“แล้วนี่หนูกับเวเรียนอยู่ชั้นเดียวกันห้องเดียวกันด้วยมั้ยลูก” คนเป็นแม่ที่อยากรู้ข้อมูลของเชอรีนก็เริ่มยิงคำถามออกไปโดยที่เธอนั้นเลือกที่จะถามแบบยังไม่เจาะลึกมากสักเท่าไหร่ เชอรีนที่โดนผู้ใหญ่ถามก็ยิ้มตาหยีรีบตอบกลับไปด้วยท่าทางที่ดูปกติ เธอไม่ได้เกร็งหรืออึดอัดอะไรเพราะพ่อกับแม่รวมไปถึงน้องสาวของเขาล้วนแล้วแต่ชวนเธอพูดคุยด้วยความเป็นกันเองทั้งนั้น“คนละห้องค่ะหนูอยู่ห้อง4 เวเขาอยู่ห้อง2”“อ๋อแล้วเริ่มไปไหนมาไหนด้วยกันได้ยังไง” แม่พยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วเริ่มไต่ระดับถามลึกเข้าไปอีกนิดทำเอาพ่อเวหารีบส่งเสียงห้ามปรามไปยังภรรยาของตนเองในทันที เขารู้ว่าภรรยาของเขาเอ็นดูและคงอยากรู้เรื่องของเด็กๆแต่ตอนนี้มันใช่เวลามั้ย“คุณก็..หนูเชอเขากำลังกินข้าวอยู่ถามอยู่ได้”“เอ๊ะคุณก็..ก็ฉันอยากรู้นี่คะว่าตาเวของเราเข้าหาผู้หญิงยังไง” แม่ตีไปที่มือของพ่อเบาๆราวกับว่าสิ่งที่เธอพูดออกไปนั้นมันผิดมากเหรอ เรื่องที่ถามตอนเด็กๆกำลังกินข้าว ก็คนมันอยากรู้นี่เนอะว่าเจ้าลูกชายเข้าหาผู้หญิงยังไง~เวหายิ้มมุมปากหันมองไปทางเชอรีนที่นั่งเม้มปากแน่นให้ทายเธอก็คงเขินอายไปตามประสาที่ถูกถามตรงๆแบบนั้นไม่รอให้ผู้เป็นแ
“วันนี้หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ พอดีว่าต้องรีบกลับไปพาน้องสาวออกไปข้างนอกค่ะ” เชอรีนที่โดนน้องสาวโทรเข้ามาชักชวนไปเที่ยวก็รีบตอบรับไปตามประสาพี่สาวที่รักและตามใจน้อง เธอเอ่ยขอตัวเพื่อกลับก่อนเพราะไม่อยากที่จะให้ยัยน้องสาวตัวดีนั้นต้องรอนาน“ได้สิจ๊ะ เวขับรถไปส่งหนูเชอรีนดีๆนะลูก หนูเชอแล้วเดี๋ยวยังไงแม่ทักหานะ” แม่รีบบอกให้ลูกชายตัวเองขับรถไปส่งเพื่อน(สนิท)ในทันทีและก่อนที่เด็กสาวจะลุกขึ้นยืนแม่ก็ไม่ลืมที่จะโอบกอดเธอประหนึ่งดังเป็นลูกสาวอีกคนเวหาที่เห็นแม่เอ็นดูเชอรีนมากก็แอบดีใจที่เธอเข้ากับคนในครอบครัวของเขาได้ สองสาวผละออกจากกันเชอรีนรีบยิ้มกว้างและไหว้สวัสดีไปยังพ่อและแม่ของเวหา“สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่”“จ้ะ เดินทางปลอดภัยนะ”บนรถทันทีที่เข้ามานั่งอยู่ในรถเป็นที่เรียบร้อยริมฝีปากหนาก็ได้เอ่ยถามไปยังหญิงสาวข้างกายราวกับว่าเธอคือแฟนสาวที่ต้องคอยรายงานในทุกๆเรื่องให้เขาได้รับรู้“จะพาน้องออกไปไหนเหรอ” ซึ่งเชอรีนที่เจอคำถามก็ตอบไปตามความจริง เมื่อครู่ที่ชะเอมโทรเข้ามาหาเธอนั้นก็เพราะอยากให้พี่สาวอย่างเธอพาไปเดินตลาดนัดที่อยู่ไม่ไกลจากแถวหมู่บ้าน“น้องสาวเราอยากออกไปเดินตลาดนัดแถวๆบ้านน่ะ
มือเล็กเริ่มออกแรงสุดพลังที่มีผลักอกเขาจนเวหาจำต้องรีบผละขยับร่างกายออกห่าง(ทั้งที่ไม่อยากห่าง)และทันทีที่เขาออกห่างเชอรีนรีบก้มหน้าลงในทันทีแต่แล้วเวหากลับเริ่มพูดประโยคถัดไปขึ้นมา“เวว่า...”ที่ห่างออกคงเพื่อที่อยากจะพูดอะไรต่ออย่างนั้นสินะ....เชอรีนยังคงก้มหน้าไม่กล้ามองสบตาเขาอยู่แบบนั้นซึ่งชายหนุ่มที่เห็นท่าทางของหญิงสาวก็นึกเอ็นดูไปกับความน่ารักและเขินอายของเธอแต่ไหนๆเธอก็เขินไปแล้วก็คงต้องทำให้เธอเขินมากขึ้นไปกว่าเดิมอีกสักหน่อยนึงก็แล้วกัน“คงต้องลองจูบกันอีกสักที ลองดูนะว่าจะหายเขินมั้ย”เขาว่าไงนะจูบเหรอจูบแบบเมื่อครู่นี้อะนะ..ไม่นะไม่เอาแล้ว เชอรีนช้อนสายตาขึ้นมองเขาซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เวหานั้นคว้าเข้าที่ท้ายทอยของเธอแล้วออกแรงขยับให้คนตัวเล็กโน้มใบหน้าเข้าไปจูบทาบทับริมฝีปากของเขา“ไม่นะ อื้อ~” เขาจูบฉันอีกแล้ว แล้วเมื่อไหร่จะได้เลิกเขินกันสักที แบบนี้มันจะยิ่งเขินเข้าไปใหญ่เลยนะ ริมฝีปากของคนทั้งคู่สัมผัสกันแล้วเขาก็เริ่มบดขยี้ริมฝีปากเล็กของเชอรีน เวหาใช้ปลายลิ้นเลียไปตามริมฝีปากล่างของเธออย่างตั้งใจจึงทำให้หญิงสาวเผยอริมฝีปากเตรียมที่จะด่าซึ่งนั่นจึงเป็นจังหวะด
ภายในใจของหญิงสาวก็ยังคงมีความกังวลซ้อนอยู่และเธอจะไม่ขอรออีกต่อไปเชอรีนจ้องหน้าสบสายตาคมกับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนคนแรกของเธอ“แล้วในระหว่างที่คบกันถ้าเวแอบมีคนอื่นล่ะ”“เวจะไม่มีใคร!!” เวหารีบยกมือขึ้นมาพร้อมกับชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้วเพื่อเป็นการยืนยันว่าเขาสาบาน ว่าเขานั้นจะไม่มีใคร แววตารวมไปถึงสายตาที่มุ่งมั่นแน่วแน่ของเขาทำให้เชอรีนใจชื้นขึ้นหญิงสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจและเธอยังคงกล่าวย้ำต่อไป“ถ้าเวมีเรื่องผู้หญิงคนอื่นเข้ามาในระหว่างที่เราคบกันความสัมพันธ์ของพวกเราทั้งคู่จบลงตั้งแต่ตอนนั้นเลยนะ!!”“โหดจัง~” เวหาออกอาการเลิ่กลั่กเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าที่ดูจริงจังของแฟนสาวคนสวย เขาเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ทำเอาเชอรีนที่มองอยู่จำต้องพูดกับเขาอีกครั้ง ถ้ารับไม่ได้..ก็ไม่ต้องคบกันก็ได้นะ“ก็เราไม่ชอบเรื่องแบบนี้นี่ ถ้าเวคิดว่าทำไม่ได้ก็ไม่ต้อง..”“เวทำได้!!”เช้าวันต่อมาสายฟ้าเดินเข้ามาในห้องเรียนเป็นคนแรกก็พบว่าเวหานั้นกำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว สองเท้ารีบเดินเข้าไปทางด้านหลังของเพื่อนสนิท“ยิ้มอะไรของมึง..”ซึ่งเวหาที่ใจลอยกำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่นั้นก็นิ่งเพราะเขาไม่ได้ยินไปกับเสี
เวหาส่งยิ้มให้แฟนสาวก่อนที่จะชี้มือไปทางร้านขายเคสที่อยู่ไม่ไกลจากตรงบริเวณที่พวกเขายืนอยู่และยังไม่ทันที่เขาจะพูดจนจบประโยคแฟนสาวคนสวยก็ได้พูดแทรกขึ้นเธอรู้เลยว่าเขาต้องพาเธอเดินไปยังร้านขายเคสร้านนั้นอย่างแน่นอน~“เราอยากไปซื้อที่ตลาดนัดข้างๆห้างอะมันมีให้เลือกเยอะและราคาถูกด้วย” ใบหน้าสวยหวานยิ้มตาหยีแล้วเริ่มอธิบายว่าทำไมเธอถึงต้องการที่จะออกไปซื้อร้านค้าข้างนอกห้าง เวหาที่พอได้ฟังก็เข้าใจทั้งสองพากันเดินเข้าไปในร้านอาหารใจกลางห้างสรรพสินค้าแล้วเริ่มสั่งอาหารมารับประทาน30 นาทีต่อมาตลาดนัดสองเท้าเล็กเดินไปตามร้านค้ามากมายที่มีทั้งร้านขายเสื้อผ้าของกินรวมไปถึงร้านขายเคสโทรศัพท์มือถือและเมื่อดวงตาคู่สวยเจอเข้ากับร้านเคสที่เธอถูกใจเข้าให้แล้ว เธอจึงรีบสาวเท้าเดินเข้าไปยังร้านนั้นในทันที“อันนี้น่ารักจัง เวไม่สนใจบ้างเหรอมีแต่อันน่ารักๆทั้งนั้นเลยนะ” มือเล็กหยิบเคสที่มีสีสันสดใสขึ้นมาถือไว้ในมือแล้วหันไปถามบุคคลข้างกายที่เอาแต่เดินตามเธอต้อยๆโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ ใบหน้าเรียวใสเอียงคอเอ่ยถามซึ่งเวหาที่เห็นท่าทางน่ารักแบบนั้นก็กลั้นไม่ให้ยิ้มอีกต่อไปไม่ไหวอยากจับแฟนตัวเล็กของเขามาหอ
ด้วยความที่อยากอยู่ใกล้ชิดกับแฟนสาวจึงทำให้เขาเอ่ยปากถามเธอออกไป เขานั้นอยากมีเวหาอยู่กับเธอให้มากกว่านี้ เชอรีนที่ได้ยินก็ช้อนสายตาขึ้นมองไปยังเวหาแอบแปลกใจอยู่เล็กน้อยที่เขาถามแบบนั้น“ถามทำไมเหรอ”“เวอยากให้เชอย้ายมาอยู่ที่ห้องนี้ไง” หมายความว่าไงอย่าบอกนะว่าเขาคิดที่จะทำเรื่องแบบนั้นกับเธอ คนตัวเล็กอ้าปากค้างอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวเวหาที่มองเธออยู่จึงเอื้อมมือมาจับมือเล็กของเธอไว้“เว..” เชอรีนมองมือตัวเองที่โดนเขาจับเอาไว้อย่างหวั่นๆเธอยังไม่พร้อมในเรื่องนั้น“คิดอะไรอยู่ ห้องนี้มีสองห้องนอนครับคนสวย ก็แบบอยากอยู่ใกล้แฟนตัวเองไง ไม่ได้เลยเหรอ” ชายหนุ่มตัวร้ายยิ้มเยาะพลางส่งเสียงออดอ้อนไปยังแฟนสาว เขาเพียงแค่อยากอยู่ใกล้ชิดเธอไม่ได้คิดที่จะทำมิดีมิร้ายกับเธอเสียหน่อยแต่ถ้าเชอรีนยอมให้เขา เขาก็พร้อมที่จะรับเอาไว้ด้วยความเต็มใจเชอรีนนั่งหน้าบึ้งขมวดคิ้วมองหน้าแฟนหนุ่มด้วยความครุ่นคิดเขาคิดยังไงกับเธอกันแน่ คิดจริงจังหรือเพียงแค่คบเล่นๆไปวันๆเท่านั้น เอาละเธอตัดสินใจที่จะถามเขาออกไปตรงๆเลยก็แล้วกัน“เวจริงจังกับเราจริงๆใช่มั้ย เรื่องที่จะให้เราย้ายมาอยู่ด้วยนี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะแล
สายตาของเวหานั้นมองจ้องไปที่เชอรีนแทบจะตลอดเวลา....ทำเอาธาวินที่นั่งมองหน้ามันอยู่ถึงกับส่ายหน้าไปมาอะไรจะหวงและคลั่งรักได้ถึงขนาดนั้น!!ไอ้เพื่อนเวร~“มึงคลั่งรักเชอรีนมากไอ้เวหา ดูดิทั้งหน้าจอมือถือทั้งพวงกุญแจห้อยกระเป๋าก็ยังเป็นรูปของเชอรีน อะไรจะขนาดนั้น กูละเชื่อเลยแล้วดูสายตาที่มึงมองเชอรีนอีกจะจับเธอกินเลยใช่มั้ย เลี่ยนฉิบหาย~”“เอาไว้ให้มึงลองมีแฟนดูแล้วจะรู้เองว่าทำไมกูถึงเป็นได้ขนาดนี้” เวหาหันกลับมาจ้องมองหน้าไอ้ธาวินแล้วค่อยๆคลี่ยิ้มขึ้นเพียงเล็กน้อยออกมา เขาจะคอยดูวันที่มันได้มีความรักได้มีแฟนเป็นของตัวเองจะคอยดูว่ามันจะเป็นเหมือนอย่างที่เขาเป็นหรือไม่ธาวินที่ได้ยินแบบนั้นรีบยักไหล่ เรื่องอะไรที่จะต้องทำตามอย่างที่ไอ้เวหามันบอกด้วยในเมื่ออยู่แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว อิสระเสรีจะเอากับผู้หญิงคนไหนก็ได้เขายังไม่ต้องการที่จะมีพันธะกับใครทั้งนั้น“อยู่แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว~”“แล้วนี่มึงกับเชอรีนลึกซึ้งกันยังวะ” สายฟ้าที่นั่งมองเพื่อนพูดคุยกันอยู่ก็เริ่มพูดขึ้นมาบ้างความอยากรู้ทำเขาถามมันออกไปถึงเรื่องนั้นระหว่างเพื่อนสนิทกับแฟนสาวของมันแต่ดูแล้วอย่างไอ้เวหาเนี่ยไม่น่าพลาดปล่อยให้เธอ
เชอรีนมองไปตามนิ้วมือของแฟนหนุ่มก่อนจะพบว่าภายในถุงของกินนั้นล้วนแล้วแต่เป็นของกินที่เธอชื่นชอบทั้งนั้นมือเล็กเอื้อมไปหยิบถุงของกินมากกมายมาวางไว้บนตักของตัวเธอเอง สายตามองไปยังถุงพวกนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าของกินถุงไหนบ้างนะที่จะอร่อยและถูกปากเธอ ไม่ช้าเชอรีนก็หยิบขนมขึ้นมากัดชิมเข้าปาก คำแรกที่ได้ลิ้มรสชาติเลยก็คือ..มันอร่อยมากและถูกปากของเธอมากเช่นกัน“อร่อยจริงด้วยแล้วนี่พวกเราจะไปพักกันที่ไหนเหรอ” เชอรีนพยักหน้าขึ้นลงไม่อยากจะเชื่อว่าขนมพวกนี้จะอร่อยได้มากขนาดนี้หญิงสาวเคี้ยวขนมไปพลางก็เลือกที่จะชวนเขาพูดคุยซึ่งเวหาที่โดนถามถึงยังที่พักก็เงียบพร้อมกับค่อยๆอ้าปากกว้าง สายตาชำเลืองมองไปยังคนรัก“ป้อนเวหน่อยยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า” เชอรีนชะงักไปเล็กน้อยมือเล็กเตรียมที่จะล้วงเข้าไปหยิบขนมชิ้นใหม่แต่แล้วมือหนาของเวหากลับจับเข้าที่ข้อมือของเธอในข้างที่ยังมีขนมที่ยังกินไม่หมด“ว เว..เรากำลังจะหยิบขนมชิ้นใหม่ให้”เชอรีบมองมือของตัวเองที่โดนแฟนหนุ่มจับกุมเอาไว้ เขาดึงมือของเธอให้เคลื่อนเข้าไปใกล้กับริมฝีปากของตัวเขาเองจากนั้นเขาจึงละสายตาจากทางข้างหน้าพร้อมกับหันหน้ามาจ้องมอ
เวหาเอ่ยเสียงเรียบเอ่ยถามไปยังเพื่อนๆที่ไม่ได้เจอกันเกือบสองปี สายตาของเขามองจับจ้องไปยังเชอรีนที่เอาแต่เล่นโทรศัพท์มือถืออยู่แบบนั้นเธอเลือกที่จะก้มหน้าเพราะรู้ว่าเขากำลังแอบมองเธออยู่“ฉันสบายดีย่ะ ขับรถมองทางข้างหน้าด้วยเดี๋ยวได้ตายกันยกคันหรอก มองกระจกอยู่ได้”ไอรีนมองจ้องหน้าเวหาผ่านกระจกหน้ารถ เธอทำเสียงดุที่เห็นว่าเวหาเอาแต่มองเพื่อนของเธอโดยที่ไม่ได้สนใจไปกับเส้นทางข้างหน้าแม้แต่น้อย ไม่รู้หรือไงว่ามันอันตรายมากนะเข้าใจอยู่ว่าไม่ได้เจอกันหลายปีแต่เดี๋ยวเอาไว้ถึงที่หมายก่อนค่อยมองก็ได้มั้ยยัยเชอไม่หายไปไหนหรอก...“ไอรีนของพวกเรายังคงปากแจ๋วเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ” เวหากลับไปให้ความสนใจไปกับเส้นทางข้างหน้าโดยที่ปากของเขาก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยแซว(กัด)ไปยังไอรีน หึ~ เหมือนว่าเธอจะได้ยินเสียงผู้ชายหัวเราะดังมาจากทางที่นั่งด้านหลังนะแต่พอเธอหันกลับไปมองก็พบว่าแต่ละคนกำลังเลื่อนโทรศัพท์มือถือของตัวเองอยู่ สงสัยเธอจะหูแว่วช่างมันเถอะเธอไม่สนใจแล้วก็ได้ ใบหน้าสวยหันกลับมาให้ความสนใจไปกับไอ้ผู้ชายตรงหน้า ไอ้คนที่มันกำลังขับรถให้พวกเธอนั่งอยู่นั่นแหละ“แน่นอนอยู่แล้ว เอาไว้ด่าผู้ชายนิสัยไ
“แล้วมึงกับไอ้วินไม่ไปด้วยกันจริงเหรอ”มาร์ชยิ้มเยาะอดที่จะเสียดายไม่ได้ที่ในครั้งนี้พวกเราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกัน สายฟ้าถอนหายใจ ใจจริงเขาก็อยากไปอยู่หรอกแต่ทั้งเขาและไอ้วินในตอนน่างก็มีธุระบางอย่างที่ไม่สามารถละทิ้งไปไหนได้เลย“มึงก็น่าจะรู้ว่าทำไมกูกับไอ้วินถึงไม่ไป”“ทำไมอะ” เพียวเอ่ยถามไปยังมาร์ชอย่างไม่เข้าใจ ธุระนั่นสำคัญขนาดที่ปฏิเสธไม่ยอมไปเที่ยวกับเพื่อนได้เชียวเหรอ มาร์ชก้มกระซิบเข้าที่ใบหูของแฟนสาวเรื่องแบบนี้เรื่องเม้าส์ต้องพูดเบาๆเพราะเดี๋ยวไอ้สายฟ้ามันจะด่าเอาได้“พวกมันติดหญิงไงแล้วผู้หญิงของพวกมันนะก็ยังอยู่แค่ชั้นปีที่1เท่านั้นด้วย”“อ๋อแบบนี้นี่เอง นี่ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เพียวพยักหน้าอย่างเข้าใจที่แท้สายฟ้ากับธาวินก็ติดหญิงนี่เองจึงทำให้เธอไม่ค่อยได้พบพวกเขาสักเท่าไหร่ เธอส่งยิ้มให้สายฟ้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพื่อนทั้งสองของเธอจะเป็นพวกกินเด็กสายฟ้ากล่าวคำทักทายไปยังเพื่อนสาวทุกคนสายตาชำเลืองมองไปทีละคนแล้วไปจบที่เพื่อนผู้หญิงคนสุดท้าย ดวงตาคู่คมเบิกกว้างขึ้นเมื่อเขาได้เห็นเข้ากับวิเวียนซึ่งเคยเป็นพนักงานที่ร้านของเขา“หวัดดีเพียว หวัดดีไอรีน หวัดดีเชอรีนด้วย แล้วนั่
เชอรีนยิ้มแห้งที่เดินช้าเป็นเพราะมัวแต่คุยกับไอรีนเรื่องเร็นนั่นแหละ ทั้ง4สาวพากันเดินเข้าไปในตึกใหญ่จุดมุ่งหมายคือห้องเรียนที่เอาไว้เรียนในตอนช่วงบ่ายนี่แหละฮึบๆเรียนอีกแค่วิชาเดียวเท่านั้นก็จะเป็นอิสระแล้ว พรุ่งนี้คือวันเสาร์พักผ่อนได้ตามสบาย...1 อาทิตย์ผ่านไปวันศุกร์ในช่วงเช้าไอรีนที่จอดรถเสร็จเป็นที่เรียบร้อยเดินสาวเท้าเข้ามาหากลุ่มเพื่อนด้วยสีหน้าที่เหมือนแบกโลกเอาไว้ทั้งใบ เธอเดินเข้ามานั่งลงที่ม้านั่งตัวโปรดซึ่งสีหน้าของเธอทำเอาเชอรีนเอ่ยถามเพื่อนทั้งหมดต่างจับจ้องมองไอรีนเป็นตาเดียวหรือว่าจะมีอะไรที่ทำให้เพื่อนของพวกเธอเครียดกันนะ“ทำไมทำหน้าแบบนั้น”“เบื่อๆเซงๆน่ะ พวกแกฉันมีอะไรจะบอก” ไอรีนถอนหายใจพลางพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เหมือนคนจะร้องไห้ เชอรีน เพียวรวมไปถึงวิเวียนต่างก็มองไปยังใบหน้าเรียวใสของไอรีน ลุ้นเหลือเกินว่าเธอจะพูดว่าอะไรแล้วอาการที่เหมือนจะร้องไห้นี่ก็อีก“คือว่าน้องชายของฉันต้องไปด้วยไม่งั้นพ่อไม่ให้ฉันไป” เธอพูดออกมาถึงสิ่งที่พ่อของเธอได้ยื่นคำขาด เมื่อวานไอ้เร็นมันเข้าไปที่บ้านและมันไปรู้มาจากไหนก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังจะไปเที่ยวกับเพื่อน มันก็เลยเข้าไปขอพ่อบอกว่
มือทั้งสองข้างยกขึ้นเพื่อเป็นเชิงว่าเขาจะไม่เข้าไปใกล้เธอมากไปกว่านี้ รอยยิ้มที่ดูจริงใจยิ้มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เชอรีนมองไปยังรุ่นน้องคนนั้นเขารู้ได้อย่างไรว่าเธอกำลังกลัว กลัวในเรื่องนั้น กลัวว่าเขาอาจจะพูดอะไรที่ไม่ดีออกมา“น้องรู้เหรอว่าพี่กำลังคิดอะไรอยู่” เธอเอ่ยถามไปยังหนุ่มรุ่นน้องและยังไม่ทันที่เธอจะพูดอะไรต่อเสียงของผู้ชายก็ดังขึ้นจากทางด้านข้างของเธอ“เฮ้ยไอ้เร็นไปเร็ว!” เสียงทุ้มตะโกนส่งเสียงมาแต่ไกลเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักของพวกเขากำลังพูดคุยอยู่กับหญิงสาวที่หน้าตาสะสวยแต่ทว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมายืนคุยไง ตอนนี้มันเป็นเวลาที่จะต้องรีบไปเข้าแถวรับน้องขืนไปสายมีหวังได้โดนทำโทษหมู่แน่ชายหนุ่มรุ่นน้องเปรยตามองเพื่อนเพียงนิดก่อนที่จะหันกลับมาพูดคุยกับพี่สาวคนสวยต่ออีกสักหน่อยความจริงอยากคุยให้นานมากกว่านี้แต่เจอเธอที่ไรก็เหมือนจะมีอุปสรรคจึงทำให้ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันอย่างเป็นทางการสักที“ผมรู้ครับ เรื่องวันนั้นผมลืมมันไปหมดแล้วพี่เชอรีนไว้ใจผมได้ มันจะไม่หลุดออกมาจากปากผมแน่นอนแล้วไว้ค่อยเจอกันใหม่นะครับ”เมื่อพูดบอกพี่สาวคนสวยเสร็จเขาก็สาวเท้าเดินเข้าไปหากลุ่มเพื่อนทั
“น้องเขามาจีบแกเหรอ”“จะบ้าเหรอ! ไอ้เด็กไม่มีมารยาทแบบนั้นฉันไม่มีทางชอบมันแน่!!” ไอรีนรีบหันขวับมองจ้องหน้าเพื่อนสนิททันที เห็นหน้าเธอแบบนี้เธอก็เลือกนะแม้ว่าไอ้เด็กนั่นมันจะหล่อมากก็ตามแต่เธอก็ไม่คิดที่จะเอาผู้ชายแบบนั้นมาเป็นคนรักหรอกนะแล้วแถมตอนนี้เขาและเธอได้กลายมาเป็นพี่น้องกันด้วยมันไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้เลยและเธอยืนยันได้เลยว่าไม่เคยมีสักครั้งที่อยากจะเป็นพี่น้องกับผู้ชายแบบนั้น...“ว่าแต่น้องเขาอยู่โรงเรียนเดียวกันกับแกเหรอยัยเชอ” เพียวที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาแล้วหันไปถามทางด้านเชอรีนบ้างเพราะเมื่อครู่เธอก็เห็นน้องคนนั้นพูดคุยกับเชอรีนอยู่เหมือนกัน“อืมใช่ รุ่นน้องที่โรงเรียนเก่าน่ะ”“แล้วสรุปคุยอะไรกัน จีบกันชัวร์ มีให้ของด้วยเนี่ย” เพียวเห็นของที่อยู่ในมือไอรีนเธอจึงถามย้ำอีกครั้งก็คนมันต้องการที่จะจับผิดเพื่อนให้ได้นี่เนอะ สายตาเจ้าเล่ห์ของเพียวทำเอาไอรีนมองออกทันทีเธอถอนหายใจออกแล้วเริ่มเล่าเรื่องครอบครัวตัวเองให้ฟังอีกครั้ง“จำที่ฉันเคยเล่าเรื่องครอบครัวได้มั้ย เนี่ยแหละลูกติดของแม่เลี้ยงฉันเอง เด็กนั่นอายุห่างกับฉัน 2 ปีแต่ว่ามันไม่เคยเรียกฉันว่าพี่เลยแม้แต่ครั
“อืม ใช่ เราก็เลยเลือกที่จะทำงานที่นี่ที่เดียวน่ะ เราว่าจะทำไปสักพักนึง แล้วงานนี้เลิกประมาณเที่ยงคืนด้วย เลิกไวกว่าตอนเป็นพนักงานเสิร์ฟด้วย” เธอพูดไปก็ยิ้มไปตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอใครใจดีเท่าเจ้าของผับที่เธอทำงานอยู่มาก่อนเลย ทั้งๆที่เขาก็เป็นแค่เด็กหนุ่มที่อายุก็คงจะประมาณเท่าเธอแต่เขากลับบริหารกิจการงานเก่ง มีลูกค้ามากมายเข้ามาใช้บริการผับทุกวัน“แล้วร่างกายจะไหวมั้ย..” เชอรีนที่เป็นห่วงในตัวเพื่อนสาวรีบเอ่ยถามตัวเธอก็แค่นี้แล้วยังต้องทำงานจนดึกดื่นอีกแล้วแบบนี้โรคภัยไข้เจ็บจะไม่ถามหาเอาเหรอ“ต้องไหวสิเราทำได้อยู่แล้ว” วิเวียนยิ้มหวานมองตาเพื่อนรัก เรื่องนอนดึกแบบนี้เธอชินแล้ว ร่างกายรวมไปถึงสภาพจิตใจของเธอมันโอเคมากแต่ก็นะเธอรู้ว่าเพื่อนเป็นห่วง มือเล็กกอบกุมมือเชอรีนจะบอกเธออย่างไรดีว่าไม่ต้องเป็นห่วง“ไม่ต้องเป็นห่วงเรานะ ถ้าเราไม่ไหวเราค่อยลาออก โอเคมั้ย”“โอเค..งั้นสู้ๆแต่อย่าหักโหมจนเกินไปนะ” ได้ยินแบบนั้นเชอรีนก็ค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย เธอกับไอรีนและเพียวจะคอยซัพพอร์ตวิเวียนอยู่ตรงนี้เสมอขอแค่มีอะไรเธอบอกกันเท่านั้นพวกเธอก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเพื่อนคนนี้ทันที วิเวียนพยักหน้าส่งย
“อืม ได้สิ ว่าแต่บ้านเราอยู่แถวไหนเหรอ” แชมเปญยินดีเป็นอย่างมากที่จะไปส่งไอรีนถึงที่บ้าน“อยู่แถวลาดพร้าวค่ะ”“แถวเดียวกับเก้าเลยนี่ เก้าไปส่งไอรีนหน่อยได้มั้ย” แชมเปญชี้มือไปทางเก้าทันทีเพราะคอนโดของเขาก็อยู่แถวนั้นเหมือนกัน เธอร้องขอให้หนุ่มปีสามช่วยไปส่งเพื่อนน้องสาวของเธอซึ่งเขาก็พยักหน้ารับปากด้วยความเต็มใจและหันไปส่งยิ้มให้ไอรีน เรื่องไปส่งแค่นี้ถือว่าสบายมากไม่ได้ลำบากอะไรเลย“อืม ได้สิ ไอรีนเดี๋ยวกลับกับพี่นะ”“หา ตะ แต่ว่า..ค่ะ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นทำไมสุดท้ายเธอถึงต้องให้พี่เก้าไปส่งเธอที่บ้านด้วย ทำไมเรื่องมันเป็นแบบนี้ไปได้ ไอรีนอ้าปากเตรียมที่จะปฏิเสธแต่พอเห็นสีหน้าและแววตาของพี่เก้าเข้าให้จึงทำให้เธอหลบสายตาเผลอตกปากรับคำเขาไปอย่างง่ายดายและเป็นจังหวะเดียวกันกลับที่พนักงานของร้านได้นำบิลมายื่นให้เก้า“ทั้งหมด 1,500 บาทค่ะ”“นี่ครับ” เก้าหยิบเงินในกระเป๋าขึ้นมาแล้วยื่นเงินจำนวนนั้นให้กับพนักงานของร้าน ทุกคนพากันลุกขึ้นจากเก้าอี้และสาวเท้าพากันเดินออกจากร้านอาหารญี่ปุ่น เพียวกับมาร์ชขอแยกตรงหน้าร้าน เชอรีนไปรถของพี่แชมเปญส่วนไอรีนจำต้องไปกับพี่เก้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ยัยเชอพูดอะไรน่ะน่าตีจริง” แชมเปญรีบส่งเสียงเอ็ดน้องสาว เดี๋ยวนี้เธอร้ายถึงขั้นที่แนะนำเพื่อนให้ผู้ชายเชียวเหรอถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอก็เถอะ แชมเปญมองไปยังเพื่อนทั้งสองของเชอรีน คนนึงกำลังหัวเราะตลกขบขันเหมือนคนไม่คิดอะไรแต่อีกคนนี่น่ะสิชื่อว่าอะไรนะ ไอรีน อย่างนั้นใช่มั้ย ก้มหน้าก้มตาเชียวดูเหมือนจะเขินไปกับสิ่งที่น้องสาวเธอพูดอย่างนั้นสินะเก้าที่มองเห็นเหมือนกันว่าไอรีนเขินเขาจึงได้พูดอย่างไม่จริงจังมากนัก เขามองไปยังใบหน้าเรียวสวยของไอรีน เด็กสาวคนนี้สวยผิวขาวหน้าตาน่ารักน่ามองเหมือนกันนะซึ่งเขาเองที่ไม่ค่อยจะสนใจใครสักเท่าไหร่จึงทำให้ไม่ทันได้สังเกตเธอ“ดูสิ เพื่อนเราเขินพี่หมดแล้ว” เก้าชี้มือไปที่ไอรีนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตา เขาหลุดยิ้มออกมาอย่างคนที่เอ็นดูเพื่อนของน้องสาว เชอรีนมองไปยังไอรีนก็พบว่าเธอเขินอายอย่างที่พี่ชายเธอได้บอก อย่าบอกนะว่าไอรีนชอบพี่เก้าน่ะงั้นจะรอช้าอยู่ทำไมก็รีบจับคู่ให้พวกเขาเลยสิครับ...“ก็เห็นพี่โสดเลยอยากแนะนำคนใกล้ตัวให้ช่วยดูแลพี่ชายไงคะ” เชอรีนไม่รีรอที่จะพูดต่อไปถ้าพวกเขาหัวใจตรงกันสักวันก็อาจจะได้เลื่อนขั้นพัฒนาเปลี่ยนสถานะ
เสียงหวานของวิเวียนพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเชอรีนได้มายืนอยู่ตรงนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดพยักหน้าพร้อมกันและพากันเดินออกจากห้องประชุมแห่งนี้และทันทีที่ออกมาข้างนอกแล้วเสียงของผู้ชายก็ดังขึ้นตามหลังพวกเธอ“เชอรีน..”หญิงสาวเจ้าของชื่อหันหลังกลับไปมองว่าใครคือคนที่เรียกชื่อของเธอและทันใดนั้นดวงตากลมโตก็ตาลุกวาวเจ้าของเสียงเรียกก็คือ พี่เก้า พี่ชายลูกพี่ลูกน้องของเธอนั่นเองแถมเขายังมาพร้อมกับพี่แชมเปญพี่สาวคนสวยของเธออีกด้วย“ดีใจด้วยนะน้องสาวของพี่ วันนี้เธอสวยมากแต่สวยน้อยกว่าพี่นิดนึง” แชมเปญเดินเข้ามาโอบกอดผู้เป็นน้องสาวเธอรู้สึกดีใจมากที่น้องของเธอได้รับตำแหน่งดาวคณะในปีนี้เก้า..หนุ่มหล่อคณะทันตะปีที่3 ยิ้มให้กับความน่ารักของสองพี่น้องนี่ถ้ามีเจ้าชะเอมน้องสาวคนเล็กมาด้วยอีกคนก็คงจะเป็นภาพที่อบอุ่นหัวใจอยู่ไม่น้อย“พี่ยินดีกับเราด้วยนะ” เสียงทุ้มระรื่นหูพูดขึ้นทำเอาสองพี่น้องต่างก็ผละร่างกายออกจากกัน เชอรีนหันไปส่งยิ้มหวานให้กับผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของตัวเองพลางเอ่ยคำขอบคุณจากใจจริง“ขอบคุณค่ะพี่เก้า~” เสียงใสของเธอทำเอาคนรอบข้างให้ความสนใจอีกครั้งผู้คนต่างก็มองดูเธอและกลุ่มเพื่อนรว