บทที่ 3 จัดการคนโกง
คำเตือน!
มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม มีการใช้ความรุนแรง ใช้อาวุธ มีเลือด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
@เพนต์เฮาส์ทอร์ช
ครืดดดดดด~
"สวัสดีครับ" ทอร์ชกดรับสายจากผู้เป็นแม่
"แม่มีอะไรครับโทรหาผมแต่เช้า"
(โทรหาลูกชายทั้งทีต้องมีอะไรก่อนเหรอถึงจะโทรได้ นี่แม่นะ!)
"ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นครับ"
(ก็แม่คิดถึง ทอร์ชไม่กลับบ้านนานเเล้วนะ ไม่คิดจะกลับมาหาแม่กับแด๊ดดี้เลยหรือไง)
"ผมงานยุ่งครับ"
(เฮ้อ~ มีลูกชายคนเดียว ก็เหมือนไม่มี) ผู้เป็นแม่เอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ
ทอร์ชพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เพราะเขารู้จักลูกเล่นของผู้เป็นแม่ดี
"เดี๋ยววันนี้ตอนเย็นผมจะเข้าไปหาแม่ที่บ้านนะครับ"
(ค่อยชื่นใจหน่อย แม่จะทำของโปรดไว้รอนะ)
"ครับ"
@คฤหาสน์ครอบครัวทอร์ช
เอี๊ยด~ เสียงรถหรูของทอร์ชถูกขับเข้ามาจอดภายในบริเวณคฤหาสน์หลังใหญ่ด้วยความเร็วปกติ เขาแปลกใจว่าวันนี้พ่อกับแม่เขามีแขกเหรอ เพราะเห็นรถหรูที่ไม่คุ้นตาคันหนึ่งจอดอยู่บริเวณบ้าน
"ทอร์ช...มาแล้วเหรอคุณชายของแม่" เสียงหวานของพิมพ์ลดาเอ่ยเรียกพร้อมโผเขามากอดหอมแก้มลูกชายสุดที่รัก
"คิดถึงที่สุด...วันนี้แม่มีคนมาแนะนำให้ลูกรู้จักด้วย"
"..."
"ใครครับ!?"
"ยัง-ไม่-บอก ตามแม่มาเดี๋ยวก็รู้เอง" พูดจบผู้เป็นแม่ก็เดินนำลูกชายเข้ามาที่ห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่
"นี่น้องเคธี่จ๊ะ ลูกสาวรุ่นน้องคุณพ่อ น้องเพิ่งกลับจากอังกฤษแม่เลยชวนน้องมาทานข้าวด้วย"
ทอร์ชพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เขารู้ทันความคิดของผู้เป็นแม่ เพราะผู้เป็นแม่ชอบถามเรื่องลูกสะใภ้กับเขาอยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่เลิกควงกับเวนิสเขาก็ไม่มีใครอีกเลยเหมือนหัวใจปิดตายเรื่องความรัก ผู้เป็นแม่ก็อยากอุ้มหลานเต็มที พูดย้ำตลอดจนน่ารำคาญ
"สวัสดีค่ะ เคธี่ยกมือไหว้ทอร์ช"
"ครับ" ทอร์ชพยักหน้ารับไหว้เล็กน้อยตามมารยาท
"ช่วงนี้งานเป็นยังไงบ้าง" เพทายเอ่ยถามลูกชาย
"เห็นแม่แกบอกว่ายุ่งเรื่องงานจนไม่มีเวลากลับบ้าน"
"มีเรื่องให้จัดการนิดหน่อยครับ"
"อืม" ผู้เป็นพ่อตอบรับสั้นๆไม่ได้ถามอะไรต่ออีก เพราะเขาเข้าใจงานของลูกชายเป็นอย่างดี ที่เขาเอ่ยถามเพื่อไม่ให้บรรยากาศดูตึงเครียดเกินไป เขารู้ดีว่าลูกชายไม่ชอบการถูกจับคู่
"แม่อยากให้ทอร์ชรู้จักกับหนูเคธี่เอาไว้ เผื่อน้องมีปัญหาอะไรจะได้ช่วยเหลือน้อง"
"ครับ" ทอร์ชตอบรับแบบส่งๆเพราะไม่อยากขัดใจผู้เป็นแม่
หลังจากที่ทุกคนทานข้าวเสร็จ ด้านพิมพ์ลดาที่เดินมาส่งลูกชายที่หน้าบ้าน เห็นเคธี่พยายามสตาร์ทรถอยู่หลายครั้ง จึงเอ่ยถาม
"หนูเคธี่รถเป็นอะไรคะ"
"สตาร์ทไม่ติดเลยค่ะคุณแม่ ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกันค่ะ ตอนเคธี่ขับมายังดีๆอยู่เลย"
"ถ้าอย่างนั้นเอารถไว้นี่ก่อนเดี๋ยวแม่ให้คนของคุณพ่อมาดูให้นะ"
"ขอบคุณนะคะคุณแม่"
"ทอร์ช" พิมพ์ลดาเอ่ยมองหน้าลูกชาย
"ไปส่งน้องที่บ้านหน่อยสิลูก"
"มะ...."
"ให้พี่เขาไปส่งนะคะ" ยังไม่ทันที่เคธี่จะพูดจบ พิมพ์ลดาเอ่ยแทรกขึ้นซะก่อน
"กะ...ก็ได้ค่ะ" เธอเอ่ยด้วยความเกรงใจ
ทอร์ชพ่นลมหายใจออกมาหนักๆอย่างเลี่ยงไม่ได้
@คฤหาสน์เคธี่
"ขอบคุณนะคะที่มาส่งเคธี่ พี่ทอร์ชเข้าไปในบ้านก่อนไหมคะ"
"ไม่เป็นไรครับ พอดีมีงานด่วนต้องรีบกลับ" ทอร์ชเอ่ยอย่างตัดบทสนทนาด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
พอทอร์ชขับรถออกไป เคธี่สบถคำหยาบออกมาที่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนของเธอ ใจจริงเธอต้องการที่จะอ่อยมาเฟียหนุ่ม เพราะตอนนี้ธุรกิจครอบครัวเธอมีปัญหาหนัก ถ้าเคธี่ได้แต่งงานกับทอร์ช ธุรกิจของครอบครัวเธอจะมีรายได้มหาศาลยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า เพราะเธอรู้ดีว่าอำนาจครอบครัวทอร์ชใหญ่โตขนาดไหน
@มาร์ฟิกซ์คลับ
"ไง...ไม่เจอมึงตั้งนาน"
หลังจากที่เขาไปส่งลูกสาวรุ่นน้องคุณพ่อก็ตรงมาที่คลับของเพื่อนสนิทเลย
"แต่ได้ข่าวว่าวันนั้นมึงไม่ได้มาคลับกู มึงไป AAA777 Pub ทำไม? ปกติมึงไม่ไปดื่มที่ไหนนอกจากคลับกูนิ ไปล่อสาวที่นั่นเหรอ"
ทอร์ชไม่ตอบคำถามเพื่อนนอกจากกระดกเหล้าเข้าปาก
"หึ..." มาร์ฟิกซ์กระตุกยิ้มมุมปากให้กับท่าทางของเพื่อนสนิท
"พรุ่งนี้นัดคุยงานกันที่นี่นะ"
"ทำไมไม่คุยวันนี้"
"ก็ว่างตรงกันสักคนไหมล่ะ"
"เอ้อ! เดี๋ยวมา กูกลับล่ะ"
"มาแค่นี้?"
"จะให้อยู่เหี้ยอะไรนานหนักหนา กูไม่ได้ว่างเหมือนมึง เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็มาอีก ไม่ต้องคิดถึงกูขนาดนั้นก็ได้"
"คิดถึงเหี้ยอะไร ก็เห็นมึงรีบ ซ่อนเมียไว้ที่เพ้นท์เฮาส์หรือไงว่ะ"
"ไร้สาระ"
"อย่าให้กูรู้แล้วกัน...เพราะกูจะรายงานคุณพิมพ์ลดาแน่นอน" มาร์ฟิกซ์เอ่ยด้วยท่าทางกวนประสาท ทอร์ชได้แต่สบถคำหยาบออกมาอย่างเบื่อหน่าย
@Torch Casino
ก๊อก~ ก๊อก~ ก๊อก~
"เข้ามา"
"นี่ครับ! หลักฐานการโกงของลูกค้าวีไอพี"
"ตอนนี้มันอยู่ไหน"
"ห้องใต้ดินครับ"
จบการรายงานของลูกน้องคนสนิท เขาก็ตรงไปที่ห้องใต้ดินเพื่อจัดการคนโกงทันที ใครที่มาเล่นที่คาสิโนเขาแล้ว ถ้าไม่รักษากฎของที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าระดับไหน เขาไม่ปล่อยให้รอดไปสักคน
ทอร์ชถือแท่งเหล็กเดินตรงไปที่ชายวัยประมาณสี่สิบ ที่ถูกโซ่พันธนาการไว้ทั้งสองมือ เขามองผู้ชายตรงหน้าด้วยแววตาโหดเหี้ยม
"คุณทอร์ชคะ..." ยังไม่ทันที่คนตรงหน้าจะได้เอ่ยอะไร ทอร์ชฟาดแท่งเหล็กไปที่ใบหน้าของเขาจนเป็นรอยแผลยาวเลือดไหลอาบหน้า
"คนที่ไม่รักษากฎในการเล่นคาสิโนที่นี้ จุดจบไม่ได้สวยสักคนหรอกนะ"
"ผมไม่ได้ทำอะไรผิด"
"หึ..." มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากด้วยแววตาโหดเหี้ยม ก่อนจะโยนหลักฐานการโกงใส่คนตรงหน้า
"คิดดีแล้วเหรอที่โกหกคนอย่างกู"
"พะ...ผมขอโทษ"
"เก็บคำขอโทษของมึงไปใช้ในนรกเถอะ เอามันไปฝัง" สิ้นเสียงคำสั่งของทอร์ช คนของเขาก็พาตัวชายคนนั้นออกไปทันที
@สนามบิน
"แดดดี๊"
เสียงหวานของคนตัวเล็กกำลังออดอ้อนพ่อของเธอ
"ทำไมครั้งนี้ แดดดี๊ไปทำงานที่ฝรั่งเศสนานจังค่ะ พริมต้องคิดถึงแดดดี๊มากๆแน่เลย"
"ปากบอกคิดถึงแด๊ดแต่ไม่ค่อยกลับบ้านเลยนะ"
"ตอนนี้พริมก็มาอยู่กับแดดดี๊แล้วนิค่ะ พอมาอยู่ด้วยก็ไม่อยู่กับลูก"
"ทำเป็นพูดเข้า ธุรกิจที่นั้นกำลังมีปัญหาแด๊ดต้องไปจัดการถ้าธุรกิจยังแก้ปัญหาไม่ลงตัวแด๊ดอาจจะอยู่ที่นั้นนานหน่อย ส่วนธุรกิจทางนี้แด๊ดฝากพริมด้วย ไปศึกษางานกับอัครพลนะ"
อัครพลคือเลขาคนเก่าคนแก่ที่ทำงานกับ พชรมานานมากเหมือนคนในครอบครัวคนหนึ่ง ทำให้พชรไว้วางใจอัครพลมาก เขาทำงานด้วยความจงรักภักดีกับพชรมาตลอด ถ้าอัครพลเกิดปัญหาอะไรพชรก็จะยื่นมือเข้ามาช่วยเสมอ
"แด๊ดจะรีบจัดการงานทางโน้นให้เรียบร้อยนะ มีอะไรโทรหาแด๊ดได้ตลอด" พริมโผเข้ากอดพ่อตัวเอง
"อยู่ทางนี้ดูแลตัวเองด้วยนะ"
"ค่ะ"
พชรเอ่ยพลางลูบหัวลูกสาวที่เป็นดั่งดวงใจของเขา
"เเดดดี๊ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะพริมจะดูแลงานทางนี้แทนแดดดี๊ อย่างสุดความสามารถ"
"แด๊ดเชื่อมือพริมอยู่แล้ว แด๊ดต้องรีบไปแล้ว เดี๋ยวตกเครื่อง!"
"เดินทางปลอดภัยนะคะ ถึงที่โน่นแล้วอย่าลืมโทรหาพริมนะคะ" พริมโรสตะโกนตามหลังผู้เป็นพ่อ ทั้งสองคนจึงโบกมือลากัน...