ช่วงเวลาที่เงียบสงบนีรชากำลังใช้ความคิดอยู่กับนิยายรักโรแมนติกของเธอเหมือนเช่นทุกวัน จอคอมพิวเตอร์สี่เหลี่ยมคือสิ่งที่ให้เธอได้ถ่ายทอดจินตนาการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อตอนเย็นอรรถพลโทรมาบอกก่อนแล้วว่าวันนี้ตนต้องกลับดึกเพราะต้องอยู่เคลียร์งานที่บริษัท เธอไม่ได้ว่าอะไรตรงกันข้ามกลับเข้าใจคนเป็นพ่อต้องทำงานหนักก็เพื่อลูกอย่างเธออีกทั้งยังเข้าใจสายงานที่อรรถพลทำอยู่และยิ่งช่วงสิ้นเดือนแบบนี้คนทำงานบัญชีมักจะยุ่งจนหัวหมุน
อีกหน่อยเธอเองก็คงจะไปเป็นพนักงานบัญชีเหมือนอรรถพลเป็นแน่เพราะแรงบันดาลใจที่สอบชิงทุนจนเข้าเรียนคณะบัญชีได้ก็เพราะมีคนเป็นพ่อเป็นแบบอย่าง
หลังจากรับผิดชอบงานบ้านที่ได้รับมอบหมายเสร็จนีรชาไม่ลืมจะปิดประตูหน้าต่างทุกบานให้เรียบร้อยแล้วรีบอาบน้ำให้สบายตัวเพื่อที่จะได้มาปั่นงานอันเป็นที่รักต่อ
“โอ๊ย ทำไงดีคิดไม่ออก” นีรชายกมือกุมขมับเพราะอยู่ๆ สมองที่เคยลื่นไหลก็ตัน ในซีรีส์ที่เธอชอบดูมีพระรองแสนดีฉันใดในนิยายของเธอก็มีพระรองแสนดีฉันนั้น คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาด้วยความหนักอกพลางนึกตำหนิตัวเอง
ทำไมเธอต้องให้พระรองแสนดีขนาดนี้ด้วยนะ
นีรชาถอดแว่นสายตาคู่หูออกวางไว้ที่โต๊ะแล้วลุกยืดเส้นยืดสายเพราะนั่งอยู่อยางนั้นไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมงขณะนั้นเธอสังเกตเห็นว่ากลุ่มเมฆฝนที่ตั้งเค้าเมื่อตอนกลางวันทำท่าจะตกลงมาเธอจึงเดินไปปิดหน้าต่าง เวลานี้ด้านนอกมีลมกระโชกแรงเหล่าต้นไม้น้อยใหญ่เอนไปในทิศทางเดียวกันดวงตาคู่สวยมองออกไปด้านนอก
ความเย็นยะเยือกปกคลุมทั่วทุกพื้นที่ส่งผลให้รางบางหนาวเย็นเข้ากระดูกจนเธอต้องโอบกอดตัวเองช่างเป็นบรรยากาศที่ชวนอยากให้มุดเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่มนอนฟังเสียงฝนที่กระทบหลังคาบ้านทว่าพายุลูกใหญ่ที่กำลังเคลื่อนตัวมาทำให้อดเป็นห่วงคนเป็นพ่อว่าป่านนี้ทำงานใกล้เสร็จหรือยัง
แต่ในระหว่างที่นีรชากำลังเป็นห่วงพ่อของเธออยู่นั้นบานหน้าต่างที่เป็นเพียงไม้เก่าๆ ก็ถูกลมแรงพัดจนตีเข้าหากันเสียงดัง ลมกระโชกแรงมาพร้อมกับฝนห่าใหญ่ที่พร้อมใจกันซัดสาดลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทันทีที่นีรชาตั้งสติได้เธอก็รีบเดินกลับมาที่คอมพิวเตอร์และในตอนนั้นเองในหัวของแม่นักเขียนนิยายก็คิดอะไรดีๆ ออก
ใช่….ฝนตก
เจ้าของร่างบางดีดนิ้วดังเปาะรีบนั่งลงยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ในหัวเต็มไปด้วยภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่อยากจะถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือ นีรชากำลังจินตนาการถึงตอนที่พระเอกในนิยายของเธอตามหานางเอกเจอแล้วจะพากลับไปด้วยและเพราะเสียงเม็ดฝนที่กำลังถล่มหลังคาบ้านอยู่ในตอนนี้ทำให้ในที่สุดเธอก็รู้แล้วว่าจะแต่งจากที่ค้างเอาไว้ยังไง
เมื่อจินตนาการลื่นไหลปลายนิ้วเล็กวางลงยังแป้นพิมพ์สีแป๋นเวลาที่สมองเป็นใจแบบนี้มีหรือที่คนแต่งนิยายอย่างเธอจะไม่รีบคว้า
ขอโทษด้วยนะพายุที่ทำให้ต้องอกหักแต่ทำยังไงได้พระรองอย่างนายก็เป็นได้แค่ตัวสำรองเท่านั้นนี่
นีรชาระบายยิ้มกว้างพึมพำกับตัวเอง สำหรับคนแต่งนิยายอย่างนีรชาแล้วตัวละครเฉกเช่นพระรองก็เปรียบเป็นเพียงหมากสำคัญหมากหนึ่งที่ทำให้เนื้อเรื่องมันมีสีสัน
พระเอกคู่กับนางเอกเป็นเรื่องธรรมดาต่อให้พระรองแสนดีแค่ไหนก็ไม่ใช่คนที่ถูกเลือกเพราะบทพระรองถูกสร้างมาให้เป็นคนเสียสละและเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพระนางเท่านั้น
นานหลายนาทีที่นีรชาอยู่กับสมาธิดวงตาเรียวรีจดจ่ออยู่กับจอสี่เหลี่ยมเบื้องหน้าปลายนิ้วเล็กถ่ายทอดเหตุการณ์รักสามเส้าผ่านตัวหนังสือที่บรรจงพิมพ์ลงไปซึ่งดูเหมือนจะเป็นธรรมดาของนักเขียนทุกคน
การบอกเล่าความรู้สึกของตัวละครในนิยายจำเป็นอย่างมากที่ต้องเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของตัวละครรวมถึงสถานการณ์ที่ตัวละครกำลังเผชิญหน้า
เฉกเช่นในเวลานี้ที่นีรชาได้เข้าใจความรู้สึกของ พายุ พระรองผู้น่าเห็นใจในนิยายของเธอว่าเขาต้องเจ็บปวดเพียงใดเมื่อพบว่าเขาเป็นได้แค่เพื่อนที่ดีคนหนึ่ง ทั้งที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวยแต่สุดท้ายเขาก็ได้เข้าใจว่าผู้หญิงที่หลงรักไม่เคยเหลียวมองเขาเลย
นีรชาอยากให้เนื้อเรื่องในนิยายเข้มข้นจึงให้นางร้ายขับรถตามพระเอกไปแต่ดันคลาดกันตัวร้ายในนิยายของเธอมีชื่อว่า พราวดาว
เธอเป็นดาราสาวที่ร้ายในจอแต่นอกจอชีวิตกลับน่าสงสาร เล่าไปก็เหมือนละครน้ำเน่าเรื่องหนึ่ง แม้ว่านีรชาจะให้พราวดาวเป็นดาราดังตั้งแต่เด็กมีสิ่งของทุกอย่างที่อยากได้แต่ก็ไม่ได้ให้ครอบครัวของพราวดาวอบอุ่นอย่างที่ควรจะเป็น เส้นทางการเป็นดาราของเธอได้มาเพราะความสามารถแต่เงินทองที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงคนเป็นพ่อก็เอาไปเข้าบ่อนการพนันจนหมดส่วนคนเป็นแม่วันๆ เอาแต่ขลุกอยู่กับขวดเหล้า
ชายคนที่พราวดาวหลงอย่างหัวปักหัวปำ นั่นก็คือ เหนือเมฆ เหนือเมฆเป็นเพื่อนในสมัยเด็กด้วยความที่พราวดาวโตมาในครอบครัวที่ขาดความอบอุ่นนางร้ายอย่างเธอเลยต้องเรียกร้องความรักจากคนอื่นมาเติมเต็ม ความรักที่มีให้เหนือเมฆทำให้นางร้ายของนีรชาหูหนวกตาบอดถึงขั้นขัดขวางความรักของพระเอก
เมื่อนิยายเดินทางมาถึงกลางเรื่องนีรชาให้คนอ่านเอาคืนนางร้ายด้วยการให้พราวดาวขับรถฝ่าพายุฝนตามพระเอกชายที่เธอตีตราจะเป็นเจ้าของไปแต่ให้ประสบอุบัติเหตุเรื่องราวต่อจากนี้เธอวางพล็อตเรื่องเอาไว้ว่าจะให้พราวดาวแกล้งความจำเสื่อมอาศัยช่วงเวลาที่ชีวิตเจอมรสุมทำให้พระเอกกลับมาสนใจตัวเองอีกครั้ง
โอ๊ย! พราวดาวคราวนี้เธอต้องถูกแฟนคลับของท่านประธานเกลียดกว่าเดิมแน่
แม่นักเขียนสาวเอ่ยออกมาอย่างติดตลกขนาดนิยายพึ่งจะเดินทางมาถึงแค่กลางเรื่องนางร้ายของเธอยังร้ายกาจได้เพียงนี้ ร้ายจนนีรชาเริ่มคิดหนักว่าจะให้มีจุดจบไปในทิศทางไหนเพราะเธอดันปูเรื่องไว้ซะยุ่งเหยิงไปหมด แต่ก็ช่างเถอะอย่างไรเสียพราวดาวก็เป็นแค่นางอิจฉานี่นา
นีรชากลับมาที่ฉากสำคัญที่เธอต้องให้พระรองในนิยายถูกนางเอกปฏิเสธความรู้สึก ฉากที่เธอกำลังนั่งเพียรแต่งเป็นฉากที่พระเอกตามหานางเอกเจอแล้วตัดสินใจกลับไปด้วยกัน
ทุกบรรทัดที่ถ่ายทอดความรู้สึกเธอพยายามจินตนาการว่าตัวเองคือตัวละครตัวนั้น แม้ว่าสายตาจะจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์แต่ในหัวกลับมองเห็นพระรองของตัวเองกำลังอกหักยืนอยู่ท่ามกลางพายุฝนที่โหมกระหน่ำลงมาอย่างบ้าคลั่ง
ร่างสูงเอาแต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง นีรชาเป็นคนกำหนดชีวิตทุกตัวละครในนิยายตอนนี้เธอจึงไม่ต่างอะไรจากคนที่กำลังยืนมองผู้ชายสิ้นหวังคนหนึ่ง ใบหน้าของชายหนุ่มราวกำลังถามตัวเองซ้ำๆ
เขายังไม่ดีพอหรือที่ผ่านมาเขายังพิสูจน์ความจริงใจไม่ได้
ทำไมคนที่เสียใจถึงเป็นเขา
ทำไมเขาถึงไม่ใช่คนที่ถูกเลือก
ความคิดความสงสัยตีกันอยู่ในหัวของพายุซ้ำไปซ้ำมา หากสวรรค์ไม่คิดให้เขาเกิดมาเพื่อใครสักคนเหตุใดถึงต้องให้เขารู้จักกับความรักที่เจ็บปวดรวดร้าวเพียงนี้
ฝนห่าใหญ่นอกฤดูกาลไม่มีทีท่าว่าหยุดพายุเนื้อตัวเปียกปอนหมดสภาพ เขายืนอยู่อย่างนั้นโดยไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่คนที่หัวใจบอบช้ำอ่อนแอแหงนหน้าขึ้นไปหาท้องฟ้าอันมืดมิดดวงตาคมไร้ความหวังไม่แม้แต่จะกะพริบตาราวกับต้องการให้เม็ดฝนเหล่านั้นได้ช่วยชะละล้างความเจ็บปวดก่อนที่เขาคนพ่ายแพ้จะทรุดเข่าลงไปที่พื้นอย่างสิ้นหวัง
“แค่นี้ก็น่าจะได้แล้วมั้ง” เสียงหวานพึมพำออกมามือเล็กยกขึ้นกอดอกก่อนจะนั่งหลังพิงเก้าอี้ดวงตาเรียวรีทบทวนตัวหนังสือผ่านกรอบแว่นเมื่อเห็นว่าใช้ได้แล้วนีรชาจึงลุกยืดเส้นยืดสายเพราะนั่งมาเป็นชั่วโมงแล้ว
เปรี๊ยงงง!!
นีรชายกมือปิดหูสองนั้นพายุก็ซัดลงมาราวกับฟ้ารั่วเสียงฝนกระทบหลังคาบ้านดังจนกลบเสียงทีวีที่นีรชาเปิดทิ้งเอาไว้คนตัวเล็กก้าวไวๆ เพื่อไปปิดหน้าต่างเป็นจังหวะเดียวกับที่ฟ้าผ่าลงมาอีกระลอกลมด้านนอกกระโชกแรงเสียจนพัดเอาเม็ดฝนกระทบใบหน้าขาวซีดความเหน็บหนาวทำให้นีรชาสวมกอดตัวเองเอาไว้
ทำไมเราถึงไม่ใช่คนที่ถูกรัก เพราะอะไร
ท่ามกลางเสียงฝนโหมกระหน่ำนีรชากลับได้ยินเสียงตะโกนเชิงตัดพ้อต่อว่าของใครสักคนและในตอนนั้นเองที่มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น
ชั่วพริบตา...รอบข้างของนีรชาเหมือนถูกสะกดให้หยุดนิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นราวกับถูกดึงเข้าไปอยู่ในที่ไหนสักแห่ง
ที่นั่นปรากฏร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง หมอกควันสีขาวโพลนปกคลุมบริเวณกว้างทำให้นีรชามองเห็นไม่ชัดรู้เพียงว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งแต่เธอยืนหันหลังอยู่ก่อนจะค่อยๆ เลือนหายไปแต่เมื่อนีรชาลืมตาขึ้นมาอีกทีกลับพบว่าตัวเองอยู่ในรถคันหนึ่งมองออกไปเบื้องหน้าแทบไม่เห็นอะไรเพราะสายฝนที่กำลังถาโถมลงมา
ยังไม่ทันจะคลายความสงสัยนีรชาก็ได้ยินเสียงดังอยู่ด้านนอกของรถเป็นเสียงเหมือนมีคนกำลังทุบกระจกหรืออะไรสักอย่างสายตาของนีรชาก็พร่ามัวเลยมองไม่เห็นว่าอะไรเป็นอะไร
และทันทีที่นีรชาคิดจะขยับร่างกายก็เจ็บร้าวเจียนจะขาดใจ
เกิดอะไรขึ้น ทำไมเราถึงมาอยู่ที่นี่ ที่นี่คือที่ไหน แน่นอนว่านีรชาไม่ได้สติฟั่นเฟือนจนจำไม่ได้ว่าก่อนหน้าที่ตนอยู่ที่ไหน กำลังทำอะไรแต่เหตุใดอยู่ๆเธอถึงมาโผล่ที่อื่น
“ชะ….ช่วยได้” เป็นน้ำเสียงที่เค้นออกมาอย่างยากลำบากดวงตาพร่ามัวเริ่มจะลืมไม่ขึ้นความรู้สึกของคนใกล้ตายเป็นอย่างไรนีรชาพึ่งเข้าใจตอนนี้เอง
“ช่วยด้วย” ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองแต่สัญชาตญาณการเอาตัวรอดบอกให้นีรชาขอความช่วยเหลือจากคนอื่นทว่า...ร่างกายของเธอตอนนี้แค่ขยับนิ้วยังทำได้ยาก
“ช่วย…..” เป็นน้ำเสียงที่ทั้งแผ่วเบาและอ่อนแรงเปลือกตาทั้งสองข้างปิดลงสติของนีรชาค่อยๆ ดับวูบทีละนิดโดยที่เธอไม่รู้เลยว่ามีเรื่องเหนือธรรมชาติเกิดขึ้นเพราะตอนนี้เธอได้มาอยู่ในร่างของ พราวดาว นางร้ายในนิยายของตัวเองไปแล้ว
"พ่ะ...พายุ" เสียงหวานเอ่ยขึ้นในลำคอเบาๆ กว่าหลายวินาที่นีรชามองไปที่อีกฝ่าย ตั้งแต่วันแถลงข่าวและวันที่ถูกพายุมัดมือชกให้ทำสัญญาเป็นแฟนวันนี้เป็นวันแรกที่ทั้งคู่ได้เจอกันแต่ก็ใช่ว่าแม่นักเขียนสาวในร่างพราวดาวสวยสง่าจะดีอกดีใจเนื้อเต้นเพราะคนที่เธออยากเห็นหน้าจวนใจจะขาดรอนๆ คือบอสหนุ่มสุดหล่ออย่างเหนือเมฆต่างหาก"นี่มันอะไรกันคะคุณเอกอย่าบอกนะว่าคุณหมอที่คุณบอกเมื่อกี้คือคุณหมอพายุ" เนตรนภาได้พูดแทนความสงสัยของนีรชาไปหมดแล้วแม้จะเทียบไม่ได้กับอาการตกใจของเธอ"ใช่ครับ คุณหมอพายุเป็นหมอคนนึงที่ร่วมในการวิจัยผลิตภัณฑ์ยาดังนั้นคุณพราวไม่ต้องกังวลเลยนะครับว่าจะกระทบชื่อเสียงเพราะผมได้ข่าวมาว่าคุณหมอพายุเก่งไม่แพ้คุณหมอไพโรจน์เสียที่อายุน้อยกว่า ทำงานกับแฟนอาจจะเกร็งๆ หน่อยนะครับ" ประโยคหลังเหมือนครีเอทีฟหนุ่มจงใจจะพูดให้พราวดาวได้ยินคนเดียว"ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องเสียเวลานะครับ" ทันทีที่ก้าวมาหยุดอยู่เบื้องหน้าของทุกคนด้วยความมีมารยาทเป็นทุนเดิมพายุจึงโค้งศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อกล่าวขอโทษทีมงานเป็นอันดับแรกคุณหมอผู้สง่าผ่าเผยเดินผ่านครีเอทีฟหนุ่มไปยืนข้างกายดาราสาวคนสนิทซึ่งดูเหมือนว่าแม่ดา
ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเนตรนภาสั่งให้พราวดาวเก็บตัวอยู่แต่ในคอนโดเพราะกลัวว่าถ้าออกไปข้างนอกอาจจะเจอนักข่าวแล้วจะถูกถามถึงเรื่องที่พึ่งให้สัมภาษณ์ไปการเปิดตัวแฟนแบบสายฟ้าแล๊บทำเอาทั้งคนในและนอกวงการต่างก็พากันพูดถึงส่งผลให้ภาพลักษณ์ของพราวดาวดีขึ้นแต่ก็ยังมีกระแสด้านลบอยู่บ้างโดยเฉพาะกลุ่มแอนตี้ที่ก่อนหน้านี้เคยบุกไปทำร้ายดาราสาวถึงโรงพยาบาลพวกเขาพากันขุดคุ้ยหาหลักฐานมาพิสูจน์ว่าระหว่างพราวดาวกับคุณหมอที่ทำตัวเป็นพระเอกขี่ม้าขาวแท้ที่จริงแล้วก็แค่การเล่นละครฉากหนึ่ง“พรุ่งนี้พี่จะมารับตอนสิบโมงนะ” เนตรนภาเห็นสมควรว่าพราวดาวคงต้องกลับมารับงานได้แล้วหลังจากที่พักรักษาตัวมาเป็นเดือน แม้ว่าดาราดังอย่างเธอจะทำประกันอุบัติเหตุเอาไว้แต่ก็ยังมีส่วนต่างที่ต้องจ่ายเพิ่มเนตรนภาเลยให้พราวดาวหยุดงานนานกว่านี้ไม่ได้เพราะพราวดาวยังต้องผ่อนคอนโดผ่อนรถไหนจะต้องเป็นเสาหลักของครอบครัว“ไปไหน”“ก็ไปทำงานไง” เนตรนภาตวัดสายตาด้วยสีหน้าประหลาดใจ หรือพราวดาวจะยังไม่พร้อมทำงาน ผู้จัดการสาวจึงได้นั่งลงถาม“ไหนว่าขาดีขึ้นเยอะแล้วไงพี่ก็เห็นพราวเดินเองได้แล้วนี่” งานที่ต้องไปถ่ายพรุ่งนี้เป็นโฆษณาตัวหนึ่งซึ่งเ
“อะไรนะ” นีรชาไม่คิดว่าคุณหมอพายุผู้ไร้เล่ห์เหลี่ยมจะใช้วิธีการเจ้าเล่ห์แบบนี้มัดมือชก พ่อพระรองผู้แสนดีไม่มีพิษมีภัยเห็นทีจะเป็นแค่ตัวละครไร้ตัวตนที่อยู่ในนิยายซะล่ะมั้งแต่ในขณะที่นีรชากำลังจะโวยวายต่อประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาโดยเจ้าของบริษัทโฆษณาอย่างเหนือเมฆ เขาตั้งใจจะมาพูดเรื่องการแถลงข่าววันนี้ นีรชาเห็นเหนือเมฆมาเลยรีบซ่อนสัญญาเข้าไปไว้ใต้หมอนเพราะไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้โดยเฉพาะพ่อพระเอกในฝันของเธอแม้ว่าการเป็นแฟนกันหลอกๆระหว่างเธอกับพายุอาจจะปกปิดคนใกล้ชิดได้ยากแต่เธอก็ไม่อยากให้เหนือเมฆหรือแม้แต่ผู้จัดการส่วนตัวรู้เรื่องสัญญาอยู่ดี“ฉันพึ่งได้ดูข่าวเธอแล้วก็รีบมาเลย” ประธานหนุ่มหรือพ่อพระเอกของแม่นักเขียนเปิดประตูเข้ามาด้วยท่าทางร้อนใจแต่ก่อนจะพูดธุระสำคัญสายตาก็ไปปะทะเข้ากับสายตาของพายุแม้การอยู่ของอีกฝ่ายไม่ได้ทำให้เขาแปลกใจเท่าไหร่แต่คุณหมอผู้ที่ปกติแล้วจะงานรัดตัวทั้งวันไม่น่าจะมีเวลามานั่งลอยหน้าลอยตาอยู่ห้องคนอื่น แต่เรื่องที่ทำให้เขาทั้งคู่จ้องหน้ากันนิ่งราวกับกำลังส่งกระแสจิตคงจะเป็นสาเหตุมาจากประเด็นร้อนที่พึ่งเกิดขึ้นวันนี้“แกอยู่ด้วยก็ดีแล้ว” เหนือเมฆเป็นฝ่ายเ
“สัญญาการเป็นแฟนหลอกๆ ระหว่างฉันกับเธอไง” ใช่ว่าจะไม่เข้าใจแต่ที่เธอต้องหันไปถามเป็นเพราะข้อความที่พายุอ้างว่าเป็นสัญญามันดูจะริบรอนอิสรภาพเกินไป“สัญญาเนี่ยนะ”“ใช่ สัญญาลองอ่านดูสิ” นีรชาถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจะก้มลงอ่านข้อความเหล่านั้นให้ถี่ถ้วน“ข้อหนึ่ง ฝ่ายเอสามารถมานอนค้างห้องของฝ่ายบีได้อย่างน้อยอาทิตย์ละสองครั้งข้อสอง ฝ่ายเอสามารถไปหาเวลาที่ฝ่ายบีไปทำงานได้ทุกที่อย่างไม่มีข้อยกเว้นข้อสาม เวลาอยู่ในที่สาธารณะฝ่ายบีต้องวางตัวหรือปฏิบัติเสมือนฝ่ายเอเป็นคนรัก ข้อนี้หมายรวมถึงความใกล้ชิดอย่างเช่นการจับมือ หอมแก้ม โอบกอด หากมากกว่านี้ต้องขึ้นอยู่ที่ความเหมาะสมและความสมัครใจของทั้งสองฝ่ายหรือขึ้นอยู่กับสถานการณ์บังคับข้อสี่ หากฝ่ายบีจะไปหาฝ่าเอในที่ทำงานสามารถไปได้ทุกเมื่อแต่ฝ่ายบีจะต้องมีสิ่งของติดมือไปด้วย ของสิ่งนั้นจะเป็นอะไรแล้วแต่ฝ่ายบีจะเห็นสมควรข้อห้า หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตกหลุมรักอีกฝ่ายจะถือว่าสัญญาฉบับนี้เป็นโมฆะซึ่งจะมีผลบังคับใช้ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงข้อหก สัญญาฉบับนี้มีอายุหกเดือนนับจากวันที่ทำสัญญาหลังจากครบหกเดือนทั้งสองฝ่ายจะเป็นอิสระโดยลดสถานะกลับไปเป็นเหมือนเดิม
“นายเป็นบ้าเหรอพายุทำไมถึงบอกว่าคบกับพราวดาวอยู่” พอพ้นสายตาของนักข่าวนีรชาก็ต่อว่าให้พระรองของเธอไปทันทีและเป็นคำพูดที่ออกมาจากความรู้สึกตัวเองไม่ใช่ต่อว่าแทนเจ้าของร่าง“ฉันก็ช่วยเธอไง” พายุเข้าใจที่ถูกอีกฝ่ายต่อว่าจึงตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“ช่วย ช่วยให้เรื่องมันวุ่นวายกว่าเดิมน่ะสิ” นีรชายังคงใช้อารมณ์ ที่แม่นักเขียนเป็นห่วงไม่ใช่เรื่องโกหกนักข่าวแต่เธอเป็นห่วงเนื้อเรื่องในนิยายมากกว่าเพราะพล็อตเรื่องที่วางเอาไว้พระรองผู้อ่อนโยนและแสนดีอย่างพายุจะต้องอยู่อย่างไร้คู่ไปตลอดชีวิตหรือต่อให้เขาคิดอยากมีคู่ขึ้นมาก็ต้องเป็นผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่นางร้ายของเธอแต่หากจะพูดให้ถูกประเด็นเรื่องที่ทำให้แม่นักเขียนร้อนใจจนต้องแสดงอาการโวยวายเป็นเพราะตัวเองดันมาอยู่ในร่างของพราวดาวต่างหากโอกาสทองที่จะได้ใกล้ชิดสนิทสนมชายหนุ่มในฝันอย่างเหนือเมฆ ไม่จบเห่หรอกเหรอ“ฉันเนี่ยนะทำให้เรื่องมันยุ่งกว่าเดิม” พายุชี้หน้าตัวเองเมื่อยัยดาราเอาแต่โทษเขาไม่หยุด“ก็ใช่น่ะสินายไปบอกนักข่าวแบบนั้นทำไม รู้ไหมว่าหลังจากนี้ไปนายจะถูกดึงเข้ามาในชีวิตของพราว….เอ่อ...ของฉัน” นีรชาร้อนใจเกือบจะเผลอพูดชื่อนางร้ายของเธอออ
"ผมกับคุณพราวตอนนี้เราสองคนกำลังคบกันอยู่ครับและคนที่คุณพราวขับรถไปหาคืนนั้นก็คือผม” เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกระลอก ในขณะที่สายตาคมภายใต้กรอบแว่นตามองไปยังเบื้องหน้าด้วยความสุขุมแม้ว่าพายุไม่ใช่ดาราหรือคนเด่นคนดังแต่เขาเป็นศัลยแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่งผู้ปรากฏตัวคล้ายไม่ได้รับเชิญทำให้บรรดานักข่าวพากันงงเป็นไก่ตาแตกเพราะก่อนหน้านี้พราวดาวมีข่าวกับนักธุรกิจหนุ่มดังนั้นแล้วการที่จู่ๆ พายุออกมาเปิดเผยความสัมพันธ์จึงเป็นประเด็นร้อนที่ทั้งนักข่าวและคนที่รับชมไลฟ์สดอยู่ในขณะนี้ต่างก็พากันให้ความสนใจ“แล้วทำไมคุณหมอพึ่งออกมาพูดครับ” ความจริงนักข่าวชายผู้นี้อยากถามว่า หากที่พูดมาเป็นความจริงควรจะออกมาพูดตั้งแต่ทีแรกนอกเสียจากว่าเรื่องที่พูดมันมีเบื้องลึกเบื้องหลัง“ที่ผ่านมาคุณพราวเป็นข่าวกับคุณเหนือเมฆมาตลอดในขณะที่ทุกคนรับรู้ว่าคุณหมออคือเพื่อนสนิทของคุณพราวการที่วันนี้คุณหมอออกมาบอกกำลังคบอยู่กับคุณพราวแบบนี้สังคมจะยิ่งตั้งข้อสงสัยไหมคะ” นักข่าวหญิงผู้นี้เป็นนักข่าวสายบันเทิงช่องดังช่องหนึ่งที่เล่นข่าวพราวดาวกับเหนือเมฆตั้งแต่แรกเริ่มเธอจึงไม่เชื่อว่าพราวดาวจะคบอยู่กับพายุจริงๆทว่าคำถาม