LOGIN“โห่ ทำไมคืนนี้จัดเต็มจังเลยปั้นหยา” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยแซวเมื่อเพื่อนสาวมาถึงยังที่นัดหมายกันเอาไว้
เทวินทร์ ทัศนจินดา หรือ เวย์ หนุ่มสุดหล่อสุภาพในวัย 28 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนที่เรียนมหา’ลัย ด้วยกันมากับณดารินทร์ ทั้งคู่พึ่งจะโคจรกลับมาเจอกันอีกครั้ง เมื่อ 3 ปีก่อน
เพราะตั้งแต่ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่นี่ไป เทวินทร์ก็ต้องไปศึกษาต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศ ตามคำขอของครอบครัวเพราะว่าเขาเป็นลูกคนเดียวที่ต้องสืบทอด และรับตำแหน่งผู้บริหารงานแทนพ่อของเขา
“มันก็เหมือนทุกคืนที่มาไหมไอ้เวย์ ก็แค่วันนี้สีเจิดจ้าไปหน่อย” หญิงสาวรีบถ่อมตัว เพราะเธอก็แต่งตัวมาแบบนี้เหมือนทุกที ไม่ได้โป๊เปลือยอะไรมาก เพียงแต่คืนนี้สีอาจจะฉูดฉาดมากกว่าทุกครั้งเท่านั้นเอง
“ร้อนแรงเชียวนะ ตั้งใจจะมาอ่อยหนุ่ม ๆ เหรอ” เทวินทร์ได้แต่เย้าแหย่เพื่อนออกไป
“ระดับปั้นหยาแล้ว ยังต้องอ่อยอีกเหรอ แค่ส่งสายตา เหยื่อก็เข้ามาหาแล้ว” ณดารินทร์เอ่ยขึ้นมาอย่างมาดมั่น พร้อมกับส่งสายตาเซ็กซี่ใส่เทวินทร์ อย่างท้าทาย
“เออแม่คนสวย...ฉันละยอมเธอเลยจริง ๆ แต่ทำไมเธอไม่ยอมคบกับฉันวะ” เทวินทร์ได้แต่ยอมให้กับความมั่นของเธอ แล้วเอ่ยถามกลับไปถึงเรื่องในอดีตเมื่อนานมาแล้ว ตั้งแต่ที่เรียนด้วยกัน
“ก็ฉันมองนายเป็นแค่เพื่อนมาตั้งแต่แรกแล้วเวย์ และฉันก็รักนายแบบเพื่อนจริง ๆ คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้อยู่แล้ว” ณดารินทร์ตอบออกไปตามตรง เหมือนทุกครั้งที่เคยตอบ เพราะเธอมองเทวินทร์เป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น ถึงจะผ่านมาหลายปี แต่ความรู้สึกก็ยังคงเป็นเช่นเดิมไม่เคยเปลี่ยน หรือเลื่อนสถานะได้เลย
“จะว่าไป พวกเราเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนนะปั้นหยา เธอว่าไหม” เมื่อเทวินทร์ยอมรับความจริงได้ ในครานั้น เขาก็มีความคิดเปลี่ยนทันที
เขาอยากจะขอบคุณณดารินทร์เสียมากกว่า ที่ปฏิเสธคำขอเป็นแฟนจากเขา ทำให้สถานะเพื่อนของเขาและเธอยังคงยืนยาวถึงทุกวันนี้ ก็เกือบจะ 10 ปีแล้วที่รู้จักกันมา
“...” หญิงสาวได้แต่ขมวดคิ้วเป็นปมอย่างสงสัยในคำพูดของเทวินทร์ ที่ต้องการสื่ออะไรออกมา
“ฉันหมายถึง ว่าเราคบกันเป็นเพื่อนแบบนี้ก็ดีแล้ว เพราะเราได้เจอหน้ากันตลอด หลังจากที่โดนเธอปฏิเสธในตอนนั้น ฉันมาคิดดูแล้ว มันก็ถูกเหมือนที่เธอบอก ว่าสถานะเพื่อนจะอยู่กับเรานานที่สุด ถ้าเราเป็นแฟนกัน หากวันหนึ่งที่เราเลิกกันไป วันนี้เราสองคนอาจจะไม่ได้มานั่งอยู่กันตรงนี้ หรือเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักกันเลยก็ได้” เทวินทร์จึงขยายความ อธิบายให้ณดารินทร์ฟังอย่างชัดเจน
“...” เธอได้แต่พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
“น้อยคู่นักนะ ที่เลิกรากันไป แล้วจะกลับมาเป็นเพื่อนกันได้” เทวินทร์จึงพูดขึ้นมาอีกที
“ทุกวันนี้ฉันยังคิดอยู่ตลอดเลยนะเวย์ หากฉันเจอเขาคนนั้นอีกครั้ง ฉันจะกล้าเผชิญหน้ากับเขาหรือเปล่า” ณดารินทร์เอ่ยขึ้นมาด้วยใบหน้าที่สลดลง เมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา เมื่อ 3 ปีก่อน
ทั้งสองต่างก็เงียบ ไม่มีฝ่ายใดยอมเอ่ยพูดอะไรขึ้นมาอยู่สักพักใหญ่
“ฉันขอถามเธอตรง ๆ นะ ปั้นหยา...” เทวินทร์จึงตัดสินใจถามขึ้นมา เพื่อทำลายความเงียบ
“ถามมาสิ!”
“เธอยังรักเขาอยู่หรือเปล่า” เสียงเรียบนิ่งของเทวินทร์ถามขึ้นมา พร้อมกับจ้องมองเธออย่างรอคำตอบ
“รักแล้วยังไงเหรอเวย์...นี่มันผ่านมาตั้ง 3 ปี แล้วน่ะ ฉันว่าเขาคงลืมฉัน และแต่งงานใหม่ไปแล้ว” ณดารินทร์ก้มหน้าลงขณะที่พูดออกมาตามที่เธอคิดไว้
“หัวใจมันไม่เกี่ยวกับระยะเวลาเลยนะปั้นหยา ถ้าหากวันหนึ่งเขากลับมาหาเธอละ เธอจะทำอย่างไร เธอจะหลบหน้าเขาไปตลอดอย่างนั้นเหรอ ทั้ง ๆ ที่เธอก็ไม่ได้ทำผิดอะไรเลยนะ”
อีกด้าน
“จะกลับแล้วหรือวะ” เจไดถามขึ้นมาทันที เมื่อเห็นนพดลลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“อื้มมม...พอดีมีธุระต่อ อีกสองเดือนเจอกันเว้ย” นพดลพยักหน้ารับ
“คราวนี้ จะมาอยู่อย่างถาวรเลยใช่ไหม” เจไดถามกลับไปอีกที
“...” นพดลไม่เอ่ยรับปากอะไรออกไป เพราะเขาก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน ว่าจะได้กลับมาอยู่อย่างถาวรหรือไม่
เท้ายาวก้าวเดินออกมาจากห้องวีวีไอพีของไนต์คลับ มุ่งหน้าตรงไปยังทางออก โดยที่ไม่ได้สนใจว่าสิ่งรอบข้างที่มีสายตาผู้คนมากมาย มองมาที่ตนเลยแม้แต่น้อย
สำหรับเขา มันเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนมอง เพราะเขามันเป็นจุดเด่น เป็นจุดสนใจของผู้คนอยู่แล้ว ด้วยหุ่นที่สูงโปร่ง กับหน้าตาอันหล่อเหลาที่ตอนนี้มีหนวดเคราขึ้นปกคลุมอยู่ แต่ก็ยังคงความหล่อสมาร์ทอยู่
“โอ้ยยย!!!” เสียงร้องโอดโอยของหญิงสาวดังขึ้นมา เมื่อเดินมาชนเข้ากับร่างสูงจนเกือบจะเซล้ม ดีที่เขาโอบเธอเอาไว้ได้ทันท่วงที ก่อนที่เธอจะล้มไปกองอยู่กับพื้น
“...” ชายหนุ่มกับเงียบ เมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาว ช่างคุ้นหูเขามากเสียเหลือเกิน ถึงแม้จะเป็นเพียงเสียงอุทาน
“ขอโทษคะ...” หญิงสาวรีบขอโทษขอโพยคนร่างสูงที่โอบเอวเธอ โดยที่ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองว่าเจ้าของร่างสูงนั้นคือใคร
“...” ชายหนุ่มยังคงเงียบ และหรี่ตามองคนในอ้อมแขนแกร่งของเขาอย่างพิจารณา
“ขอโทษคะฉะ...” หญิงสาวเอ่ยขอโทษอีกครั้ง ก่อนจะแหงนหน้ามองคนตรงหน้า แต่กลับต้องอ้าปากค้าง เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าที่กอดเธออยู่ตอนนี้เป็นใคร
เธอจำเขาได้ดีไม่เคยลืม ถึงแม้ใบหน้าอันหล่อเหลาที่ตอนนี้มีหนวดเคราขึ้น แต่เธอก็ไม่เคยลืมแววตานี้ได้เลย
“ยะ หยา...” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยเรียกเธอเบา ๆ เขาก็ตกใจไม่น้อยที่ได้เจอเธออีกครั้ง
“...” หญิงสาวกลับเงียบ และพยายามดันตัวออกจากอ้อมกอดของเขา และกำลังจะเดินออกไปจากสถานการณ์ตรงนี้
“เดี๋ยวสิหยา” เขารีบคว้าแขนเธอเอาไว้ก่อน
“คุณคงจะจำคนผิดแล้วคะ ขอตัวนะคะ” หญิงสาวพยายามหาทางเอาตัวรอด
“หยา!”
“ปั้นหยา เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงทุ้มดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเธอ
“ไม่เป็นไรเวย์ เรารีบกลับกันเถอะ ฉันรู้สึกปวดหัว” หญิงสาวรีบหันไปเอ่ยบอกกับชายหนุ่มทันที เมื่อรู้ว่าเขาเป็นใคร และเธอก็ไม่อยากให้เทวินทร์มาเจอกับเขาคนนี้ในตอนนี้ด้วย เพราะเธอไม่พร้อมที่จะตอบคำถามใครตอนนี้ด้วย
“ครับ กลับกัน” เทวินทร์ตอบรับ แล้วคว้าแขนเธอพาเดินออกไปจากตรงนี้ทันที และพยายามจะหรี่ตามองคนร่างสูง แต่ถูกณดารินนทร์ลากออกไปเสียก่อน
บทส่งท้าย(จบ)สามเดือนต่อมา“มีอีกสักคนดีไหมครับ ลูกจะได้โตทันกัน” เสียงนุ่มเอ่ยถาม พร้อมกับสวมกอดผู้เป็นภรรยา เมื่อใกล้ถึงเวลากลับบ้าน แต่ผู้เป็นภรรยายังต้องเคลียร์เอกสาร เขาเลยเข้ามานั่งรอ แต่คงจะไม่ใช่แค่นั่งแล้ว เมื่อวาจาส่อแววพิลึกชอบกล“แต่ยาหยีพึ่งได้แค่สามเดือนเองนะคะ...” เธอรีบเอ่ยบอกเขาไปยาหยี คือลูกสาวของเธอและเขา ที่ตอนนี้อายุได้สามเดือนแล้ว ซึ่งอยู่ในการดูแลเลี้ยงดูด้วยแม่ปิ่นของเธอนั่นเอง เพราะเธออยากจะทำงานต่อ ตอนที่อายุยังน้อย และยังมีแรงทำงาน“ทำได้ตั้งแต่สองเดือนแล้วครับ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกด้วยท่าที ที่เจ้าเล่ห์ เพราะความเป็นหมอ ถึงไม่ใช่หมอสูติ แต่เขาก็รู้ว่าเวลาไหนที่ควรมีเพศสัมพันธ์หลังจากที่ฝ่ายหญิงคลอดบุตร“ทำไมพี่หื่นแบบนี้ละคะ ที่นี่โรงพยาบาลนะ” เธอเอ็ดเขาออกไปทันที เมื่อเขาทำกิริยาหื่นห่ามดั่งหิวโซใส่เธอ“เห็นหุ่นเมียแล้วหื่นครับ อยากกินนม แล้วอีกอย่างไม่มีกฎห้ามผัวเมียเอากันที่โรงพยาบาลด้วย” เขาตอบเธอด้วยท่าทีที่กวน ๆ แล้วลูบไปที่หน้าอกหน้าใจอันใหญ่โตของเธอ เพราะพึ่งเป็นคุณแม่หลังคลอดมา“แต่” เสียงกระเส่า พร้อมกับท่าที ที่เป็นกังวล“อย่าขัดพี่เลยนะครับ เพราะห
ต้อนรับสมาชิกใหม่ณดารินทร์คุณแม่วัยสาว ในช่วงอายุครรภ์เข้าสู่เดือนที่เก้า วันนี้หญิงสาวไม่ได้มาทำงานที่โรงพยาบาลแล้ว เพราะสามีให้อยู่ที่บ้านรอเตรียมตัวเป็นคุณแม่ตั้งแต่อายุครรภ์เข้าสู่เดือนที่แปดแต่วันนี้เขาดันมีเคสผ่าตัดฉุกเฉินด่วน ทั้งที่เขาวางมือจากการผ่าตัดมานานแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นเคสแรกของเขาอีกครั้ง ทำให้เขาเครียดอยู่ไม่น้อย“ป้านีคะ วันนี้ทำไมบ้านเงียบจัง ทุกคนไปไหนกันหมด” ร่างอุ้ยอ้ายเดินเข้ามาถามสุนีย์ เมื่อเห็นว่าวันนี้บ้านดูเงียบกว่าทุกวัน“พอดีพวกคนสวนออกไปทำธุระให้คุณนพ แล้วรถเกิดมีปัญญา คนที่อยู่เลยต้องเอารถไปเปลี่ยน คุณหนูปั้นหยา มีอะไรหรือเปล่าคะ” สุนีย์ตอบออกไปตามตรง“หยาแค่เหงาค่ะ ไม่มีอะไรให้ทำ แล้วนุชละคะป้าไปไหน”“นางนุชมันก็อยู่มหา'ลัยยังไงละคะ เพราะยังไม่ถึงวันหยุดเสาร์อาทิตย์เลย”“จริงสิ วันนี้ก็เป็นวันแรกของสัปดาห์เอง นี่หยาขี้ลืมขนาดนี้เลยหรือคะป้านี”“ไปนั่งพักนะคะ ดูสิแขนขาคุณเริ่มบวมขึ้นมาเยอะแล้ว” สุนีย์จึงเดินเข้าไปหาร่างอุ้ยอ้ายเพื่อช่วยประคองเธอไปนั่ง“หยานอนจนเบื่อแล้ว ป้านีมีอะไรให้หยาช่วยไหมคะ” แต่เธอกลับค้านขึ้น แล้วหันมาถามทางสุนีย์“คุณไม่ต้องท
เริ่มต้นใหม่กับคนเดิมสองเดือนต่อมา“คุณปั้นหยา คุณหมอนพ สวัสดีคะ” เหล่าบรรดาบุคลากรที่โรงพยาบาลต่างกล่าวทักทาย เมื่อเห็นทั้งคู่เดินเข้ามาพร้อมกันในเช้านี้“ไม่คิดจะบอกพวกท่านหน่อยเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมา เมื่อเดินเข้ามาในลิฟต์ตัวเดียวกันกับคนทั้งคู่นพดลและณดารินทร์ต่างมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่ทินกรพูด ว่าพี่ชายหมายถึงเรื่องอะไร“ตัวแสบ หมอนพ ทั้งสองตามมาที่ห้องผมหน่อยครับ” ทินกรเอ่ยบอก เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก เมื่อถึงชั้นเป้าหมาย และเดินนำหน้าคนทั้งคู่ไปทันที“พี่ทีมมีอะไรหรือคะ...” เธอถามพี่ชายออกไปทันที เมื่อเข้ามาภายในห้องพักส่วนตัวของทินกร“ทำไมท้อง แล้วไม่ยอมบอกกับทุกคนเลย ตัวแสบ!” เสียงทุ้มดุน้องสาวออกมาทันที เพราะความเป็นห่วงรู้ว่าเธอเคยเป็นอะไรมาก่อน“ก็จะบอกอยู่คะ แค่ยังไม่ถึงเวลา หยาอยากเก็บเอาไว้เซอร์ไพรส์คุณพ่อ” ณดารินทร์เอ่ยบอกพี่ชายออกไปอย่างรู้สึกผิด เมื่อโดนพี่ชายดุ เพราะนาน ๆ ครั้ง ที่ทินกรถึงจะกล้าดุเธอคราวนี้คงจะโกรธและเป็นห่วงเธอมากถึงกล้าดุแบบนี้“ต้องรอเวลาไหนอีกปั้นหยา อย่าลืมนะว่าเราเคยเจออะไรมาก่อน ทุกคนเขาเป็นห่วงน่ะ” เสียงเข้มเอ็ดเธออีกครั้ง“หยาขอ
อย่ามาท้าทาย“อื้อออ”มือหนาจับขาทั้งสองข้างของเธอขึ้นมาเกี่ยวที่เอวของ แล้วอุ้มเธอขึ้นมาในท่าอุ้มแตง โดยที่ไม่ได้ถอดถอนตัวตนที่ยังแช่อยู่ในร่องฉ่ำออกเลย“เสื้อผ้า!” เธอเอ่ยบอกทันที ก่อนที่เขาจะได้ก้าวขาขึ้นบันได“เดี๋ยวค่อยลงมาเก็บ” เสียงทุ้มตอบ พร้อมกับใบหน้าที่เฉยเฉย“ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวพี่วิทย์เข้ามาเจอ หยาอายนะ” เธอเอ่ยย้ำอีกอีกครั้ง เพราะเธอกลัวว่าคนอื่น ๆ จะเข้ามาเห็นในตอนเช้า แล้วคนที่บ้านนี้จะมองเธอแบบไหนเขาจึงยอมทำตามที่เธอบอก เพราะไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งของเธอ รีบย่อตัวลงเก็บเสื้อผ้าของเธอและของเขามากอดเอาไว้ โดยที่ยังอุ้มเธออยู่ในท่าเดิมท้าวยาวก้าวขึ้นบันไดอย่างช้า ๆ เพราะเกรงว่าจะพาคนที่อุ้มอยู่ตก ถึงแม้ว่าเธอจะตัวเล็กกว่าเขา แต่ก็กลัวตกอยู่ดีปัง!เสียงปิดประตูที่ดังขึ้นมา หลังที่ทั้งคู่เข้ามาถึงยังห้องนอน เขาทิ้งเสื้อผ้าที่หอบเอามาลงอย่างไม่สนใจ แล้วมานั่งลงที่โซฟา โดยที่มีเธอนั่งทับทาบตัวตนของเขาอยู่“เริ่มเลยนะ”เธอเอ่ยบอก พร้อมกับเริ่มขยับเคลื่อนตัวอยู่บนตักของเขา โดยเริ่มจากจังหวะหมุนควงเนิบนาบอย่างเชื่องช้า เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของคนทั้งคู่ ตับ ตับ ตับและเริ่มเพิ่มจั
ร่วมแสดงความยินดีสองสัปดาห์ต่อมางานแต่งของเทวินทร์กับอัยญ์วารินทร์ก็ถูกจัดขึ้นมาอย่างอลังการใหญ่โตสมกับฐานะของฝ่ายชาย ที่เป็นทายาทเพียงคนเดียว โดยภายในงานเต็มไปด้วยแขกเหรื่อมากหน้าหลายตา“เวย์ ไอริน ยินดีด้วยนะ” ณดารินทร์เอ่ยทักทายคนทั้งคู่ เมื่อเธอพึ่งจะเดินทางมาถึง เพราะงานที่ยุ่ง“นึกว่าเธอจะไม่มาเสียแล้วปั้นหยา มองหาตั้งแต่งานเริ่มก็ไม่เห็นเธอเลย” เทวินทร์แซวออกมา เพราะเธอมาถึงก็เกือบจะจบงานแล้ว“พึ่งเริ่มงาน ทุกอย่างยังไม่ลงตัว เลยมาช้า ขอโทษด้วยนะ” เธอรีบเอ่ยขอโทษเพื่อนทั้งสอง อย่างรู้สึกผิด“แค่เธอมาได้ พวกเราก็ดีใจมากแล้ว” อัยญ์วารินทร์พูดขึ้นมา เพื่อไม่ให้เธอรู้สึกผิดไปมากกว่านี้คู่บ่าวสาว จึงพาทั้งคู่จะไปนั่งที่โต๊ะ ที่ได้เตรียมไว้ให้แต่ทว่า...“ไอริน ยินดีด้วยน่ะลูกสาวของพ่อ” เสียงทุ้มของชายสูงวัยดังขึ้นมาตามหลัง เมื่ออัยญ์วารินทร์กำลังหันหลังที่จะก้าวเดินอัยญ์วารินทร์ชะงักนิ่ง ก้าวขาไม่ออกทันที เมื่อได้ยินเสียงอบอุ่นที่เคยได้ยินอย่างคุ้นเคย ก่อนที่จะหลังกลับไปอย่างช้า ๆ ก่อนที่จะพบหน้ากัน“พ่อ!”เธอเข้าไปสวมกอดพ่อของเธออย่างรวดเร็ว และปล่อยโฮออกมาทันทีอย่างมิอาจกลั้นไ
มอบสิทธิ์ให้คืนเช้านี้ณดารินทร์ตื่นเช้ากว่าปกติของทุกวัน ตั้งแต่ที่กลีบมานอนที่บ้านของพ่อและแม่ เพราะว่าเมื่อคืนมีคนพิเศษนอนที่นี่ด้วย“พี่มาทำไมแต่เช้าอีกพี่ทีม พี่ไม่มีการมีงานทำหรือยังไง” ณดารินทร์เอ่ยถามออกมาทันที เมื่อเดินลงมาเคียงคู่กันกับนพดล แล้วพบกับพี่ชายนั่งอยู่ที่โซฟาห้องรับแขกกับผู้เป็นพ่ออยู่แล้ว“มี แค่จะแวะมาบอกว่าพรุ่งนี้ ตัวแสบไปเริ่มงานได้เลย” คนถูกถามนั่งยกขาขึ้นไขว่ห้างอย่างสบายใจ พร้อมกับเอ่ยบอกข่าวดีกับเธอ เรื่องเมื่อหลายวันก่อนที่เธอขอทำงานที่จริงแล้วทินกรไม่จำเป็นต้องมาด้วยตัวเองก็ได้ เพียงแต่เขาอยากจะมาดูหน้าลูกเขยคนโปรดของพ่อแค่นั้นเองแหละ“เอ่อ...” ณดารินทร์ลำบากใจที่จะตอบรับทันที แล้วหันไปมองคนตัวสูงที่ยืนข้าง ๆ“เดี๋ยวให้หมอนพไปทำด้วยเลย” ผู้เป็นพ่อจึงเอ่ยบอกออกไป เมื่อเห็นท่าทีลำบากใจของลูกสาว เพราะเขาตั้งใจเอาไว้อยู่แล้ว ว่าจะให้ลูกเขยคนเดิมเข้าไปช่วยบริหารการกับทางโรงพยาบาลกับลูกชาย เพราะนพดลเองก็เป็นหมออาจจะรู้ลึกกว่าลูกสาวที่ไม่ได้เรียนหมอมา“แต่ผมลาออกจากการเป็นหมอนานแล้วนะครับ จะกลับไปทำงานในโรงพยาบาลได้อย่างไร” นพดลพูดขึ้นมาบ้าง เพราะเขาลาออกตั้







