่อได้นะครับ”การเจรจางานของทั้งสองฝ่ายผ่านไปด้วยดี แดนผู้ยืนฟังอยู่นานเมื่อเห็นโอกาศก็รีบเดินเข้ามาประกบข้างเจ้านายพร้อมก้มหน้าลงกระซิบเสียงเบา “ผมตกลงเซ็นสัญญากับคุณครับ” “เยส!!”ทันไดที่ได้ยินคำนั้น ต่างก็พากันดีใจโดยเฉพาะแดนที่ตื่นเต้นจนเผลอปากส่งเสียงดังออกมา ดีใจเกินหน้าเกินตามากกว่าพิชชาเสียอีก เดนนิสรีบหันหน้าส่งสายตาดุดันไปยันลูกน้อง ทว่าดูเหมือนแดนจะไม่ได้สนใจ ยังคงยิ้มกริ่มแสดงถึงความดีใจไม่หุบ “งั้นเซ็นเลยมั้ยคะ” หญิงตรงหน้าไม่รีรอ รีบเปิดเอกสารเซ็นสัญญาออกมาอย่างเร่งรีบ “ครับ” มือหนาหยิบปากกาออกมาก่อนจะประทับสัญญาลงไปบนแผ่นกระดาษด้วยความเชี่ยวชาญ”งั้นน้องไปก่อนนะคะ“ พูดเสร็จยื่นหน้าไปหอมแก้มชายคนรักหนึ่งฟอดเป็นการบอกลา ก่อนจะลุกออกจากตักแกร่งทำท่าจะก้าวออกไป ทว่าถูกมือหนาดึงหมับหันกลับมาพรางประกบปากแนบชิดจนเธอไม่ทันได้ตั้งตัว หัวใจกระตุกวูบกับการกระทำของคนเป็นพี่ ดวงตาเบิ่กกว้างในขณะที่โดนเขาบดคลึงริมฝีปากนุ่มอย่างดูดดื่ม ก่อนจะค่อยๆหลับตาลงรับสัมผัสรสชาติความเร่าร้อนที่เขามอบให้ เขาทั้งดูดทั้งเลียพร้อมยังสอดลิ้นสากเข้ามาในโพรงปากนุ่ม ตวัดเลียหยอกล้อกับลิ้นเล็กจนหญิงสาวแทบหายใจไม่ทัน “อื้มม.. แฮกๆ… หายใจไม่ทัน“ เปลือกตาที่ปิดสนิทค่อยๆลืมขึ้นสบตากับเขา เปร่งเสียงพูดกระเส่าแผ่วเบาในขณะที่หอบหายใจสูดอากาศที่ขาดไปเข้าปอด ป๊อก! “โอ้ยยย” ใบหน้านวลบึ้งตึงเปร่งเสียงอุทานร้องเบาๆพรางยกมือขึ้นถูหน้าผากมนที่อยู่ๆก็ถูกเขาดีดเข้ามา “พี่มาดีดน้องทำไม นิสัยไม่ดี!” ฝ่ามือน้อยตบเข้าบนใหล่กว้างแสดงหน้าบึ้ง เพิ่งจูบเสร็จก็มาใช้ความรุนแรง อีตาแก่นิสัยไม่ดี “หึ.. ไปได้แล้ว” ปากหยักได้รูปเผยยิ้มอ่อนพร้อมเสียงขำเบาๆที่เปร่งออกมาจากลำคอด้วยความเอ็นดูในท่าทางยัยแมวป่าสิ้นลาย “ไล่เลยหรอ” อะไรกัน พอได้จูบแล้วก็มาไล่ “จะได้กลับมาหาพี่เร็วๆไงคร
“แปลว่าพี่จะยอมกลับมาคบกับน้องแล้วใช่มั้ยคะ” ถ้อยเสียงหวานปนสะอื้นที่พยายามฮึบจากการร้องไห้เปร่งออกมา ยิ่งเล่นกับหัวใจคนแก่กว่า เอ็นดูยัยแมวป่าตัวน้อยไม่ไหว เดนนิสไม่รอช้ารีบประกบปากจูบแนบชิดพร้อมบดขยี้เรียวปากนุ่มอย่างอดไม่ไหว สอดเรียวลิ้นเข้าไปควานหาความหวานในโพรงปากอุ่นพร้อมดูดดื่มด้วยความโหยหาจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบดังขึ้นทั่วห้อง “พี่ต้องเป็นคนขอสิ น้องมาพูดตัดบทพี่ได้ไง หื้ม” ไม่พูดเปล่า เขาโน้มหน้าลงจุ๊บแก้มนวลด้วยความหมั่นเขี้ยว นำพารอยยิ้มอ่อนหวานของหญิงสาวกลับมา “ไม่ได้สิคะ ตอนนั้นพี่เป็นคนจีบน้อง พี่ก็เลยเป็นคนขอ แต่ตอนนี้น้องเป็นคนจีบ น้องก็ต้องเป็นคนขอสิคะ” คำพูดหญิงสาวทำเอาคนฟังหลุดยิ้มไปด้วย ไม่ว่าเธอจะเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมากเท่าไหร่ ทว่าความน่ารักของเธอที่ทำเขาเอ็นดูทุกครั้งไม่เคยลดลง แถมยังเพิ่มขึ้นมาอีกด้วยซํ้า “คบกันน้องนะคะ สัญญาว่าจะดูแลอย่างทะนุถนอม ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลยค่ะ คบมั้ยคะอดีตที่รัก“ คนสวยไม่พูดเปล่า ใบหน้าจิ้มลิ้มฉีกยิ้มกว้างเหมือนเด็ก ทำคนแก่กว่าหัวใจละลายแทบไม่หลงเหลือ โน้มหน้าลงจุ๊บแก้มนวลฝั่งซ้ายฝั่งขวาด้วยความทะนุถนอม เขาอยากจะรักษาผู้หญิงตรง
เช้าวันใหม่ที่ดูเหมือนจะไร้ความสดใส เมื่อพิชชาย่างเท้าเข้ามาในบริษัทยักษ์ใหญ่ก็พบว่าทุกคนพากันยุ่งอยู่กับงานตัวเอง บรรยากาศรอบๆดูเหมือนจะวุ่นวายไปหมด จนเสียงฝีเท้าส้นสูงก้าวมาถึงชั้นบนสุด ก็เห็นแดนวิ่งวุ่นแก้งานอยู่หน้าห้องเจ้านาย จนหญิงสาวก้าวไปหยุดอยู่ตรงหน้าเพื่อตั้งคำถาม ทว่าดูเหมือนแดนจะเห็นเธอพอดีจึงเอ่ยทักก่อน “อ้าว คุณพิชชา” “เดนอยู่มั้ย” พิชชายิ้มบางตอบรับคำเอ่ยทักของแดน ก่อนจะกล่าวถามออกไปเสียงละมุน “บอสอยู่ในห้องทำงานครับ” พิชชาพยักหน้าเบาๆตอบในเชิงรับรู้ หญิงสาวไม่ได้ต่อคำถามอะไร เพราะดูเหมือนทุกคนจะวุ่นกันใช่ย่อย เธอตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปก็พบกับชายร่างสมส่วนที่ยืนสูบบุหรี่อยู่หน้ากระจกบานทึบที่ฉายถึงวิวดอนเมืองด้านนอก หญิงสาวยืนนิ่งมองดูเขาสักพักก่อนจะก้าวเท้าเดินไปหาเงียบๆ พอเข้าไปไกล้ ควันบุหรี่ที่กระจัดกระจายรอบๆก็เริ่มลอยเข้ามาแตะปลายจมูกมน พิชชาไม่ได้พูดอะไร เดินเข้าไปดึงแท่งบุหรี่ในมือเดนนิสมางับเข้าปากตัวเอง นำพาสติชายร่างสูงที่ยืนเครียดกลับเข้ามา เมื่อหันมองก็ต้องตกใจเมื่อพบกับร่างระหงที่ยืนสำลักควันบุหรี่ตัวเองอยู่ “แค่กๆ“ “พิชชา!!!“ เดนนิสตะคอกเสียงด
รถหรูคันสีดำแล่นเข้ามาจอดระหว่างโซนจอดรถก่อนจะมีชายร่างสมส่วนก้าวขายาวลงมา เดินเข้าไปในบริษัทจึงพบว่ามีบางสิ่งแปลกไป สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เดนนิสหันมองรอบๆก็พบกับพนักงานตนแต่ละคนพากันวุ่นอยู่กับบางอย่าง พอขึ้นมาถึงชั้นบนสุดก็เห็นชายลูกน้องคนสนิทรีบวิ่งแจ้นหน้าตาแตกตื่นพร้อมโวยวายเสียงดังมาหาเขาในทันที “บอสสส บอสหายไปไหนมาทั้งวันครับเนี่ย ผมพยายามติดต่อแทบตายก็ไม่ได้ บริษัทเกิดปัญหาแล้วครับบอส ผมจะแย่อยู่แล้วครับ” แดนบ่นโวยวายถึงผู้เป็นเจ้านายเป็นชุดใหญ่ในท่าทีตื่นตระหนก ทว่าสิ่งที่ได้ตอบรับมาจากบอสหนุ่มคือความมาดนิ่ง “มึงแก้ไม่ได้?” เปล่งคำพูดสั้นๆถามคนเบื้องหน้าเสียงเรียบพรางใช้สายตามองนิ่งจนคนเป็นลูกน้องแทบสดุ้ง ”โถ่บอสสส ผมไม่ใช่ประธานนะครับ“ เมื่อได้รับความอาฆาตจากเจ้านาย จากที่โวยวายอยู่เมื่อครู่ก็อ่อนลงทันที ยกมือขึ้นเกาท้ายทายแก้ความอึดอัดภายในใจ เจ้านายก็น่ากลัว งานก็ยากเกินที่จะแก้ด้วยความสามารถของตน เกิดเป็นแดนนี่มันเหนื่อยสะจริง “อืม“ ชายหนุ่มไม่ปากมาก เปร่งเสียงตอบลูกน้องแสดงถึงการรับรู้เสร็จแล้วก็ก้าวเท้ายาวเดินผ่านแดนให้ยืนหน้ายุ่งอยู่คนเดียว แดนเองเม
“หึ…” คนโดนแหย่ไม่รอช้า หันหน้ามาผลักแม่กวางน้อยให้นอนราบกับเตียง ก่อนจะตามขึ้นไปคล่อมทันที ในขณะที่อยู่ในสภาพเปลือยกายกันทั้งคู่ แล้วยัยกวางน้อยตัวนี้ยังมาทำสีหน้าท่าทางยั่วยวนอารมณ์อีก สงสัยเมื่อคืนคงตอกหนักให้ไม่พอ “อื้ออ ชอบจัง….” ฝ่ามือเนียนลูบไล้ขึ้นลงอยู่แผงอกยันซิคแพคอันเป็นหมัดๆ จงใจส่งสายตายั่วให้เขาหลงตายไ️ปเลย “ฉันมีสองอย่างให้คุณเลือก” ใบหน้านวลเผยยิ้มมุมปากขึ้นมาเล็กน้อยผลอยกับคำพูด “ผมไม่เลือก” คนฟังก็ไม่คิดจะฟังให้จบ กลัวเสียอย่างเดียวคือไม่ได้แกล้งเธอ แม้ปากจะพูดออกไปอย่างนั้น แต่สายตาที่มองหญิงไต้ร่างนี่แพรวพราวหว่านเสน่ห์ซะยิ่งกว่าพิชชาอีกนะพ่อหนุ่ม แต่คนสวยก็ไม่มีท่าทางจะยอมแพ้หรอก แม้ในใจจะกรี๊ดร้องไปกับความเขินจนอยากจะตัวบิดกับดาเมจรุนแรงนี่ ทว่าจะมาเสียท่าให้เขาไม่ได้ ต้องเล่นบทแม่เสือสาวยั่วสวาทเข้าไว้ ”ฟังก่อนสิ หนูจะให้พี่เลือกระหว่างกินหนูก่อน.. กับเอาของขวัญก่อน พี่จะเลือกอันไหนคะ” ไม่เพียงแต่นํ้าเสียงกับสรรพนามที่เปลี่ยน ยังมีการกัดปากล่างเบาๆยั่วคุณชายบนร่างอีกด้วย งานนี้จะมีของขวัญชิ้นไหนแซ่บได้เท่าเธออีก “ของขวัญ” ทว่าคำตอบของเดนนิสกลับตรงกันข้
ปัก ปัก ปัก! “อ่าาส์” ชายหนุ่มคำรามเสียงกระเส่าออกมาเมื่อได้ปลดปล่อยหลั่งนํ้าเข้าสู่ตัวพิชชาจนหมดทุกหยดหยาด ก่อนจะดึงแท่งอาวุธลับออกมาจากร่องสาว เหลือบตามองหญิงสาวจึงเห็นว่าเธอนั้นได้หลับไหลไปในทันทีด้วยความเพลียจากกิจกรรมที่เขาจัดให้เธอต่อเนื่องมาตั้งแต่คํ่าๆจนถึงเวลานี้ที่นาฬิกาเกือบแตะเลขสาม “จึ๊!!“ ยิ่งมองใบหน้านวลนานเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เขานึกคิดถึงเรื่องที่โครตจะแทงใจ เมื่อในหัวกำลังฉายถึงภาพที่ไอ้แอดัมมันจับมือหญิงคนรักเก่าไปจูบ ทำเอาคนที่เพิ่งจะได้ปลดปล่อยดันเกิดอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาเท่าตัว เขาฟุบลงบนอกเนียนพรางแนบหน้าลงดูดอกตูมที่ชี้อยู่ตรงหน้าด้วยความแรงจนเต้านมอันขาวเนียนเกิดเป็นสีแดงจํ้า หนํ่าซํ้าอีกข้างก็โดนเขาบีบขยํ้าเล่นไปพร้อมกันจนเกิดเป็นรอยนิ้วมือ ทว่าคนโดนกระทำนั้นกลับหลับลึกด้วยความเพลียจึงไม่ทำให้เธอรับรู้เลยแม้แต่น้อย จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ! เขาเพิ่มแรงดูดจนยอดทับทิมแข็งเป็นไตขึ้นมาอีกครา ทว่าอารมณ์โทสะกลับไม่ได้ลดน้อยลงเลยสักนิด มิหนําซํ้ายังคิดจะเพิ่มขึ้นยิ่งกว่าเดิมเสียอีก “แม่ง แล้วกูจะหงุดหงิดทำไมวะ!” ผละปากออกจากเต้านมอวบก็ทั้งหงุดหงิดตัวเองกับความรู้สึกที่กำลั