“ยินดีที่ได้ร่วมงานนะคะ” เมื่อเอกสารสัญญาถูกลายมือทั้งสองประทับเสร็จเรียบร้อย พิชชาเผยยิ้มภูมิใจก่อนจะลุกขึ้นยืนกล่าวร่วมพันธมิตร มือเล็กกำลังจะยื่นออกมาเพื่อจับมือกับอีกฝ่าย
“ไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ” คนสวยถึงกับต้องชักมือกลับไว้ที่เดิม เมื่อถูกชายตรงหน้าพูดตัดบทออกมาเสียก่อน สิ้นสุดคำพูด เดนนิสไม่รอช้า สาวเท้ายาวก้าวออกไปในทันที “เดี๋ยวก่อนค่ะคุณเดนนิส“ มีหรือเธอจะยอมจบเยี่ยงนี้ ร่างเล็กรีบตะโกนตามหลัง วิ่งตามออกไป เมื่อเสียงตะโกนเธอดังลั่นออกไปทั่ว คนที่ถูกเรียกก็หยุดเดินต่อ ก่อนจะหันกลับมามองหญิงสาว “มีอะไรรึเปล่าครับ” “คุณพอจะมีเวลาว่างมั้ยคะ พิชอยากชวนคุณไปทานข้าวสักมื้อ เนื่องในโอกาสเพื่อนร่วมงานก็ได้ค่ะ” ปากอวบเม้มเข้ากันแน่นด้วยความประหม่าเล็กน้อย สายตาทอดมองคนตรงหน้าที่จ้องมองเธอด้วยความนิ่งเฉย หวังว่าเขาจะไม่ใจร้ายปฏิเสธเธอ.. “เดนคะ!!” เดนนิสยังไม่ทันได้อ้าปากตอบ ก็มีเสียงอันคุ้นหูดังก้อนเข้ามาแทนเสียก่อน ฟางฟางรีบวิ่งแจ้นเข้ามาเกาะแขนหนา “เดนขาาา ฟางหิวแล้วค่ะ”ทำหน้าทำตาน่าสงสารพร้อมซบหน้าลงบนแขนใหญ่ “ขอโทษนะครับคุณพิชชา ผมคงต้องขอปฏิเสธ” ใบหน้าหล่อหันกลับมามองหญิงสาวที่ยืนนิ่งอยู่เบื้องหน้า พรางกล่าวปฏิเสธเธอออกไปอย่างไม่ไยดี ก่อนจะหันกลับไปยิ้มให้กับร่างที่เกาะอยู่ตรงข้าง “ไปกันครับฟาง เดี๋ยวผมพาไปกินข้าว” “ไปกันค่ะ” ฟางฟางยิ้มดีใจกระชับมือกอดแขนอีกคนแน่นก่อนจะหันหลังเดินออกไปพร้อมกัน ทว่าไม่ลืมที่จะหันหน้ากลับมายิ้มเยาะเย้ยพิชชาที่ยืนมองอยู่ด้านหลัง เหอะ..คิดจะแย่งเดนนิสไปงั้นหรอ กลับบ้านไปนอนฝันเอาเถอะ.. ทุกอย่างบ่งบอกอยู่ที่รอยยิ้มแห่งผู้ชนะที่ประกบอยู่บนใบหน้าฟางฟางหมดแล้ว พิชชากำมือแน่นเก็บอารมณ์ความโกรธเอาไว้ไม่ให้ทะลุออกมา ไม่เช่นนั้นฝ่ามือเล็กเธอคงไปลงอยู่บนหน้ายัยนั่นเสียตั้งแต่หันมายิ้มเย้ยเธอแล้ว “ที่ตรงนั้นจะเป็นของเธออีกไม่นานหรอก ยังไงฉันก็ต้องได้ของฉันคืน..” ดวงตาเธอแน่วแน่มากยิ่งเสียกว่าอะไร มองตามสองคนที่กอดแขนกันเดินออกไป พิชชายืนพึมพำเสียงเบาพร้อมกดความเจ็บปวดลงไปในก้นบึ้งของหัวใจ “คุณพิชจะไปไหนต่อมั้ยครับ” เสียงของทิวที่ยืนอยู่ด้านหลังดังขึ้น ทำให้พิชชาหลุดออกจากภวังค์ “ไปหายัยบรีส..” “ทานข้าวก่อนดีมั้ยครับ ยังไม่ได้ทานอะไรเลย ผมเป็นห่วง“ “ไปทานพร้อมยัยบรีสเอาก็ได้” “เอางั้นก็ได้ครับ” สิ้นสุดบทสนทนา ทั้งคู่เดินออกไปจากบริษัทยักษ์ใหญ่ ก่อนจะมุ่งหน้าไปคอนโดหรูของเพื่อนสนิทพิชชา ที่อยู่ไม่ห่างจากบริษัทมาก คอนโด… “ยัยพิชชช กลับมาก็รีบไปหาผู้ก่อนเลยนะมึง“ ทันทีที่เห็นหน้าเพื่อนสนิท บรีสไม่รอช้ารีบโผล่เข้ากอดพิชชาพรางบ่นเสียงดังจนแก้วหูคนฟังแทบแตก พิชชาถึงกับต้องผละกอดออก “เปล่าสะหน่อย กูไปคุยงาน” “เหอะ ให้อภัยก็ได้ ว่าแต่เป็นไงบ้าง”บรีสกล่าวเสียงเบาลงพร้อมกับสายตาที่ทอดมองหน้าคนสวย พิชชาเมื่อได้ยินคำถามก็นิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะก้มหน้ากล่าวตอบบรีสเสียงแผ่วเบา “ก็…เปลี่ยนไปเยอะเลย เฉยชามากเลยแหละ แล้วดูเหมือนเค้าจะดูแลผู้หญิงคนนั้นดีด้วยนะ..” “ยัยพิช..อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ กูใจคอไม่ดี ไม่สมกับเป็นพิชชาเอาสะเลย“ “หรือกูตัดสินใจผิดตั้งแต่แรก..”พิชชาเม้มปากแน่นเผยสีหน้าอันเคร่งเครียด “อย่าคิดแบบนั้นสิ มึงทำทุกอย่างก็เพื่อเค้านะ เพื่อที่จะได้ยืนอยู่ข้างๆเค้าโดยไม่มีคนกีดกัน แล้วอีกอย่างตอนนี้คุณเดนนิสก็ยอมร่วมงานกับมึงไม่ใช่รึไง”บรีสเองไม่สบายใจ พยายามพูดปลอบใจเธออย่างสุดความสามารถ เมื่อเห็นเพื่อนตัวเองกำลังนั่งเหนื่อยใจกับเรื่องเดิมๆซํ้าๆ “เพราะเค้าเป็นคนแยกแยะระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกต่างหาก” พิชชาถอนหายใจ ดูเหมือนว่าคำปลอบใจของบรีสจะไม่ค่อยเป็นผลสักเท่าไหร่ เมื่อรังสีความโศกเศร้ายังคงไม่เลือนลาง “เอาเถอะน่า อย่าเศร้า เดี๋ยวคืนนี้พาไปปลดปล่อย รับรองว่าความเศร้าของมึงลอยหายไปในอวกาศแน่นอน” บรีสเผยยิ้มร้าย แค่มองหน้าก็รู้ว่ากำลังคิดอะไร ในเมื่อนั่งอยู่เฉยๆแล้วมันกลุ้มใจนัก ก็คงมีวิธีเดียวที่จะช่วยเพื่อนได้ แม้จะเป็นเพียงแค่ชั่วคราว “ขอให้เป็นแบบนั้น” พิชชาเงยหน้าพิงโซฟาพรางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ห้างใหญ่ใจกลางเมือง… “เดนคะ คุณเหม่ออะไร..” ฟางฟางเริ่มสีหน้าไม่ดี เมื่อหันมองอีกคนทีไรก็พบกับใบหน้าหล่อที่ดูเหม่อลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตั้งแต่ออกจากบริษัทมา “เปล่า คุณไปกินข้าวเองเลยนะ เดี๋ยวผมให้แดนตาม ไปดูแล” “แต่ว่า…” “นี่บัตร ใช้ได้ตามที่ต้องการ” เดนนิสรีบกล่าวตัดบทไม่แม้แต่จะให้โอกาศหญิงสาวได้พูดจบ พร้อมยัดบัตรที่มีจำนวนเงินหลากหลายล้านใส่มืออวบ ก่อนจะหันหลังก้าวออกไปทิ้งฟางฟางไว้กลางห้างพร้อมกับลูกน้องคนสนิท ”เดี๋ยวสิคะเดน!!” ฟางฟางตะโกนตามหลังลั่นห้าง ทุกคนรอบๆต่างหันมองนอกจากคนที่เธอตะโกนหา “เหอะ เวรกรรมมาตกที่กูอีก” แดนที่ยืนอยู่ด้านหลังเผยสีหน้าอันเบื่อเต็มทน กรอกตาไปมาพรางบ่นพึมพำ “นี่แก!!” “มีอะไรครับ” “ไปไกลๆฉันเลยนะ เกะกะลูกตา!“ ฟางฟางตะโกนลั่น รวบรวมอารมณ์โทสะที่กำลังลุกเป็นไฟมาลงใส่หน้าแดนจนหมด ”รอคำนี้มานานแล้วครับ กลับบ้านเองนะครับ ขอให้โชคดี“ แดนเผยยิ้มกว้าง ดั่งกับว่าฟ้าเป็นใจ รีบเพ่นหนีออกไปด้วยความเร็วแสง”งั้นน้องไปก่อนนะคะ“ พูดเสร็จยื่นหน้าไปหอมแก้มชายคนรักหนึ่งฟอดเป็นการบอกลา ก่อนจะลุกออกจากตักแกร่งทำท่าจะก้าวออกไป ทว่าถูกมือหนาดึงหมับหันกลับมาพรางประกบปากแนบชิดจนเธอไม่ทันได้ตั้งตัว หัวใจกระตุกวูบกับการกระทำของคนเป็นพี่ ดวงตาเบิ่กกว้างในขณะที่โดนเขาบดคลึงริมฝีปากนุ่มอย่างดูดดื่ม ก่อนจะค่อยๆหลับตาลงรับสัมผัสรสชาติความเร่าร้อนที่เขามอบให้ เขาทั้งดูดทั้งเลียพร้อมยังสอดลิ้นสากเข้ามาในโพรงปากนุ่ม ตวัดเลียหยอกล้อกับลิ้นเล็กจนหญิงสาวแทบหายใจไม่ทัน “อื้มม.. แฮกๆ… หายใจไม่ทัน“ เปลือกตาที่ปิดสนิทค่อยๆลืมขึ้นสบตากับเขา เปร่งเสียงพูดกระเส่าแผ่วเบาในขณะที่หอบหายใจสูดอากาศที่ขาดไปเข้าปอด ป๊อก! “โอ้ยยย” ใบหน้านวลบึ้งตึงเปร่งเสียงอุทานร้องเบาๆพรางยกมือขึ้นถูหน้าผากมนที่อยู่ๆก็ถูกเขาดีดเข้ามา “พี่มาดีดน้องทำไม นิสัยไม่ดี!” ฝ่ามือน้อยตบเข้าบนใหล่กว้างแสดงหน้าบึ้ง เพิ่งจูบเสร็จก็มาใช้ความรุนแรง อีตาแก่นิสัยไม่ดี “หึ.. ไปได้แล้ว” ปากหยักได้รูปเผยยิ้มอ่อนพร้อมเสียงขำเบาๆที่เปร่งออกมาจากลำคอด้วยความเอ็นดูในท่าทางยัยแมวป่าสิ้นลาย “ไล่เลยหรอ” อะไรกัน พอได้จูบแล้วก็มาไล่ “จะได้กลับมาหาพี่เร็วๆไงคร
“แปลว่าพี่จะยอมกลับมาคบกับน้องแล้วใช่มั้ยคะ” ถ้อยเสียงหวานปนสะอื้นที่พยายามฮึบจากการร้องไห้เปร่งออกมา ยิ่งเล่นกับหัวใจคนแก่กว่า เอ็นดูยัยแมวป่าตัวน้อยไม่ไหว เดนนิสไม่รอช้ารีบประกบปากจูบแนบชิดพร้อมบดขยี้เรียวปากนุ่มอย่างอดไม่ไหว สอดเรียวลิ้นเข้าไปควานหาความหวานในโพรงปากอุ่นพร้อมดูดดื่มด้วยความโหยหาจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบดังขึ้นทั่วห้อง “พี่ต้องเป็นคนขอสิ น้องมาพูดตัดบทพี่ได้ไง หื้ม” ไม่พูดเปล่า เขาโน้มหน้าลงจุ๊บแก้มนวลด้วยความหมั่นเขี้ยว นำพารอยยิ้มอ่อนหวานของหญิงสาวกลับมา “ไม่ได้สิคะ ตอนนั้นพี่เป็นคนจีบน้อง พี่ก็เลยเป็นคนขอ แต่ตอนนี้น้องเป็นคนจีบ น้องก็ต้องเป็นคนขอสิคะ” คำพูดหญิงสาวทำเอาคนฟังหลุดยิ้มไปด้วย ไม่ว่าเธอจะเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมากเท่าไหร่ ทว่าความน่ารักของเธอที่ทำเขาเอ็นดูทุกครั้งไม่เคยลดลง แถมยังเพิ่มขึ้นมาอีกด้วยซํ้า “คบกันน้องนะคะ สัญญาว่าจะดูแลอย่างทะนุถนอม ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลยค่ะ คบมั้ยคะอดีตที่รัก“ คนสวยไม่พูดเปล่า ใบหน้าจิ้มลิ้มฉีกยิ้มกว้างเหมือนเด็ก ทำคนแก่กว่าหัวใจละลายแทบไม่หลงเหลือ โน้มหน้าลงจุ๊บแก้มนวลฝั่งซ้ายฝั่งขวาด้วยความทะนุถนอม เขาอยากจะรักษาผู้หญิงตรง
เช้าวันใหม่ที่ดูเหมือนจะไร้ความสดใส เมื่อพิชชาย่างเท้าเข้ามาในบริษัทยักษ์ใหญ่ก็พบว่าทุกคนพากันยุ่งอยู่กับงานตัวเอง บรรยากาศรอบๆดูเหมือนจะวุ่นวายไปหมด จนเสียงฝีเท้าส้นสูงก้าวมาถึงชั้นบนสุด ก็เห็นแดนวิ่งวุ่นแก้งานอยู่หน้าห้องเจ้านาย จนหญิงสาวก้าวไปหยุดอยู่ตรงหน้าเพื่อตั้งคำถาม ทว่าดูเหมือนแดนจะเห็นเธอพอดีจึงเอ่ยทักก่อน “อ้าว คุณพิชชา” “เดนอยู่มั้ย” พิชชายิ้มบางตอบรับคำเอ่ยทักของแดน ก่อนจะกล่าวถามออกไปเสียงละมุน “บอสอยู่ในห้องทำงานครับ” พิชชาพยักหน้าเบาๆตอบในเชิงรับรู้ หญิงสาวไม่ได้ต่อคำถามอะไร เพราะดูเหมือนทุกคนจะวุ่นกันใช่ย่อย เธอตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปก็พบกับชายร่างสมส่วนที่ยืนสูบบุหรี่อยู่หน้ากระจกบานทึบที่ฉายถึงวิวดอนเมืองด้านนอก หญิงสาวยืนนิ่งมองดูเขาสักพักก่อนจะก้าวเท้าเดินไปหาเงียบๆ พอเข้าไปไกล้ ควันบุหรี่ที่กระจัดกระจายรอบๆก็เริ่มลอยเข้ามาแตะปลายจมูกมน พิชชาไม่ได้พูดอะไร เดินเข้าไปดึงแท่งบุหรี่ในมือเดนนิสมางับเข้าปากตัวเอง นำพาสติชายร่างสูงที่ยืนเครียดกลับเข้ามา เมื่อหันมองก็ต้องตกใจเมื่อพบกับร่างระหงที่ยืนสำลักควันบุหรี่ตัวเองอยู่ “แค่กๆ“ “พิชชา!!!“ เดนนิสตะคอกเสียงด
รถหรูคันสีดำแล่นเข้ามาจอดระหว่างโซนจอดรถก่อนจะมีชายร่างสมส่วนก้าวขายาวลงมา เดินเข้าไปในบริษัทจึงพบว่ามีบางสิ่งแปลกไป สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เดนนิสหันมองรอบๆก็พบกับพนักงานตนแต่ละคนพากันวุ่นอยู่กับบางอย่าง พอขึ้นมาถึงชั้นบนสุดก็เห็นชายลูกน้องคนสนิทรีบวิ่งแจ้นหน้าตาแตกตื่นพร้อมโวยวายเสียงดังมาหาเขาในทันที “บอสสส บอสหายไปไหนมาทั้งวันครับเนี่ย ผมพยายามติดต่อแทบตายก็ไม่ได้ บริษัทเกิดปัญหาแล้วครับบอส ผมจะแย่อยู่แล้วครับ” แดนบ่นโวยวายถึงผู้เป็นเจ้านายเป็นชุดใหญ่ในท่าทีตื่นตระหนก ทว่าสิ่งที่ได้ตอบรับมาจากบอสหนุ่มคือความมาดนิ่ง “มึงแก้ไม่ได้?” เปล่งคำพูดสั้นๆถามคนเบื้องหน้าเสียงเรียบพรางใช้สายตามองนิ่งจนคนเป็นลูกน้องแทบสดุ้ง ”โถ่บอสสส ผมไม่ใช่ประธานนะครับ“ เมื่อได้รับความอาฆาตจากเจ้านาย จากที่โวยวายอยู่เมื่อครู่ก็อ่อนลงทันที ยกมือขึ้นเกาท้ายทายแก้ความอึดอัดภายในใจ เจ้านายก็น่ากลัว งานก็ยากเกินที่จะแก้ด้วยความสามารถของตน เกิดเป็นแดนนี่มันเหนื่อยสะจริง “อืม“ ชายหนุ่มไม่ปากมาก เปร่งเสียงตอบลูกน้องแสดงถึงการรับรู้เสร็จแล้วก็ก้าวเท้ายาวเดินผ่านแดนให้ยืนหน้ายุ่งอยู่คนเดียว แดนเองเม
“หึ…” คนโดนแหย่ไม่รอช้า หันหน้ามาผลักแม่กวางน้อยให้นอนราบกับเตียง ก่อนจะตามขึ้นไปคล่อมทันที ในขณะที่อยู่ในสภาพเปลือยกายกันทั้งคู่ แล้วยัยกวางน้อยตัวนี้ยังมาทำสีหน้าท่าทางยั่วยวนอารมณ์อีก สงสัยเมื่อคืนคงตอกหนักให้ไม่พอ “อื้ออ ชอบจัง….” ฝ่ามือเนียนลูบไล้ขึ้นลงอยู่แผงอกยันซิคแพคอันเป็นหมัดๆ จงใจส่งสายตายั่วให้เขาหลงตายไ️ปเลย “ฉันมีสองอย่างให้คุณเลือก” ใบหน้านวลเผยยิ้มมุมปากขึ้นมาเล็กน้อยผลอยกับคำพูด “ผมไม่เลือก” คนฟังก็ไม่คิดจะฟังให้จบ กลัวเสียอย่างเดียวคือไม่ได้แกล้งเธอ แม้ปากจะพูดออกไปอย่างนั้น แต่สายตาที่มองหญิงไต้ร่างนี่แพรวพราวหว่านเสน่ห์ซะยิ่งกว่าพิชชาอีกนะพ่อหนุ่ม แต่คนสวยก็ไม่มีท่าทางจะยอมแพ้หรอก แม้ในใจจะกรี๊ดร้องไปกับความเขินจนอยากจะตัวบิดกับดาเมจรุนแรงนี่ ทว่าจะมาเสียท่าให้เขาไม่ได้ ต้องเล่นบทแม่เสือสาวยั่วสวาทเข้าไว้ ”ฟังก่อนสิ หนูจะให้พี่เลือกระหว่างกินหนูก่อน.. กับเอาของขวัญก่อน พี่จะเลือกอันไหนคะ” ไม่เพียงแต่นํ้าเสียงกับสรรพนามที่เปลี่ยน ยังมีการกัดปากล่างเบาๆยั่วคุณชายบนร่างอีกด้วย งานนี้จะมีของขวัญชิ้นไหนแซ่บได้เท่าเธออีก “ของขวัญ” ทว่าคำตอบของเดนนิสกลับตรงกันข้
ปัก ปัก ปัก! “อ่าาส์” ชายหนุ่มคำรามเสียงกระเส่าออกมาเมื่อได้ปลดปล่อยหลั่งนํ้าเข้าสู่ตัวพิชชาจนหมดทุกหยดหยาด ก่อนจะดึงแท่งอาวุธลับออกมาจากร่องสาว เหลือบตามองหญิงสาวจึงเห็นว่าเธอนั้นได้หลับไหลไปในทันทีด้วยความเพลียจากกิจกรรมที่เขาจัดให้เธอต่อเนื่องมาตั้งแต่คํ่าๆจนถึงเวลานี้ที่นาฬิกาเกือบแตะเลขสาม “จึ๊!!“ ยิ่งมองใบหน้านวลนานเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เขานึกคิดถึงเรื่องที่โครตจะแทงใจ เมื่อในหัวกำลังฉายถึงภาพที่ไอ้แอดัมมันจับมือหญิงคนรักเก่าไปจูบ ทำเอาคนที่เพิ่งจะได้ปลดปล่อยดันเกิดอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาเท่าตัว เขาฟุบลงบนอกเนียนพรางแนบหน้าลงดูดอกตูมที่ชี้อยู่ตรงหน้าด้วยความแรงจนเต้านมอันขาวเนียนเกิดเป็นสีแดงจํ้า หนํ่าซํ้าอีกข้างก็โดนเขาบีบขยํ้าเล่นไปพร้อมกันจนเกิดเป็นรอยนิ้วมือ ทว่าคนโดนกระทำนั้นกลับหลับลึกด้วยความเพลียจึงไม่ทำให้เธอรับรู้เลยแม้แต่น้อย จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ! เขาเพิ่มแรงดูดจนยอดทับทิมแข็งเป็นไตขึ้นมาอีกครา ทว่าอารมณ์โทสะกลับไม่ได้ลดน้อยลงเลยสักนิด มิหนําซํ้ายังคิดจะเพิ่มขึ้นยิ่งกว่าเดิมเสียอีก “แม่ง แล้วกูจะหงุดหงิดทำไมวะ!” ผละปากออกจากเต้านมอวบก็ทั้งหงุดหงิดตัวเองกับความรู้สึกที่กำลั