“พรุ่งนี้เธอไม่มีงานแต่เธอต้องไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายดังนั้นฉันจะดื่มแทนเธอเอง แกมีอะไรขัดข้องไหม” พายุไม่ได้คิดจะฟังคำตอบจากพราวดาวอยู่แล้ว เขาจึงหันไปขอความเห็นเหนือเมฆด้วยสายตาที่กำลังบอกเป็นนัย ๆ
ไม่ว่าเขาจะอยู่ในฐานะอะไรเขาก็ไม่อยากเห็นพราวดาวกลับไปเป็นเหมือนเดิมเพราะพราวดาวเจ็บมามากพอแล้ว
จากนั้นพายุก็ทำหน้าที่คอยดื่มเหล้าแทนพราวดาวจนหน้าเริ่มแดงก่ำ โชคดีที่เขาไม่ใช่คนคออ่อนไม่อย่างนั้นมีหวังได้สลบเพราะเหนือเมฆก็เล่นชงเหล้ามาซะเข้ม
เวลาล่วงเลยไปพักใหญ่ ๆ กว่าเนตรนภาที่พึ่งจัดการเรื่องส่วนตัวเสร็จจะตามมาสมทบ ทว่าเธอก็มาทันเวลาได้พอเหมาะพอเจาะ สถานการณ์ที่ทุกคนเข้าใจว่าเป็นศึกชิงนางเลยต้องยุติชั่วคราว
“ขอโทษนะคะที่ตามมาช้า” ผู้จัดการสาวเอ่ยขอโทษขอโพยเป็นอันดับแรก
“ผมว่านอกจากคำขอโทษต่อไปคุณเนตรคงต้องจัดการเรื่องส่วนตัวให้ดีกว่านี้นะครับจะได้ไม่กระทบกับงาน” เสียงทุ้มของพายุเอ่ยออกมาโดยไม่ได้คิดจะมองหน้าอีกฝ่าย
เรื่องกล้องวงจรปิดกับเรื่องที่เนตรนภาปล่อยให้คนนอกเข้าห้องพราวดาวโดยพลการจนของสำคัญหายไปเข
บ้าไปแล้วเหรอ เธอไม่เคยโดนยาพวกนี้สักหน่อยจะไปรู้ได้ยังไงเล่า อีกอย่างเธอก็กำลังถามเขาอยู่นะไม่ใช่ให้เขามาย้อนถามด้วยสายตาหยาดเยิ้มอย่างนี้ ไม่รู้หรือไงว่าหัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวเร็วเหมือนจะหลุดออกมาข้างนอกให้ได้ยังไม่ทันได้เอ่ยตอบอะไรพายุก็เคลื่อนริมฝีปากหยักหนาขยับลงมาใกล้เธอพร้อมกับลมหายใจผ่าวร้อน ใกล้ชนิดที่แม้ขยับริมฝีปากเพียงนิดอาจทำให้กำแพงของทั้งคู่พังทลายลงในชั่วพริบตาแต่แล้วเขาก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้ พายุลุกออกจากร่างเล็กไปนั่งที่ปลายเตียงแล้วมือยกกุมขมับ ความต้องการที่อัดแน่นอยู่ข้างในแปรสภาพเป็นเม็ดเหงื่อไหลออกมาท่วมตัวฤทธิ์ของสารกระตุ้นกำลังเล่นงานเขาอย่างหนักหน่วงในขณะที่ความเป็นชายแข็งขืนจนแทบจะทะลุออกมานอกเป้ากางเกง“ฉันขอใช้ห้องน้ำเธอหน่อยนะ” พายุกลั้นใจพูดอย่างไม่มีความอายหลงเหลือ คนที่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีตอนนี้กลับไม่มีความสามารถขับรถหรือแม้แต่จะออกไปเจอใครทั้งนั้นพูดจบคนข่มอารมณ์ก็ลุกออกจากเตียงทันทีก่อนจะก้าวเท้ายาว ๆ ตรงไปยังห้องน้ำอย่างไม่รีรอ เห็นทีว่าหนทางเดียวที่จะทำให้เจ้าน้องชายของเขายอมสงบคงมีเพียงสองมือ
มาถึงคอนโดพายุก็พยุงร่างของพราวดาวไปส่งในห้องนอน ปกติเวลาดาราสาวเมามายกลับมาจะสลบจนถึงเช้าแต่บังเอิญคนที่อยู่ในอ้อมแขนของพายุดันเป็นแม่นักเขียนแกล้งเมาเพราะต้องการเอาตัวรอด หลังรับรู้ได้ว่าตัวเองถูกวางลงเตียงอย่างเบามือพร้อมผ้าห่มคลุมป้องกันความหนาวเรียบร้อยคนแกล้งหลับมาตลอดทางก็ค่อย ๆ หลี่ตาขึ้นดูเลยทันได้เห็นว่าพ่อพระรองของเธอกำลังจะหนีกลับโดยไม่บอกกล่าว“พายุ” เสียงแหบแห้งดังขึ้น ไหน ๆ ก็แกล้งเมามาขนาดนี้แล้วแกล้งต่ออีกหน่อยจะเป็นไรไป อาศัยว่าในโลกของตัวเองเคยดื่มมาบ้างจึงแกล้งเล่นละครได้อย่างแนบเนียน“ต้องการอะไรไหมหรือว่าหิวน้ำ?” เกินคาดแฮะ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนใจแต่อีกฝ่ายยังแสดงออกว่าเป็นห่วงเป็นใยพราวดาวเอามาก เห็นแบบนี้แล้วนีรชาก็รู้สึกผิดและนึกอิจฉาพราวดาวในคราวเดียวกัน นัยน์ตาจึงดูเศร้าขึ้นมา“ว่าไงหรือว่าเธออยากไปเข้าห้องน้ำ?” นีรชาหยุดคิดไปครู่หนึ่ง ถ้าเธอบอกว่าปวดท้องฉี่แล้วไง ไม่ปล่อยให้ตัวเองสงสัยนานเสียงแหบแห้งของคนมีแอลกอฮอล์อยู่ในร่างกายจึงเอ่ยขึ้น” อือ แต่ฉันไปเองได้แต่ว่านาย…อยู่ก่อนได้ไหม?
“พรุ่งนี้เธอไม่มีงานแต่เธอต้องไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายดังนั้นฉันจะดื่มแทนเธอเอง แกมีอะไรขัดข้องไหม” พายุไม่ได้คิดจะฟังคำตอบจากพราวดาวอยู่แล้ว เขาจึงหันไปขอความเห็นเหนือเมฆด้วยสายตาที่กำลังบอกเป็นนัย ๆไม่ว่าเขาจะอยู่ในฐานะอะไรเขาก็ไม่อยากเห็นพราวดาวกลับไปเป็นเหมือนเดิมเพราะพราวดาวเจ็บมามากพอแล้วจากนั้นพายุก็ทำหน้าที่คอยดื่มเหล้าแทนพราวดาวจนหน้าเริ่มแดงก่ำ โชคดีที่เขาไม่ใช่คนคออ่อนไม่อย่างนั้นมีหวังได้สลบเพราะเหนือเมฆก็เล่นชงเหล้ามาซะเข้มเวลาล่วงเลยไปพักใหญ่ ๆ กว่าเนตรนภาที่พึ่งจัดการเรื่องส่วนตัวเสร็จจะตามมาสมทบ ทว่าเธอก็มาทันเวลาได้พอเหมาะพอเจาะ สถานการณ์ที่ทุกคนเข้าใจว่าเป็นศึกชิงนางเลยต้องยุติชั่วคราว“ขอโทษนะคะที่ตามมาช้า” ผู้จัดการสาวเอ่ยขอโทษขอโพยเป็นอันดับแรก“ผมว่านอกจากคำขอโทษต่อไปคุณเนตรคงต้องจัดการเรื่องส่วนตัวให้ดีกว่านี้นะครับจะได้ไม่กระทบกับงาน” เสียงทุ้มของพายุเอ่ยออกมาโดยไม่ได้คิดจะมองหน้าอีกฝ่ายเรื่องกล้องวงจรปิดกับเรื่องที่เนตรนภาปล่อยให้คนนอกเข้าห้องพราวดาวโดยพลการจนของสำคัญหายไปเข
“ก็บอกแล้วไงว่าวันนี้เธอคือผู้หญิงของฉัน” ดวงตาเรียวรีจ้องมองชายหนุ่มด้วยความรู้สึกหลากหลาย ถ้าพายุรู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ไม่ใช่พราวดาวแต่หากเป็นคนแปลกหน้าที่มาจากมิติอันน่าเหลือเชื่อ เขาจะยังพูดคำนี้และใช้สายตาอบอุ่นมองมาหรือเปล่าเมื่อถึงเวลานีรชาในร่างดาราสาวเฉิดฉายเคียงคู่มากับพายุ เวลานี้ทุกคนต่างก็รู้กันดีว่าผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาหุ่นสูงชะลูดราวนายแบบคือแฟนหนุ่มนอกวงการ ในข่าวว่าเป็นสุภาพบุรุษแล้วนอกจอคุณหมอยังดูแลเทคแคร์แฟนสาวอย่างดีจนทุกคนพากันอิจฉาตาร้อนระหว่างรอทีมงานเช็คความพร้อมก่อนถ่ายทำ พ่อพระเอกในฝันของแม่นักเขียนหลงมิติก็เดินทางมาถึงบอสหนุ่มตรงมายังทุกคนทันทีและเมื่อเห็นพายุเขาก็รู้สึกแปลกใจทำไมพักนี้คนที่ชอบให้งานรัดตัวตั้งแต่ต้นปียันท้ายปีถึงว่างขนาดมาปรากฏตัวที่บริษัทของเขาได้“ขอโทษนะที่ฉันมาช้าพอดีมีงานเข้านิดหน่อย” คนมาสายรีบแก้ต่างก่อนจะทิ้งตัวลงข้าง ๆ ดาราสาวสวยซึ่งอีกฝั่งมีพายุนั่งขนาบข้างอยู่ก่อนแล้ว“ไม่เป็นไรหรอกฉันรู้ว่าบอสอย่างนายงานยุ่งมากกก” นีรชาตั้งใจเน้นประโยคหลังพ
หลังใช้เวลาแต่งองค์ทรงเครื่องพักใหญ่แม่นักเขียนในร่างดาราสาวก็ค่อย ๆ แง้มประตูออกมาจากห้องเพราะรู้สึกเคอะเขินกับชุดที่สวมใส่อยู่ก่อนหน้านี้เนตรนภาได้โทรมาบอกเรื่องที่รถของเธอจอดเสียอยู่ระหว่างทางก่อนจะกำชับเรื่องชุดที่เตรียมไว้ให้พราวดาวสำหรับไปถ่ายโฆษณาวันนี้โดยเฉพาะ เพราะเห็นว่าจะมีนักข่าวมาขอเก็บภาพขณะถ่ายทำเนื่องจากคนว่าจ้างงานใหญ่มีหน้ามีตาเป็นที่รู้จักในสังคม เนตรนภาเลยเห็นว่างานนี้พราวดาวต้องสวยและเด่นที่สุดคู่ควรกับตำแหน่งดาวร้ายร้อยเล่มเกวียนแห่งวงการมายาผลพลอยได้จากการสวมใส่เสื้อผ้าสวย ๆบวกกับฝีมือการแต่งหน้าทำผมของนีรชา วันนี้พราวดาวจึงดูสวยเป็นพิเศษทำเอาพายุมองด้วยความตกตะลึงเกาะอกคอเล็กชั่นใหม่ล่าสุดอยู่บนตัวพราวดาวได้อย่างดูดี โดยชายกระโปรงระบายด้านหน้าสั้นเหนือเข่าขึ้นมาจนมองเห็นขาเรียวขา หากแต่วันนี้คนตัวเล็กไม่ได้ปล่อยให้เส้นผมบดบังทัศนียภาพอันสวยงามเหมือนเช่นทุกครั้งผมดัดลอนถูกเกล้าขึ้นอวดลำคอระหงไปหาลาดไหล่ขาวเนียน เนินอกอวบอิ่มโผล่พ้นชุดเกาะอกขึ้นมาอย่างโดดเด่นจนชายหนุ่มเผลอจ้องร่างบางตาไม่กะพริบคนสงวนท่าทีมาตลอดถึงกับลืมหายใจไปชั่วขณะเพราะถูกหญิงสาวตรงหน้าสะก
“ถ้างั้นฉันออกไปรอข้างนอกนะ” พายุทำราวกับว่าเขาไม่ได้มีความผิดติดตัวพูดจบจึงคิดจะชิ่งหนีในขณะอีกฝ่ายตกใจจนแผดเสียงแสบแก้วหูออกมา“กรี๊ดดด!!! พายุ ไอ้บ้าไอ้โรคจิต!” คนอาศัยร่างตกใจสุดขีด ดวงหน้าเห่อแดงขึ้นมาทันทีทันใดแต่ก็มีสติพอให้รีบหันหลังยกมือทั้งสองปิดหน้าอกกลมโตเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาเห็นตัวเองในสภาพไม่เหมาะสมคือใครโอ๊ยย ขายขี้หน้าที่สุด ไม่รู้ว่าพ่อพระรองนอกบทนี่เห็นอะไรต่อมิอะไรไปบ้างแล้ว แม้ร่างกายภายนอกจะไม่ใช่ของเธอแต่สัญชาตญาณความเป็นลูกผู้หญิงเธอก็มีอยู่เต็มเปี่ยม เธออับอายแทนเจ้าของร่างตัวจริงจนอยากแทรกแผ่นกระเบื้องหนีให้รู้แล้วรู้รอด"ฉันเป็นหมอไม่ใช่โรคจิต" เสียงทุ้มตอบกลับทันควันราวกับภูมิใจในวิชาชีพนักหนา“อย่างนายเนี่ยนะหมอโรคจิตวิตถารสิไม่ว่าถึงมาแอบมองคนอื่นแบบนี้” ด้วยความอับอายอย่างที่สุด ขวดแชมพูกับสบู่เหลวจึงถูกแปรสภาพเป็นอาวุธลอยพุ่งไปหาพายุจนเขาต้องเอามือป้องกันเป็นพัลวัน“หยุดปาได้แล้วฟังฉันก่อนสิ โอ๊ยย!! บอกให้ฟังก่อนไง โอ๊ยย ยัยบ้า! คนที่ร้องโวยวายมัน