หน้าหลัก / โรแมนติก / ทวงคืนรักซาตาน / 14 ฉันจะดับความร่านของเธอเอง Nc!+++

แชร์

14 ฉันจะดับความร่านของเธอเอง Nc!+++

ผู้เขียน: ณัฐลภัส
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-01 21:03:32

14 ฉันจะดับความร่านของเธอเอง

แคว่กก!!

เสียงเสื้อผ้าถูกฉีกกระชากจนขาดหวิ่นด้วยน้ำมือของอคิราห์ ปรางปรีญาค่อยๆเปิดเปลือกตาอันแสนร้อนผ่าวขึ้น เห็นชายร่างสูงกำลังลูบไล้เรือนร่างของเธอด้วยความหื่นกระหาย

ยิ่งเห็นสภาพของตัวเองในตอนนี้ก็ยิ่งรู้สึกสมเพชเข้าไปทุกที นี่เธอตกเป็นที่ระบายความใคร่ไปแล้วหรอ

“สวยมากปรางปรีญา อ้าส์” มือใหญ่ไล้ขึ้นมาบีบคลึงหน้าอกอวบใหญ่พร้อมกับเปล่งเสียงออกมาเบาๆ คล้ายกำลังคุมตัวเองไม่อยู่

ปรางปรีญามีเรือนร่างที่งดงามมาก แม้กระทั่งคาสโนว่าอย่างเขาที่ผ่านผู้หญิงมาพอสมควร ก็ยังห้ามใจตัวเองไว้ไม่อยู่ เธอมีร่างกายสุดแสนเซ็กซี่ขนาดใส่ที่เสื้อผ้าธรรมดาๆยังอดมองไม่ได้เลย

อคิราห์รีบจัดการกับเรือนร่างของตัวเองจนกระทั่งทั้งสองร่างเปลือยเปล่า เขารีบขึ้นคร่อมร่างของเธออีกรอบโดยให้ขาทั้งสองข้างโอบเอวสอบเอาไว้ คนใต้ร่างน้ำตาไหลพราก ตอนนี้รู้ตัวแล้วว่าน่าจะกำลังมีไข้ อาการปวดเนื้อปวดตัวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งพื้นห้องน้ำก็เย็นเฉียบจนทำให้เกิดอาการหนาวสะบั้น

“ได้โปรด….ออกไป” เธอพูดเสียงเบาหวิวคล้ายคนละเมอ ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาพร่ามัวเข้าไปทุกที

“ออกไปไม่ได้หรอกเพราะวันนี้ฉันกะจะเข้ามาสั่งสอนเธอ ว่าอย่ามาอ่อยเพื่อนฉันอีก คนอย่างไอ้ปรเมศมันไม่ลดตัวลงไปเอาผู้หญิงจนๆอย่างเธอหรอก”

จบประโยคนั้นอคิราห์ก็ฝังจมูกลงไปที่ซอกคอระหง ซุกไซ้อย่างหนักหน่วงราวกับเสือที่กำลังหิวกระหายเหยื่อ ทุกสัมผัสสร้างความเจ็บปวดทั้งกายและใจให้กับคนใต้ร่าง มือหนาของเขาบีบเค้นหน้าอกอวบจนแทบแหลกละเอียด อีกทั้งยังใช้ปลายนิ้วขยี้ยอดอกจนเจ็บแปล๊บ

“เจ็บ…” ปรางปรีญากับริมฝีปากจนห้อเลือด พยายามดิ้นรนแต่ร่างกายทุกส่วนก็หนักอึ้งไปหมด “ฉันเจ็บ พอแล้ว ฮึก….”

“พอหรอ ได้!” เขาเงยหน้าขึ้นมาหลังจากก้มลงไปดูดดื่มสองเต้างามจนเกิดรอยแดงเป็นจ้ำ

อคิราห์เคลื่อนมือลงไปที่บั้นท้ายงอนงาม ยกสะโพกขึ้นแล้วอัดกระแทกท่อนเอ็นเข้าไปในร่องเนื้อโดยไม่ได้ให้สัญญาณใดๆ ทำให้ปรางปรีญาผวาเฮือกด้วยความเจ็บปวด น้ำตาไหลทะลักออกมาอีกรอบ

ซ้วกก!!

“โอ้ยยย!!!”

“เป็นไง ยังจะอ่อยเพื่อนฉันอีกหรือเปล่า”

แต่คนใต้ร่างกลับไม่ได้ยินคำถามนั้นเพราะความเจ็บปวดที่เขามอบให้กำลังทำให้เธอทรมานจนจิกเกร็งไปทั้งร่าง เจ็บไม่ต่างอะไรจากเมื่อคืน เจ็บเหมือนโดนมีดกรีดลงใจกลางร่าง

สอบโพกสอบกระแทกเข้ามาอย่างหนักพรางใช้มือบีบเข้าที่ปลายคางมน บังคับให้เธอสบตา คนตัวเล็กร้องไห้สะอึกสะอื้น ใบหน้าเหยเกแสดงถึงความเจ็บปวด

“ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้เธอแย่งไอ้ปรเมศไปจากศรุตาหรอก เพราะฉันจะขัดขวางทุกวิถีทาง”

“ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น ฮึก! แต่ในเมื่อคุณตัดสินฉันไปแล้ว งั้นก็ทำไปเถอะ ทำจนกว่าคุณจะพอใจ แล้วสักวันคุณจะต้องเจ็บปวด ฮรื้อๆๆ”

“คนที่ต้องเจ็บปวดคือคนที่คิดไม่ซื่อต่างหาก ฉันไม่ปล่อยให้เธอมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นหรอก” อคิราห์กัดฟันกร๊อด กระแทกร่างเข้าไปอย่างหนักหน่วง ร่องเนื้อของปรางปรีญากำลังตอดรัดจนร้อนวูบวาบไปทั่วท่อนเอ็น ความคับแน่นทำให้เขาเผลอเปล่งเสียงแห่งความสุขออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ต่างจากอีกฝ่ายที่เอาแต่นอนตัวเกร็ง “อ้าส์…แน่นเหลือเกินปรางปรีญา ฉันอยากกระแทกแบบนี้ทั้งวันเลย”

“ฉันไปทำอะไรให้คุณนักหนา ทั้งๆที่คุณ….เป็นฝ่ายทิ้งฉันก่อน” เธอสบตากับเขาทั้งน้ำตา อยากรู้เหลือเกินว่าเธอไปทำอะไรให้ขนาดนั้น ถึงขั้นทำร้ายกันอย่างเลือดเย็นทั้งๆที่เขาเป็นฝ่ายเลิกกับเธอ

คนที่เจ็บปวดกว่าควรเป็นเธอไม่ใช่หรอ ต้องเลิกทั้งๆที่ยังรักหมดหัวใจ

“ฉันทิ้งเธอเพราะอะไรเธอก็น่าจะรู้ดี”

“เพราะพ่อของฉันแอบยักยอกเงินในบริษัท เพราะคุณน้าของฉันแอบไปเป็นชู้กับคุณเชษ นี่ใช่ไหมคือเหตุผลที่คุณทิ้งฉันไป”

“นั่นก็มีส่วน แต่มันยังมีอีกเรื่อง”

“อะไรล่ะ”

ดวงตาคมกริบแสนดุดันจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา ยิ่งปรางปรีญาทำตัวไขสือมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเกลียดเธอมากขึ้นเท่านั้น ทั้งๆที่วันนั้นเธอเป็นคนพูดเองว่าคบกับเขาทำไม

“เธอเป็นคนพูดเองปรางปรีญา ลืมคำพูดของตัวเองไปแล้วหรอ หรือความจำเธอมันสั้นไปแล้ว”

“ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพูด ตอนที่เราสองคนคบกัน….ฉันซื่อสัตย์กับคุณตลอด”

“ฮ่าฮ่าฮ่า เก็บคำพูดพวกนี้เอาไปหลอกผู้ชายหน้าโง่คนอื่นเถอะ ฉันตาสว่างมานานแล้ว ฉันไม่มีวันเชื่อผู้หญิงอย่างเธอหรอก เธอมันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากรินรดา”

“แต่คนที่ทิ้งฉันก่อนก็คือคุณ ทั้งๆที่ตอนนั้นคนที่อยู่ข้างๆฉันควรเป็นคุณ ฮรือ…” ปรางปรีญาร่ำไห้สะอึกสะอื้นหนักขึ้นเรื่อยๆเมื่อนึกถึงช่วงเวลาอันแสนเจ็บปวดที่สุดในชีวิต

แม่ของเธอเพิ่งเสียไปได้ไม่นาน ยังทำใจไม่ได้ หัวใจดวงน้อยๆยังบอบช้ำ หนำซ้ำยังถูกผู้ชายที่เป็นที่พึ่งเดียว เป็นเหมือนโลกทั้งใบทอดทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ปล่อยให้เธอทนทุกข์อยู่กับความเจ็บปวดที่มองไปทางไหนก็เจอแต่ความมืดมิด

คนที่เจ็บปวดกว่าคือเธอไม่ใช่หรอ?

“ฉันอยู่กับคนลวงโลกอย่างเธอไม่ได้หรอก ฉันไม่ฟ้องเธอกับครอบครัวก็ดีเท่าไหร่แล้ว ไม่งั้นคงได้เข้าคุกกันยกฝูง” บทรักเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกับความโกรธแค้นที่อัดแน่นอยู่เต็มอกของอคิราห์ สาบานได้เลยว่าหลังจากนี้ชีวิตของปรางปรีญากับครอบครัวจะไม่พบเจอกับความสุขอีกเลย “ถึงพ่อฉันจะไม่เอาเรื่องพวกเธอ แต่ฉันไม่มีวันปล่อยให้เธอกับครอบครัวอยู่อย่างมีความสุขแน่นอน!”

“แค่นี้ฉันก็เจ็บปวดมากพอแล้ว ได้โปรดออกไปจากชีวิตฉัน ถ้าเกลียดฉันมาก ก็อย่ามายุ่งกับฉัน”

“เห็นทีคงไม่ได้ เพราะฉันจะเป็นคนดับความร่านของเธอเอง ไอ้ปรเมศมันกำลังจะแต่งงานกับศรุตา ถ้าเธอคันจนไม่มีที่ลง….เดี๋ยวฉันจะสนองให้เอง”

ปึก!ปึก!ปึก!

อคิราห์ตวัดขาเรียวขึ้นพาดบ่าแล้วโถมกายเข้าไปอย่างหนักหน่วง ปรางปรีญาทำอะไรไม่ได้นอกจากนอนนิ่ง เม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น อดทนกับความเจ็บปวดที่ซาตานร้ายกำลังมอบให้ ท่อนเอ็นยาวใหญ่เสียดสีกับร่องเนื้อที่ไร้น้ำหนืดเป็นตัวนำทางจนเกิดความเจ็บแสบไม่ต่างอะไรจากแผลสด แต่เขาก็ยังไม่สนใจ กระแทกเข้ามาเรื่อยๆด้วยความสุขสม

“อื้อ เจ็บ…ฉันเจ็บ พอแล้ว….ฉันไม่ไหวแล้ว….” เธอร่ำไห้ขอร้องให้เขาหยุดการกระทำ แต่ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม อคิราห์ไม่หยุด ยังกระแทกต่ออย่างเอาแต่ใจโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกเช่นไร

ไม่รู้ว่าสิ่งที่อคิราห์พูดหมายถึงอะไร แต่ที่ผ่านเธอรักเขา รักหมดหัวใจ รัก…เท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำเพื่อผู้ชายที่เธอรักได้ ไม่มีใครอยากให้มันจบลงแบบนี้เพราะเธอเองก็วาดฝันไว้กับเขาเยอะเหมือนกัน แต่พอฝันนั้นพังทลายลง คนที่ต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดก็คือคนที่ตั้งใจรัก ต่างจากอีกคนที่ดูถูกความรักโดยการมีผู้หญิงคนใหม่ทั้งๆที่เพิ่งเลิกกันได้ไม่นาน

ปรางปรีญาได้แต่กัดฟันอดทนต่อความปวด ภาวนาให้บทรักอันแสนรุนแรงนี้จบลงเสียที เปลือกตาร้อนผ่าวค่อยๆปิดลงท่ามกลางความปวดร้าวไปทั้งร่าง

ปล่อยให้ความทรมานแผ่นซ่านทั่วร่างกายก่อนที่สติจะหลุดลอยออกไป

----------------

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทวงคืนรักซาตาน   50 รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง

    50 รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง@เช้าวันถัดมาปรางปรีญารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบร่างของอคิราห์ยืนกวาดเศษใบไม้อยู่หน้าบ้าน นี่มันบ้านของเธอนะ เขามีสิทธิ์อะไรมายุ่งวุ่นวาย เพราะนี่มันไม่ใช่ที่ของเขา“ตื่นแล้วหรอ” อคิราห์ที่ยืนกวาดเศษใบไม้อยู่หน้าบ้าน เงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้หญิงสาวที่กำลังยืนตาจ้องเขม่งอยู่บนบ้านเมื่อวานเห็นว่าเศษใบไม้กองอยู่ที่หน้าบ้านของปรางปรีญาเยอะมาก วันนี้เลยตั้งใจตื่นแต่เช้าเพื่อมาทำความสะอาดหน้าบ้านให้เธอ เผื่อมีสัตว์มีพิษซุกอยู่ในกองใบไม้ ปรางปรีญาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามไม่สนใจอีกฝ่ายและกำลังจะก้าวลงจากบ้านเพื่อไปเก็บดอกไม้ ด้วยความหวังดี อคิราห์รีบวางไม้กวาดและกำลังจะก้าวเข้าไปประคองร่างเล็กลงมาจากบันได ขันทองที่อยู่ในมือของปรางปรีญาก็ขว้างมาโดนศีรษะของเขาอย่างแรงปึก!“โอ้ยย!! ปรางตีพี่ทำไม”“ฉันเดินเองได้ ไม่ต้องมายุ่ง!” ปรางปรีญากระแทกเสียงใส่ อคิราห์จำเป็นต้องก้าวหลบออกจากบันไดเพื่อให้หญิงสาวเดินลงได้สะดวก ปรางปรีญาเดินไปก้มเก็บขันที่เพิ่งเขวี้ยงใส่คนหน้าด้านขึ้นมา แล้วเดินหลบไปยังสวนดอกไม้ แต่อคิราห์ก็ยังไม่ลดละความพยายาม เดินตา

  • ทวงคืนรักซาตาน   49 เธอเปลี่ยนไป

    49 เธอเปลี่ยนไปอคิราห์รีบหอบเอาร่างอันแสนบอบช้ำกลับมาที่บ้านพัก ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพมีรอยแดงเพราะถูกน้ำร้อนลวก ปรางปรีญาเล่นสาดน้ำร้อนใส่เหมือนเขาเป็นหมาเลย โชคดีที่โดนแค่ท่อนแขน ไม่อย่างนั้นคงเสียโฉมไปแล้ว ปรเมศที่นั่งรออคิราห์อยู่ที่หน้าบ้าน ตกใจเมื่อเห็นพื่อนสนิทกลับมาในสภาพไม่ปกติ“นะ...นั่นมึงไปทำอะไรมา ทำไมถึงได้กลับมาในสภาพ...เอ่อ...เหมือนหมาถูกน้ำร้อนลวก”“เมียกูเอาน้ำร้อนสาด” เขาตอบสั้นๆ แล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หวายบริเวณหน้าบ้าน กว่าจะพาตัวเองกลับมาได้ ทุลักทุเลพอสมควร ตอนนี้อาการปวดแสบปวดร้อนเริ่มปะทุขึ้น ท่อนแขนบวมแดงคล้ายกำลังจะพุพอง“ไปทำอีท่าไหนเขาถึงสาดน้ำร้อนใส่”“ก็แค่บุกเข้าไปในบ้านเขาเฉยๆ ไม่คิดว่าปรางปรีญาจะกล้าทำขนาดนี้”“โชคดีแค่ไหนแล้วที่น้องเขาไม่สาดใส่หน้ามึง ไม่งั้นคงได้บินไปศัลยกรรมที่เกาหลี แต่จะว่าไป สาดใส่หน้าก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องเอาหน้าหล่อๆไปหลอกฟันใครอีก”“พอเถอะ แค่นี้กูก็เจ็บปวดมากพอแล้ว อย่าให้กูต้องเจ็บกับคำพูดของมึงอีกเลยเพื่อน”“มึงรู้อะไรไหม กูโครตสะใจเลยที่มึงโดนซะบ้าง ปากเก่งมาตั้งนาน สุดท้ายเอาตัวไม่รอด” ปรเมศเค้นหัวเราะออกมาเ

  • ทวงคืนรักซาตาน   48 มาทางไหนกลับไปทางนั้น

    48 มาทางไหนกลับไปทางนั้น“นี่มันอะไร” ปรางปรีญามองจดหมายฉบับนั้นด้วยความงุนงง แต่ก็พอจะเดาออกว่าเป็นลายมือของใคร“น้าของปรางเขียนจดหมายฉบับนี้ไว้ก่อนที่ท่านจะเสีย”ปรางปรีญารับจดหมายไปไล่อ่านด้วยความตกใจ เนื้อหาในจดหมายบอกถึงค่ำคืนที่เธอได้ไปขอร้องให้รินรดาเลิกยุ่งกับราเชษ“แสดงว่าคืนนั้นปรางแค่โกหกน้าดาใช่ไหม ปรางไม่ได้หลอกพี่จริงๆใช่ไหม”“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าวันนั้นฉันพูดอะไรกับน้าดา” ปรางปรีญาเงยหน้าถาม“พอพี่รู้เรื่องน้าดากับอาเชษ พี่ตั้งใจขับรถไปหาปรางที่บ้านเพราะอยากไปถามให้แน่ใจ แต่พี่ดันไปได้ยินเรื่องที่ปรางพูดกับน้าดาพอดี”“คืนนั้น…คุณไปหาฉันที่บ้านหรอ” ปรางปรีญาส่งจดหมายกลับ พร้อมเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าวันนั้นอคิราห์ไปหาเธอที่บ้าน“ใช่ พี่ตั้งใจไปหาปราง และพี่ก็ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดที่ปรางคุยกับน้าดา ตอนนั้นพี่เสียใจมากที่ได้ยินเรื่องแบบนี้ พี่นั่งร้องไห้อยู่เงียบๆคนเดียว ทั้งๆที่พี่ควรจะเดินเข้าไปถามปราง แต่พี่ก็ดันเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน พอรู้อะไรแบบนั้นมันก็เริ่มทำให้พี่มองปรางเปลี่ยนไป”“…” ปรางปรีญานิ่ง ยืนฟังอีกฝ่ายด้วยสีหน้านิ่งเรียบไร้ความ

  • ทวงคืนรักซาตาน   47 ดวงใจดวงเดิม

    47 ดวงใจดวงเดิมก็อก…ก็อก…เสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะการนอนของอคิราห์ ชายหนุ่มลืมตาขึ้น พลิกตะแคงร่างด้วยความหงุดหงิดเพราะเมื่อสักครู่กำลังนอนหลับฝันหวาน…ฝันว่าได้นอนกอดปรางปรีญากับลูกอคิราห์หยัดกายลุกขึ้นนั่ง ถอนหายใจพรืดใหญ่ ยกมือขยี้ผม สีหน้าบอกบุญไม่รับ เขาไม่อยากเปิดประตูออกไปแล้วเจอภาพของปรเมศกำลังจู๋จี๋กับศรุตา เพราะมันทำให้เขาคิดถึงปรางปรีญามากขึ้นจนไม่อาจทนดูภาพพวกนั้นได้ทำไมถึงไม่มีเมียให้นอนกอดแบบนี้บ้าง เห็นแล้วก็นึกอิจฉาไม่ได้จริงๆ“อะไร” อคิราห์เปิดประตูออกมา ตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ“กูมีข่าวดีจะบอก”“ข่าวอะไรของมึง”“เดี๋ยวให้ตาเป็นคนบอกดีกว่า”“ถ้างั้นพวกมึงก็กลับไปเถอะ ขัดจังหวะการนอนของกูจริงๆ” อคิราห์ปิดประตูใส่ แต่ถูกปรเมศดึงกลับมาเหมือนเดิม “ไหนมึงบอกว่าอยากเจอเมีย”“ก็อยากเจอ แต่มันไม่เจอไง”“แล้วถ้าเจอล่ะ”“มึงว่าอะไรนะ” อคิราห์ถามกลับอย่างรวดเร็ว“วันนี้ตาไปเดินตลาดแล้วบังเอิญเจอปรางปรีญา”“ว่ายังไงนะ ทะ…ที่ไหน!!” อคิราห์ตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่ หัวใจที่เคยห่อเหี่ยวไปนานถึงเจ็ดเดือนกลับมาเต้นโครมครามอีกครั้ง “ท้ายหมู่บ้าน”อคิราห์เดินทางมาที่บ้า

  • ทวงคืนรักซาตาน   46 บังเอิญเจอ

    46 บังเอิญเจอ ปรเมศใช้เวลาขับรถแค่สองชั่วโมงนิดๆ ในที่สุดก็มาถึงจังหวัดกาญจนบุรี ศรุตาที่ตอนนี้ท้องแก่ใกล้คลอดเดินออกจากบ้านพักตากอากาศเพื่อมารอรับสามีกับเพื่อนสนิทอย่างอคิราห์ อคิราห์ก้าวลงจากรถพร้อมกันกับปรเมศ ศรุตารีบวิ่งเข้ามาสวมกอดสามี ทำให้ชายหนุ่มไม่สามารถทนดูภาพนั้นต่อได้ รีบเบือนหน้าหนีด้วยความเจ็บปวดหัวใจเพราะมันทำให้เขานึกถึงปรางปรีญาทุกทีที่เห็น ศรุตากับปรางปรีญาน่าจะตั้งท้องไล่เลี่ยกัน ป่านนี้ก็คงท้องแก่ใกล้คลอดแล้วไปอยู่ที่ไหนกันนะปรางปรีญา ฉันอยากดูแลเธอกับลูกเหลือเกิน“ลมอะไรหอบโซ่มาถึงที่นี่” ศรุตาเอ่ยแซวเพื่อนสนิท หล่อนได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของสามี ไม่คาดคิดว่าคาสโนว่าตัวพ่อจะตกอยู่ในสภาพนี้“ไม่รู้สิ อาจจะลมบ้าหมู” เขาตอบด้วยสีหน้าเศร้าๆ พยายามไม่มองศรุตากับปรเมศที่กำลังยืนจู๋จี๋กัน พวกมันจะรู้หรือเปล่าว่าเขาไม่อยากเห็นภาพนี้ เห็นแล้วเจ็บใจทุกทีเพราะคิดถึงเมีย“ตาคิดว่าโซ่น่าจะเป็นบ้าจริงๆ ดูสภาพโซ่ในตอนนี้สิ ไม่ใช่คุณอคิราห์ที่ตาเคยรู้จักด้วยซ้ำ”“เอาน่า เราอย่าไปตอกย้ำมันเลยนะ” ปรเมศเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเพื่อนสนิท “ผมว่าเราเข้าบ้านกัน

  • ทวงคืนรักซาตาน   45 มิตรแท้ไม่มีคำว่าปลอบใจ

    45 มิตรแท้ไม่มีคำว่าปลอบใจ...เจ็ดเดือนต่อมา...“ไงเพื่อน ลมอะไรหอบมึงมาหากูถึงที่นี่” ปรเมศเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่กำลังเดินเข้ามาในบ้าน ช่วงนี้เขากับเพื่อนไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่เพราะอีกฝ่ายงานยุ่ง“ลมคิดถึงเมีย”“เมียคนไหน” ปรเมศชอบแซวแบบนี้เป็นประจำ ใจหนึ่งก็นึกสงสาร อีกใจก็สมน้ำหน้า ทำกับเขาไว้เยอะ ก็ไม่แปลกที่เขาจะไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา“เมียกูมีคนเดียวเว้ย!”“ไม่รู้สิ ตอนนั้นเห็นมึงคบหลายคน”“อย่าเพิ่งกวนประสาทกูไอ้เมศ ตอนนี้กูอารมณ์ไม่ค่อยดี” อคิราห์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตรงข้ามกับปรเมศ ก่อนจะยกมือก่ายหน้าผากเหมือนคนหมดอาลัยกับชีวิต ปรเมศเห็นภาพนี้จนชินแล้ว บางวันก็เมาหัวราน้ำจนคนในครอบครัวเอื้อมระอา เพราะพักหลังๆอคิราห์แทบไม่เป็นผู้เป็นคน “กูก็เห็นมึงอารมณ์ไม่ดีทุกวันนั่นแหละเพื่อน”“จะไปอารมณ์ดีได้ยังไง นี่ก็ผ่านมาเกือบเจ็ดเดือนแล้ว กูยังหาเมียไม่เจอเลย”“แล้วนักสืบที่มึงจ้างวานว่ายังไงบ้าง”“ไม่เจอ ทั้งๆที่เป็นนักสืบฝีมือดีที่สุดของเมืองไทย แต่ทำไมถึงยังหาปรางปรีญาไม่เจอวะ”“กูเคยบอกมึงแล้วไงเพื่อน ถ้าเชื่อกูตั้งแต่ตอนนั้น มึงก็คงไม่เสียปรางปรีญาไปแบบนี้หรอก ตอนมี

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status